[FIC บอร์ดนักเขียน] Christmas Day (กวี x ซีซอร์) - [FIC บอร์ดนักเขียน] Christmas Day (กวี x ซีซอร์) นิยาย [FIC บอร์ดนักเขียน] Christmas Day (กวี x ซีซอร์) : Dek-D.com - Writer

    [FIC บอร์ดนักเขียน] Christmas Day (กวี x ซีซอร์)

    วันคริสต์มาส...คุณขอพรอะไรจากซานตาคลอส?

    ผู้เข้าชมรวม

    1,140

    ผู้เข้าชมเดือนนี้

    4

    ผู้เข้าชมรวม


    1.13K

    ความคิดเห็น


    11

    คนติดตาม


    1
    เรื่องสั้น
    อัปเดตล่าสุด :  20 ธ.ค. 57 / 23:09 น.


    ข้อมูลเบื้องต้นของเรื่องนี้

    Christmas Day

     

    กวี x ซีซอร์

     

     

    วันคริสต์มาสที่แสนหนาวเหน็บ...

    ใครกันที่จะมาทำให้หัวใจของคุณเต้นแรง?






















    ตั้งค่าการอ่าน

    ค่าเริ่มต้น

    • เลื่อนอัตโนมัติ

      Christmas Day  

       

      24th December

       

      7.40 PM

       

      ~We wish you a Merry Christmas
      We wish you a Merry Christmas
      We wish you a Merry Christmas
      And a Happy New Year~



      เสียงเพลงวันคริสต์มาสดังเคล้าไปกับบรรยากาศของวันแห่งการเฉลิมฉลอง ทั่วทั้งบริเวณลานกว้างหน้าห้างสรรพสินค้าชื่อดังถูกประดับประดาไปด้วยโคมไฟหลากสีโดยมีต้นคริสต์มาสต้นใหญ่ตั้งตระหง่านเป็นจุดศูนย์กลาง ใกล้ๆฐานของต้นคริสต์มาสมีตุ๊กตาหิมะที่ทำจากปูนวางเรียงกันเป็นแถว แต่ละตัวมีหมวกไหมพรมกับผ้าพันคอที่ต่างสีกันประดับอยู่ พวกมันพร้อมใจกันส่งยิ้มให้ผู้คนที่เดินผ่านไปมา... คอยมอบความสุขให้คนเหล่านั้นอย่างไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย

       

      ดวงตาสีนิลที่ดูลึกลับมองเหล่าตุ๊กตาหิมะพร้อมกับระบายยิ้มกว้าง อันที่จริงหน้าของพวกมันก็ดูตลกจนทำให้เธออยากจะยิ้มอยู่แล้ว ทั้งจมูกยาวๆที่ดูเหมือนมีใครเอาแครอททั้งหัวไปเสียบไว้กับปากรูปยิ้มที่ยิ้มเสียกว้างจนกินพื้นที่ไปเกือบครึ่งหน้า รวมๆแล้วก็เป็นใบหน้าของตุ๊กตาหิมะที่ใครเห็นก็ต้องขำกลิ้งแน่ๆ แต่สาเหตุที่แท้จริงที่ทำให้เธอยิ้มไม่หุบมาร่วมชั่วโมงไม่ใช่ใบหน้าชวนขันของตุ๊กตาประดับนั่นเลย หากแต่เป็นข้อความที่ใครคนหนึ่งส่งถึงเธอเมื่อช่วงค่ำของเมื่อวาน

       

       

      พรุ่งนี้เจอกันที่หน้าห้าง SP นะ

              กวี

       

       

      ข้อความสั้นๆที่ไม่ได้มีเนื้อหาอะไรนอกจากบอกสถานที่นัดกับวันที่นั่นแหละที่ทำให้หัวใจดวงน้อยของเธอที่พักนี้เหมือนไม่ค่อยจะมีเรี่ยวมีแรงกลับมาลิงโลดราวกับได้ยาชูกำลังชั้นดี

       

      ซอหยิบมือถือสมาร์ทโฟนของตัวเองขึ้นมาดูข้อความเดิมอีกครั้ง เธอทำแบบนี้เป็นครั้งที่เท่าไหร่แล้วก็ไม่รู้... แต่แค่ได้มองตัวหนังสือไม่กี่ตัวนั่นก็ทำให้เธอมีความสุข... เธอสัมผัสได้ถึงความอบอุ่นจากเขาคนนั้น คนที่ไม่ได้เจอหน้ากันมากว่าสามเดือน ชายผู้ที่เป็น คนรักของเธอ...

