Me me She (ฤดูร้อน2014)
ฤดูร้อนที่เต็มไปด้วยฝนและความร้อน มันคืออดีตที่ผมลืมหรือผมแค่ไม่อยากลืม (ฏดูร้อน 2014)
ผู้เข้าชมรวม
615
ผู้เข้าชมเดือนนี้
10
ผู้เข้าชมรวม
เนื้อเรื่อง
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ทั้งๆที่เป็นฤดูร้อนแต่ฝนก็ยังตก มันคงเป็นฝนหลงฤดูสินะ...
ผม ชอบที่จะเดินเล่นไปเรื่อยๆในวันฝนตกพร้อมร่มคู่ใจ มันเป็นร่มไม่มีสี ใสจนเมื่อผมมองขึ้นไปก็สามารถเห็นน้ำฝนที่ตกลงมาและมองเห็นท้องฟ้าที่สร้างฝนนี้ขึ้นมา
‘อีก 5 นาทีรถไฟสายAจะเทียบสถานี กรุณายืนหลังเส้นสีเหลือง ขอบคุณ’
ผมไม่ได้อยู่บนรถไฟหรอก และผมก็ไม่ได้จะขึ้นรถไฟไปที่ไหนด้วย ผมแค่มายืนกางร่มเล่นหน้าสถานีรถไฟในช่วงที่ฝนตกเท่านั้น บรรยากาศอึมครึมและท้องฟ้าสีเทา
มันช่างสวยงาม
“อ่าว นาย.. ?” ผมหันมาตามเสียงเรียก บังเอิญมากที่ผมได้มาเจอกับ เพื่อน ในวันปิดเทอมฤดูร้อน การยิ้มให้เธอมันคงไม่ใช่เรื่องเสียหายแต่ถ้าผมสบตาเธอแล้วก้มลงจูบ มันต้องผิดแน่ๆ
“...มาเที่ยวเหรอ บังเอิญมากเลย” ทำไมผมเกลียดคำว่า บังเอิญ จากปากเธอกัน..หรือเพราะไอ้ความบังเอิญนี่นำพาให้เราได้พบกัน?
“อืม กำลังจะไปบ้านคุณป้า แล้วนายมารอใครเหรอ?”
“เปล่า มาเดินเล่นน่ะ แล้วเธอจะไปยังไงเหรอ? มีร่มมั้ย”
“ไม่มีหรอก ฉันไม่นึกว่าฝนมันจะตกก็เลยไม่ได้พกร่มมาด้วย”
“มาเดินด้วยกันมั้ยล่ะ ฉันเดินไปส่งจะได้เดินคุยกันไปด้วย”
เธอพยักหน้าแล้วยื่นกระเป๋าใบเล็กให้ผมถือ เนื่องจากบรรยากาศที่เย็นสบายทำให้การเดินทางเป็นไปอย่างเชื่องช้า เดินทอดน่องไปคุยกันไปจนลืมความร้อนเมื่อสองสามวันก่อนได้สนิทใจ
“นี่จำ ฤดูร้อน เมื่อก่อนได้มั้ย?”ผมถามเธอ เธอหันมามองผมแล้วถามว่าปีไหนเพราะช่วงเวลาฤดูร้อนทุกปีเธอจะมาจากต่างจังหวัด การอยู่กับผมในช่วงฤดูร้อนแทบทุกปีจึงมีช่วงเวลาแห่งความทรงจำมากมาย
“ฤดูร้อนที่ฉันกับเธอไปเที่ยวภูเขาไง”
“อ้อ จำได้สิ ตอนนั้นฉันอายมากเลยที่ไม่ได้เอาเงินไปจนต้องไปยืมเงินจากนาย แล้ว หมอนั่น สบายดีไหม?” หมอนั่นที่เธอถามคือ เพื่อนของพวกเรา เราอยู่กันเป็นกลุ่มและหมอนั่นคือคนที่คล้ายกับจะเป็นเงา เงียบๆแต่ยิ้มแล้วน่ารักสดใส
“เจ้านั่นน่ะสบายดี แต่พอเธอไปเรียนต่อในเมืองแล้วก็ไม่ได้ติดต่อกันเลย”
“อย่างนั้นเหรอ...แย่จังนะ”
เธอเว้นช่วงแล้วบรรยากาศก็กลับมาอึมครึมอีกครั้ง ผมพยายามจะถามอะไรนะ...ทำไมผมต้องเอ่ยปากถามเรื่องฤดูร้อนเมื่อนานมาแล้วอย่างนั้น?
