คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #14 : บอร์ดลอย
หลังจากเด็กเกรดนึ่งที่เพิ่งถูกรับน้องใหม่ๆไปหมาดจากรุ่นพี่เกรดหกกิจกรรมรับน้องใหม่นี้ถูกจัดขึ้นเป็นปีที่สามสิบหก เด็กเกรดหนึ่งรุ่นนี้จึงจัดกิจกรรมนี้เป็นพิเศษเพราะเป็นการครบรอบที่สาม พวกรุ่นพี่ไม่ได้จัดขึ้นเพียงลำพังมีการเปิดโอกาสให้กับเด็กนักเรียนเกรดอื่นๆด้วยทำให้ครึกครื้นเป็นพิเศษ กิจกรรมที่จัดขึ้นมานี้แตกต่างโดยสิ้นเชิงกับกิจกรรมรับน้องทั่วๆไปในโรงเรียนธรรมดาต่างๆ ที่โรงเรียนแอนกริสจะจัดขึ้นคล้ายๆกับงานฉลองเทพเจ้า แต่ไม่มีเหล้า ไม่มีของมึนเมา ผอ.ดอลลี่ จะไม่มีการเรียนการสอนในวันนี้เลยเหมือนกับเป็นวันสำคัญวันหนึ่งที่ถูกเว้นไว้โดยเฉพาะ เขตพื้นที่ของโรงเรียนนับสี่สิบไร่ถูกจัดเป็นโซนต่างๆในการทำกิจกรรมมันถูกทำให้คล้ายๆกับสวนสนุกเด็กเล่น รุ่นพี่ที่อยู่เกรดหกจะให้น้องๆเกรดหนึ่งตระเวนไปข้างในตึกต่างๆของโรงเรียนที่รุ่นพี่เกรดหกได้แอบจัดกิจกรรมแปลกๆขึ้น บางคนเพิ่งจะขึ้นบันไดก็โดนผีที่มีรูปร่างเหมือนแคสเปอร์ลอยมาจากด้านบนสี่ตัวลอยผ่านทะลุร่างๆของเด็กจำนวนหนี่งแล้วก็หายไป บางคนถึงกับตกใจเกาะเสื้อคุลมของเพื่อนข้างๆไว้แน่นแต่ก็มีนักเรียนหญิงที่ร้องกรี๊ดเหมือนกันแต่นั่นก็ยิ่งทำให้พวกรุ่นพี่ได้ใจ แต่พวกผู้ชายส่วนใหญ่รวมถึงเจลาลิ่งที่อยู่ด้วยนั้นไม่รู้สึกสะทกสะท้านอะไรแม้แต่น้อยเพราะพวกเขาเตรียมใจเอาไว้แล้วว่าต้องมีอะไรพิศดาลเกิดขึ้นแน่ๆแค่ไม่ขึ้นลิฟท์นี่ก็พอรู้อยู่แก่ใจแล้ว อีกกลุ่มหนึ่งของนักเรียนเกรดหนึ่งก็โดนรุ่นพี่แกล้งเช่นเดียวกันโดนพาเข้าไปในตึกแต่คราวนี้โดนแปลกไปจากกลุ่มของเจลาลิ่ง พวกเขาอยู่ในห้องใหญ่ซึ่งดูแล้วก็ไม่น่าจะมีอะไรบางคนก็เริ่มเอะใจ บางคนก็ไม่ได้สนใจ แต่จู่ๆไฟก็ดับลงโดยเฉพาะนักเรียนหญิงตื่นตูมเป็นพิเศษส่วนนักเรียนชายบางคนคงเห็นเป็นเรื่องธรรมดาที่จะแกล้งกันแบบนี้แต่มันไม่ได้มีแค่นั้น พวกรุ่นพี่เกรดหกสร้างเวทย์แปลกๆที่พวกน้องใหม่เกรดหนึ่งไม่เคยเห็น เวทย์ไฟฟ้าที่กระพริบบนเพดานห้อง เวทย์หิมะที่โปรยปรายลงมา เวทย์ล่องหนที่แกล้งได้เป็นอย่างดี รุ่นพี่คนหนึ่งแกล้งทำเป็นผีไปสะกิดหลังนักเรียนหญิงพอเธอหันกลับมาอีกทีก็ไม่มีอะไร แกล้งกันได้อยู่นานจึงเลิกแต่สมาชิกในห้องลดลงทันตาเห็นนักเรียนชายไม่มีใครหายซักคนส่วนนักเรียนหญิงหายไปจนเหลือสองสามคนในห้อง แต่นั่นก็ไม่ได้ทำให้รุ่นพี่เกรดหกพอใจนักพวกเขาจึงหาอะไรสนุกๆโดยการสร้างปีศาจน้ำและก็ทำให้ห้องเกิดลมกรรโชกมีเสียงหวิวมานิดๆก่อนที่ปีศาจน้ำจะคำรามใส่จนพวกเด็กเกรดหนึ่งหนีออกจากห้องไปกันทุกคน
"จะว่าไปกิจกรรมรับน้องนี่มันมันส์จริงๆเลยนะ"เค้กเอ่ยด้วยรอยยิ้มที่มุมปากขณะคิดภาพเมื่อสองวันที่แล้ว
"มันก็แปลกดีนะ"เจลาลิ่งเอ่ยเสียงเรียบ "ต่างจากที่นั่นเยอะเลย"ที่นั่นที่เจลาลิ่งว่านั้นหมายถึงโรงเรียนมัธยมที่เขาเรียนอยู่
"ฉันนะเสี้ยวไส้หมด มีตัวประหลาดควักไส้ออกมาให้ดูแล้วก็เจ้านกเหยี่ยวตัวนั้นมนก็กัดแทะเล็มๆ อยากจะอ้วก"มินท์พูดด้วยท่าทางสะอิดสะเอียนแต่เธอก็พยายามไม่ให้มันรู้สึกไปมากกว่านั้น ขณะคนที่นั่งข้างๆก็คล้อยตามไปด้วย
"เจ้าเหยี่ยวมาจากไหนกันน่ะ"เค้กถามด้วยความสงสัย
"ก็สัตว์เลี้ยงของพี่เกรดหกน่ะสิ สงสัยจะเรียนวิชาการควบคุมนก"จีลเสริม
"ตัวมันใหญ่มากเลยนะนั่น"แคร์เทรก
"เธอสามคนอยู่ด้วยกันเหรอ"เจลาลิ่งกำลังหมายถึงจีล มินท์แล้วก็แคร์
"ใช่แล้ว"ทั้งสามคนตอบเป็นเสียงเดียวกัน
ทั้งห้าคนก็คุยกันอย่างสนุกสนานภายใต้ร่มเงาของต้นไม้ใหญ่ข้างๆสนามหญ้าในเวลาพักเที่ยงซึ่งเป็นจุดเกิดเหตุกับมินท์ในการเรียนวิชาการควบคุมไฟฟ้าครั้งที่แล้วแต่เธอก็ไม่ได้เล่าให้เพื่ออีกสามคนฟังเพราะอาย
"เอาละ...อ๊อดดังแล้วนะแล้วเจอกันนะแคร์วันนี้เธอเรียนตึกเจนิสใช่รึเปล่า เจอกันหลังเรียนนะ"แคร์เป็นคนเดียวที่ไม่ได้อยู่ห้องเดียวกันกับเพื่อนๆอีกทั้งสี่คน แต่เธอเองก็ไม่ได้เหงาอะไรเพราะเพื่อนเธอในห้องก็มีอยู่หลายคนอยู่แล้ว
"แล้วเจอกันนะ..."แคร์ยิ้มให้กับทุกคนก่อนจะเดินเพียงลำพังออกไป
"แล้วนี่ต่อไปเราต้องไปเรียนตึกไหนกันละเนี่ย แล้ววิชาอะไร"มินท์เอ่ยพลางเอามืออันแสนนุ่มของเธอพัดที่ใบหน้าเพื่อคลายความร้อน
