ลำดับตอนที่ #10
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #10 : ของล้ำค้าที่จะหายไป
เจลาลิ่งเริ่มรู้สึกตัวเขาฟื้นมาอีกทีก็นอนอยู่ที่เก้าที่ที่อยู่ทางสวนสาธารณะของโรงพยาบาล ไม่น่าจะเป็นไปได้ที่เขาจะมาที่นี่ด้วยตัวเองได้ความคิดความรู้สึกยังคงอยู่ในหัวสมองหองเขา คำพูดของเทพสาวคนนั้นดูเหมือนจะรู้สิ่งที่เจลาลิ่งคิดและรู้ตัวตนของเขามากเสียอีก
"ออกไปไหนมาเหรอเจลาลิ่ง" เค้กถามขึ้นเมื่อเด็กหนุ่มกำลังเดินเข้าห้องอย่างช้าๆ
"ไปเที่ยวมานิดหน่อย" เจลาลิ่งตอบออกไปให้พ้นๆเรื่อง
"นี่มัน4ทุ่มแล้วนะ"
"อะไรนะ!!" เจลาลิ่งชักสีหน้าขึ้น ไม่น่าเชื่อว่าเหตุการณ์ที่รู้สึกว่าผ่านไปไม่นานกับผ่านไปนานอย่างเหลือเชื่อ เขาจำได้ว่าเขาไปที่ป่าเอเซนนิกส์ตอนเช้าๆอยู่เลยนิ๊ เจลาลิ่งอึ้งไปครู่หนึ่งก่อนที่จะปรับสีหน้าเป็นปกติภายในเวลาเสี้ยววินาที
"ไปนอนเถอะหน้าตาบอกบุญไม่รับเลยแล้ว กินอะไรมารึยังละ ในตู้เย็นมีแซนวิชเหลืออยู่ถ้าหิวก็หยิบมากินเอาเองนะเดี๋ยวฉันวันนี้จะไปที่กรุงเทพฯหน่อยเห็นว่าที่หมู่บ้านฉันจะจัดงานฮาโลวีนที่จะมาถึง"
"อีกสามวันเองนิ๊" เจลาลิ่งพึมพำ
"ไปก่อนละ เออ..นี่ๆ หมอบอกว่าพรุ่งนี้จีลออกจากโรงพยาบาลได้แล้วนะส่วนค่ารักษาไม่รู้ใครไปจ่ายล่วงหน้าให้แต่ก็ดีเหมือนกันไม่ต้องจ่ายเอง อิอิ หรือว่านายจ่ายฮะ
เจลาลิ่ง"
"เปล่า"
"ไปก่อนละ ไม่พูดมากและ พรุ่งนี้ยัยมินท์กับแคร์จะไปที่โรงเรียนแอนกริสนะเพื่อไปจองห้องพักในนั้น รีบไปเร็วๆละเดี๋ยวได้ห้องที่ไม่ชอบไม่รู้ด้วย"
"เถอะน๊า แล้วนายละ" เจลาลิ่งถาม "ไม่ต้องเป็นห่วงหรอก ไปก่อนนะ"
"อืมๆ"
"เธอเองเหรอ" จีลพูดค่อยๆ "มาตั้งแต่เมื่อไหร่ ยังไม่เห็นเธอมาทั้งวันตั้งแต่เธอออกไป"
"ก็ไปธุระไง" เจลาลิ่งยิ้มเล็กน้อย
"อืมๆ" สักแปบจีลก็หลับไปต่อ เจลาลิ่งเดินไปที่ตู้เย็นทั้งวันเขายังไม่ได้กินอะไรนับตั้งแต่เช้า แซนวิชรูปสามเหลี่ยมสอดไส้แฮมชวนน่ารับประทานเจลาลิ่งกัด4คำหมดด้วยความหิวแต่ก็ทำให้เขาเกือบกินติดคอเหมือนกัน
....................................
พยาบาลเดินเข้าห้องมาโดยที่ไม่ได้เคาะประตู จีลตื่นมาตั้งแต่หกโมงเช้าขณะที่เจลาลิ่งยังหลับอยู่ ทีวีช่อง M.A.T กำลังฉายการ์ตูนเรื่องพาวเวอร์พับเกีอล ซึ่งการ์ตูนเรื่องนี้จีลชอบเอามากๆเสียด้วย
"วันนี้ก็ออกจากโรงพยาบาลได้แล้วนะคะ" พยาบาลสาวเอ่ย
"ค่ะ" จีลอมยิ้มอยู่เล็กน้อยเมื่อจะได้กลับบ้านในวันนี้
"น่ารักจังนะ" พยาบาลสาวทักขึ้น
"หนูเหรอ"
"เปล่าๆ" พยาบาลมองไปที่เจลาลิ่ง อย่างเอ็นดู "แฟนเหรอ"
"เปล่าค่ะๆ เพื่อนเฉยๆ ว่าแต่วันนี้อากาศดีจังเลยนะคะ" จีลรีบตัดบทก่อนที่พยาบาลนั่นจะซักไซ้จนน่ารำคาญไปมากกว่านี้
........................................
