ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [FIC Naruto] เล่ห์ราชา [END]

    ลำดับตอนที่ #22 : CHAPTER 20 : เธอเป็นของฉัน

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 10.42K
      206
      18 ก.ย. 57

    บทที่ 19 เธอเป็นของฉัน

     

     

    “ห้ามพูดห้ามถามแล้วตามมาเงียบๆ!

     

                ประโยคคำสั่งที่เต็มไปด้วยความกดดันทำให้ซากุระไม่กล้าจะเอ่ยทักท้วงอะไรอีก เธอยอมเดินตามคนตัวสูงออกไปจากห้องคาราโอเกะเงียบๆ แต่ในใจกลับร้อนรุ่มและเต็มไปด้วยความกังวลอย่างประหลาด

     

    เธอไม่เคยเห็นซาสึเกะเป็นแบบนี้

    เขาไม่เคย...

    เย็นชาได้ขนาดนี้...

     

                ร่างสูงเดินนำคนที่กำลังกระวนกระวายใจมาจนถึงชั้นสูงสุดของโรงแรมซึ่งทั้งชั้นมีห้องเพียงห้องเดียวและพิเศษกว่าห้องอื่นๆ

     

    มันเป็นห้องสวีท

     

                “คุณกำลังจะทำอะไรคะ?” เสียงหวานถามขึ้นทันทีเมื่อเห็นซาสึเกะใช้คียการ์ดรูดไปที่ช่องเสียบเพื่อปลดล็อคประตู เขาไม่ได้ตอบคำถามของเธอแต่กลับใช้สายตาดุดันจ้องมองเธอราวกับเธอเป็นนักโทษแทน ซาสึเกะพยักเพยิดหน้าเป็นเชิงบอกให้เธอเข้าไปในห้องที่เปิดประตูค้างอยู่ ซากุระสั่นหัวน้อยๆ ใบหน้านวลซีดเผือดเพราะความกลัว

     

    สถานการณ์แบบนี้ใครมันจะกล้าเข้าไปอยู่ในห้องกับเขา!

     

                “เข้าไปข้างใน” ร่างสูงสั่งเสียงเข้มเมื่อเห็นว่าอีกฝ่ายยังคงยืนนิ่ง ดวงตาคู่สวยของเธอฉายแววประหวั่นเหมือนลูกกวางตัวน้อยๆที่กำลังเผชิญหน้าอยู่กับพญาราชสีห์ ซาสึเกะแค่นหัวเราะในลำคอ

     

    วันนี้จะขย้ำลูกกวางให้เละ!

     

                “คะ...คือว่า...พรุ่งนี้ฉันมีงาน...” ซากุระพูดตะกุกตะกักพยายามหาข้ออ้างหลบเลี่ยงการเผชิญหน้ากับเขา ซาสึเกะชักสีหน้าอย่างหงุดหงิด ฤทธิ์ของสุราทำให้เขาเซจนต้องจับขอบประตูเอาไว้ นัยน์ตาคมจ้องมองลูกกวางตัวน้อยกึ่งสมเพช

     

                “งาน? งานอะไร? ไม่สิ ต้องถามว่างาน พรุ่งนี้หรือ คืนนี้ถึงจะถูก” ได้ทีก็แขวะร่างบางเข้าให้ พึงพอใจยิ่งนักที่เห็นใบหน้างามเจื่อนลงไป

     

    คิดว่าเขาจะปล่อยให้เธอกลับไปหาไอ้งั่งนั่นง่ายๆเหรอ?

    ไม่มีทาง!

     

                “ฉันมีงานจริงๆค่ะ พรุ่งนี้ฉันต้องไปงานประมูลกับพี่นา...กับประธานอุซึมากิ” ซากุระเอ่ยอย่างใจเย็น พยายามระงับอารมณ์โกรธที่เริ่มก่อตัวแต่ไม่ค่อยได้ผลเท่าไหร่นักจนตัวเองพูดผิดพูดถูก

     

                “เหอะ! อย่าเอางานมาอ้างหน่อยเลย ถึงไอ้บ้านั่นมันจะกระจอกแค่ไหนแต่ฉันก็ไม่คิดว่ามันจะงี่เง่าพอที่จะเอาเด็กฝึกงานติดตามมาด้วยหรอก...” เขาพูดพร้อมกับเหยียดยิ้ม “...เว้นแต่ว่าจะเอามาทำอย่างอื่นที่ไม่ใช่งาน”

     

                “คุณซาสึเกะ!