“แล้วเธอจำฤดูร้อนตอนที่เราไปไปเที่ยวสวนสนุกได้มั้ย?”
“แน่นอน! ตอนนั้นสนุกมากเลย”
เธอหัวเราะแล้วเล่าย้อนเรื่องราวต่างๆที่เกิดขึ้นในฤดูร้อนนั้น ผมทั้งหัวเราะ ยิ้ม ถาม และตอบเธอเกี่ยวกับเหตุการณ์ในฤดูร้อนที่อยู่ในความทรงจำ มันทำให้ผมมีความสุขมากขึ้น
“ตรงนั้นเพิ่งตั้งเครื่องขายน้ำอัตโนมัติ” ผมชี้ไปที่มุมตึกมุมหนึ่งที่มีตู้ขายน้ำสีน้ำเงินเด่นตระหง่าน เธอหยุดเดินแล้วมองมันชั่วครู่
“ก็ดีนะ ฉันขอเป็นน้ำอัดลม”เธอล้วงกระเป๋ากางเกง ผมรู้ว่าเธอจะต้องออกปากเลี้ยงผมแน่ผมจึงปฏิเสธแล้วอาสาเลี้ยงน้ำอัดลมเธอ เธอถามผมซ้ำไปมาสองสามรอบด้วยความเกรงใจแต่ถ้าผมยอมให้ผู้หญิงออกเงินเลี้ยงน้ำอัดลมล่ะก็เสียชื่อลูกผู้ชายหมด
“ตามใจ” ผมให้เธอถือร่มรอแล้ววิ่งไปที่ตู้ขายน้ำหยอดเงินลงไปตามราคาของน้ำอัดลมแล้วรอให้กระป๋องมันหล่นลงมา ไม่ถึงหนึ่งนาทีผมก็วิ่งตามเธอทันทั้งๆที่ผมบอกให้เธอรอผมแต่เธอกลับเดินอย่างสบายอารมณ์ไปไกล
แหม...เธอช่างขี้แกล้งหรือว่าเธอไม่อยากให้เสียเวลาโดยเปล่าประโยชน์กันแน่?
“นี่ๆ บอกให้รอไม่ใช่เหรอ?”ผมทำหน้ามุ่ยแล้วยื่นกระป๋องน้ำอัดลมให้อีกฝ่าย
“เปล่านะ ฮิฮิ” เธอหัวเราะเบาๆพลางแกะสลักบนกระป๋องแล้วยกขึ้นดื่ม เธออาสาแกะสลักน้ำอัดลมให้ผมก็ไม่อยากขัดศรัทธาของเธอก็เลยยื่นกระป๋องให้แล้วรับร่มมาถือ
เราทั้งสองคนเดินไปตามทางเดิน รอบข้างเป็นตึกอาคารบ้านเรือนต่างๆ บนถนนโล่งแต่ก็มีรถผ่านเป็นพักๆ แอ่งน้ำน้อยใหญ่กระจายกันอยู่บนถนนสะท้อนภาพเบื้องบนออกมาอย่างสวยงาม
“นายชอบดูอะไรไปเรื่อยเปื่อยนะ แอ่งน้ำบ้างล่ะ ต้นไม้บ้างล่ะ มันสวยเหรอ?”
