คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #12 : Chapter 9 : ทวงคืน
บทที่ 9 ทวงคืน
“ยังไม่ถึงอีกเหรอ” เสียงหวานถามปนหอบเล็กน้อย
“ใกล้ถึงแล้วล่ะ~ ว่าแต่เธอเป็นคนแก่เหรอ เดินซะอืดเป็นเต่าเชียว~” ซุยเงสึพูดพร้อมกับหัวเราะ
“นายนั่นแหละ! ทำไมวันนี้ถึงได้คึกคักผิดปกติล่ะยะ ปกติก็เห็นอืดอาดยืดยาดเป็นหอยทากถูกเหยียบ -_-”
“ก็มันน่าตื่นเต้นนี่นา~”
“ตื่นเต้นอะไร?” ร่างบางถาม น้ำเสียงดูไม่ไว้ใจคนเดินนำหน้าที่แกล้งฮัมเพลงทำเป็นไม่ได้ยินเธอ
“คิๆ~” คนตัวสูงกว่าไม่ตอบได้แต่หัวเราะอย่างเจ้าเล่ห์ก่อนจะจูงมือเธอไปเพื่อเร่งให้เธอเดินเร็วขึ้น
ใช้เวลาเพียงไม่นานสุดท้ายทั้งสองคนก็มายืนอยู่ริมหน้าผาสูงชันที่เบื้องล่างถูกปกคลุมด้วยหมอกหนาทึบจนมองรายละเอียดไม่เห็น
“เนี่ยนะสถานที่เจ๋งๆของนาย” ซากุระถามพร้อมกับส่งสายตาอาฆาตไปยังร่างสูงที่ยืนเหลียวหน้าเหลียวหลังอยู่หลายครั้ง ใบหน้าหวานเต็มไปด้วยเม็ดเหงื่อที่เกิดจากการวิ่งขึ้นเขาด้วยความเร็วสูง “ลากฉันเดินขึ้นเขามาเกือบครึ่งชั่วโมงเพื่อให้ฉันมายืนตากยุงบนหน้าผาเหรอยะ-_-”
“รอก่อนซี่~ เธอไม่เห็นนั่นรึไง” เขาพูดพร้อมกับชี้ไปยังขอบเมฆที่เริ่มถูกย้อมเป็นสีส้ม “ตรงนี้น่ะเป็นที่ดูพระอาทิตย์ขึ้นที่ดีที่สุดในฮิโนะคุนิ”
“จริงเหรอ!?!” ร่างบางถามด้วยน้ำเสียงตื่นเต้น ลืมความเหนื่อยและความโกรธทั้งหมด ดวงตาสีมรกตจดจ้องไปยังจุดที่พระอาทิตย์ดวงกลมโตเริ่มปรากฏ เพียงไม่นานทั่วทั้งบริเวณก็ถูกอาบย้อมด้วยแสงแห่งรุ่งอรุณ หมอกยามเช้าเริ่มจากลงเผยให้เห็นลำธารสายใหญ่ที่ไหลผ่านใต้หน้าผา รวมถึงผืนป่าเบื้องล่างที่ดูไร้ชีวิตชีวาเพราะต้นไม้พากันผลัดใบเหลือเพียงกิ่งก้านสาขาดูแห้งแล้ง แต่กลับดูงดงามอย่างน่าอัศจรรย์เมื่อมองดูจากที่สูง
“สวยจริงๆด้วย!”
“ใช่ม้า~”เขาพูดก่อนจะสืบเท้าเข้ามาใกล้คนที่มัวแต่ชมวิวไม่ทันระวัง “นี่ สาวน้อย~ ฉันขออะไรเธอหน่อยได้มั้ย...”
ซากุระที่ไม่ได้สนใจสิ่งรอบตัวถึงกับสะดุ้งเมื่อได้ยินเสียงคนถามถามอยู่ข้างๆหู ใบหน้าหวานหันขวับไปเตรียมจะต่อว่า แต่แล้วก็ต้องผงะอีกครั้งเมื่อมือผอมๆกอดหมับเข้าที่เอว
“ขอกอดหน่อย~!”
