ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [Fanfic Baramos] ซินลอเรนล่า

    ลำดับตอนที่ #10 : บทที่9 เรื่องบ้าๆ

    • อัปเดตล่าสุด 25 เม.ย. 55



           แสงจันทร์สาดส่องท่ามกลางเสียงดนตรีที่ดังกังวานอยู่กลางงานเต้นรำ ที่บัดนี้เจ้าชายได้เลือกหญิงสาวที่ถูกใจ และพาออกมาเต้นรำอยู่กลางฟลอร์


           การตกเป็นเป้าสายตาช่างเป็นความรู้สึกที่ชวนร้อนๆหนาวๆซะจริง พวกผู้หญิงคนอื่นๆมองเธอด้วยสายตาอิจฉาและยินดี ขณะที่น้องสาวตัวดีหายไปไหนก็ไม่รู้ และปล่อยให้พี่ชายต้องมาติดแหง็กอยู่กับเจ้าชายบ้าบออะไรนี่


           ลอเรนพยายามกวาดสายตามองหาอาเชรี่อีกครั้ง แต่ก็หาได้เห็นแม้แต่เงา เธอลอบกัดฟันกรอด


           “เธอ...มองหาใครอยู่รึเปล่า


           เสียงเรียกจากคนตรงหน้าปลุกสติให้เธอหันกลับมา ได้แต่นึกในใจว่ามันจะถามทำไม แต่สุดท้ายก็ได้แต่ตอบไปอย่างสุภาพ


           “เปล่านี่คะ


           ...ทรมานจริงโว้ย
    !...


           เธอกรีดร้องอยู่ในใจ แม้ตอนนี้จะทำได้เพียงแค่ยิ้มและเต้นรำกับเจ้าบ้าตรงหน้านี่ต่อไป แอบขอบคุณยัยนางฟ้านั่นที่ช่วยสอนเต้นรำ ทำอย่างกับรู้ว่าจะต้องมาเจออะไรแบบนี้


           เอ๊ะ
    ! รึว่านางฟ้านั่นจะรู้...


           คิดไปแล้วก็ไพล่โทษนางฟ้าว่าส่งตัวเองมาทรมานซะอย่างนั้น


           “ไม่ทราบว่าผมจะขอทราบชื่อคุณได้มั้ยครับ


           “อะ...เอ่อ...ลอเร...เซีย ค่ะ...


           ...ที่จริงแกควรจะรู้จักฉันดีนะ...


           “ลอเรเซีย...ชื่อคล้ายๆเพื่อนผมเลยนะครับ


           “งั้นหรอคะ


           ...แล้วฉันไปนับแกเป็นเพื่อนตอนไหนฟะ...


           “ครับ ทั้งสีผมและสีตานี่ก็ด้วย เหมือนกันมากซะจนคิดว่าจะเป็นคนเดียวกันหรือเป็นฝาแฝดกัน


          “คงไม่ใช่หรอกค่ะ...ฉันไม่รู้จักเขาเลย


           ...อย่าจับได้เชียวนะ ไม่งั้นฉันขายหน้าไปตลอดชีวิตแน่...


           “ครับๆ อืม...ไม่ทราบว่าผมจะให้ของขวัญสักอย่างกับคุณ สำหรับการพบกันของเราครั้งนี้ได้มั้ยครับ


           “ยินดีค่ะ...


           ...จะให้อะไรก็รีบให้ ฉันจะกลับบ้าน...


           สร้อยเส้นนึงถูกเรียกขึ้นมาก่อนจะถูกสวมลงบนลำคอระหงของหญิงสาว นัยน์ตาสีอเมทิสเบิกกว้างเล็กน้อยเมื่อรู้ว่ามันคืออะไร และความหมายของมันคืออะไร


           “นี่มัน...ไข่มุกแสงจันทร์


           “ครับ...คุณจะรับมันไว้ได้มั้ย


           “คือว่า...


           ...เฮ้ยๆๆ ไม่ได้นะ แกจะขอฉันแต่งงานรึไง
    !...


           “นะครับ ถึงผมเพิ่งจะเคยเจอคุณเป็นครั้งแรก แต่ผมถูกใจคุณมากนะ รู้มั้ยว่า... เขาเว้นช่วงและเปลี่ยนเป็นกระซิบ ผมน่ะ...ตกหลุมรักคุณตั้งแต่แรกเห็นเลยล่ะ


           ลูเคียนไม่ปล่อยให้เธอได้พูด เขาประทับจุมพิตเบาๆที่ริมฝีปากบางของเธอก่อนจะถอนออก บุคคลรอบๆตกตะลึงกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น แต่คนที่ตกใจที่สุดจะเป็นใครไปไม่ได้นอกจากเธอ


           มันเป็นความรู้สึกที่แทบลืมหายใจ เหมือนหัวใจหยุดเต้นไปชั่วครู่และเกือบจะก้าวผิดจังหวะการเต้น ในขณะที่ดวงหน้าขึ้นสีก่ำเหมือนลูกตำลึงสุกไปหมดแล้ว


           ...ไม่นะเว้ย
    !...นี่ฉัน...ฉัน...เจ้าบ้านั่นมัน...จูบฉันงั้นหรอ!...