     

                “แทงใจดำล่ะสิ”

     

                “ฉันกับท่านประธานไม่ได้เกี่ยวข้องกันแบบนั้นค่ะ กรุณาทำความเข้าใจใหม่ด้วย” เธอเอ่ยเสียงขุ่นเขียว ใบหน้าหวานที่บึ้งตึงเชิดขึ้นเล็กน้อย ซาสึเกะมองคนตรงหน้าสายตาที่แสนดูถูกก่อนที่ขายาวๆของเขาจะก้าวเข้าไปหาคนอวดดีโดยที่อีกฝ่ายไม่ทันตั้งตัว ร่างบางผงะตกใจจนเผลอก้าวถอยหลัง ดวงตาสีมรกตมองคนที่ก้าวพรวดมาหาตัวเองอย่างหวาดๆ แค่สบตากับเขาความโกรธของเธอก็หายไป...

     

    มันถูกแทนที่ด้วยความกลัว...

     

                “เข้าไปข้างใน ฉันกับเธอมีเรื่องต้องทำความเข้าใจกันอีกยาว!

     

    .

    .

    .

     

     

                “ลาออกจากที่นั่นซะ”

     

    เป็นประโยคแรกที่เขาเอ่ยทันทีที่บังคับให้เธอเข้ามาอยู่ในห้องสวีทสุดหรูจนสำเร็จ ซาสึเกะปิดประตูก่อนจะล็อคมันด้วยโซ่ล็อคแล้วเอนหลังพิงเป็นการปิดทางออกของเธอโดยสมบูรณ์แบบ ซากุระที่อยู่ในสภาพถูกขังอยู่ในห้องได้แต่มองคนตัวโตด้วยแววตาตื่นตระหนก ไม่ใช่แค่ตกใจที่ต้องอยู่ในห้องกับเขาสองต่อสอง แต่ประโยคที่เขาเพิ่งพูดไปก็สร้างความตกใจให้เธอได้ไม่แพ้กัน

     

                “คุณ... คุณพูดว่าอะไรนะคะ” ถามย้ำเพื่อให้แน่ใจว่าตัวเองไม่ได้ฟังอะไรผิด ซาสึเกะยืนกอดอกมองเธอนิ่งก่อนจะย้ำประโยคเดิมช้าๆเพื่อให้เธอได้ซึมซับมันเข้าไปในหัว

     

                “ลาออกจากที่นั่น”

     

                “ไม่มีทาง” เธอปฏิเสธเสียงแผ่วเมื่อได้ยินประโยคที่เขาพูดชัดๆ

     

    จู่ๆเป็นบ้าอะไรขึ้นมา?

     

    “ฉัน...ไม่ลาออกเด็ดขาด”

     

                “ฉันสั่ง...” เขาเอ่ยกึ่งขู่ ดวงตาสีรัตติกาลฉายแววหงุดหงิดขึ้นมาทันทีเมื่อได้ยินเธอปฏิเสธ

     

    ทำหน้าอย่างกับคนโดนยาเบื่อ!

    นี่เขาแค่สั่งให้ไปลาออก

    ไม่ได้สั่งให้ไปตายเสียหน่อย!

     

                “...และเธอก็ต้องทำตามคำสั่งของฉัน” ย้ำอีกทีด้วยน้ำเสียงที่ข่มขู่กว่าเดิม ร่างบางชักสีหน้าอย่างขัดใจ คิ้วเรียวขมวดเข้าหากันเป็นปมเหมือนกำลังสับสนในประโยคคำสั่งของเขา ริมฝีปากบางเม้มสนิทจนแทบจะเป็นเส้นตรงก่อนจะเอ่ยคำค้านออกมาในที่สุด

     

