คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #10 : Chapter 8 : โหยหา
บทที่ 8 โหยหา
“ทำไมช่วงนี้ผมไม่ค่อยเห็นเจ้าซุยเงสึเลยล่ะ คุณซาสึเกะส่งเจ้านั่นไปทำอะไรเหรอครับ” เจ้าของเรือนผมสีส้มเอ่ยถามร่างสูงที่เพิ่งเสร็จสิ้นการฝึกวิชานินจาวิชาใหม่ที่เพิ่งได้รับการถ่ายทอดมาจากอิทาจิ ซาสึเกะรับผ้าที่คารินส่งให้มาเช็ดใบหน้าที่ชุ่มเหงื่อของตนก่อนจะตอบ
“เปล่า”
“เพราะนายมัวแต่ไปอยู่ในป่าในเขาก็เลยไม่รู้เรื่องรู้ราวอะไรเลยสินะจูโกะ ตอนนี้เจ้าซุยเงสึกำลังเห่อของเล่นใหม่ ไม่โผล่หัวออกมาให้เห็นหรอกถ้าไม่มีใครเรียก” คารินที่เปลี่ยนที่นั่งมานั่งข้างๆซาสึเกะอธิบายให้ฟังถึงสถานการณ์ของเพื่อนร่วมแก๊งอีกคนที่หมู่นี้หายหัวไปไม่เห็นหน้าเห็นตา จูโกะที่กำลังให้อาหารนกตัวน้อยกลอกตามองเหมือนไม่เข้าใจ เดือดร้อนถึงเธอต้องขยายความให้ฟังอีกครั้ง
“นินจาของโคโนฮะที่จับมาได้เมื่ออาทิตย์ที่แล้วน่ะ ซาสึเกะคุงยกให้เจ้าซุยเงสึไปแล้ว ตอนนี้เจ้าตัวก็เลยไม่ยอมออกไปไหนสงสัยคงกำลังเล่นสนุกกับของเล่นใหม่ เฮอะๆ น่าสมเพชจริงๆเลย คนที่ไม่เคยอยู่ใกล้ผู้หญิงอย่างเจ้าซุยเงสึ พอได้กลิ่นผู้หญิงหน่อยก็หลงหัวปักหัวปำ... ไม่ได้เรื่อง!” เธอพูดว่ากระทบเจ้าของเรือนผมสีเงินที่ป่านนี้คงหลงระเริงระริกระรี้อยู่ที่ไหนซักแห่ง
“นินจาโคโนฮะที่เป็นผู้หญิงเหรอ...” จูโกะพึมพำเบาๆเหมือนกำลังคิดอะไรบางอย่าง
“ก็อยู่ในกลุ่มที่ซาสึเกะคุงส่งพวกนายไปสอดแนมยังไงเล่า ยัยซากุระอะไรนั่น”
“ถ้าเป็นคนผมสีชมพูๆล่ะก็... ฉันคงต้องไปห้ามซุยเงสึแล้วล่ะ” จูโกะพูดพร้อมกับลุกยืนขึ้น เหล่านกน้อยที่คอยห้อมล้อมเขาอยู่พากันกระพือปีกบินหนีด้วยความตกใจ
“แล้วนายจะไปห้ามเจ้านั่นทำไมล่ะยะ ถ้าเจ้านั่นอยากหาความสุขเล็กๆน้อยๆในชีวิตบ้างก็ปล่อยมันไปเถอะน่า”
“แต่ผู้หญิงคนนั้นมีคนรักแล้ว ไปยุ่งกับของๆคนอื่นน่ะมันบาป... เธอไม่รู้รึไง?” จูโกะพูดไว้แค่นั้นก่อนจะเดินจากไปปล่อยให้เธองงค้างกับประโยคที่เจ้าตัวพูด คารินเชิดหน้าใส่ผู้ชายไร้อารมณ์ที่บังอาจเมินเธอแล้วหันมาสนใจร่างสูงที่น่าหลงใหลแทน
แต่ทว่าทันทีที่หันกลับมา... เธอกลับสัมผัสได้ถึงไอรังสีเย็นยะเยือกจากร่างสูง ดวงตาสีรัตติกาลแปรเปลี่ยนไปเป็นเนตรวงแหวนอันทรงพลัง และทันทีทันใดหุ่นฟางที่เอาไว้ใช้สำหรับฝึกฟันดาบก็ค่อยๆถูกโอบด้วยเปลวไฟสีดำน่ากลัว
เทวีสุริยา!
