คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #7 : บทที่6 เตรียมการ
แสงแดดสาดส่อง ท่ามกลางวันเวลาที่ค่อยๆเคลื่อนตัวผ่านไปทีน้อย ช่างตัดเสื้อผู้มีฝีมือ เป็นที่ต้องการของหญิงสาวมากมายในขณะนี้ ร้านเสริมสวยแน่นขนัดทุกวัน เพราะเหล่าสาวงาม(และไม่งาม)ทั้งหลาย ยังคงต้องการที่จะพัฒนารูปโฉมของตนให้ดีขึ้น ทั้งเมืองเวนอลแห่งนี้ ดูมีชีวิตชีวายิ่งนัก
ที่บ้านของลอเรนก็เช่นกัน แม่เลี้ยงดูตื่นเต้นกับงานนี้มาก ทั้งๆที่เจ้าหล่อนก็รู้ดีว่ายังไงตนก็ไม่มีสิทธ์ที่จะได้รับคัดเลือกในงานนี้อย่างแน่นอน อย่างไรก็ตาม เธอใส่ใจกับลูกสาวทั้งสองมาก การันตีได้เลยว่า เธอหวังที่จะให้ลูกสาวคนใดคนหนึ่งของเธอได้อภิเษกกับเจ้าชายเป็นแน่
การ์เซียร่า เจ้าหล่อนดูตื่นเต้นกับชุดราตรีสีเงินฟูฟ่องที่ทางร้านตัดเสื้อเพิ่งส่งมาให้เป็นอย่างมาก เธอชมมันอยู่ตลอด ว่ามันเข้ากับผมสีเงินของเธอเป็นที่สุด และเธอจะต้องโดดเด่นเป็นประกายในงานนี้อย่างแน่นอน
แต่ขณะเดียวกันนั้น ซีบิล่ามีแววตาที่ดูโศกเศร้า เธอบ่นกับคนในบ้านบ่อยครั้งว่าไม่ต้องการไปงานเลี้ยงนี้ แต่ก็นะ...มันจะมีใครฟังเธอกันบ้าง!
“คุณซีบิล่า...ยังไม่เลิกหงุดหงิดอีกหรอ”
ผู้ฟังหันมาทางต้นเสียง อาเชรี่มองเธอด้วยสายตาเป็นห่วง ห่วงในอารมณ์ของสาวน้อยที่เปรียบเสมือนเพื่อน กลัวว่ามันจะเหมือนพี่ชายเธอเข้าให้สักวัน
“ก็ใครจะเลิกหงุดหงิดได้ล่ะคะ คุณอาเชรี่ ดูสิ คนไม่อยากไปก็ยังจะให้ไป ท่านแม่นี่...อะไรก็ไม่รู้” ซีบิล่าตอบ
“ก็นะ...งานแบบนี้ถึงไม่อยากไปก็ต้องไป” เธอว่าพลางส่ายหัวน้อยๆ “สงสัยฉันเองก็คงต้องไปด้วยสินะ”
“ท่านแม่คงไม่อนุญาตให้คุณไป”
“ทำไมล่ะ ฉันมันก็ไม่สวย ฐานะตอนนี้ก็ไม่ดี เสื้อผ้าดีๆก็ไม่มี ถ้าฉันไปมันก็ไม่เด่นอยู่แล้ว มันยังจะมีอะไรอีกหรอคุณ”
“งั้นฉันจะอธิบายนะคะ ข้อแรก...ท่านแม่ไม่ชอบพวกคุณ คงไม่ให้ไปหรอกนะคะ ต่อให้ขอดีๆก็เถอะ และข้อสอง...คุณก็คงพอจะรู้นิสัยการกินของตัวเองนะคะ พี่ลอเรนคงจะไม่ปล่อยให้คุณไปจัดการอาหารในงานจนเรียบหรอกนะคะ”
ทันทีที่พูดถึงข้อสอง อาเชรี่สะดุ้งโหยงทันที เมื่อซีบิล่าหยิบยกเรื่องนิสัยที่แก้ไม่หายของเธอขึ้นมาพูด
...อุตส่าห์วางแผนแอบไปหาของกิน...
“เออ...ฉันว่า...เราข้ามไปเรื่องอื่นกันก่อนดีมั้ย...”อาเชรี่กลอกตาไปมาพลางพูด
“งั้น...ก็ได้ค่ะ...เอาเป็นว่า...”
“อาเชรี่! มามัวโอ้เอ้อะไรแถวนี้ ไปทำงานได้แล้ว!”