                “แต่มันไม่ได้อยู่ในสัญญานี่คะ ฉันไม่จำเป็นต้องทำตามที่คุณสั่ง และที่สำคัญฉันก็ยังอยู่ในฐานะนักศึกษาฝึกงาน ถ้าลาออกก็เท่ากับว่าฉันฝึกงานไม่ผ่าน เรียนไม่จบ คุณมาสั่งให้ฉันลาออกแบบนี้มันไม่ใจร้ายเกินไปหน่อยเหรอคะ?” เธออธิบายไปด้วยเหตุผล แต่คนชอบเอาแต่ใจอย่างเขามีหรือจะฟัง แค่เห็นแววตาดื้อรั้นของเธอที่แสดงออกอย่างชัดเจนว่าจะขัดคำสั่งเขาร่างสูงก็เดือดปุดๆในใจ

     

    เขาไม่ชอบความดื้อรั้นของเธอ...

    โดยเฉพาะมาดื้อกับเขาเรื่องนี้...

     

                “แสดงว่าเธอคิดจะขัดคำสั่งฉัน?” ซาสึเกะถามเสียงเรียบนิ่ง ใบหน้าของเขาดูสงบจนคนมองนึกหวั่นๆในใจ แต่ก็ยังพยายามรวบรวมความกล้าเอ่ยคำโต้แย้งออกไป

     

                “ก็ที่คุณสั่งมันไม่มีเหตุผล” เธอเถียง“และฉันก็ไม่ใช่ทาสของคุณนะคะที่จะต้องทำตามที่คุณบอกทุกอย่าง จบจากงานบ้าๆนี่ฉันก็จะมีชีวิตเป็นของตัวเอง ฉันต้องเรียนจบและจะเริ่มต้นชีวิตใหม่ด้วยสิ่งที่ฉันเรียนมา คุณไม่มีสิทธิ์มาทำลายอนาคตของฉันด้วยการตัดโอกาสฉันแบบนี้”

     

                “อย่าเอาเรื่องเรียนมาอ้าง!” คนตัวสูงตะคอกเสียงดังอย่างหมดความอดทน “กะอีแค่ย้ายที่ฝึกงานน่ะทำไม่ได้รึไง? ฉันไม่ต้องการให้เธอทำงานอยู่กับไอ้บ้านั่น ถ้าเกิดเธอปากสว่างไปเล่าให้มันฟังเรื่องฉันจ้างเธอมาทำลูกขึ้นมาล่ะจะว่าไง?”

     

                ร่างบางแทบสะอึกเมื่อได้ยินเหตุผลที่แท้จริงที่ทำให้เขายอมลงทุนลากเธอขึ้นมาเจรจาบนห้องสวีทและออกคำสั่งให้เธอลาออกจากที่ทำงาน

     

    เขาแค่กลัวว่าเธอจะเอาเรื่องของเขาไปประจาน...

     

                ซากุระยิ้มให้กับตัวเองอย่างสมเพช...

     

    มันเป็นเรื่องน่าภูมิใจที่เธอต้องเอาไปประกาศเชียวหรือ?

     

                “เรื่องต่ำๆแบบนั้นฉันไม่เอาไปโพนทะนาให้คนอื่นเค้ารู้หรอกค่ะ!... คุณสบายใจได้เลย” เธอเอ่ยเสียงกร้าวแต่คนฟังกลับแค่นหัวเราะอย่างดูถูก

     

                “แล้วทำไมฉันต้องเชื่อเธอ?” ร่างสูงเอ่ยด้วยน้ำเสียงที่แสนเย้ยหยัน “ ไปลาออกจากที่นั่นซะ!และก็เตรียมตัวกลับไปอยู่ที่บ้านฉันได้แล้ว!

     

                คำพูดของเขาทำให้คนตัวเล็กยืนนิ่งไปเหมือนโลกทั้งใบของเธอพังทลายลง แข้งขาอ่อนแรงจนทรงตัวไว้แทบไม่อยู่ นี่นอกจากจะให้เธอลาออกแล้วเขายังจะบังคับให้เธอกลับไปอยู่กับเขาอีกหรือ?

     

    เขาไม่สงสารเธอบ้างรึไง?

