คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #11 : บทที่10 เปลี่ยนไป
แสงแดดสาดส่องเมื่อยามเช้ามาเยือนอีกครั้ง ร่างบางตื่นขึ้นมาสักพักนึงแล้ว แต่ก็กลับไม่ยอมลุกจากเตียง จนน้องสาวที่ต้องให้ปลุกทุกวันตื่นขึ้นมาเอง
“พี่ลอเรน เป็นอะไรรึเปล่าเนี่ย” อาเชรี่ถามหลังจากที่เธอตื่นขึ้นมา ทำให้ลอเรนที่ที่นอนขดตัวอยู่ในผ้าห่มต้องสะดุ้งโหยง ก่อนจะตอบออกไป
“ฉัน...ฉันไม่ค่อยสบายน่ะ ฝากลางานกับคาลิน่าให้ด้วยก็แล้วกัน”
“ค่ะๆ” เธอว่าแล้วเตรียมจะเดินออกไป
“เดี๋ยว...”
“คะ?”
“แต่ถ้าคาลิน่าไม่อนุญาตล่ะก็ ฉันก็จะนอนอยู่ที่นี่แหละ ฝากบอกด้วย”
“ค่ะ แล้วพี่เป็นอะไรมากรึเปล่า”
“ไม่ๆ นอนพักแล้วเดี๋ยวก็หาย”
“งั้นฉันไปก่อนจะพี่”
เสียงฝีเท้าของผู้เป็นน้องสาวลับหายไปพร้อมเสียงปิดประตูเบาๆ ลอเรนจึงได้ลุกขึ้นมานั่งก่อนถอนหายใจเบาๆ
รองเท้าข้างที่เหลือวางอยู่ข้างเตียง เธอหยิบมันขึ้นมาแล้วหมุนซ้ายหมุนขวาก่อนจะวางลงที่เดิม
...ของแบบนี้ไม่อยากจะเชื่อว่ามันมีจริงด้วย...
ทันใดนั้น สายตาของเธอก็สังเกตเห็นสร้อยเส้นหนึ่งที่อยู่บนคอตัวเอง สีหน้าที่เรียบเฉยเริ่มหงุดหงิดขึ้นมาอีกรอบ หลังจากที่เอื้อมมือไปสัมผัสมัน
...ยังอยู่อีกรึเนี่ย...
แม่เธอเคยเล่าให้ฟัง ไข่มุกแสงจันทร์ สร้างจากเวทมนตร์ของราชินีแห่งสโนว์แลนด์ อาบแสงจันทร์หนึ่งหมื่นแปดพันราตรี ร้อยปีผลิตได้ไม่ถึงห้าสิบเม็ด ราคาแพงชนิดที่มีแต่พระราชาเท่านั้นที่ซื้อได้ มักจะเป็นธรรมเนียมที่กษัตริย์จะซื้อให้เจ้าชายไว้เป็นของหมั้นแก่พระชายาในอนาคต
แต่ตอนนี้มันอยู่บนคอเธอ!
ยิ่งคิดยิ่งอยากเป็นลม แค่ได้ใส่ไข่มุกแสงจันทร์ก็จะบ้าตายแล้ว ดันเป็นสร้อยของเจ้าบ้าลูเคียนนั่นอีกต่างหาก งานนี้จะต้องซวยซ้ำซวยซ้อนไปอีกถึงไหนกัน
ตอนสายๆ
“พี่คะ ตื่นอยู่รึเปล่า” เสียงของอาเชรี่ดังออกมาจากนอกประตู
“อื้อ...มีอะไรหรอ”
“คือฉันมาบอกว่า ฉันจะต้องไปติดต่อธุระกับคุณเจคินน่าน่ะ แล้วคุณคาลิน่ากับการ์เซียร่าจะไปข้างนอกน่ะ จะกลับมาช่วงบ่ายๆนั่นแหละ ฝากบ้านด้วยนะพี่ อ้อ...คุณซีบิล่าอยู่ด้วยนะ”
“อืม...” เธอตอบ
“ฉันไปนะพี่”
“เออๆ”
เสียงของน้องสาวเงียบไปแล้ว ลอเรนจึงหันกลับไปเหม่อมองนอกหน้าต่างต่อ กลีบดอกไม้ปลิวร่วงโรยเมื่อลมพัด ใบไม้แห้งเกลื่อนกระจายอยู่ตามพื้น ผีเสื้อบินอยู่ในสวนดอกไม้ดังเช่นทุกวัน นกสีฟ้าตัวเล็กๆบินมาเกาะข้างๆหน้าต่างก่อนที่มันจะบินมาเกาะที่มือเธอ เธอลูบขนของมันเบาๆและไม่ทันได้สังเกตว่ามีคนเดินเข้ามาในห้อง
“พี่ลอเรนคะ...”
