ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    4 Alien&Girls 4 Loves

    ลำดับตอนที่ #3 : Chapter2 : love and ramen.

    • อัปเดตล่าสุด 22 ส.ค. 57


    Chapter 2 love and ramen.


              “เดี๋ยวซาโตชิ!โนดะตะโกนสุดเสียงจนเธอที่กระชากคอเสื้อและนางุโซ่ที่กำลังยืนตะลึงต้องหันไปด้านข้าง

                มือที่ไวเท่าความคิดของซาโตชิเล็งปืนและเหนี่ยวไกทันที ด้วยสายตาที่ดีกว่าคนทั่วไปและการได้รับการฝึกมาเป็นอย่างดีทำให้เขาสามารถยิงเป้าหมายได้อย่างแม่นยำกระสุนไฟฟ้าสีน้ำเงินจึงพุ่งเข้าหามิโฮะอย่างรวดเร็ว

                เปรี๊ยะ!

              โนดะพลักมิโฮะออกไปจากจุดอันตรายทำให้กระสุนไฟฟ้าพุ่งเลยเป้าหมายไปชนกับกำแพงคอนกรีต นางุโซ่เข้ามาประคงมิโฮะที่ตาค้างตะลึงกับเหตุการณ์ที่เพิ่งเกิดขึ้น

                “มะ..เมื่อกี้มัน..”มิโฮะตาค้างแล้วจ้องไปยังโนดะที่เดินปรี่เข้าไปตบหัวซาโตชิอย่างแรง

                “บอกว่าเดี๋ยวก่อนไง! ดูสินี่เราเกือบทำพลาดครั้งใหญ่แล้วนะ”โนดะตวาดใส่ซาโตชิที่ยืนนิ่งรับคำต่อว่าเงียบๆแต่สายตาเบนไปทางอื่นเหมือนเด็กที่ถูกพ่อแม่ดุ โนดะถอนหายใจแล้วเดินไปหามิโฮะที่ยืนมองเขาและซาโตชิ”เป็นอะไรรึเปล่าครับ?”

                “เปล่า...เมื่อกี้นายนั่นจะยิงฉันสินะ...”มิโฮะเท้าเอวแล้วส่งตาดุ โนดะจ้องตากลับ”เปล่าซะหน่อย ก็แค่ก้อนหิน”

                “ก้อนหิน? ดัง[เปรี๊ยง!]นี่นะ?”มิโฮะพูดเสียงดังสายตาจ้องเขม็ง โนดะหลุบตาต่ำลงเล็กน้อยสมองพยายามครุ่นคิดหาข้ออ้าง “ใช่ ก้อนหิน ซาโตชิแค่ขว้างแรงไปเท่านั้นเนอะ”

                “ห๊ะ! อย่ามาทำไก๋น่า คิดจะฆ่ากันงั้นเหรอ?”

                “เอาน่ามิโฮะจัง...ยังไงซะมิโฮะจังก็ไม่เป็นอะไรนี่นา”นางุโซ่ดึงตัวมิโฮะกลับก่อนที่เธอจะหาเรื่องโนดะไปมากกว่านี้ เธอจ้องไปที่โนดะอย่างไม่พอใจแต่เขากลับรู้สึกโล่งใจนิดๆที่นางุโซ่มาช่วยดึงเธอกลับ ไม่อย่างนั้นเขาก็คงต้องเผยตัวจริง

                “ผมขอโทษนะครับ...”ซาโตชิพูดเสียงอ่อยแล้วโค้งลงขอโทษ มิโฮะนิ่งไปชั่วครู่”เอาเถอะ ยังไงๆก็แค่ก้อนหิน แต่คราวหลังอย่าขว้างอะไรๆใส่คนอื่นนะ”

                ฉันไม่มีทางเชื่อเด็ดขาดว่านั่นเป็นก้อนหิน รีบเก็บปีนเร็วจังนะ...ใครจะเชื่อว่าก้อนหินจะพุ่งมาแรงขนาดนั้น...

                ซาโตชิรับคำแล้วดึงตัวโนดะออกมา มิโฮะมองทั้งสองจนลับสายตาก่อนจะนั่งลงกับม้านั่งยาว

                “นางุโซ่ซังเห็นว่ามันเป็นก้อนหินจริงๆเหรอ?”