     

                “ฉันไม่ลาออก! และฉันก็จะไม่กลับไปที่บ้านของคุณด้วย!” เธอปฏิเสธเสียงแข็งพอๆกับดวงตาที่ก็แข็งกร้าวเหมือนกัน

     

                “เธอกำลังจะทำผิดสัญญานะ...” เขาพูด เอาสัญญามาขู่เผื่อว่าคนตรงหน้าจะยอมลงให้สักนิด คำว่า ไม่กลับไป ของเธอดูจะทำให้เขาใจแป้วไปโดยไม่รู้ตัว แต่มันก็เป็นความรู้สึกที่เบาบางเสียจนตัวเขาเองยังจับแทบไม่ได้

     

                ซากุระเลิกคิ้วมองคนตัวสูงราวกับเพิ่งได้ยินคำพูดประหลาดหลุดออกมาจากปากของเขา เธอเหยียดยิ้มประชดประชันจนคนมองแทบจะยั้งมือไม่ให้เข้าไปตะปบเจ้าหล่อนไม่อยู่

     

                “ในสัญญาระบุแค่ว่าฉันต้องท้องให้คุณ เอาเด็กให้คุณ แล้วฉันก็ต้องไป ห้ามบอกเรื่องนี้กับใคร...และห้ามมาข้องเกี่ยวกับคุณและเด็กอีก...ตลอดชีวิต...” ริมฝีปากบางเอ่ยคำพูดที่แสนเจ็บปวดออกมาอย่างยากลำบาก ดวงตาสีมรกตกระพริบถี่ๆไล่น้ำใสๆที่รื้นขึ้นมาโดยไม่รู้ตัว

     

    “ฉันจำทุกข้อได้แม่นค่ะ ไม่มีข้อไหนระบุว่าฉันต้องอยู่กับคุณ และเรื่องทะเบียนสมรสนั่นมันก็ไม่มีผลอะไรอยู่แล้ว ตรงกันข้าม... คุณให้ฉันทำสัญญาอีกฉบับเพื่อจะแน่ใจได้ว่าฉันจะหย่าและยอมจากคุณไปแต่โดยดีหลังจากที่เอาเด็กให้คุณแล้ว ยังไงคุณก็ต้องการให้ฉันไปอยู่แล้วนี่คะ ถ้างั้นก็ปล่อยฉันไปตอนนี้เถอะค่ะจะได้วิน-วินกันทั้งคู่”

     

    พูดไปก็เจ็บไป หัวใจดวงน้อยชาหนึบเหมือนถูกเข็มนับพันเล่มทิ่มแทง มันไม่มีทาง วิน-วิน ได้หรอกเธอรู้ดี... อย่างน้อยก็มีเธอนี่แหละที่ต้องแบกรับความเจ็บปวด ความเจ็บปวดที่ดูเหมือนจะมีมากยิ่งขึ้นเป็นเท่าทวีคูณ

     

    ยิ่งอยู่ใกล้เขา...

    ยิ่งเห็นหน้าเขา...

    เธอก็ยิ่งเจ็บปวด...

     

                “หรือคุณเกิดเปลี่ยนใจอยากอยู่ใกล้ฉันขึ้นมาล่ะคะ?” เธอถามออกไปอย่างประชดประชันและก็ได้รับคำตอบแทบจะในทันที

     

                “ที่ฉันให้เธอกลับมาก็ไม่ใช่เพราะอยากจะให้เธอกลับ! ฉันขยะแขยงเธอทุกครั้งที่เห็น รู้สึกสะอิดสะเอียนแทบตายที่ต้องใช้อากาศหายใจร่วมกับคนอย่างเธอ”

     

    “...”

     

    “แต่ที่ฉันต้องลากตัวเธอกลับตอนนี้ก็เพราะฉันไม่ต้องการให้เธอมั่วไปหาผู้ชายคนโน้นคนนี้ พฤติกรรมเหมือนผู้หญิงโคมเขียวแบบนี้ฉันจะแน่ใจได้ยังไงว่าเด็กที่เกิดมามันจะเป็นลูกของฉันไม่ใช่ลูกของไอ้หน้าโง่ที่เธอเคยคั่วมาก่อน!

     

    คำดูถูกของเขาช่างร้ายกาจยิ่งนัก

     

    แต่มันก็ไม่น่าจะทำให้เธอเจ็บได้ขนาดนี้ไม่ใช่หรือ?