"ก็ที่...ตึกเมนิส วิชา...ภาษาสาม"จีลเอ่ยขึ้นหลังจากเงียบอยู่นาน
"อะไรนะ!!!"มินท์ทำท่าตกใจถึงที่สุดเธอเอาป้องปากไม่อยากเชื่อคำพูดที่เพิ่งได้ยินเมื่อตะกี้
"นี่เจ๊เป็นอะไรไป"เค้กถามพยายามทำน้ำเสียงหงุดหงิด
"พระเจ้า ภาษาสาม... ไม่นะ"เธอเอ่ยด้วยควมยากลำบากก่อนจะตั้งสติเอาไว้ได้
"เรียนๆไปเถอะน๊า วันนี้เป็นวันศุกร์นะพรุ่งนี้ก็ได้หยุดแล้ว"นั่นเป็นคำพูดของเค้กซึ่งเป็นการเยียวยาให้กับมินท์ได้อย่างเหลือเชื่อ สักพักเธอก็หน้าตายิ้มแย้มเหมือนเดิมและเดินออกนำหน้าเพื่อนๆ ไม่กลัวอุปสรรคข้างหน้าแม้ว่ามันจะลำบากเพียงใดก็ตาม
"ท่าจะเพี้ยนแฮะ"เค้กพึมพำอย่างงงๆ จีลกับแคร์ก็ได้แต่หัวเราะในลำคอ
"ครูมีเรื่องจะมาประชาพันธ์ให้กับทุกคน"ทุกคนในห้องใจจดใจจ่อตั้งใจฟังราวกับเป็นเรื่องสำคัญมากๆ "เดือนหน้าจะมีการแข่งขันบอร์ดลอย ใครสนใจก็สมัครผ่านทางนาฬิกาก็ได้" นาฬิกาก็เหมือนๆกับคอมพิวเตอร์เครื่องหนึ่งที่จะทำอะไรก็ได้
"เล่นกันยังไงคะ"เด็กผู้หญิงที่นั่งข้างหลังเจลาลิ่งถามขึ้น เธอคนนั้นเป็นคนที่ตอบคำถามหรือถามอะไรมากที่สุดเท่าที่เจลาลิ่งเคยเห็นและจะถามก่อนคนอื่นๆเสมอแต่เจลาลิ่งก็ยังไม่มีโอกาสได้รู้จักกับเธอคนนั้นเสียที ได้แค่หันไปมองข้างหลังบ้างหรือมองแวบๆบ้าง เธอเองจัดได้ว่าเป็นเด็กสาวหน้าตาดีที่สุดเลยกว่าได้
"หมายถึงวิธีการเล่นและกติกาใช่ไหม"อาจารย์โพรเทียส เอดิสัน ถามโดยไม่ต้องการคำตอบ "ผู้เล่นในสนามจะต้องใช้บอร์ดลอยส่วนการเล่นจะแบ่งออกเป็นสองทีมข้างละยี่สิบเอ็ดคน"
"แค่นี้เหรอคะ"เด็กสาวนั้นมองตาแป๋ว
"อ่อ ยังไม่หมดหรอก แค่คร่าวๆ"
"เข้าเรื่องในวิชาการกันต่อเลย..."ยังไม่ทันจะเริ่ม เด็กสาวที่นั่งๆข้างเจลาลิ่งก็เอ่ยขึ้นเธอคือจีลนั่นเอง
"แล้ว...รายละเอียดอื่นละคะ"จีลถามขึ้นสายตามองด้วยความสงสัย
"ดูตามบอร์ดตามตึกต่างๆละกัน มีติดไว้อยู่หรือไม่ก็จะดูผ่านทางนาฬิกาก็ได้... จะสอนต่อได้รึยังใครยังสงสัยอะไรอีกไหม"อาจารย์โพรเทียสยืนเงียบไปชั่วครู่เมื่อไม่มีใครแสดงความเห็นจึงอธิบายต่อ
วันนี้มินท์แทบจะหลับฟุบโตะโชคยังดีที่เค้กยังปลุกไว้ได้เรื่อยๆส่วนอาจารย์โพรเทียสก็สอนเกี่ยวกับเรื่องภาษามนุษย์ก็เช่นภาษาอังกฤษ ภาษาไทย ภาษาจีน และก็ภาษาเทพ ภาษาอสูร การประยุกต์ภาษาใช้ร่วมกัน เป็นเรื่องที่เข้าใจยากมากๆสำหรับมินท์และก็ทุกคนในห้องด้วย ผลการเรียนปลายภาคมีน้อยคนนักที่จะได้เกรดสี่อย่างมากก็สองสามคนจากนักเรียนทั้งระดับชั้น
"ถึงยังไงฉันก็ว่าวิชานี้น่าเบื่อมากที่สุด มันอะไรก็ไม่รู้ แค่ภาษาไทยอย่างเดียวก็น่าเบื่อที่สุดแล้ว"มินท์เอ่ยอย่างเหนื่อยใจ
"พวกเราก็ไม่แพ้กันละน่า"จีลเอ่ยทำนองเหมือนการให้กำลังใจไปในตัว ทุกคนพยักหน้าเห็นด้วย ขณะที่ทั้งห้าคนกำลังเดินทางไปเรียนวิชาสุดท้ายกัน
"วิชาสุดท้ายใครเรียนอะไรกันบ้างเนี่ย"มินท์ถาม
"การต่อสู้2 วันนี้วันทดสอบด้วย"เจลาลิ่งบอก
"แล้วเธอละ...จีล"มินท์ถามต่อ
"ควบคุมจิตใจ"จีลตอบสั้นๆ ขณะที่สายตาของมินท์มองมาที่แคร์
"การควบคุมสัตว์ป่า"แคร์ตอบ
"เรียนเหมือนกับเจลาลิ่ง"เค้กชิงตอบก่อนที่มินท์จะถาม
"ใครถามยะ"มินท์เอ่ยด้วยท่าทางเย้ยหยัน
"ภูมิใจนำเสนอ"เค้กพูดสวนกลับแทบจะในทันที มินท์ก็ไม่ได้มีท่าทีสวนกลับแต่อย่างใด แคร์เองก็หัวเราะในลำคอที่เห็นทั้งคู่กัดกันอยู่เป็นประจำ
"ไปก่อนนะ"เจลาลิ่งเอ่ยพร้อมๆกับเค้ก
"จ้า..."เด็กสาวสามคนพูดพร้อมกัน เมื่อมินท์เผลอหันไปสบตากับเค้กเด็กสาวก็แกล้งทำเป็นไม่สนใจขณะที่เค้กยิ้มหัวเราะเบาๆนึกขำในใจ
"ไปก่อนนะแคร์ มินท์"จีลพูดและทั้งสามคนก็แยกย้ายไปตามอาคารเรียน
ป้ายประกาศประชาสัมพันธ์ที่ติดอยู่ในบอร์ดจีลเหลือบเห็นขึ้นจึงแวะเข้าไปอ่านในบอร์ดที่ตั้งอยู่ที่บริเวณตึกเซนิส
ในบอร์ดที่จีลอ่านมีข้อความเกี่ยวกับการแข่งขันบอร์ดลอยและก็ยังมีข้อความโฆษณาต่างๆอีกด้วย มีรูปภาพในการแข่งขันปีที่แล้ว มีรูปภาพทีมหนึ่งกำลังชูถ้วยรางวัลอันทรงเกียรติ จีลเห็นคนหนึ่งในทีมแต่งชุดแปลกออกไปซึ่งก็คงจะเป็นบุคคลสำคัญที่สุดในทีมหรือการแข่งขันก็คงจะคล้ายๆผู้เล่นฟุตบอลที่ผู้รักษาประตูจะแต่งตัวต่างออกไป
ในบอร์ดมีใจความตอนหนึ่งว่า..
