ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    แอนกริสเทพศักดิ์สิทธิ์ผู้พิทักษ์สวรรค์

    ลำดับตอนที่ #11 : ตราสัญลักษณ์เทพ !!!

    • อัปเดตล่าสุด 8 เม.ย. 49


    ภายในห้องห้องก็เหมือนห้องเรียนทั่วๆไปเพียงแต่ว่ามีอะไรแปลกไปกว่ากันเพียงเล็กน้อย ไอเย็นที่ทุกคนคงจะรู้มาก่อนหน้านี้แล้วว่ามาจากตรงไหนหน้ากระเป็นหน้าต่างกระจกซึ่งอยู่ติดกับกำแพงทางด้านซ้ายมือของห้อง มองไปก็จะเห็นวิวทิวทัศน์ภายนอกโรงเรียนได้อย่างขว้างขวางทั้งรถยนต์ ยานยนต์ ก็ขวักไขว่สัญจรไปมาอยู่ตลอด น่าเห็นใจผู้ที่เป็นตำรวจจราจรจริงๆ บนพื้นยังไม่เท่าไรแต่อยู่บนอากาศนี่สิมันน่าเห็นใจ มองจากที่ไกลๆตรงนู้นถ้าเข้าใจไม่ผิดคงเป็นสถานีตำวจที่ลอยบนอากาศ และมีตำรวจใส่เครื่องแบบหนักอึ้งอยู่บนหลังมีไอพ่นออกมา เหตุผลนี้ที่น่าสงสารที่สู๊ด ลอยตัวทำหน้าที่จราจร

                              น่าเห็นใจจริงๆ...


    "เฮ้พี่ ตื่นได้แล้ว มาอยู่ในห้องแปบเดียวทำเหม่อ" เค้กสะกิดมินท์ที่สายตามองทะลุกระจกอย่างเลื่อนลอย บัดนี้มินท์ก็ยังคงไม่รู้สึกตัวทั้งๆที่อาจารย์เข้าห้องมาตั้งแต่เมื่อไรแล้วก็ยังไม่รู้

    "อาจารย์มาแล้ว"เค้กกระซิบเบาๆ ในห้องที่ดูเงียบกริบไมมีใครเอ่ยปากซักแอะ สายคาอาจารย์บอกทีท่าว่าไม่ใช่คนเลวร้ายอะไรซักหน่อยแต่ทำไมตอนที่อาจารยอยู่ข้างล่างกำลังเดินทางมาถึงได้หลบหมือนกับมีอะไรบางอย่างงั้นแหละ

    "เธอ! ลุกมานี่ซิ แนะนำให้เพื่อนๆรู้จักหน่อย เห็นมองหน้าอาจารย์ตั้งแต่เข้าห้องแล้ว"

    ผู้ถูกเรียกยังคงไม่รู้ตัวเจลาลิ่งที่นั่งข้างๆจีลต้องสะกิดให้เธอออกไป

    "ฉะ...ฉันเหรอ"

    "ก็เธอนั่นแหละ"

    "มีอะไรเหรอคะอาจารย์" จีลถามเสียงอ่อยท่าทีไม่ค่อยมั่นใจนัก คงเป็นเรื่องปกติสำหรับทุกคนนั่นแหละเวลาเจอกันครั้งแรกและโดนเรียกมายังงี้คงต้องกลัวเป็นธรรมดา

    "แนะนำตัวซิว่าเธอมากไหน ชื่ออะไร และมีความสารถอะไร" อาจารย์บอกกับสาวน้อยผู้ที่ท่าทางไม่มั่นใจซะเหลือเกิน

    "เออ....."

    "ก็พูดซักทีซิ มัวแต่อ้ำอึ้งอยู่ได้ เสียเวลากันหมด" ชายหนุ่มตัวใหญ่สมกับอายุมองมาที่จีลอย่างไม่ค่อยพอใจนัก นัยน์ตาสีน้ำเงินมองมาที่จีลจะกรีดแทงจีลให้เป็นชิ้นๆ ทรงผมและใบหน้าดูออกได้เลยว่ามาจากตระกูลคนรวย ไม่รู้พ่อแม่ไม่ได้สอนเรื่องมรรยาทรึไงนะ ถึงมีท่าทีก้าวร้าวเอาแบบนี้