“นี่นาย...”
“ขอจูบด้วย~” สิ้นเสียงซุยเงสึก็ไม่รอให้อีกฝ่ายปฏิเสธ เรียวปากหนาประกบริมฝีปากบางอย่างรวดเร็วพอๆกับมือข้างหนึ่งที่รวบมือร่างบางไว้ไม่ให้ขัดขืน
“อื๊อ...” ซากุระบ่ายเบี่ยงพยายามหันหน้าหนีด้วยความตกใจ และเพียงไม่นานคนตัวสูงก็ปล่อยริมฝีปากบางให้เป็นอิสระ แต่มือทั้งสองข้างก็ยังคงโอบกอดเธอไว้ไม่มีท่าทีว่าจะปล่อยง่ายๆ
“ทำบ้าอะไร! ปล่อยฉันนะ!!!” เธอตะคอกแต่แล้วก็ต้องงงค้างเมื่อคนที่กอดเธออยู่กำลังหัวเราะคิกคัก
“อย่าโวยวายไปซี่~ ฉันกำลังทำเพื่อเธออยู่นะ” ซุยเงสึกระซิบเบาๆและนั่นก็ยิ่งสร้างความประหลาดใจให้คนตัวเล็กยิ่งนัก
“ทำอะไรเพื่อฉันยะ! ปล่อยฉันได้แล้ว” เธอว่าพยายามดิ้นเพื่อให้หลุดจากการเกาะกุมของเขา แต่คราวนี้เจ้าของเรือนผมสีเงินไม่ยอมอ่อนข้อให้เหมือนครั้งก่อนๆ เรี่ยวแรงอันมหาศาลของเขามีมากพอจะกวัดแกว่งดาบที่หนักถึงหนึ่งตันได้ กับแค่แรงประท้วงจากหญิงสาวที่บอบบางคนหนึ่งทำอะไรเขาไม่ได้หรอก
นานเกือบนาทีที่เธอตกอยู่ในสภาพถูกโอบกอดจากด้านหลัง ตอนนี้ซากุระได้แต่ยืนนิ่งพร้อมร่ายคำสาปเตรียมขึ้นบัญชีดำเจ้าของดวงตาสีอะเมทิสต์ที่ยังคงกลั่นแกล้งเธอต่อไป แต่คนถูกแค้นได้แต่เอาหน้าเกยไว้ที่ไหล่ของอีกฝ่ายพร้อมกับกระซิบเบาๆ
“อยู่แบบนี้ซักพักนะ ฉันอยากจะได้คำตอบว่าฉันควรจะรับฝากเธอต่อไป...หรือยึดเธอมาเป็นของฉันดี”
“!!!” ซากุระนิ่งค้างกับคำพูดของคนที่ชอบเล่นชอบแหย่เธอเป็นประจำ เธอไม่รู้ว่าตอนนี้เขาทำหน้ายังไง กำลังยิ้มหัวเราะที่ได้แกล้งเธอหรือกำลังจริงจังอยู่กันแน่ แต่เธอสัมผัสได้ถึงหัวใจของอีกฝ่ายที่กำลังเต้นรัวอย่างบ้าคลั่ง
หัวใจไม่เคยโกหก...
.
.
.
ถ้ารู้ว่าขยะซักชิ้นหายไป หมอนั่นจะทำยังไง...
ไอ้ที่ว่าไม่รักไม่แคร์นั่นน่ะจะจริงซักแค่ไหนกัน...
อยากรู้จัง~
เจ้าของเรือนผมสีเงินคิดกับตัวเอง
ถ้านายยังไม่มาทวงคืน ฉันจะยึดแล้วนะ...ซาสึเกะ!
.
.
.
“มีความสุขกันมากสินะ” น้ำเสียงเย็นเยียบดุจน้ำแข็งที่แม้ใครได้ฟังก็เป็นอันต้องผวา ทำให้คนสองคนที่กำลังโอบกอดกันท่ามกลางแสงตะวันอ่อนๆต่างยืนนิ่งราวกับกำลังรอฟังคำสั่งประหาร
“ซะ...ซาสึเกะ...”
