ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [FIC Naruto] เพลิงแค้นซาตาน [END]

    ลำดับตอนที่ #15 : Chapter 12 : ความโกรธ

    • เนื้อหานิยายตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 7.15K
      91
      4 ก.ค. 57

    บทที่ 12 ความโกรธ

     

    ฉันทำถูกรึเปล่า?

     

                คำถามเดิมๆยังคงวนเวียนอยู่ในหัวของซากุระ นับตั้งแต่วันที่เธอเผาทำลายคัมภีร์ลับของซาสึเกะทิ้ง...นี่ก็ย่างเข้าสู่วันที่สาม แต่ว่า...เธอก็ยังให้คำตอบตัวเองไม่ได้

     

    ไม่อยากให้เขาต้องเสียใจ...

    อยากจะสนับสนุนสิ่งที่เขาทำให้ถึงที่สุด...

    แต่ถ้าสิ่งนั้นมันคือการทำลายหมู่บ้านที่เธอรัก...

    เธอก็คงปล่อยให้เขาทำแบบนั้นไม่ได้...

     

                “ฉันจะทำยังไงกับเธอดีนะ ซาสึเกะ...” ซากุระพึมพำ แม้ว่าจะดึกสงัดแล้วแต่เจ้าของเรือนผมสีดอกซากุระก็ยังไม่นอน... เธอนอนไม่หลับ...ข่มตาไม่ลง... แค่นึกถึงใบหน้าที่ผิดหวังของซาสึเกะ น้ำตาก็ไหลออกมาราวกับรับรู้ถึงความเจ็บปวดของเธอ...

     

                ในขณะที่ปล่อยให้ตัวเองจมอยู่กับความคิดที่แสนเศร้าหมอง ร่างบางก็ได้กลิ่นกายที่คุ้นจมูก แต่ก่อนที่เธอจะทันหันกลับไปดูต้นตอของกลิ่นอันน่าหลงใหลนี้ เจ้าของกลิ่นก็ถือวิสาสะกอดหมับเข้าที่เอวของเธอเสียก่อน

               

    “คิดถึงฉันมั้ย?” น้ำเสียงทุ้มลึกที่น่ากลัวและเยียบเย็นยามโกรธ แต่แสนอ่อนโยนและชวนโหยหายามใจดี ทำให้ซากุระหัวใจเต้นแรง เลือดในกายสูบฉีดอย่างแรงและแทบจะระเบิดออกมาเมื่อเขาใช้ใบหน้าได้รูปนั่นซุกไซร้อยู่ที่ซอกคอของเธอ

     

    “หอมเหมือนเดิม” เขากระซิบที่ข้างหูของเธอเบาๆ ร่างบางในอ้อมแขนดิ้นขลุกขลัก แต่มีหรือที่เขาจะยอมปล่อย

     

    แค่ไม่กี่วันที่ไม่ได้เห็นหน้า...

    ก็ทำเขาแทบบ้าเพราะทนคิดถึงไม่ไหว...

     

    เธอเสกมนต์อะไรใส่ฉันกันแน่...ซากุระ...

     

    “ซะ...ซาสึเกะคุง! เธอกลับมาตั้งแต่เมื่อไหร่!” เมื่อเห็นว่าดื้อแพ่งดิ้นไปก็ไม่ได้ผล ซากุระจึงยอมปล่อยให้เขาโอบกอดเธอไว้อย่างนั้น มือเล็กลูบไล้ที่ท่อนแขนแข็งแกร่งเบาๆอย่างคิดถึง

     

    “เมื่อกี้...” เขาตอบ ก่อนจะนิ่วหน้า “ทำไมถึงยังไม่นอน?”

     

    “เอ่อ...” ซากุระอึกอัก จะบอกเขาได้อย่างไรว่าเธอนอนไม่หลับเพราะคิดมากเรื่องไปเผาของสำคัญของเขาทิ้ง

     

    “รอฉันอยู่เหรอ?”

    แต่ดูเหมือนว่าอีกฝ่ายจะตีความอาการของเธอผิดไปเสียไกล แถมยังเข้าข้างตัวเองอีกแน่ะ

     

    “ปละ...เปล่า”

     

    “โกหก” เขาพูด น้ำเสียงดูดุ

     

    “ฉันไม่ได้รอนะ!