"ยังไม่มากันอีกเหรอเนี่ยผิวฉันจะเสียก็เพราะแดดเนี่ยแหละ" มินท์เอามือปาดเหงื่อไปพลางๆ กำลังชะเง้อหาใครบางคนอยู่
"ใจเย็นสิ ถ้าร้อนนักก็หลบไปอยู่แถวๆอาคารก็ได้" แคร์เอ่ยเมื่อเห็นเพื่อนเธอกำลังออกอาการหงุดหงิด
"มาแล้วๆ" เค้กรีบวิ่งมา ข้างหลังสะภายเป้สีดำใบขนาดพอเหมาะ ท่าทางแคร์และมินท์จะมองไปที่เด็กหนุ่มอย่างหงุดหงิดเอาการ วันนี้ไม่รู้บ้างว่าจะโดนใครเปิดฉากด่ากี่ตลบกัน
"ทำไมไม่มาซักเที่ยงเลยละ" มินท์ประชด
"นายไปไหนมาเหรอถึงได้ช้าอย่างเงี้ย" แคร์ออกแนวบ่น
"โทษนะฉันติดงานจัดฮาลาวีนที่บ้านของฉันอยู่น่า ก็เลยมาช้าหน่อย โธ่! แค่นี้ทำบ่น"
"เจลาลิ่งกับจีล จะมากันรึเปล่า"
"ไม่รู้สิ ให้โทรถามไหมละฉันมีรหัสของเจลาลิ่งอยู่"
"ตามใจ" มินท์เอ่ยเสียงเรียบ ตัวเธอเองเดินหาที่หลบแดดเพราะเกรงว่าผิวจะเสียไปหมด
มินท์เป็นคนที่ต้องเนียบซะทุกอย่างไม่ว่าทรงผม น้ำหอมที่ใช้ก็ต้องเลือกด้วยว่าเป็นกลิ่นแบบไหน เครื่องสำอางนาๆชนิด แคร์เองอย่างว่าเป็นคนเปรี้ยวยังต้องขอคำปรึกษาจากเพื่อนสาวของเธอคนนี้เลย
"เดี๋ยวนะจีล มีคนติดต่อมา" เจลาลิ่งเปิดระบบคอลลิ่งผ่านนาฬิกามีชื่อของบุคคลนั้นขึ้นมาอย่างชัดเจน
"เจถึงไหนแล้ว เรารอกันอยู่ที่ตึกเวนิสนะ รีบๆมาหน่อยละ ยัยมินท์จอมซ่ามันบ่นคิดถึงอยู่อะ" เค้กเอ่ยพลางมองไปที่เด็กสาวที่กำลังใช้ไม้เขี่ยทรายเล่นอยู่
"ใกล้ถึงแล้วละ อยู่บนถนนแอนกริสแล้วเนี่ยตอนนี้รถมันติดอะทั้งทางน่านฟ้าและบก รอแปบนึงนะ คงไม่นานมากหรอก" "จีลๆจะคุยกับเค้กไหม"
"อืมๆ"
"สวัสดีจะ รอแปบนะใกล้ถึงแล้ว"
"อืมๆ หายดีแล้วเหรอดีใจด้วยนะ วันนี้หลังจากทำธุระเสร็จพวกเรากะจะไปหาอะไรกินไปเที่ยวข้างนอกก่อนถึงวันเปิดเทอมวันพรุ่งนี้"
"ดีเหมือนกันนะ พวกเธอจองห้องพักกันเสร็จรึยัง"
"เรียบร้อยแล้วละ" เจลาลิ่งปิดการโอนสายไปที่เครื่องนาฬิกาของจีลและสัญญาณกลับมาเข้าเครื่องเจลาลิ่งเหมือนเดิม
"เออนี่.. ห้องพักไม่ต้องจองแล้วละไปถึงที่นั่นก็จะชวนนาย มินท์ แคร์ ไปหาอะไรทานข้างนอกเลย ฉันลืมบอกไปว่าฉันจองไว้แล้ว"
"จริงสิ แล้วไม่บอกตั้งแต่แรก" แคร์ฟังเสียงโทรศัพท์ไปสักพักก็เดินไปนั่งกับมินท์ที่นั่งอยู่ก่อนแล้ว
"ไว้แค่นี้ก่อนนะ แล้วเจอกัน"
สิ้นสุดการเชื่อมต่อ ติ๊ดๆๆ... สัญญาณโทรศัพท์หายไปเมื่อเจลาลิ่งกับเค้กสิ้นสุดการติดต่อ
"เออ..นี่เขาว่าไงมั่ง" มินท์เอ่ย
"เดี๋ยวก็มาเองแหละ" เค้กเดินไปที่เงาต้นไม้ขนาดใหญ่ซึ่งอยู่บริเวณใกล้เคียงกับแคร์และมินท์ที่หลบแดดอยู่ก่อนหน้านี้
ภายในห้องประชุม ณ โรงเรียนแอนกริส
"ผอ.ครับภายในวันพรุ่งนี้ก็จะเป็นการเปิดภาคเรียนใหม่แล้วครับ ทางโรงเรียนมีปัญหากับการขาดแคลนอาจารย์ผู้สอนวิชาศาสตร์แห่งธาตุ ซึ่งเป็นวิชาที่สำคัญวิชาหนึ่ง" ชายหนุ่มรูปร่างท้วมลุกขึ้นชี้แจงอย่างเป็นเหตุเป็นผล แววตาส่องประกายแห่งความมานะและมุ่งมั่น ท่าน ผอ. ไม่มีท่าทางการวิตกเรื่องนี้สักเท่าไร
"มีปัญหาสำคัญอีกหนึ่งอย่างนะคะท่าน เพิ่งเกิดขึ้นเมื่อเร็วๆนี้นี่เอง" หญิงสาวรูปร่างค่อนข้างสูงริมฝีปากทาสีแดงการมส่เสื้อผ้าของเธอจัดว่าเดีมากเมื่อเทียบกับคนอื่นๆในห้องประชุมถึงแม้กรรมการที่เข้าร่วมประชุมนั้นจะแต่งตัวได้ดีก็ตาม
"ของล้ำค่าได้หายไปจากอนุสาวรีย์แห่งชัยชนะ ไม่มีการงัดแงะใดๆ มันแปลกไหมคะท่าน" ผอ.ชักสีหน้าเรื่องนี้เป็นเรื่องคอขาดบาดตาย น่าแปลกมากที่ไม่มีร่องรอยการงัดแงะ แต่จะเป็นไปได้อย่างไรเมื่อชุดรักษาความปรอดภัยของเจ้าหน้าที่ระดับสูงอย่าง
I.S.C อยู่คุมเวรที่นั่นตลอดทุกเวลา
"เป็นไปได้ยังไง เรื่องแบบนี้ไม่ควรจะเกิดขึ้น ท่านโฟรไดร์ฟ" "ครับ" "ท่านรีบหาเบาะแสเรื่องนี้โดยเร็วที่สุดจับตัวคนร้ายมาให้ได้ ถ้าไม่งั้นเมืองแอนกริสรวมถึงเมืองอื่นๆอาจได้รับผลกระทบไปด้วย"
"ผอ. คะ เรื่องนี้อาจพัวพันกับชายชุดดำได้" หญิงสาวคนเดิมเอ่ยต่อ
"เป็นไปได้ๆ" ผอ.ยักหน้าเห็นด้วยจากการที่ตรวจดูที่เกิดเหตุคนธรรมดาๆไม่มารถฝ่าไปได้แน่ อีกทั้งภายในอนุสาวรีย์มีระบบเซพตี้ของมันเอง"
" เรื่องนี้ต้องแจ้งไปถึงคณะองค์การปกครองเทพ จะปล่อยไว้แบบนี้ไม่ได้แล้ว เรื่องนี้ท่านก็ช่วยอีกเรื่องนะท่านโฟรไดร์ฟ เห็นจะมีท่านคนเดียวที่สามารถพึ่งพาได้" ชายคนั้นยิ้มให้เล็กน้อย โฟรไดร์ฟคือเทพชั้นกลางของสวรรค์ที่ลงมาเป็นหนึ่งในกรรมการโรงเรียนแอนกริส ซึ่งโรงเรียนแอนกริสจะกล่าวได้ว่าเป็นโรงเรียนแห่งเทพก็ได้
โฟรไดร์ฟเป็นชายที่รูปร่างสง่างามพอๆกับเทพชั้นสูง มีผลงานมากมาย เป็นคนที่น่ายกย่องคนหนึ่ง แววตาสีฟ้าของเขาเผยถึงไหวพริบและความฉลาด รอยยิ้มน้อยๆทำให้เทพคนนี้ดูเป็นคนอ่อนๆโยนแต่บางทีก็แฝงไปด้วยความจริงจังและน่าสะพรึงเหมือนกัน
"เรื่องนี้อย่าเพิ่งแพร่ออกไปข้างนอกจนกว่าจะแน่ใจและรู้สาเหตุที่แท้จริง" ผอ.กล่าวอย่างจริงจัง
"ครับ ศ. //คะ ศ."
