ลำดับตอนที่ #3
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #3 : [ตอนที่3 ]>>> เมืองทรานซิตี้
รอนเดินทางกลับบ้านมีลมพัดเนืองๆเป็นระยะๆเส้นทางการกลับบ้านนั้นช่างดูเงียบไม่ต่างกับบริเวณตึกทูทาวเวอร์เลยแม้แต่นิดบรรยากาศอันหนาวชวนให้รอนขนลุกซาบซ่าไปทั้งตัวดังนั้นรอนจึงเร่งฝีก้าวเพื่อตรงไปยังบ้านแต่แล้วก็มีอะไรบางอย่างมายืนอยู่ข้างหน้าเขาเป็นชายชุดสีดำที่เขาเคยเห็นที่ไหนซักแห่งแต่เขาจำไม่ได้แต่พอรอนขยี้ตาก็กลับเป็นปกติไม่มีอะไรเลยมันจึงทำให้รอนรู้สึกสยองขึ้นไปอีกดังนั้นรอนจึงรีบวิ่งอย่างสุดชีวิตมุ่งหน้าไปที่บ้านโดยไม่หันหลังเลยในที่สุด ฟ้าวว เขาก็ถึงบ้าน จนได้ รอนหอบแฮกเหงื่อไหลท่วมตัวซึ่งแม่ของเขาได้ไปต่างประเทศตั้งขึ้นเครื่องในวันนี้ ภายในบ้านจึงเงียบเหงาเหมือนไม่มีใครอยู่ รอนอาบน้ำทานข้าวและเปิดดูทีวีไปปกติและเปิดไปที่ช่อง
เอสเอ็มอาร์  และจับใจความได้ว่า
“บัดนี้ ณ เมืองแอนเจิ้ลลัสผู้คนมากมายทยอยมาจากสนามบินเพื่อทำการสมัครที่เมจิคสคูลโรงเรียนเวทมนต์แห่งเดียวในโลก!!!”
ขณะนี้รอนจับจ้องทีวีอย่างไม่ละสายตา ใจของเขาจดจ้องแต่ทีวีที่กำลังรายงานข่าวอยู่  ขณะนี้จำนวนคนเพิ่มขึ้นในเมืองแอนเจิ้ลลัสกว่า1แสนคน ผู้คนมากมายจองห้องพักหลายแห่งในเมืองจนเต็มไปตามๆกันโรงแรมต่างๆนาๆก็ได้รับผลพลอยได้จากการเปิดรับสมัครของเมจิคสคูลยอดเงินแต่ละวันที่เคยทำรายได้โรงแรม  200000/เควินต่อวัน ซึ่งตอนนี้ยอดพุ่งขึ้นถึง600000 /เควินต่อวัน นับเป็นยอดเงินที่สูงมากๆเลยทีเดียว  ขณะนี้เวลา4ทุ่มแล้วรอนจึงปิดทีวีและเดินขึ้นบันไดไปนอนบนเตียงและเด็กน้อยนั้นก็หลับไป...
แสงแดดอาทิตย์ยามเช้าส่องมากระทบบนผืนผ้าม่านสะท้อนไปกระทบกับแววตาของเด็กน้อยซึ่งหลับสนิทอยู่บนเตียงเสียงนกร้องเจี๋ยวจ๊าวกันเป็นทำนองเพลงแต่เด็กน้อยก็คงยังไม่ตื่นและก็หลับต่อไป
                                                  กริ๊ง          กริ๊ง        กริ๊ง      กริ๊ง 
เสียงนาฬิกาดังขึ้นเป็นช่วงๆจนทำให้รอนถึงกับสะดุ้งตื่นขึ้นมาทันที
ห้าว! เสียงหาวของรอนดังขึ้นขณะที่รอนงัวเงียอยู่บนเตียงและเหลือบไปมองนาฬกาที่อย่าบนเก้าอี้ข้างๆ  8.00น. !!! เหลือเวลาอีก1ชั่วโมงเขาต้องรีบไปหาเพื่อนๆที่นัดเอาไว้รอนลุกลี้ลุกลนและเร่งฝีมือทำภารกิจประจำวันให้เสร็จราวกับสายฟ้าฟาดในที่สุด 8.20น.  เขาก็ทำเสร็จรอนเรียกแท็กซี่ ในชั่วพริบตาแท็กซี่ก็มาจนในที่สุดรอนก็ไปถึงที่หมาย เวลา 9.20น.
“นี่นายมาสายจังนะ นัดพวกเรามาแท้ๆ” ไบรอันท์บ่นนิดหน่อยก่อนจะชะเง้อหารถไปเมืองทรานซิตี้
“ดีนะรอนที่มาทัน พวกเราคิดว่านายจะไม่มาซะแล้ว”เจนพูดอมยิ้มน้อยๆ
“ฉันต้องมาอยู่แล้วละ”รอนพูดและส่งยิ้มให้เจน 
                                 
                                    ทันใดนั้น ครืน รถบัสได้มาจอดอยู่หน้าพวกเขา
“เราพร้อมไปกันแล้วนะ” 
“อืมรีบไปกันเถอะ”                             
                                                    ครืนนน
“ว้าว รถช่างกว้างใหญ่ ต้นไม่ที่สั่นไหว พนักพิงอันแสนนิ่ม ช่างน่าสบายซะจริง จริ๊ง” ไบรอันท์ทำหน้าเคลิบเคลิ้มก่อนที่เขาจะฟลุบหลับไป
“หลับไปแล้วเจ้านี่” เจนพูดอมยิ้มพร้อมส่ายหน้าเล็กๆ
“ฉันว่าเขาหลับก็ดูน่ารักดีนะ” รอนพูดอย่างอารมณ์ดีก่อนที่จะมองไปที่หน้าต่าง
“มันช่างสวยงามจริงนะ” เขาเอ่ยอย่างเหม่อลอยและยังคงมองดูออกนอกหน้าต่างออกไปโดยไม่ได้สนใจอะไรเลย
“รอน”เสียงหนึ่งดังขึ้นมา
“รอน เราถึงเมืองเอแดทแล้วนะ นี่นายเป็นอะไรไปเหม่อขนาดนั้นเลยเหรอ”เจนทำสีหน้าเป็นห่วง
“ปะ..เปล่า ฉันไม่ได้เป็นอะไรหรอกแค่มองไปเรื่อยๆน่ะ”รอนตอบฉีกยิ้มไปให้เจน
“ถัดจากเมืองนี้ไปเราจะถึงเมืองทรานซิตี้แล้วนะอีกไม่นานนักหรอกคงใช้เวลาไม่เกินยี่สิบนาทีในการเดินทานอีกสักแปบบนึง”
