ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [FIC Naruto] เพลิงแค้นซาตาน [END]

    ลำดับตอนที่ #5 : Chapter 4 : พบกันอีกครั้งที่ วังซาตาน

    • อัปเดตล่าสุด 25 มิ.ย. 57


    บทที่ 4 พบกันอีกครั้งที่ วังซาตาน

     

                “ฉันว่ายังไงๆฉันก็สวยกว่ายัยนี่แน่ๆ”

     

                “เธอก็แค่ดูมๆใหญ่กว่าเค้าล่ะว้า แต่ตรงอื่นไม่เห็นจะได้เรื่อง”

     

                “นี่นายจะหาเรื่องฉันจริงๆใช่มั้ยซุยเงสึ”

     

                “อะไร? ฉันแค่พูดความจริง เธอรับไม่ได้เหรอ”

     

                “นี่นาย! ...เฮอะ! ที่นายพูดแบบนั้นนั่นก็เป็นเพราะนายยังไม่เห็นสัดส่วนอันสมบูรณ์แบบของฉันต่างหาก และแน่นอนว่าฉันก็ไม่มีวันให้นายได้เห็นแน่ๆ”

     

                “อ้อเร้อออ~ อยากเห็นตายล่ะ คงเละเทะไม่น่าดูเลยล่ะสิ”

     

                “ซุยเงสึ!!!

     

                เสียงทะเลาะกันของใครบางคนปลุกให้เธอตื่นจากนิทรา ซากุระลืมตาขึ้นพร้อมกับความรู้สึกหนักๆที่หัว เมื่อมองไปรอบๆก็พบเพียงผนังทึบๆ และผนังด้านหนึ่งถูกทำเป็นซี่ลูกกรงแคบๆแค่มือสอดได้เท่านั้น ซากุระพยายามนึก... เธอจำได้ว่าเธอกำลังนอนแช่น้ำตกอยู่และจากนั้นก็มีเสียงใครบางคนเรียก และจากนั้นเธอก็สะดุดล้ม และจากนั้นก็...

     

                “กรี๊ดดดดดดดด!!!!!

     

                เสียงหวีดร้องของซากุระทำให้เจ้าดวงตาสองคู่ที่กำลังจะก่อสงครามกันหันมามอง ฝ่ายหนึ่งนั้นจ้องมองเธอกลับด้วยสายตาที่เกลียดชัง ในขณะที่อีกฝ่ายได้แต่หัวเราะราวกับว่ามันเป็นเรื่องตลก

     

                “สะ...เสื้อผ้า เสื้อผ้าฉันไปไหน กรี๊ดดดด ทำไมฉันอยู่ในสภาพนี้!!!” ซากุระล้มเลิกความคิดที่จะรำลึกว่าเกิดอะไรขึ้นกับเธอและเธอมาอยู่ตรงนี้ได้อย่างไร เมื่อเธอเห็นว่าร่างกายของเธอนั้นไม่มีเสื้อผ้าอาภรณ์เลยสักชิ้น

     

                “เสื้อผ้าของเธอน่ะเหรอ โทษทีน้า~ แต่ฉันโยนทิ้งหมดแล้วล่ะ” ซุยเงสึเป็นฝ่ายตอบพร้อมกับหัวเราะคิกคัก

     

                “นะ...นี่นาย นายเป็นคนจับตัวฉันมาใช่มั้ย!?! ไม่ ไม่ใช่สิ เอาเสื้อผ้ามาให้ซักทีสิ! ขำอยู่ได้ นายเป็นพวกโรคจิตรึไง!