     

    “ฉันไม่เชื่อ บอกความจริงมา” คนตัวสูงคาดคั้น ใบหน้าเรียวได้รูปเริ่มซุกซนอีกครั้ง มันค่อยๆซุกไซร้ซอกคอขาวราวกับต้องการจะสำรวจทุกหนทุกแห่ง จมูกโด่งสูงสูดกลิ่นตรงโน้นทีตรงนี้ทีอย่างไม่รู้จักพอ จนเจ้าของร่างเล็กขนลุกซู่ ใบหน้าขึ้นสีเรื่อ  

     

    “นี่ตกลงเธอจะให้ฉันตอบว่ากำลังรอเธออยู่ใช่มั้ย-_-

     

    “ใช่...” เขายอมรับหน้าตาย ก่อนจะหัวเราะน้อยๆแล้วปล่อยให้เธอเป็นอิสระเมื่อสำรวจเธอจนพอใจแล้ว

     

    ซากุระที่ถูกปล่อยเป็นอิสระรีบหันหน้ามาเผชิญหน้ากับร่างสูงทันที ใบหน้าขาวเนียนของเขามีรอยคล้ำแดดอยู่เล็กน้อย มันดูไม่น่าเกลียดแต่ทว่ากลับช่วยเพิ่มรัศมีความความแข็งแกร่งดุจชายชาตรีให้ร่างสูง ผิวของเขาดูหยาบกร้านลงเล็กน้อยแต่อีกไม่นานก็คงจะกลับมาเป็นเหมือนเดิม รวมถึงรอยคล้ำจากแดดนั่นด้วย

     

     “เธอดูผอมลงรึเปล่า? กินข้าวไม่ครบทุกมื้อเหรอ” ร่างบางถามเสียงเป็นห่วง หลังจากที่เธอสำรวจร่างสูงผ่านทางสายตา

     

    “ฉันต้องเดินทางตลอด ไม่มีเวลามาสนใจเรื่องกินหรอก” ซาสึเกะตอบเนือยๆ แต่แล้วก็ต้องยิ้มกว้างเมื่อได้ยินน้ำเสียงที่ดูร้อนรนของอีกฝ่าย

     

    “ไม่ได้นะซาสึเกะคุง! เดี๋ยวก็ป่วยหรอก...”

     

    “เป็นห่วงฉันเหรอ?”

     

    “ก็แหงสิยะ!” เธอว่าก่อนจะถอนหายใจเบาๆ “ ไปอาบน้ำเลย ตัวเหม็นๆแบบนี้ให้ขึ้นไปนอนบนเตียงไม่ได้หรอกนะ”

     

    “ตกลงว่าวันนี้เธอจะยอม...อืม...ยอมฉันแล้วใช่มั้ย” เขาถามเสียงเจ้าเล่ห์ ดวงตาสีรัตติกาลดูซุกซนอย่างผิดปกติ

     

    “ไม่ใช่ย่ะ! ไม่ต้องมาคิดทะลึ่งเลยนะซาสึเกะ รีบๆไปอาบน้ำแล้วนอนได้แล้ว” เธอโวยวาย ใบหน้าหวานขึ้นสีเรื่อเมื่อรู้ว่าอีกฝ่ายกำลังคิดอะไรอยู่ “ตัวเธอดูอุ่นๆเหมือนจะมีไข้ เดี๋ยวฉันจะหายาให้กินก่อนนอน”

     

    “ซากุระ...” เขาเรียกเธอเบาๆก่อนจะคว้าเอวบางมากอดอีกครั้ง ซากุระปลิวไปตามแรงดึง ดวงตาสีมรกตประสานกับดวงตาสีรัตติกาลที่กำลังสั่นระริก

     

     “ถ้าฉัน...ทำให้เธอต้องเสียใจอีกครั้ง เธอจะให้อภัยฉันมั้ย?”

     

    “ฉันไม่โกรธเธออยู่แล้ว...” เธอพูดปลอบประโลม มือเล็กโอบที่หลังของร่างสูงแล้วลูบเบาๆ

     

    “...”

     

    “ถ้าวันไหนที่ฉันคิดจะโกรธแค้นเธอ...ฉันขอยอมตายดีกว่า” ซากุระพูดน้ำเสียงหนักแน่น ก่อนที่เธอจะซุกใบหน้าที่อกกว้างแล้วถามคำถามที่เธอค้างคาใจมาตลอด “และถ้าฉันทำให้เธอเสียใจบ้างล่ะซาสึเกะ เธอจะ...โกรธฉันบ้างมั้ย”

     

    “ไม่รู้สิ...” ซาสึเกะตอบเสียงเรียบ และก็เพราะคำพูดนั้น ทำให้ร่างเล็กในอ้อมกอดถึงกับหมดเรี่ยวแรง

     

     “ฉันรับปากเธอไม่ได้... ว่าฉันจะโกรธเธอรึเปล่า”

     

    “...”