                “ก็น่าจะก้อนหิน...คนที่ชื่อซาโตชิอาจเป็นนักเบสบอลก็ได้”

                “นั่นสิคะ...”มิโฮะหลุบตาต่ำลงแล้วเอื้อมเอาขวดขาขึ้นมาดื่ม แต่ก็ต้องชะงัก”อี๋...ลืมไปเลยว่านายนั่นจิบชาฉันไปแล้ว”

     

     

                ในขณะที่ทุกคนกำลังออกตามหาหัวหน้าเอเลี่ยนยูสุเกะไม่ได้มีความรู้สึกห่วงอะไรเลยนอกจากห่วงว่าจะไปสร้างความวุ่นวายรึเปล่าเท่านั้น

                ความจริงพวกเขาถูกฝึกอย่างเข้มงวดและโนดะก็ไม่ใช่เอเลี่ยนระดับธรรมดาแต่เป็นถึงระดับนายพล ที่พวกเขาเลือกลงมาสำรวจโลกด้วยตัวเองเพราะนอกจากสำรวจโลกแล้วพวกเราก็ต้องการตามหาเอเลี่ยนระดับนายพลอีกหนึ่งที่ลงมาสำรวจโลกเมื่อนานมาแล้วแต่ก็หายตัวไปเขาคงหลงเสน่ห์ในรสชาติอาหารหรืออะไรสักอย่างบนโลกแน่ๆ

                ยูสุเกะเดินมาตามทางเรื่อยๆผ่านร้านค้ามากมายทั้งร้านเสือผ้าและร้านของเล่น เขาหยุดมองตัวเองในกระจกแล้วจัดแจงทรงผมหยักศกของเขาให้เข้าที่ เขาส่องมองใบหน้าอันหล่อเหลาที่เขามั่นใจ ไม่ใช่ว่าเขาเจ้าสำอางแต่เขาคิดว่าบุคลิกภาพเป็นสิ่งสำคัญ ดวงตาสำน้ำตาลมองรอยเปื้อนสีแดงที่เกิดจากซอสมะเขือเทศบนเสื้อเชิ้ตแล้วถอนหายใจ

    กลิ่นหอมของอาหารที่เขาไม่เคยกินก็ลอยมาแตะจมูกทำให้เขาหันมองซ้ายขวาแล้วออกตัวเดินไปตามกลิ่น เขาเร่งฝีเท้าในการเดินไปยังจุดกำเนิดกลิ่นที่อยู่ข้างหน้า

                ยูสุเกะมาหยุดอยู่ที่ร้านราเม็ง กลิ่นน้ำซุปลอยลอดออกมาจากประตูบานเลื่อนทำให้เขาต้องก้าวเข้าไปในร้านและไปนั่งตรงบาร์

                “ว่าไงพ่อหนุ่ม เอาอะไรล่ะช่วงนี้มีขนาดจัมโบ้วัดใจ กินหมดคิดครึ่งราคา สนใจมั้ย?”เจ้าของร้านถามพร้อมยกถ้วยราเม็งขนาดกะละมังขึ้นมาโชว์ ยูสุเกะพินิจมันดูชั่วครู่”เอาสิ ยังไงก็ได้”

                ครืดดด...

              เสียงบานเลื่อนร้านเปิด หญิงสาวเดินเข้ามาในร้านแล้วนั่งห่างจากเขาไปเพียงสองเก้าอี้ เธอหันหน้ามาสบตาเขาแล้วยิ้มให้”ลุงคะ ขนาดจัมโบ้ค่ะ”

                ดูจากรูปลักษณ์ภายนอกแล้วเธอไม่น่าจะกินอะไรได้เป็นกะละมังอย่างที่สั่ง ผมยาวถึงกลางหลังของเธอถูกมัดไว้อย่างลวกๆ แต่มองดูแล้วกลับเรียบร้อยอย่างน่าประหลาด

                “โคมากิจัง...นี่คิดจะมาถล่มร้านลุงอีกรึไง”

                “แหม่คุณลุงก็ ขนาดจัมโบ้ค่ะ”เธอสั่งพร้อมหักกระดูกนิ้ว ยูสุเกะมองเธอชั่วครู่ก่อนจะโดนกลิ่นราเม็งชามยักษ์ดึงดูดให้หันไปรับมันมาวางตรงหน้า

                เขามองราเม็งชามกะละมังตรงหน้าแล้วเอื้อมไปหยิบตะเกียบ ใส่โชยุและผงปรุงรสลงไปเล็กน้อย คนใหโชยุและผงปรุงรสเข้ากับน้ำซุปสีใสจนกลายเป็นสีเหลืองน้ำตาล ชิมรส...

