ลำดับตอนที่ #2
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : Charpter.1 การต่อสู้เบื้องหลังกระจกวารี
Charpter.1
การต่อสู้เบื้องหลังกระจกวารี
แม้ตอนนี้เบื้องบนโลกมนุษย์ กุเรนกับริคุโกจะต่อสู้อยู่อย่างเอาเป็นเอาตาย แต่เบื้องหลังกระจกวารีแห่งนี้ มาซาฮิโระเองก็ต้องต่อสู้อย่างหนักไม่แพ้ด้านบนเลยทีเดียว เด็กหนุ่มถูกซากมนุษย์ที่ถูกบังคับโดยอสูรร้ายที่ห่มหนังอยู่รุมทำร้าย จนตอนนี้แทบไม่มีแรงแม้แต่จะลุก เนื่องมาจากคำสาปของคิวคิ ซึ่งกำลังอาละวาดอยู่ภายในร่างกายอย่างหนัก ซ้ำยังถูกอสูรร้ายพวกนี้รุมฟาดฟัน ทั้งจิกข่วน ทั้งดึงทึ้ง ยิ่งตนที่มีอาวุธนั้นไม่ต้องพูดถึง แต่เหมือนจงใจทำให้เขาเพียงอ่อนแรงไม่มีทางสู้เท่านั้น ไม่งั้นตอนนี้คงถูกแทงจนพรุนแล้ว แต่แม้จะเป็นเช่นนั้นแต่ปากของเขาก็ยังเอ่ยเรียกใครบางคน ที่ยามคับขันจะอยู่ด้วยเสมอ จะอยู่ข้างๆและคอยช่วยเขาจากอันตรายทุกครั้ง ไม่ว่าจะที่ไหนก็ตามจะต้องมาแน่
“ กุ
เรน
! ” กุเรนไม่ได้อยู่ที่นี่ เรียกไปก็คงไม่ได้ยิน แต่กระนั้น
“ กุเรน
! ” ภาพสัตว์อสูรสีขาวและอากิโกะวาบขึ้นมาในหัว ภาพเซย์เมย์ มาซาฮิโระพยายามเค้นเสียงออกจากลำคอให้มากที่สุด
ท่านปู่
!
“ กำราบหมื่นมาร! ” แสงสีขาวร้อนแรงเปล่งวาบ กลืนกินทุกสิ่งทุกอย่างรอบตัวมาซาฮิโระจนหมดสิ้น คิวคิซึ่งคอยดูเหตุการณ์อยู่ ถึงกับตกใจในพลังมหาศาล ที่มาซาฮิโระปลดปล่อยออกมาให้ได้ประจักษ์เลยทีเดียว แต่กระนั้นก็เถอะ นี่สิ ถึงจะคู่ควรเป็นเหยื่อของตน ยิ่งมีพลังมากเท่าไหร่ หากได้สูบเลือดกินเนื้อของเจ้านักพรตคนนี้ เขาคงมีพลังมหาศาลทีเดียวเชียว
อสูรร้ายตรวจสอบสถานการณ์บนโลกมนุษย์ทันที ก่อนเอ่ยเบาๆอย่างมั่นใจ
“ คงมาได้แค่นี้ละ ”
กุ
เรน
เสียงที่คุ้นเคยดังขึ้นในหัวของกุเรน ทำเอาขุนพลแห่งเพลิงกาฬอย่างเขาต้องสะดุ้งเฮือก ริคุโกสังเกตเห็นจึงถามขึ้นด้วยความสงสัย เพราะด้วยอาการแบบนี้ไม่มีให้เห็นบ่อยครั้งนัก
“ เป็นอะไรไป?! ”
“ มาซาฮิโระเรียกข้าอยู่ ” เขาต้องไปอีกฝั่งนึงของกระจกนี่ให้ได้ นี่คือปณิธานสำคัญในตอนนี้ เพราะมาซาฮิโระกำลังเรียกเขาอยู่
“ คอยก่อนนะ ” เทพหนุ่มค้นหาร่องรอยที่ยังคงเหลือไว้เบื้องหลังกระจก เพราะไออสูรที่มีพลังมากขนาดนี้แม้จะบาดเจ็บยังไงก็กลบไม่มีทางมิด แต่ที่ทำให้เขาหนักใจดูเหมือนจะเป็นเรื่องของมาซาฮิโระมากกว่า ต้องเรียกได้ว่าเด็กหนุ่มไม่ได้อยู่บนโลกนี้แล้ว เพราะเบื้องหลังกระจกวารีนี้ คืออีกโลกหนึ่งซึ่งคิวคิสร้างขึ้นเพื่อปกปิดที่อยู่ของมัน แม้จะคิดเช่นนั้น
แต่สิ่งที่สำคัญกว่านั้นคือ
กุเรน!