ซากุระพยายามบังคับตัวเองไม่ให้สั่น ความโหดร้ายของซาสึเกะเธอนั้นประจักษ์แล้วเป็นอย่างดี และตอนนี้เธอก็สัมผัสได้ว่า... เขากำลังโกรธ...
“นิสัยไม่ดีเลยน้า~ ซาสึเกะ~ ถ้านายให้ของใครแล้วก็อย่ามาทวงคืนสิ” ซุยเงสึพูดลอยๆ ก่อนจะฝังจมูกไปที่แก้มนวลราวกับจงใจยั่วให้คนที่ยืนมองดูโกรธ และผลตอบรับก็ดีเกินคาดเมื่อร่างของเขาถูกซัดปลิวไปกองอยู่ริมหน้าผา ซุยเงสึค่อยๆยันตัวลุกขึ้นปาดของเหลวรสเค็มที่ปากออกลวกๆ
ร่างกายที่เป็นน้ำของเขาเมื่อตกอยู่ภายใต้อำนาจลวงตาของเนตรวงแหวน มันก็ไร้ซึ่งประโยชน์...
“แล้วจะ ‘ฆ่า’ ฉันมั้ยล่ะ?” เจ้าของดวงตาสีรัตติกาลถาม มือแกร่งคว้าข้อมืออีกคนที่กำลังตกใจ
“ฮะๆ~”
ซุยเงสึแค่นหัวเราะออกมาเฝื่อนๆ ตอนนี้ถึงอยากจะหัวเราะแต่คนกวนประสาทอย่างเขาก็หัวเราะไม่ออก ได้แต่หวั่นๆว่าชะตาของตัวเองจะขาดรึเปล่า ก็เล่นลักพาตัวของรักของหวงของซาตานออกมานี่นา~
“ไปซะ! ก่อนที่ฉันจะฆ่านาย” ร่างสูงเอ่ย แววตาที่เต็มไปด้วยความโกรธจ้องมองเขาราวกับสายตาของปีศาจ
“งั้นก็คืนสาวน้อยมาให้ฉันก่อนซี่~” ซุยเงสึทวง ก่อนจะระบายยิ้มเจ้าเล่ห์
“ไม่...” ซาสึเกะตอบ มือหนาบีบข้อมือเล็กแรงขึ้นเรื่อยๆจนคนถูกบีบข้อมือร้อง พยายามสะบัดมือออกแต่การกระทำเหล่านั้นก็ไร้ค่าเมื่ออยู่ต่อหน้าคนที่กำลังโกรธจัด
“นายยกซากุระให้ฉันแล้วนะ จำไม่ได้รึไง~”
“...”
“ตอนนี้เธอเป็นของฉันแล้ว...”
“ไม่ใช่!...ซากุระไม่ใช่ของนาย...” ร่างสูงโพล่งขึ้น น้ำเสียงสั่นเครือราวกับกำลังระงับอารมณ์โกรธ
“เธอเป็นของฉัน! ฉันมาทวงคืน!!!”
.
.
.
“เฮ้อ~” เสียงถอนหายใจอย่างแรงดังมาจากร่างหนึ่งที่กำลังนอนแผ่หลาอยู่บนหน้าผาสูงชัน ดวงตาสีอะเมทิสต์กำลังมองดูฝูงนกที่บินผ่านไปบนท้องฟ้า แสงตะวันในช่วงสายเริ่มทำให้อุณหภูมิโดยรอบสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว แต่ถึงกระนั้นร่างสูงก็เซ็งเกินกว่าจะย้ายตัวเองไปอยู่ในที่ร่มๆ
“เอากลับคืนไปแล้วสินะ...” ซุยเงสึพึมพำกับตัวเองเบาๆ
ผ่านไปนานเท่าไหร่แล้วก็ไม่รู้ที่เขายอมปล่อยมือจากร่างบางที่กำลังกลัวจนตัวสั่น แล้วปล่อยให้คนที่ได้รับสมญานามว่าปีศาจแห่งความแค้นอย่างซาสึเกะพาตัวเธอไป
ทั้งๆที่ก็อยากรั้งไว้...