     

                “ว้า~ เสียดายจัง น่าจะให้ฉันมองนานๆหน่อยนะ คิๆ~  เสื้อผ้าก็อยู่ข้างๆเธอนั่นไงสาวน้อย แต่เป็นของยัยคารินนี่นะ ถ้าใส่แล้วสังกะตังขึ้นก็ทนๆเอาหน่อยละกัน”

     

    ซ่า~

     

                โดยไม่บอกให้รู้ล่วงหน้า คารินที่ยืนฟังอยู่เอามือตบหน้าคนปากเสียอย่างแรงหวังจะให้เจ้าตัวหัวหลุดจากบ่ากันเลยทีเดียว แต่มือของเธอก็สัมผัสได้เพียงแค่มวลของน้ำเย็นๆ ร่างกายของซุยเงสึแตกกระจายเหมือนกับน้ำที่ปรับเปลี่ยนรูปร่าง ก่อนที่มันจะหลอมรวมกันกลับเป็นใบหน้าที่แสนยียวนเหมือนเดิม

     

                คารินได้แต่สบถเบาๆอย่างขัดใจ ถึงนึกอยากจะตบเจ้าคนปากเสียนี่มันก็ไม่ได้ทำให้เจ้าตัวรู้สึกเจ็บอะไรเลย เพราะแบบนี้แหละมันถึงได้ลอยหน้าลอยหาเรื่องกัดเธอได้ทุกวี่ทุกวัน! แต่ก็เหมือนจะมีบางคนที่ไม่รู้และไม่เคยเห็นความสามารถอันน่าขนลุกของซุยเงสึ...

     

                “กรี๊ดดดดดดดดดดด!!!! หะ...หัว หัวหาย หาย...และกลับมาต่อเหมือนเดิม” ซากุระร้องอย่างตกใจเมื่อเห็นร่างกายของซุยเงสึแตกกระจายไปตามแรงตบของคาริน และเธอก็ต้องงงเป็นไก่ตาแตกอีกครั้งเมื่อใบหน้าของเขากลับมาคงรูปตามเดิม

     

     

                “เงียบๆหน่อยสิยะยัยบ้า! เดี๋ยวซาสึเกะคุงก็หมดอารมณ์ อ๊ะ ก็ตื่นกันพอดี” คารินพูดพร้อมกับขยับแว่นกรอบบางที่เธอสวมอยู่ ไม่ว่าอย่างไรเธอก็รู้สึกไม่ถูกชะตากับแม่นี่จริงๆ

     

                “!!!

     

                “อะไรล่ะ ทำหน้าอย่างกับเห็นผี อ้อ...เธอคงไม่เคยเห็นคนสวยอย่างฉันสินะ ก็เป็นธรรมดานั่นแหละที่เวลาเห็น...”

     

                “ซะ...ซาสึเกะคุงเหรอ อุจิวะ ซาสึเกะน่ะเหรอ? ซาสึเกะอยู่ที่นี่ใช่มั้ย ตอบฉันมานะ!” ซากุระไม่สนใจจะฟังคารินที่กำลังบรรยายสรรพคุณความงามของตัวเอง(เมินฉันเหรอยะ>>>คาริน) ชื่อของซาสึเกะทำให้เธอลืมเรื่องที่เกิดขึ้นทุกอย่าง หัวใจของเธอกำลังเต้นผิดจังหวะเพียงแค่รู้ว่าเขาอยู่ใกล้ๆ

     

                “เหอะ! ฉันไม่ได้มีหน้าที่ต้องตอบคำถามของเธอ อย่าคิดว่าฉันไม่รู้นะว่าเธอน่ะตามตอแยซาสึเกะคุงอยู่ แต่เสียใจด้วยนะ เค้า-เป็น-ของ-ฉัน-ย่ะ”

     

                ซากุระไม่ได้ฟังที่คารินพูด ในหัวของเธอมีแต่ภาพของผู้ชายคนหนึ่งที่ฝังลึกอยู่ในความทรงจำของเธอ แววตาของเขาดูเย็นชาแต่ก็เต็มไปด้วยความห่วงใย ริมฝีปากบางของเขามักจะเอ่ยแต่คำพูดที่หยาบกระด้างแต่ก็เต็มไปด้วยความจริงใจ ใบหน้าที่หล่อเหลาไร้ที่ติของเขา... ตอนนี้จะเป็นอย่างไรบ้างนะ?

