ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [FIC Naruto] เพลิงแค้นซาตาน [END]

    ลำดับตอนที่ #31 : Chapter 26 : เสียงสุดท้าย

    • เนื้อหานิยายตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 6.89K
      93
      24 ก.ค. 57

    บทที่ 26 เสียงสุดท้าย

     

     

    ตู้ม!!!!!

     

                เสียงระเบิดที่ดังก้องพร้อมๆกับแรงสั่นสะเทือนที่รุนแรงทำให้ร่างระหงที่กำลังนอนหลับอยู่บนเตียงนุ่มผวาตัวตื่นขึ้น ซากุระกวาดตามองไปโดยรอบอย่างตื่นตระหนก ก่อนจะวิ่งพรวดพราดออกมานอกห้องเพื่อหาสาเหตุของเสียงระเบิดและแรงสั่นสะเทือนนี้

     

                และเพียงแค่ก้าวขาพ้นเขตประตูออกมา... ร่างบางก็ต้องตกใจแทบสิ้นสติ แข้งขาที่หมดแรงพาให้ร่างของเธอทรุดฮวบลงไปที่พื้น

     

    เปลวไฟแห่งการทำลายล้างกำลังแผดเผาหมู่บ้าน...

    เสียงกรีดร้องดังระงมไปทั่วทุกหัวระแหง...

     

    หมู่บ้านโคโนฮะ...

     

    กำลังถูกโจมตี!!!

     

                เมื่อตั้งสติได้ ซากุระก็กวาดสายตามองหาใครอีกคนที่ไม่ได้อยู่กับเธอทั้งๆที่ควรจะอยู่

     

                “อายะ!!! อายะเธออยู่ที่ไหน!?!” เสียงหวานตะโกนเรียก แต่ก็ไร้ซึ่งวี่แววของเจ้าของชื่อ ซากุระวิ่งกลับเข้าไปในห้อง แต่ก็ต้องผ่อนฝีเท้าลงเมื่อนึกถึงคำเตือนของคนที่หายตัวไปคอยย้ำเสมอ

     

    “...ห้ามวิ่ง ห้ามกระโดด...”

     

                “อายะ!!!” ซากุระยังคงตะโกนเรียก ขาผอมบางก้าวลงบันไดอย่างระมัดระวังและเชื่องช้าผิดกับในใจที่กำลังร้อนรุ่มราวกับมีใครเอาไฟมาแผดเผา

     

    รู้สึกใจหายอย่างบอกไม่ถูก...

    ราวกับว่าเธอทำของสำคัญหายไป...

     

                “ยัยซากุระ! เธอออกมาทำอะไรที่นี่!?!” เสียงห้วนของใครบางคนทำให้ซากุระที่ยืนหันรีหันขวางตามหาคนที่หายไปหันมามอง แล้วเธอก็พบเจ้าของเรือนผมสีดอกหญ้าที่ถูกมัดรวบเป็นหางม้า กำลังมองมาที่เธออย่างตกใจ ซากุระรีบวิ่งเข้าไปหาเจ้าของเสียงพร้อมกับถามด้วยน้ำเสียงที่ร้อนรน

     

                “อิโนะ! เธอเห็นลูกศิษย์ของฉันมั้ย”

     

                “ฉันไม่เห็น แต่นั่นใช่เรื่องสำคัญเหรอ รีบไปหลบในที่ลี้ภัยเร็วเข้า! ตอนนี้หมู่บ้านกำลังถูกแสงอุษาโจมตี!” อิโนะตอบพร้อมกับใช้มือข้างหนึ่งจับแขนเพื่อนรักเอาไว้แล้วออกแรงดึงเพื่อจะพาไปที่หลบภัย หากแต่เจ้าของแขนผอมบางนั้นกลับไม่ขยับเขยื้อน ดวงตาสีมรกตเบิกโพลงอย่างตกใจ

     

                “!!!

     

                “มัวยืนเอ๋ออะไรอยู่!” อิโนะถามเสียงดังเมื่อเห็นว่าซากุระมีท่าทีเหม่อลอยจิตใจไม่อยู่กับเนื้อกับตัว

     

                “ธะ...เธอบอกว่าแสงอุษาเหรอ?...” ซากุระถามเสียงสั่น หัวใจดวงน้อยเต้นรัวอย่างเจ็บปวด... ภาพของใครคนหนึ่งลอยเข้ามาในหัว...

     

    เธอเป็นคนทำใช่หรือเปล่า ซาสึเกะ!!!