เสียงของมาซาฮิโระช่วยเชื่อมต่อระหว่างสองมิติ ซึ่งที่จริงแล้วไม่อาจส่งถึงกันได้
“ น่าตกใจจริงๆ ” ริคุโกอุทานเบาๆ ด้วยว่า คาดไม่ถึงพลังซึ่งตนไม่คิดว่าผู้เป็นหลานของเซย์เมย์จะมี แม้นี่จะไม่ใช่ครั้งแรกที่เห็น แต่ก็ยังคงแปลกใจอยู่นั่นแหละ ทางเชื่อมค่อยเปิดทีละน้อย แต่ไม่นานก็หยุดลง แม้จะได้ยินเสียงของริคุโกอุทาน แต่ตอนนี้กุเรนไม่สนอะไรแม้แต่น้อย เขารู้สึกสังหรณ์ใจว่า ถ้าหากไปช้ากว่านี้เรื่องเลวร้ายบางอย่าง จะต้องเกิดขึ้นกับมาซาฮิโระอย่างแน่นอน
ในขณะเดียวกันมาซาฮิโระก็มาถึงหน้าอาคารที่ดูหรูหราราวกับปราสาทราชวัง บางอย่างดึงดูดมาซาฮโระให้มาที่นี่ ตอนนี้มาซาฮิโระแทบไม่มีแรงเหลือจะเดินด้วยซ้ำ บาดแผลและคำสาปของคิวคิ กับพลังที่ใช้ไปเมื่อครู่ทำให้เขาอ่อนแอลงกว่าเดิมอย่างเห็นได้ชัด ราวกับบางสิ่งด้านในรู้ว่ามีคนมา จึงมีเสียงเชื้อเชิญดังขึ้น ราวกับอนุญาตให้เขาเข้าไปได้ มาซาฮิโระไม่ลังเลแม้แต่นิดที่จะก้าวเข้าไปในนั้น ทั้งที่รู้ว่าต้องเจอกับอะไรซึ่งกำลังรอเขาอยู่ด้านในตอนนี้
“ คิวคิ ”
เพียงแค่ก้าวเข้าไปเท่านั้น ความเจ็บปวดอย่างรุนแรงก็รุมเร้าไปทั่วทั้งสรรพางค์กายของมาซาฮิโระ ทำให้ร่างของเด็กหนุ่มแทบทรุด แต่ก็ยังยันกายไว้ได้
“ เจ้านักพรตเอ๋ย
จงมาเป็นบริวารของข้าซะ ” คิวคิเริ่มยื่นข้อเสนอทันที “ ข้าขอปฏิเสธ ” มาซาฮิโระตอบอย่างไม่ลังเลไม่ว่าจะด้วยเหตุผลใดๆ เขาก็จะไม่มีทางเป็นบริวารของมันเด็ดขาด เพราะรู้ว่าซักวันก็ต้องตายอยู่ดี เขาจะอยู่และตายเพื่อมันทำไมกัน อสูรคิวคิแสยะยิ้มพลางหัวเราะ ‘ หึๆ ’
“ งั้นก็จงเตรียมตัวตายไปพร้อมๆกับนังหนูที่แกรักคนนั้นเถอะ! ” ฉับพลันนั้น ร่างอสูรของคิวคิกระโดดวูบเดียวมาอยู่ตรงหน้าของมาซาฮิโระ แล้วมันก็แลบลิ้นยาวๆของมัน เลียที่แผลของมาซาฮิโระอย่างไม่ทันให้เขาได้ตั้งตัวซักนิด พลังของมันฟื้นขึ้นมาทันทีเมื่อได้ลิ้มรสเลือดของมาซาฮิโระ แต่ที่แปลกกว่านั้น ตอนนี้มาซาฮิโระเหมือนถูกยกก้อนหินหนักๆออกไปจากอกทันที เขาสบายขึ้นมาบ้าง แต่เนื่องจากบาดแผลและการแบกรับคำสาปไว้นานทำให้พลังวิญญาณของเขาถูกกัดกินไปมากทีเดียว