               

    “หยุดดูถูกฉันซักที...” เธอพูดเสียงสั่น ร่างทั้งร่างสั่นเทิ้มไปด้วยความรู้สึกที่ยากจะเข้าใจ เจ็บปวดทั้งอนาคตที่กำลังจะมาถึง... เจ็บปวดแม้กระทั่งปัจจุบันที่กำลังเผชิญอยู่

     

    เธออยากจะไปให้มันพ้นๆหน้าเขานัก...

    ไม่ได้อยากได้ยินแม้กระทั่งเสียงของเขา...

     

    “เหอะ! รับไม่ได้รึไง? ฉันพูดอะไรผิดเหรอ?” ซาสึเกะพูดพร้อมกับระบายยิ้มเหยียดหยัน เขาคงจะพูดจี้ใจดำล่ะสิ เจ้าหล่อนถึงได้ยืนก้มหน้าก้มตาขอร้องให้เขาหยุดพูดแบบนั้น

     

    “คุณลืมอะไรไปรึเปล่าคะ?” เมื่อทำหัวใจที่ปวดร้าวให้เข้มแข็งขึ้นมาได้หน่อย ร่างบางก็พูดขึ้นด้วยน้ำเสียงที่เขาไม่ชอบ

     

    มันเหมือนเธอกำลังตัดพ้อ...

     

    “เด็กคนนี้จะเกิดจากการผสมเทียม... เด็กที่เกิดจากพ่อแม่ที่เกลียดกันแทบตายคนนี้จะเกิดโดยที่ฉันกับคุณไม่ต้องแตะเนื้อต้องตัวกันเลย! ทุกอย่างหมอจะเป็นคนจัดการให้เพราะฉะนั้นคุณมั่นใจได้เลยค่ะว่าเด็กที่จะอยู่ในท้องของฉันคือลูกของคุณ แต่ถ้าคุณคิดว่าฉันจะไปยั่วหมอแล้วร่วมมือกันมาหลอกคุณ...ฉันก็จนปัญญาจะอธิบายแล้วค่ะ”

     

    “เหอะ! แล้วถ้าเธอไปมั่วจนท้องมาก่อนที่หมอจะทำกิฟต์ให้ล่ะจะว่าไง? ฉันที่มีทะเบียนสมรสกับเธอไม่ต้องรับเป็นพ่อเด็กเหรอ?” เขายังคงหาเหตุผลมาเถียงเธอจนได้ แม้ว่ามันจะดูงี่เง่าแต่ถ้าใช้เป็นข้ออ้างในการลากตัวแม่ตัวดีกลับไปอยู่ร่วมชายคาเดียวกันได้อีกครั้งเขาก็คงต้องทำ

     

     “ฉันไม่ยอมให้มีความเสี่ยงใดๆเกิดขึ้นกับแผนของฉันเป็นอันขาด ลาออกจากงานและเก็บข้าวเก็บของย้ายเข้ามาอยู่บ้านฉันซะ!” ร่างสูงยื่นคำขาดแต่คนดื้อรั้นเองก็ไม่ยอมทำตาม เธอตอบโต้เขาด้วยเสียงที่ดังไม่แพ้กัน  

     

    “ฉันไม่ไปค่ะ ฉันจะไม่ยอมเข้าไปอยู่ในคุกนรกนั่นอีกแน่”

     

    “อย่าให้ฉันต้องพูดหลายรอบ!

     

    “ฉันจะไม่กลับไป ฉันจะไม่ลาออก ฉันจะไม่ทำอะไรตามที่คุณสั่งอีกแล้ว! ขอตัวค่ะ!” เธอพูดก่อนจะเดินเข้ามาประชิดตัวเขา บ่งบอกจุดประสงค์แน่ชัดแล้วว่าจะออกไปจากห้องให้ได้ต่อให้เขามาขวางทางก็ตาม

     

