ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [Fanfic Baramos] ซินลอเรนล่า

    ลำดับตอนที่ #7 : บทที่6 เตรียมการ

    • อัปเดตล่าสุด 17 ก.พ. 55



           แสงแดดสาดส่อง ท่ามกลางวันเวลาที่ค่อยๆเคลื่อนตัวผ่านไปทีน้อย ช่างตัดเสื้อผู้มีฝีมือ เป็นที่ต้องการของหญิงสาวมากมายในขณะนี้ ร้านเสริมสวยแน่นขนัดทุกวัน เพราะเหล่าสาวงาม(และไม่งาม)ทั้งหลาย ยังคงต้องการที่จะพัฒนารูปโฉมของตนให้ดีขึ้น ทั้งเมืองเวนอลแห่งนี้ ดูมีชีวิตชีวายิ่งนัก


           ที่บ้านของลอเรนก็เช่นกัน แม่เลี้ยงดูตื่นเต้นกับงานนี้มาก ทั้งๆที่เจ้าหล่อนก็รู้ดีว่ายังไงตนก็ไม่มีสิทธ์ที่จะได้รับคัดเลือกในงานนี้อย่างแน่นอน อย่างไรก็ตาม เธอใส่ใจกับลูกสาวทั้งสองมาก การันตีได้เลยว่า เธอหวังที่จะให้ลูกสาวคนใดคนหนึ่งของเธอได้อภิเษกกับเจ้าชายเป็นแน่


           การ์เซียร่า เจ้าหล่อนดูตื่นเต้นกับชุดราตรีสีเงินฟูฟ่องที่ทางร้านตัดเสื้อเพิ่งส่งมาให้เป็นอย่างมาก เธอชมมันอยู่ตลอด ว่ามันเข้ากับผมสีเงินของเธอเป็นที่สุด และเธอจะต้องโดดเด่นเป็นประกายในงานนี้อย่างแน่นอน


           แต่ขณะเดียวกันนั้น ซีบิล่ามีแววตาที่ดูโศกเศร้า เธอบ่นกับคนในบ้านบ่อยครั้งว่าไม่ต้องการไปงานเลี้ยงนี้ แต่ก็นะ...มันจะมีใครฟังเธอกันบ้าง
    !


           “คุณซีบิล่า...ยังไม่เลิกหงุดหงิดอีกหรอ


           ผู้ฟังหันมาทางต้นเสียง อาเชรี่มองเธอด้วยสายตาเป็นห่วง ห่วงในอารมณ์ของสาวน้อยที่เปรียบเสมือนเพื่อน กลัวว่ามันจะเหมือนพี่ชายเธอเข้าให้สักวัน


           “ก็ใครจะเลิกหงุดหงิดได้ล่ะคะ คุณอาเชรี่ ดูสิ คนไม่อยากไปก็ยังจะให้ไป ท่านแม่นี่...อะไรก็ไม่รู้ ซีบิล่าตอบ


           “ก็นะ...งานแบบนี้ถึงไม่อยากไปก็ต้องไป เธอว่าพลางส่ายหัวน้อยๆ สงสัยฉันเองก็คงต้องไปด้วยสินะ


           “ท่านแม่คงไม่อนุญาตให้คุณไป


           “ทำไมล่ะ ฉันมันก็ไม่สวย ฐานะตอนนี้ก็ไม่ดี เสื้อผ้าดีๆก็ไม่มี ถ้าฉันไปมันก็ไม่เด่นอยู่แล้ว มันยังจะมีอะไรอีกหรอคุณ


           “งั้นฉันจะอธิบายนะคะ ข้อแรก...ท่านแม่ไม่ชอบพวกคุณ คงไม่ให้ไปหรอกนะคะ ต่อให้ขอดีๆก็เถอะ และข้อสอง...คุณก็คงพอจะรู้นิสัยการกินของตัวเองนะคะ พี่ลอเรนคงจะไม่ปล่อยให้คุณไปจัดการอาหารในงานจนเรียบหรอกนะคะ


           ทันทีที่พูดถึงข้อสอง อาเชรี่สะดุ้งโหยงทันที เมื่อซีบิล่าหยิบยกเรื่องนิสัยที่แก้ไม่หายของเธอขึ้นมาพูด


           ...อุตส่าห์วางแผนแอบไปหาของกิน...


           “เออ...ฉันว่า...เราข้ามไปเรื่องอื่นกันก่อนดีมั้ย...อาเชรี่กลอกตาไปมาพลางพูด


           “งั้น...ก็ได้ค่ะ...เอาเป็นว่า...