"เอาเป็นว่าวิชาที่ขาดแคลนอาจารย์สอนให้ใครก็ได้ที่ถนัดวิชานี้สอนแทนไปก่อน ผมเชื่อว่าพวกท่านคงมีสติปัญญาทางด้านนี้พอสมควร" ผอ.ยิ้ม "ถ้างั้นก็ไม่มีอะไร ผมต้องขอตัวไปทำงานอีก ปิดการประชุมครับ"
"โฟรไดร์ฟ" หญิงสาวผมทองใส่แว่นตาใสนัยน์ตาสีดำเหมือนคนเอเชียในแถบบ้านเราแต่ที่แปลกเธอสูงและสมส่วนกับน้ำหนักพอดีถ้าไม่ใส่แว่นเธอคงเป็นผู้หญิงที่เซ็กซี่มากกว่าเคร่งกับงานน่าดู เอ่ยชื่อชายหนุ่มที่กำลังจะออกจากประตูบานเลื่อน
"มีอะไรเหรอไมน่า" เขาพูดอ่อนหวานเมื่อหญิงสาวเข้ามาเรียก
"วันนี้ไปทานข้าวข้างนอกกันไหม"
"แต่ฉันมีงานนะ ศ. สั่งฉันสองงานและต้องรีบทำด้วย" หญิงสาวเงียบไปครู่ แต่สนทนายังคงดำเนินต่อไป
"ที่ฉันชวนเธอก็ด้วยเรื่องนี้แหละ" ชายหนุ่มตอบไปโดยทันทีโดยใช้เวลาคิดไม่ถึงวินาที
"โห มาช้าให้พวกฉันรอพามาเลี้ยงแค่เนี้ย" เค้กพูดพลางจิบนมเย็นไปพลางๆ
"ทำบ่นๆ ไม่พอใจก็ไม่ต้องกินก็ได้นะ" มินท์พูดสวนกลับทันที รู้สึกว่าสองคนนี้คงจะเคยเป็นคู่กัดดันมาในชาติที่แล้ว
"พวกเธอเตรียมข้าวของมายัง" มินท์เอ่ย
"อะไร! มีอะไรอีกละ" เค้กยังเอ่ยทั้งๆที่ในปากกำลังเคี้ยวแฮมเบอร์เกอร์ที่เพิ่งกัดเข้าไปเมื่อสักครู่
"ฉันไม่ได้พูดกับนาย"
"ฉันยังไม่ได้เตรียมอะไรเลย วันนี้กะซื้อเสื้อผ้าใหม่ให้หมดให้มันเข้ากับสมัยของที่นี่ซักหน่อย จริงมะ" เจลาลิ่งพูดและถามความคิดเห็นคนอื่นๆ
"ก็กะจะไปห้างที่นั่นเหมือนเดิม" เจลาลิ่งเอ่ยและมองไปที่จีล
"อะไรเหรอ" จีลยักคิ้วเมื่อเห็นเด็กหนุ่มมาจ้องหน้า
"จำไม่ได้เหรอไงว่าฉันเคยชวนเธอไปทั่นั่นไง" จีลนึกคิดอยู่ครู่พร้อมกับเสียงอ๋อที่ตามมา
"ครั้งนั้นนายตลกมากเลยรู้มะ" "นายเกือบตายเพราะกดเบิกสตางค์ในนาฬิกาไม่เป็น คิ"ิ เจลาลิ่งเสียหน้าเล็กน้อย แคร์กับมินท์ หัวเราะคิกคักเบาๆ เค้กเองก็ฟังไปด้วยเหมือนกันแต่ก็จ้องหน้าจ้องตากินลูกเดียว
"เฟรนซ์ฟรายละกันนะ" เค้กเอ่ยลอยๆ และหยิบเมนูในหนังสือบนหนังสือนั้นจะเป็นรายการอาหารต่างๆทั่วๆไปแต่ที่แปลกก็คือมันเป็นตัวหนังสือไฮเทคโนโลยีเพียงแค่กดเมนูอาการจะถูกส่งไปที่ห้องครัวพร้อมกับหมายเลขอาหาร ทันสมัยกว่าโรงอาหารที่โรงเรียนแอนกริสเสียอีกที่ต้องให้พนักงานเสริฟคอยกดเมนูในเครื่องดิจิตอลประจำตัว
สักพักเฟรนฟรายก็ถูกนำมาวางไว้บนโต๊ะ
"น่าอร่อยนะ" เค้กยิ้มอย่างสำราญใจอย่างกับว่าอาหารบนโต๊ะนี้ของข้าเพียงผู้เดียว
"นี่นายจะกินไปถึงไหน" มินท์ทำเสียงดุใส่
"จนกว่าฉันจะอิ่ม" เค้กตอบห้วน และไม่สนคำด่าที่จะลอยตามมา
"แคร์ๆไม่ทานอะไรบ้างเหรอเห็นมานั่งจิบแต่น้ำเปล่า" เจลาลิ่งเอ่ยสายตามองเด็กสาวที่กำลังเอาหลอดเขี่ยน้ำแข็งเล่น
"ไม่หิวน่ะ พวกเธอก็กินๆไปเหอะน๊า"
"จีล!"แคร์ร้องถาม
"อะไรเหรอ" จีลขานรับ
"เปล่า..ไม่มีอะไรและ" แคร์หลบหน้าเหมือนเดิม
"เป็นอะไรไปเหรอ มีอะไรให้ช่วยก็ว่ามาเถอะ" เจลาลิ่งทำสีหน้าเป็นห่วง
"คือฉัน... เสื้อผ้าฉันไม่มีใส่นอกเสียจากเครื่องแบบนักเรียนแต่ฉันไม่กลับไปที่บ้านแน่"
แคร์เอ่ยเสียงแข็งๆแต่บางครั้งเสียงของเธอก็ดูขาดความมั่นใจมากเลยทีเดียว
"ไม่เป็รไรหรอกเดี๋ยวฉันซื้อให้" เจลาลิ่งยิ้ม "เอาเถอะน๊าวันนี้ก็กะจะซื้อให้ทุกๆคนเลยแหละอยากได้อะไรก็เลือกๆไปเลยนะ"
"จะดีเหรอ" แคร์ถามต่อ
"ดีสิ ได้ช่วยเพื่อนเป็นเรื่องดีอยู่แล้ว" แคร์ยิ้มให้อย่างเป็นมิตร "ไว้ฉันจะคืนให้ทีหลังนะ"
"เมื่อไหร่ก็ได้นะ หรือไม่ต้องก็ได้" เจลาลิ่งหยิบแก้วน้ำยกดื่มอย่างสบายใจ
"มีอะไรก็พูดมาเลยนะ ฉันมีเวลาไม่มาก" โฟรไดร์ฟเอ่ย เธอหยิบน้ำเปล่าขึ้นมาจิบก่อนที่สายตาทั้งสองจะไปมองเห็นใครบางคน
"มีอะไรหรือไมน่า" ชายหนุ่มทักขึ้น