    "เงียบ!" อาจารย์พูดเสียงเรียบ เจ้าตัวที่บ่นปาวๆอยู่เมื่อครู่ต้องเงียบลงทันที  ขณะที่อีกฟากนึงของห้องเรียนเค้กกับมิ้นท์หัวเราะขำกันอย่างเบาๆโดยไม่มีใครรู้ แต่สายตาที่เฉียบคมของเด็กหนุ่มที่ไม่มีมรรยาทนั้นเหลือบมองไปเห็นการกระทำของเค้กพอดี เมื่อรู้ตัวว่ามีใครมองมินท์กับเค้กก็เงียบลงไป

    "ฉันชื่อ จีล... วาเลนไทน์ ค่ะ มาจากกรุงเทพฯ ส่วนความสามารถพิเศษคือเล่นดนตรีได้หลายชนิดค่ะ"

    "อืมมม….  ขอบใจมากไปนั่งที่ได้แล้วละ"

    "อาจารย์ยังไม่ได้แนะนำชื่อให้ตัวเองรู้จักเลยนะ โทษทีลืมเหมือนกัน" ซักพักนิ้วมือก็ถูกชี้ไปที่กระดาน อักษรสีทองค่อยๆปรากฏชัดเจนยิ่งขึ้น

    "ฟินลิป มาลาน่า อาจารย์เป็นลูกพี่ลูกน้องกับโฟรไดร์ฟ  ตอนนี้เรื่องวุ่นๆก็เกิดขึ้นในโรงเรียนเราดาบที่อยู่ในอนุสาวรีย์หายไปอย่างลึกลับเชื่อว่าคงเป็นบุคคลถายในโรงเรียนเราแน่ที่มีส่วนเกี่ยวข้อง"

    "อาจารย์คะแล้วมีผลกระทบร้ายแรงรึเปล่าคะ" เสียงน่ารักของเด็กสาวดังขึ้นหลังห้อง เจลาลิ่งได้ยินเสียงชัดเจนเพราะเด็กสาวนั้นนั่งอยู่ข้างหลังเขา

    "ไม่ต้องห่วงหรอกตอนนี้มาห่วงเรื่องพวกเธอกันดีกว่านะ ฉันมีบางอย่างไม่ได้บอกพวกเธอไปเหมือนกันนะ คือโรงเรียนเราจะสอนวิชาการไม่เหมือนใครเขา"

    บอกทำไมกันเรื่องนี้ก็รู้อยู่และไม่เห็นต้องมาบอกเล๊ย จะสอนอะไรก็สอนมาเถอะครับ ผมอยากเรียนจะแย่อยู่แล้ว แต่อีกใจมันก็ขี้เกียจอยู่เหมือนกันขณะที่คนธรรมดาๆ ได้พักอยู่บ้านสบาย ได้ไปเมืองนอก  ได้ไปสวนสนุก ได้นอนหลับ  นึกแล้วอิจฉาจริงๆ


    "พวกเธอคงไม่เข้าใจสินะว่าวิชาที่พวกเธอผ่านข้อเขียนมาได้นั้น ไม่ได้มีสอนหรอก"

    อาจารย์กำลังดำเนินเรื่องอธิบายก็เกิดเสียงดังขึ้นมา

    " อ้าววว... แล้วจะสอบทำไมกันครับ ในเมื่อไม่มีสอน"

    "ก็เพราะว่าเป็นการคดเลือกเด็กที่มีความขยัน มีความเก่ง ส่วนหนึ่งละสิ"

    "อ๋อ...." คราวนี้เสียงดังทั้งห้อง

    "ตั้งใจฟังดีๆนะวิชาที่บังคับเรียนคือ1.วิชาภาษาสาม (ภาษาเทพ+ภาษามนุษย์+ภาษาอสูร)

                                                              2.วิชาการต่อสู้

                                                              3.วิชาฝึกสมาธิ

                                                               4.วิชาประวัติศาสตร์

    และวิชาที่ 5 คือ       วิชาการปฐมพยาบาล"

    "5วิชานี้เป็นวิชาที่นักเรียนในโรงเรียนต้องรู้ทุกคนและต้องเรียนเหมือนกันทุกคนในระดับเกรดหนึ่ง ส่วนจะมีวิชาเสริมที่สามารถเลือกเรียนได้อย่างอิสระอีกสามวิชาซึ่งอีกสามวิชาฉันจะให้พวกเธอเลือกเรียนในอาทิตย์หน้า แต่ในอาทิตย์นี้เธอก็เรียนวิชาบังคับก่อน หวังว่าพวกเธอคงเข้าใจ     ใครมีข้อสงสัยอีกบ้าง"