คารินถึงกับกระถดตัวหนีเมื่อสัมผัสได้ถึงรังสีสังหารของคนที่นั่งข้างๆ เธอกลืนน้ำลายอย่างรู้สึกกดดัน ตอนนี้...
ซาตานกำลังโกรธ!
.
.
.
“ฉันจะนับหนึ่งถึงสามนะนายโรคจิต ลง-มา-จาก-เตียง-เดี๋ยว-นี้!” ซากุระยืนเท้าเอวแหวใส่ร่างสูงเจ้าของเรือนผมสีเงิน ที่ตอนนี้นอนแผ่อยู่บนเตียงอย่างสบายอารมณ์
“นี่มันเตียงของฉันน้า~” ซุยเงสึพูดพร้อมกับกลิ้งไปมาแสดงความเป็นเจ้าของเต็มที่
“หนึ่ง...”
“เฮ้~ ฉันแค่ให้เธอยืมตอนป่วยเท่านั้นแหละ ตอนนี้ฉันยึดคืนแล้ว!”
“สอง...”
“อย่าเอาแต่ใจแบบนี้สิสาวน้อย~” ซุยเงสึโวยวายใบหน้าบูดบึ้งเหมือนเด็กที่ถูกขัดใจ
“สาม!”
“ไปแล้วคร้าบ~” ร่างสูงกระโดดหลบได้ฉิวเฉียดยิ่งนักเมื่อซากุระเตรียมจะประเคนหมัดที่อาบไปด้วยจักระของเธอใส่เขา
“นายน่ะไปนอนในห้องน้ำเลย” เธอบอกก่อนจะทิ้งตัวลงบนเตียงอย่างเหนื่อยล้าเพราะใช้เวลาทั้งวันขลุกอยู่ในห้องหนังสือกับซุยเงสึ และมันก็เป็นเรื่องน่ามหัศจรรย์ยิ่งนักที่เธอสามารถอ่านตำรารู้เรื่องได้ขณะที่มีตัวกวนส่งเสียงโวยวายอยู่ใกล้ๆ
สงสัยจะชิน
“นี่เธอช่วยมองว่าฉันเป็นคนปกติบ้างจะได้มั้ย -_-”
“ตรงไหนของนายยะที่ปกติน่ะ” ซากุระถามทั้งๆที่ยังหลับตาอยู่ เธอไม่รู้ตัวเลยสักนิดว่าอีกฝ่ายยื่นหน้าเข้ามาใกล้จนแทบจะหายใจรดกัน และก็เพราะลมหายใจอุ่นๆสัมผัสอยู่ที่ใบหน้าทำให้ซากุระลืมตาขึ้นมา แล้วเธอก็ต้องผงะด้วยความตกใจ
“แบร่!!!” ใบหน้าของซุยเงสึอยู่ห่างจากเธอเพียงไม่กี่เซน มิหนำซ้ำเจ้าตัวยังแลบลิ้นปลิ้นตาทำหน้าได้อุบาทว์สุดติ่ง
“กรี๊ดดด!!!”