           “คุณ...จะแต่งงานกับผมได้มั้ยครับ


           เธอตะลึงกับคำขอแต่งงานสดๆร้อนๆที่เจ้าบ้าตรงหน้ามันเพิ่งจะพูดออกไปต่อหน้าชาวบ้านทั้งงาน ได้แต่ควบคุมสติตัวเองไม่ให้วอกแวกและเส้นอารมณ์ขาดในตอนนี้


           “คือฉัน... เธอหลบสายตาเขา


           ..เอาวะ...


           ถ้าเกิดว่าเธอตอบตกลงไป มันก็จะดีใจสินะ นี่ก็ใกล้เที่ยงคืนแล้วด้วย ถ้าเกิดฉันคืนร่างมันก็ต้องช็อคแน่ๆที่รู้ว่าเธอคือลอเรน แต่ว่า...


           ...


           ...การตัดสินใจนี่ทำไมมันยากจัง...


           “ฉัน... เธอพูดอย่างไม่ค่อยมั่นใจขณะที่ยังยิ้มให้เขา


           หง่าง
    ~


           ...ไม่นะ...


           หง่าง
    ~


           เสียงนาฬิกาเริ่มตีบอกเวลาเที่ยงคืน ทำให้เขานึกถึงคำเตือนของผู้ช่วยนางฟ้าที่บอกไว้ก่อนเข้ามาในงาน


           ‘จำได้ใช่มั้ย ว่าต้องรีบออกมาก่อนเที่ยงคืน อย่าให้ใครจับได้ตอนที่เธอคืนร่างนะ


           นึกได้ดังนั้นจึงรีบผละออกจากลูเคียนทันที


           “เวลาของฉันหมดแล้ว ขอโทษด้วยนะคะ ทันทีที่พูดจบ เธอก็วิ่งออกจากงานมาทันที



     

    ที่สวนนอกงาน


           “เฮ้อ~”


           ซีบิล่าถอนหายใจขณะที่นั่งเหม่อมองอะไรไปเรื่อยเปื่อย เธอหนีออกมาจากงานและมานั่งอยู่ที่นี่


           ชุดราตรีที่คุณแม่สั่งตัดมาให้แทบไม่ได้ใช้งานเลย เพราะเธอแอบหนีออกมาตั้งแต่ตอนมาถึงแรกๆ แล้วพี่และคุณแม่ไปคุยกับเพื่อนๆของพวกเขา


           เธอไม่ค่อยมีเพื่อน และไม่ชอบที่จะเข้าสังคม เธอจึงหลบออกมานั่งเงียบๆข้างนอกคนเดียวแบบนี้ มีเพียงเสียงเพลงซึ่งบอกให้รู้ว่าการเต้นรำเริ่มขึ้นแล้วดังอยู่พอได้ยิน


           แต่แล้วก็มีเสียงหนึ่งซึ่งทำลายความเงียบนั้นดังขึ้นมา


           “คุณ...ซิบิล่าใช่มั้ยครับ


           “คุณเรย์...มาทำอะไรที่นี่คะ


           “ผมมาเดินตรวจอะไรแถวๆนี้น่ะครับ แล้วคุณล่ะ ไม่เข้าไปในงานหรอ


           “ฉันไม่ชอบเข้าสังคมน่ะค่ะ...


           “หรอครับ...แต่ผมก็ชอบอยู่นะ ได้พบเพื่อน ได้ทำความรู้จักกับบุคคลใหม่ๆ มันคงเป็นอะไรที่ท้าทายใจของคนเราอยู่นะครับ


           “หรอคะ...แต่ตอนนี้ก็ยังไม่อยากเข้าไปอยู่ดี


           “งั้นผมอยู่เป็นเพื่อนมั้ยครับ นั่งมองพระจันทร์อยู่ตรงนี้นี่แหละ


           “ขอบคุณค่ะ...แล้วคุณไม่เข้าไปดูแลเจ้าชายหรอคะ


           “ทางนั้นมีเจ้าคีนคอยดูอยู่แล้วล่ะครับ อีกอย่าง เสียงเพลงเต้นรำดังขึ้นแล้ว แสดงว่าเจ้าชายคงจอคนถูกใจเข้าแล้ว คงไม่มีใครอยากไปยุ่งหรอกครับ


           “อ๋อ...ค่ะ


           จากนั้นทั้งคู่ก็เงียบไปพักนึง ต่างคนต่างนั่งมองดวงดาว ดวงจันทร์และพรรณไม้ ไม่มีฝ่ายไหนรู้ว่าอีกฝ่ายกำลังคิดอะไร แล้วเรย์ก็พูดขึ้นอีกครั้ง


           “คุณซีบิล่าเคยเต้นรำมั้ยครับ


           “เคยเต้นตอนที่คุณครูสอนน่ะค่ะ แต่ไม่เคยได้ใช้จริงสักที


           “งั้นคุณอยากจะลองดูมั้ยล่ะครับ


           “คะ?