“ซีบิล่า!”
“พี่...พี่ลอเรนใช่มั้ย...ทำไมถึง...”
“เรื่องมันยาวน่ะ...เข้ามาก่อนสิ”
“เอ่อ...ค่ะ” เธอเดินเข้ามาแล้วปิดประตูห้อง “ทำไมพี่ถึงกลายเป็นอย่างนี้ได้ละคะ”
“เอ่อ...คือว่านะ...” ลอเรนเล่าเรื่องทั้งหมดให้เธอฟัง ตั้งแต่ตอนที่อาเชรี่แอบหนีไป ตอนที่พบนางฟ้า และตอนที่แฝงตัวเข้าไปในงาน
“มันเกิดข้อผิดพลาดนิดหน่อยน่ะ ฉันก็เลยต้องกลายเป็นอย่างนี้ ห้ามบอกใครทั้งสิ้นนะ เรื่องนี้น่ะ”
“ค่ะ...”
“แล้วนี่คุณเข้ามาทำอะไร”
“คือฉันเห็นว่าพี่ยังไม่ได้ออกไปกินข้าว เลยจะเอามาให้น่ะค่ะ”
“ขอบใจนะ”
หลังจากนั้น
“ข้างนอกมีใครอยู่มั้ย”
“ไม่มีค่ะ”
“ดีล่ะ งั้นฉันจะได้ออกไปข้างนอกบ้าง” เธอว่าแล้วลุกเดินออกไปจากห้อง ก่อนจะไปนั่งเล่นอยู่ที่ห้องโถง แต่จู่ๆก็มีคนมาเคาะประตู ทำให้ซีบิล่าเอ่ยขึ้น
“พี่คะ มีคนมาค่ะ หลบไปก่อนนะคะ”
“อืม...”ลอเรนรับคำแล้วหลบออกไป
“สวัสดีค่ะ” ซีบิล่าออกไปเปิดประตู
“อ้าว! คุณซีบิล่า”
“คุณเรย์ มาทำอะไรที่นี่คะ” แต่ยังไม่ทันที่คนถูกถามจะได้ตอบนั้น เสียงหนึ่งก็เสียงขึ้น
“สวัสดี”
“เจ้าชาย!” ซีบิล่าเอ่ยขึ้น
“คือว่าผมมาตามหาผู้หญิงคนนึงน่ะครับ” เขาว่าแล้วเปลี่ยนเป็นกระซิบ “คนที่เป็นเจ้าของไข่มุกแสงจันทร์ของเจ้าชายน่ะครับ”
ซีบิล่ายิ้มกว้าง เพราะเธอรู้ดีว่าผู้หญิงที่เจ้าชายกำลังตามหานั้นเป็นใคร แต่เธอก็ไม่มีทางบอกหรอกว่า คนคนนั้นน่ะอยู่ที่นี่
“เธอชื่อซีบิล่าหรอ” ลูเคียนเอ่ยถาม
“ค่ะ มีอะไรรึเปล่าคะ”
“อ้อ เปล่าหรอก ยินดีที่ได้รู้จักนะ” แล้วเขาก็หันไปพูดกับเรย์ “เรรี่ นี่ลอรี่อยู่บ้านนี้ใช่มั้ย”
“ครับ”
“เอ้อ...ซีบิล่า ลอรี่อยู่รึเปล่าน่ะ”
“พี่ลอเรนหรอคะ”
“นั่นแหละ นายนั่นอยู่มั้ย ฉันอยากจะทักทายหน่อย”
“ไม่อยู่...ค่ะ”
“ได้ไงเนี่ย...อุตส่าห์มาหา” ลูเคียนบ่น “ไม่เป็นไรๆ วันหลังฉันมาใหม่ก็ได้”
“ค่ะ”
“งั้นตอนนี้...ผมอยากให้คุณซีบิล่าลองใส่รองเท้าข้างนี้ดูหน่อยได้มั้ยครับ”
“อ๋อ...ได้ค่ะ”
ว่าแล้วเธอก็รับมันมาและลองสวมดู ทั้งที่รู้ว่ามันไม่พอดีกับเท้าของตัวเอง แต่ก็ทำเนียนๆไปก่อนล่ะนะ
“ไม่ได้น่ะค่ะ มันหลวม...”