     

                “ฉันไม่มีเวลาจะมาคุยกับเธอนะ รีบๆไป! เธอรู้ใช่มั้ยว่าที่ลี้ภัยอยู่ตรงไหน” อิโนะถามด้วยน้ำเสียงร้อนรน เบื้องหน้าของเธอคือไฟสงครามที่กำลังคุกรุ่น ในฐานะนินจาของหมู่บ้านเธอจะต้องออกไปต่อสู้... แต่ทว่าในมือของเธอมีแขนที่สั่นๆของเพื่อนรักอยู่ จนกว่าซากุระจะอยู่ในที่ที่ปลอดภัย... เธอจะทิ้งไปไม่ได้

     

                “ซากุระ!!!

     

                “ละ...แล้วเขาล่ะ...เขามาด้วยมั้ย...?” ซากุระถามพร้อมกับหันใบหน้าที่เริ่มรื้นไปด้วยน้ำตามองมาที่อิโนะ เจ้าของดวงตาสีหยกขมวดคิ้วเครียด...

     

                “เขา? ใคร?”

     

                แต่ยังไม่ทันที่จะรู้เรื่องรู้ราวซากุระก็สะบัดแขนออกจนหลุดจากมือของอิโนะ ร่างบางวิ่งฝ่าเข้าไปท่ามกลางความชุลมุนของผู้คนที่กำลังหนีตาย อิโนะมองภาพนั้นอย่างตกใจ พยายามจะคว้าแขนของหญิงสาวไว้อีกครั้งแต่ก็สายไปเสียแล้ว... ซากุระเข้าไปปะปนกับฝูงคนที่วิ่งสวนมาจนคลาดสายตาไป

     

                “เธอจะไปไหนซากุระ เธอกำลังท้องนะ!!!” เจ้าของเรือนผมสีดอกหญ้าตะโกนไล่หลังไป... หากแต่เสียงนั้นคงดังไปไม่ถึงคนที่กำลังร้อนใจ

     

    ซาสึเกะ!

    อย่าทำแบบนี้...

    ฉันขอร้อง!

     

                ซากุระอ้อนวอนขอในใจ... ร่างบางปฏิเสธความหวังดีของคนที่เธอเดินผ่าน ทุกคนต่างบอกให้เธอไปหลบ...

     

    แต่เธอทำไม่ได้...

    เธอต้องหยุดเขา...

     

    ซากุระวิ่งมาจนถึงจุดที่เกิดความเสียหายอย่างหนัก ดวงตาสีมรกตกำลังมองดูสัตว์อันเชิญตัวขนาดมหึมา มันเป็นนกยักษ์ที่สามารถพ่นไฟแห่งการทำลายล้างได้...

     

    เธอตัวสั่น...

    ยืนมองภาพนั้นอย่างหวาดกลัว...

     

    ซากุระทำใจแข็ง พยายามไม่กลัวภาพตรงหน้า... เธอบังคับขาทั้งสองข้างที่กำลังสั่นให้เดินเข้าไปใกล้เขตทำลายล้างของนกยักษ์ ดวงตาสีมรกตสอดส่ายไปมามองหาเจ้าของใบหน้าที่แสนคุ้น... เจ้าของใบหน้าที่เธอโหยหามาโดยตลอด...

     

    แม้ในใจจะหวังลึกๆว่าขอให้ไม่เจอเขา...

    เธอยังหวังลึกๆว่าเขาจะไม่ใช่คนที่มาทำลายหมู่บ้าน...

     

                ซากุระมัวแต่มองหาซาสึเกะจนไม่ทันระวังเศษไม้ที่ลอยมาทางเธอเพราะถูกแรงระเบิดจากลูกไฟของนกยักษ์ เธอมองไม่เห็นอันตรายที่กำลังมาเยือน... หากแต่ทั้งหมดกลับอยู่ในสายตาของใครอีกคน...

     

     

                “ซากุระ!!!” อายะตะโกนเรียกเสียงดังเพื่อให้คนที่ยืนหันรีหันขวางไม่รู้เรื่องหันมองอันตรายข้างหลัง หากแต่เจ้าของร่างบางนั้นกลับไม่รู้ตัว... ดวงตาสีรัตติกาลเบิกโพลงอย่างตกใจก่อนจะตัดสินใจพุ่งตัวเข้าไปคว้าเอวบางไว้แล้วดึงให้ล้มลงเพื่อหลบเศษไม้ขนาดเท่าท่อนแขนที่ลอยมา

     

                “อั่ก!” ซาสึเกะในร่างของอายะเผลอร้องออกมาเมื่อร่างของเขากระแทกพื้นอย่างแรง ดวงตาสีรัตติกาลมองคนในอ้อมแขนอย่างเป็นห่วง เพราะแรงกระแทกเมื่อกี้ก็หนักใช่ย่อยถึงแม้ว่าเขาจะใช้ตัวเองเป็นเบาะ แต่ก็ใช่ว่าแรงกระแทกนั้นจะส่งไปไม่ถึงร่างเล็ก

     

                “เป็นอะไรมั้ย!” เขาถามพร้อมกับมองสำรวจตัวเธอ เมื่อเห็นว่าไม่มีตรงไหนบุบสลายดวงตาสีรัตติกาลก็ฉายแววโกรธเกรี้ยว

     

    “ออกมาทำไม! ทำไมไม่ไปหลบ!?!” เขาตะคอกถาม นึกย้อนถึงเมื่อไม่กี่นาทีก่อนที่เขากลับไปหาซากุระที่ห้องพักแต่กลับไม่พบตัวเธอ จนเขาไปเจอกับอิโนะที่กำลังวิ่งวุ่นตามหาตัวซากุระในกลุ่มคนที่วิ่งหนีตาย...