                ถ้าเปรียบว่าเฟรนช์ฟรายด์เมื่อครู่คือแม่รี่สามเส้า ราเม็งนี่คงจะเป็นการปีนต้นงิ้วที่ใหญ่ที่สุดเลยก็ว่าได้ ทั้งรสชาติของน้ำซุปที่เค็มนิดๆเมื่อทานคู่กับเส้นราเม็งสีเหลืองที่รสชาติค่อนข้างหวานทำให้เกิดความลงตัว เครื่องเคียงที่เป็นหน่อไม้ขับให้รสชาติเค็มของซุปมีมากขึ้นแต่ก็ไม่ถึงกับเลี่ยน เมื่อตักไข่ต้มเข้าไปเสริมทัพไข่แดงที่หวานก็เข้าจู่โจมความเค็มในปากโดยไม่ทันตั้งตัวบวกกับไข่ขาวที่เข้ามาทำให้รสชาตินั้นอ่อนนุ่มลงราวกับเป็นการเจรจาศึก แต่เมื่อหมู่ย่างเข้ามาตามก็ทำให้สงครามกลับมาปะทุอีกครั้ง

                เขาใช้เวลาไม่นานในการจัดการทัพราเม็งขนาดยักษ์ก่อนที่ความอยากภายใต้จิตสำนึกจะสั่งให้เขายกถ้วยราเม็งขึ้นมาซดน้ำจนหมดหยดสุดท้าย

                เมื่อกินเสร็จมันทำให้เขาหวนระลึกไปถึงอาหารเหลวที่เขาทานประจำบนยาน มันเหมือนเยลลี่รสชาติต่างๆที่นักวิทยาศาสตร์สร้างขึ้นเพื่อให้พวกเขามีชีวิตอยู่รอด การที่ได้แต่ทานเยลลี่เหลวๆและน้ำมันค่อนข้างจะทรมาน พวกโปรตีนนั้นก็จะได้กินต่อเมื่อมีสัตว์ประหลาดอวกาศหลงเข้ามาให้ชำแหละกินเท่านั้น

                การที่โลกมนุษย์มีของกินและธรรมชาติที่อุดมสมบูรณ์นั้นเป็นสิ่งที่พวกเขาใฝ่ฝันหา ไม่อยากท่องอวกาศเวียนว่ายตายเกิดบนยานอีกต่อไป อยากมีดวงดาวที่อุดมสมบูรณ์เป็นของเผ่าพันธุ์ สืบสานชีวิตต่อไป นั่นคืออุดมการณ์ของพวกเขา

                “โอ้โหกินเร็วนี่นาย..”หญิงสาวที่นั่งดูด้านข้างมองมาที่เขาแล้วปรบมือเบาๆ ภายในชามของเธอว่างเปล่าเหมือนๆกับของเขา”แบบนี้ก็จ่ายครึ่งราคาสินะคุณลุง”

                เหมือนกับนิสัยของเขาจะกำเริบอีกครั้ง เมื่อครู่เขามัวแต่ลิ้มรสราเม็งที่อร่อยสุดยอดโดยที่เขาลืมไปเลยว่า เขากำลังกินอยู่!

              โรคแบบนี้เกิดขึ้นเสมอเมื่เขากินอาหารไปและทำอย่างอื่นระหว่างนั้น หรืออาจเกิดขึ้นทุกครั้งที่กินจนเขาได้ฉายาว่าเป็น จอมตะกละ ของหน่วย

                “ลุง...ขออีกชามครับ”ยูสุเกะสั่งไปอีกครั้งทำเอาลุงเจ้าของร้านและโคมากิต้องหันมามองดูด้วยความตะลึง ราเม็งชามกะละมังนั้นไม่ใช่ว่าใครก็จะกินหมดได้ง่ายๆ แต่ต่อให้กินหมดก็อิ่มไปจนข้าวเย็นไม่มีความจำเป็นเลย

                “แน่ใจนะ?”

                “ครับ”โคมากิมองดูชายหนุ่มที่นั่งด้านข้าง หากนี่ไม่ใช่เพราะว่าความอยากเอาชนะมันเรียกร้องก็คงเป็นเพราะไม่อยากให้ใครล้มสถิติแชมป์กินจุของเธอที่สั่งสมไว้ถึงสามถ้วยยักษ์

                “เอาสิ...ลุงฉันขอด้วย” เธอสั่งเพิ่มและเมื่อราเม็งชามยักษ์ทั้งสองมาถึงมือทั้งคู่การกินก็เริ่มขึ้น

     
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×