     

                “ไม่ได้เจอกันตั้งสามปี เปลี่ยนไปเยอะเลยนะ...” น้ำเสียงเย็นชาแฝงไปด้วยความดูถูกทำให้สายตาทุกคู่พร้อมใจกันหันไปมองยังต้นเสียง ซาสึเกะในชุดยูกาตะสีดำเดินฝ่าความมืดตามทางเดินมาอย่างช้าๆ  ท่วงท่าของเขายังคงดูสง่างามไร้ที่ติเหมือนกับใบหน้าหล่อเหลาราวกับรูปสลักของเจ้าตัว แต่เขา...ดูแตกต่างจากซาสึเกะคนเดิมที่เธอเคยพบอยู่มาก

     

               

                “ซะ...ซาสึเกะ” ซากุระพูดชื่อเขาออกมาพร้อมกับความรู้สึกตื้นตัน น้ำใสๆรื้นขึ้นที่ตาอย่างช่วยไม่ได้ ในที่สุดเธอก็พบเขาแล้ว...

     

                “นี่ สาวน้อย~ เธอยังโป๊อยู่เลยนะ” เสียงของซุยเงสึดังแหวกโสตประสาทมาจนได้ ซากุระที่กำลังดีใจที่ได้พบกับซาสึเกะอีกครั้งตื่นจากภวังค์และประมวลผลคำพูดของซุยเงสึ ก่อนที่เธอจะหวีดร้องอย่างตกใจ

     

                “กรี๊ดดดด!!! ยะ...อย่ามองนะซาสึเกะ นายก็ด้วยเจ้าโรคจิต ฮึ่ย! ทำไมนายไม่บอกฉันให้มันเร็วกว่านี้ฮะ!” เธอพูดพร้อมๆกับกระวีกระวาดหยิบเสื้อผ้าที่วางกองอยู่ขึ้นมาสวมใส่แบบลวกๆ เธอไม่ได้ดูด้วยซ้ำว่าเธอใส่ถูกด้านหรือเปล่า เพียงแต่ตอนนี้เธอไม่อยากให้เขาเห็นเธออยู่ในสภาพที่น่าอับอายแบบนี้

     

                “ก็เธอมัวแต่นั่งอ้าปากค้างจนแมลงวันจะเข้าไปตั้งฐานทัพได้แล้วนี่ ฉันเรียกเธอแล้วเธอก็ไม่ได้ยินน่ะน้า~”

     

                “ทะ...ทีหลังก็ตะโกนสิยะ นี่ฉันทำอะไรต่อหน้าซาสึเกะคุงเนี่ย” พูดไปก็เขินไป เธออายจนไม่กล้าสบตากับร่างสูงที่ยืนมองอยู่ข้างนอก

     

                “ซาสึเกะคุง~ เพราะเสียงแม่นี่ใช่มั้ยที่ปลุกเธอให้ตื่นน่ะ แล้วคืนนี้จะทำยังไงล่ะเนี่ย เธอนอนไม่พอแบบนี้น่ะ” คารินที่เข้าไปเกาะแขนของร่างสูงตั้งแต่เมื่อไหร่ไม่รู้ พูดขึ้น น้ำเสียงดูออดอ้อนอย่างไม่ต้องเดาก็รู้ว่าเธอกำลังต้องการอะไร ซากุระมองภาพตรงหน้าอย่างแปลกใจ สิ่งที่เธอเพิ่งได้ยินมันคืออะไรกัน? ซาสึเกะกับผู้หญิงคนนั้นเป็นอะไรกัน?

