ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [FIC Naruto] เพลิงแค้นซาตาน [END]

    ลำดับตอนที่ #12 : Chapter 9 : ทวงคืน

    • อัปเดตล่าสุด 16 ต.ค. 57


    บทที่ 9 ทวงคืน

     

                “ยังไม่ถึงอีกเหรอ” เสียงหวานถามปนหอบเล็กน้อย

     

                “ใกล้ถึงแล้วล่ะ~ ว่าแต่เธอเป็นคนแก่เหรอ เดินซะอืดเป็นเต่าเชียว~” ซุยเงสึพูดพร้อมกับหัวเราะ

     

                “นายนั่นแหละ! ทำไมวันนี้ถึงได้คึกคักผิดปกติล่ะยะ ปกติก็เห็นอืดอาดยืดยาดเป็นหอยทากถูกเหยียบ -_-

     

                “ก็มันน่าตื่นเต้นนี่นา~”

     

                “ตื่นเต้นอะไร?” ร่างบางถาม น้ำเสียงดูไม่ไว้ใจคนเดินนำหน้าที่แกล้งฮัมเพลงทำเป็นไม่ได้ยินเธอ

     

                “คิๆ~” คนตัวสูงกว่าไม่ตอบได้แต่หัวเราะอย่างเจ้าเล่ห์ก่อนจะจูงมือเธอไปเพื่อเร่งให้เธอเดินเร็วขึ้น

     

                ใช้เวลาเพียงไม่นานสุดท้ายทั้งสองคนก็มายืนอยู่ริมหน้าผาสูงชันที่เบื้องล่างถูกปกคลุมด้วยหมอกหนาทึบจนมองรายละเอียดไม่เห็น

     

                “เนี่ยนะสถานที่เจ๋งๆของนาย” ซากุระถามพร้อมกับส่งสายตาอาฆาตไปยังร่างสูงที่ยืนเหลียวหน้าเหลียวหลังอยู่หลายครั้ง ใบหน้าหวานเต็มไปด้วยเม็ดเหงื่อที่เกิดจากการวิ่งขึ้นเขาด้วยความเร็วสูง “ลากฉันเดินขึ้นเขามาเกือบครึ่งชั่วโมงเพื่อให้ฉันมายืนตากยุงบนหน้าผาเหรอยะ-_-

     

                “รอก่อนซี่~ เธอไม่เห็นนั่นรึไง” เขาพูดพร้อมกับชี้ไปยังขอบเมฆที่เริ่มถูกย้อมเป็นสีส้ม “ตรงนี้น่ะเป็นที่ดูพระอาทิตย์ขึ้นที่ดีที่สุดในฮิโนะคุนิ”

     

                “จริงเหรอ!?!” ร่างบางถามด้วยน้ำเสียงตื่นเต้น ลืมความเหนื่อยและความโกรธทั้งหมด ดวงตาสีมรกตจดจ้องไปยังจุดที่พระอาทิตย์ดวงกลมโตเริ่มปรากฏ เพียงไม่นานทั่วทั้งบริเวณก็ถูกอาบย้อมด้วยแสงแห่งรุ่งอรุณ หมอกยามเช้าเริ่มจากลงเผยให้เห็นลำธารสายใหญ่ที่ไหลผ่านใต้หน้าผา รวมถึงผืนป่าเบื้องล่างที่ดูไร้ชีวิตชีวาเพราะต้นไม้พากันผลัดใบเหลือเพียงกิ่งก้านสาขาดูแห้งแล้ง แต่กลับดูงดงามอย่างน่าอัศจรรย์เมื่อมองดูจากที่สูง

     

                “สวยจริงๆด้วย!

     

                “ใช่ม้า~”เขาพูดก่อนจะสืบเท้าเข้ามาใกล้คนที่มัวแต่ชมวิวไม่ทันระวัง “นี่ สาวน้อย~ ฉันขออะไรเธอหน่อยได้มั้ย...”