อยากเก็บไว้กับตัว...
แต่หัวใจของเธอไม่ได้อยู่ที่เขา...เขาก็ต้องปล่อยเธอไป...
“เฮ้อ~” เขาถอนหายใจอีกครั้ง หัวใจที่ประกอบไปด้วยน้ำปวดระบมอย่างบอกไม่ถูก ทั้งๆที่ก็คิดว่าตัวเองไม่รู้สึกอะไรแล้วแท้ๆ เป็นแค่คนรับฝากก่อนที่เจ้าของตัวจริงจะมาทวงคืน แต่พอถึงเวลานั้นจริงๆกลับทำใจยอมรับไม่ได้
สงสัยจะ ‘รัก’ เข้าจริงๆซะแล้วล่ะมั้ง~
“ถ้านายปล่อยเค้ามาให้ฉันอีกครั้ง... คราวนี้ฉันจะไม่ยอมคืนเค้าให้นาย ฉันจะเก็บเค้าไว้... ต่อให้ต้องฆ่านายจริงๆฉันก็จะทำ” ซุยเงสึพึมพำ ฝากสายลมไปกระซิบคำเตือนของเขาให้ปีศาจตนนั้นรับรู้ ร่างสูงหลับตาลง ปล่อยให้ความร้อนของดวงตะวันช่วยชะล้างความเจ็บปวดที่ไม่คิดว่าตัวเองจะได้รับ...
.
.
.
“ซาสึเกะ! ปล่อยฉันซักทีสิ ฉันเจ็บนะ!” ซากุระโวยวาย พยายามสะบัดมือออกจากร่างสูงที่ฉุดลากเธอเดินมาเกือบชั่วโมง
“เงียบ!” และก็เป็นอีกครั้งที่เขาตะคอกใส่เธอ ซาสึเกะในตอนนี้ถูกอารมณ์โกรธครอบงำจนไม่เหลือความสุขุมใดๆไว้แล้ว เขารีบจ้ำเดินอย่างรวดเร็วเพื่อกลับไปยังฐานทัพ มีคดีอีกมากที่ต้องการจะสะสางกับคนที่ร้องโวยวายอยู่ข้างหลัง
เขากำลังโกรธ... โกรธทั้งๆที่ไม่รู้สาเหตุ...
ซาสึเกะคิดเอาเองว่าที่เขาเป็นแบบนี้เพราะร่างบางที่เขากำลังฉุดลากมานั้นไม่ได้รับความทรมานอย่างที่เขาจินตนาการไว้ แทนที่เมื่อถูกกักขังเธอจะทำท่าทางทรมานจะเป็นจะตายเหมือนกับตอนที่เจอเขาครั้งแรก แต่ผลที่ได้กลับตรงกันข้ามเมื่อเธอดูมีความสุขเหลือเกิน...โดยเฉพาะเวลาที่อยู่กับผู้ชายคนอื่น!
ภาพเหตุการณ์เมื่อตอนรุ่งเช้าที่เขาเห็นย้อนกลับเข้ามาในหัวอีกครั้ง และมันก็ยิ่งทำให้ร่างสูงโกรธมากขึ้นไปอีก
แค่เห็นว่าเธอถูกคนอื่นพาตัวไป ขาทั้งสองข้างก็ก้าวตามไปโดยไม่รู้ตัว พอรู้ตัวอีกทีเขาก็มายืนมองเธอกำลังกอดก่ายอยู่กับคนอื่น... หัวใจที่เย็นชาตายด้านกลับเจ็บแปลบอย่างแปลกๆ ยิ่งเห็นว่าเธอกำลังจูบกับใครที่ไม่ใช่เขา... ความโกรธก็ปะทุขึ้นอย่างไร้เหตุผล...