           “คือ...ถ้าไม่รังเกียจ...ผมอยากจะเต้นรำกับคุณสักเพลงได้มั้ยครับ


           “ก็...ยินดีค่ะ


           รอยยิ้มเกิดขึ้นท่ามกลางบรรยากาศอันเงียบสงบ เสียงเพลงที่เล็ดลอดออกมาถูกใช้เป็นเสียงเพลงสำหรับการเต้นรำของคนทั้งสอง และแสงจันทร์ยังคงสาดส่องอยู่ทั่วบริเวณ


           ...บางทีการเปิดรับสิ่งใหม่มันก็เป็นเรื่องท้าทายดีเหมือนกันนะ...



     

    แฮ่กๆ


           เสียงหอบเหนื่อยจากการวิ่งดังขึ้นเบาๆหลังจากที่ออกมานอกเขตงาน และกำลังจะออกนอกเขตวัง เจ้ารองแก้วแก้วนี่มันเป็นปัญหาในการวิ่งชะมัด


           คิดแล้วก็เริ่มสะบัดรองเท้าทิ้งขณะที่วิ่งอยู่ และผลที่ได้ก็คือตอนนี้รองเท้าข้างนึงหลุดไปกองกับพื้นแล้ว แต่อีกข้างกลับไม่หลุดสักที จึงได้แต่วิ่งต่อไปทั้งอย่างนั้น เพราะเจ้าชายเริ่มใกล้เข้ามาแล้ว


           ตอนนี้ออกนอกเขตงานไปได้สักหน่อย เธอยังคงวิ่งต่อไปโดยที่ไม่ได้สังเกตว่ามันมีอะไรผิดปกติ จนกระทั่งมาหลบที่หลังพุ่มไม้


           ลอเรนหยิบนาฬิกาพกขึ้นดูและพบว่ามันเลยเที่ยงคืนมาแล้ว เสื้อผ้าก็กลับมาอยู่ในชุดเดิมแล้ว แต่ติดแค่อย่างเดียวซึ่งก็คือ...


           ...ทำไมเขาไม่คืนร่าง!



     

    ขอโทษด้วยนะ แต่คงมีเรื่องผิดพลาดอะไรบางอย่าง ฉันแก้ให้ไม่ไม่จริง


           โรเวน่าตอบด้วยสีหน้ารู้สึกผิดเล็กน้อย เมื่อเขาถามถึงความผิดปกติที่เกิดขึ้น แต่เขาคิดว่าเธอคงกำลังแกล้งเขาอยู่แน่ๆ


           “แล้วผมต้องเป็นแบบนี้อีกนานมั้ย


           “ไม่รู้สิ... แล้วเธอก็ทำหน้าเหมือนนึกอะไรขึ้นได้ ว่าแต่เขาได้จูบเธอรึเปล่าน่ะ


           คำถามที่ทำให้เลือดสูบฉีดขึ้นมาบนใบหน้าเป็นรอบที่สองของวัน เรื่องแบบนี้ใครเขาถามกันเล่า
    !


           “ก็... เขาตัดสินใจตอบ นิดหน่อยน่ะ...


           “นั่นไง


           “อะไร


           “ก็เวทมนตร์บทนี้มันจะมีผลกับการจุมพิตน่ะสิ ถ้าเจอเข้าไปมันจะยืดเวลาของคำสาปไปอีก นานเท่าไหร่ไม่รู้นะ แต่บางคนอาจเป็นถึงตลอดชีวิตเลย ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับอำนาจเวทของคนที่จูบเราด้วยนะ


           “หา!!!”


           “ฉันได้ยินมาว่าเจ้าชายนั่นเก่งศาสตร์มืดซะด้วยสิ แล้วศาสตร์มืดก็มักจะมีผลพวงกับคำสาปมากกว่าเวทธรรมดาซะด้วย


           “ไม่ได้นะ!”


           “เสียใจด้วยจ้ะ แต่งานนี้เธอคงต้องลำบากแล้วล่ะสาวน้อย...”

    *************************************

    ปั่นเสร็จตั้งแต่ต้นจนจบตอนภายในสามชั่วโมง

    ไม่เคยพิมพ์ต่อเนื่องรวดเดียวจบแบบนี้มาก่อนเลย...

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×