    “จะรีบกลับไปหามันรึไง? ไอ้บ้านั่นเมาขนาดนั้นมันไม่มีปัญญาตื่นขึ้นมาทำอะไรเธอหรอก” คนขวางทางพูดขึ้นด้วยเสียงดูถูกปนหงุดหงิด “แต่ถ้าจะพูดกันตามตรงมันก็ควรจะรอคิวนะ ฉันเป็นสามีที่ถูกต้องตามกฎหมายมันก็น่าจะให้คิวฉันก่อนสิ พวกลักกินขโมยกินน่ะ... รอรับแค่เศษเหลือๆจากฉันก็พอ”

     

    “ฉันกับพี่นารูโตะไม่เคยทำเรื่องต่ำๆแบบนั้น...” เธอพูดเสียงสั่นระริก อธิบายความรู้สึกที่เป็นอยู่ไม่ได้ แต่ที่รู้แน่คือ เจ็บ...

     

    เจ็บปวดกับคำพูดของเขา...

     

    “ยี่ห้อผู้หญิงกลางคืนแบบนี้คิดว่าฉันจะเชื่อเหรอว่าเธอกับมันไม่ได้ไปแอบกินกันมาแล้ว เหอะ! ขอเถอะ อย่างน้อยช่วงที่ทำหน้าที่เป็นอู่ลูกให้ฉันก็ช่วยสงบเสงี่ยมหน่อย เก็บความต้องการผู้ชายของเธอเอาไว้บ้าง มันคงไม่ทำให้เธอถึงกับขาดใจตายหรอกใช่มั้ย?”

     

    เกิดความเงียบขึ้นมาชั่วขณะ... เป็นช่วงเวลาที่หัวใจดวงน้อยถูกคำพูดน่าเจ็บปวดทำลายจนย่อยยับ ดวงตาสีมรกตมองคนที่ยืนเหยียดยิ้มอย่างทรมาน... ความหวั่นไหวที่เกิดขึ้นมันคงแปรเปลี่ยนไปแล้วกระมัง มันอาจจะเป็นมากกว่าความหวั่นไหว... คำพูดที่เขาเคยพูดกับเธอเมื่อวันแรกที่เธอเดินเข้าไปในบ้านของเขายังคงก้องอยู่ในหัว...

     

    “อย่ารักฉัน... อย่า... แม้แต่จะคิด”

     

    เขารู้ล่วงหน้าหรือว่าเธอจะหลงรักเขา?

     

    ที่เธอต้องทนเจ็บปวดแบบนี้ไม่ใช่ความผิดของเขาหากแต่เป็นความผิดของเธอเอง... เขาก็เตือนเธอแล้วแต่เธอก็ยังปล่อยใจไปหาเขา ซากุระอยากจะหัวเราะสมเพชความงี่เง่าของตัวเอง เขาร้ายกาจขนาดนั้นเธอก็ยังไปปันใจให้เขา...

     

    เขาเป็นผู้ชายคนแรกนอกจากพ่อที่อยู่ร่วมชายคาเดียวกับเธอ...

    เขาเต็มเปี่ยมไปด้วยเสน่ห์ที่ดึงดูดให้เธอหลงใหล...

     

                แต่เธอควรจะตัดใจ... อยู่ให้ห่างจากเขาเถอะ อย่าเอาตัวเองเข้าไปใกล้... ถอยออกมาตอนนี้อาจจะยังทัน

     

    เธออาจจะเจ็บน้อยลง...

     

    “ขาดใจตาย?” หญิงสาวทวนคำเสียงสูง ริมฝีปากบางระบายยิ้มเย้ยหยัน “หึ! ฉันคงต้องขาดใจตายแน่ๆค่ะถ้าวันไหนไม่ได้ผู้ชายมาสนองตัณหา”

     

    !!!

     

    “คุณพูดถูกแล้วล่ะค่ะ ที่ฉันไม่ยอมลาออกจากบริษัทก็เพราะว่าฉันอยากจะอยู่เห็นหน้าพี่นารูโตะไปนานๆ... คุณรู้มั้ยคะว่าเค้าเป็นผู้ชายที่ดีมาก หล่อ รวย แถมลีลาบนเตียงยังร้อนแรงอีกต่างหาก ฉันล่ะไม่แปลกใจเลยค่ะว่าทำไมผู้หญิงครึ่งค่อนประเทศถึงได้อยากนอนกับเค้านัก ก็เค้าน่ะสุดยอดที่สุดยังไงล่ะคะ” พูดออกไปทั้งน้ำตา

     

    ถ้ายัดเยียดให้เธอเป็นผู้หญิงอย่างว่าก็สนองเขาหน่อยเป็นไง...