     

    “แต่รู้ไว้...ว่าฉันเองก็คงทรมานไม่แพ้เธอหรอก"

     

    .

    .

    .

               

    “เน่ๆๆ~ ฉันเอามาเก็บไว้ที่ห้องของนายแล้วจริงๆนะ สาบานได้~” เสียงของซุยเงสึที่กำลังโอดครวญทำให้ร่างบางที่กำลังจดจ่ออยู่ที่การถักผ้าพันคอเงยหน้าขึ้นมามอง ร่างสูงของซาสึเกะก้าวพ้นประตูมาก่อนที่ร่างที่ดูปวกเปียกของซุยเงสึจะเดินตามหลังมา ดวงตาสีอะเมทิสต์ดูร้อนรนอย่างผิดปกติ

     

                “แล้วมันหายไปไหน!” ซาสึเกะตะคอกอย่างแรง จนซุยเงสึถึงกับเปลี่ยนรูปร่างกลายเป็นน้ำโดยไม่รู้ตัวเพราะความกลัว

     

                “ฉะ...ฉันจะไปรู้ได้ไงล่ะ~ นายหาดูดีแล้วเหรอ”

     

                “ดีแล้ว!

     

                ซุยเงสึในตอนนี้อยู่ในอาการขวัญผวา ริมฝีปากสั่นระริกอย่างช่วยไม่ได้ ไม่ว่าจะกี่ครั้งกี่หน เขาก็ขอลงความเห็นว่าซาสึเกะเวลาโกรธนี่แหละ...ปีศาจตัวจริง!

     

                “มะ...มีอะไรเหรอซาสึเกะ” ซากุระที่ทิ้งงานฝีมือที่กำลังทำอยู่เดินเข้ามาถาม วงหน้าหวานเริ่มชื้นไปด้วยเหงื่อ เกรงว่าสิ่งที่ทำให้ร่างสูงกำลังโกรธเป็นฟืนเป็นไฟขนาดนี้จะเป็นสิ่งเดียวกับที่เธอทำไปเมื่อหลายวันก่อน

     

                “ไม่มีอะไร ไม่เกี่ยวกับเธอ...” เขาว่า น้ำเสียงดูอ่อนลง

     

                “เธอพอจะเห็นคัมภีร์ลับเล่มสีน้ำตาลบ้างรึเปล่าสาวน้อย” ซุยเงสึที่อยู่ในระยะไกลตะโกนมาถาม ทำให้ซากุระที่ยืนเหงื่อตกอยู่หน้าซีดลงกว่าเดิมเมื่อเรื่องที่เธอสังหรณ์นั้นเป็นความจริง

     

    เขากำลังตามหาคัมภีร์นั่น!

     

                “ไอ้นั่นน่ะสำคัญกับชีวิตของฉันมากเลยนะ~” เจ้าของเรือนผมสีเงินพูดย้ำอีกครั้งด้วยน้ำเสียงเกือบจะร้องไห้ ขาข้างหนึ่งของเขาก้าวพ้นเขตประตูไปแล้ว รอซาสึเกะเผลอเมื่อไหร่จะส่งอีกข้างก้าวตามไปแน่ๆ

     

                “ฉัน... คือฉัน...” ซากุระอึกอัก ดวงตาสีมรกตหลุบต่ำลงไม่กล้าเผชิญหน้ากับร่างสูงที่กำลังยืนกอดอกมองเจ้าคนเตรียมชิ่งอยู่ แต่คนเตรียมจะหนีกลับรับรู้ถึงความผิดปกติของคนตัวเล็กก่อน ใบหน้าที่ประกอบไปด้วยน้ำเครียดเขม็งขึ้นทันที

     

                “เอ้อ~ ฉัน...ฉันอาจจะจำผิด... ฉันอาจจะลืมเอามาเก็บไว้ก็ได้ มัน...น่าจะอยู่ในห้องของฉัน...” ซุยเงสึคิดคำพูดต่อไปไม่ออกเมื่อดวงตาของซาสึเกะที่จ้องมองเขาเริ่มเปลี่ยนเป็นสีแดง

     

                “ฉันทำลายมันทิ้งไปแล้ว!” ซากุระโพล่งขึ้นอย่างไม่มีทางเลือก เมื่อเห็นท่าทางหวาดกลัวของเจ้าของดวงตาสีอะเมทิสต์ ถึงอย่างไรเสียเธอก็เป็นผู้ก่อปัญหาขึ้น จะให้คนไม่รู้เรื่องรู้ราวมารับผิดชอบได้อย่างไรกัน

     

                !!!