“ไม่คิดว่ามันเป็นศิลปะเหรอ? ความสวยงามที่ธรรมชาติสร้างมามันน่าดูออกทั้งสวยงามและมีพลัง”
“ฉันก็คิดว่ามันสวย แต่ก็อยากลองมองความสวยในมุมมองของนายดูบ้าง” เธอพูดเหมือนกับผมเป็นพวกอาร์ทติสตัวพ่อที่มองอะไรก็เป็นความงามและศิลปะ คงเป็นเพราะผมชอบวาดรูปและแต่งเพลงล่ะมั้ง? มันทำให้ผมนึกถึงเพลงแรกที่ผมแต่งให้เธอ
‘ความรักนี้ทำให้ผมสว่างสดใส และทำให้เธอหม่นหมอง’
“มันไม่ได้สวยงามมากไปกว่าที่เธอมองหรอก มันก็แล้วแต่คนมอง"
"ที่เรามองเห็นก็เป็นภาพเดียวกันนั่นแหละ”
‘ถ้าจะให้ใส่ความฝันของเราในความรักนี้ มันคงจะลำบากมากแน่เลยเนอะ’
“จ้าๆพ่อคนอาร์ทติส” เธอหรี่ตาลงแล้วพูดเหน็บแหนม ผมยิ้มกว้างให้เธอเป็นการกวนประสาทเล่นๆ พวกเราทำหน้าตาตลกๆใส่กันไป เธอทำหน้าบึ้ง ผมแลบลิ้นใส่ เธอถลึงตาโต ผมเบ้ปากลง มันสนุกดีนะที่ได้ทำตัวน่ารัก(?)กวนๆกับคนที่ผมแอบชอบแบบนี้
ทุกคนคงจับความรู้สึกผมได้ตั้งแต่ผมเริ่มแล้วสินะ ผมชอบเธอ ครับ เพราะอะไรน่ะเหรอ? ผมไม่รู้หรอกผมแค่รักในสิ่งที่เธอเป็น ความน่ารัก ความใจดี ความกวนๆ มันอธิบายไม่ถูกเลย
เพียงแต่ว่ามันไม่ได้ทำให้ผมมีความสุขเลยกับความรักนี้เพราะเธอจะมาแค่ฤดูร้อนเท่านั้น เธอมาเพียงแค่พักเดียวแล้วก็กลับไป ไม่ได้อยู่ที่นี่ตลอด ผมพยายามที่จะตัดใจ
‘ผมลืมวิธีเกลียดเธอไปแล้วล่ะ’
แต่มันทำไม่ได้ แม้ผมจะพยายามมากเท่าไหร่มันก็ไม่ลืมเธอได้เลย มันยิ่งตราตรึงเข้าไปในความคิด ในสมองของผม ซึมซับเข้าไปจนผมไม่สามารถหาวิธีที่จะตัดใจจากเธอ
‘ถึงจะหายังไงก็ไม่มีทางเจอหรอก’
ผมคิดว่าการที่เราได้รักใครสักคนมันไม่จำเป็นว่าเมื่อเราไม่สามารถสมหวังเราก็ไม่จำเป็นที่จะต้องลืมความรักที่เราเคยมี เก็บมันไว้เป็นความทรงจำที่สวยงามต่อไปก็ได้นี่ ไม่จำเป็นที่จะต้องลืมคนคนนั้นเลยใช่มั้ยล่ะครับ
แต่จนถึงตอนนี้..ผมก็ยังจำไม่ได้ว่าผมลืมอะไรไป มีเพียงความทรงจำอันเลือนรางที่โผล่เข้ามาในหัวไม่หยุด
“เธอยังจำฤดูร้อนที่เราปั่นจักรยานเที่ยวรอบเมืองได้มั้ย? ตอนนั้นสนุกมากเลย” ทำไมกัน..ทำไมทุกครั้งมันถึงเลือนรางไป
“เธอจำฤดูร้อนที่เธอมาพร้อมกับการบ้านกองโต พยายามขู่บังคับให้พวกเราทำให้เธอได้มั้ย?” เหมือนแอ่งน้ำที่กำลังสั่นไหวรุนแรง
“เธอจำฤดูร้อนที่เธอไปว่ายน้ำด้วยกัน ทั้งกินไอติมจนเป็นหวัดไปหลายวันได้มั้ย?” เหมือนกับพยายามไขว่คว้าเงาสะท้อนในแอ่งน้ำนั้น
“เธอยังจำได้ไหม? ฤดูร้อนทั้งหมดของเรา” ผมหันกลับมาด้านข้างที่ความว่างเปล่าตรงนั้น มันไม่มีอะไรเลยตั้งแต่แรก ไม่มีเธอมาเดินข้างผมตั้งแต่แรก ไม่มีคนที่เดินหยอกล้อกับผมเมื่อกี้ ไม่มีคนที่มาจากสถานีรถไฟ
ผมไม่มีใดรมาตั้งแต่แรกแล้ว...