     

    “นี่เธอกับมัน...”

     

    “ใช่! ฉันกับพี่นารูโตะก็เป็นอะไรๆแบบที่คุณคิดนั่นแหละค่ะ อุตส่าห์ว่าจะปิดบังเพื่อไม่ให้คุณรู้สึกแย่แต่ดันมารู้ก่อนแบบนี้มันก็ช่วยไม่ได้” เธอพูดพร้อมกับหัวเราะเสียงสูง ร่างสูงแทบช็อคเมื่อได้ยินคำสารภาพที่เหมือนสายฟ้าผ่าฟาดกลางตัว ความโกรธไหลพล่านไปทั่วจนร่างทั้งร่างสั่นเทิ้ม มือหนากำเข้าหากันแน่นก่อนจะสบถคำด่าออกมา

     

    “ต่ำ!

     

    “รู้ความจริงแบบนี้แล้วก็ปล่อยฉันไปซักทีเถอะค่ะ คืนนี้ถ้าไม่มีฉันให้นอนกอดพี่นารูโตะคงจะนอนไม่หลับ... ก็นะ อยู่ด้วยกันทั้งวันทั้งคืนมาตั้งสองอาทิตย์ ถ้าจู่ๆแยกกันไปก็เหงาใจแย่ ขอความเห็นใจด้วยนะคะ คุณสามี

     

    “เธอ...กำลังจะยั่วโมโหฉันใช่มั้ย!?!

     

    “แย่ล่ะ! ดูเหมือนว่าคุณจะโกรธนะคะที่ฉันพูดความจริง ฉันไม่ได้ยั่วโมโหค่ะแต่กำลังขอให้คุณเข้าใจฉันหน่อย อาทิตย์หน้าฉันก็ต้องไปพบหมอเพื่อตรวจร่างกายเตรียมความพร้อมจะเป็นอู่ลูกให้คุณแล้ว ยังไงอาทิตย์นี้ก็ขอให้ฉันได้มีความสุขกับคนที่ฉันรักก่อนนะคะ”

     

    “รัก? นี่เธอ...รักมันเหรอ?” ถามออกไปด้วยเสียงเบาหวิวจนเหมือนเสียงกระซิบ ไม่รู้ว่าในใจกำลังหวังอะไรอยู่แต่ขอเธออย่าพูดคำนั้นออกมาให้เขาได้ยินเลย...

     

    “ค่ะ ฉันรักพี่นารูโตะมาก รักมาตั้งแต่เด็ก...” เธอตอบพร้อมกับยิ้มหวาน ก่อนที่รอยยิ้มนั้นจะเปลี่ยนเป็นความขมขื่น “ก่อนที่ฉันจะมาเจอปีศาจอย่างคุณ!

     

    เจ็บ...

     

                ชัดแล้วว่าเจ็บ... ร่างสูงหูตาพร่ามัวเหมือนถูกของแข็งฟาดเข้าที่ศีรษะอย่างแรง มันเบลอเสียจนเขาคิดว่าตัวเองกำลังจะหมดสติ ดวงตาสีรัตติกาลสั่นระริก... โกรธหรือ? แน่ล่ะว่าเขาโกรธ แต่โกรธแล้วทำไมรู้สึกเสียดที่อก... ความโกรธสร้างความเจ็บได้หรือ?

     

    ไม่รู้...

     

                ซาสึเกะพยายามทำใจให้สงบแม้มันจะยากเกินทนก็ตามที เขาเค้นคำพูดออกมาอย่างยากลำบาก...

     

    “แต่เธอเป็นเมียของฉัน!

     

    “มันก็เป็นแค่ในนาม!” เธอสวนขึ้นแทบจะในทันที

     

    “...”

     

    “คุณก็รู้นี่คะ... หรือสมองเสื่อมจนจำไม่ได้ว่าฉันน่ะเป็นแค่เมียจ้าง” พูดเสียงเย้ยหยันพอๆกับน้ำเสียงที่เขาใช้พูดดูถูกเธอประจำ

     

    “...”