     

                ซากุระที่ไม่ได้สนใจสิ่งรอบตัวถึงกับสะดุ้งเมื่อได้ยินเสียงคนถามถามอยู่ข้างๆหู ใบหน้าหวานหันขวับไปเตรียมจะต่อว่า แต่แล้วก็ต้องผงะอีกครั้งเมื่อมือผอมๆกอดหมับเข้าที่เอว

     

                “ขอกอดหน่อย~!

     

                “นี่นาย...”

     

                “ขอจูบด้วย~” สิ้นเสียงซุยเงสึก็ไม่รอให้อีกฝ่ายปฏิเสธ เรียวปากหนาประกบริมฝีปากบางอย่างรวดเร็วพอๆกับมือข้างหนึ่งที่รวบมือร่างบางไว้ไม่ให้ขัดขืน

     

                “อื๊อ...” ซากุระบ่ายเบี่ยงพยายามหันหน้าหนีด้วยความตกใจ และเพียงไม่นานคนตัวสูงก็ปล่อยริมฝีปากบางให้เป็นอิสระ แต่มือทั้งสองข้างก็ยังคงโอบกอดเธอไว้ไม่มีท่าทีว่าจะปล่อยง่ายๆ

     

                “ทำบ้าอะไร! ปล่อยฉันนะ!!!” เธอตะคอกแต่แล้วก็ต้องงงค้างเมื่อคนที่กอดเธออยู่กำลังหัวเราะคิกคัก

     

                “อย่าโวยวายไปซี่~ ฉันกำลังทำเพื่อเธออยู่นะ” ซุยเงสึกระซิบเบาๆและนั่นก็ยิ่งสร้างความประหลาดใจให้คนตัวเล็กยิ่งนัก

     

                “ทำอะไรเพื่อฉันยะ! ปล่อยฉันได้แล้ว” เธอว่าพยายามดิ้นเพื่อให้หลุดจากการเกาะกุมของเขา แต่คราวนี้เจ้าของเรือนผมสีเงินไม่ยอมอ่อนข้อให้เหมือนครั้งก่อนๆ เรี่ยวแรงอันมหาศาลของเขามีมากพอจะกวัดแกว่งดาบที่หนักถึงหนึ่งตันได้ กับแค่แรงประท้วงจากหญิงสาวที่บอบบางคนหนึ่งทำอะไรเขาไม่ได้หรอก

     

                นานเกือบนาทีที่เธอตกอยู่ในสภาพถูกโอบกอดจากด้านหลัง ตอนนี้ซากุระได้แต่ยืนนิ่งพร้อมร่ายคำสาปเตรียมขึ้นบัญชีดำเจ้าของดวงตาสีอะเมทิสต์ที่ยังคงกลั่นแกล้งเธอต่อไป แต่คนถูกแค้นได้แต่เอาหน้าเกยไว้ที่ไหล่ของอีกฝ่ายพร้อมกับกระซิบเบาๆ

     

                “อยู่แบบนี้ซักพักนะ ฉันอยากจะได้คำตอบว่าฉันควรจะรับฝากเธอต่อไป...หรือยึดเธอมาเป็นของฉันดี

     

                “!!!” ซากุระนิ่งค้างกับคำพูดของคนที่ชอบเล่นชอบแหย่เธอเป็นประจำ เธอไม่รู้ว่าตอนนี้เขาทำหน้ายังไง กำลังยิ้มหัวเราะที่ได้แกล้งเธอหรือกำลังจริงจังอยู่กันแน่ แต่เธอสัมผัสได้ถึงหัวใจของอีกฝ่ายที่กำลังเต้นรัวอย่างบ้าคลั่ง

     

    หัวใจไม่เคยโกหก...

    .

    .

    .

    ถ้ารู้ว่าขยะซักชิ้นหายไป หมอนั่นจะทำยังไง...

    ไอ้ที่ว่าไม่รักไม่แคร์นั่นน่ะจะจริงซักแค่ไหนกัน...

     

    อยากรู้จัง~

     

                เจ้าของเรือนผมสีเงินคิดกับตัวเอง

     

    ถ้านายยังไม่มาทวงคืน ฉันจะยึดแล้วนะ...ซาสึเกะ!

    .

    .

    .