‘[อยู่ด้วยกันจนถึง 100 ปีเลยนะ] สัญญากันแล้ว’
“แต่ไม่นึกว่าปีที่101จะมาเร็วขนาดนี้...” ผมเพียงแค่หวังเท่านั้นว่าผมจะได้เจอเธออีก มันเป็นเพียงสิ่งที่ผมสร้างขึ้นมาตั้งแต่แรก ภาพของเธอที่อยู่เคียงข้างผม
“จำได้สิ!” ผมจำได้...นั่นเสียงของเธอ เสียงที่ผมจำได้ติดหูผมตลอดเวลา ผมหันไปตามเสียงเธอที่อยู่ข้างหลังตัวเปียกปอนไปด้วยน้ำฝนและน้ำตา
“จำฤดูร้อนที่นายบอกรักฉันได้...”
‘ขอโทษที่พูดแบบนั้นออกไปนะ'
“ฉันจำได้...ฤดูร้อนที่ฉันได้รู้ว่านายรักฉัน”
“ฉันจำได้...ถึงฤดูร้อนที่นายลืมมันไป”
‘ถึงในหัวจะบอกว่ารู้ แต่หัวใจก็ยังเอะอะโวยวายอยู่ดี’
“ผมก็จำได้นะ...” ผมรู้แล้ว...ว่าความรักของผมไม่มีทางสมหวังแน่นอน ไม่ว่าจะเป็นอดีต ปัจจุบัน หรืออนาคต ฤดูร้อนที่มีความสุขและทุกข์ อัดแน่นไปด้วยความหวังและความรัก มันไม่มีทางสมหวังอย่างแน่นอน
“ขอบคุณนะ ที่ยังจำฤดูร้อนของเราได้”
“ผมรอตลอด วันที่เธอจะมาหาผม ไม่ว่ามันจะทรมานแค่ไหนผมก็รอ ผมรอมาตลอดและความหวังอย่างหนึ่งของผมมันก็สมปรารถนาแล้ว ขอบคุณ” ก้าวหนึ่งก้าวร่างกายผมก็จางลง อีกก้าวที่ร่างกายผมจางลงและน้ำตาปรากฏบนใบหน้าของผมและเธอ
ก้าวของเธอทำให้น้ำตาของผมไหลมากยิ่งขึ้น ก้าวของผมมันยิ่งทำให้ผมเริ่มจางหายไป ก้าวของเธอทำให้ความทรงจำผมเริ่มย้อนกลับมา ก้าวของผมทำให้เธอหวนนึกถึงวันวาน ก้าวของเธอทำให้ผมทิ้งร่มที่บังฝน ก้าวของผมทำให้เธอออกวิ่งเต็มฝีเท้า และเราก็สามารถเติมสิ่งที่ขาดหายไปได้
ผมกอดเธอเป็นครั้งแรกในรอบหลายปี และมันเป็นครั้งสุดท้ายของผมที่จะได้กอดเธอ อ้อมแขนที่กอดเธอมันเริ่มเลือนหาย ผมไม่อยากให้เวลาในปีที่101ของผมผ่านไป ไม่อยากให้มันผ่านไป อยากจะหยุดเวลาเหมือนที่ผมหลอกตัวเองมาตลอด
“ผมจะตั้งชื่อให้นะ...ลูกของเธอต้องน่ารักมาก” ผมมองที่ท้องของเธอ มันนูนขึ้นมานิดหน่อย เป็นสัญญาณว่าเธอมีชีวิตน้อยๆอยู่ในนั้น ผมเอื้อมมือของผมสัมผัสเบาๆ
“นานแค่ไหนแล้วนะที่ผมไม่ได้สัมผัสความอบอุ่นแบบนี้...มันสวยงามจริงๆ” ผมมองหน้าที่เปียกไปด้วยน้ำตาและฝนของเธอผมทำอีกความปรารถนาอีกหลายอย่างสำเร็จ