    "โรงเรียนแบ่งนักเรียนเป็นกี่เกรดเหรอครับ" เค้กยกมือถามขึ้น

    "โรงเรียนแบ่งออกเป็นหกเกรด ส่วนเรื่องเครื่องแบบละก็แบ่งตามเกรดเหมือนกัน แล้วปอกแขนข้างขวาจะแตกต่างกันไม่ได้เหมือนกันทุกคนเพราะปอกแขนข้างขวาจะมีสัญลักษณ์ที่ทำให้รู้ว่าเราเรียนวิชาเสริมอะไร ส่วนเข็มกลัดที่ติดอยู่บนอกเสื้อด้านขวาสีทองหมายถึงประธานนักเรียน ส่วนเข็มเงินหมายถึงกรรมการนักเรียน"  อาจารย์ดูท่าทางจะยืนอยู่นานจึงเดินไปที่โต๊ะทำงานมุมห้องเพื่อจะไปนั่งเก้าอี้

    "วันนี้จะสอนอะไรเหรอคะ" เด็กสาวที่นั่งอยู่ข้างเจลาลิ่งเอ่ยถาม ขณะที่นักเรียนในห้องมองไปที่อาจารย์ฟินลิปไปในสายตาเดียวกัน

    เสียงหัวเราะเบาๆของ อ.ฟินลิป ดังขึ้นเล็กน้อยก่อนจะผิวปากอย่างอารมณ์ดี ท่าทางดูแปลกยังไงไม่เข้าใจเลยอาจารย์คนนี้

    "อยากเรียนวิชาไหนก่อนละ" อาจารย์ฟินลิปเอ่ยด้วยน้ำเสียงที่แสนจะธรรมดา

    อะไรกันของอาจารย์ตารางสอนก็มีไม่ยักจะสอน ถามอะไรแปลกๆไม่เข้าใจจะตามใจนักเรียนกันเหรองั้นผมขอวิชาเรียนว่างเปล่าทั้งคาบละกัน คิคิ 

    "ก่อนจะสอนมันก็ต้องเริ่มปรับพื้นฐานกันก่อนจริงมะ จู่ๆจะให้มาเรียนพวกเธอเรียนไม่รู้เรื่องแน่ๆ"

    ก็จริงอยู่ว่าแต่จะปรับพื้นฐานอะไรกันอีกละ!

    "ก่อนอื่นครูจะให้พวกเธอตั้งสมาธิดีๆแล้วเอ่ยคำว่า  ฟีโดมินัม"  เอ่ยทำไมไม่เห็นเข้าใจเลย หรือ่ามีอะไรเหรออาจารย์ถึงให้เราเอ่ย เด็กนักเรียนทุกคนว่านอนสอนง่ายจริงๆ

    เอ่ยตามอาจารย์บอกทุกคำแต่ไม่มีอะไรเกิดขึ้น ครั้งแรก แป๊ก!

    ไม่เห็นมีอะไรเกิดขึ้นเลยอาจารย์จะให้พวกเราพูดอะไรเนี่ย ไร้สาระสิ้นดี นักเรียนบางคนพยายามท่องซ้ำแต่ผลก็คือเหมือนเดิม ไม่มีอะไรเกิดขึ้น อาจารย์ฟินลิปมองด้วยความหน่ายที่ลูกศิษย์นั้นทำไมไม่เชื่อเขากันเลย

    "บอกแล้วไงว่าให้ตั้งสมาธิกัน เอางี้ทุกคนหลีบตาลงแล้วนับหนึ่งถึงสิบแล้วพูด

     ฟีโดมินัม  ห้ามวอกแวกละและอย่าลืมตามามองครูด้วย ok ทุกคนหลับตากันเลยนับในใจนะไม่ใช่นับนอกใจ" อาจารย์ฟินลิปตั้งใจอธิบายให้นักเรียนทกคนฟัง บัดนี้ทุกคนได้หลับตาตามที่เขาบอก ภายในสิบวินาทีก็มีบางอย่างเกิดขึ้น

    ตราสัญลักษณ์แต่ละตัวอยู่เบื้องหน้าของนักเรียนทุกคนก่อนนักเรียนแต่ละคนจะลืมตาขึ้นตราสัญลักษณ์ของเค้กนั้นดูเหมือนกับนกยูงสีทอง   ส่วนจีลเป็นตราสัญลักษณ์เป็นนางฟ้าถือไวโอลิน   ส่วนมินท์เป็นนักรบกับลังตีดาบอยู่  และสุดท้ายเจลาลิ่งมี