เสียงนั้น ทำให้คนถูกเรียกสะดุ้งเฮือก ซีบิล่ามองเพื่อนสาวที่ถูกพี่ชายจอมหงุดหงิดลากตัวไปทำงานอย่างขำๆ
“นี่”
“มีอะไรน่ะพี่”
“พี่มีงานให้เธอทำ”
“คะ?”
“ให้ไปตามคุณเจคินน่า (เจค) ที่ห้องเสื้อมาหน่อย ตอนนี้เลยนะ”
“ตะ...ตอนนี้เลยหรอพี่”อาเชรี่เบิกตากว้าง “ร้านคุณเจคินน่าไม่ได้อยู่ใกล้ๆนะ”
“นั่นแหละถึงให้รีบไป คาลิน่าเกิดไม่ถูกใจของอะไรเข้าก็ไม่รู้ แล้วบอกให้รีบตามเธอมา ช่วยจัดการให้หน่อยได้มั้ย”
“ค่ะ...”
กริ๊ง~
อาเชรี่กำลังยืนอยู่ที่หน้าร้านตัดเสื้อของเลดี้เจคินน่า ช่างตัดเสื้อมือหนึ่งแห่งเวนอล ซึ่งเธอมาถึงที่นี่ได้โดยอาศัยความช่วยเหลือจากโคเรีย และขณะนี้เธอก็ได้ผลักประตูเข้าไป เสียงกระดิ่งที่ประตูร้านดังขึ้น
ทันทีที่เข้าไป หญิงผู้หนึ่งหันมามองเธออย่างเป็นมิตร อาเชรี่ยิ้มตอบย่างเป็นมารยาท เธอคนนั้นเอ่ยทักทาย
“ยินดีต้อนรับสู่ร้านของเลดี้เจคินน่าค่ะ ไม่ทราบว่าต้องการให้ช่วยอะไรรึเปล่าคะ”
“คะ...คือฉันเป็นคนของมาดามคาลิน่าค่ะ เธอให้ดิฉันมาตามคุณไปดูเรื่องชุดเครื่องประดับน่ะค่ะ”
“ตายจริง! ดิฉันทำอะไรผิดพลาดไปรึเปล่าคะ”
“เรื่องนี้ดิฉันก็ไม่ทราบเหมือนกันค่ะ รู้แค่ว่าเธออยากพบคุณ”
“ทราบแล้วค่ะ ถ้าอย่างนั้นกรุณารอสักครู่นะคะ ขอฉันไปเตรียมตัวก่อน”
“ค่ะ”
เจคินน่าเดินไปเตรียมตัว ก่อนจะกลับมาแล้วสั่งพนักงานที่ร้านให้ทำงานอะไรต่างๆเมื่อเธอไม่อยู่ เธอสวมเสื้อคลุมแล้วพาอาเชรี่ออกมาจากร้าน ขณะเดียวกัน อาเชรี่มองเธอด้วยความรู้สึกบางอย่าง แววตาเจือปนด้วยความหวังและความโศกเศร้าบางๆ
...อยากเป็นแบบนี้บ้างจังเลย...
ตั้งแต่วัยเด็ก อาเชรี่ฝันไว้ว่าเธออยากที่จะเป็นเจ้าของห้องเสื้อ หรือเป็นพนักงานในห้องเสื้อก็ยังดี แต่ดูๆความเป็นอยู่ของตัวเองตอนนี้แล้ว...
...มันก็มีความเป็นไปได้น้อยเสียจริงๆ...
เธอสูดหายใจเข้าลึกๆ ก่อนจะเดินต่อไป แววตาคู่นั้นกลับมาสดใสดังเดิม
ตกค่ำ...
ร่างสูงเอนหลังลงกับเก้าอี้นวมในห้องนอน แล้วถอนหายใจเฮือกใหญ่ ดวงตาสีอเมทิสฉายแววครุ่นคิด และมองไปข้างหน้าอย่างไร้จุดหมาย สุดท้ายจึงเบือนสายตาไปยังพระจันทร์เสี้ยวบนท้องฟ้า
“เฮ้อ~”
...นึกแล้วก็หงุดหงิดเหมือนกัน...
งานเต้นรำในพระราชวังจะจัดขึ้นในอีกหนึ่งสัปดาห์ข้างหน้า เชิญชวนหญิงสาวทุกคนในเมืองให้ไปร่วมงาน งานหรู อาหารเครื่องดื่มพร้อม นับว่าเป็นงานที่ครบถ้วนเพอร์เฟกมาก แต่ว่างานของผู้หญิงนี่...