“ลูกของเธอ...ผมจะเพิ่มความโชคดีทั้งหมดของผมให้...ลูกของเธอจะแข็งแรงและสดใส...เป็นคนดี...Summer...ฤดูร้อนที่สดใสและแข็งแกร่ง ”
เวลาปิดเทอมฤดูร้อนอันยาวนานของผมจบลงแล้ว...เธอเติบโตเป็นผู้ใหญ่เดินก้าวหน้าจนมีครอบครัว ผมก็ต้องเลิกอยู่กับฤดูร้อนนี้แล้วเริ่มมุ่งหน้าต่อไป
‘คนที่สร้างออกมา คนที่ช่วยเหลือตลอดมา
ผมคิดว่าไม่ใช่ป่ะป๊าแน่ๆ บางทีอาจจะไม่ใช่ม่ะม๊า เผลอๆก็ไม่ใช่พระเจ้าด้วย
และสรุปจากที่เหลือ .. ก็คือเธอเนี่ยแหล่ะ’
“ก่อนที่ผมจะหายไปนะ...ช่วยยิ้มและบอกรักผมสักครั้ง” มันอาจเป็นคำของที่ดูน้ำเน่า แต่มันเป็นคุณค่าทางจิตใจ ผมรู้อยู่แล้วว่าเธอต้องยิ้มให้ผมและบอกรักผม ไม่ใช่เพราะว่าเธอรักผม แต่เป็นเพราะความสงสารและรู้สึกผิดล่ะมั้ง..
แต่ช่างปะไร...ผมได้มากขนาดนี้แล้วผมจะเอาอะไรอีก..
เกินพอเสียด้วยซ้ำ
เรื่องของผมก็คือ...ฤดูร้อนเมื่อหลายปีก่อน ปิดเทอมฤดูร้อนนั้นผมตัดสินใจบอกรักเธอ เธอบอกกับผมว่าเธอไม่ได้รักผมเลย อย่าเข้าใจผิด ผมไม่ได้ฆ่าตัวตายหรอก มันก็แค่อุบัติเหตุเท่านั้น
ที่เธอบอกกับผมว่าเธอรักอีกคน ที่ผมรับไม่ได้ ที่ผมคว้าแขนเธอ ที่เธอพยายามผลักผมออกไป ที่รถไฟกำลังจะเทียบชานชาลา ที่เขาคว้าแขนของเธอเอาไว้ ที่ผมปล่อยมือเธอไป
ที่ผมต้องตายเพราะปล่อยเธอ...
ผมไม่ได้โกรธแค้นอะไรเธอหรอก...ที่ผมมาอยู่ที่นี่เพราะผมโกรธตัวเองที่วันนั้น
ผมปล่อยเธอไป...
ผมน่าจะจับมือเธอเอาไว้แน่นๆ ไม่คิดถึงอนาคตของเธอ ยึดครองเธอเอาไว้...และเราได้อยู่ด้วยกันตลอดไป
‘[ท้องฟ้าสวยมันสวยมาก เพราะแบบนี้มนุษย์ถึงเป็นสิ่งมีชีวิตที่น่าเศร้า]
ช่วยชำระล้างผมด้วยความจริงที่ผมเข้าใจด้วยอีกครั้ง
เธอที่ผมรัก และผมที่เธอคนนั้นรัก
ดังนั้น ผมจะให้ความสำคัญและรักตัวเองมากยิ่งขึ้น
ถ้าจะให้ผมตั้งชื่อความรักนี้
ผมจะเรียกมันว่า [ขอบคุณ] ’
---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
ขอบคุณครับที่เข้ามาอ่าน
หมายเหตุ แก้ไขคำผิดครับ 1/4/2014
หมายเหตุ แก้ไขคำผิดครั้งที่สอง2/4/2014
หมายเหตุ แก้ไขย่อหน้า 12/4/2014
ผลงานอื่นๆ ของ ทศเธ ดูทั้งหมด
ผลงานอื่นๆ ของ ทศเธ
ความคิดเห็น