     

    และทันทีที่ได้ยินประโยคนั้น ดวงตาสีรัตติกาลที่กำลังจะเปลี่ยนรูปไปก็กลับมาเป็นสีนิลดำสนิทเหมือนเดิม ร่างสูงหันขวับมองมาที่เธออย่างไม่เชื่อหูตัวเอง มือแกร่งทั้งสองข้างที่กอดอกอยู่ตกลู่ลงมาเหมือนหมดแรง

     

                “เธอ...ว่าอะไรนะ...” เขาถามย้ำ ก่อนที่มือหนาจะบีบเข้าที่แขนเล็กๆของอีกฝ่าย

     

                “ฉัน...”

     

                “สาวน้อย!” ซุยเงสึที่กำลังมองดูเหตุการณ์อยู่เรียกชื่อเธอหวังจะเตือนไม่ให้หลุดปากพูดอะไรออกไป หากแต่ร่างกายของเขาก็ถูกหยุดไว้ด้วยอำนาจสายตาที่ไม่ธรรมดาของซาสึเกะ

     

                “ออกไป!!!” เขาสั่งเสียงเข้ม

     

                “นี่~...”

     

                “อย่าเข้ามาสอด! ฉันบอกให้ออกไป!!!” สิ้นเสียงคำสั่ง ร่างน้ำของซุยเงสึก็กลับแข็งทื่อเหมือนถูกแช่แข็งด้วยความเย็นที่มองไม่เห็น ก่อนที่เจ้าตัวจะเดินออกไปอย่างเหม่อลอย ซากุระมองภาพนั้นอย่างตกใจ ซาสึเกะในตอนนี้มีพลังแม้กระทั่งสะกดจิตใจคนให้ทำอย่างที่ตัวเองต้องการ!

     

                “ตอบฉันมาซากุระ! เธอทำอะไรกับคัมภีร์นั่น!” เขาตะคอกถามเมื่อเหลือกันอยู่แค่สองคน ท่อนแขนแข็งแกร่งออกแรงบีบต้นแขนเธอจนมันปวดระบมไปหมด ซากุระตัวสั่นระริก ก่อนที่ริมฝีปากบางจะเอ่ยตอบเสียงแผ่ว

     

                “ฉัน...ฉันทำลายมันไปแล้ว...”

     

    “เธอ...ทำลายมันไปแล้วงั้นเหรอ...”

     

    “ซาสึเกะ...” เธอเรียกชื่อเขาเสียงแผ่วเบา แต่ทว่าความโกรธของเขาทำให้เขาไม่ฟังอะไรอีกแล้ว

     

    “ฉันถามว่าเธอทำลายมันไปแล้วใช่มั้ย!!!

     

    “ซาสึเกะ ฉะ...ฉัน ฉันขอโทษ”

     

    “ทำไมล่ะ ซากุระ! ทำไมเธอต้องมายุ่งกับการแก้แค้นของฉันด้วย!” เขาตะโกนใส่หน้าเธออย่างเดือดดาลพร้อมกับเขย่าตัวเธออย่างแรงด้วยความโกรธที่มีมากเหนือสิ่งอื่นใด ร่างบางทำได้เพียงแต่รู้สึกผิดอยู่ในใจที่ต้องทำร้ายความรู้สึกของเขา แต่ทว่าในฐานะที่เธอเป็นหนึ่งในนินจาของหมู่บ้าน... เธอมีหน้าที่ต้องทำ...

     

    “ก็ฉันมาเพื่อหยุดเธอซาสึเกะ... ฉันปล่อยให้เธอทำร้ายคนในหมู่บ้านไม่ได้ ฉันปล่อยให้เธอไปปะทะกับนารูโตะไม่ได้!” เธอพูดใส่หน้าเขา และก็เพราะประโยคนั้น ทำให้ร่างสูงที่กำลังเดือดดาลหยุดชะงักไปชั่วครู่ ก่อนที่ดวงตาสีรัตติกาลจะฉายแววเจ็บปวดอย่างที่เธอไม่เคยเห็นมาก่อน

     

    “อ้อ...เธออยู่กับฉันก็แค่เพื่อหยุดฉัน...” เขาพูดเบาๆ น้ำเสียงนึกสมเพชตัวเอง

     

    “ไม่...ไม่ใช่...” ซากุระสั่นหน้าปฏิเสธเมื่อเขาเข้าใจผิดไปไกล

     

    เธอก็แค่...