วิธีการแข่งขันบอร์ดลอย : ผู้เล่นทั้งสองฝ่ายแบ่งออกเป็นสองทีมทีมละยี่สิบคน ผู้เล่นในทีมหนึ่งจะต้องมีผู้เล่นซับพอร์ดหนึ่งคน การเล่นนั้นใครสามารถชู๊ตลูกบอลลงห่วงได้ได้มากที่สุดเป็นฝ่ายชนะ ห่วงแป้นชู๊ตจะเหมือนกับห่วงบาส ชู๊ตลงหนึ่งครั้งจะได้แต้มตามระยะห่างจากแป้นเช่นระยะห่างต่ำกว่าหนึ่งเมตรได้หนึ่งคะแนน สองเมตร-ห้าเมตรได้สองคะแนนและระยะห่างห้าเมตรขึ้นไปได้สามคะแนน
กติกาการแข่งขัน...
1.ผู้เล่นถูกแบ่งเป็นสองทีมทีมละ 14 คน มีผู้เล่นซับพอร์ด 1 คนในนั้น
2.เกมส์การแข่งขันใช้ลูกบอล 2 ลูก
3.ผู้เล่นทีมไหนทำให้ผู้เล่นอีกทีมหนึ่งล่วงจากบอร์ดลอยจะถูกปรับลบสองคะแนน (ยกเว้นกรณีพลัดตกจากบอร์ดเอง)
4.ห้ามใช้เวทย์ในการแข่งขัน(ยกเว้นผู้เล่นซับพอร์ด)
5.ผู้เล่นซับพอร์ดห้ามจับลูกบอลและใช้เวทย์ได้ไม่เกิน 10 ครั้ง(ห้ามใช้เวทย์จนผู้เล่นคนอื่นบาดเจ็บ)
6.ผู้เล่นทีมอื่นไม่มีสิทธิ์ทำให้ผู้เล่นซับพอร์ดของทีมอื่นนั้นล่วงจากบอร์ดลอย (ถ้าละเมิดกฎข้อนี้จะถูกปรับแพ้ทันที)
7.ผู้เล่นคนไหนล่วงจากบอร์ดต้องขับบอร์ดมานอกสนามภายในสิบวินาทีไม่งั้นนะถูกปรับลบห้าคะแนน
8.ถ้าผู้เล่นล้ำหน้าจะเริ่มส่งบอลกันใหม่โดยเริ่มจากจุดที่ล้ำหน้า (การล้ำหน้าเกิน 5 ครั้ง จะมีการชู๊ตลูกโทษจากระยะห่างห้าเมตร)
9.การเปลี่ยนตัวจะทำการเปลี่ยนได้แค่ 3 ครั้วเท่านั้น
10.เวลาในการแข่งขันทั้งหมด 42 นาที แบ่งออกเป็นสองครึ่งครึ่งละยี่สิบเอ็ดนาที
11.ผู้เล่นทีมไหนมีคะแนนมากกว่าเป็นฝ่ายชนะ
.
จีลอ่านกระดาษแผ่นนั้นอย่างคร่าวๆแต่ก็พอจำรายระเอียดสำคัญๆได้บ้าง เธอรีบเดินเข้าห้องซึ่งอยู่ชั้นหกของตึกจึงจำเป็นต้องใช้ลิฟท์เวลาเหลืออยู่อีกหนึ่งนาทีแต่การประมาณก็น่าจะทัน และเธอก็เข้าห้องก่อนอาจารย์แปบเดียว
วันนี้ก็สอนอย่างสบายๆไม่เครียดเหมือนกับครั้งที่แล้วที่จีลเรียน วิชาการควบคุมจิตใจเป็นวิชาที่ต้องใช้สมาธิสูงแล้วห้ามคิดเรื่องอื่นเป็นอันขาด อาจารย์ที่สอนก็ได้แค่นั่งเก้าอี้ที่อยู่มุมบานกระจก ไอเย็นจากผนังห้องมีส่วนทำให้อาจารย์ท่านนั้นหลับไป ไม่มีเสียงใดๆรบกวนทั้งสิ้นทุกคนต่าง แต่ละคนหลับตาพยายามทำสมาธิ แสงสีชมพูไหลผ่านตามทั่วร่างกาย มีความรู้สบายๆอย่างบอกไม่ถูกความเหนื่อยหายเป็นปลิดทิ้ง ความกระชุ่มกระชวยมาอีก เหตุที่ทำให้แต่ละคนรู้สึกอย่างงี้ก็เพราะว่า วิชาการเยียวยาเป็นส่วนหนึ่งของวิชาการควบคุมจิตใจ
............................................
"เออนี่...วันนี้มีสอบใช่มะ"เค้กถามทั้งๆที่รู้อยู่แก่ใจ
"อืม..."
"อาจารย์แกนี่สุดๆเลย โหดเป็นบ้า ทำท่าผิดหน่อยก็โดนด่า"เค้กทำท่าพูดอย่างจริงจัง
"อืม..."
"แล้วยัง...."ยังไม่ทันจะเริ่มอีกประโยคอาจารย์เฟรมมิ่ง ซิสท์ก็มายืนอยู่ข้างๆเค้กก่อนจะเดินผ่านไปคาดว่าคงได้ยินเค้กพูดหมด
"ไงละ"เจลาลิ่งหัวเราะในลำคอ "ก่อนจะนินทาใครระวังหน่อยนะ" เค้กได้แต่ทำหน้าฝืด
บริเวณห้องก็เหมือนโรงยิมพื้นถูกปูด้วยไม้ปาเก้ ที่นี่เป็นที่เดียวในตึกแอนกริสที่เป็นสนามฝึกและสนามสอบการต่อสู้ ความกว้างและความยาวใหญ่กว่าสนามบาสเล็กน้อย วิชาการต่อสู้ 2 ถือว่ามีคนเรียนมากที่สุดอีกวิชาหนึ่ง
"วันนี้คงรู้นะว่าทำอะไร"อาจารย์เฟรมมิ่งเอ่ยอย่างอารมณ์ดีขณะที่เด็กนักเรียนบางคนแสดงออกทางสีหน้าว่ามั่นใจแต่อีกหลายคนก็ทำท่าทำทางไม่ค่อยมั่นใจ "เอาละ...ตามเลขที่ดีหรือว่าสุ่มดี"เกิดเสียงโวยวายดังขึ้นใครที่อยู่เลขที่แรกๆก็แสดงท่าทีไม่พอใจส่วนคนเลขที่หลังๆก็ไม่ได้แสดงอาการอะไรออกมา
"สุ่ม(ครับ/ค่ะ)สุ่ม"พวกเลขที่แรกๆตะโกนออกมา
"ตามเลขที่(ครับ/ค่ะ)"คนที่อยู่เลขที่ที่หลังๆตะโกนออกมาข่มเสียงเช่นกัน
"พอ..."อาจารย์เฟรมมิ่งเอ่ยเสียงเรียบแต่น้ำเสียงก็แสดงถึงความน่ากลัวเหมือนกัน
"เธอละกันนะ"อาจารย์เฟรมมิ่งเอ่ย
เอ้าเวนกรรม อีกแล้วเหรอเนี่ย ทำไมต้องเป็นฉันตลอดเลยด้วยนะ เจลาลิ่งนึกขึ้นในใจ
"เลือกเพื่อนเธอเพิ่มอีกหนึ่งคน"อาจารย์เฟรมมิ่งเอ่ยเสียงเรียบ
เลือกคู่ต่อสู้เหรอ !!!