“จะถึงแล้วเหรอ”ไบรอันท์พูดแทรกขึ้นมาพร้อมกับขยี้ตาตัวเอง
“นี่นายตื่นมาเมื่อไหร่เนี่ย”
“มะกี้อะ” ไบรอันท์พูดทำสีหน้างัวเงียอย่างบอกไม่ถูกเขาตอบตรงๆไป    ระหว่างทางนั้นที่ผ่านเมืองเอแดทได้พบปะกับผู้คนที่เดินมาบางตาตามถนนรอนยังคงมองออกไปนอกหน้าต่างอยู่เรื่อยๆ มีห้างสรรพสินค้าต่างๆมากมายแต่ก็ไม่มากนักส่วนใหญ่จะเห็นร้านพวกขายอุปกรณ์เครื่องใช้ต่างๆซึ่งรอนเองก็ยังไม่รู้จักว่ามันคือร้านอะไร ตอนที่เขาจะถึงยิมนั้น  บริเวณนี้ถูกประดับประดาอย่างสวยงามเป็นเมืองทรานซิตี้ที่น่าอยู่ถ้ามองในยามค่ำคืนนั้นจะเห็นแสงไฟส่องระยิบระยับตามถนนผู้คนแถวนี้มองแล้วหนาตาก็คงอาจจะเป็นผู้ที่ทะยอยฝึกพลังแฝงของตัวที่เมืองนี้เช่นกันแต่คนปกติก็สามารถฝึกพลังได้เช่นกันนะไม่จำกัดต้องเป็นนักเรียนสอบเข้าหรือนักเรียนเมจิคสคูลและโรงยิมที่พวกรอนไปฝึกนั้นเป็นโรงยิมกลางใจเมืองทรานซิตี้เลยก็ว่าได้เพราะใหญ่ที่สุดของเมืองนี้แต่ก็มีอีกหลายๆยิมที่อยู่ละแวกนั้นอีกเพียบคอยรองรับการมาของผู้ที่ต้องการฝึกพลัง
             
                      ครืน  เสียงรอเบรคดีงแอ๊ดไบรอันท์ถึงกับหน้าคะมำ
“โอ๊ย เจ็บนะเว้ย” ไบรอันท์สบถ
“ คิกๆๆ” เจนหัวเราะร่าพลางเห็นไบรอันท์เที่กำลังเอามือลูบหัวถึงกระนั้นรอนเองยังอดขำไม่ได้และผู้คนที่อยู่รอบๆนั้นก็พากันก้มหน้าปิดปากหัวเราะเบาๆอยู่
“ที่นี่คือเมืองทรานซิตี้ใครลงเมืองนี้เชิญลงได้เลย” ไบรอันท์ถึงกับงงเพราะเขามองไม่เห็นต้นกำเนิดเสียงของผู้หญิงที่ดังขึ้นมา
“มองหาอะไรเหรอไบรอันท์” รอนตอบกับทำสีหน้าฉงน
“คะ..คือว่าเสียงมะกี้อะใครพูดฉันไม่เห็นมีใครเลยนอกจากคนขับกับผู้โดยสาร”ไบร์อันท์พูดตะกุกตะกักที่ทำให้คนอื่นๆที่ได้ยินคำถามนี้ที่จะอดหัวเราะไม่ได้จึงทำให้สีหน้าของเขาเหรอหราขึ้นมาในทันที
“โธ่เอ้ย..ตาเซ่อเดี๋ยวนี้เทคโนโลยีมันคืบหน้าไปแล้ว มันคือระบบอัดเสียงอัตโนมัติแต่ฉันเองก็ยังไม่ค่อยเข้าใจระบบของมันซักเท่าไรอะ” เจนพูดและเชิดหน้าใส่รอน
“เรารีบลงรถกันดีกว่านะ”รอนเอ่ยขึ้นมา
แล้วทั้งสามก็ค่อยๆลงจากรถแล้วเดินมาอยู่ที่ชานเมืองทรานซิตี้ และแล้วเสียงที่ไม่คาดฝันก็ดังขึ้นมา
“กรี๊ดๆๆๆ”
เสียงกรี๊ดของเจนดังขั้นมาจนทำให้ทั้งสองถึงกับงงไปตามๆกันอย่างไม่ทันที่ทั้งสองจะตั้งตัวเด็กสาวหันไปซบไหล่ไบรอันท์ที่กำลังยืนนิ่งอย่างอารมณ์ดีแล้วกระซิบไปเบาๆว่า
“ไม่เป็นอะไรแล้วนะจ๊ะ เด็กน้อย”พลางยิ้มน้อยๆและลูปผมเจน  ผึ้งมันบินหนีไปแล้วละ    พอเจนได้สติก็ถึงกับพูดว่า
“ไอ้บ้า นายแต๊ะอั๋ง ฉันนี่” เจนสบถดังและดังพอที่เขาทั้งสองเป็นที่สนใจของผู้ที่เดินผ่านไปมา    จนทำให้สีหน้าของเจนแดงระเรื่อก่อนที่เขาทั้งคู่จะหลบสายตากันด้วยความเขินอาย
“แล้วทีนี้จะไปตรงส่วนไหนกันละเมืองนี้ออกจะกว้างขวางและยังไม่รู้ด้วยว่าที่ฝึกพลังในอินดอสะเตเดี้ยมมันอยู่ที่ไหน” รอนพูดและทำสีหน้าครุ่นคิดอยู่ครู่
“อ๋อๆๆๆฉันรู้แล้วว่ามันอยู่ตรงไหนพวกเราต้องนั่งรถ  r-1457 ไปน่ะ”ไบรอันท์เอ่ยเสียงดังขึ้นมาและรอนหันหน้าควับมาที่เขา
“แน่ใจนะ”เจนตอบด้วยสีหน้าไม่มั่นใจ
“เชื่อใจฉันเถอะน๊า” ไบรอันท์เอ่ยแล้วมองตาขวางไปที่เจน
“นั่นใช่รถ r-1457 รึเปล่า” รอนถามไบรอันท์ขณะที่สายตาจับจ้องไปที่รถคันนั้นที่มาแต่ใกลพอเห็นเนืองๆ
“ใช่ๆ”ไบรอันท์ตอบและหันควับละสายตาจากเจนไปที่รถคันนู้นที่อยู่แต่ไกลๆ ทันทีหลังจากสิ้นเสียงของรอนครืนนน “ ขึ้นมาๆเลยจ้า ผ่านอินดอสเตเดี้ยมฝึกพลังแฝงนะค๊า”เสียงของคนเก็บเงินดังขึ้นมาอย่างสดใสสีหน้าของเขาดูระรื่นหน้าใสๆที่กำลังเรียกรู้ค้าอยู่เสียงดังแจ้วๆๆอยู่
“พวกเธอรีบขึ้นรถกันเร็วๆ”รอนพูดขณะที่ก้าวขาขึ้นไปไดรถรวบรัดสองก้าว  ขณะเดียวกันไบรอันท์กับเจนก็เดินขึ้นมาในรถ
“โอ๊ย!!อย่ากระแทกฉันสิ”
“นี่เธอก็รีบๆขึ้นสิดูคนอื่นตามมาขึ้นติดๆ”และแล้วเจนก็รีบแซงคนอื่นแล้วไปนั่งที่ ที่นั่งอย่างทันควันพลางทำให้คนอื่นเหรอหราไปตามๆกันหมด