“ แก
ทำอะไรน่ะ?!คิวคิ ” แค่ความรู้สึกนี้ ก็ทำให้มาซาฮิโระรู้ได้ทันที “ เจ้ารู้อยู่แก่ใจดี เจ้านักพรตเอ๋ย ”
“ คำสาป
! ” มาซาอิโระเอ่ยอย่างตกใจ เขารู้แล้วว่าทำไม? คิวคิอาศัยการดื่มเลือดเพิ่มพลังของมัน เป็นตัวกลางในการแก้คำสาปที่มาซาฮิโระย้ายมาจากอากิโกะ ตอนนี้คำสาปร้ายแรงนั้นกำลังพุ่งกลับไปหาอากิโกะ เขารู้แน่ว่าหากถูกคำสาปนั้นเข้าล่ะก็ จะถูกกัดกินจนไม่เหลือแม้กระทั่งวิญญาณ พอคิดถึงผลลัพธ์ที่จะเกิดขึ้นในไม่ช้านี้ก็ทำให้มาซาฮิโระถึงกับทรุด อากิโกะเป็นเหมือนน้องสาวคนนึงของเขา ทั้งที่เคยบอกว่าจะปกป้องแท้ๆ แต่เขากลับ
“ คนรักของเจ้ากำลังจะตายแล้ว เป็นไงล่ะ? เจ้ายังจะยืนยันคำตอบเดิมอีกรึ?เจ้านักพรต ” คิวคิแสยะยิ้มแล้วก้มลงมอง มาซาฮิโระที่ทรุดนั่งหมดแรงอยู่กับพื้น
“ เข้าใจอะไรผิดรึเปล่า?คนที่สำคัญกับข้าจริงๆน่ะไม่ใช่คนที่เจ้าคิดหรอกนะ ถึงอากิโกะจะสำคัญ แต่คนๆนั้นน่ะ เขาไม่มีทาง ตายด้วยน้ำมือเจ้าอย่างแน่นอน ” คำพูดอวดดีนั่น ทำให้คิวคิโกรธจนเลือดขึ้นหน้าทีเดียว มันเดินเข้ามาใกล้มาซาฮิโระ เพื่อจะได้จู่โจม เพราะคิดว่ามาซาฮิโระคงไม่มีทางสู้มันได้ แต่จู่ๆก็ต้องกระโดดถอยหลังกลับ เพราะจิตเทวะรุนแรงถูกปลดปล่อยออกมาจากตัวของมาซาฮิโระ
“ หนอย กล้าดีนักนะ
! ” แต่กระนั้นก็ยังไม่ทำให้คิวคิสลดแต่อย่างใด มันยังคงยื่นข้อเสนอเดิมกลับไป
“ นักพรตเอ๋ย จะเป็นบริวารของข้ารึไม่?! ” หากคำตอบที่ออกมาจากปากของมาซาฮิโระก็ยังเป็นเช่นเดิม
“
ข้าขอปฏิเสธ ” เด็กหนุ่มนึกย้อนถึงภาพต่างๆในอดีต แล้วเอ่ยขึ้นช้าๆ “ ดังนั้นคิวคิ ข้าจะกำจัดเจ้าเสียที่นี่หละ! ” การต่อสู้ระหว่างคิวคิกับมาซาฮิโระ เริ่มขึ้นอย่างดุเดือด จนทั้งคิวคิและมาซาฮิโระต่างก็สะบักสะบอมด้วยกันทั้งคู่
แต่ดูเหมือนโชคจะเข้าข้างคิวคิ มาซาฮิโระเสียท่าซะแล้ว!