       

      กวี

       

                  สำหรับคู่รักทั่วไป ข้อความสั้นๆที่มีเนื้อหาแค่ชวนไปเดทในวันคริสต์มาสอีฟคงไม่ได้ดูพิเศษอะไร แต่สำหรับคู่ของเธอนั้นไม่ใช่... แค่นี้ก็ถือว่าพิเศษ...พิเศษมากเสียด้วย... เพราะกวีไม่ใช่ผู้ชายที่จะมีเวลามาทำเรื่องอะไรหยุมหยิมแบบนี้ เขาคือคนประเภทที่เรียกได้ว่าบ้างานตัวพ่อ หรือบางทีอาจเรียกได้ว่าด้วยอาชีพที่เป็นทำให้เขาเป็นแบบนั้น

       

      เขาคือศัลยแพทย์มือหนึ่ง

       

                  เป็นบุคลากรที่เป็นที่ต้องการอย่างยิ่งของโรงพยาบาล วันหนึ่งๆกวีแทบจะไม่มีเวลาปลีกตัวมารับโทรศัพท์ของเธอเลยด้วยซ้ำ เขายุ่งอยู่กับคนไข้ตลอดเวลา อยู่ที่โรงพยาบาลมากกว่าที่บ้าน เดินเข้าออกห้องผ่าตัดเหมือนเป็นสนามเด็กเล่น ซอเชื่อว่าหากเจาะเลือดเขาออกมาดูคงจะได้เห็นเม็ดเลือดแดงเป็นรูปกากบาทที่เป็นสัญลักษณ์ของโรงพยาบาลมากกว่าก้อนกลมๆแบนๆแน่ๆ

       

      กวีรักโรงพยาบาลมาก

      บางทีอาจจะมากกว่าเธอที่เป็นคนรักเสียอีก...

       

                  ดังนั้นแค่ข้อความสั้นๆที่เขาส่งมา...แค่นั้นมันก็ทำให้เธอดีใจ... เขาไม่เคยส่งข้อความหาเธอ หรือจะพูดให้สวยหรูก็คือไม่มีเวลาจะส่ง ตลอดสองปีที่คบหากันมา เขาโทรหาเธอสี่ครั้ง สองครั้งแรกโทรมาบอกยกเลิกนัด ครั้งที่สามโทรมาถามอาการเธอที่ไม่สบายนอนซมอยู่ที่บ้าน ส่วนครั้งที่สี่โทรมาบอกว่าเขาจะไปศึกษาดูงานที่ต่างประเทศ...กำชับไม่ให้เธอติดต่อไป...

       

      จะว่าไปเขาก็ใจร้าย...

       

                  แต่เธอก็ยังรักเขา... และก็เพราะความรักเธอถึงต้องเข้าใจเขา ไม่โวยวายตีโพยตีพายให้เขาลำบากใจ บางทีกวีอาจจะไม่ได้ตั้งใจจะเป็นแบบนี้ เขาก็แค่...

       

      ไม่มีเวลา...

       

       

                  “ป้าซอ~” เสียงเล็กใสของใครคนหนึ่งดึงเธอออกจากภวังค์ความคิด ร่างบางหันขวับไปยังต้นเสียง ดวงตาสีนิลเบิกกว้างเมื่อเห็นว่าเจ้าของเสียงที่เรียกเธอนั้นเป็นใคร

       

                  “อัน! ไอซาฟ!