     

    อิโนะเล่ารายละเอียดให้เขาฟังถึงท่าทีของซากุระและสิ่งที่เธอพูด ซาสึเกะเข้าใจความหมายแทบจะในทันที

     

    ซากุระคิดว่าเขาเป็นหนึ่งในผู้ทำลาย...

     

                เมื่อคิดได้ดังนั้นเขาจึงออกมาตามหาเธอในทิศทางที่ตรงกันข้ามกับทิศที่พวกชาวบ้านกำลังหนี... ถ้าเธอคิดจะว่าเขาคือคนที่มาทำลายหมู่บ้านเธอก็คงคิดจะหยุดเขา และก็ต้อง... มุ่งหน้าไปยังที่ที่ศัตรูอยู่...

     

                และก็เป็นไปตามคาดเมื่อเขาเห็นซากุระอยู่ไกลลิบๆ เธอกำลังมองหาเขาอยู่ท่ามกลางกลุ่มควันที่ลอยคละคลุ้งอย่างไม่กลัวอันตราย... ซาสึเกะใจหล่นวูบเมื่อเขามองเห็นเศษไม้ท่อนยักษ์กำลังลอยละลิ่วไปยังซากุระที่มัวแต่สนใจทางอื่นอยู่ ซาสึเกะร้องเรียกแต่ระยะของเขากับเธอมันช่างห่างไกลจนเธอไม่ได้ยิน อีกทั้งเสียงกรีดร้องที่ดังไปทั่วทุกที่ก็ยิ่งกลบเสียงของเขา...

    ซาสึเกะเปลี่ยนดวงตาเป็นเนตรวงแหวนทั้งๆที่ยังอยู่ในร่างของอายะ... ก่อนที่เขาจะใช้วิชาเคลื่อนย้ายชั่วพริบตาข้ามมิติไปหาเธอ...แล้วช่วยเธอเอาไว้ได้ แต่เขาก็ต้องเจอกับอาการอ่อนเพลียอย่างฉับพลันเนื่องจากปริมาณจักระที่ลดลงอย่างฮวบฮาบ

     

    มันเป็นวิชาที่กินพลังงานจักระอย่างมหาศาล...

     

                “ฮึก... อายะ... เขา...เขาทำมันแล้ว” ซากุระพูดทั้งน้ำตา เธอยังคงตกอยู่ในอาการหวาดผวาจากเหตุการณ์เมื่อครู่ ซาสึเกะเข้าใจในความหมายนั้น... เขาอยากจะบอกเธอเหลือเกินว่าเขาอยู่ตรงนี้แล้ว

     

    แต่ก็ทำไม่ได้...

    เขากลัวว่าเธอจะไล่เขาไป...

     

                “ไปหลบก่อน ฉันจะพาไปที่ลี้ภัย” เขาพูดเสียงอ่อนแรง หัวใจชาหนึบเมื่อเห็นคนที่รักต้องร้องไห้อีก

     

                “ฉัน...ฉันต้องหยุดเขา...” ซากุระว่า พยายามขืนตัวออกจากวงแขนบอบบางของอายะ

     

                “...”

     

                “ฉันยอมให้เขาทำร้ายหมู่บ้านไม่ได้...”

     

                “เลิกบ้าซักทีจะได้มั้ย!!! ออกไปจากตรงนี้เถอะ ฉันขอร้อง...” ซาสึเกะพูด เอื้อมมืออันบอบบางของตัวเองจับแขนคนที่เอาแต่จะพุ่งเข้าไปหานกยักษ์ที่กำลังพ่นไฟอย่างบ้าคลั่ง

    ณ วินาทีนี้ ซาสึเกะเกิดความคิดบางอย่างที่ไม่คิดว่าตัวเองจะกล้าคิด ความคิดที่ว่าเขาควรจะปกป้องหมู่บ้าน... ปกป้องหมู่บ้านที่เขาคิดจะทำลายล้างมาโดยตลอด หมู่บ้านที่เขาแค้น... เพราะว่าที่นี่...เป็นที่ที่คนที่เขารักอยู่ เป็นสถานที่ที่เขาควรจะกลับมา

     

    ซาสึเกะตัดสินใจ...