"ดูนั่นสิ เด็กพวกนั้นที่ท่าน ผอ.เคยพูดให้ฟัง" โฟรไดร์ฟชะเง้อหน้าไปดูนิดนึง
และกลับมานั่งที่เดิม
"ใช่ แล้วไงละ"
"บอกให้ฟัง" ชายหนุ่มยักคิ้วเล็กน้อย
แฟนซีนั่ม!! โฟรไดร์ฟลุกขึ้นมือข้างขวายื่นออกไปข้างหน้าแขนขนานกับพื้น พลังที่ไม่สามารถมองเห็นได้ไปกระทบกับวัตถุบางอย่างเกิดเสียงดังแสบแก้วหูจนทำให้ทุกคนในร้านยกมือปิดหูแทบไม่ทัน กลุ่มของเจลาลิ่งซึ่งอยู่ใกล้ที่เกิดเหตุที่สุดรีบลุกออกจากที่นั่งทันที
"เธอทำอะไรนะ" ไลน่าถามด้วยท่าทีตื่นตระหนก ผู้คนในร้านอาหารหลังจากที่เกิดเสียงก็หันไปมองที่โฟรไดร์ฟเป็นสายตาเดียวกัน แต่ก็มีเจลาลิ่งที่หันซ้านหันขวาเหมือนกับรู้ว่าที่มีอะไร
"เห็นทีเรื่องนี้เราต้องไปรายงานเพิ่มอีกเรื่องแล้วละ" โฟรไดร์ฟเอ่ยกับไลน่า สีหน้าของหญิงสาวฟังดูไม่ค่อยเข้าใจเพราะมะกี้ที่เขาใช้พลังไปนั้นมันอาจจะดูงงๆที่จู่ๆก็ซัดพลังไปที่แก้วที่ตั้งอยู่บนเคาร์เตอบาร์หน้าตาเฉย
"เรากลับกันเถอะนะไม่มีอะไรต้องดูอีกและ" เจลาลิ่งเดินออกจากในร้านตามด้วยเพื่อนๆคนอื่นๆและเหตุการณ์ทุกอย่างก็กลับสู่ปกติ
"หมอนั่นท่าจะบ้า" เค้กบ่นอย่างหงุดหงิดเมื่ออาหารบนจานที่ตั้งอยู่น่าชวนรับประทานแตกกระจายไปเพราะเขาคนนั้นแท้ๆ
"เอาเหอะนะ นี่ก็เย็นมากแล้วฉันว่าพวกเราขึ้นไปบนหอพักดีกว่า พรุ่งนี้มีอะไรต้องเตรียมกันยอะ" เจลาลิ่งเอ่ยเสียงเรียบ
"แล้วเสื้อผ้าที่นายจะซื้อให้ละ ว่าไง" มินท์แทรก
"เดี๋ยวฉันจะให้เงินไปซื้อกันเอาเองนะ วันนี้ฉันอยากพักผ่อน" เจลาลิ่งกดปุ่มนาฬิกาจากนั้นก็เดินออกไปจากกลุ่ม
บรรยากาศภายในโรงเรียนเต็มไปด้วยความตื่นเต้นเมื่อผู้คนหลายชาติหลายถิ่นเดินเข้าประตูของโรงเรียนแอนกริสอย่างสง่าผ่าเผยบางกลุ่มก็มียานยนต์บินประจำตัวร่อนลงมา
บางคนก็ปั่นจักรยานสองล้อแต่ที่น่าแปลกคือมันลอยอยู่เหนือพื้นเล็กน้อยขณะที่ปั่น เห็นเพียงจีลกับเพื่อนๆยกเว้นเจลาลิ่งเดินเข้ามาในโรงเรียนปกติไม่ได้ใช้ยานยนตร์หรูๆเดินทางมา แต่เสื้อผ้าประจำโรงเรียนแอนกริสที่เขาใส่กันนั้นเป็นชุดคลุมคล้ายนักเวทย์ตัวจิ๋วแต่อุปกรณ์อาทิเช่นรองเท้า ถุงมือ อันนั้นเป็นสิ่งที่ทุกคนหามาเอง
ในไม่กี่นาทีจีลกับเพื่อนๆก็รู้สึกว่ามีใครบางคนมายืนอยู่ข้างหลัง
"จ๊ะเอ๋" เจลาลิ่งพูดหยอกๆ ทำให้ทุกคนแทบสะดุ้งไปตามๆกันเพียงแต่มินท์นั้นวิ่งไปหลบอยู่ข้างหลังเค้ก
"โธ่ นึกว่าใคร" เค้กเอ่ยเล่นเสียงเล็กน้อย สักพักมินท์ก็เดินออกมาจากข้างหลังเค้ก
"ไปหลบทำไมตรงนั้นอ่า" เจลาลิ่งพูดพลางยักคิ้วขึ้น มินท์ก็อายๆเล็กน้อยแต่สีหน้าก็ต้องเปลี่ยนไปเมื่อชายหนุ่มอีกคนหันมาล้อ
"นี่นายใครหาว่าฉันขวัญอ่อนฮะ มะกี้ก็แค่" มินท์ยกไหล่ขึ้นเล็กน้อย "ล้อเล่น"
"ล้อเล่น!" เค้กหัวเราะด้วยความสะใจ ฝ่ายมินท์ทำอะไรไม่ได้ได้แต่กำหมัดไว้แน่นพร้อมที่จะชกใครให้กระเด็นได้ทุกเมื่อ
"ขึ้นห้องเรียนกันเถอะ พวกเรานับว่าโชคดีมากนะที่ได้อยู่ห้องเดียวกันหมดเพียงแต่แคร์นี่สิอยู่คนละห้องกับพวกเราถ้ามีอะไรก็ช่วยเหลือก็บอกกันมาละกันนะ "ไม่รู้ว่าที่นี่จะสอนอะไรแปลกๆบ้าง" มินท์เอ่ยทำท่านึกคิดไปด้วย
ดูเหมือนนักเรียนที่มาเรียนนั้นจะใส่เครื่องแบบสีต่างกัน บางกลุ่มก็สีแดง
บางกลุ่มก็น้ำเงิน ส่วนเจลาลิ่ง จีล มินท์ แคร์ เค้ก พวกเขาใส่ชุดสีขาวปนดำ ไม่รู้ว่าสีนี่จะแบ่งตามชั้นเรียนรึเปล่า น่าจะใช่นะ
"ใครมีตางรางการเรียนบ้างละเนี่ยขอดูหน่อยสิ" เค้กเอ่ย
"ดูเอาเองสิ ในนาฬิกา" ทุกคนเอ่ยเป็นเสียงเดียวกัน เค้กเปิดดูแต่ตารางเรียนนั้นก็มีแต่วิชาที่ไม่เคยรู้จักมาก่อนแต่กว่าจะมารู้ตัว เพื่อนๆก็หายไปหมดแล้ว
"นี่ๆ รอฉันด้วยสิ"
.............................................