     

                “มีความสุขกันมากสินะ” น้ำเสียงเย็นเยียบดุจน้ำแข็งที่แม้ใครได้ฟังก็เป็นอันต้องผวา ทำให้คนสองคนที่กำลังโอบกอดกันท่ามกลางแสงตะวันอ่อนๆต่างยืนนิ่งราวกับกำลังรอฟังคำสั่งประหาร

     

                “ซะ...ซาสึเกะ...”

     

                ซากุระพยายามบังคับตัวเองไม่ให้สั่น ความโหดร้ายของซาสึเกะเธอนั้นประจักษ์แล้วเป็นอย่างดี และตอนนี้เธอก็สัมผัสได้ว่า... เขากำลังโกรธ...

     

     “นิสัยไม่ดีเลยน้า~ ซาสึเกะ~ ถ้านายให้ของใครแล้วก็อย่ามาทวงคืนสิ” ซุยเงสึพูดลอยๆ ก่อนจะฝังจมูกไปที่แก้มนวลราวกับจงใจยั่วให้คนที่ยืนมองดูโกรธ และผลตอบรับก็ดีเกินคาดเมื่อร่างของเขาถูกซัดปลิวไปกองอยู่ริมหน้าผา ซุยเงสึค่อยๆยันตัวลุกขึ้นปาดของเหลวรสเค็มที่ปากออกลวกๆ

     

    ร่างกายที่เป็นน้ำของเขาเมื่อตกอยู่ภายใต้อำนาจลวงตาของเนตรวงแหวน มันก็ไร้ซึ่งประโยชน์...

     

    “แล้วจะ ฆ่าฉันมั้ยล่ะ?” เจ้าของดวงตาสีรัตติกาลถาม มือแกร่งคว้าข้อมืออีกคนที่กำลังตกใจ

     

    “ฮะๆ~”

     

    ซุยเงสึแค่นหัวเราะออกมาเฝื่อนๆ ตอนนี้ถึงอยากจะหัวเราะแต่คนกวนประสาทอย่างเขาก็หัวเราะไม่ออก ได้แต่หวั่นๆว่าชะตาของตัวเองจะขาดรึเปล่า ก็เล่นลักพาตัวของรักของหวงของซาตานออกมานี่นา~

     

    “ไปซะ! ก่อนที่ฉันจะฆ่านาย” ร่างสูงเอ่ย แววตาที่เต็มไปด้วยความโกรธจ้องมองเขาราวกับสายตาของปีศาจ

     

    “งั้นก็คืนสาวน้อยมาให้ฉันก่อนซี่~” ซุยเงสึทวง ก่อนจะระบายยิ้มเจ้าเล่ห์

     

    “ไม่...” ซาสึเกะตอบ มือหนาบีบข้อมือเล็กแรงขึ้นเรื่อยๆจนคนถูกบีบข้อมือร้อง พยายามสะบัดมือออกแต่การกระทำเหล่านั้นก็ไร้ค่าเมื่ออยู่ต่อหน้าคนที่กำลังโกรธจัด

     

    “นายยกซากุระให้ฉันแล้วนะ จำไม่ได้รึไง~”

     

    “...”

     

    “ตอนนี้เธอเป็นของฉันแล้ว...”

     

    “ไม่ใช่!...ซากุระไม่ใช่ของนาย...” ร่างสูงโพล่งขึ้น น้ำเสียงสั่นเครือราวกับกำลังระงับอารมณ์โกรธ

     

    เธอเป็นของฉัน! ฉันมาทวงคืน!!!

    .

    .

    .

                “เฮ้อ~” เสียงถอนหายใจอย่างแรงดังมาจากร่างหนึ่งที่กำลังนอนแผ่หลาอยู่บนหน้าผาสูงชัน ดวงตาสีอะเมทิสต์กำลังมองดูฝูงนกที่บินผ่านไปบนท้องฟ้า แสงตะวันในช่วงสายเริ่มทำให้อุณหภูมิโดยรอบสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว แต่ถึงกระนั้นร่างสูงก็เซ็งเกินกว่าจะย้ายตัวเองไปอยู่ในที่ร่มๆ

     

                “เอากลับคืนไปแล้วสินะ...” ซุยเงสึพึมพำกับตัวเองเบาๆ

     

                ผ่านไปนานเท่าไหร่แล้วก็ไม่รู้ที่เขายอมปล่อยมือจากร่างบางที่กำลังกลัวจนตัวสั่น แล้วปล่อยให้คนที่ได้รับสมญานามว่าปีศาจแห่งความแค้นอย่างซาสึเกะพาตัวเธอไป

     

    ทั้งๆที่ก็อยากรั้งไว้...