    เข้าร่วมต่อสู้เพื่อปกป้องโคโนฮะ!!!

     

                “ไปหลบนะ...ฉันจะพาเธอไป ฉันจะจัดการที่เหลือเอง” เขาพูดเสียงสั่น มือเรียวบางลูบผมคนที่กำลังร้องไห้เบาๆ ถ้าเขาต้องต่อสู้จริงๆ มันก็เป็นเรื่องช่วยไม่ได้ที่เขาจะต้องเปิดเผยตัวตนรวมถึงเปิดเผยวิชานินจาของตัวเอง...เขาไม่อยาก...ให้เธอเห็น  

     

                “ไม่...ฉันไปจากตรงนี้ไม่ได้... ฉัน...ต้องหยุดเขา”

     

                “ทำไมเธอถึงเป็นคนดื้อแบบนี้” ซาสึเกะพูดอย่างเหนื่อยใจกับความดื้อรั้นของอีกฝ่ายพร้อมกับกอดซากุระเอาไว้แน่น

     

    ฉันจะปกป้องเธอ...

     

    ตู้ม!!!!!

     

                ลูกไฟอีกลูกลอยข้ามหัวทั้งสองคนไปอย่างเฉียดฉิวก่อนจะไปตกลงในที่ที่ไม่ห่างจากพวกเธอนัก แรงระเบิดทำให้พื้นดินบริเวณนั้นสั่นสะเทือน เปลวไฟสีแดงฉานพุ่งทะยานขึ้นสู่ฟากฟ้าอย่างประกาศศักดา ซากุระขืนตัวออกจากวงแขนบอบบาง ดวงตาสีมรกตจ้องมองเจ้าของใบหน้าหวานสวยด้วยสายตาที่อ่านไม่ออก

     

    ทำไมแค่เห็นดวงตาสีรัตติกาลของอีกฝ่าย...

    หัวใจของเธอก็เต้นแรง...

    เหมือนกับว่ามันคุ้นเคยกับดวงตาคู่นี้...

     

                “อายะ!!! ระวัง!!!” ซากุระตะโกนสุดเสียง ดวงตาคู่สวยเบิกโพลงเมื่อเห็นลูกไฟลุกหนึ่งพุ่งมาทางทิศที่พวกเธออยู่อย่างจงใจ มือเล็กพยายามผลักอีกฝ่ายออกไปให้พ้นทางแม้จะรู้ว่าถ้าต้องปะทะกับลูกไฟนั่นตรงๆ ต่อให้ผลักออกไปไกลแค่ไหนก็คงไม่พ้นระยะการทำลาย...

     

    ลูกไฟนั่นเหมือนดั่งเคียวของยมทูต...

    หรือว่าพวกเธอจะต้องตายจริงๆ!

     

    ...ลูก...

    ซาสึเกะ...

     

                ในขณะที่ซากุระกำลังตกอยู่ในความหวาดกลัว ความอบอุ่นบางอย่างก็ช่วยปลอบประโลมจิตใจของเธอให้สงบ มือเล็กๆของอายะลูบผมของเธออย่างแผ่วเบา

     

                “ไม่เป็นไร...ไม่ต้องกลัว”

     

                เสียงหวานใสของอายะพูดเบาๆอยู่ที่ข้างหูเธอ ซากุระหลับตาลงอย่างยอมจำนนเมื่อลูกไฟดวงใหญ่ใกล้เข้ามา...ก่อนที่เธอจะสัมผัสได้ถึงความเย็นบางอย่างที่ห้อมล้อมเธออยู่

     

    เธอรู้สึกเย็น...

    ไม่เหมือนกับการถูกแผดเผาจากเปลวไฟนั้น...

     

    ทำไมกัน?

     

                ซากุระค่อยๆลืมตา มือของใครอีกคนยังคงโอบกอดตัวเธออยู่... ดวงตาสีมรกตเบิกโพลงก่อนที่น้ำใสๆจะค่อยไหลลงมาอีกระลอก

     

    รอบๆตัวเธอ...

    ถูกโอบด้วยเปลวไฟสีม่วงคราม...

    มันเป็นเปลวไฟจากเกราะอันแข็งแกร่ง...

     

    เทพวายุ ซูซาโนะโอะ!

     

    หนึ่งในวิชาของซาสึเกะ!