"เลือกเพื่อนเธอไปสิ"อาจารย์เฟรมมิ่งพูดย้ำเป็นครั้งที่สองเมื่อเด็กหนุ่มทำหน้างง
"เค้ก!"เจ้าตัวสะดุ้งโหยงเมื่อได้ยินคำพูดที่คาดไม่ถึง
"เลือกฉันมาทำไมเนี่ย"เค้กกระซิบ
"แกล้งต่อสู้ไม่ต้องจริงจังหรอก พอเป็นพิธีก็พอ"เจลาลิ่งกระซิบ
"ที่ให้เลือกเพื่อนมาก็เพื่อช่วยกัน ส่วนคะแนนก็ตัดสินเป็นคู่"อาจารย์เฟรมมิ่งบอกกับทุกคนและนั่นทำให้พวกที่เก่งอยู่แล้วรู้สึกไม่พอใจ "เอาละเข้าไปในสนามได้"ภายในห้องที่กว้างเท่ากับโรงยิมทั่วไปจะมีเส้นกรอบตีเอาไว้และภายในเส้นกรอบนั้นคือสนามและนอกสนามจะเป็นครูและนักเรียนยืนอยู่ เค้กและเจลาลิ่งยืนอยู่ชิดกัน
"ไฟแนสตี้ "อาจารย์เฟรมมิ่งท่องเวทย์จบ ปีศาจไฟปรากฏตัวขึ้น ณ เบื้องหน้า เพิ่งเข้าใจนี่เองว่าทำไมถึงต้องมีเพื่อนสองคน "มีเวลาทั้งหมดสิบสองนาทีในการกำจัดคู่ต่อสู้ ถ้ากำจัดได้ภายในเวลาที่กำหนดจะได้คะแนนเต็ม ส่วนถ้าเลยเวลาและสามารถล้มคู่ต่อสู้ไม่ได้จะได้คะแนนตามความเหมาะสมของครูเอง"
สิ้นคำพูดของอาจารย์เฟรมมิ่ง ปีศาจทั้งสามตัวก็เคลื่อนที่เข้ามาใกล้ เจลาลิ่งและเค้กต้องพยายามงัดวิชาทั้งหมดที่อาจารย์สอนให้ได้ทั้งหมดมาเป็นภาคปฏิบัติ ไม่เข้าใจว่าทำไมต้องสู้หนึ่งต่อสองด้วย นึกไปในทางที่ดีไว้ก่อนสงสัยมันคงไม่ได้เลวร้ายอย่างที่คิดก็ได้
พรืดดดดดดดด........
เจลาลิ่งล้มตัวลงได้อย่างหวุดหวิด เมื่อปีศาจไฟนั้นวิ่งเร็วราวกับมีพลังลมอยู่ด้วยพุ่งตัวจะมาชน เค้กใช้กระบวนท่าในการร่ายเวทย์คลื่นมากมายที่ไร้รูปแบบพุ่งอัดเข้าไปที่ปีศาจไฟแต่มันหลบได้อย่างสบายๆอย่างใจเย็น คราวนี้ถึงตามันบ้างลูกไฟจำนวนมากมายพุ่งออกจากตัวมันราวกับห่าฝน เค้กและเจลาลิ่งต่างกระโดดหลบไปมาและบางช่วงต้องกระโดดหมุนตัวกลางอากาศตามกระบวนท่าที่ได้เรียนเอาไว้ เค้กยกขาขึ้นสูงเมื่อลูกไฟพุ่งมาและก็ต้องนำหัวหลบเมื่อไฟอีกลูกพุ่งมาอีกทั้งเอี้ยวหลังและหลบหลีกตามวิถีของกระสุนไฟ เจลาลิ่งเมื่อเห็นว่าอยู่ในระยะปลอดภัยเพราะลูกไฟนั่นพุ่งตรงมาที่เค้กตลอด ลูกบอลไฟที่เจลาลิ่งปล่อยออกมาขนาดเท่าลูกฟุตบอลโดนเป้าหมายก็จริงแต่มันแทบจะไม่รู้สึกระคายเคืองอะไรเลย
"พนันกันไหมว่ามันไม่รอด"เด็กชายคนหนึ่งที่เกาะกลุ่มกันกระซิบ
"ฉันก็เห็นด้วย"และก็เด็กหนุ่มอีกสองสามคนในกลุ่มก็พยักหน้าตามๆกัน
"จะนินทาใครเอาตัวเองให้รอดก่อนนะ"อาจารย์เฟรมมิ่งเอ่ยลอยๆไม่ดังมากนักแต่ก็ดังพอที่ทำให้เด็กหนุ่มคู่กรณีได้ยิน เป็นคำพูดที่ทำให้เจ้าตัวทั้งจุกทั้งพูดไม่ออก
ฟึบบบบบบบบ.......