    อยากเก็บไว้กับตัว...

    แต่หัวใจของเธอไม่ได้อยู่ที่เขา...เขาก็ต้องปล่อยเธอไป...

     

                “เฮ้อ~” เขาถอนหายใจอีกครั้ง หัวใจที่ประกอบไปด้วยน้ำปวดระบมอย่างบอกไม่ถูก ทั้งๆที่ก็คิดว่าตัวเองไม่รู้สึกอะไรแล้วแท้ๆ เป็นแค่คนรับฝากก่อนที่เจ้าของตัวจริงจะมาทวงคืน แต่พอถึงเวลานั้นจริงๆกลับทำใจยอมรับไม่ได้

     

    สงสัยจะ รักเข้าจริงๆซะแล้วล่ะมั้ง~

     

                “ถ้านายปล่อยเค้ามาให้ฉันอีกครั้ง... คราวนี้ฉันจะไม่ยอมคืนเค้าให้นาย ฉันจะเก็บเค้าไว้... ต่อให้ต้องฆ่านายจริงๆฉันก็จะทำ” ซุยเงสึพึมพำ ฝากสายลมไปกระซิบคำเตือนของเขาให้ปีศาจตนนั้นรับรู้ ร่างสูงหลับตาลง ปล่อยให้ความร้อนของดวงตะวันช่วยชะล้างความเจ็บปวดที่ไม่คิดว่าตัวเองจะได้รับ...

    .

    .

    .

                “ซาสึเกะ! ปล่อยฉันซักทีสิ ฉันเจ็บนะ!” ซากุระโวยวาย พยายามสะบัดมือออกจากร่างสูงที่ฉุดลากเธอเดินมาเกือบชั่วโมง

     

                “เงียบ!” และก็เป็นอีกครั้งที่เขาตะคอกใส่เธอ ซาสึเกะในตอนนี้ถูกอารมณ์โกรธครอบงำจนไม่เหลือความสุขุมใดๆไว้แล้ว เขารีบจ้ำเดินอย่างรวดเร็วเพื่อกลับไปยังฐานทัพ มีคดีอีกมากที่ต้องการจะสะสางกับคนที่ร้องโวยวายอยู่ข้างหลัง

     

    เขากำลังโกรธ... โกรธทั้งๆที่ไม่รู้สาเหตุ...

     

                ซาสึเกะคิดเอาเองว่าที่เขาเป็นแบบนี้เพราะร่างบางที่เขากำลังฉุดลากมานั้นไม่ได้รับความทรมานอย่างที่เขาจินตนาการไว้ แทนที่เมื่อถูกกักขังเธอจะทำท่าทางทรมานจะเป็นจะตายเหมือนกับตอนที่เจอเขาครั้งแรก แต่ผลที่ได้กลับตรงกันข้ามเมื่อเธอดูมีความสุขเหลือเกิน...โดยเฉพาะเวลาที่อยู่กับผู้ชายคนอื่น!

     

                ภาพเหตุการณ์เมื่อตอนรุ่งเช้าที่เขาเห็นย้อนกลับเข้ามาในหัวอีกครั้ง และมันก็ยิ่งทำให้ร่างสูงโกรธมากขึ้นไปอีก

     

                แค่เห็นว่าเธอถูกคนอื่นพาตัวไป ขาทั้งสองข้างก็ก้าวตามไปโดยไม่รู้ตัว พอรู้ตัวอีกทีเขาก็มายืนมองเธอกำลังกอดก่ายอยู่กับคนอื่น... หัวใจที่เย็นชาตายด้านกลับเจ็บแปลบอย่างแปลกๆ ยิ่งเห็นว่าเธอกำลังจูบกับใครที่ไม่ใช่เขา... ความโกรธก็ปะทุขึ้นอย่างไร้เหตุผล...