     

    “ถ้าไม่มีอะไรแล้วฉันขอตัวนะคะ เจอกันอาทิตย์หน้าที่โรงพยาบาล ฉันจะเตรียมตัวไว้รอรับลูกของคุณอย่างดีเลยล่ะค่ะ!” เธอว่าก่อนจะดันตัวคนขวางประตูให้ไปพ้นๆทาง แต่คนตัวโตก็ไม่สะทกสะท้าน เขาไม่ขยับเขยื้อนแม้แต่เซนติเมตรเดียว ซาสึเกะใช้ดวงตาคู่แข็งแกร่งมองมาที่เธอราวกับจะสาปให้เธอหายไปจากโลก ถ้าเป็นสถานการณ์ปกติเธอคงจะกลัวจนหัวหดแล้ววิ่งไปหลบตรงมุมไหนซักมุม แต่ตอนนี้ความเจ็บปวดสุดหยั่งทำให้เธอไม่กลัวแม้กระทั่งสายตาปีศาจของเขา

     

    จะทำอะไรก็ช่างเขา...

    เธอคงไม่เจ็บมากไปกว่านี้แล้วล่ะ...

     

    “ช่วยหลีกทางด้วยค่ะ” เธอพูดด้วยเสียงสงบ ซาสึเกะที่ยืนมองอยู่แค่นยิ้มก่อนจะพูด

     

    “คิดว่าฉันจะยอมปล่อยให้เธอไปบรรเลงรักกับไอ้บ้านั่นรึไง”

     

    “หึ! คุณอย่า...”

     

    “เธอเป็นเมียฉัน เป็นสมบัติของฉัน...” เสียงของซากุระถูกกลบด้วยเสียงที่เต็มไปด้วยความโกรธแต่เย็นเยียบของซาสึเกะ เขาเดินย่างสามขุมเข้ามาหาเธออย่างน่ากลัวจนเธอต้องเดินถอยหลังหนีไปเสียไกล

     

    !!!

     

    “จำใส่กะลาหัวเอาไว้ให้ดีๆ” เขาพูดก่อนจะพุ่งตัวเข้ามาหาเธอ

     

    “ว่าเธอเป็นของฉัน!!!

     

     

     

                จบแล้วสำหรับตอนที่ 19 เย่!!! รอนานกันมากเลยใช่มั้ยคะTT ไรท์พยายามจะแต่งแล้วน่ะแต่พักหลังๆนี่แต่งได้ช้ามาก (ไม่สิ ต้องบอกว่าหัวเบลอไปจนแต่งไม่ได้มากกว่า) มีNC ต่อจากตอนนี้นะคะใครอายุผ่านแล้วก็ไปขอเลยเน่อ

     

    แจ้งอีกเรื่องที่สำคัญคือไรท์จะประกาศดอง รายละเอียดอยู่ในตอนย่อยจ้ะ ไม่ได้ทิ้งนะตัวเองTT แต่ไรท์ใกล้สอบและก็คงจะเครียดมากเกินไป คือผลงานดรอปลงเยอะเลย(รู้ตัวTT) ใช้เวลาแต่งก็นาน แบบว่า... มันเหมือนไรท์ดันทุรัง เอาเป็นว่าสอบเสร็จแล้วจะกลับมาแต่งต่อให้จบค่ะ เรื่องนี้มีพล็อตไปจนถึงตอนจบแล้วไม่ต้องกลัวว่าไรท์จะทิ้ง อย่างตอนนี้ที่ใช้เวลาเป็นอาทิตย์นี่ไรท์วางโครงเอาไว้ละเอียดมากนะแต่มันก็ยังช้าเพราะคิดคำบรรยายไม่ออก เฮ้อ... อนาถจ้ะ ขออภัยรีดเดอร์ที่น่ารักเอาไว้ตรงนี้นะคะ ส่วนวันเวลาแกะไหดองไรท์จะแจ้งเอาไว้แบบที่แน่นอน ถ้าไม่มาตามนัดก็ไปทวงได้เลย 555+

     

    ขออภัยมาตรงนี้ด้วยน้า กระซิกๆT.T

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×