ราวกับมีมีดนับพันเล่มแทงเข้ามาที่หัวใจ...
เจ็บปวดจนอยากจะฉีกกระชากทำลายคนที่มายุ่งกับของๆเขาให้ดับดิ้น...
ของๆฉัน?
เสียงหนึ่งในใจร้องประท้วงกับความคิดที่แปลกประหลาดของตัวเอง ความคิดบางอย่างแล่นผ่านเข้ามาในหัว ที่เขาเป็นแบบนี้มันเป็นเพราะอะไร? เป็นเพราะความแค้นเหรอ? ไม่... ไม่ใช่! มันคงเป็นความรู้สึกที่ลึกซึ้งยิ่งกว่านั้น
ความรู้สึก...ที่ทำให้คนที่เยือกเย็นและน่ากลัวอย่างเขาสติแตก
ความรู้สึก...ที่ทำให้เจ็บปวดพอๆกับความแค้น
ความรัก...
ซาสึเกะไล่ความคิดไร้สาระออกไปจากหัว ไม่มีประโยชน์ที่เขาจะคิดถึงเรื่องที่มันเป็นไปไม่ได้ เขาไม่เหลือหัวใจไว้สำหรับรักใครอีกแล้ว มันถูกทำลายไปพร้อมๆกับความเชื่อใจที่มีต่อหมู่บ้าน ถูกฉีกกระชากไปพร้อมๆกับชีวิตของคนๆหนึ่งที่เขาตามล้างแค้นมาตลอด
หัวใจ...เจ็บช้ำมากเกินไป... ไร้ทางรักษา...
เมื่อกลับมาถึงฐานทัพ ซาสึเกะก็ยังไม่ยอมปล่อยมือจากร่างบาง เขายังคงฉุดลากเธอเดินต่อไปตามทางเดินที่มืดสลัวผ่านห้องหับมากมายที่เรียงรายนับไม่ถ้วน มีทางเดินแยกไปอีกหลายสิบเส้นทางแลดูคล้ายกับเขาวงกต หากแต่ซากุระกลับจดจำเส้นทางที่กำลังมุ่งหน้าไปได้เป็นอย่างดี มันเหมือนกับวันนั้น... วันที่เขาทำลายเธอ...
ทางไปห้องของซาสึเกะ...
“ซาสึเกะ... ขอร้อง ปล่อยฉันไปเถอะ ฉันผิดไปแล้ว...” ซากุระพร่ำขอไปตลอดทาง น้ำตาไหลอาบแก้มเมื่อรู้ว่าเขากำลังจะพาเธอไปที่ไหน แต่ก็ไม่มีคำพูดใดๆหลุดออกมาจากเรียวปากได้รูปนั่น เขาไม่สนใจจะฟัง ไม่สนใจจะหันมามองเธอเลยสักนิด!
ซาสึเกะลากคนที่พร่ำอ้อนวอนเขามายังห้องของตัวเอง ประตูที่เพิ่งซ่อมเสร็จเกือบจะต้องปลิวหายไปอีกครั้งเมื่อเขาใช้เท้าเปิดมันออกอย่างแรงก่อนจะลากเธอเข้าไปในห้อง มือหนาเหวี่ยงร่างบางไปบนเตียงอย่างแรงจนซากุระถึงกับร้องออกมาด้วยความเจ็บปวด
“ซาสึเกะ...ได้โปรด” เธออ้อนวอนเขาอีกครั้งทั้งน้ำตา แต่ไม่มีความเห็นใจใดๆจากเจ้าของดวงตาสีรัตติกาล ร่างสูงสืบเท้าเข้ามาหาเธออย่างช้าๆมองเธอด้วยแววตาที่เรียบเฉย
“ฉัน...ฉันผิดไปแล้ว...” เสียงหวานเอ่ยอย่างสั่นเครือ เธอพูดออกไปทั้งๆที่ไม่รู้ว่าตัวเองทำผิดอะไร ไม่รู้ว่าทำไมเขาถึงโกรธได้ถึงเพียงนี้ แต่ความน่ากลัวของเขาทำให้เธอต้องพูดอะไรซักอย่างออกไปเพื่อร้องขอไม่ให้เขาทำร้ายเธออีก แต่ซากุระคิดผิดถนัด ยิ่งเธอทำเหมือนว่าตัวเองมีความผิด เขาก็ยิ่งโกรธ...