       

                  “สวัสดีครับคุณซอ” เด็กหนุ่มร่างสูงโปร่งทักทายเธอพร้อมกับยิ้มอย่างเป็นมิตร ข้างๆกายมีเด็กสาวที่ซ่อนใบหน้าสวยหวานภายใต้แว่นกรอบหนาเดินเคียงคู่มาด้วยกัน ซอพยักหน้ารับคำทักทายหงึกหงักก่อนที่ดวงตาของเธอจะปะทะเข้ากับสายตาจับผิดของเด็กสาวที่เดินมาด้วยกัน

       

                  “มายืนสวยอะไรคนเดียวแถวนี้คะป้าซอ” อีกฝ่ายถามขึ้น ซอนิ่งเงียบไปเหมือนจะหาเหตุผลดีๆมาอธิบาย เธอไม่อยากให้ใครรู้เรื่องนัดของเธอกับกวีเพราะไม่อยากถูกแซว ยิ่งเป็นคนตรงหน้าก็ยิ่งแล้วใหญ่...

       

      แซวทีนี่อับอายไปทั้งหมู่บ้าน

       

                  “ก็...อยู่บ้านเหงาๆ... เอ่อ...ก็เลยมาเดินเล่น” เธอโกหกออกไปในที่สุด แต่ทว่าเด็กสาวรุ่นน้องกลับฉลาดกว่าที่คิด อัน มองสาวสวยในชุดเดรสสั้นสีครีมสไตล์วินเทจด้วยสายตาเจ้าเล่ห์

       

                  “นัดใครไว้ใช่มั้ยล่ะป้า!” อันโพล่งถาม เล่นเอาคนโกหกถึงกับผงะ “ใครเหรอ? พี่กวีใช่มั้ย? หึๆ ต้องเป็นพี่กวีแน่ๆ ไม่งั้นป้าซอไม่ถึงกับลงทุนแปลงโฉมเป็นซินเดอเรลล่าแบบนี้หรอก”

       

                  “จะ...จะบ้าเหรอ!” เธอว่าพร้อมกับเอามือตีแขนคนชอบแซวแรงๆ รู้สึกว่าอุณหภูมิที่ใบหน้าสูงขึ้นจนผิดปกติ “อันก็รู้ พี่กวีเค้าไม่มีเวลามาทำอะไรแบบนี้หรอก ป่านนี้ก็คงขลุกอยู่กับโรงพยาบาลที่รักนั่นแหละ” เธอพูดเสียงตัดพ้อเสียจนคนฟังชักสงสัย

       

                  “อ้าว งอนพี่กวีอยู่เหรอป้า”

       

                  “เปล่า... ว่าแต่ตัวเองเถอะ ควงหนุ่มมาด้วยเนี่ยจะไปฉลองคริสต์มาสอีฟกันเหรอ?” เป็นฝ่ายเธอที่ถามบ้าง อันหัวเราะเสียงพร้อมกับกอดแขนเด็กหนุ่มที่ยืนยิ้มแห้ง

       

                  “ใช่แล้วป้า! วันนี้อันกับที่รักจะไปดินเนอร์กันใต้แสงเทียน เสร็จแล้วเราก็จะไปดูหนังรอบดึกด้วยกัน จะอยู่ด้วยกันยันเช้าเลยทดแทนกับที่ไม่ได้เจอหน้ากันตั้งสามวัน!

       

                  “สะ...สามวันเหรอ”

       

      ไม่ได้เจอกันสามวันยังชดเชยเสียขนาดนี้ แล้วเธอกับกวีที่ไม่ได้เห็นหน้ากันตั้งสามเดือนควรจะชดเชยแบบไหนดี?

       

                  “โอ๊ะ! ได้เวลาแล้วที่รัก ถ้าไปช้ากว่านี้จะเลยเวลาที่จองร้านไว้” อันหันมาพูดกับแฟนหนุ่มที่พยักหน้าเห็นด้วยก่อนจะหันมาพูดกับเธอ “ งั้นอันกับที่รักไปก่อนนะป้า วันนี้เจอพี่กวีทั้งทีป้าก็จัดให้คุ้ม เอาให้พี่กวีลืมโรงพยาบาลแล้วมารักป้าหัวปักหัวปำเลย”

       

                  “พูดอะไรเนี่ยอัน! คนอื่นมาได้ยินเค้าจะหาว่าพี่เป็นคนยังไง” เธอแหวใส่ ใบหน้าหวานร้อนผ่าวเหมือนยืนท่ามกลางแดดจ้า

       

                  “แหม อันรู้หรอกน่า... เห็นแต่งตัวเรียบๆแบบนี้ก็เถอะ แต่จริงๆแล้วป้าน่ะ...”