     

                “เรื่องของเธอเอาไว้ก่อนนะคาริน ตอนนี้ฉันมีธุระ...กับคนๆนี้” ซาสึเกะพูดพร้อมกับเบนสายตามาที่เธอ เป็นสายตาที่ดูถูกที่สุดเท่าที่เธอเคยเห็นมา เขามองเธอไม่ต่างจากขยะชิ้นนึงด้วยซ้ำ...

     

                “ซาสึเกะคุง...ฉัน...”

     

                “ไง ซากุระ”

     

                “คือว่า...”

    เธอพูดไม่ออก เธอดีใจที่ได้พบกับเขาอีก แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าการเห็นเขาอยู่กับใครอีกคนมันทำให้เธอจุกจนพูดไม่ออกจริงๆ แต่ไม่เป็นไร... บางทีมันอาจจะไม่ใช่อย่างที่เธอคิดก็ได้

     

                “คนอื่นๆไปไหนล่ะ ทำไมเธอถึงมาอยู่ที่นี่คนเดียว” เขาถาม ดวงตามีแววเยาะเย้ยหน่อยๆ

     

                “คือว่า... อ่า...ไม่สิ ซาสึเกะคุง ช่วยบอกให้เค้าปล่อยตัวฉันออกไปได้มั้ย ฉันไม่ใช่คนน่าสงสัยนะ” ซากุระพูดพร้อมกับพยักเพยิดหน้าไปทางซุยเงสึที่เปลี่ยนมาทำหน้าเครียด เธอโล่งใจเลยทีเดียวที่ซาสึเกะรู้จักกับคนที่จับตัวเธอมา เขาคงจะช่วยให้เธอออกไปจากคุกนี่ได้ แต่ทว่า...

     

                “หึๆ ฉันจะทำแบบนั้นได้ยังไงล่ะซากุระ...ก็ฉันน่ะ เป็นคนบอกให้ซุยเงสึจับตัวเธอมาเอง

     

                “!!!” ประโยคของซาสึเกะเหมือนกับมีน้ำเย็นๆสาดเข้าที่หน้าเธออย่างจัง นี่เธอไม่ได้หูฝาดไปใช่มั้ย?

     

                “ตกใจเหรอ? อย่าเพิ่งรีบตกใจไปสิ มันมีเรื่องที่จะทำให้เธอต้องตกใจมากกว่านี้อีกเยอะแยะ”

     

                “อย่า...อย่าล้อฉันเล่นสิซาสึเกะคุง ฉัน...ฉันมาเพื่อมารับเธอกลับนะ กลับกันเถอะ” ซากุระพูดพร้อมกับปั้นหน้ายิ้มเจื่อนๆ แต่สายตาเหยียดหยามของร่างสูงมันเป็นเครื่องยืนยันเป็นอย่างดีว่าเขาพูดจริง

     

                “หึ เธอนี่ยังอินโนเซ้นส์เหมือนเดิมเลยนะ”

     

                “...”

     

                “ถ้าฉันคิดจะกลับไปที่นั่นฉันคงกลับไปนานแล้ว ไม่ต้องให้เธอถ่อมาตามถึงที่นี่หรอก”

     

    ยิ่งเธอมองดูเขาในตอนนี้ก็ยิ่งรู้ซึ้งว่าเขาได้เปลี่ยนไปแล้ว หัวใจของเธอเต้นเป็นจังหวะแปลกๆเหมือนมันกำลังตื่นกลัวบางอย่างที่อันตรายเกินไป

     

                “แต่ฉันก็ยังมีเรื่องที่น่าเสียใจอยู่นะ...” ร่างสูงพูดพร้อมกับริมฝีปากเหยียดยกขึ้น “ที่ดันจับมาได้แค่คน ไร้ค่า คนหนึ่ง จริงๆแล้วถ้าจับครูคาคาชิ หรือนารูโตะได้ก็คงดี อย่างน้อยมันก็คงทำให้การเจรจาของฉันกับแสงอุษาเป็นไปได้สวย”