     

    ราวกับมีมีดนับพันเล่มแทงเข้ามาที่หัวใจ...

    เจ็บปวดจนอยากจะฉีกกระชากทำลายคนที่มายุ่งกับของๆเขาให้ดับดิ้น...

     

    ของๆฉัน?

     

                เสียงหนึ่งในใจร้องประท้วงกับความคิดที่แปลกประหลาดของตัวเอง ความคิดบางอย่างแล่นผ่านเข้ามาในหัว ที่เขาเป็นแบบนี้มันเป็นเพราะอะไร? เป็นเพราะความแค้นเหรอ? ไม่... ไม่ใช่! มันคงเป็นความรู้สึกที่ลึกซึ้งยิ่งกว่านั้น

     

    ความรู้สึก...ที่ทำให้คนที่เยือกเย็นและน่ากลัวอย่างเขาสติแตก

    ความรู้สึก...ที่ทำให้เจ็บปวดพอๆกับความแค้น

     

    ความรัก...

     

                ซาสึเกะไล่ความคิดไร้สาระออกไปจากหัว ไม่มีประโยชน์ที่เขาจะคิดถึงเรื่องที่มันเป็นไปไม่ได้ เขาไม่เหลือหัวใจไว้สำหรับรักใครอีกแล้ว มันถูกทำลายไปพร้อมๆกับความเชื่อใจที่มีต่อหมู่บ้าน ถูกฉีกกระชากไปพร้อมๆกับชีวิตของคนๆหนึ่งที่เขาตามล้างแค้นมาตลอด

     

    หัวใจ...เจ็บช้ำมากเกินไป... ไร้ทางรักษา...

     

                เมื่อกลับมาถึงฐานทัพ ซาสึเกะก็ยังไม่ยอมปล่อยมือจากร่างบาง เขายังคงฉุดลากเธอเดินต่อไปตามทางเดินที่มืดสลัวผ่านห้องหับมากมายที่เรียงรายนับไม่ถ้วน มีทางเดินแยกไปอีกหลายสิบเส้นทางแลดูคล้ายกับเขาวงกต หากแต่ซากุระกลับจดจำเส้นทางที่กำลังมุ่งหน้าไปได้เป็นอย่างดี มันเหมือนกับวันนั้น... วันที่เขาทำลายเธอ...

     

    ทางไปห้องของซาสึเกะ...

     

                “ซาสึเกะ... ขอร้อง ปล่อยฉันไปเถอะ ฉันผิดไปแล้ว...” ซากุระพร่ำขอไปตลอดทาง น้ำตาไหลอาบแก้มเมื่อรู้ว่าเขากำลังจะพาเธอไปที่ไหน แต่ก็ไม่มีคำพูดใดๆหลุดออกมาจากเรียวปากได้รูปนั่น เขาไม่สนใจจะฟัง ไม่สนใจจะหันมามองเธอเลยสักนิด!

     

                ซาสึเกะลากคนที่พร่ำอ้อนวอนเขามายังห้องของตัวเอง ประตูที่เพิ่งซ่อมเสร็จเกือบจะต้องปลิวหายไปอีกครั้งเมื่อเขาใช้เท้าเปิดมันออกอย่างแรงก่อนจะลากเธอเข้าไปในห้อง มือหนาเหวี่ยงร่างบางไปบนเตียงอย่างแรงจนซากุระถึงกับร้องออกมาด้วยความเจ็บปวด

     

                “ซาสึเกะ...ได้โปรด” เธออ้อนวอนเขาอีกครั้งทั้งน้ำตา แต่ไม่มีความเห็นใจใดๆจากเจ้าของดวงตาสีรัตติกาล ร่างสูงสืบเท้าเข้ามาหาเธออย่างช้าๆมองเธอด้วยแววตาที่เรียบเฉย

     

                “ฉัน...ฉันผิดไปแล้ว...” เสียงหวานเอ่ยอย่างสั่นเครือ เธอพูดออกไปทั้งๆที่ไม่รู้ว่าตัวเองทำผิดอะไร ไม่รู้ว่าทำไมเขาถึงโกรธได้ถึงเพียงนี้ แต่ความน่ากลัวของเขาทำให้เธอต้องพูดอะไรซักอย่างออกไปเพื่อร้องขอไม่ให้เขาทำร้ายเธออีก แต่ซากุระคิดผิดถนัด ยิ่งเธอทำเหมือนว่าตัวเองมีความผิด เขาก็ยิ่งโกรธ...