    ไม่อยากให้เขาตาย...

     

    “จุดประสงค์ของเธอมันก็แค่นั้นใช่มั้ย...”

     

    “มันไม่ใช่แบบนั้นนะ คือว่าฉันแค่ไม่อยาก...”

     

    “สุดท้ายเธอมันก็ดีแต่ปาก... เป็นไงล่ะ ทำลายแผนของฉันได้แล้ว ปกป้องนารูโตะได้แล้วนี่ ดีใจมั้ย?” เขาถามน้ำเสียงประชดประชัน ใบหน้าหล่อเหลาเลื่อนเข้ามาใกล้จนเธอรับรู้ถึงลมหายใจอุ่นๆของเขา

     

    “...”

     

    “คงคิดถึงมันมากใช่มั้ย? เป็นห่วงมันมากใช่มั้ย? ใกล้จะขาดใจรึยังที่ไม่ได้เจอหน้ามัน”

     

    “ฟังฉันก่อนสิซาสึเกะ!” ซากุระโพล่งขึ้นหวังจะให้เขาหยุดฟังเหตุผลของเธอ แต่ทว่าผลตอบรับกลับกลายเป็นเสียงตวาดของอีกฝ่าย

     

    “อย่ามาขึ้นเสียงกับฉัน!!! เหอะ! คงจะรักมันมากสินะ ทนเห็นมันปวดใจเรื่องฉันไม่ได้ก็เลยถ่อมาหาฉันถึงที่นี่...”

     

    “...”

     

    “แต่ทำไงดีล่ะซากุระ? ตัวเธอเป็นของฉันแล้ว ผู้หญิงมีตำหนิแบบนี้เจ้านั่นจะรับได้เหรอ” น้ำเสียงดูถูกกับแววตาที่เหยียดหยามของเขาทำให้เธอแทบจะร้องไห้ แต่ก้อนน้ำตาเหล่านั้นกลับถูกกลืนหายไปเมื่อเธอนึกถึงสถานการณ์ตรงหน้า

     

    มันไม่ใช่เวลาที่เธอจะมามัวนั่งร้องไห้...

    เธอต้องเกลี้ยกล่อมเขาถึงแม้มันจะเป็นเพียงแค่ความหวังลมๆแล้งก็ตาม...

     

    “ฉันกับนารูโตะ...เราเป็นแค่เพื่อนกัน...” เธอพูดเสียงแผ่ว สะกดกลั้นน้ำตาทุกหยาดหยดไม่ให้ไหลออกมา แต่ร่างสูงที่กำลังจ้องมองเธออยู่ ตีความหมายว่าประโยคนั้นที่เธอพูดมันชวนฝืนใจเสียจนเธอต้องกลั้นใจพูดมันออกมา และเพียงแค่นั้น เส้นความอดทนของเขาก็ขาดผึงลง

     

    “ฉันไม่สนว่าเธอกับมันจะเป็นอะไรกัน! แต่ตอนนี้เธอเป็นของฉัน!”เขาพูดก่อนจะเหวี่ยงร่างบางไปที่เตียงอย่างแรง

     

    “และถ้าเผื่อว่าเธอลืม...เดี๋ยวฉันจะทำให้จำได้เอง...ว่าร่างกายเธอเป็นของใคร!

     

     

     

     

     

                โอ้ววว หนุกุจะโดนอะไรอีกเนี่ย T^T หลังจากหายหน้าหายตาไปกลับมาเซอร์ไพรส์ด้วยฉาก NC แอร๊ยยย>.< แต่ตอนนี้NC ยังพิมพ์ไม่เสร็จนะคะ ถ้าเสร็จแล้วจะไปตั้งตอนย่อยให้ อิเกะโกรธเป็นฟืนเป็นไฟจนหน้ามืดตามัว แต่ตอนนี้เห็นใจเกะเหมือนกัน คงรู้สึกเหมือนถูกทรยศ แต่หนูกุของเราก็ทำไปอย่างมีเหตุผลน้า ฮรือออ T.T เป็นกำลังใจให้หนูกุรอดพ้นจากเงื้อมมือมาร(ท่าจะยาก-.-) ด้วยนะค้า จุ๊ฟฟฟฟ ปล. หลังๆมาตั้งชื่อตอนได้...เอิ่ม...มากอ่ะ ฮ่าๆๆ ขี้เกียจคิดชื่อจริงๆ

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×