“ครับ ว่าแต่มีใครอยู่อีกมั้ยครับ”
“ไม่มีค่ะ คุณแม่กับพี่ออกไปธุระข้างนอก ส่วนอาเชรี่ก็ไปธุระให้คุณแม่ค่ะ”
“ครับ”
“เฮ้! เรรี่ ฉันออกไปข้างนอกนะ เสร็จธุระแล้วตามออกไปด้วยละกัน”
“ได้ฮะ” แล้วเขาจึงหันไปพูดกับหญิงสาว “งั้นผมขอตัวแล้วกันนะครับ”
“เอ่อ...เดี๋ยวค่ะ”
“ครับ?”
“ที่จริงฉันรู้นะว่าผู้หญิงคนนั้นเป็นใคร แต่ฉันจะไม่บอกคุณหรอกนะ”
“หรอครับ งั้นผมก็คงต้องเดาต่อไปใช่มั้ย”
“ค่ะ” เธอยิ้ม “ไว้เจอกันนะคะ”
“ครับ”
เรย์กับลูเคียนกลับไปแล้ว ลอเรนจึงออกมาจากที่ซ่อนตัว เธอมองออกไปข้างนอกเพื่อให้แน่ใจว่าผู้มาเยือนจากไปแล้ว ก่อนที่จะถอนหายใจเฮือก
“โชคดีชะมัดที่พวกนั้นหาฉันไม่เจอ”
“แต่ฉันว่าพี่ควรจะเปิดเผยตัวนะคะ”
“ฉันก็ได้โดนแม่เธอเล่นงานน่ะสิ แล้วได้ข่าวว่าการ์เซียร่าก็หวังกับงานนี้มากซะด้วย”
“ค่ะ คุณแม่พยายามผลักดันให้ฉันกับพี่ได้รับคัดเลือกจากเจ้าชายทุกวิถีทาง ถ้ารู้ว่าคุณลูเคียนชอบพี่ แม่คงไม่ยอมแน่ๆ”
“เมื่อกี้เธอบอกว่าเจ้านั่นมันทำไมนะ...”
“เขา...ชอบพี่”
“เฮ้อ...งั้นฉันขอตัวไปนอนละกัน”
ตลอดเวลาที่เดินผ่านทางเดินสั้นๆ ความรู้สึกเหมือนยาวนานยิ่งนัก การก้าวเดินแต่ละครั้งนั้นเต็มไปด้วยความคิด
...ชอบ...
นี่แกกล้าที่จะมีความรู้สึกแบบนั้นกับฉันจริงๆน่ะหรอ!
หลังจากที่แอบไปจัดการงานบ้านก่อนที่จะมีใครมาแล้ว เธอจึงมีเวลาว่างมานั่งจิบชาพลางอ่านหนังสือเล่นอยู่ที่สวนหลังบ้าน ในจุดๆนี้มีต้นไม้บังอยู่บางส่วน ถ้าใครมองลงมาจากบนบ้านก็จะไม่เห็น แต่ถ้าจากทางเข้าบ้านนี่ก็ไม่แน่
กึก!
เสียงรถม้าจอดลงที่หน้าบ้าน ลอเรนจึงรีบหยิบหนังสือขึ้นมาบังทันที แม่เลี้ยงกับการ์เซียร่าหันมามองผ่านๆก่อนจะเดินกลับเข้าไปในบ้าน เธอจึงยกหนังสือออก
...ดีนะ ที่พวกนั้นไม่สนใจเรา...
คิดแล้วก็วางหนังสือแล้วนอนหลับไปทั้งอย่างนั้น ปล่อยให้สายลมพัดกลิ่นธรรมชาติให้ลอยไปตามสายลม
ช่วงที่ผมกับพ่อต้องไปทำงานที่ต่างเมืองนั้น การเดินทางมันลำบากมาก ผมอายุแค่หกขวบแต่ต้องมาเจออะไรหนักๆแบบนี้มันคงดูหนักหนามากเลยทีเดียว
แม่เคยเล่าให้ฟังว่า ตอนที่ผมเพิ่งจำความได้ ครอบครัวของเราย้ายจากแอเรียสมาอยู่ที่เวนอลเพราะพ่อถูกปู่เรียกตัวให้กลับมารับราชการที่เวนอลหลังจากที่ไปแต่งงานกับแม่ที่อยู่แอเรียส
และพอผมอายุหกขวบ แม่ก็คลอดน้องสาวมาคนนึงและตัดสินใจที่จะไม่ตามพ่อไปทำงานที่ต่างเมืองด้วยกัน แน่นอนคือต้องเหลือแค่ผมแล้ว
พ่อทำงานเป็นทูตระหว่างประเทศ จึงต้องไปที่เมืองอื่นบ่อย ซึ่งผมก็ชอบ เพราะว่าพ่อจะพาผมไปด้วยเสมอ ผมมักจะได้เห็นสิ่งแวดล้อมใหม่ๆอยู่เสมอ
...แต่นั่นมันก็ทำให้ผมไม่ค่อยจะได้ดูแลตัวเองสักเท่าไหร่...