       

                  “...”

       

                  “เป็นพวก หื่น ใช่มั้ยล่ะ?”

       

                  “อัน!!!

       

      .

      .

      .

       

      11.34 PM

       

      สี่ชั่วโมงหลังจากนั้น...

       

      เธอก็ยังคงรอ...

       

                  เสียงเพลงวันคริสต์มาสเงียบไปแล้ว ผู้คนที่เคยสัญจรกันพลุกพล่านก็หายไปเหมือนกัน บรรยากาศแห่งการเฉลิมฉลองจบลงอย่างน่าใจหาย โคมไฟที่ประดับประดาอยู่ทั่วบริเวณดับลงบางส่วน ส่วนใหญ่ยังคงเปิดไว้เพื่อฉลองวันคริสต์มาสที่จะมาถึงในอีกไม่กี่ชั่วโมงข้างหน้า ต้นคริสต์มาสยังคงตั้งตระหง่านอยู่ที่เดิม ตุ๊กตาหิมะยังยืนส่งยิ้มอยู่เหมือนเดิม แต่เธอ...

       

      ไม่ยิ้มแล้ว...

       

                  หญิงสาวนั่งอยู่บนเก้าอี้ไม้ตัวยาวท่ามกลางอากาศที่หนาวเย็นของช่วงดึก นิ้วเรียวสวยสัมผัสไปที่หน้าจอมือถือสมาร์ทโฟนเพื่อโทรออกหาใครคนหนึ่ง...

       

      ใครคนนั้นที่หลอกให้เธอรอ...

      หลอกให้เธอดีใจกับข้อความของเขา...

       

      เลขหมายที่ท่านเรียกไม่สามารถติดต่อได้ในขณะนี้ กรุณาติดต่อใหม่อีกครั้งค่ะ

       

                  เสียงโอเปอเรเตอร์ตอบกลับมาเป็นประโยคเดิมๆที่เธอฟังมาไม่รู้กี่ครั้งต่อกี่ครั้ง ร่างบางกดวางสายอย่างรู้สึกเจ็บใจ มือเรียวเล็กกำมือถือไว้แน่น...

       

      พรุ่งนี้เจอกันที่หน้าห้าง SP นะ

       

                  ข้อความนั้นยังคงลอยเด่นอยู่ในหัว

       

      เจอกัน?

      มันก็แค่คำหลอกลวง...หลอกให้เธอดีใจ...

       

      เหนื่อยแล้ว...

       

      เหนื่อยแล้วกับการที่ต้องเข้าใจเขา เหนื่อยแล้วกับการที่ต้องรู้สึกว่าถูกละเลยอยู่ตลอดเวลา เหนื่อยแล้วกับการที่ต้องเป็น ที่สองสำหรับเขาเสมอ

       

      เหนื่อยแล้ว...

      กับความรัก...

       

                  หยดน้ำใสๆรื้นขึ้นที่ตาราวกับตอบรับความรู้สึกเจ็บปวดในใจของเธอ หญิงสาวหยัดกายลุกขึ้นทั้งที่แข้งขาแทบไม่มีแรง เธอรู้สึกเหนื่อยล้าราวกับร่างกายถูกสูบพลังออกไปจนหมด ความเจ็บ ความผิดหวัง ความเสียใจ ทุกความรู้สึกที่เธอพยายามเก็บมันไว้ตลอดสองปีดูเหมือนจะถึงขีดสุดแล้ว ความอดทนของเธอ...หมดลงแล้ว...

       

      เธอควร...ตัดใจจากเขาเสียที

       

                  ซอยิ้มอย่างขมขื่น ดวงตาสีนิลมองต้นคริสต์มาสผ่านม่านน้ำตา...