“มัวยืนทื่ออะไรอยู่ตรงนั้นรีบนั่งกันซิ”
“นี่เธอเล่นนั่งข้างหน้าต่างเลยนะฉันจะนั่งถอยไปเลยยัยตัวดี”
“ทำไมๆใครมาก่อนก็ได้นั่งก่อนสิ แบร้”
สีหน้าของไบรอันท์ดูโกรธเคืองแต่เขาก็ไม่ได้ถือสาอะไรกับเด็กตัวเล็กที่มีอายุเท่ากัน
“ไม่คูลเลย เบาะไม่นิ่มเลยแฮะ” ไบรอันท์พึมพำเบาๆโดยไม่ได้มีใครได้ยิน
“ถึงแล้วๆ”รอนเอ่ยเสียงดัง
“ไมเร็วจังเนี่ย” “มันเร็วก็ดีแล้วนะคะ หรือว่าอยากให้ช้ามิทราบคะคุณ ไบรอันท์  เอกาวี่
” เจนตอบเสียงเกรี้ยวกราดขณะที่ทั้งคู่มองกันราวจะกรีดแทงให้ตายกันไปข้างหนึ่งให้ได้
“นี่ๆพวกเธอก็อยุดทะเลาะกันสักทีเถอะน๊า” รอนเอ่ยอย่างไม่ค่อยสบอารมณ์แล้วทั้งคู่ก็เชิดหน้าใส่กันแล้วเดินขนาบรอนไป
“รู้สึกว่าจะเป็นที่นี่นะ”รอนเอ่ยพลางมองไปที่ป้ายที่ติดว่า
“ยินดีต้อนรับสู่สมาคมฝึกเวทมนต์แฝงค่ะ”
“ใช่แล้วละ” ไบรอันท์เอ่ยขึ้นมา
“เฮ้ะ!!! นายๆคนนั่นน่ะ” เสียงหนึ่งดังมาแต่ไกลๆขึ้นมา
แล้วทั้งสามคนก็หันควับไปอย่างทันควันทันทีที่เสียงนั้นสิ้นลง รูปร่างเขาดูผอมเรียวๆสูง180กว่าๆถือว่ารูปร่างใช้ได้เลย
“นี่นายเดวิส”รอนเอ่ยตะกุกตะกักอย่างไม่เชื่อสายตา
“นายเองเหรอเนี่ย”
“ฉันเองล่ะรอน” ” แล้วทั้งคู่ก็โผกอดกันทำให้สองคนนั้นยืนตะลึงไปเลย
“นี่มันใครอะ”ไบรอันท์กระซิบข้างหูเจน
“นายไม่รู้ฉันจะรู้มั้ยเนี่ย” เจนตอบสีหน้ากวนๆใส่ไป
“นี่ๆพวกเธอฉันจะแนะนำให้รู้จักนะเขาชื่อ เดวิส เอดิสัน เพื่อนซี้ของฉันที่เพิ่งกลับมาจากเมืองนอกน่ะ”
“เด็กเมืองนอกเลยนะนั่น” ไบรอันท์เอ่ยเสียงตื่นเต้น
“ยินดีที่ได้รู้จักครับ/ค่ะ”
“ฉันก็ยินดีที่ได้รู้จักพวกเธอนะ” เดวิสพูดเสียงใสก่อนที่จะยิ้มอย่างเป็นมิตรให้พวกเขา
“ฉันยังไม่รู้จักสองคนนี้เลยอะ” เดวิสเอ่ยทีท่าสนใจ
“เราชื่อเจนนี่  มาโลดี้”
“ผมชื่อ ไบรอันท์  เอกาวี่” แล้วทั้งคู่ก็จับมือกัน
“ฉันว่าเรารีบไปกันเถอะนะเราเสียเวลากันมากนะ”รอนเอ่ยพร้อมกับปาดเหงื่อบนใบหน้า
“ใช่ๆ ฉันเห็นด้วยนะ เรารีบไปฝึกกันเถอะจ๊ะ” เจนยิ้มร่า
ขณะนี้ทั้งสี่คนได้เข้าไปที่อินดอเสตเดี้ยมภายในดูขว้างขวางโออ่าด้านซ้ายและด้านขวาของรู้สึกจะเป็นห้องเล็กๆเรียงรายไปตามๆกันมีหน้าต่างและประตูเป็นกระจกบานเลื่อนส่วนด้านหน้าก็จะมีบันไดเพื่อขึ้นชั้นอื่นๆ  ส่วนถัดไปจากบันไดก็มีลิฟอยู่ทั้งอาคารมีทั้งหมด40ชั้นแต่ละชั้นก็ขว้างขวางพอควรเพื่อจะได้มารองรับของผู้ที่มาใช้บริการจากการที่พวกของรอนเดินสำรวจทางด้านร่างก็ไม่พบห้องใดๆทุกห้องล้วนเต็มไปหมดแต่แล้วพวกเขาก็ไปพบพนักงานสาวใส่เสื้อขาวรัดรูปดูเซ็กซี่น่าดูทำให้ไบรอันท์ถึงกับตาค้างไปเลยขณะที่พนักงานสาวเดินตรงมาที่พวกเขาและเอ่ยทักทายว่า
“สวัสดีจ๊ะเด็กๆ”พนักงานสาวทักทายกิริยาสุภาพขณะที่ไบรอันท์ยังมองตาเคลิบเคลิ้มอย่างไม่ละสายตาเลยและพนักงานสาวก็พูดต่อไปว่า
“มีอะไรให้ช่วยมั้ยจ๊ะ พวกเธอลงสมัครการเข้าใช้ตึกเออทารี่รึยัง”
“ชื่อตึกเขาชื่อเออทารี่งั้นรึ” ไบรอันท์กระซิบข้างหูรอนเบาๆแต่รอนก็แค่พยักหน้าเล็กเล็กน้อย
“เอ่อ...คือ”รอนตอบตะกุกตะกักแต่ยังที่รอนจะพูดอะไรออกไป
“ยังเลยครับ ช่วยพาผมไปหน่อยนะครับ”ไบรอันท์ก็พูดแทรกขึ้นมา
“แหม! เห็นคนน่าตาดีไม่ได้เลยนะยะ”เจนเอ่ยอย่างมีเลศนัย
“บ้าดิ ฉันไม่ได้อยากจะจีบรุ่นคนที่อายุมากกว่านะ”ไบรอันท์เอ่ยเสียงเรียบขณะที่พนักงานสาวเดินนำหน้าเพื่อไปที่ห้องรับรองที่จัดเอาไว้ต้อนรับคนที่มาสมัครลงใช้สถานที่นี้
“อ้าว เด็กๆมาลงชื่อกันตรงนี้นะจ๊ะแล้วใครจะสมัครลงใช้ที่นี่ตลอดก็กรอกใบสมัคสีชมพูแต่ใครมาเป็นบางครั้งก็กรอกใบสมัครสีเหลืองโดยเสียค่าสมัครต่อครั้ง 20เควิน/ครั้ง หรือ 3000/เควิน ใช้ที่นี่ได้ตลอดระยะเวลา1ปี แล้วแต่พวกเธอจะเลือกนะ
“ฉันว่าเอาแบบครั้งก่อนนะ จะดีกว่ามั๊ง” ไบรอันท์เอ่ย
“ทำไมพวกเธอไม่เอาแบบหนึ่งปีไปก็จบแล้วนิ๊” เจนเอ่ยเรียบๆ