    ตราสัญลักษ์เทพ!!! อยู่ ณ เบื้องหน้า

    อาจารย์ที่งงกับเหตุการณ์ที่ไม่น่าจะเกิดขึ้นได้ แม้จะไม่ได้คุ้นเคยกับของศักดิ์สิทธิ์เท่าไรนักแต่ก็พอรูว่าสัญลักษณ์นั้นที่อยู่เบื้องหน้าของเด็กหนุ่มบางคนเป็นสัญลักษณ์ที่ไม่เคยเห็นปรากฏมาก่อน  เด็กคนนี้เป็นใครกันแน่!

    แต่ความรู้สึกที่ผ่านสีหน้าออกมาทำราวกับเป็นเรื่องปกติ แล้วอธิบายต่อไปว่าสัญลักษณ์

    ที่อยู่เบื้องหน้านั้นมีความเกี่ยวข้องกับเธอทั้งโดยตรงและโดยอ้อม เช่นเธอคนนี้มีสัญลักษณ์สิงโตไฟก็แสดงว่าเธอมีความเกี่ยวข้องกับสิงโตและเกี่ยวข้องกับไฟ

    แค่เนี๊ย!         งั้นอัศวินถือดาบก็เป็นคนที่เกี่ยวข้องกับอัศวินกับดาบอย่างงั้นละสิ

    เฮ้อ....เวนกรรมจริง

    "ไม่ไดเหมายความอย่างที่พวกเธอคิดหรอก มันลึกกว่านั้นมากและสัญลักษณ์พวกนี้ก็เป็นตัวบอกเธอได้เหมือนกันว่าเธอจะเลือกเรียนสายไหนเป็นพิเศษจะควบคุมไฟเป็นพิเศษ หรือควบคุมนกเป็นพิเศษ รวมถึงในตัวเธอควบคุมอะไรได้เป็นนิเศษ   ที่อธิบายมามันก็แค่คร่าวๆอะนะ  พวกเธอก็เก็บสัญลักษณ์ที่ได้มาให้ดีละกัน โดยเฉพาะเธอ!" อาจารย์เบี่ยงสายตาไปมองที่เจลาลิ่ง เด็กหนุ่มยังงงๆอยู่กับคำพูดของอาจารย์ โดยที่ตัวเองไม่ได้รู้เรื่องเลยว่าของที่อยู่ในมือนั้นมันพิเศษมากขนาดไหน

    "ท่าทางอาจารย์แกจะแปลกๆเนอะ ว่ามะ" จีลกระซิบถาม

    "นั่นสินะ"

    แอ๊ดดดดดดดดดด  !  เสียงอ๊อดหมดเวลาดังขึ้น ครูแกเหมือนจะรู้ตัวเอ่ยคำว่าลาและออกจากห้องไปโดยที่นักเรียนยังไม่ทันจะได้แสดงความเคารพ

    "อาจารย์แกนี่ก็แปลกนึกจะออกจากห้องก็ออกโดยไม่ได้พูดอะไร" เค้กเอ่ยก่อนส่ายหน้าเล็กน้อย มินท์เองก็พยักหน้ารับ เห็นด้วยเหมือนกันกับการกระทำที่แปลกๆของอาจารย์


    ภายในห้องก่อนที่อาจารย์ฟินลิปอยู่ก็เงียบเฉียบไม่มีเสียงให้เล็ดลอดออกมาแม้แต่นิดมาถึงเวลานี้ที่อาจารย์ฟินลิปออกจากห้องไปก็แทบจะไม่ได้ยินเสียงใครพูดจากัน คงมีแต่เสียงกระซิบเล็กน้อยที่ได้ยินมาจากคนนั่งข้างๆบ้าง ดูเหมือนกับกะจิตกะใจของแต่ละคนเพ่งพิจารณาสิ่งที่ได้มาเมื่อครู่ สัญลักษณ์ของแต่ละคนที่ได้ดูเหมือนจะแตกต่างกันหมดโดยสิ้นเชิง