“ ตายซะ
! ” คิวคิตวัดอุ้งมือของตน ปัดมาซาฮิโระที่อ่อนแรงจนกระเด็นไปกระแทกเข้ากับผนังอาคาร ร่างของมาซาฮิโระร่วงลงมาตามแรงโน้มถ่วงของโลก จนกระแทกกับพื้นอาคารอย่างแรงอีกครั้ง เด็กหนุ่มพยายามยันกายลุกขึ้น ในหัวสมองของเขาขาวโพลนไปหมด แต่สิ่งที่นึกได้ก็คือ
“ กุเรน
! ” ร่างที่บอบช้ำจากการต่อสู้กับคิวคิค่อยๆทรุดลงกับพื้น ราวกับเป็นภาพ ที่ถูกปรับเวลาให้ช้าลง สำหรับ
กุเรน เขามาถึงที่นี่ได้เพราะเสียงเรียกของมาซาฮิโระ แต่สิ่งที่ต้องเผชิญนั้นโหดร้ายกว่าเป็นไหนๆ
“ มาซาฮิโระ!!!! ” เสียงที่คุ้นเคยของใครบางคน ดังเข้ามาในโสตประสาทอันเลือนรางเต็มทีของมาซาฮิโระ
กุเรน
สำเหนียกต่อมาคือเปลวไฟที่พวยพุ่งออกจากตัวของกุเรนอย่างบ้าคลั่ง เทพหนุ่มวิ่งเข้าไปโจมตีคิวคิด้วยความโกรธแค้น หอกแห่งเพลิงกาฬฟาดฟันจนปีกของคิวคิหักสะบั้น มังกรเพลิงพุ่งออกจากตัวกุเรนตรงเข้ากลืนกินร่างอสูรของคิวคิ แต่ทว่านั่นยังทำได้แค่เพียงแผดเผาผิวหนังของมันจนไหม้เกรียมเท่านั้น บัดนี้คิวคิแทบจะหาช่องว่างสวนกลับไม่ได้ด้วยซ้ำ เพราะกุเรนโจมตีแบบไม่ให้มีช่องว่างสวนกลับซักนิด ความโกรธแค้น ทำให้ไฟจากนรกโลกันตร์ของกุเรนลุกท่วมทั่วบริเวณ จนริคุโกที่อยู่ไกลจากที่ๆทั้งสองต่อสู้กันยังร้อนจนแทบสุกเลยทีเดียว ร่างของคิวคิถูกซัดจนกระเด็นอีกครั้งด้วยพลังมหาศาลที่ไม่รู้ว่ากุเรนเอามาจากไหน คราวนี้กุเรนไม่ปล่อยให้คิวคิรอดไปง่ายๆ เทพหนุ่มพุ่งหอกเข้าแทงทะลุหัวใจของคิวคิ แล้วค่อยๆส่งเพลิงจากนรกโลกันตร์แผดเผาร่างของมันจนไม่เหลือแม้เถ้าถ่าน
ร่างสูงใหญ่ของกุเรน เดินอย่างอ่อนเปลี้ยเข้ามาหาร่างของมาซาฮิโระ ซึ่งตอนนี้ ทั้งเหงื่อและเลือดไหลโทรมกาย กุเรนพลิกร่างที่นอนคว่ำหน้าอยู่กับพื้นของมาซาฮิโระให้หันมาหาตน น้ำตาของโทดะผู้เย็นชาจนถูกเรียกว่าไร้ความรู้สึกไหลอาบสองข้างแก้ม พลางเรียกมาซาฮิโระอย่างคนเสียสติ
“ มาซาฮิโระ เจ้าอย่าตายนะ
ข้ารักเจ้าได้ยินมั้ย?! ” กุเรนพูดพลางช้อนร่างมาซาฮิโระขึ้นแล้วเร่งรีบ วิ่งออกจากกระจกวารีที่เพิ่งแตกออกเป็นเสี่ยงๆไป
อา
โชคดีจริงที่ได้ยิน
ข้าก็รักเจ้า มกคุง
ไม่สิ
ข้าก็รักกุเรนนะ
ลมหายใจสุดท้ายหยุดลง กุเรนที่กำลังวิ่งอยู่อย่างรีบร้อนถึงกับหยุดกึกทันที พลางก้มลงมองร่างของคนที่อยู่ในอ้อมแขนอย่างตกใจ ใบหน้าของมาซาฮิโระ บัดนี้ซีดขาวไร้สีเลือด มือและร่างกายทุกส่วนอ่อนยวบ ห้อยต่องแต่งเหมือนตุ๊กตาไม้ไร้ชีวิต ไม่มีกระทั่งเสียงลมหายใจใดๆ
เพียงแค่เห็นและรับรู้กุเรนก็ถึงกับเข่าอ่อนยวบลงกับพื้นถนน ริคุโกซึ่งตามดูเหตุการณ์มาโดยตลอด และกำลังรีบวิ่งไปกับกุเรน ได้แต่ยืนมองภาพตรงหน้าอย่างสงสารเท่านั้น แม้จะเป็นเทพแต่การฝืนกฎธรรมชาตินั้น ย่อมไม่มีทางเป็นไปได้และทำไม่ได้ด้วย มาซาฮิโระตายแล้ว โทดะคงเสียใจมาก ปล่อยไว้อย่างนี้ซักพักจะดีกว่า
อ๊า!!!!!!!!!!!!!!!!