           “อาเชรี่! มามัวโอ้เอ้อะไรแถวนี้ ไปทำงานได้แล้ว!”


           เสียงนั้น ทำให้คนถูกเรียกสะดุ้งเฮือก ซีบิล่ามองเพื่อนสาวที่ถูกพี่ชายจอมหงุดหงิดลากตัวไปทำงานอย่างขำๆ



     

    นี่


           “มีอะไรน่ะพี่


           “พี่มีงานให้เธอทำ


           “คะ?


           “ให้ไปตามคุณเจคินน่า (เจค) ที่ห้องเสื้อมาหน่อย ตอนนี้เลยนะ


           “ตะ...ตอนนี้เลยหรอพี่อาเชรี่เบิกตากว้าง ร้านคุณเจคินน่าไม่ได้อยู่ใกล้ๆนะ


           “นั่นแหละถึงให้รีบไป คาลิน่าเกิดไม่ถูกใจของอะไรเข้าก็ไม่รู้ แล้วบอกให้รีบตามเธอมา ช่วยจัดการให้หน่อยได้มั้ย


           “ค่ะ...



     

    กริ๊ง~


           อาเชรี่กำลังยืนอยู่ที่หน้าร้านตัดเสื้อของเลดี้เจคินน่า ช่างตัดเสื้อมือหนึ่งแห่งเวนอล ซึ่งเธอมาถึงที่นี่ได้โดยอาศัยความช่วยเหลือจากโคเรีย และขณะนี้เธอก็ได้ผลักประตูเข้าไป เสียงกระดิ่งที่ประตูร้านดังขึ้น


           ทันทีที่เข้าไป หญิงผู้หนึ่งหันมามองเธออย่างเป็นมิตร อาเชรี่ยิ้มตอบย่างเป็นมารยาท เธอคนนั้นเอ่ยทักทาย


           “ยินดีต้อนรับสู่ร้านของเลดี้เจคินน่าค่ะ ไม่ทราบว่าต้องการให้ช่วยอะไรรึเปล่าคะ


           “คะ...คือฉันเป็นคนของมาดามคาลิน่าค่ะ เธอให้ดิฉันมาตามคุณไปดูเรื่องชุดเครื่องประดับน่ะค่ะ


           “ตายจริง! ดิฉันทำอะไรผิดพลาดไปรึเปล่าคะ


           “เรื่องนี้ดิฉันก็ไม่ทราบเหมือนกันค่ะ รู้แค่ว่าเธออยากพบคุณ


           “ทราบแล้วค่ะ ถ้าอย่างนั้นกรุณารอสักครู่นะคะ ขอฉันไปเตรียมตัวก่อน


           “ค่ะ


           เจคินน่าเดินไปเตรียมตัว ก่อนจะกลับมาแล้วสั่งพนักงานที่ร้านให้ทำงานอะไรต่างๆเมื่อเธอไม่อยู่ เธอสวมเสื้อคลุมแล้วพาอาเชรี่ออกมาจากร้าน ขณะเดียวกัน อาเชรี่มองเธอด้วยความรู้สึกบางอย่าง แววตาเจือปนด้วยความหวังและความโศกเศร้าบางๆ


           ...อยากเป็นแบบนี้บ้างจังเลย...


           ตั้งแต่วัยเด็ก อาเชรี่ฝันไว้ว่าเธออยากที่จะเป็นเจ้าของห้องเสื้อ หรือเป็นพนักงานในห้องเสื้อก็ยังดี แต่ดูๆความเป็นอยู่ของตัวเองตอนนี้แล้ว...


           ...มันก็มีความเป็นไปได้น้อยเสียจริงๆ...


           เธอสูดหายใจเข้าลึกๆ ก่อนจะเดินต่อไป แววตาคู่นั้นกลับมาสดใสดังเดิม



     

    ตกค่ำ...


           ร่างสูงเอนหลังลงกับเก้าอี้นวมในห้องนอน แล้วถอนหายใจเฮือกใหญ่ ดวงตาสีอเมทิสฉายแววครุ่นคิด และมองไปข้างหน้าอย่างไร้จุดหมาย สุดท้ายจึงเบือนสายตาไปยังพระจันทร์เสี้ยวบนท้องฟ้า


           “เฮ้อ~”


           ...นึกแล้วก็หงุดหงิดเหมือนกัน...


           งานเต้นรำในพระราชวังจะจัดขึ้นในอีกหนึ่งสัปดาห์ข้างหน้า เชิญชวนหญิงสาวทุกคนในเมืองให้ไปร่วมงาน งานหรู อาหารเครื่องดื่มพร้อม นับว่าเป็นงานที่ครบถ้วนเพอร์เฟกมาก แต่ว่างานของผู้หญิงนี่...