     

                “แสงอุษา? นี่เธอ...เธอกำลังพูดอะไรน่ะ!?! เธอเจรจาอะไรกับพวกนั้นเหรอซาสึเกะคุง เธอก็รู้ไม่ใช่เหรอว่าพวกมันจ้องจะฆ่านารูโตะน่ะ!” ซากุระถามอย่างตกใจ ไม่คิดว่าซาสึเกะจะเป็นคนพูดประโยคนั้นออกมา

     

                “นั่นมันไม่เกี่ยวกับฉันซักหน่อย แสงอุษาจะให้ฉันยืมพลัง... พลังที่จะทำให้ฉันทำในสิ่งที่ฉันอยากทำได้”เขาเอ่ยเสียงเย็นพร้อมกับใช้ดวงตาที่เต็มไปด้วยความอาฆาตแค้นมองมาที่เธอ

     

                “เธอ...บ้าไปแล้วเหรอ?” ซากุระมองร่างสูงที่ไม่เหลือเค้าของคนที่เธอเคยรู้จัก หยดน้ำตามากมายค่อยๆไหลอย่างช้า ความรู้สึกเจ็บปวดกำลังตอกย้ำเข้าไปในจิตใจของเธอ

     

    พวกเธอใช้เวลานานเกินไปในการตามตัวเขากลับมา มันสายเกินไป...ตอนนี้เขาได้ถูกความแค้นเข้าครอบงำจนไม่สนใจมิตรภาพอีกแล้ว เพื่อการล้างแค้นแล้ว... เขาไม่ลังเลเลยที่จะ...ฆ่านารูโตะ

     

                “นารูโตะเป็นเพื่อนของเรานะซาสึเกะ! หมอนั่นตามหาเธอมาตลอด หมอนั่นน่ะ... แม้แต่จะข่มตาให้หลับในแต่ละวันก็ยังยาก เพราะเค้ายังรู้สึกผิดที่ปล่อยให้เธอจากไปยังไงล่ะ!

     

                “อ้อ เป็นอย่างนั้นหรอกเหรอ...” ซาสึเกะพูดพร้อมกับหัวเราะในลำคอ “ฉันซึ้งจนน้ำตาไหลเลยล่ะ”

     

                “ซาสึเกะคุง ขอร้องล่ะ ฮึก... เธอช่วยกลับมาเป็นเหมือนเดิมได้มั้ย กลับไปกับฉัน กลับไปหมู่บ้านโคโนฮะของพวกเรากันเถอะ” ซากุระเอ่ยทั้งน้ำตา หัวใจของเธอเจ็บปวดอย่างแสนสาหัส

     

    ฉันมาที่นี่ทำไม? ฉันมาเพื่ออะไร?

     

                “ หมู่บ้านโคโนฮะของพวกเรางั้นเหรอ? อย่าได้เอ่ยชื่อที่น่าสะอิดสะเอียนให้ฉันได้ยินอีก! ฉันไม่เคยเป็นส่วนหนึ่งของที่นั่น!” ซาสึเกะพูดพร้อมกับอารมณ์โกรธที่ปะทุขึ้นอย่างรุนแรง นัยน์ตาของเขาเปลี่ยนเป็นสีแดงพร้อมๆกับมีลวดลายแปลกตา

     

                !!!

     

                “แค่ได้ยินชื่อก็อยากจะฆ่า อยากจะทำลาย...” เขาเอ่ย ขบกรามแน่นราวกับกำลังข่มความรู้สึก

     

                “ทะ...ทำไม ทำไมกันล่ะซาสึเกะ เธอกับฉันก็เคยมีช่วงเวลาที่มีความสุขอยู่ที่นั่นไม่ใช่รึไง ทำไมเธอถึงบอกว่าที่นั่นน่าสะอิดสะเอียน ทำไมเธอต้องปฏิเสธด้วยว่าเธอไม่ใช่ส่วนหนึ่งของโคโนฮะ!