     

                “รู้ตัวใช่มั้ยว่าทำอะไรผิด...” เขาถามเสียงเย็น จ้องมองใบหน้าหวานนิ่ง

     

                “ฉะ...ฉัน...” เธอตอบเสียงสั่น ความหวาดหวั่นฉายชัดบนนัยน์ตาคู่สวย ซากุระพยายามขยับตัวถอยห่างหากแต่ร่างกายของเธอไม่ยอมขยับหนีตามที่สมองสั่ง

     

                “ฉันถามว่าเธอรู้ตัวใช่มั้ยว่าตัวเองทำอะไรผิด!!!” ร่างสูงตะคอก มือทั้งสองข้างบีบต้นแขนเล็กจนปวดระบมไปหมด ซากุระได้แต่สั่นหน้าปฏิเสธอย่างสิ้นหวัง น้ำตาไหลอาบแก้มนวลจนเปรอะเปื้อนไปหมด แต่ถึงกระนั้นเขาก็ไม่สนใจ ยังคงใช้เรี่ยวแรงอันมหาศาลของตัวเองผลักเธอให้นอนราบลงบนเตียงก่อนจะทิ้งตัวเองตามลงมา

     

                “ตรงนี้ใช่มั้ยที่มันจูบเธอ!” พูดจบร่างสูงก็ประกบริมฝีปากไปที่ริมฝีปากบางที่ไม่มีโอกาสแม้จะเอ่ยคำแก้ตัวใดๆ

     

    “อื๊อ...”เรียวปากหนาบดขยี้รุนแรงราวกับต้องการจะระบายอารมณ์โกรธจนเรียวปากเล็กมีเลือดไหลซิบ รสจูบของเขาร้อนแรงหากแต่ไม่เหลือไว้ซึ่งความหอมหวานใดๆ มันเหมือนเป็นการจูบที่ทำไปส่งๆเพียงเพราะอยากระบายอารมณ์เท่านั้น เมื่อเห็นว่าร่างบางแทบจะขาดอากาศหายใจเขาก็ผละริมฝีปากออก แต่ดวงตาที่แข็งกร้าวนั้นยังคงไม่เปลี่ยนแปลง ยังคงเต็มไปด้วยความโกรธ...

     

                “ตรงนี้ใช่มั้ยที่มันสัมผัสเธอ!” เขาถามเสียงเข้ม และก็ไม่จำเป็นต้องรอเอาคำตอบ ร่างสูงซุกไซ้ใบหน้าเรียวได้รูปไปที่ซอกคอขาวในขณะที่มือทั้งสองข้างก็โอบกอดเอวบางไว้เหมือนกับที่ซุยเงสึทำไม่มีผิด หากแต่ความอ่อนโยนนั้นต่างกันราวฟ้ากับเหว ซากุระพยายามดิ้นหลีกหนีจากสัมผัสของเขาอย่างนึกรังเกียจ แต่ที่เธอทำได้ทั้งหมดคือเพิ่มความโกรธให้ร่างสูง

     

                “ทำไม! กับฉันน่ะรังเกียจนักเหรอ? ทีกับมันเธอคงสมยอมสินะ!

     

                “...”

     

                “ยังจะมีตรงไหนอีกมั้ยที่เธอยอมให้เจ้านั่นมันแตะต้อง!” เขาตะคอกใส่เธอราวกับคนสติแตก ยิ่งเห็นท่าทางที่แสดงออกอย่างชัดเจนว่ารังเกียจเขา มันก็ทำให้เขาแทบบ้า ร่างกายนี้ที่ควรจะเป็นของเขาแต่เพียงผู้เดียว... เธอกลับยอมให้คนอื่นมาสัมผัสแตะต้องราวกับต้องการจะลบสัมผัสของเขาให้หายไป เขายอมไม่ได้...