     

                ซากุระหันมองคนที่กำลังกอดตัวเอง ดวงตาสีมรกตสั่นระริก...หัวใจของเธอเต้นแรงขึ้นเรื่อยๆ... ร่างเล็กของอายะค่อยๆเปลี่ยนสภาพไป ดวงตาสีรัตติกาลยังคงเป็นดวงตาคู่แกร่งดังเดิม หากแต่ร่างกายทั้งหมดกลับเปลี่ยนไปราวกับเป็นคนละคน... ใบหน้าหล่อเหลาปรากฏตรงหน้าเธอพร้อมๆกับวงแขนกว้างคลายออก

     

    ซาสึเกะมองมาที่เธอพร้อมกับยิ้มเศร้า

     

                “ขอโทษนะ ฉันไม่มีจักระมากพอที่จะพรางตัว...” เขาว่าก่อนจะเอื้อมมือเช็ดน้ำตาที่ยังคงไหลออกมาไม่หยุดของซากุระ

     

                “ธะ...เธอ” ซากุระพูดเสียงสั่น น้ำตาไหลอาบแก้ม... เธอเข้าใจแล้วว่าทำไมถึงหัวใจเต้นแรงเมื่ออยู่ใกล้อายะ ทำไมความโหยหาที่เคยมีต่อร่างสูงกลับลดลงไปเมื่อเธอได้เจอหญิงสาวแสนสวย

     

    เพราะทั้งสองคนเป็นคนเดียวกัน...

    ซาสึเกะอยู่ข้างๆเธอมาโดยตลอด...

     

                “อย่าเพิ่งไล่ฉันไปไหน...” ซาสึเกะพูดเสียงเศร้า

     

    สุดท้าย...เขาก็ต้องเปิดเผยตัวตนของตัวเองจนได้...

     

    “...”

     

    “อยู่ที่นี่นะ...เดี๋ยวฉันมา” เขาพูดก่อนจะยันตัวลุกขึ้น

     

    “เธอจะไปไหน!” ซากุระที่เพิ่งรู้ตัวคว้าแขนข้างหนึ่งของซาสึเกะไว้ เธอรู้สึก...เหมือนว่าเขาจะจากไปตลอดกาล... ซาสึเกะเอื้อมมืออีกข้างมากุมมือของเธอก่อนจะบีบเบาๆ เขายิ้มก่อนจะพูด

     

    “ที่นี่คือที่ที่คนที่ฉันรักอยู่ คือที่ที่ลูกของฉันจะเกิด...ฉันปล่อยให้ใครมาทำลายที่นี่ไม่ได้”

     

    “...”

     

    “ฉันจะชดใช้...บาปที่ฉันทำไว้กับเธอ”

     

    .

    .

    .

     

    “เทวีสุริยา!” ซาสึเกะเอ่ยเสียงกร้าวพร้อมๆกับเปลวไฟสีดำแผดเผานกยักษ์ที่กำลังอาละวาดอยู่อย่างบ้าคลั่ง มันกรีดร้องอย่างเจ็บปวดก่อนจะหายวับไป ร่างสูงหอบหายใจถี่ก่อนจะทรุดตัวลงไปกองกับพื้น...ดวงตาสีรัตติกาลเจ็บแปลบพร้อมๆกับมีเลือดสีแดงสดไหลลงมาเป็นทาง

     

    เขาฝืนร่างกายมากเกินไป...

     

    “ซาสึเกะ!” ซากุระร้องตะโกนอยู่ไกลๆ เธอมองภาพตรงหน้าอย่างเจ็บปวด... ซาสึเกะกำลังฝืนใช้พลังเนตรของตัวเองทั้งๆที่เขาไม่เหลือจักระพอที่จะใช้คาถาพรางตาด้วยซ้ำ ถ้าเป็นแบบนี้ต่อไปเขาอาจจะ...

     

    “เทพวายุ!” เขาสั่งเสียงดัง และทันทีทันใดเทพวายุ ซูซาโนะโอะ ที่กำลังทำหน้าที่เป็นเกราะป้องกันให้ซากุระก็โอบตัวเธอจนมิด ซากุระไม่สามารถมองเห็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นข้างนอกได้อีกต่อไป... เธอพยายามใช้มืออันไร้เรี่ยวแรงของตัวเองทุบไปที่เกราะแข็งๆของซูซาโนะโอะ แต่มันก็ไร้ผล... เกราะนี้แข็งแกร่งพอที่จะป้องกันการโจมตีของสัตว์อันเชิญได้ นับประสาอะไรกับเรี่ยวแรงที่มีน้อยกว่าคนธรรมดาของเธอ... มันเป็นการป้องกันที่ไร้ที่ติทั้งจากด้านในและด้านนอก

     

    สถานการณ์ข้างนอกในส่วนที่ซากุระไม่มีโอกาสได้เห็นกำลังคุกรุ่น ตอนนี้...ร่างสูงเจ้าของดวงตาสีรัตติกาลที่อยู่ในสภาพเนตรวงแหวน กำลังเผชิญหน้าอยู่กับผู้นำในการบุกครั้งนี้... ชายสวมหน้ากาก โทบิ!  