“เราว่าเอาแบบหนึ่งปีไปเลยดีกว่านะเพราะยังไงพวกเราก็น่าจะเข้าโรงเรียนเมจิคสคูลได้อยู่แล้วฉันเชื่อในความสามารถของพวกเธอนะ”รอนตอบอย่างมั่นใจ
“อืม เราก็เห็นด้วยกับรอนนะ” เดวิสเอ่ยแทรกขึ้นมา
“เอาละจ๊ะในเมื่อพวกเธอตกลงกันได้แล้วก็กรอกใบสมัครนะให้เสร็จเรียบร้อยนะพร้อมกับจ่ายเงินตามตัวเลขที่เธอกรอกไป เข้าใจนะจ๊ะเด็กๆ”
เมื่อจบคำพูดของพนักงานสาวเขาก็ไปต้อนรับลูกค้าคนอื่นๆที่มากันอย่างไม่ขาดสายและมีพนักงานอีกหลายคนนั่งบนเคาร์เตอร์อยู่อีกสามถึงสี่คน
“นี่ๆรอน ไอ้นั่นเหมือนฉันเคยเห็นมาก่อนเลยนะ” ไบรอันท์หหันไปพูดกับรอน
“ไหนละ”รอนเอ่ยเสียงเรียบ
“ก็นั่นไงเล่ายืนอยู่ตรงนั้นน่ะ”ไบรอันท์เอ่ยขึ้นพอที่ทังสองคนทีกกรอกข้อมูลอยู่หันควับไปมองตรงที่ไบรอันท์ชี้
“นั่นมัน ..”รอนตอบเสียงสั่น
“อาเรสนิ๊” ยังไม่ทันที่รอนจะพูดจบเดวิสก็ตอบอย่างพลันพร้อมกับสีหน้าอย่างไม่เชื่อสายตา
“มันมาได้ไง ทั้งๆที่.....”เดวิสตอบพลางมองไปที่อาเรสอยู่
“รู้สึกว่าจะมีคนมาช่วยมันนะ อาจจะมีเส้นสายอะไรด้วยละมั๊งและก็คงอายุยังไม่บรรลุนิติภาวะ”รอนเอ่ยแทรกขึ้นมาพร้อมกับรู้ว่าเดวิสหมายความว่ายังไง
“อย่าไปสนใจมันเลย ไอ้หมอนั่นฉันเห็นหน้าก็ไม่อยากจะคบด้วยอยู่แล้ว”  เจนพูดทำหน้าแหยๆเหมือนรังเกียง(ความจริงก็รังเกียจอ่ะแหละ)
“ฉันภาวนาอย่าเจอไอ้นั่นเลยนะในการประลองกัน”ไบรอันท์เอ่ยสีหน้าหวาดกลัว
“นายกลัวละสิ”เจนเอ่ยอย่างมีเลศนัย
“ฉันไม่ได้กลัวซักหน่อยนะฉันแค่ไม่อยากเจอมันก็เท่านั้นเอง”ไบรอันท์เอ่ยผิดกับสีหน้าของเขาขณะที่เจนก็หัวเราะคิกๆๆอย่างรู้ทัน
ขณะเดียวกันเด็กหนุ่มคนที่ชื่ออาเรสก็หายวัปไปแล้วทันใดนั้นพวกเขาก็กรอกใบสมัครเสร็จโดยแต่ละคนก็นำเงินยื่นให้กับพนักงานคนที่นั่งกับเคาร์เตอร์
“นี่ครับใบสมัครพร้อมกับเงิน 3000เควิน” รอนยื่นใบสมัครสอบเป็นคนแรกตามด้วย
เจน  เดวิส ที่ยื่นมาให้พนักงานแทบจะพร้อมๆกัน
“อ้าวนายละไบรอันท์ทำไมไม่ยื่นใบสมัครไปละ”รอนถามและทำสีหน้าฉงนซึ่งคนอื่นๆก็งงไปตามๆกัน
“เอ่อ...คือว่าฉันลืมเอาเงินมาไม่ถึงอะ แหะๆ” ไบรอันท์ทำหน้าถอดสีหน้าของเขาอายมากๆก็เพราะที่คนอื่นในนี้จะได้ยินคำพูดของเขาแล้วยังมีอีกหลายๆคนที่ได้ยินพร้อมได้ยินเสียงซุบซิบเล็ดลอดมาให้เขาได้ยินตามด้วยเสียงหัวเราะเบาๆมาเป็นตามๆกัน
“ฉันจะให้เธอยืมก่อนก็ได้นะ แต่!!” เจนกวาดสายตามองร่างของเด็กหนุ่มที่ทำหน้าเลิ๊กลั๊กบ่งบอกสีหน้าได้อย่างชัดเจน
“พูดขอร้องฉันเพราะๆเดี๋ยวเผื่อฉันจะยอมให้เธอยืม”เจนพูดฉีกยิ้มทำหน้าเชิงหยอกล้อแต่กระนั้นก็ตามทำให้เด็กหนุ่มถึงกับโกรธเป็นไฟเลยทีเดียว
“เธอก็ไปแกล้งเขาทำไม เขาเป็นเพื่อนเรานะ”รอนเอ่ยเชิงห้ามปราม
“ฉันก็แค่หยอกล้อเท่านั้นเอง”เจนตอบไม่สบอารมณ์เท่าที่ควรพร้อมกับยื่นใบสมัครแทนไบรอันท์กับจำนวนเงิน 3000เควีไปด้วย
“ขอบใจนะ”ไบรอันท์เอ่ยเสียงสั่น
“ไม่เป็นไรนะ มะกี้ฉันหยอกเธอเล่นน่ะหวังว่าคงไม่โกรธกัน”
“ฉันไม่โกรธเธอหรอก” ไบรอันท์เอ่ยเสียงเรียบๆเหมือนเดิมแต่ที่จริงเขาโกรธเหมือนไฟเลยทีเดียวแต่ยังมีรอนคอยกระซิบห้ามปรามไว้ก่อน
“พวกเราให้ไบสมัครเรียบร้อยและถ้างั้นก็ควรจะไปกันได้แล้วนะ”เดวิสเอ่ยขึ้นมา
“นั่นสิ”เจนทำท่าเห็นด้วย
“ฉันอยากฝึกพลังแล้วละเผื่อบางทีฉันจะเอาไว้จัดการกับปากใครบางคนน่ะ”ไบรอันท์เอ่ยอย่างมีเลศนัย
                                                                                                            ติดตามตอนที่4นะครับ
                                                                                                                                           
เอสเอ็มอาร์  และจับใจความได้ว่า
“บัดนี้ ณ เมืองแอนเจิ้ลลัสผู้คนมากมายทยอยมาจากสนามบินเพื่อทำการสมัครที่เมจิคสคูลโรงเรียนเวทมนต์แห่งเดียวในโลก!!!”