     

    เธอทำผิด...

     

    “เธอทิ้งฉันไปแล้วนะซาสึเกะ...” เสียงพึมพำจากคนที่อยู่ใต้อ้อมแขนทำให้ร่างสูงชะงักราวกับมีน้ำเย็นๆสาดเข้าที่หน้า

     

    “...”

     

    “เธอจะกลับมาสนใจขยะอย่างฉันทำไม...” ซากุระพูดอย่างนึกน้อยใจ ใบหน้าหวานหันไปทางอื่นราวกับไม่ต้องการจะเห็นหน้าคนที่ทำร้ายเธอครั้งแล้วครั้งเล่า

     

    “อย่าทำเหมือนว่าเธอหวงฉัน...ทั้งๆที่จริงแล้วเธอก็แค่อยากเห็นฉันเจ็บปวด”

     

    “...”

     

    “อยากให้ฉันทรมานเหรอ? เธอไม่ต้องทำอะไรหรอก...”

     

    “...”

     

    “แค่อยู่เฉยๆ...”

     

    “...”

     

    “...แค่นี้ฉันก็ทรมานแล้ว...”

     

    ซากุระปล่อยให้น้ำตาไหลอาบแก้มอีกครั้งอย่างเจ็บปวด เขาไม่รู้หรือไงว่าภายในใจของเธอมันกำลังเจ็บเจียนตาย เธอสูญเสียสิ่งมีค่าให้เขาแต่แล้วเขากลับโยนมันทิ้งไปอย่างไม่ไยดี เขี่ยหัวใจดวงน้อยๆของเธอทิ้งยังไม่พอ เขายังขยี้ทำลายมันให้แหลกเหลวเหมือนมันเป็นของไร้ค่า

     

    ฉันอยากจะเกลียดเธอ...ซาสึเกะ...

    ฉันอยากจะให้เธอรู้สึกเจ็บเหมือนฉันบ้าง...

    แต่เพราะฉันรักเธอมากเกินไป... จนถึงตอนนี้ฉันก็ยัง... ไม่อยากเห็นเธอเจ็บปวด...

     

     

                ในขณะที่ปล่อยให้น้ำตาไหลย้อมหัวใจที่แสนเจ็บปวด จู่ๆร่างบางก็รู้สึกถึงมือเย็นๆที่สัมผัสอยู่ที่บริเวณใบหน้าของเธอ นิ้วเรียวของซาสึเกะค่อยๆเกลี่ยหยดน้ำตาออกจากใบหน้าหวานเบาๆ ในขณะที่มืออีกข้างกระชับกอดเธอแน่นขึ้น แต่มันกลับไม่เหลือไว้แล้วซึ่งความหยาบกระด้างรุนแรง

     

    “ใช่... ฉันต้องการให้เธอทรมาน ซากุระ...” ร่างสูงกระซิบเสียงแผ่วเบา น้ำเสียงนั้นดูอ่อนโยนอย่างที่เธอไม่เคยได้ยินมาก่อน

     

    “...แต่ไม่ใช่ให้เธอมาทรมานฉันแบบนี้...”

                 

     

     

     

               

                ฉากนี้มันน่าลุ้นNC จริงๆ แต่ไม่มีนะจ๊ะเสียใจด้วยยย>.< เกะหึงแรงมากถึงกับไปต่อยหนูซุยของเจ้ซะเลือดกลบ ฮ่ะๆๆ ส่วนหนูซุยก็ทำเพื่อสาวน้อยจีจี หอบภรรยาเขาหนีเพื่อให้สามีเขามาทวงคืน ฮรือออT.T  หนูกุเริ่มอ่อนแรง อิเกะเริ่มอ่อนใจใจอ่อน อิๆ~ ตอนต่อไปเกะน่าจะอ่อนลงเยอะเลยล่ะ กรี๊ดดด จะได้เห็นฉากสวีทแล้วเฟ่ย กัดหมอน>.< (แต่งเองเพ้อเอง 555)

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×