     

    “จู่ๆก็เกิดรักหมู่บ้านขึ้นมารึไง ซาสึเกะคุง” โทบิพูดเสียงเย็นเยือก “ถึงได้คิดทรยศฉันแบบนี้”

     

    “หึ! มันเรื่องของผม ผมก็คิดไว้แล้วว่าคุณจะโจมตีเร็วกว่ากำหนด” ซาสึเกะพูดพร้อมกับแค่นยิ้ม อีกฝ่ายหัวเราะเบาๆราวกับเรื่องที่ได้ยินเป็นเรื่องตลก หากแต่เสียงหัวเราะนั้นดูน่ากลัวและเต็มไปด้วยความกดดัน... ถ้าคนที่กำลังยืนอยู่ตรงนี้ไม่ใช่เขา ก็คงจะทนรับแรงกดดันอันมหาศาลนี้ไม่ได้

     

    “ถ้าขืนมัวชักช้าเธอก็เตรียมแผนรับมือกับฉันทันน่ะสิ ฉันปล่อยให้เป็นแบบนั้นไม่ได้หรอก”

     

    “กลับไปซะ!” ซาสึเกะสั่งเสียงกร้าว

     

    “โอ๊ะโอ จู่ๆจะมาสั่งกันแบบนี้ง่ายๆเลยเหรอ หึๆ ไม่ล่ะ ยังไงวันนี้ฉันก็จะต้องจับร่างสถิตเก้าหางให้ได้” โทบิพูด ใบหน้าภายใต้หน้าขยับเล็กน้อย

     

    “แน่ใจเหรอ ว่าคุณจะจับเขาได้” ซาสึเกะพูดพร้อมกับมองดูนารูโตะที่กำลังต่อสู้กับเพนคนอื่นๆที่ถูกสร้างขึ้นมาใหม่ รวมถึงจัดการเหล่าสมาชิกของแสงอุษาที่เก่งกาจโดยใช้เวลาเพียงไม่นาน

     

    นารูโตะเก่งขึ้นมาก...

     

    “เขาเก่งมากกว่าที่คุณคิดนะโทบิ ผมขอยืนยันคำเดิม...กลับไปซะ!!!” ซาสึเกะหันมาพูดกับหัวหน้าศัตรูที่ยังคงยืนนิ่ง “ไม่อย่างนั้นผมคงต้องฆ่าคุณ”

     

    “สารรูปแบบนั้นเธอจะทำอะไรฉันได้ ซาสึเกะคุง...” โทบิว่าพร้อมกับหัวเราะอย่างสมเพช “แค่บังคับเทพวายุนั่นก็เต็มกลืนแล้วไม่ใช่รึไง และถ้าเธอคิดจะจัดการฉันจริงๆเธอก็คงทำตั้งแต่แรกแล้วล่ะ คงไม่มาชวนฉันคุยเพื่อถ่วงเวลาแบบนี้หรอก”

     

    “...”

     

    “เธอต้องตาบอดหรือไม่ก็ตายแน่ๆถ้าเธอใช้พลังเนตรกับฉันอีก” โทบิพูด ก่อนที่จะเอื้อมมืออันแข็งแกร่งของตนเองปลดหน้ากากออกซาสึเกะตีสีหน้าเรียบ เขาไม่ได้ตกใจเมื่อเห็นว่าใบหน้าครึ่งหนึ่งของอีกฝ่ายเป็นแผลเป็นขนาดใหญ่ ในขณะที่ใบหน้าอีกครึ่งยังคงความหล่อเหลาเอาไว้ได้... ดวงตาข้างหนึ่งของโทบิเป็นเนตรสังสาระในตำนาน โทบิคงคิดจะใช้มันจัดการกับเขา...

     

    โทบิยิ้มเย็น...

    เป็นรอยยิ้มครั้งแรกที่ซาสึเกะเห็น...

    มันน่ารังเกียจ...

     

    “คุณคิดว่างั้นเหรอ? หึ! อ่อนหัดจริงๆนะโทบิ!” และโดยที่ไม่ให้อีกฝ่ายได้ทันรู้ตัวซาสึเกะก็รวบรวมพลังครั้งสุดท้ายก่อนจะจ้องตาที่เต็มไปด้วยความอาฆาตของโทบิ ร่างสูงเจ้าของเนตรสังสาระที่แข็งแกร่งไม่ทันระวังตัว...เขาไม่คิดว่าซาสึเกะจะยอมตายเพื่อหมู่บ้านจึงไม่ได้คิดป้องกัน

    เนตรสังสาระ...แม้จะแข็งแกร่ง...แต่หากผู้ใช้เกิดวอกแวกและประมาท ก็อาจจะพ่ายแพ้ให้แก่พลังของเนตรวงแหวนที่ด้อยกว่าได้...

     

    “เทพมารดา อิซานามิ!

     

    .

    .

    .