ขณะนี้รอนจับจ้องทีวีอย่างไม่ละสายตา ใจของเขาจดจ้องแต่ทีวีที่กำลังรายงานข่าวอยู่  ขณะนี้จำนวนคนเพิ่มขึ้นในเมืองแอนเจิ้ลลัสกว่า1แสนคน ผู้คนมากมายจองห้องพักหลายแห่งในเมืองจนเต็มไปตามๆกันโรงแรมต่างๆนาๆก็ได้รับผลพลอยได้จากการเปิดรับสมัครของเมจิคสคูลยอดเงินแต่ละวันที่เคยทำรายได้โรงแรม  200000/เควินต่อวัน ซึ่งตอนนี้ยอดพุ่งขึ้นถึง600000 /เควินต่อวัน นับเป็นยอดเงินที่สูงมากๆเลยทีเดียว  ขณะนี้เวลา4ทุ่มแล้วรอนจึงปิดทีวีและเดินขึ้นบันไดไปนอนบนเตียงและเด็กน้อยนั้นก็หลับไป...
แสงแดดอาทิตย์ยามเช้าส่องมากระทบบนผืนผ้าม่านสะท้อนไปกระทบกับแววตาของเด็กน้อยซึ่งหลับสนิทอยู่บนเตียงเสียงนกร้องเจี๋ยวจ๊าวกันเป็นทำนองเพลงแต่เด็กน้อยก็คงยังไม่ตื่นและก็หลับต่อไป
                                                  กริ๊ง          กริ๊ง        กริ๊ง      กริ๊ง 
เสียงนาฬิกาดังขึ้นเป็นช่วงๆจนทำให้รอนถึงกับสะดุ้งตื่นขึ้นมาทันที
ห้าว! เสียงหาวของรอนดังขึ้นขณะที่รอนงัวเงียอยู่บนเตียงและเหลือบไปมองนาฬกาที่อย่าบนเก้าอี้ข้างๆ  8.00น. !!! เหลือเวลาอีก1ชั่วโมงเขาต้องรีบไปหาเพื่อนๆที่นัดเอาไว้รอนลุกลี้ลุกลนและเร่งฝีมือทำภารกิจประจำวันให้เสร็จราวกับสายฟ้าฟาดในที่สุด 8.20น.  เขาก็ทำเสร็จรอนเรียกแท็กซี่ ในชั่วพริบตาแท็กซี่ก็มาจนในที่สุดรอนก็ไปถึงที่หมาย เวลา 9.20น.
“นี่นายมาสายจังนะ นัดพวกเรามาแท้ๆ” ไบรอันท์บ่นนิดหน่อยก่อนจะชะเง้อหารถไปเมืองทรานซิตี้
“ดีนะรอนที่มาทัน พวกเราคิดว่านายจะไม่มาซะแล้ว”เจนพูดอมยิ้มน้อยๆ
“ฉันต้องมาอยู่แล้วละ”รอนพูดและส่งยิ้มให้เจน 
                                 
                                    ทันใดนั้น ครืน รถบัสได้มาจอดอยู่หน้าพวกเขา
“เราพร้อมไปกันแล้วนะ” 
“อืมรีบไปกันเถอะ”                             
                                                    ครืนนน
“ว้าว รถช่างกว้างใหญ่ ต้นไม่ที่สั่นไหว พนักพิงอันแสนนิ่ม ช่างน่าสบายซะจริง จริ๊ง” ไบรอันท์ทำหน้าเคลิบเคลิ้มก่อนที่เขาจะฟลุบหลับไป
“หลับไปแล้วเจ้านี่” เจนพูดอมยิ้มพร้อมส่ายหน้าเล็กๆ
“ฉันว่าเขาหลับก็ดูน่ารักดีนะ” รอนพูดอย่างอารมณ์ดีก่อนที่จะมองไปที่หน้าต่าง
“มันช่างสวยงามจริงนะ” เขาเอ่ยอย่างเหม่อลอยและยังคงมองดูออกนอกหน้าต่างออกไปโดยไม่ได้สนใจอะไรเลย
“รอน”เสียงหนึ่งดังขึ้นมา
“รอน เราถึงเมืองเอแดทแล้วนะ นี่นายเป็นอะไรไปเหม่อขนาดนั้นเลยเหรอ”เจนทำสีหน้าเป็นห่วง
“ปะ..เปล่า ฉันไม่ได้เป็นอะไรหรอกแค่มองไปเรื่อยๆน่ะ”รอนตอบฉีกยิ้มไปให้เจน
“ถัดจากเมืองนี้ไปเราจะถึงเมืองทรานซิตี้แล้วนะอีกไม่นานนักหรอกคงใช้เวลาไม่เกินยี่สิบนาทีในการเดินทานอีกสักแปบบนึง”
“จะถึงแล้วเหรอ”ไบรอันท์พูดแทรกขึ้นมาพร้อมกับขยี้ตาตัวเอง
“นี่นายตื่นมาเมื่อไหร่เนี่ย”
“มะกี้อะ” ไบรอันท์พูดทำสีหน้างัวเงียอย่างบอกไม่ถูกเขาตอบตรงๆไป    ระหว่างทางนั้นที่ผ่านเมืองเอแดทได้พบปะกับผู้คนที่เดินมาบางตาตามถนนรอนยังคงมองออกไปนอกหน้าต่างอยู่เรื่อยๆ มีห้างสรรพสินค้าต่างๆมากมายแต่ก็ไม่มากนักส่วนใหญ่จะเห็นร้านพวกขายอุปกรณ์เครื่องใช้ต่างๆซึ่งรอนเองก็ยังไม่รู้จักว่ามันคือร้านอะไร ตอนที่เขาจะถึงยิมนั้น  บริเวณนี้ถูกประดับประดาอย่างสวยงามเป็นเมืองทรานซิตี้ที่น่าอยู่ถ้ามองในยามค่ำคืนนั้นจะเห็นแสงไฟส่องระยิบระยับตามถนนผู้คนแถวนี้มองแล้วหนาตาก็คงอาจจะเป็นผู้ที่ทะยอยฝึกพลังแฝงของตัวที่เมืองนี้เช่นกันแต่คนปกติก็สามารถฝึกพลังได้เช่นกันนะไม่จำกัดต้องเป็นนักเรียนสอบเข้าหรือนักเรียนเมจิคสคูลและโรงยิมที่พวกรอนไปฝึกนั้นเป็นโรงยิมกลางใจเมืองทรานซิตี้เลยก็ว่าได้เพราะใหญ่ที่สุดของเมืองนี้แต่ก็มีอีกหลายๆยิมที่อยู่ละแวกนั้นอีกเพียบคอยรองรับการมาของผู้ที่ต้องการฝึกพลัง
             