จบแล้ว กว่าจะจบได้แทบตาย ยังไงก็เป็นกำลังใจให้ผมหน่อยนะครับ
"ออกไปไหนมาเหรอเจลาลิ่ง" เค้กถามขึ้นเมื่อเด็กหนุ่มกำลังเดินเข้าห้องอย่างช้าๆ
"ไปเที่ยวมานิดหน่อย" เจลาลิ่งตอบออกไปให้พ้นๆเรื่อง
"นี่มัน4ทุ่มแล้วนะ"
"อะไรนะ!!" เจลาลิ่งชักสีหน้าขึ้น ไม่น่าเชื่อว่าเหตุการณ์ที่รู้สึกว่าผ่านไปไม่นานกับผ่านไปนานอย่างเหลือเชื่อ เขาจำได้ว่าเขาไปที่ป่าเอเซนนิกส์ตอนเช้าๆอยู่เลยนิ๊ เจลาลิ่งอึ้งไปครู่หนึ่งก่อนที่จะปรับสีหน้าเป็นปกติภายในเวลาเสี้ยววินาที
"ไปนอนเถอะหน้าตาบอกบุญไม่รับเลยแล้ว กินอะไรมารึยังละ ในตู้เย็นมีแซนวิชเหลืออยู่ถ้าหิวก็หยิบมากินเอาเองนะเดี๋ยวฉันวันนี้จะไปที่กรุงเทพฯหน่อยเห็นว่าที่หมู่บ้านฉันจะจัดงานฮาโลวีนที่จะมาถึง"
"อีกสามวันเองนิ๊" เจลาลิ่งพึมพำ
"ไปก่อนละ เออ..นี่ๆ หมอบอกว่าพรุ่งนี้จีลออกจากโรงพยาบาลได้แล้วนะส่วนค่ารักษาไม่รู้ใครไปจ่ายล่วงหน้าให้แต่ก็ดีเหมือนกันไม่ต้องจ่ายเอง อิอิ หรือว่านายจ่ายฮะ
เจลาลิ่ง"
"เปล่า"
"ไปก่อนละ ไม่พูดมากและ พรุ่งนี้ยัยมินท์กับแคร์จะไปที่โรงเรียนแอนกริสนะเพื่อไปจองห้องพักในนั้น รีบไปเร็วๆละเดี๋ยวได้ห้องที่ไม่ชอบไม่รู้ด้วย"
"เถอะน๊า แล้วนายละ" เจลาลิ่งถาม "ไม่ต้องเป็นห่วงหรอก ไปก่อนนะ"
"อืมๆ"
"เธอเองเหรอ" จีลพูดค่อยๆ "มาตั้งแต่เมื่อไหร่ ยังไม่เห็นเธอมาทั้งวันตั้งแต่เธอออกไป"
"ก็ไปธุระไง" เจลาลิ่งยิ้มเล็กน้อย
"อืมๆ" สักแปบจีลก็หลับไปต่อ เจลาลิ่งเดินไปที่ตู้เย็นทั้งวันเขายังไม่ได้กินอะไรนับตั้งแต่เช้า แซนวิชรูปสามเหลี่ยมสอดไส้แฮมชวนน่ารับประทานเจลาลิ่งกัด4คำหมดด้วยความหิวแต่ก็ทำให้เขาเกือบกินติดคอเหมือนกัน
....................................
พยาบาลเดินเข้าห้องมาโดยที่ไม่ได้เคาะประตู จีลตื่นมาตั้งแต่หกโมงเช้าขณะที่เจลาลิ่งยังหลับอยู่ ทีวีช่อง M.A.T กำลังฉายการ์ตูนเรื่องพาวเวอร์พับเกีอล ซึ่งการ์ตูนเรื่องนี้จีลชอบเอามากๆเสียด้วย
"วันนี้ก็ออกจากโรงพยาบาลได้แล้วนะคะ" พยาบาลสาวเอ่ย
"ค่ะ" จีลอมยิ้มอยู่เล็กน้อยเมื่อจะได้กลับบ้านในวันนี้
"น่ารักจังนะ" พยาบาลสาวทักขึ้น
"หนูเหรอ"
"เปล่าๆ" พยาบาลมองไปที่เจลาลิ่ง อย่างเอ็นดู "แฟนเหรอ"
"เปล่าค่ะๆ เพื่อนเฉยๆ ว่าแต่วันนี้อากาศดีจังเลยนะคะ" จีลรีบตัดบทก่อนที่พยาบาลนั่นจะซักไซ้จนน่ารำคาญไปมากกว่านี้
........................................
"ยังไม่มากันอีกเหรอเนี่ยผิวฉันจะเสียก็เพราะแดดเนี่ยแหละ" มินท์เอามือปาดเหงื่อไปพลางๆ กำลังชะเง้อหาใครบางคนอยู่
"ใจเย็นสิ ถ้าร้อนนักก็หลบไปอยู่แถวๆอาคารก็ได้" แคร์เอ่ยเมื่อเห็นเพื่อนเธอกำลังออกอาการหงุดหงิด
"มาแล้วๆ" เค้กรีบวิ่งมา ข้างหลังสะภายเป้สีดำใบขนาดพอเหมาะ ท่าทางแคร์และมินท์จะมองไปที่เด็กหนุ่มอย่างหงุดหงิดเอาการ วันนี้ไม่รู้บ้างว่าจะโดนใครเปิดฉากด่ากี่ตลบกัน
"ทำไมไม่มาซักเที่ยงเลยละ" มินท์ประชด
"นายไปไหนมาเหรอถึงได้ช้าอย่างเงี้ย" แคร์ออกแนวบ่น
"โทษนะฉันติดงานจัดฮาลาวีนที่บ้านของฉันอยู่น่า ก็เลยมาช้าหน่อย โธ่! แค่นี้ทำบ่น"
"เจลาลิ่งกับจีล จะมากันรึเปล่า"
"ไม่รู้สิ ให้โทรถามไหมละฉันมีรหัสของเจลาลิ่งอยู่"
"ตามใจ" มินท์เอ่ยเสียงเรียบ ตัวเธอเองเดินหาที่หลบแดดเพราะเกรงว่าผิวจะเสียไปหมด
มินท์เป็นคนที่ต้องเนียบซะทุกอย่างไม่ว่าทรงผม น้ำหอมที่ใช้ก็ต้องเลือกด้วยว่าเป็นกลิ่นแบบไหน เครื่องสำอางนาๆชนิด แคร์เองอย่างว่าเป็นคนเปรี้ยวยังต้องขอคำปรึกษาจากเพื่อนสาวของเธอคนนี้เลย
"เดี๋ยวนะจีล มีคนติดต่อมา" เจลาลิ่งเปิดระบบคอลลิ่งผ่านนาฬิกามีชื่อของบุคคลนั้นขึ้นมาอย่างชัดเจน