วันหนึ่งที่พ่อพาผมไปที่ทริสทอร์ ผมหัดปามีดอยู่ในสวนพระราชวังที่เป็นที่พัก พ่อบอกว่าผมต้องรู้จักป้องกันตัวไว้ จะได้เอาตัวรอดได้ ซึ่งผมก็รู้สึกถูกชะตากับเจ้ามีดนี่ตั้งแต่ครั้งแรกที่ได้เห็น แต่ในตอนที่ปาออกไปนั้น มันหายลับเข้าไปหลังต้นไม้ แล้วตอนนั้นก็มีเสียงดังขึ้น
“เฮ้ย!” เสียงนั้นทำให้ผมรีบวิ่งไปดู
“โทษที ฉันไม่รู้ว่ามีคนอยู่ตรงนั้น”
ข้างหน้าผมมีเด็กชายคนนึงที่ดูอายุพอๆกับผมนั่งอยู่ต้นต้นไม้ มีดที่เพิ่งปาไปปักอยู่ข้างๆเขา เด็กคนนั้นหันมาหาผม
“มีดนี่ ของเธอหรอ...”
“อืม...ใช่ ขอคืนได้มั้ยถ้ามันทำไม่ทำให้นายเจ็บตัว”
“ก็ได้น้า แต่ฉันไม่อยากให้คืนเลย ขอได้มั้ย”
มันขอผมอย่างง่ายๆ รู้บ้างมั้ยว่านั่นมันของรักของหวงของผมเลยนะ จู่ก็มาขอกันแบบนี้ยอมไม่ได้หรอก
“ฉันคงให้นายไม่ได้น่ะนะ”
“เหตุผลล่ะ”
“ก็เพราะมันเป็นของของฉัน ฉันรักมันมากด้วย”
“ก็...” เด็กนั่นเว้นช่วง “เหตุผลฟังขึ้น...งั้นเอาไป” เขายื่นมาให้ แล้วผมก็รีบเก็บมันใส่กระเป๋า
“นี่...จิบชาด้วยกันมั้ย”
ผมมองเจ้านั่นที่ชวนให้ผมนั่งจิบชาด้วยกัน ซึ่งผมก็ไม่รู้ว่ามันไปเอามาจากไหน เมื่อกี้ยังไม่เห็นมีเลยนะ
“เอาสิ” ผมตอบ
นายนั่นชวนผมคุยเรื่อยเปื่อย และผมก็ได้แต่ทำเนียนๆฟังไปก็เท่านั้น จนถึงป่านนี้มันยังจ้อไม่หยุดเลย อ้อ...หมอนั่นมันชื่อลูเคียน ซึ่งผมก็ไม่รู้ว่าทำไมมันถึงมาอยู่ที่วังนี่ได้น่ะนะ
“เออ...นี่เธอเป็นผู้หญิงใช่มั้ย”
พรูด!!~
“เจ้าบ้า! ฉันเป็นผู้ชาย นี่นายคิดว่าฉันเป็นผู้หญิงหรอ”
“จะไม่ให้คิดได้ไงล่ะ ก็เธอออกจะน่ารัก ผมก็ยาว ตาก็โต แล้วก็ติดกิ๊บด้วย”
ใช่แล้ว มีแต่คนบอกว่าผมน่ะเหมือนเด็กผู้หญิงเลย ยิ่งช่วงนี้พ่อไม่ได้พาไปตัดผม จนผมมันยาวปิดตา พ่อก็เลยให้ติดกิ๊บไว้ก่อนน่ะนะ
...แต่นั่นมันก็ทำให้เหมือนผู้หญิงหนักกว่าเดิม...
ผมเลิกสนใจเรื่องนั้นและฟังเจ้านั่นมันพล่ามต่อหลังจากที่เคลียร์กันเรียบร้อย แต่จะว่าไป เจ้านี่มันก็น่าสนใจดีเหมือนกันนะ
หลายวันต่อมา ผมต้องเดินทางกลับเวนอล แต่ดูเหมือนเจ้านั่นจะไม่อยากให้ผมไปนะเพราะว่า...