เจลาลิ่งโผตัวไปข้างหน้าอย่างเสียหลักเด็กหนุ่มพยายามยืนขึ้นอีกทีก่อนจะหันไปมองข้างหลังแรงอัดจำนวนมากจากปีศาจไฟทำให้เจลาลิ่งไถลออกไปจนถึงขอบเส้น เค้กไม่มีเวลาช่วยเจลาลิ่งแล้วเพราะตนเองกำลังจะโดนเหมือนเขา หมัดไฟขนาดใหญ่มากมากพุ่งอัดไปที่ปีศาจไฟถึงมันจะไม่รู้สึกเจ็บแต่ด้วยแรงขนาดนั้นทำให้มันกระเด็นล้มไป
ตอนนี้เจลาลิ่งกับเค้กยืนด้วยกันอีกครั้งทั้งสองคนกระซิบวางแผนการโจมตีกันแต่ก็ต้องบอกแผนกันอย่างรวดเร็วเมื่อปีศาจไฟตัวนั้นกระโดดสูงขึ้นไปกลางอากาศโถมตัวพุ่งเข้ามา ทั้งสองหลบได้สบายแต่มันก็ไม่เสียหลัก เจลาลิ่งกับเค้กพยักหน้าเป็นเชิงรู้กันขณะที่สองคนนั้นอยู่ห่างกับปีศาจไฟเพียงแค่สองเมตรกว่า เจลาลิ่งกับเค้กวิ่งหนีมันด้วยความรวดเร็วปีศาจตัวนั้นวิ่งตามมาติดๆ เจาลาลิ่งหันหน้ามาลำแสงสีส้มจากมือทั้งสองข้างพุ่งตรงไปที่ใบหน้า ไฟในตัวปีศาจลุกโชนอย่างน่าตกใจแต่มันยืนอยู่นิ่งอยู่กับที่ แวเรียวูฟน้ำแข็งออกมาจากพ๊อกเก็ทบอล เค้กสั่งให้มันพ่นน้ำแข็งไปที่ปีศาจไฟตัวนั้น
ปีศาจไฟดูเหมือนจะรู้หายนะของตนเองมันยืนอยู่กับที่ ปีศาจไฟกำมือชูมาข้างหน้าไฟที่ไหลเป็นเส้นตรงพุ่งไปยังสายลำน้ำแข็งที่ออกมาจากแวเรียวูฟปะทะกันอย่างรุนแรงทีแรกลำน้ำแข็งสามารถเบียดพลังลำไฟไปได้แต่ตอนนี้เหมือนกับลำน้ำแข็งที่ปล่อยออกมาจากแวเรียวูฟจะอ่อนแรงลงทุกทีเจ้าสัตว์นั้นเรี่ยวแรงเริ่มจะหมด เค้กใช้คลื่นเสียงที่เรียนมาล่าสุดทำให้เจ้าปีศาจนั่นกระตุกเล็กน้อยก่อนที่เจลาลิ่งจะรวบรวมพลังทั้งหมดปล่อยลำไฟออกมาอย่างรุนแรงปะทะเจ้าปีศาจไฟนั่นและตัวมันค่อยๆจางหายไป
00 :12:09 เวลาปรากฏขึ้นที่นาฬิกาของอาจารย์เฟรมมิ่ง
"เยี่ยม...ถือว่าทำได้ดีแม้จะเลยเวลาไปบ้าง"อาจารย์เฟรมมิ่งพูดให้กับทุกคนฟังรวมถึง เจลาลิ่งกับเค้กส่วนเจ้าสัตว์เลี้ยงตัวนั้นก็ยืนเค้าคลอที่ขาของเค้ก "ครูให้เต็มเลยถือว่านำกระบวนท่าประยุกต์ได้ดีรวมถึงการใช้สัตว์ด้วย"
"ไม่อยากเชื่อเลยว่าอาจารย์แกจะให้เต็ม"เค้กกระซิบพยายามบีบเสียงทุกพยางค์ให้เบาที่สุดเท่าที่จะทำได้
"เอาศูนย์ไหมล่ะ"อาจารย์เฟรมมิ่งเสนอเพราะได้ยินคำพูดมะกี้ทุกพยางค์
"ไม่เป็นไรครับ แหะๆ"เค้กหน้าเจื่อนพร้อมกับรอยยิ้มแห้งๆ
"เลิกเรียนได้เลยนะ จะไปไหนก็ตามสบายเธอสองคนมีพรสวรรค์ดีนะถ้าจะไปลองสมัครเข้าร่วมทีมบอร์ดลอยก็น่าจะโอเค"อาจารย์เฟรมมิ่งยักคิ้ว
"อ้าว...อาจารย์ปล่อยเลยเหรอครับ"เด็กหนุ่มท่าทางนักเลงพูดขึ้นอย่างตกใจ
"อือ..."เพราะเหตุนี้จึงทำให้พวกเลขที่หน้าๆคิดผิดไปอย่างไม่น่าให้อภัย
"คราวนี้ใครจะเป็นสองคนต่อไป"อาจารย์เฟรมมิ่งเอ่ยอย่างรู้ทัน ขณะเจลาลิ่งเดินออกนอกห้องพร้อมกับเค้ก สัตว์เลี้ยงตัวนั้นถูกเก็บเข้าพ๊อกเก็ทบอล
...........................................................
เนื่องจากในเวลาเรียนจึงไม่มีใครเดินเพ่นพ่านไปไหนในบริเวณเขตโรงเรียนไม่เห็นใครซักคนนอกจากเจลาลิ่งกับเค้ก บอร์ดประชาสัมพันธ์ที่อยู่ไปทั่วทุกคนทุกแห่งด้วยความอยากรู้อยากเห็นจึงเข้าไปอ่าน ข้อความทั้งหมดก็เกี่ยวกับการชักชวนและกติกาการแข่งขันบอร์ดลอย
"น่าสนุกดีนะ"เค้กเอ่ย "ลองสมัครกันดีไหม"
"อือ... ก็น่าสนุกดีเหมือนกัน แต่...ทีมละ 14 คน จะหาจากไหน จะตั้งทีมเองเหรอหรือว่าเข้าร่วมทีมกับรุ่นพี่ อยู่แค่เกรด 1 จะไปสู้พี่เกรด 6 เห็นทีจะไม่ไหว"เจลาลิ่งถอนหายใจ
"นั่นสินะ แต่ก็หาประสบการณ์ก่อนดิ"เค้กพูดน้าวโน้มใจเจลาลิ่ง
"ลองดูละกันสงสัยคงต้องร่วมทีมกับรุ่นพี่"เจลาลิ่งบอก
"ไม่จำเป็นหรอก... เรามาตั้งทีมเองดีกว่า"เค้กเสนอ
"ถ้าหาได้ก็ดี"เจลาลิ่งพยักหน้าเป็นเชิงเห็นด้วย
"ไงเลิกกันซะเร็วเลยนะ"เสียงของมินท์ทักทายมาแต่ไกลมาพร้อมกับเด็กสาวน่ารักอีกหนึ่งคน
"แน่นอน อยากรู้ไหมวันนี้ฉันทำอะไรบ้าง"เค้กเอ่ยอย่างอารมณ์ดี
"ไม่อยากรู้"มินท์ตอบโดยไม่สนใจเค้กเลยแม้แต่นิด
"ฉันรู้จักเธอนิ๊"เค้กทำสีหน้าตกใจไม่อยากจะเชื่อว่าเธอคนนั้นจะเป็นเพื่อนกับมินท์ ขณะที่เธอเองดูจะงงๆ
"รู้จักฉันด้วยเหรอ"เด็กสาวหน้าตาดีมากๆพูดอย่างแปลกใจ ตอนนี้มินท์กับเจลาลิ่งดูจะงงๆกับการสนทนาของเขาทั้งสอง
"เธอคือแซนไงทำไมจะไม่รู้จัก"นั่นยิ่งทำให้เจ้าตัวงงขึ้นไปอีก