                      ครืน  เสียงรอเบรคดีงแอ๊ดไบรอันท์ถึงกับหน้าคะมำ
“โอ๊ย เจ็บนะเว้ย” ไบรอันท์สบถ
“ คิกๆๆ” เจนหัวเราะร่าพลางเห็นไบรอันท์เที่กำลังเอามือลูบหัวถึงกระนั้นรอนเองยังอดขำไม่ได้และผู้คนที่อยู่รอบๆนั้นก็พากันก้มหน้าปิดปากหัวเราะเบาๆอยู่
“ที่นี่คือเมืองทรานซิตี้ใครลงเมืองนี้เชิญลงได้เลย” ไบรอันท์ถึงกับงงเพราะเขามองไม่เห็นต้นกำเนิดเสียงของผู้หญิงที่ดังขึ้นมา
“มองหาอะไรเหรอไบรอันท์” รอนตอบกับทำสีหน้าฉงน
“คะ..คือว่าเสียงมะกี้อะใครพูดฉันไม่เห็นมีใครเลยนอกจากคนขับกับผู้โดยสาร”ไบร์อันท์พูดตะกุกตะกักที่ทำให้คนอื่นๆที่ได้ยินคำถามนี้ที่จะอดหัวเราะไม่ได้จึงทำให้สีหน้าของเขาเหรอหราขึ้นมาในทันที
“โธ่เอ้ย..ตาเซ่อเดี๋ยวนี้เทคโนโลยีมันคืบหน้าไปแล้ว มันคือระบบอัดเสียงอัตโนมัติแต่ฉันเองก็ยังไม่ค่อยเข้าใจระบบของมันซักเท่าไรอะ” เจนพูดและเชิดหน้าใส่รอน
“เรารีบลงรถกันดีกว่านะ”รอนเอ่ยขึ้นมา
แล้วทั้งสามก็ค่อยๆลงจากรถแล้วเดินมาอยู่ที่ชานเมืองทรานซิตี้ และแล้วเสียงที่ไม่คาดฝันก็ดังขึ้นมา
“กรี๊ดๆๆๆ”
เสียงกรี๊ดของเจนดังขั้นมาจนทำให้ทั้งสองถึงกับงงไปตามๆกันอย่างไม่ทันที่ทั้งสองจะตั้งตัวเด็กสาวหันไปซบไหล่ไบรอันท์ที่กำลังยืนนิ่งอย่างอารมณ์ดีแล้วกระซิบไปเบาๆว่า
“ไม่เป็นอะไรแล้วนะจ๊ะ เด็กน้อย”พลางยิ้มน้อยๆและลูปผมเจน  ผึ้งมันบินหนีไปแล้วละ    พอเจนได้สติก็ถึงกับพูดว่า
“ไอ้บ้า นายแต๊ะอั๋ง ฉันนี่” เจนสบถดังและดังพอที่เขาทั้งสองเป็นที่สนใจของผู้ที่เดินผ่านไปมา    จนทำให้สีหน้าของเจนแดงระเรื่อก่อนที่เขาทั้งคู่จะหลบสายตากันด้วยความเขินอาย
“แล้วทีนี้จะไปตรงส่วนไหนกันละเมืองนี้ออกจะกว้างขวางและยังไม่รู้ด้วยว่าที่ฝึกพลังในอินดอสะเตเดี้ยมมันอยู่ที่ไหน” รอนพูดและทำสีหน้าครุ่นคิดอยู่ครู่
“อ๋อๆๆๆฉันรู้แล้วว่ามันอยู่ตรงไหนพวกเราต้องนั่งรถ  r-1457 ไปน่ะ”ไบรอันท์เอ่ยเสียงดังขึ้นมาและรอนหันหน้าควับมาที่เขา
“แน่ใจนะ”เจนตอบด้วยสีหน้าไม่มั่นใจ
“เชื่อใจฉันเถอะน๊า” ไบรอันท์เอ่ยแล้วมองตาขวางไปที่เจน
“นั่นใช่รถ r-1457 รึเปล่า” รอนถามไบรอันท์ขณะที่สายตาจับจ้องไปที่รถคันนั้นที่มาแต่ใกลพอเห็นเนืองๆ
“ใช่ๆ”ไบรอันท์ตอบและหันควับละสายตาจากเจนไปที่รถคันนู้นที่อยู่แต่ไกลๆ ทันทีหลังจากสิ้นเสียงของรอนครืนนน “ ขึ้นมาๆเลยจ้า ผ่านอินดอสเตเดี้ยมฝึกพลังแฝงนะค๊า”เสียงของคนเก็บเงินดังขึ้นมาอย่างสดใสสีหน้าของเขาดูระรื่นหน้าใสๆที่กำลังเรียกรู้ค้าอยู่เสียงดังแจ้วๆๆอยู่
“พวกเธอรีบขึ้นรถกันเร็วๆ”รอนพูดขณะที่ก้าวขาขึ้นไปไดรถรวบรัดสองก้าว  ขณะเดียวกันไบรอันท์กับเจนก็เดินขึ้นมาในรถ
“โอ๊ย!!อย่ากระแทกฉันสิ”
“นี่เธอก็รีบๆขึ้นสิดูคนอื่นตามมาขึ้นติดๆ”และแล้วเจนก็รีบแซงคนอื่นแล้วไปนั่งที่ ที่นั่งอย่างทันควันพลางทำให้คนอื่นเหรอหราไปตามๆกันหมด
“มัวยืนทื่ออะไรอยู่ตรงนั้นรีบนั่งกันซิ”
“นี่เธอเล่นนั่งข้างหน้าต่างเลยนะฉันจะนั่งถอยไปเลยยัยตัวดี”
“ทำไมๆใครมาก่อนก็ได้นั่งก่อนสิ แบร้”
สีหน้าของไบรอันท์ดูโกรธเคืองแต่เขาก็ไม่ได้ถือสาอะไรกับเด็กตัวเล็กที่มีอายุเท่ากัน
“ไม่คูลเลย เบาะไม่นิ่มเลยแฮะ” ไบรอันท์พึมพำเบาๆโดยไม่ได้มีใครได้ยิน
“ถึงแล้วๆ”รอนเอ่ยเสียงดัง