“รู้ตัวใช่มั้ยว่าทำอะไรผิด...” เขาถามเสียงเย็น จ้องมองใบหน้าหวานนิ่ง
“ฉะ...ฉัน...” เธอตอบเสียงสั่น ความหวาดหวั่นฉายชัดบนนัยน์ตาคู่สวย ซากุระพยายามขยับตัวถอยห่างหากแต่ร่างกายของเธอไม่ยอมขยับหนีตามที่สมองสั่ง
“ฉันถามว่าเธอรู้ตัวใช่มั้ยว่าตัวเองทำอะไรผิด!!!” ร่างสูงตะคอก มือทั้งสองข้างบีบต้นแขนเล็กจนปวดระบมไปหมด ซากุระได้แต่สั่นหน้าปฏิเสธอย่างสิ้นหวัง น้ำตาไหลอาบแก้มนวลจนเปรอะเปื้อนไปหมด แต่ถึงกระนั้นเขาก็ไม่สนใจ ยังคงใช้เรี่ยวแรงอันมหาศาลของตัวเองผลักเธอให้นอนราบลงบนเตียงก่อนจะทิ้งตัวเองตามลงมา
“ตรงนี้ใช่มั้ยที่มันจูบเธอ!” พูดจบร่างสูงก็ประกบริมฝีปากไปที่ริมฝีปากบางที่ไม่มีโอกาสแม้จะเอ่ยคำแก้ตัวใดๆ
“อื๊อ...”เรียวปากหนาบดขยี้รุนแรงราวกับต้องการจะระบายอารมณ์โกรธจนเรียวปากเล็กมีเลือดไหลซิบ รสจูบของเขาร้อนแรงหากแต่ไม่เหลือไว้ซึ่งความหอมหวานใดๆ มันเหมือนเป็นการจูบที่ทำไปส่งๆเพียงเพราะอยากระบายอารมณ์เท่านั้น เมื่อเห็นว่าร่างบางแทบจะขาดอากาศหายใจเขาก็ผละริมฝีปากออก แต่ดวงตาที่แข็งกร้าวนั้นยังคงไม่เปลี่ยนแปลง ยังคงเต็มไปด้วยความโกรธ...
“ตรงนี้ใช่มั้ยที่มันสัมผัสเธอ!” เขาถามเสียงเข้ม และก็ไม่จำเป็นต้องรอเอาคำตอบ ร่างสูงซุกไซ้ใบหน้าเรียวได้รูปไปที่ซอกคอขาวในขณะที่มือทั้งสองข้างก็โอบกอดเอวบางไว้เหมือนกับที่ซุยเงสึทำไม่มีผิด หากแต่ความอ่อนโยนนั้นต่างกันราวฟ้ากับเหว ซากุระพยายามดิ้นหลีกหนีจากสัมผัสของเขาอย่างนึกรังเกียจ แต่ที่เธอทำได้ทั้งหมดคือเพิ่มความโกรธให้ร่างสูง
“ทำไม! กับฉันน่ะรังเกียจนักเหรอ? ทีกับมันเธอคงสมยอมสินะ!”
“...”
“ยังจะมีตรงไหนอีกมั้ยที่เธอยอมให้เจ้านั่นมันแตะต้อง!” เขาตะคอกใส่เธอราวกับคนสติแตก ยิ่งเห็นท่าทางที่แสดงออกอย่างชัดเจนว่ารังเกียจเขา มันก็ทำให้เขาแทบบ้า ร่างกายนี้ที่ควรจะเป็นของเขาแต่เพียงผู้เดียว... เธอกลับยอมให้คนอื่นมาสัมผัสแตะต้องราวกับต้องการจะลบสัมผัสของเขาให้หายไป เขายอมไม่ได้...