     

    อย่าเป็นอะไรนะ ซาสึเกะ!

     

    ซากุระภาวนา... มือเล็กยังคงพยายามทุบเกราะอันแข็งแกร่งของซูซาโนะโอะ แต่ผลก็ยังคงเป็นเหมือนเดิม...มันไม่ได้บุบสลาย ไม่ได้มีท่าทีว่าจะยอมปล่อยเธอออกไป

               

    “ซาสึเกะ...ปล่อยฉันออกไป...” เธอร้องเรียก “ปล่อยฉัน... เธอห้ามเป็นอะไรนะ... อย่าทิ้งฉันไว้”

     

    ซากุระคร่ำครวญ ดวงตาสีมรกตเต็มไปด้วยน้ำตา... หัวใจดวงน้อยชาหนึบเมื่อนึกได้ว่าซาสึเกะอาจจะรู้สึกแบบเดียวกับเธอในตอนที่เธอตัดสินใจจะตายจากเขาไป เธอกำลังรู้สึกแบบเดียวกัน... ความรู้สึกของซาสึเกะในยามที่เขาต้องเห็นเธอจากไปต่อหน้าต่อตา มันเจ็บปวดเสียยิ่งกว่าเธอที่ตัดสินใจตายเสียอีก

     

    เธอเห็นแก่ตัว...

    เห็นแก่ตัวที่ทิ้งเขาไว้...

    มอบความเจ็บปวดยิ่งกว่าความตายให้เขา...

     

    ฉันขอโทษ...

     

                และในขณะที่ซากุระกำลังนึกโทษความเห็นแก่ตัวของตัวเอง เกราะอันแข็งแกร่งที่ห้อมล้อมตัวเธอไว้ก็คลายออกก่อนจะจางหายไป ซากุระมองไปรอบๆอย่างนึกประหลาดใจ หัวใจของเธอกำลังหวาดหวั่น... พลังของซูซาโนโอะหายไปแล้ว

     

    หรือว่า!?!

     

    ซากุระตะเกียกตะกายปีนข้ามซากปรักหักพังที่เกิดจากฝีมือการทำลายของสัตว์อันเชิญที่บัดนี้หายไปแล้ว เธอกวาดสายตามองไปโดยรอบก่อนจะเห็นภาพที่ทำให้เธอแทบขาดใจ

     

    ร่างของซาสึเกะค่อยๆร่วงลงสู่พื้น...

    ในขณะที่ชายอีกคนที่เผชิญหน้ากับเขาก็มีสภาพไม่ต่างกัน...

     

                “ซาสึเกะ!!!

     

    ซากุระตะโกนเรียกด้วยน้ำเสียงแสนเจ็บปวด เธอวิ่งถลาเข้าไปหาซาสึเกะที่ล้มลงไป ก่อนจะประคองร่างที่นอนหายใจรวยระรินของเขาไว้ น้ำตาแห่งความเสียใจไหลเอ่อออกมา เธอรู้สึกราวกับโลกทั้งใบหยุดหมุน... ความเจ็บปวดที่เกินจะรับไหวทำให้เธอสั่นไปทั้งตัว...

     

    จักระของซาสึเกะหมดเกลี้ยง...

    พอๆกับพลังชีวิตที่ใกล้จะถึงขีดสุด...

     

     ซาสึเกะขยับตัวเล็กน้อยเมื่อสัมผัสได้ถึงมืออุ่นๆของอีกฝ่าย ดวงตาของเขาปิดสนิทและเต็มไปด้วยเลือดที่เกิดจากการฝืนใช้พลังเนตรมากจนเกิดไป

     

    เทพมารดา อิซานามิ...

    พลังเนตรที่บังคับให้อีกฝ่ายยอมรับชะตากรรมของคนเอง...

    โดยแลกกับแสงสว่างในดวงตาของผู้ใช้ที่จะหายไป...

     

                “ทำไมถึงทำแบบนี้!” ซากุระตะโกนทั้งน้ำตา มือเรียวสวยที่สั่นอย่างไม่อาจควบคุมได้เกลี่ยเลือดที่ไหลออกมาจากดวงตาที่ปิดสนิทของอีกฝ่ายออกอย่างแผ่วเบา

     

                “ขอโทษ...” ซาสึเกะพูดพร้อมกับใช้มืออันไร้เรี่ยวแรงของตนคว้าอากาศสะเปะสะปะจนมันสัมผัสกับใบหน้างาม เขาระบายยิ้มเศร้าเมื่อใบหน้าที่เขาสัมผัสชื้นแฉะไปด้วยน้ำตาปริมาณมาก จนถึงตอนนี้มันก็ยังไม่หยุดไหล...