"เจถึงไหนแล้ว เรารอกันอยู่ที่ตึกเวนิสนะ รีบๆมาหน่อยละ ยัยมินท์จอมซ่ามันบ่นคิดถึงอยู่อะ" เค้กเอ่ยพลางมองไปที่เด็กสาวที่กำลังใช้ไม้เขี่ยทรายเล่นอยู่
"ใกล้ถึงแล้วละ อยู่บนถนนแอนกริสแล้วเนี่ยตอนนี้รถมันติดอะทั้งทางน่านฟ้าและบก รอแปบนึงนะ คงไม่นานมากหรอก" "จีลๆจะคุยกับเค้กไหม"
"อืมๆ"
"สวัสดีจะ รอแปบนะใกล้ถึงแล้ว"
"อืมๆ หายดีแล้วเหรอดีใจด้วยนะ วันนี้หลังจากทำธุระเสร็จพวกเรากะจะไปหาอะไรกินไปเที่ยวข้างนอกก่อนถึงวันเปิดเทอมวันพรุ่งนี้"
"ดีเหมือนกันนะ พวกเธอจองห้องพักกันเสร็จรึยัง"
"เรียบร้อยแล้วละ" เจลาลิ่งปิดการโอนสายไปที่เครื่องนาฬิกาของจีลและสัญญาณกลับมาเข้าเครื่องเจลาลิ่งเหมือนเดิม
"เออนี่.. ห้องพักไม่ต้องจองแล้วละไปถึงที่นั่นก็จะชวนนาย มินท์ แคร์ ไปหาอะไรทานข้างนอกเลย ฉันลืมบอกไปว่าฉันจองไว้แล้ว"
"จริงสิ แล้วไม่บอกตั้งแต่แรก" แคร์ฟังเสียงโทรศัพท์ไปสักพักก็เดินไปนั่งกับมินท์ที่นั่งอยู่ก่อนแล้ว
"ไว้แค่นี้ก่อนนะ แล้วเจอกัน"
สิ้นสุดการเชื่อมต่อ ติ๊ดๆๆ... สัญญาณโทรศัพท์หายไปเมื่อเจลาลิ่งกับเค้กสิ้นสุดการติดต่อ
"เออ..นี่เขาว่าไงมั่ง" มินท์เอ่ย
"เดี๋ยวก็มาเองแหละ" เค้กเดินไปที่เงาต้นไม้ขนาดใหญ่ซึ่งอยู่บริเวณใกล้เคียงกับแคร์และมินท์ที่หลบแดดอยู่ก่อนหน้านี้
ภายในห้องประชุม ณ โรงเรียนแอนกริส
"ผอ.ครับภายในวันพรุ่งนี้ก็จะเป็นการเปิดภาคเรียนใหม่แล้วครับ ทางโรงเรียนมีปัญหากับการขาดแคลนอาจารย์ผู้สอนวิชาศาสตร์แห่งธาตุ ซึ่งเป็นวิชาที่สำคัญวิชาหนึ่ง" ชายหนุ่มรูปร่างท้วมลุกขึ้นชี้แจงอย่างเป็นเหตุเป็นผล แววตาส่องประกายแห่งความมานะและมุ่งมั่น ท่าน ผอ. ไม่มีท่าทางการวิตกเรื่องนี้สักเท่าไร
"มีปัญหาสำคัญอีกหนึ่งอย่างนะคะท่าน เพิ่งเกิดขึ้นเมื่อเร็วๆนี้นี่เอง" หญิงสาวรูปร่างค่อนข้างสูงริมฝีปากทาสีแดงการมส่เสื้อผ้าของเธอจัดว่าเดีมากเมื่อเทียบกับคนอื่นๆในห้องประชุมถึงแม้กรรมการที่เข้าร่วมประชุมนั้นจะแต่งตัวได้ดีก็ตาม
"ของล้ำค่าได้หายไปจากอนุสาวรีย์แห่งชัยชนะ ไม่มีการงัดแงะใดๆ มันแปลกไหมคะท่าน" ผอ.ชักสีหน้าเรื่องนี้เป็นเรื่องคอขาดบาดตาย น่าแปลกมากที่ไม่มีร่องรอยการงัดแงะ แต่จะเป็นไปได้อย่างไรเมื่อชุดรักษาความปรอดภัยของเจ้าหน้าที่ระดับสูงอย่าง
I.S.C อยู่คุมเวรที่นั่นตลอดทุกเวลา
"เป็นไปได้ยังไง เรื่องแบบนี้ไม่ควรจะเกิดขึ้น ท่านโฟรไดร์ฟ" "ครับ" "ท่านรีบหาเบาะแสเรื่องนี้โดยเร็วที่สุดจับตัวคนร้ายมาให้ได้ ถ้าไม่งั้นเมืองแอนกริสรวมถึงเมืองอื่นๆอาจได้รับผลกระทบไปด้วย"
"ผอ. คะ เรื่องนี้อาจพัวพันกับชายชุดดำได้" หญิงสาวคนเดิมเอ่ยต่อ
"เป็นไปได้ๆ" ผอ.ยักหน้าเห็นด้วยจากการที่ตรวจดูที่เกิดเหตุคนธรรมดาๆไม่มารถฝ่าไปได้แน่ อีกทั้งภายในอนุสาวรีย์มีระบบเซพตี้ของมันเอง"
" เรื่องนี้ต้องแจ้งไปถึงคณะองค์การปกครองเทพ จะปล่อยไว้แบบนี้ไม่ได้แล้ว เรื่องนี้ท่านก็ช่วยอีกเรื่องนะท่านโฟรไดร์ฟ เห็นจะมีท่านคนเดียวที่สามารถพึ่งพาได้" ชายคนั้นยิ้มให้เล็กน้อย โฟรไดร์ฟคือเทพชั้นกลางของสวรรค์ที่ลงมาเป็นหนึ่งในกรรมการโรงเรียนแอนกริส ซึ่งโรงเรียนแอนกริสจะกล่าวได้ว่าเป็นโรงเรียนแห่งเทพก็ได้
โฟรไดร์ฟเป็นชายที่รูปร่างสง่างามพอๆกับเทพชั้นสูง มีผลงานมากมาย เป็นคนที่น่ายกย่องคนหนึ่ง แววตาสีฟ้าของเขาเผยถึงไหวพริบและความฉลาด รอยยิ้มน้อยๆทำให้เทพคนนี้ดูเป็นคนอ่อนๆโยนแต่บางทีก็แฝงไปด้วยความจริงจังและน่าสะพรึงเหมือนกัน
"เรื่องนี้อย่าเพิ่งแพร่ออกไปข้างนอกจนกว่าจะแน่ใจและรู้สาเหตุที่แท้จริง" ผอ.กล่าวอย่างจริงจัง
"ครับ ศ. //คะ ศ."