ซ่า~
ร่างบางหวีดร้องอย่างตกใจก่อนจะอัดหมัดใส่คนเล่นพิเรนทร์ไปตามสัญชาตญาณ มือเล็กสัมผัสได้เพียงมวลน้ำเย็นๆที่แตกกระจาย ซุยเงสึหัวเราะคิกคักหลังจากที่ใบหน้าของเขาหลอมรวมกลับมาเป็นเหมือนเดิม
“ฮะๆๆ~ หน้าเธอฮามากเลยสาวน้อย อุบาทว์ได้ใจจริงๆ~”
“มันก็อุบาทว์ได้ไม่เท่าครึ่งของนายหรอกย่ะ! เล่นอะไรพิเรนทร์จริง!” เธอแหวเข้าให้อย่างอารมณ์เสีย ใบหน้าหวานมองคนที่กำลังหัวเราะอยู่อย่างเจ็บใจก่อนจะมันจะแปรเปลี่ยนกลายเป็นรอยยิ้มเจ้าเล่ห์ ซากุระเดินยิ้มกริ่มไปหยิบตะเกียงเก่าๆที่วางระเกะระกะอยู่ข้างผนัง ซุยเงสึมองภาพนั้นอย่างตกใจก่อนที่จะหน้าถอดสีลงเรื่อยๆเมื่อรู้ว่าร่างบางกำลังจะทำอะไร
“ยะ...อย่าจุดตะเกียงนะ แค่นี้ฉันก็จะละลายอยู่แล้ว –[]-” เจ้าของดวงตาสีอะเมทิสต์โวย และยิ่งโวยหนักเข้าไปอีกเมื่อเห็นว่าซากุระไม่ได้จุดตะเกียงเพียงดวงเดียว
“ม่ายยย~ เธอจะฆ่าฉันรึไงสาวน้อย~” ซุยเงสึถอยตัวกรูดไปอยู่ติดประตูเมื่อเห็นว่าซากุระเริ่มจะเอาตะเกียงที่ถูกจุดเรียบร้อยวางไว้ตามที่ต่างๆภายในห้อง อุณหภูมิที่เพิ่มสูงขึ้นทำให้เจ้าของเรือนผมสีเงินแทบจะหมดแรง... น้ำอย่างเขา...เกลียดไฟที่สุด!
“นี่ถือเป็นการลงโทษที่นายบังอาจมาแหย่ฉัน” ซากุระพูดพร้อมกับยิ้มพรายด้วยความสะใจเมื่อมองดูผลงานของตัวเอง “ถ้าไม่อยากแห้งตายก็ออกไปนอนนอกห้องนะจ๊ะ”
“หะ...โหดร้าย~ T.T”
“ฉันไม่ได้เป็นคนเริ่มนะ”
“ก็เธอมาแย่งเตียงฉันนี่~ ถ้าไม่มีที่นอนก็ไปนอนกับซาสึเกะซี่~ ห้องหมอนั่นน่ะ... ไปแล้วคร้าบบบ!!!” ซุยเงสึที่พูดยังไม่ทันจบประโยคดีก็จำใจต้องวิ่งใส่เกียร์หมาออกไปนอกห้องแทบไม่ทันเมื่อตะเกียงอันหนึ่งลอยหวือมาทางเขาอย่างจงใจ
ร่างบางถอนหายใจเฮือกใหญ่เมื่อได้ยินเสียงประตูปิดลง เดิมทีก็เป็นพวกพูดไม่ค่อยจะเข้าหูใครอยู่แล้ว พักนี้ยิ่งเก่งนักกับไอ้เรื่องยั่วโมโหคนอื่นน่ะ แต่ก็ยังมีอยู่คนนึงนะที่น่าจะจัดว่าอยู่ประเภทเดียวกับซุยเงสึ(ผมเหรอ?-->ซาอิ)... เมื่อนึกได้ดังนั้นซากุระก็ถอนหายใจอีกเฮือก เธอปฏิเสธไม่ได้เลยว่ากำลังคิดถึงหมู่บ้านและพวกพ้องของเธอขนาดไหน
พวกนั้นจะรู้มั้ยนะว่าเธออยู่ที่นี่?
หรือจะจงใจทิ้งเธอไปเหมือนอย่างที่เขาพูด?
ยิ่งคิดก็ยิ่งเจ็บใจ!
ถ้าฉันแข็งแกร่งกว่านี้อีกซักนิด… อะไรๆก็คงจะง่ายกว่านี้
ซากุระทิ้งตัวลงบนเตียงนุ่มก่อนจะค่อยๆหลับตาลง...
.
.
.