    แสงไฟสีส้มที่ประดับในห้องเรียนเล็กๆ พาให้แต่ละคนชวนเคลิ้มและอีกทั้งไอเย็นๆที่ซึมผ่านออกมาจากผนังวอเปเปอร์ที่อุณหภมิกำลังพอดิบพอดีกับแอร์ในห้องนอนทีแสนจะสบาย  ที่ถ้าเป็นเวลากลางคืนแล้วละก็คงจะหลับสบายไปแล้ว แต่ยังดีนะที่แสงแดดทอประกายมาอ่อนๆยังให้เห็นถึงอรุณในตอนสายๆ    นักเรียนรุ่นพี่สีฟ้าบางส่วนเดินอยู่ข้างนอกตึกกำลังจะย้ายไปเรียนอีกตึกหนึ่งซึ่งแตกต่างจากพวกเราที่กำลังรออาจารยอีกท่านหนึ่งมาสอน                  

     "สวัสดีค่ะนักเรียนทุกคนอาจารย์ชื่อ jazz   zika"   คำว่า jazz  เน้นเสียง z เป็นพิเศษ

    อาจารย์คนนี้เป็นอาจารย์ผู้หญิงดูจากประสบการณ์สอนคงเป็นอาจารย์ใหม่แน่ๆ หน้าตาก็ยังสาวยังสวย รูปร่างผอมเพียวได้สัดส่วนนี่ถ้าประกวดมิสยูนิเวิร์สอาจารย์แกคงได้ที่หนึ่งอย่างสบายๆไปเลย นัยน์ตาสีชมพูที่ใส่คอนแทกเลนส์ แฟชั่นกิ๊บเก๋ที่ใครๆก็นิยมใส่กัน  ไม่อยากจะเชื่อว่าไม่น่าเป็นอาจารย์ในโรงเรียนแอนกริส   

    สายตาของนักเรียนบางส่วนดูเหมือนจะแปลกใจอยู่ไม่น้อยที่ไม่อยากจะเชื่อว่าจะมีอาจารย์สวยๆมาสอนในห้องของพวกเรา  

    "สวัสดีครับ/ค่ะ อาจารย์" นักเรียนในห้องพูดลากเสียงยาวๆพร้อมกัน

    "เรียกว่าครูก็ได้นะจ๊ะ  คำว่าอาจารย์ดูเหมือนจะแก่ไป" นักเรียนในห้องบางส่วนหัวเราะออกมาเล็กน้อย

    "อาจารย์สวยอยู่แล้วครับไม่ต้องห่วง"
    นักเรียนชายอยู่กลางๆห้องทักขึ้นพร้อมกับนักเรียนที่นั่งข้างๆอีกสองสามคนแสดงท่าทางเห็นด้วย


    "ค่ะหนูก็ว่าอย่างงั้น" นักเรียนหญิงหน้าห้องแทรกขึ้นมา

    "เอาละๆ พอก่อนๆ วันนี้อาจารย์ฟินลิปสอนอะไรพวกเธอไปบ้างละ" ครู jazz ถามนำ

    "ก็ไม่เห็นมีอะไรนิ๊คะ ก็แค่ให้หลับตาแล้วท่องอะไรสักอย่างนี่แหละค่ะ" นักเรียนหญิงผมยาวเธอคนนี้มองออกเลยว่าไม่ใช่คนในเมืองไทยอย่างแน่นอน  ผมสีทองยาวถึงกลางหลัง นัยน์ตาสีฟ้าดูเป็นธรรมชาติกลมกลืนกับหน้าตาของเธอดี   ใบหน้านั้นเป็นทรงไข่แต่ไม่มากนักริมฝีปากสีแดงได้มาจากการทาลิปสติก

    "ฟีโดมินัม  อะครับ" เค้กยกมือขึ้นตอบ

    "เข้าใจแล้วละ สัญลักษณ์ที่พวกเธอได้มาก็เก็บดีๆละกันเป็นไปได้ให้เก็บไว้ในนาฬิกาเพราะจะปลอดภัยที่สุด สิ่งของนี้จะเป็นประโยชน์มากในอนาคต       และอีกอย่างเรียนว่าครูซีดีกว่านะง่ายดี"

    ครูซีเอ่ยเสียงใส      แบบนี้นี่สิค่อยยังชั่วหน่อยเรียนกับอาจารย์สวยๆน่ารักๆ แบบนี้ค่อยมีความกระตือรือร้น ต่อให้เรียนทั้งวันก็ทนได้   อิอิ...

                                                     ........................................................