       

      วันคริสต์มาส...วันที่เธอในวัยเด็กเชื่ออย่างสนิทใจว่าพอตกดึกจะมีซานตาคลอสนั่งรถเลื่อนที่เทียมด้วยกวางเรนเดียร์หอบเอาของขวัญกล่องใหญ่มาส่ง เธอเลิกอธิษฐานขอของขวัญตอนช่วงประถมหลังจากรู้ว่าเรื่องทั้งหมดเป็นเพียงแค่นิทาน ซานตาคลอสไม่มีตัวตนอยู่จริง... แต่ตอนนี้ ตอนที่จิตใจกำลังเจ็บช้ำ เธอ...อยากจะขอของขวัญจากซานตาคลอสอีกสักครั้ง

       

      ขอให้เธอมีความสุขซักที...

                 

       

      “ขอโทษที่มาช้า...” เสียงทุ้มของใครคนหนึ่งดังอยู่ข้างหลัง

       

      หญิงสาวน้ำตาไหลพราก... เธอจำเสียงของเขาได้ดี เสียงทุ้มลึกอันเป็นเอกลักษณ์ที่ฟังกี่ทีก็ให้ความรู้สึกอบอุ่น เสียงที่ไม่ว่าจะพูดอะไรเธอก็จะเชื่อและคล้อยตามทุกครั้ง เป็นเสียงที่ชวนหลงใหล... เสียงของเขา...

       

      กวี

       

      “พี่ไม่คิดว่าซอจะอยู่รอด้วยซ้ำ... พี่ขอโทษนะ”

       

      “...”

       

      “ซอพี่...”

       

      “พี่...มาทำไมเอาตอนนี้คะ” เธอพูดทั้งที่ยังหันหลัง “มันไม่สายไปหน่อยเหรอ”

       

      “พี่ขอโทษ แต่พี่ติดงาน...”

       

      งาน ?” ซอพูดขัดขึ้น เธอหันหน้ามาเผชิญกับเขา ดวงตาสีนิลยังคงมีน้ำตาไหลออกมาไม่ขาดสาย “งานสินะ ซอเข้าใจค่ะ ซอเข้าใจ... งานของพี่สำคัญ มันสำคัญเสมอ ซอเข้าใจ...”

       

      “ซอ...”

       

      “แต่พี่กวีคะ แล้วซอไม่สำคัญสำหรับพี่เลยเหรอ?”

       

      “...”

       

      “ถ้าพี่มาไม่ได้ ทำไม...พี่ไม่บอกซอ โทรมาสักนิดก็ยังดี ส่งข้อความมาก็ได้ พี่ปล่อยให้ซอรอพี่ทำไม? พี่ให้ความหวังซอทำไม!?!” เธอตะคอกถามออกไปทั้งน้ำตา กวียังคงยืนเงียบ เขาไม่ได้ตอบโต้อะไรเธอเลย

       

      “...”

       

      “ซอเหนื่อยแล้วค่ะพี่กวี... เหนื่อยที่จะต้องวิ่งไล่ตามพี่ ซอรู้สึกเหมือนตัวเองบ้าไปคนเดียว รู้สึกเหมือน...ซอรักพี่ข้างเดียว

       

      นานทีเดียวที่ไม่มีใครพูดอะไร บรรยากาศที่ถูกทิ้งให้เงียบกัดกร่อนจิตใจของเธอจนแทบไม่เหลือ เขายืนอยู่ตรงหน้าเธอแท้ๆ แต่เธอกลับ...ไม่รับรู้ถึงความอบอุ่นจากเขาเลย เขาเหมือนน้ำแข็งที่เย็นเฉียบ ที่ทำให้เธอหนาว...ไปจนถึงหัวใจ...

       

      “ขอโทษ...” กวีเอ่ยออกมาในที่สุด เขาหลบสายตาของเธอเหมือนต้องการจะซ่อนความรู้สึกบางอย่างไว้ หญิงสาวแค่นยิ้ม...

       

      “ไม่ต้องขอโทษหรอกค่ะ ไม่มีประโยชน์อะไรแล้ว” เธอว่า ดวงตาสีนิลที่เต็มไปด้วยน้ำตามองใบหน้าหล่อเหลาอย่างเจ็บปวด ก่อนจะเอ่ยคำพูดที่แสนเสียดแทง

       

      “ซอว่าเรา...จบกันตรงนี้เถอะ

       

       

      จบกัน...