มันเรื่องอะไรที่ผู้ชายอย่างเขาจะต้องมาเหนื่อย
ตั้งแต่ติดต่อทางร้าน ช่วยช่างเลือกผ้า ช่วยวิเคราะห์การออกแบบ ดูความสมบูรณ์ของชุด เลือกเครื่องประดับ แล้วเอามาให้แม่เลี้ยงเลือก ติดต่อช่างผม พามาคุยกับแม่เลี้ยง และอีกมากมายก่ายกอง บรรยายไม่หมด
...เห็นเราเป็นดีไซน์เนอร์รึยังไง...
“สาธุ~ ฉันจะแช่งแก เจ้าลูเคียน แต่งงานเมื่อไหร่ให้มันซวย ให้มันได้ผู้หญิงที่พามันซวย เพราะแกทำให้ฉันต้องลำบาก แกทำให้ฉันไม่เป็นสุข ฉันเหนื่อยเพราะแก ไอ้เจ้าชายลูคี่!”
เขาเอนหลังลงพิงเบาะเก้ากี้อีกครั้ง สีหน้าหงุดหงิดค่อยๆคลายออก ดวงตาคู่สวยค่อยๆปรือลง ความเหน็ดเหนื่อย จนในที่สุดก็หลับพริ้ม แพขนตาสีทองหนาทาบลงบนใบหน้า ท่ามกลางแสงจันทร์ที่สาดส่องลงมา ร่างนั้นก็หลับไปด้วยความเหนื่อยอ่อน
แสงจากดวงจันทร์สาดส่องลงมา ที่ระเบียงหรูหรามีร่างหนึ่งหนึ่งอยู่ ดอกกุหลาบสีขาวที่หยิบมาจากกระถางข้างระเบียง ถูกหมุนควงเล่นในมือ ดวงตาสีรัตติกาลดุจท้องฟ้ายามค่ำคืน จ้องมองมันผ่านกระจกแว่นตา เขาขยับรอยยิ้ม
“ท่านพ่อนะท่านพ่อ...จะปล่อยให้เราไปเที่ยวสักหน่อยก็ไม่ได้ คิดถึงเพื่อนจะตายอยู่แล้ว”
ชีวิตตอนนี้รู้สึกเหมือนถูกขัง โดนบังคับให้นั่งฟังบรรยายเรื่องกำหนดการยาวเหยียด ฝึกมารยาท ลองชุด น่าปวดหัวชะมัด
ช่วงนี้ท่านพ่อก็ใช้ให้เรย์ไปจัดการงานตลอด ไม่มีเวลามาคุยด้วยเหมือนเดิม
...รู้สึกเหมือนคุกดีๆ...
โครม!
เพราะมัวแต่นั่งเอนตัวไปมา ขาเจ้ากรรมจึงไปสะดุดกับตัวระเบียง และทำให้ร่างของเขาร่วงลงบนพื้น
เขาลุกขึ้นปัดฝุ่นที่ติดเสื้อผ้า นัยน์ตาเบิกกว้างน้อยๆ เพราะปกติไม่เคยจะซุ่มซ่ามแบบนี้ และทันใดนั้น เขาก็ชะงักนิดๆ เมื่อสัมผัสได้ถึงกลิ่นไอเวทบางๆที่ลอยมาตามลม
“นี่มัน...”ภาพตอนที่ใครคนนั้นเดินผ่านเขาเมื่อหลายสัปดาห์ก่อนผุดขึ้นมาในหัว เจ้าของกลิ่นอายเวทนี้
“ลอรี่ต้องแช่งฉันแน่ๆเลย”เขาพึมพำพลางครุ่นคิดก่อนจะขยับยิ้ม “กล้าแช่งส่งมาถึงนี่เลยหรอ”
เขาว่าแล้วลุกขึ้น เดินกลับเข้าห้อง แล้วมองออกไปยังท้องฟ้าภายนอกอีกครั้ง
“แต่อยากให้รู้ไว้นะ ว่าฉันมันดวงแข็งน่ะ”
*************************************
อ่า...ถ้าพรุ่งนี้ไม่ได้อัพคงจะเป็นสองเดือนแล้วที่ดอง
รู้สึกว่าช่วงท้ายๆมันไม่ค่อยจะต่อกันเลย...
แต่ยังไงก็มาอัพให้แล้วเนอะ...
ความคิดเห็น