"นายรู้จักเพื่อนฉันเหรอ"มินท์พูดอย่างใจเย็น
"รู้จักสิ ฉันรู้จักเธอตั้งแต่ประถมแล้ว!!!"เค้กพูดด้วยความมั่นใจ เจลาลิ่งกับมินท์เหมือนถูกโดนแช่แข็งให้นิ่ง เจ้าตัวดูเหมือนจะทำอะไรไม่ถูกแต่สีหน้าเค้กดูจะดีใจและดีใจเอามากๆ
"เธอรู้จักเพื่อนฉันรึเปล่า"มินท์กระซิบไปที่แซน
"ไม่นิ๊"แซนกระซิบตอบ
"ก็เธอเรียนอยู่ห้องเดียวกับฉันไงตอน ป.4 เวลาฉันพูดด้วยเธอก็ไม่ค่อยยอมคุยเอาแต่หลบหน้า เล่นอะไรเธอก็ไม่ยอมเล่นกับฉัน"แซนทำท่านึกคิดขณะที่เค้กลุ้นจนตัวโก่งให้เธอจำได้ส่วนเจลาลิ่งก็มองดูนกดูอาคารรอบตัวไม่ได้ใส่ใจอะไรมาก
"นึกออกแล้ว"แซนยิ้มขณะที่เค้กเองก็ยิ้มตามอย่างมีความหวัง"นายคือคนที่เปิ่นที่สุดในห้อง ไม่ค่อยมีใครอยากเล่นด้วย เพื่อนนายก็ไม่ค่อยมีด้วยนิ๊"เค้กถึงกับจุกทำไมกันถึงจำส่วนที่เลวร้ายที่สุดของตนได้แต่ส่วนดีๆหมายไปไหนหมดกัน
"ตกลงเธอสองคนรู้จักกันใช่ปะ งั้นก็ไม่ต้องแนะนำอะไรอีกละสินะ"มินท์เอ่ยด้วยความรู้สึกที่ว่าจบกันเสียที
"แล้วเธอละ ฉันยังไม่รู้จักเธอเลยนะ"แซนหันมาถามเจลาลิ่งด้วยความสงสัย เวลาเธอพูดกับยิ้มมันเหมือนกันยังไงยังงั้นเลย ในความคิดเค้กเวลาเธอพูดหรือแม้แต่จะยิ้มเธอน่ารักที่สุดเท่าที่เคยเห็นมา
"ผมเจลาลิ่งครับ ไนท์ครับ ยินดีที่ได้รู้จัก"
"ค่ะ...เราชื่อแซนดี้ พัตศิริ ยินดีที่ได้รู้จักนะคะ"เค้กนึกอิจฉาในใจพูดกับเจนี่เพราะเชียว
"ส่วนเรา แคร์นะ"
"เอาเป็นว่ารู้จักกันหมด..."มินท์พูดยังไม่ทันจบจีลก็เพิ่งวิ่งมาสมทบในกลุ่ม "อ้าวจีล ทำไมเพิ่งมาอีกละ"
"วันนี้มีเรียนเยอะน่ะ"จีลออกอาการเหนื่อย
"นี่เพื่อนฉัน... แซนดี้ พัตศิริ"มินท์แนะนำให้รู้จัก
"เราจีล วาเลนไทน์นะ ยินดีที่ได้รู้จัก"
"ค่ะ"
"พวกเธอจะสมัครเข้าร่วมการแข่งขันบอร์ดลอยกันไหม"แซนถามด้วยน้ำเสียงน่ารักสุดๆ เค้กได้ยินคำพูดของเธอครั้งแรกก็เคลิ้มไปหมดแล้ว แบบนี้มันนางฟ้าชัดๆ
"แล้วบอร์ดจะหาซื้อจากไหนละ"เจลาลิ่งถาม
"ก็ที่ห้างอะจ๊ะหรือไม่ก็ร้านอะไหล่ที่มีจำหน่าย"มินท์ตอบอย่างสุภาพถ้าเป็นเค้กถามคงโดนด่าว่าโง่ไปแล้ว
"ถ้าพวกเธออยากจะร่วมแข่งกันจริงๆนะ ก็ต้องซื้ออย่างอื่นด้วยนอกจากบอร์ดลอย เช่นรองเท้าเฉพาะในการแข่ง ถุงมือ และก็อุปกรณ์ป้องกัน"
"ปัญหาไมใช่ตรงนั้นหรอกนะแซน คือว่า...เงินน่ะสิพวกเราไม่มี"มินท์พูดด้วยน้ำเสียงจ๋อยๆ
"ว้า...แย่จัง"แซนพูดด้วยสีหน้าผิดหวังแต่เค้กกับมองว่าเธอน่ารักซะไม่มี
"ใครว่าเป็นปัญหาล่ะ"เจลาลิ่งพูดขึ้นอย่างดีใจสายตาทุกคนจับจ้องมาที่เขาคนเดียว "เดี๋ยวจัดให้ได้"
"หมายความว่าเธอจะเอาเงินเธอซื้อให้พวกเราเหรอ มีเงินเยอะขนาดนั้นเชียว"แซนถามขึ้นอย่างไม่ค่อยแน่ใจ
"แน่นอนอยู่แล้ว"เจลาลิ่งพูดอย่างมั่นใจ "มีเงินตั้ง 10000 กว่าแอนกริด แค่บอร์ดกับอุปกรณ์ไม่กี่แอนกริดจะเท่าไรกันเชียว"
"เธอมีเงินเยอะขนาดนั้นมาจากไหนเหรอ"แซนถามขึ้นอย่างสนใจ ส่วนเค้ก มินท์ จีล รู้ก่อนหน้านั้นอยู่แล้ว
"สอบเข้าได้ที่ 1 ในโรงเรียนไง ทางโรงเรียนจึงให้เงินเป็นรางวัลมา"เจลาลิ่งอธิบาย
"ว้าว..."แซนทำสีหน้าตกตะลึง "เธอคงเก่งน่าดูเลยนะเนี่ย"
"ไปซื้ออุปกรณ์ในวันพรุ่งนี้กันเลยนะ จะได้มีเวลาฝึกกันพวกเรายิ่งต้องฝึกกันหนักจึงจำเป็นต้องใช้เวลา ตกลงตามนี้นะพวกเธอจะลงแข่งกันทุกคนไหม"แต่ละคนพยักหน้าเห็นด้วยอย่างเต็มใจ
วันรุ่งขึ้น...
วันเสาร์ซึ่งเป็นวันหยุดของทุกคนในโรงเรียนแอนกริสบางคนก็กลับไปบ้านเดิมของตนเองหรือไม่ก็เที่ยวตามเมืองต่างๆ สำหรับพวกเขาแล้ววันนี้เป็นวันที่ต้องเตรียมการซื้ออุปกรณ์เพื่อการแข่งขันที่จะถึงในอีกไม่นานนี้
"ดูข้างล่างนู่นสิ สวยจังเลย"แซนมองไปทางด่านล่างของเมืองแอนเจอลัส วิวทิวทัศน์ของเมืองเต็มไปด้วยตึกและอาคารบ้านเรือนแต่ก็ปนด้วยสีเขียวของต้นไม้มากต้นหลากชนิดซึ่งถึงแม้เมืองแอนเจอลัสจะมีความคล้ายกับกรุงเทพฯมากแต่ด้วยบรรยากาศและความร่มรื่นที่น่าอยู่จึงทำให้แตกต่างจากกรุงเทพฯโดยสิ้นเชิง
"นั่นสินะ"เค้กเสริม
"ความจริงแล้วไม่ต้องถึงกับนั่งรถบินก็ได้"แคร์ว่าต่อ
"ไม่เป็นไรหรอก"เจลาลิ่งเอ่ย
"คนน่ารักว่ายังไง ก็ว่าไปตามนั้นเถอะจ๊ะ"มินท์พูด เค้กทำน่าแสยะไม่ให้ใครเห็น