       

                  ประโยคสั้นๆแต่ทำให้รู้สึกเจ็บไปจนถึงขั้วหัวใจ กวีเคยคิดสงสัยว่าเวลาถูกบอกเลิกเขาจะรู้สึกอย่างไร มันจะเจ็บปวดเหมือนที่ใครหลายคนบอกเอาไว้รึเปล่า? มันจะทำให้หายใจไม่ออก ในหัวเบลอเหมือนถูกของแข็งๆฟาดเข้าอย่างจังมั้ย? เขาเคยสงสัย...แต่ตอนนี้เขารู้แล้ว

       

      มันเจ็บยิ่งกว่านั้น

       

                  ร่างสูงมองหญิงสาวคนรักเต็มๆตาอีกครั้ง วันนี้เธอแต่งตัวสวย... ชุดที่ใส่ทำให้เธอกลายเป็นผู้หญิงที่มีลุคสดใสน่ามอง แต่ความสดใสของเธอก็ถูกบดบังเพราะใบหน้าที่เต็มไปด้วยน้ำตา

       

      ดวงตาของเธอ...

      มองเขาอย่างเจ็บปวด...

                 

      “อ๊ะ! พี่จะทำอะ...” ซออุทานออกมาอย่างตกใจเมื่อจู่ๆร่างทั้งร่างของเธอก็ถูกคนตัวโตดึงเข้าไปซบกับแผ่นอกแข็งแกร่ง เธอดิ้นขลุกขลัก พยายามปฏิเสธอ้อมกอดของคนใจร้ายแต่ทว่าไม่ได้ผล

       

      “ฟังสิซอ” เขาพูดพร้อมกับกอดเธอไว้แน่น “หัวใจ...ไม่เคยโกหก”

       

      ตึกตัก...

       

                  เสียงหัวใจที่เต้นแรงจนแทบจะทะลุออกมาข้างนอกทำให้คนที่ถูกบังคับให้ฟังประหลาดใจ หัวใจของกวี...กำลังเต้นแรง หัวใจของเขาที่เธอเข้าใจมาตลอดว่ามันคงตายด้านไปเรียบร้อยแล้วกำลังเต้นเป็นจังหวะแปลกๆ...

                 

                  “ซอไม่ได้รักพี่ข้างเดียว”

       

      “ฮึก...”

       

      “พี่รู้ว่าตัวเองแย่ พี่รู้ว่าพี่ทำให้ซอเสียใจตลอด พี่รู้...” ร่างสูงพูดเสียงโหวงเหวง “แต่ซอยกโทษให้พี่ได้มั้ย?”

       

      “...”

       

      “พี่สัญญาว่าจะทำให้ดีกว่าเดิม พี่สัญญาว่าจะมีเวลาให้ซอ จะไม่ทำให้ซอร้องไห้อีก พี่สัญญา... เพราะงั้นให้โอกาสพี่อีกครั้งนะ อย่าเพิ่งไปไหน...อย่าเพิ่งไปจากพี่...นะครับ”

       

      เหง่งหง่าง~

       

      เสียงระฆังดังกังวาน...เป็นสัญญาณบ่งบอกว่าเข้าสู่เช้าของวันใหม่แล้ว กวีเอื้อมมือลูบศีรษะคนที่ยังคงร้องไห้สะอึกสะอื้นอยู่เบาๆ

       

                  “สุขสันต์วันคริสต์มาสครับ”

       

      .

      .

      .

       

      25th December

       

                  หลังจากที่ปรับความเข้าใจกันได้ทั้งคู่ก็มานั่งมองบรรยากาศยามค่ำคืนของช่วงเทศกาลคริสต์มาสที่เก้าอี้ไม้ตัวยาว มือหนากุมมือของเธอไว้แน่นราวกับจะย้ำว่าเขาไม่มีทางปล่อยมือเธออีกแล้ว

       

                  “หนาวมั้ย?” ร่างสูงถามพร้อมกับพันผ้าพันคอของตัวเองที่คอของหญิงสาว

       

                  “ไม่ค่ะ... อุ่นมากเลยต่างหาก”

       

      โดยเฉพาะหัวใจ... ตอนนี้มันอุ่นมาก...