"เอาเป็นว่าวิชาที่ขาดแคลนอาจารย์สอนให้ใครก็ได้ที่ถนัดวิชานี้สอนแทนไปก่อน ผมเชื่อว่าพวกท่านคงมีสติปัญญาทางด้านนี้พอสมควร" ผอ.ยิ้ม "ถ้างั้นก็ไม่มีอะไร ผมต้องขอตัวไปทำงานอีก ปิดการประชุมครับ"
"โฟรไดร์ฟ" หญิงสาวผมทองใส่แว่นตาใสนัยน์ตาสีดำเหมือนคนเอเชียในแถบบ้านเราแต่ที่แปลกเธอสูงและสมส่วนกับน้ำหนักพอดีถ้าไม่ใส่แว่นเธอคงเป็นผู้หญิงที่เซ็กซี่มากกว่าเคร่งกับงานน่าดู เอ่ยชื่อชายหนุ่มที่กำลังจะออกจากประตูบานเลื่อน
"มีอะไรเหรอไมน่า" เขาพูดอ่อนหวานเมื่อหญิงสาวเข้ามาเรียก
"วันนี้ไปทานข้าวข้างนอกกันไหม"
"แต่ฉันมีงานนะ ศ. สั่งฉันสองงานและต้องรีบทำด้วย" หญิงสาวเงียบไปครู่ แต่สนทนายังคงดำเนินต่อไป
"ที่ฉันชวนเธอก็ด้วยเรื่องนี้แหละ" ชายหนุ่มตอบไปโดยทันทีโดยใช้เวลาคิดไม่ถึงวินาที
"โห มาช้าให้พวกฉันรอพามาเลี้ยงแค่เนี้ย" เค้กพูดพลางจิบนมเย็นไปพลางๆ
"ทำบ่นๆ ไม่พอใจก็ไม่ต้องกินก็ได้นะ" มินท์พูดสวนกลับทันที รู้สึกว่าสองคนนี้คงจะเคยเป็นคู่กัดดันมาในชาติที่แล้ว
"พวกเธอเตรียมข้าวของมายัง" มินท์เอ่ย
"อะไร! มีอะไรอีกละ" เค้กยังเอ่ยทั้งๆที่ในปากกำลังเคี้ยวแฮมเบอร์เกอร์ที่เพิ่งกัดเข้าไปเมื่อสักครู่
"ฉันไม่ได้พูดกับนาย"
"ฉันยังไม่ได้เตรียมอะไรเลย วันนี้กะซื้อเสื้อผ้าใหม่ให้หมดให้มันเข้ากับสมัยของที่นี่ซักหน่อย จริงมะ" เจลาลิ่งพูดและถามความคิดเห็นคนอื่นๆ
"ก็กะจะไปห้างที่นั่นเหมือนเดิม" เจลาลิ่งเอ่ยและมองไปที่จีล
"อะไรเหรอ" จีลยักคิ้วเมื่อเห็นเด็กหนุ่มมาจ้องหน้า
"จำไม่ได้เหรอไงว่าฉันเคยชวนเธอไปทั่นั่นไง" จีลนึกคิดอยู่ครู่พร้อมกับเสียงอ๋อที่ตามมา
"ครั้งนั้นนายตลกมากเลยรู้มะ" "นายเกือบตายเพราะกดเบิกสตางค์ในนาฬิกาไม่เป็น คิ"ิ เจลาลิ่งเสียหน้าเล็กน้อย แคร์กับมินท์ หัวเราะคิกคักเบาๆ เค้กเองก็ฟังไปด้วยเหมือนกันแต่ก็จ้องหน้าจ้องตากินลูกเดียว
"เฟรนซ์ฟรายละกันนะ" เค้กเอ่ยลอยๆ และหยิบเมนูในหนังสือบนหนังสือนั้นจะเป็นรายการอาหารต่างๆทั่วๆไปแต่ที่แปลกก็คือมันเป็นตัวหนังสือไฮเทคโนโลยีเพียงแค่กดเมนูอาการจะถูกส่งไปที่ห้องครัวพร้อมกับหมายเลขอาหาร ทันสมัยกว่าโรงอาหารที่โรงเรียนแอนกริสเสียอีกที่ต้องให้พนักงานเสริฟคอยกดเมนูในเครื่องดิจิตอลประจำตัว
สักพักเฟรนฟรายก็ถูกนำมาวางไว้บนโต๊ะ
"น่าอร่อยนะ" เค้กยิ้มอย่างสำราญใจอย่างกับว่าอาหารบนโต๊ะนี้ของข้าเพียงผู้เดียว
"นี่นายจะกินไปถึงไหน" มินท์ทำเสียงดุใส่
"จนกว่าฉันจะอิ่ม" เค้กตอบห้วน และไม่สนคำด่าที่จะลอยตามมา
"แคร์ๆไม่ทานอะไรบ้างเหรอเห็นมานั่งจิบแต่น้ำเปล่า" เจลาลิ่งเอ่ยสายตามองเด็กสาวที่กำลังเอาหลอดเขี่ยน้ำแข็งเล่น
"ไม่หิวน่ะ พวกเธอก็กินๆไปเหอะน๊า"
"จีล!"แคร์ร้องถาม
"อะไรเหรอ" จีลขานรับ
"เปล่า..ไม่มีอะไรและ" แคร์หลบหน้าเหมือนเดิม
"เป็นอะไรไปเหรอ มีอะไรให้ช่วยก็ว่ามาเถอะ" เจลาลิ่งทำสีหน้าเป็นห่วง
"คือฉัน... เสื้อผ้าฉันไม่มีใส่นอกเสียจากเครื่องแบบนักเรียนแต่ฉันไม่กลับไปที่บ้านแน่"
แคร์เอ่ยเสียงแข็งๆแต่บางครั้งเสียงของเธอก็ดูขาดความมั่นใจมากเลยทีเดียว
"ไม่เป็รไรหรอกเดี๋ยวฉันซื้อให้" เจลาลิ่งยิ้ม "เอาเถอะน๊าวันนี้ก็กะจะซื้อให้ทุกๆคนเลยแหละอยากได้อะไรก็เลือกๆไปเลยนะ"
"จะดีเหรอ" แคร์ถามต่อ
"ดีสิ ได้ช่วยเพื่อนเป็นเรื่องดีอยู่แล้ว" แคร์ยิ้มให้อย่างเป็นมิตร "ไว้ฉันจะคืนให้ทีหลังนะ"
"เมื่อไหร่ก็ได้นะ หรือไม่ต้องก็ได้" เจลาลิ่งหยิบแก้วน้ำยกดื่มอย่างสบายใจ
"มีอะไรก็พูดมาเลยนะ ฉันมีเวลาไม่มาก" โฟรไดร์ฟเอ่ย เธอหยิบน้ำเปล่าขึ้นมาจิบก่อนที่สายตาทั้งสองจะไปมองเห็นใครบางคน
"มีอะไรหรือไมน่า" ชายหนุ่มทักขึ้น
"ดูนั่นสิ เด็กพวกนั้นที่ท่าน ผอ.เคยพูดให้ฟัง" โฟรไดร์ฟชะเง้อหน้าไปดูนิดนึง