ความเย็นของลมที่พัดผ่านหน้าต่างเข้ามาในตอนกลางดึกทำให้ร่างบางกระชับผ้าห่มขึ้นมาห่มอย่างไม่รู้ตัว อุณหภูมิในห้องลดต่ำลงฮวบฮาบเมื่อตะเกียงดับไปแล้วทุกดวง มีเพียงความมืดและความหนาวเย็นเท่านั้นที่ห้อมล้อมรอบตัวเธอ
ซากุระนอนขดตัวอยู่ใต้ผ้าห่มผืนบางเมื่อสายลมที่หอบเอาความเย็นยะเยือกพัดมาปะทะ เธอนอนตัวสั่นอยู่ท่ามกลางความหนาวเย็น...
ก่อนที่ความอบอุ่นบางอย่างจะทำให้เธอสงบลง...
ดวงตาสีรัตติกาลมองดูลูกแมวตัวน้อยๆที่กำลังสั่นเป็นเจ้าเข้าอยู่ภายในอ้อมแขนของเขาอย่างอ่อนใจ เพราะหน้าต่างที่ถูกเปิดทิ้งไว้ทำให้ความเย็นในช่วงฤดูใบไม้ร่วงแผ่เข้ามาในห้อง สำหรับคนที่ใช้ชีวิตอยู่ในที่ที่แสงอาทิตย์ส่องผ่านมาตลอดอย่างเธอ ความหนาวขนาดนี้คงจะทนไม่ได้...
ร่างสูงกระชับอ้อมแขนให้แน่นยิ่งขึ้นเพื่อให้ความอบอุ่นจนใบหน้างามซุกอยู่ที่อกของเขา ลมหายใจอุ่นๆของเธอทำให้เขารู้สึกผ่อนคลาย ราวกับว่าความเหนื่อยล้าทั้งหมดได้หายไปเพียงแค่กอดร่างนี้ไว้...
คงจะดีไม่น้อยถ้าได้อยู่แบบนี้ทุกวัน...
ซาสึเกะหลับตาลงพร้อมกับความรู้สึกหลายหลากแบบ
หลายวันที่ไม่ได้เห็นหน้า...
หลายวันที่ไม่ได้สัมผัส...
เธอทำให้เขารู้สึกโหยหาอย่างบอกไม่ถูก เขาไม่อยากเห็น...ไม่อยากได้ยินว่าเธอเคยเป็นของใครหรือกำลังเป็นของใครอยู่ ตอนนี้เธอเป็นของเขา...และจะเป็นแบบนี้ตลอดไปไม่เปลี่ยนแปลง!
ซาสึเกะก้มลงจูบหัวทุยเบาๆอย่างทะนุถนอม ลืมความแค้นทั้งหมดไปชั่วขณะ...
ตอนนี้...แค่ได้อยู่อย่างนี้ก็พอใจแล้ว
.
.
.
เป็นความฝันหรือความจริง?
เป็นเพียงภาพลวงตาหรือสิ่งเหล่านั้นเคยเกิดขึ้นจริงๆกันแน่?
คำถามหลายคำถามตีกันมั่วไปหมดในหัวของซากุระ
เธอตื่นขึ้นมาในช่วงรุ่งสางของวันท่ามกลางท้องฟ้าที่ยังคงมืดมิด แต่สัมผัสแผ่วๆของใครบางคนที่หลงเหลือไว้ทำให้ร่างบางชะงัก แม้ภายในห้องจะไม่มีใครแล้วนอกจากตัวเธอ หากแต่ร่างกายกลับบอกเธอว่าค่ำคืนที่ผ่านมา...เธอไม่ได้อยู่คนเดียว...
นับตั้งแต่มาอยู่ที่นี่...นี่เป็นคืนแรกที่เธอนอนหลับโดยที่ไม่มีฝันร้ายคอยตามหลอกหลอน กลับฝันดีเสียด้วยซ้ำไป...
ฝันว่าเธออยู่ในอ้อมกอดอันแสนอบอุ่นของเขา...
แต่ก็คงเป็นเพียงแค่ฝัน...