"10แอนกริดครับ"ชายคนขับแท็กซี่เอ่ย เครดิตการ์ดของเจลาลิ่งที่เพิ่งเรียกมาจากนาฬิกาถูกนำไปให้คนขับแท็กซี่ ในหน้าจอของคนขับจะมีช่องใส่สำหรับเช็คเงินเมื่อรูดบัตรเสร็จเรียบร้อยจะมีใบเสร็จการเสียเงินและยอดเงินคงเหลือ
"ลงไปเร็วๆดิมินท์"เค้กพูดอย่างร้อนรน เมื่อเห็นเธอไม่ยอมลงจากรถเสียที
"กลัวตกอ่า..."มินท์เอ่ยอย่างกล้าๆกลัวๆ "กลัวความสูง"เค้ก แซน จีลและแคร์โชคร้ายหน่อยที่นั่งอยู่ทางริมประตูด้านขวาซึ่งเปิดออกไม่ได้เพราะด้านนั้นเป็นด้านที่มีแต่อากาศ เจลาลิ่งถือว่าโชคดีที่นั่งอยู่ทางด้านหน้าจึงลงไปก่อนอย่างสบาย
"จับมือฉันไว้นะ"เจลาลิ่งยื่นมามาจับที่มือมินท์และสามารถทำให้มินท์ก้าวออกจากรถได้ ขณะที่คนอื่นๆทยอยกันออกมา
"กลัวอะไรไม่เข้าเรื่อง"เค้กบ่นอย่างหัวเสีย คราวนี้ผิดคาดไม่เถียงกลับคงอายกับทุกคน
"เขาน่าจะหาที่จอดตรงอื่นนะ ตรงนี้ลานจอดมันเต็ม"แซนออกความเห็น
"ใช่ๆ อันตรายจะตายไป นายไม่กลัวล่วงลงไปข้างล่างหรือยังไง"มินท์แวดใส่เค้ก ในใจนึกเจ็บใจแซนจริงๆที่ไม่น่าช่วยเล๊ยแต่ก็โกรธไม่ลงหรอกแซนน่ารักและสวยออกซะขนาดนั้น
"ห้างที่นี่ใหญ่กว่าห้างในกรุงเทพฯหลายเท่าเลยแฮะ"เค้กเอ่ยอย่างตื่นเต้นเพราะนี่คือครั้งแรกที่ได้มา
"กว้างออกซะขนาดนี้ จะรู้ไหมเนี่ยว่าอุปกรณ์อยู่แถวไหน"มินท์เอ่ย
"ตามมาละกันนะ"เจลาลิ่งพูด
อุปกรณ์เครื่องมือ >>> บอร์ดลอย
"โอ้โห มีให้เลือกมากมายเลยแฮะ"มินท์ตาวาวรีบเดินไปแตะเป็นคนแรก และตามมาด้วยคนอื่นๆที่เดินมาดูตามๆกัน บอร์ดลอยที่ตกแต่งสำเร็จรูปจะถูกนำมาวางไว้ที่ชั้นวางของสูงห้าชั้น ผนักงานงานจะแต่งตัวใส่เสื้อสีขาวกางเกงสีดำธรรมดาทั่วไป
ส่วนอุปกรณ์เครื่องมือต่างๆจะถูกจัดเป็นโซนต่างๆโดยเฉพาะโซนบอร์ดลอยกินอาณาเขตกว้างวางมากแบ่งเป็นอุปกรณ์สำเร็จรูป อุปกรณ์ชิ้นส่วน อะไหล่ แผนกซ่อม แผนกคิดเงิน และแผนกเบ็ดเตล็ดอื่นๆ
"สนใจสิ่งของแบบไหนครับตรงนี้เป็นพวกบอร์ดลอยทั่วๆไปที่ติดตั้งอุปกรณ์เรียบร้อยหมดแล้วสามารถเลือกได้ตามใจชอบ ส่วนทางด้านนั้นจะเป็นพวกอะไหล่สำหรับท่านที่ไม่ต้องการซื้อสำเร็จรูปนำไปติดตั้งเองก็ได้นะครับ"พนักงานผู้ชายพูดแนะนำสินค้า แต่ละคนพยักหน้าเป็นเชิงเข้าใจ
"ราคาเท่าไรคะ"แคร์ถามขึ้น
"185แอนกริดครับ"แซนพยายามนึกค่าเป็นเงินบาท ถ้า 185 แอนกริด ก็เท่ากับบาท 7030 บาท วู้ว แพงจัง นี่ถ้าใช้เงินตัวเองที่โรงเรียนให้มาเพียง 300 แอนกริด คงใช้ไม่ถึงเทอมแน่ ต้องขอบใจเจลาลิ่งจริงๆ
"แล้วความเร็วละคะ"จีลถาม
"อ่อ...ระดับความเร็วขึ้นอยู่กับความเร่งนะครับ ความเร็วเริ่มต้นจะอยู่ที่ 20กิโลเมตร-45กิโลเมตร/ชั่วโมง สำหรับเครื่องเทอโบสำหรับใช้ในน้ำความเร็วจะอยู่ที่ 45-65กิโลเมตร/ชั่วโมง แต่ก็ใช้ในบกได้เหมือนกัน"
"เข้าให้ใช้เทอโบรึเปล่าอะ"แซนหันไปกระซิบมินท์ มีเค้กคอยเหลือบสายตามองอยู่
"ไม่มั๊ง ในกติกามันไม่มีระบุแต่คิดว่าคงไม่"มินท์กระซิบตอบ
"ถ้าติดเทอโบแพงรึเปล่าคะ"แคร์ถาม มีแต่เจลาลิ่งคนเดียวที่เที่ยวดูบอร์ดต่างๆตามชั้นไปเรื่อยๆ
"เครื่องยนต์จะถูกดัดแปลงต่างจากบอร์ดลอยธรรมดานะครับ สำหรับบอร์ดลอยสำเร็จรูปจากตรงนี้ไม่สามารถจะดัดเป็นเครื่องเทอโบได้ เพราะบอร์ดเทอโบจะมีขนาดใหญ่กว่าเยอะ ราคาขาย 690 แอนกริดครับ"^o^ แพงเป็นบ้าเลยอะ ตีเป็นราคาก็ประมาณ 26000 บาท ซื้อไม่ลงแน่ๆ แซนคิด
ว่าเสร็จพนักงานชายคนนั้นก็เดินออกไปต้อนรับลูกค้ารายใหม่เดาไม่ผิดคงเป็นนักเรียนจากแอนกริสซึ่งดูจากท่าทางก็พอจะดูออก พวกเขามากันเป็นกลุ่มเป็นผู้ชายทั้งหมด กำลังเลือกดูสินค้าในแผงชั้นวาง ส่วนพวกจีล มินท์ แคร์ แซน เค้ก ยกเว้นเจลาลิ่งซึ่งเดินหายไปแล้ว กำลังจะไปตรงส่วนอื่น
"นี่ๆ เจเขาหายไปไหน"จีลถาม
"ไม่หายไปไหนหรอกจ้าคงอยู่แถวๆนี้แหละ ไม่ต้องห่วงหรอกนะจ๊ะ"มินท์พูดอย่างมี เลศนัย ส่วนเค้กพยายามเดินชิดตัวแซนให้ได้มากที่สุดแต่ดูเหมือนเจ้าตัวจะไม่รู้ตัว
"มาดูตรงนี้สิ! "เจลาลิ่งเรียก
"มีอะไรเหรอ"มินท์ทำหน้าอินโนเซนต์
"บอร์ดตรงนี้มีรูปร่างแบบต่างกันเยอะเลย ตรงนั้นมีแต่บอร์ดธรรมดาคงเป็นบอร์ดทั่วไป"
"แล้วมันยังไงเหรอ"จีลถาม
"ก็ดูเอาสิ"