และกลับมานั่งที่เดิม
"ใช่ แล้วไงละ"
"บอกให้ฟัง" ชายหนุ่มยักคิ้วเล็กน้อย
แฟนซีนั่ม!! โฟรไดร์ฟลุกขึ้นมือข้างขวายื่นออกไปข้างหน้าแขนขนานกับพื้น พลังที่ไม่สามารถมองเห็นได้ไปกระทบกับวัตถุบางอย่างเกิดเสียงดังแสบแก้วหูจนทำให้ทุกคนในร้านยกมือปิดหูแทบไม่ทัน กลุ่มของเจลาลิ่งซึ่งอยู่ใกล้ที่เกิดเหตุที่สุดรีบลุกออกจากที่นั่งทันที
"เธอทำอะไรนะ" ไลน่าถามด้วยท่าทีตื่นตระหนก ผู้คนในร้านอาหารหลังจากที่เกิดเสียงก็หันไปมองที่โฟรไดร์ฟเป็นสายตาเดียวกัน แต่ก็มีเจลาลิ่งที่หันซ้านหันขวาเหมือนกับรู้ว่าที่มีอะไร
"เห็นทีเรื่องนี้เราต้องไปรายงานเพิ่มอีกเรื่องแล้วละ" โฟรไดร์ฟเอ่ยกับไลน่า สีหน้าของหญิงสาวฟังดูไม่ค่อยเข้าใจเพราะมะกี้ที่เขาใช้พลังไปนั้นมันอาจจะดูงงๆที่จู่ๆก็ซัดพลังไปที่แก้วที่ตั้งอยู่บนเคาร์เตอบาร์หน้าตาเฉย
"เรากลับกันเถอะนะไม่มีอะไรต้องดูอีกและ" เจลาลิ่งเดินออกจากในร้านตามด้วยเพื่อนๆคนอื่นๆและเหตุการณ์ทุกอย่างก็กลับสู่ปกติ
"หมอนั่นท่าจะบ้า" เค้กบ่นอย่างหงุดหงิดเมื่ออาหารบนจานที่ตั้งอยู่น่าชวนรับประทานแตกกระจายไปเพราะเขาคนนั้นแท้ๆ
"เอาเหอะนะ นี่ก็เย็นมากแล้วฉันว่าพวกเราขึ้นไปบนหอพักดีกว่า พรุ่งนี้มีอะไรต้องเตรียมกันยอะ" เจลาลิ่งเอ่ยเสียงเรียบ
"แล้วเสื้อผ้าที่นายจะซื้อให้ละ ว่าไง" มินท์แทรก
"เดี๋ยวฉันจะให้เงินไปซื้อกันเอาเองนะ วันนี้ฉันอยากพักผ่อน" เจลาลิ่งกดปุ่มนาฬิกาจากนั้นก็เดินออกไปจากกลุ่ม
บรรยากาศภายในโรงเรียนเต็มไปด้วยความตื่นเต้นเมื่อผู้คนหลายชาติหลายถิ่นเดินเข้าประตูของโรงเรียนแอนกริสอย่างสง่าผ่าเผยบางกลุ่มก็มียานยนต์บินประจำตัวร่อนลงมา
บางคนก็ปั่นจักรยานสองล้อแต่ที่น่าแปลกคือมันลอยอยู่เหนือพื้นเล็กน้อยขณะที่ปั่น เห็นเพียงจีลกับเพื่อนๆยกเว้นเจลาลิ่งเดินเข้ามาในโรงเรียนปกติไม่ได้ใช้ยานยนตร์หรูๆเดินทางมา แต่เสื้อผ้าประจำโรงเรียนแอนกริสที่เขาใส่กันนั้นเป็นชุดคลุมคล้ายนักเวทย์ตัวจิ๋วแต่อุปกรณ์อาทิเช่นรองเท้า ถุงมือ อันนั้นเป็นสิ่งที่ทุกคนหามาเอง
ในไม่กี่นาทีจีลกับเพื่อนๆก็รู้สึกว่ามีใครบางคนมายืนอยู่ข้างหลัง
"จ๊ะเอ๋" เจลาลิ่งพูดหยอกๆ ทำให้ทุกคนแทบสะดุ้งไปตามๆกันเพียงแต่มินท์นั้นวิ่งไปหลบอยู่ข้างหลังเค้ก
"โธ่ นึกว่าใคร" เค้กเอ่ยเล่นเสียงเล็กน้อย สักพักมินท์ก็เดินออกมาจากข้างหลังเค้ก
"ไปหลบทำไมตรงนั้นอ่า" เจลาลิ่งพูดพลางยักคิ้วขึ้น มินท์ก็อายๆเล็กน้อยแต่สีหน้าก็ต้องเปลี่ยนไปเมื่อชายหนุ่มอีกคนหันมาล้อ
"นี่นายใครหาว่าฉันขวัญอ่อนฮะ มะกี้ก็แค่" มินท์ยกไหล่ขึ้นเล็กน้อย "ล้อเล่น"
"ล้อเล่น!" เค้กหัวเราะด้วยความสะใจ ฝ่ายมินท์ทำอะไรไม่ได้ได้แต่กำหมัดไว้แน่นพร้อมที่จะชกใครให้กระเด็นได้ทุกเมื่อ
"ขึ้นห้องเรียนกันเถอะ พวกเรานับว่าโชคดีมากนะที่ได้อยู่ห้องเดียวกันหมดเพียงแต่แคร์นี่สิอยู่คนละห้องกับพวกเราถ้ามีอะไรก็ช่วยเหลือก็บอกกันมาละกันนะ "ไม่รู้ว่าที่นี่จะสอนอะไรแปลกๆบ้าง" มินท์เอ่ยทำท่านึกคิดไปด้วย
ดูเหมือนนักเรียนที่มาเรียนนั้นจะใส่เครื่องแบบสีต่างกัน บางกลุ่มก็สีแดง
บางกลุ่มก็น้ำเงิน ส่วนเจลาลิ่ง จีล มินท์ แคร์ เค้ก พวกเขาใส่ชุดสีขาวปนดำ ไม่รู้ว่าสีนี่จะแบ่งตามชั้นเรียนรึเปล่า น่าจะใช่นะ
"ใครมีตางรางการเรียนบ้างละเนี่ยขอดูหน่อยสิ" เค้กเอ่ย
"ดูเอาเองสิ ในนาฬิกา" ทุกคนเอ่ยเป็นเสียงเดียวกัน เค้กเปิดดูแต่ตารางเรียนนั้นก็มีแต่วิชาที่ไม่เคยรู้จักมาก่อนแต่กว่าจะมารู้ตัว เพื่อนๆก็หายไปหมดแล้ว
"นี่ๆ รอฉันด้วยสิ"
.............................................
จบแล้ว กว่าจะจบได้แทบตาย ยังไงก็เป็นกำลังใจให้ผมหน่อยนะครับ
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น