ซากุระหัวเราะอย่างนึกสมเพชกับความฝันลมๆแล้งๆของตัวเอง สำหรับซาสึเกะ เธอก็คงเป็นได้แค่เศษขยะไร้ค่าที่มีไว้เพื่อให้เขาได้ระบายความแค้น คงเป็นอะไรไม่ได้มากไปกว่านั้น... ไม่มีเหตุผลอะไรเลยที่เขาจะต้องมาทำดีกับเธอเหมือนอย่างในฝัน
“อะไรกัน~ นั่งทำหน้าซังกะตายแบบนั้น” เสียงยียวนปลุกเธอให้ตื่นจากภวังค์ ซากุระคิ้วขมวดนึกประมวลผลเหตุการณ์ตรงหน้าก่อนจะคว้าหมอนแล้วปาไปยังผู้มาใหม่ที่เข้ามาไม่ให้สุ้มให้เสียง
“เข้ามาได้ยังไงยะ!” เธอถามอย่างหงุดหงิด ใบหน้างามแยกเขี้ยวเหมือนพร้อมจะกระโจนกัดอีกฝ่ายได้ทุกเมื่อ
“นี่มันห้องของฉันน้า~”
“ก็ตอนนี้ฉันยึดแล้ว! -_-”
“ไปเที่ยวกัน~!” คนตัวสูงกว่าไม่สนใจฟังเธอแถมยังเปลี่ยนเรื่องเอาดื้อๆ ดวงตาสีอะเมทิสต์ฉายแววสนุก
“ไปเที่ยวอะไรของนาย ตอนนี้ฉันเป็นนักโทษอยู่ไม่ใช่รึไง” ซากุระว่าก่อนจะลุกขึ้นเก็บที่นอน
“นักโทษบ้าอะไรฟระทำร้ายร่างกายผู้คุมอย่างฉันได้ทุกวัน” ซุยเงสึบ่นอุบอิบ “ไปที่ใกล้ๆนี่แหละ พอดีฉันไปเจอที่เจ๋งๆมาน่ะ”
“แล้วไปขออนุญาตพ่อของนายรึยัง?”
“ใครพ่อฉัน?” คนตัวสูงถามพลางทำหน้าฉงน
“ซาสึเกะ...”
“อ๋อ~ สามีเธอน่ะเหรอ...”
ซ่า~
“เมื่อไหร่เธอจะเลิกเห็นฉันเป็นกระสอบทรายซักที-_-” ซุยเงสึถามเมื่อใบหน้าของเขากลับมาเป็นเหมือนเดิม
“ก็เลิกพูดจาแมวไม่รับประทานซักทีสิยะ!”
“ก็มันเป็นความจริงนี่นา~”
“นี่นาย...-_-”
“ชิส์~ ไม่ต้องขอซาสึเกะหรอก ถ้าหมอนั่นยกเธอให้ฉันแล้วมันก็เป็นสิทธิ์ของฉันที่จะทำอะไรกับเธอก็ได้” ซุยเงสึอธิบาย แต่เพราะคำพูดของเขาทำให้ซากุระขยับตัวถอยห่างอย่างระแวดระวัง
“อะไร~ ฉันไม่ทำอะไรคนมีเจ้าของแล้วหรอกน่า คิๆ~” ซุยเงสึพูดพร้อมกับหัวเราะร่า
“ไปเตรียมตัวเถอะ ถ้าสายมันจะหมดสนุก~”
ลักหลับเรอะ!!! แอร๊ยยยย >.< เซอร์ไพรส์ !!! มาแล้ววว บทพระเอก เชื่อว่าเป็นหนึ่งในตอนที่หลายคนรอคอยยย(และเป็นหนึ่งในตอนที่ไรท์ฟินที่สุด กรี๊ดดดค่าาา) อยากจะสิงร่างหนูกุจริงๆ เกะเริ่มแสดงความเป็นเจ้าของหลังจากที่ร้ายมาหลายตอน จูโกะที่ไรท์เตอร์ลืมไปว่ามีตัวละครนี้อยู่ก็โผล่มาแล้ว(ไม่กี่ประโยค) ฮ่าๆๆ ส่วนซุยเงสึตัวประกอบกิตติมศักดิ์จะพาหนูกุหนีเจ้าเกะไปที่ไหน(เอ็งจะหอบภรรยาเขาหนีไปหนายยย –[]-!!!)
ความคิดเห็น