       

                  “ทำไมถึงยังรอพี่ล่ะ? ซอจะกลับไปก่อนพี่ก็ไม่ได้ว่าอะไรหรอกนะ”

       

                  “ซอยังหวังว่าพี่จะมานี่คะ เรา...ไม่ได้เจอกันตั้งสามเดือนเลยนะ ซออยากเห็นว่าพี่เป็นยังไงบ้าง พี่ผอมลงมั้ย? หรือว่าอ้วนขึ้น? พี่หล่อน้อยลงกว่าเดิมรึเปล่า?”

       

                  “แล้ว...หล่อน้อยลงมั้ย?” กวีถามยิ้มๆ

       

                  “หล่อมากกว่าเดิมนิดหน่อยค่ะ” เธอตอบก่อนจะหันใบหน้าที่คงแดงเป็นลูกตำลึงสุกไปทางอื่น เธอไม่ได้โกหกเลย กวีหล่อขึ้นมากจริงๆ

       

                  “พี่ขอโทษนะซอ พี่รู้ว่ามันออกจะเห็นแก่ตัวที่จะมาขอให้เราเข้าใจอะไรพี่อีก แต่พี่...”

       

                  “ไม่ต้องพูดแล้วค่ะ ซอเข้าใจแล้ว งานของพี่คือการช่วยเหลือชีวิตคน มันย่อมจะสำคัญกว่าเรื่องส่วนตัวอยู่แล้ว” ร่างบางพูดพร้อมกับยิ้ม

       

                  “...”

       

                  “งั้นเอางี้ดีมั้ยคะ เราไม่ต้องมาเจอกันบ่อยๆก็ได้ แค่โทรคุยกันบ้าง ส่งข้อความหากัน หรือถ้าพี่มีเวลามากกว่านั้นเราก็เฟสไทม์คุยกัน ถึงตัวเราจะไม่ได้เจอ...แต่แค่รู้ว่าพี่ไม่ได้ทิ้งซอไปไหน แค่นั้นซอก็ดีใจแล้วค่ะ”

       

                  “ขอบใจนะ ที่เข้าใจ” กวีพูดพร้อมกับกุมมือเธอไว้แน่นราวกับต้องการจะถ่ายทอดทุกความรู้สึกที่อยู่ในใจผ่านมือของตัวเอง เขารู้ตัวดี เขาไม่ใช่คนพูดมาก... โดยเฉพาะกับเรื่องแบบนี้ เรื่องที่ต้องใช้ความรู้สึกมากกว่าสมอง การจะบอกให้เธอที่เขากุมมืออยู่รับรู้ถึงความรู้สึกของเขา ก็คงจะมีแค่วิธีนี้...

       

      แค่ใช้ภาษากาย...

       

       

                  “หืม...เกือบตีหนึ่งแล้วเหรอนี่” ร่างบางพูดขึ้นหลังจากดูนาฬิกาที่ข้อมือ “พรุ่งนี้พี่มีตรวจคนไข้แต่เช้านี่คะ ซอว่าเรา...แยกย้ายกันกลับ... อ๊ะ!

       

                  เป็นอีกครั้งที่เขาคว้าเธอไปกอดแบบไม่มีปี่มีขลุ่ย แต่ครั้งนี้เธอไม่ได้ปฏิเสธเขา หญิงสาวกอดตอบเบาๆ

       

                  “วันนี้...อยู่ด้วยกันจนถึงเช้าเถอะนะ”

       

                  “...”

       

                  “พี่รักซอนะครับ”

                 

      ร่างสูงย้ำคำพูดนั้นด้วยจุมพิตที่หวานที่สุด...

       

       

      ขอบคุณสำหรับของขวัญค่ะคุณซานตาคลอส

      วันคริสต์มาสปีนี้...

      ฉันมีความสุขจริงๆ...

       

       

       

      ---จบ---

      นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

      loading
      กำลังโหลด...

      คำนิยม Top

      ยังไม่มีคำนิยมของเรื่องนี้

      คำนิยมล่าสุด

      ยังไม่มีคำนิยมของเรื่องนี้

      ความคิดเห็น

      ×