           มันเรื่องอะไรที่ผู้ชายอย่างเขาจะต้องมาเหนื่อย


           ตั้งแต่ติดต่อทางร้าน ช่วยช่างเลือกผ้า ช่วยวิเคราะห์การออกแบบ ดูความสมบูรณ์ของชุด เลือกเครื่องประดับ แล้วเอามาให้แม่เลี้ยงเลือก ติดต่อช่างผม พามาคุยกับแม่เลี้ยง และอีกมากมายก่ายกอง บรรยายไม่หมด


           ...เห็นเราเป็นดีไซน์เนอร์รึยังไง...


           “สาธุ~ ฉันจะแช่งแก เจ้าลูเคียน แต่งงานเมื่อไหร่ให้มันซวย ให้มันได้ผู้หญิงที่พามันซวย เพราะแกทำให้ฉันต้องลำบาก แกทำให้ฉันไม่เป็นสุข ฉันเหนื่อยเพราะแก ไอ้เจ้าชายลูคี่!”


           เขาเอนหลังลงพิงเบาะเก้ากี้อีกครั้ง สีหน้าหงุดหงิดค่อยๆคลายออก ดวงตาคู่สวยค่อยๆปรือลง ความเหน็ดเหนื่อย จนในที่สุดก็หลับพริ้ม แพขนตาสีทองหนาทาบลงบนใบหน้า ท่ามกลางแสงจันทร์ที่สาดส่องลงมา ร่างนั้นก็หลับไปด้วยความเหนื่อยอ่อน



     

    แสงจากดวงจันทร์สาดส่องลงมา ที่ระเบียงหรูหรามีร่างหนึ่งหนึ่งอยู่ ดอกกุหลาบสีขาวที่หยิบมาจากกระถางข้างระเบียง ถูกหมุนควงเล่นในมือ ดวงตาสีรัตติกาลดุจท้องฟ้ายามค่ำคืน จ้องมองมันผ่านกระจกแว่นตา เขาขยับรอยยิ้ม


           “ท่านพ่อนะท่านพ่อ...จะปล่อยให้เราไปเที่ยวสักหน่อยก็ไม่ได้ คิดถึงเพื่อนจะตายอยู่แล้ว


           ชีวิตตอนนี้รู้สึกเหมือนถูกขัง โดนบังคับให้นั่งฟังบรรยายเรื่องกำหนดการยาวเหยียด ฝึกมารยาท ลองชุด น่าปวดหัวชะมัด


           ช่วงนี้ท่านพ่อก็ใช้ให้เรย์ไปจัดการงานตลอด ไม่มีเวลามาคุยด้วยเหมือนเดิม


           ...รู้สึกเหมือนคุกดีๆ...


           โครม
    !


           เพราะมัวแต่นั่งเอนตัวไปมา ขาเจ้ากรรมจึงไปสะดุดกับตัวระเบียง และทำให้ร่างของเขาร่วงลงบนพื้น


           เขาลุกขึ้นปัดฝุ่นที่ติดเสื้อผ้า นัยน์ตาเบิกกว้างน้อยๆ เพราะปกติไม่เคยจะซุ่มซ่ามแบบนี้ และทันใดนั้น เขาก็ชะงักนิดๆ เมื่อสัมผัสได้ถึงกลิ่นไอเวทบางๆที่ลอยมาตามลม


           “นี่มัน...ภาพตอนที่ใครคนนั้นเดินผ่านเขาเมื่อหลายสัปดาห์ก่อนผุดขึ้นมาในหัว เจ้าของกลิ่นอายเวทนี้


           “ลอรี่ต้องแช่งฉันแน่ๆเลยเขาพึมพำพลางครุ่นคิดก่อนจะขยับยิ้ม กล้าแช่งส่งมาถึงนี่เลยหรอ


           เขาว่าแล้วลุกขึ้น เดินกลับเข้าห้อง แล้วมองออกไปยังท้องฟ้าภายนอกอีกครั้ง


           “แต่อยากให้รู้ไว้นะ ว่าฉันมันดวงแข็งน่ะ

    *************************************

    อ่า...ถ้าพรุ่งนี้ไม่ได้อัพคงจะเป็นสองเดือนแล้วที่ดอง

    รู้สึกว่าช่วงท้ายๆมันไม่ค่อยจะต่อกันเลย...

    แต่ยังไงก็มาอัพให้แล้วเนอะ...

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×