เธอทำผิด...
“เธอทิ้งฉันไปแล้วนะซาสึเกะ...” เสียงพึมพำจากคนที่อยู่ใต้อ้อมแขนทำให้ร่างสูงชะงักราวกับมีน้ำเย็นๆสาดเข้าที่หน้า
“...”
“เธอจะกลับมาสนใจขยะอย่างฉันทำไม...” ซากุระพูดอย่างนึกน้อยใจ ใบหน้าหวานหันไปทางอื่นราวกับไม่ต้องการจะเห็นหน้าคนที่ทำร้ายเธอครั้งแล้วครั้งเล่า
“อย่าทำเหมือนว่าเธอหวงฉัน...ทั้งๆที่จริงแล้วเธอก็แค่อยากเห็นฉันเจ็บปวด”
“...”
“อยากให้ฉันทรมานเหรอ? เธอไม่ต้องทำอะไรหรอก...”
“...”
“แค่อยู่เฉยๆ...”
“...”
“...แค่นี้ฉันก็ทรมานแล้ว...”
ซากุระปล่อยให้น้ำตาไหลอาบแก้มอีกครั้งอย่างเจ็บปวด เขาไม่รู้หรือไงว่าภายในใจของเธอมันกำลังเจ็บเจียนตาย เธอสูญเสียสิ่งมีค่าให้เขาแต่แล้วเขากลับโยนมันทิ้งไปอย่างไม่ไยดี เขี่ยหัวใจดวงน้อยๆของเธอทิ้งยังไม่พอ เขายังขยี้ทำลายมันให้แหลกเหลวเหมือนมันเป็นของไร้ค่า
ฉันอยากจะเกลียดเธอ...ซาสึเกะ...
ฉันอยากจะให้เธอรู้สึกเจ็บเหมือนฉันบ้าง...
แต่เพราะฉันรักเธอมากเกินไป... จนถึงตอนนี้ฉันก็ยัง... ไม่อยากเห็นเธอเจ็บปวด...
ในขณะที่ปล่อยให้น้ำตาไหลย้อมหัวใจที่แสนเจ็บปวด จู่ๆร่างบางก็รู้สึกถึงมือเย็นๆที่สัมผัสอยู่ที่บริเวณใบหน้าของเธอ นิ้วเรียวของซาสึเกะค่อยๆเกลี่ยหยดน้ำตาออกจากใบหน้าหวานเบาๆ ในขณะที่มืออีกข้างกระชับกอดเธอแน่นขึ้น แต่มันกลับไม่เหลือไว้แล้วซึ่งความหยาบกระด้างรุนแรง
“ใช่... ฉันต้องการให้เธอทรมาน ซากุระ...” ร่างสูงกระซิบเสียงแผ่วเบา น้ำเสียงนั้นดูอ่อนโยนอย่างที่เธอไม่เคยได้ยินมาก่อน
“...แต่ไม่ใช่ให้เธอมาทรมานฉันแบบนี้...”
ฉากนี้มันน่าลุ้นNC จริงๆ แต่ไม่มีนะจ๊ะเสียใจด้วยยย>.< เกะหึงแรงมากถึงกับไปต่อยหนูซุยของเจ้ซะเลือดกลบ ฮ่ะๆๆ ส่วนหนูซุยก็ทำเพื่อสาวน้อยจีจี หอบภรรยาเขาหนีเพื่อให้สามีเขามาทวงคืน ฮรือออT.T หนูกุเริ่มอ่อนแรง อิเกะเริ่มอ่อนใจใจอ่อน อิๆ~ ตอนต่อไปเกะน่าจะอ่อนลงเยอะเลยล่ะ กรี๊ดดด จะได้เห็นฉากสวีทแล้วเฟ่ย กัดหมอน>.< (แต่งเองเพ้อเอง 555)
ความคิดเห็น