     

                “เพราะที่นั่นพรากทุกอย่างไปจากฉัน... เพราะไอ้หมู่บ้านงี่เง่านั่น! ครอบครัวของฉันถึงต้องมาตาย อิทาจิถึงต้องใช้ชีวิตอย่างทรมาน ทั้งหมดมันก็เป็นเพราะพวกเธอ เป็นเพราะชาวโคโนฮะทุกคน!” ซาสึเกะตะคอกออกไปอย่างเจ็บปวด

     

    เขาให้อภัยใครในโคโนฮะไม่ได้...

     

    ยิ่งเขาเห็นซากุระที่เป็นนินจาของโคโนฮะ แผลที่อยู่ในใจก็เหมือนจะยิ่งสาหัส ภาพค่ำคืนวันที่พ่อแม่ของเขาตายกับภาพวันที่เขาลงมือสังหารอิทาจิลอยวนเวียนตามหลอกหลอนเขาเหมือนเงาตามตัว ความเจ็บปวดนี้...อะไรเล่าจะทำให้มันหายไปได้ นอกจากการล้างแค้น!

     

                “อิทาจิ?... เธอหมายความว่าไง หมู่บ้านโคโนฮะทำอะไร? คนที่เธอตามล้างแค้นน่ะไม่ใช่อิทาจิพี่ชายของเธอหรอกเหรอ” ซากุระถามอย่างงงงวยระคนตกใจ เธอมองแววตาของซาสึเกะออกและรู้ว่าเขากำลังเจ็บปวดกับเรื่องบางอย่าง...

     

                “ฉันฆ่าเค้าไปแล้ว... ฉันฆ่าอิทาจิไปแล้ว! เข้าใจมั้ย! ฉันฆ่าเค้าทั้งๆที่เค้าทำเพื่อฉันมาโดยตลอด! พวกมันทุกคนจะต้องชดใช้ให้ฉัน... ต่อให้ฉันต้องฆ่าเธอ ฆ่านารูโตะ ฉันก็จะทำ!!!

     

                “อะไรกัน...” เธอเอ่ยออกมาอย่างไม่เชื่อหูกับสิ่งที่ตัวเองได้ยิน “นี่เธอขายวิญญาณของตัวเองให้กับปีศาจไปแล้วรึไง ซาสึเกะ!?!

     

                “ฉันยอมกลายเป็นปีศาจ ถ้านั่น...มันจะทำให้ฉันแก้แค้นสำเร็จ...” ร่างสูงพึมพำ ก่อนจะตวัดสายตาอันแข็งกร้าวมาที่เธอ

     

    “พวกโคโนฮะทุกคนจะต้องได้รับความทรมานเหมือนกับที่อิทาจิและอุจิวะทุกคนได้รับ! ซากุระ...เธอเป็นคนแรก...อ่านจันทรา!

     

                “ฉันคือซาตาน... เป็นปีศาจที่มีชีวิตอยู่ได้ด้วยความแค้น... ชีวิตของเธอต่อจากนี้มันจบลงแล้ว เธอจะได้รับความทรมานยิ่งกว่าความตายอยู่ในวังของฉัน... วังของซาตาน!!!

     

     

     

    นะ...นี่มัน จำเลยรักเหรอ? เกะเริ่มแสดงความร้ายกาจอย่างออกนอกหน้า(?) สงสารหนูกุ T.T ส่วนคาริน...เราต้องขอโทษเธอจริงๆที่เราต้องยัดบทตัวร้ายให้เธอ อิอิ>.<  แต่วังของซาตานจะทรมานขนาดไหนต้องเกาะติดจอนะคะ เพราะไรท์เตอร์เองก็กำลังหาโลเคชั่นสยองขนหัวลุกมาประกอบฉาก(ไม่ใช่ละ-.-)

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×