“ไมเร็วจังเนี่ย” “มันเร็วก็ดีแล้วนะคะ หรือว่าอยากให้ช้ามิทราบคะคุณ ไบรอันท์  เอกาวี่
” เจนตอบเสียงเกรี้ยวกราดขณะที่ทั้งคู่มองกันราวจะกรีดแทงให้ตายกันไปข้างหนึ่งให้ได้
“นี่ๆพวกเธอก็อยุดทะเลาะกันสักทีเถอะน๊า” รอนเอ่ยอย่างไม่ค่อยสบอารมณ์แล้วทั้งคู่ก็เชิดหน้าใส่กันแล้วเดินขนาบรอนไป
“รู้สึกว่าจะเป็นที่นี่นะ”รอนเอ่ยพลางมองไปที่ป้ายที่ติดว่า
“ยินดีต้อนรับสู่สมาคมฝึกเวทมนต์แฝงค่ะ”
“ใช่แล้วละ” ไบรอันท์เอ่ยขึ้นมา
“เฮ้ะ!!! นายๆคนนั่นน่ะ” เสียงหนึ่งดังมาแต่ไกลๆขึ้นมา
แล้วทั้งสามคนก็หันควับไปอย่างทันควันทันทีที่เสียงนั้นสิ้นลง รูปร่างเขาดูผอมเรียวๆสูง180กว่าๆถือว่ารูปร่างใช้ได้เลย
“นี่นายเดวิส”รอนเอ่ยตะกุกตะกักอย่างไม่เชื่อสายตา
“นายเองเหรอเนี่ย”
“ฉันเองล่ะรอน” ” แล้วทั้งคู่ก็โผกอดกันทำให้สองคนนั้นยืนตะลึงไปเลย
“นี่มันใครอะ”ไบรอันท์กระซิบข้างหูเจน
“นายไม่รู้ฉันจะรู้มั้ยเนี่ย” เจนตอบสีหน้ากวนๆใส่ไป
“นี่ๆพวกเธอฉันจะแนะนำให้รู้จักนะเขาชื่อ เดวิส เอดิสัน เพื่อนซี้ของฉันที่เพิ่งกลับมาจากเมืองนอกน่ะ”
“เด็กเมืองนอกเลยนะนั่น” ไบรอันท์เอ่ยเสียงตื่นเต้น
“ยินดีที่ได้รู้จักครับ/ค่ะ”
“ฉันก็ยินดีที่ได้รู้จักพวกเธอนะ” เดวิสพูดเสียงใสก่อนที่จะยิ้มอย่างเป็นมิตรให้พวกเขา
“ฉันยังไม่รู้จักสองคนนี้เลยอะ” เดวิสเอ่ยทีท่าสนใจ
“เราชื่อเจนนี่  มาโลดี้”
“ผมชื่อ ไบรอันท์  เอกาวี่” แล้วทั้งคู่ก็จับมือกัน
“ฉันว่าเรารีบไปกันเถอะนะเราเสียเวลากันมากนะ”รอนเอ่ยพร้อมกับปาดเหงื่อบนใบหน้า
“ใช่ๆ ฉันเห็นด้วยนะ เรารีบไปฝึกกันเถอะจ๊ะ” เจนยิ้มร่า
ขณะนี้ทั้งสี่คนได้เข้าไปที่อินดอเสตเดี้ยมภายในดูขว้างขวางโออ่าด้านซ้ายและด้านขวาของรู้สึกจะเป็นห้องเล็กๆเรียงรายไปตามๆกันมีหน้าต่างและประตูเป็นกระจกบานเลื่อนส่วนด้านหน้าก็จะมีบันไดเพื่อขึ้นชั้นอื่นๆ  ส่วนถัดไปจากบันไดก็มีลิฟอยู่ทั้งอาคารมีทั้งหมด40ชั้นแต่ละชั้นก็ขว้างขวางพอควรเพื่อจะได้มารองรับของผู้ที่มาใช้บริการจากการที่พวกของรอนเดินสำรวจทางด้านร่างก็ไม่พบห้องใดๆทุกห้องล้วนเต็มไปหมดแต่แล้วพวกเขาก็ไปพบพนักงานสาวใส่เสื้อขาวรัดรูปดูเซ็กซี่น่าดูทำให้ไบรอันท์ถึงกับตาค้างไปเลยขณะที่พนักงานสาวเดินตรงมาที่พวกเขาและเอ่ยทักทายว่า
“สวัสดีจ๊ะเด็กๆ”พนักงานสาวทักทายกิริยาสุภาพขณะที่ไบรอันท์ยังมองตาเคลิบเคลิ้มอย่างไม่ละสายตาเลยและพนักงานสาวก็พูดต่อไปว่า
“มีอะไรให้ช่วยมั้ยจ๊ะ พวกเธอลงสมัครการเข้าใช้ตึกเออทารี่รึยัง”
“ชื่อตึกเขาชื่อเออทารี่งั้นรึ” ไบรอันท์กระซิบข้างหูรอนเบาๆแต่รอนก็แค่พยักหน้าเล็กเล็กน้อย
“เอ่อ...คือ”รอนตอบตะกุกตะกักแต่ยังที่รอนจะพูดอะไรออกไป
“ยังเลยครับ ช่วยพาผมไปหน่อยนะครับ”ไบรอันท์ก็พูดแทรกขึ้นมา
“แหม! เห็นคนน่าตาดีไม่ได้เลยนะยะ”เจนเอ่ยอย่างมีเลศนัย
“บ้าดิ ฉันไม่ได้อยากจะจีบรุ่นคนที่อายุมากกว่านะ”ไบรอันท์เอ่ยเสียงเรียบขณะที่พนักงานสาวเดินนำหน้าเพื่อไปที่ห้องรับรองที่จัดเอาไว้ต้อนรับคนที่มาสมัครลงใช้สถานที่นี้
“อ้าว เด็กๆมาลงชื่อกันตรงนี้นะจ๊ะแล้วใครจะสมัครลงใช้ที่นี่ตลอดก็กรอกใบสมัคสีชมพูแต่ใครมาเป็นบางครั้งก็กรอกใบสมัครสีเหลืองโดยเสียค่าสมัครต่อครั้ง 20เควิน/ครั้ง หรือ 3000/เควิน ใช้ที่นี่ได้ตลอดระยะเวลา1ปี แล้วแต่พวกเธอจะเลือกนะ
“ฉันว่าเอาแบบครั้งก่อนนะ จะดีกว่ามั๊ง” ไบรอันท์เอ่ย
“ทำไมพวกเธอไม่เอาแบบหนึ่งปีไปก็จบแล้วนิ๊” เจนเอ่ยเรียบๆ
“เราว่าเอาแบบหนึ่งปีไปเลยดีกว่านะเพราะยังไงพวกเราก็น่าจะเข้าโรงเรียนเมจิคสคูลได้อยู่แล้วฉันเชื่อในความสามารถของพวกเธอนะ”รอนตอบอย่างมั่นใจ