    มองทะผ่านทะลุกระจกใสไปก็จะเห็นห้องทำงานขนาดใหญ่ของ ผอ.โรงเรียนแอนกริส โต๊ะทำงานที่ตั้งอยู่กลางห้องมีหนังสือและแฟ้มเอกสารวางอยู่อย่างเป็นระเบียบ บานหน้าต่างแต่ละบานถูกปิดมิดชิดด้วยผ้าม่านสีเขียว พรมถูกปูไปทั่วห้อง   ทันทีที่เข้าไปก็รู้สึกถึงไอเย็นที่ผ่านไปทั่วรูผุมขน

    "มีธุรอะไร  อาจารย์ฟินลิป" ศ. ดอลลิ่ง ไอเซนเบิร์ก  ที่มือขวากำลังเขียนงานอย่างเร่งรีบเอ่ยทักชายผู้นั้นที่กำลังเข้าห้องมาอย่างช้าๆ

    "เอ่อ... ผมมีเรืองสำคัญจะมาปรึกษาท่านครับ" คำพูดแต่ละคำฟังดูอ่อนโยนและเรียบร้อย ก่อนที่ ศ. จะเอ่ยให้มานั่งตรงเก้าอี้ล้อเลื่อนที่อยู่ข้างหน้าโต๊ะทำงาน

    "รีบหน่อยละ ฉันมีงานต้องทำอีกเยอะมีอะไรก็ว่ามาเลย" ศ. เอ่ยเสียงเรียบ

    "คือนักเรียนที่ผมสอนอยู่เมื่อเช้ามีตราสัญลักษณ์เทพ!" อาจารย์ฟินลิปเอ่ย

    "พูดเป็นเล่น" ดูท่าทีศ.ดอลลี่ จะไม่ค่อยซีเรียสเท่าไร หัวเราะอย่างอารมณ์ดี

    "เมื่อเช้าผมให้เด็กท่องคาถาเรียกตราสัญลักษ์ประจำตัวปรากฏว่าเด็กคนหนึ่งได้ตราสัญลักษณ์เทพ!"ศ.ดอลลี่หายใจกระตุกเล็กน้อยก่อนสีหน้าจะเปลี่ยนจากมะกี้ที่อารมณ์ดีเปลี่ยนท่าทีมาเป็นเครียดเป็นไปได้ยังไงสัญลักษณ์เทพไม่เคยปรากฏทีไหนมาก่อน จู่ๆจะมาให้เห็นง่ายๆแบบนี้น่ะหรือ เป็นไปไม่ได้แน่นอน ถ้าเป็นอย่างที่ฟินลิปพูดแสดงว่าอนาคตต้องเกิดเหตุการณ์ไม่ดีเป็นแน่ บ้านเมืองตั้งแต่สิ้นสงครามลงก็ไม่เคยเกิดเหตุอะไรนี่นา


    หรือว่า
    !!!   สงครามครั้งยิ่งใหญ่จะเกิดขึ้น


    เหตุการณ์ในตอนนี้ที่เกิดขึ้นสัญลักษณ์เทพเพิ่งจะปรากฏ   เหตุการณ์วุ่นวายในช่วงนี้เกิดขึ้นในเวลาพร้อมๆกัน   ดาบศักดิ์สิทธิ์ที่เพิ่งถูกขโมย  ชายชุดดำมาเกี่ยวข้อง    ตราสัญลักษณ์เทพปรากฏให้เห็น  มันมีอะไรแปลกๆมากขึ้นทุกทีแล้วละ
    เสียงถอนหายใจเฮือกใหญ่ดังขึ้น ศ. ทำท่านึกคิดมือขวานำมาประกบไว้ที่ปาก  อาจารยฟินลิปก็คงกลุ้มไม่แพ้กัน     ก่อนเสียงอาจารย์ฟินลิปจะดังขึ้นเพื่อทำลายความเงียบ

    "ผมขอตัวลาก่อนนะครับ คาบต่อไปผมต้องไปสอนต่อ วันหลังผมจะมาปรึกษาเรื่องนี้อีกที" อาจารย์ฟินลิปทำท่าเคารพก่อนจะเดินออกไปในห้อง ทิ้งให้เหลือศ.ดอลลิ่งที่นั่งอยู่บนโต๊ะคนเดียวมือขวาที่แต่ก่อนถือปากกาเขียนอยู่ตลอดถูกนำมาใช้ท้าวคางพร้อมกับมือซ้าย

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×