เสียงร้องไห้ครวญครางอย่างน่าสงสารของกุเรนดังไปทั่วบริเวณ มีเพียงความมืดมิดและโศกเศร้าเท่านั้นที่ปกคลุมที่แห่งนั้น
คำสาปที่ถูกคิวคิถอน ย้อนกลับไปหาอากิโกะเมื่อหลายชั่วโมง ก่อนหน้าที่มาซาฮิโระจะตาย ไอพิษรุนแรงสูบเอาเลือดเนื้อของเด็กสาวไปอย่างไม่ปราณีซักนิด อากิโกะทำได้แค่เพียงกรีดร้องโหยหวนลั่นคฤหาสน์โทซังโจเท่านั้น อุทสึกิ นางรับใช้ของอากิโกะผู้เห็นเหตุการณ์ถึงกับเป็นลมล้มพับไปทันทีเมื่อเห็นร่างของอากิโกะ ค่อยๆซูบลงเรื่อยๆ จนเหลือเพียงหนังเน่าๆสีดำหุ้มกระดูก ไฟสีดำกัดกินร่างของเด็กสาวจนไม่เหลือแม้แต่ขี้เถ้า คนธรรมดาคงเห็นแค่นั้น แต่ทว่ามหาอนเมียวจิอย่างเซย์เมย์ รู้ดีว่ามันกัดกินจนไม่เหลือแม้แต่เศษวิญญาณ ซึ่งนั่นเป็นข่าวที่น่าตกใจพอๆกับการตายของทายาทคนสุดท้องของตระกูลมหาอนเมียวจิ อาเบะ เซย์เมย์ งานศพของ ฟุจิวาระ อากิโกะ ถูกจัดขึ้นอย่างเงียบๆในคฤหาสน์โทซังโจ เนื่องจากเป็นเวลาใกล้ส่งตัวอากิโกะเข้าวัง จึงไม่มีใครรู้ว่าเกิดอะไรขึ้น และมิจินางะเองก็ตั้งใจจะปิดเรื่องน่าเศร้าเช่นนี้ไว้อยู่แล้วด้วย เขายังมีลูกสาวอีกคนที่หน้าตาเหมือนอากิโกะไม่มีผิดเพี้ยน จึงไม่คิดว่าจะเกิดข้อผิดพลาดใดๆ แต่กระนั้นความโศกเศร้าที่ต้องเสียลูกสาวไป ก็ยังคงเกาะกินหัวใจผู้เป็นพ่ออยู่มากเช่นเดียวกัน เซย์เมย์ทำพิธีส่งวิญญาณอากิโกะตามขั้นตอนเรียบร้อย แม้จะรู้ว่าไม่มีวิญญาณจะให้ส่งก็ตามที หลังจากนั้น จึงค่อยจัดการงานศพมาซาฮิโระ คนทีเสียใจที่สุดคงจะเป็นกุเรน หลังการตายของมาซาฮิโระ เทพหนุ่มราวกับถูกดึงวิญญาณออกจากร่างไปทันที วันๆเอาแต่นั่งเหม่อลอย ไม่พูดไม่จา ไม่ยอมขยับทำอะไร ยิ่งทำให้เซย์เมย์รู้สึกเป็นห่วงเข้าไปใหญ่
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น