“อืม เราก็เห็นด้วยกับรอนนะ” เดวิสเอ่ยแทรกขึ้นมา
“เอาละจ๊ะในเมื่อพวกเธอตกลงกันได้แล้วก็กรอกใบสมัครนะให้เสร็จเรียบร้อยนะพร้อมกับจ่ายเงินตามตัวเลขที่เธอกรอกไป เข้าใจนะจ๊ะเด็กๆ”
เมื่อจบคำพูดของพนักงานสาวเขาก็ไปต้อนรับลูกค้าคนอื่นๆที่มากันอย่างไม่ขาดสายและมีพนักงานอีกหลายคนนั่งบนเคาร์เตอร์อยู่อีกสามถึงสี่คน
“นี่ๆรอน ไอ้นั่นเหมือนฉันเคยเห็นมาก่อนเลยนะ” ไบรอันท์หหันไปพูดกับรอน
“ไหนละ”รอนเอ่ยเสียงเรียบ
“ก็นั่นไงเล่ายืนอยู่ตรงนั้นน่ะ”ไบรอันท์เอ่ยขึ้นพอที่ทังสองคนทีกกรอกข้อมูลอยู่หันควับไปมองตรงที่ไบรอันท์ชี้
“นั่นมัน ..”รอนตอบเสียงสั่น
“อาเรสนิ๊” ยังไม่ทันที่รอนจะพูดจบเดวิสก็ตอบอย่างพลันพร้อมกับสีหน้าอย่างไม่เชื่อสายตา
“มันมาได้ไง ทั้งๆที่.....”เดวิสตอบพลางมองไปที่อาเรสอยู่
“รู้สึกว่าจะมีคนมาช่วยมันนะ อาจจะมีเส้นสายอะไรด้วยละมั๊งและก็คงอายุยังไม่บรรลุนิติภาวะ”รอนเอ่ยแทรกขึ้นมาพร้อมกับรู้ว่าเดวิสหมายความว่ายังไง
“อย่าไปสนใจมันเลย ไอ้หมอนั่นฉันเห็นหน้าก็ไม่อยากจะคบด้วยอยู่แล้ว”  เจนพูดทำหน้าแหยๆเหมือนรังเกียง(ความจริงก็รังเกียจอ่ะแหละ)
“ฉันภาวนาอย่าเจอไอ้นั่นเลยนะในการประลองกัน”ไบรอันท์เอ่ยสีหน้าหวาดกลัว
“นายกลัวละสิ”เจนเอ่ยอย่างมีเลศนัย
“ฉันไม่ได้กลัวซักหน่อยนะฉันแค่ไม่อยากเจอมันก็เท่านั้นเอง”ไบรอันท์เอ่ยผิดกับสีหน้าของเขาขณะที่เจนก็หัวเราะคิกๆๆอย่างรู้ทัน
ขณะเดียวกันเด็กหนุ่มคนที่ชื่ออาเรสก็หายวัปไปแล้วทันใดนั้นพวกเขาก็กรอกใบสมัครเสร็จโดยแต่ละคนก็นำเงินยื่นให้กับพนักงานคนที่นั่งกับเคาร์เตอร์
“นี่ครับใบสมัครพร้อมกับเงิน 3000เควิน” รอนยื่นใบสมัครสอบเป็นคนแรกตามด้วย
เจน  เดวิส ที่ยื่นมาให้พนักงานแทบจะพร้อมๆกัน
“อ้าวนายละไบรอันท์ทำไมไม่ยื่นใบสมัครไปละ”รอนถามและทำสีหน้าฉงนซึ่งคนอื่นๆก็งงไปตามๆกัน
“เอ่อ...คือว่าฉันลืมเอาเงินมาไม่ถึงอะ แหะๆ” ไบรอันท์ทำหน้าถอดสีหน้าของเขาอายมากๆก็เพราะที่คนอื่นในนี้จะได้ยินคำพูดของเขาแล้วยังมีอีกหลายๆคนที่ได้ยินพร้อมได้ยินเสียงซุบซิบเล็ดลอดมาให้เขาได้ยินตามด้วยเสียงหัวเราะเบาๆมาเป็นตามๆกัน
“ฉันจะให้เธอยืมก่อนก็ได้นะ แต่!!” เจนกวาดสายตามองร่างของเด็กหนุ่มที่ทำหน้าเลิ๊กลั๊กบ่งบอกสีหน้าได้อย่างชัดเจน
“พูดขอร้องฉันเพราะๆเดี๋ยวเผื่อฉันจะยอมให้เธอยืม”เจนพูดฉีกยิ้มทำหน้าเชิงหยอกล้อแต่กระนั้นก็ตามทำให้เด็กหนุ่มถึงกับโกรธเป็นไฟเลยทีเดียว
“เธอก็ไปแกล้งเขาทำไม เขาเป็นเพื่อนเรานะ”รอนเอ่ยเชิงห้ามปราม
“ฉันก็แค่หยอกล้อเท่านั้นเอง”เจนตอบไม่สบอารมณ์เท่าที่ควรพร้อมกับยื่นใบสมัครแทนไบรอันท์กับจำนวนเงิน 3000เควีไปด้วย
“ขอบใจนะ”ไบรอันท์เอ่ยเสียงสั่น
“ไม่เป็นไรนะ มะกี้ฉันหยอกเธอเล่นน่ะหวังว่าคงไม่โกรธกัน”
“ฉันไม่โกรธเธอหรอก” ไบรอันท์เอ่ยเสียงเรียบๆเหมือนเดิมแต่ที่จริงเขาโกรธเหมือนไฟเลยทีเดียวแต่ยังมีรอนคอยกระซิบห้ามปรามไว้ก่อน
“พวกเราให้ไบสมัครเรียบร้อยและถ้างั้นก็ควรจะไปกันได้แล้วนะ”เดวิสเอ่ยขึ้นมา
“นั่นสิ”เจนทำท่าเห็นด้วย
“ฉันอยากฝึกพลังแล้วละเผื่อบางทีฉันจะเอาไว้จัดการกับปากใครบางคนน่ะ”ไบรอันท์เอ่ยอย่างมีเลศนัย
                                                                                                            ติดตามตอนที่4นะครับ
                                                                                                                                           
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น