บอร์ดจากตรงที่ไปดูมาเมื่อกี้เป็นบอร์ดลอยธรรมดาแต่ดูจากบอร์ดตรงอีกโซนหนึ่งเป็นบอร์ดที่เหมือนกับการดัดแปลงโดยเฉพาะรูปร่างก็คล้ายกับบอร์ดธรรมดาแต่ที่แตกต่างจะมีปีกขนาบข้างอักเล็กๆกับตัวบอร์ดส่วนตรงหัวมุมข้างหน้าของบอร์ดจะเป็นหัวแหลมและมีที่กั้นเพิ่มมา ลักษณะพื้นจะมีปุ่มเล็กๆส่วนพื้นข้างล่างจะมีแม่เหล็กด้านหน้าสองด้านหลังสองรูปร่างสี่เหลี่ยมพื้นผ้าขนาดพอประมาณ สีสันถูกตกแต่งอย่างสวยงาม
"ราคาเท่าไรละเนี่ย ขอดูซักหน่อย"เค้กพยายามจะหยิบในครั้งแรกมันหนักเอาการเลยต่างจากบอร์ดที่แล้วที่หยิบได้อย่างสบายๆ "350แอนกริด อืม... อะไรนะ 350แอนกริดเชียวเหรอเนี่ย"เค้กทำสีหน้าอย่างตกใจ
"ติดเทอโบเหรอเจลาลิ่ง"แซนหันไปถาม
"ไม่ใช่มั๊ง "
"ใช้สำหรับการแข่งขันลงเล่นกีฬาน่ะ"เค้กเอ่ย "รูปทรงดัดแปลงในการแข่งขันโดยเฉพาะดูตรงปีกนั่นสิเวลาแข่งเราต้องใช้ความเร็วจึงต้องมีไว้เพื่อสมดุลและกันคู่ต่อสู้ได้ด้วย ส่วนตรงที่ดูเหมือนเหล็กความจริงมันมีคุณสมบัติเป็นแม่เหล็กเพื่อให้การทรงตัวดีขึ้นมาอีกแต่ต้องใช้รองเท้ากีฬาของบอร์ดลอยโดยเฉพาะเพราะแผ่นรองเท้าจะเป็นแม่เหล็กเหมือนกัน"เค้กอธิบายเป็นขั้นเป็นตอนทำให้เพื่อนๆแต่ละคนแทบจะนึกไม่ถึงจึงได้แต่ยืนนิ่งไปพักหนึ่ง
"เป็นไรไป"เค้กหันไปถามแซน(แต่คนอื่นที่ดูงงไม่ถาม)
"ปะ..เปล่า ไม่มีไรนี่"แซนยิ้ม เค้กยิ่งได้ใจใหญ่
"รู้ได้ไง"มินท์ถามราวกับหาเรื่อง
"รู้ละกัน"เค้กสวน "แซนจะเชื่อผมไหมครับ"เค้กดัดเสียงอ้อนวอน
"ฉันไม่แน่ใจน่ะ แต่ที่เธอพูดก็ฟังดูดีนะ"แซนกล่าว มินท์หน้าเจื่อนไปโดยปริยายขณะที่เค้กทำหน้าล้อเลียนใส่
"สนใจดูได้นะคะ บอร์ดลอยตรงนี้สำหรับกีฬาบอร์ดลอยจะถูกดัดแปลงเป็นพิเศษ ต่างจากด้านนั้นที่เป็นบอร์ดธรรมดาทั่วไป"พนักงานสาวเดินมาอธิบาย
"แล้วบอร์ดธรรมดามีเอาไว้ทำอะไรคะ"แคร์ถาม
"ก็เหมือนจักรยานธรรมดากับจักรยานเสือภูเขานั่นแหละ"พนักงานสาวเอ่ย
"ราคา 350 แอนกริด ใช่ปะคะ"จีลถาม "อ๋อใช่ค่ะ ผ่อนได้นะคะไม่มีการเสียดอกเบี้ย" "ถ้านำไปประกอบเองจะราคาเท่าไรคะ หมายถึงนำชิ้นส่วนอะไหล่แต่ละอย่างมาประกอบกันเองเป็นบอร์ด"จีลถามต่อ
"ราคาจะถูกกว่านี้น่ะ แต่ประกอบยากน่าดูนะ"พนักงานสาวแนะ "คือต้องประกอบให้เป็นน่ะพวกเธอคงไม่เป็นกัน ซื้อสำเร็จรูปดีกว่าประกันภัยสามเดือนเกิดปัญหาซ่อมได้ที่ศูนย์"
"บอร์ดหนึ่งตัวราคา 350 แอนกริด หกบอร์ดก็ 2100 แอนกริด คิดเป็น 77700 บาท โหะ..."เจลาลิ่งคิดในใจและคลื่นไส้เกี่ยวกับราคาซึ่งเฉียดแสน
"นี่เจไม่ต้องออกให้เราหรอกเรามีจ่าย"แคร์บอก
"นำเงินมาด้วยเหรอ"เจลาลิ่งถาม
"ไม่นี่นา..."แคร์พึมพำ
"ออกให้ก่อนก็ได้ อย่าซีเรียสเลยแคร์"เจลาลิ่งทำหน้ายิ้มแย้มไร้กังวลทำ แคร์เองก็รู้สึกถึงน้ำใจของเพื่อนเหมือนกัน
"เลือกตามใจชอบนะ ฉันเจออันที่ถูกใจตั้งแต่แรกแล้วละ"เจลาลิ่งพูดและหันไปมองคนอื่นๆ แต่ละคนก็ยิ้มให้ท่าทางแปลกๆ
"ได้กันทุกคนแล้วละ"มินท์พูด
"ก็นี่ไง"มินท์ชี้ไปตรงบอร์ดซึ่งอยู่ในชั้นวางทางด้านหลังของพนักสาวคนนั้น ตามมาด้วยคนอื่นๆซึ่งจะยกออกมา กล่องจะทึบมีรูปสติกเกอร์แปะให้เห็นรูปภาพข้างในจะเป็นบอร์ด และแต่ละคนก็เปิดเช็คดูของตนเอง
"บอร์ดทั้งหมดจะผ่อน 3เดือน 6เดือน 8เดือน หรือ 1 ปีคะ"พนักงานสาวพูดพลางยิ้ม
"จ่ายสดครับและของเพื่อนผมด้วยพนักงานสาวหายใจกระตุก
"จ่ายหมดนี่ 2100 แอนกริด ขอการ์ดของคุณด้วยค่ะ"
"เดี๋ยวสิครับ รองเท้า ถุงมือ อุปกรณ์ป้องกันยังไม่มีเลย"เจลาลิ่งท้วง
"อ่อ... เดี๋ยวน้องๆเดินตรงไปข้างหน้านะคะ นั่นแหละค่ะมีทุกอย่าง"ว่าเสร็จเจลาลิ่งก็ให้การ์ดไป เมื่อจ่ายเสร็จเรียบร้อยก็ได้ใบเสร็จและของมาทุกอย่างแต่ละคนจับเก็บเข้าสู่นาฬิกาของตนเอง และเมื่อเดินตรงเข้าไปจะมีรองเท้าใส่ไว้ในกล่องมีคำอธิบายเกี่ยวกับการใช้ส่วนถุงมือจะอยู่ถัดไปอีก ด้านอุปกรณ์เครื่องมือป้องกันการบาดเจ็บจะอยู่ในละแวกเดียวกัน มีคนอื่นๆถือบอร์ดของตัวเองดูแล้วเหมือนกำลังตกแต่งหรือซ่อมอะไรซักอย่าง เจลาลิ่งและเพื่อนๆเลือกซื้อของทุกอย่างภายในเวลาแปบเดียวราคารองเท้า 120แอนกริด ถุงมือ 20 แอนกริด ส่วนอุปกรณ์ป้องกันและอะไหล่เสริมต่างๆ 40 แอนกริด รวมทั้งหมดเจลาลิ่งออกค่าใช้จ่ายไป 3180 แอนกริด ภายในวันเดียว เทียบเป็นเงินบาทก็แสนต้นๆอย่างไม่น่าเชื่อ
................................................................
ความคิดเห็น