     

                “ร้องไห้อีกแล้ว...ร้องทำไม?” เขาถาม พยายามเช็ดน้ำตาของเธออก แต่เพราะดวงตาที่ปิดสนิทจนมองไม่เห็น ทำให้เขาทำได้เพียงจับใบหน้าของเธอไว้

     

                “ขอร้อง ซาสึเกะ...อย่าเป็นอะไร อย่าทิ้งฉันไป...”

     

                “ฉัน...ปกป้องหมู่บ้านได้แล้ว...ฉันปกป้องเธอ...ปกป้องลูกของเรา... ฉัน...ทำหน้าที่ในฐานะพ่อแล้วใช่ไหม” เขาถามพร้อมกับยิ้ม แต่ความรู้สึกบางอย่างที่แล่นผ่านเข้ามาทำให้เขากระอักเลือดออกมากองใหญ่

     

                “อั่ก!

     

                “หยุดพูดเถอะซาสึเกะ! ฉันจะรักษาเธอ...ฉัน...ฉันไม่ยอมปล่อยให้เธอตาย!” ซากุระพูดเสียงสั่น เธอวางร่างของซาสึเกะให้นอนราบที่พื้น ก่อนจะวางมือไว้บนร่างของเขา พยายามจะรีดเร้นจักระออกมาเพื่อรักษาคนตรงหน้าทั้งๆที่ตัวเธอเองก็ยังอ่อนแอเกินกว่าจะรักษาใครได้

     

                “อย่า... อั่ก! เธอกำลังท้อง... มันอันตราย” ซาสึเกะพูดพร้อมกับใช้มือข้างหนึ่งจับมือเธอไว้เพื่อห้ามไม่ให้เธอทำอะไรเกินตัว ซากุระมองใบหน้าที่เต็มไปด้วยเลือดของซาสึเกะอย่างเจ็บปวด ก่อนจะกอดเขาเอาไว้แน่น หัวใจของเธอเหมือนกำลังถูกฉีก...

     

    เขา...กำลังจะตาย...

     

                “เธอต้องดูแลตัวเองดีๆนะ... กินอาหารที่มีประโยชน์... อย่านอนดึก อย่าโกรธ... เธอต้องควบคุมอารมณ์ตัวเอง...” ซาสึเกะพูดขึ้น มือข้างหนึ่งของเขายังคงกุมมือเธอไว้

     

                “...อย่าทำแบบนี้...”

     

                “ถึงเธอจะแข็งแรง แต่อย่าใช้แรงมาก... อย่ากระโดดลงบันได อย่าวิ่ง...”

     

                “...”

     

                “ถ้าลูกเกิดมาเป็นผู้ชาย...ให้เขาชื่อ อากิระเขาต้องเป็นเป็นตัวแทนแห่งความสว่าง... เขาต้องไม่จมดิ่งสู่ความมืดแบบฉัน...แต่ถ้าลูกเป็นผู้หญิง...”

     

                “ฉันจะให้เค้าชื่อ อายะ’! ฮึก... ฉันจะให้เค้าใช้ชื่อของเธอ...” ซากุระพูดขัดขึ้นทั้งน้ำตา หัวใจเธอหล่นวูบเมื่อสัมผัสได้ว่าหัวใจของซาสึเกะเริ่มเต้นช้าลงเรื่อยๆ

     

                ซาสึเกะระบายยิ้มอย่างเศร้าๆ

     

                “อายะไม่ได้หมายความว่า ศิลปะหรือความงาม... มันมาจากคำว่า อายะมารุ ที่แปลว่า ขอโทษอายะ...มีชีวิตเพื่อขอโทษ... ฉันขอโทษ...”

     

                “...”

     

                “ฉันเชื่อว่าเธอจะต้องเป็นแม่ที่ดี... ฉันเชื่อว่าลูกของเราต้องเติบโตมาอย่างดี เขาต้องแข็งแรง เป็นเด็กฉลาด... และก็เป็นคนดี”

     

                “...”

     

                ซาสึเกะอาศัยพลังเฮือกสุดท้ายของตัวเองยกมืออันไร้เรี่ยวแรงสัมผัสที่ท้องของซากุระ

     

    เขาต้อง...

    บอกลาใครอีกคน...

     

                “พ่ออาจจะไม่ได้เห็นหน้าลูก... แต่ลูกต้องเป็นเด็กดีนะครับ อย่าดื้อกับคุณแม่ อย่าทำให้คุณแม่เสียใจ...”

     

                “...”

     

                “พ่อ...รักหนูมากนะครับ”

     

     

    เสียงสุดท้ายของซาตาน...แผ่วเบา ราวกับเป็นเพียงเสียงกระซิบ...

    สายฝน...โปรยปรายลงมาราวกับเป็นบทเพลงสวดส่งให้ซาตานผู้ล่วงลับ...

     

     ...อุจิวะ  ซาสึเกะ...สิ้นชีพ...

     

     

     

     

       

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×