“น้า~เธออย่าไปเลย ถ้าเธอไปแล้วฉันจะอยู่กับใคร”
“คนที่นี่มีเยอะแยะ นายก็เลือกสิ”
“ก็ฉันเลือกแล้วไง ฉันจะอยู่กับเธอ นะ...อย่าเพิ่งไปนะ”
“ฉันมีหน้าที่ของฉัน นายก็มีหน้าที่ของนาย ฉันก็ต้องกลับไปทำหน้าที่ไง”
“หน้าที่น่ะ ฉันไม่สนมันหรอก ฉันรักเธอ เราแต่งงานกันนะ”
เจอคำพูดแบบนี้เข้าไป ไม่ว่าเด็กผู้หญิงคนไหนก็คงจะดีใจ แต่นี่ผมเป็นผู้ชายนะ แล้วก็เคยบอกแล้วด้วย เข้าใจบ้างมั้ย!
“แต่งไม่ได้หรอก” ผมนึกคำพูด “แต่เอาเป็นว่าถ้ามีโอกาสฉันจะมาหานายนะ หรือนายจะไปหาฉันที่เวนอลก็ได้”
...พูดๆไปก่อน จะได้ออกเดินทางสักที...
“จริงสิ ฉันมีญาติอยู่ที่เวนอล งั้นถ้ามีโอกาส ฉันจะรีบไปหานายนะ”
“เอาสิ”
“ขอบใจนะ ฉันรักเธอที่สุดเลย”
มันดึงตัวผมเข้าไปกอด เล่นอะไรบ้าๆ นี่จะจริงจังไปถึงไหน ก็บอกไปตั้งกี่รอบแล้วว่าเป็นผู้ชาย มันก็ยังจะทำเหมือนผมเป็นผู้หญิง ตั้งแต่เจอกัน มันก็ยังเรียกผมว่า “เธอ”จนถึงตอนนี้ บอกอะไรก็ไม่ฟัง ดื้อที่สุด!
“พอแล้วล่ะ ฉันต้องไปแล้ว” ผมดันมันออกไป
“ไปแล้วจริงหรอ”
“อื้อ แล้วเจอกันใหม่นะ บาย”
ผมตัดสินใจยิ้ม(แบบเสแสร้ง)ให้มันเป็นครั้งสุดท้ายแล้วขึ้นเกวียน สบายใจแล้วล่ะ ผมหนีมันพ้นแล้ว
ผมกับเจ้านั่นรู้จักกันไม่มาก ผมรู้แค่ว่ามันชื่อลูเคียน มันก็รู้แค่ว่าผมชื่อลอเรน เราสองคนไม่ได้คุยอะไรกันมาก แม้มันจะมาลากผมไปเล่นกับมันทุกวันก็ตาม
แต่ทว่า ไม่นานจากนั้นแม่ผมก็เสีย พ่อจึงแต่งงานใหม่แล้วก็เปลี่ยนงาน ทำให้ผมไม่ได้เดินทางไปไหนอีกเลย จะว่าไปแล้ว ผมก็คิดถึงมันเหมือนกันนะ ไม่มีคนคอยกวนใจนี่มันเหงาชะมัด
แล้วต่อมา พ่อก็เสียไปอีกคน ยัยแม่เลี้ยงนั่นเลยได้แผลงฤทธิ์ ส่งผมกับน้องไปเป็นคนใช้ซะอย่างนั้น
แล้ววันนึง...
ผมได้พบกับมันอีกครั้งนึง มันจะจำได้มั้ยนะว่าเป็นผม มีดที่ผมปาใส่มันไปเป็นอันเดียวกันกับที่ปาไปตอนครั้งแรกที่เจอกันเลยนะ
พอมาวันนึง ได้ข่าวว่าเจ้านั่นจะแต่งงาน ก็ดีใจเหมือนกัน แต่ผมก็ต้องมาจัดการกับน้องสาวที่หนีเข้าไปในงานนั่น โดยการที่ปลอมตัวเข้าไปในงาน แต่มันกลับทำให้ผมทำงานไม่สำเร็จซะอย่างนั้น แถมยังมีหน้ามาขอผมแต่งงานแล้วก็จ...จูบผมอีก เสียศักดิ์ศรีลูกผู้ชายนะเฟ้ย!
แต่ยังไงก็เถอะ...
...ฉันเป็นผู้หญิงจริงๆแบบที่นายต้องการแล้วนะ...
*********************************
รีบปั่นอีกตอนทันทีหลังจากที่ลงตอนที่แล้วไป
คราวนี้ให้ไปประมาณเจ็ดหน้าไมโครซอฟเวิร์ด
ตอนต่อไป จะลงให้เร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้ละกัน
อ้อ...ใครว่างๆ อ่านแล้วก็เม้นต์ให้หน่อยละกันนะ
ความคิดเห็น