ลำดับตอนที่ #4
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #4 : NO.4
4
"ฮยองไปอาบน้ำสิครับ"
กว่ากองจะเลิกก็ปาไปเกือบห้าทุ่มแล้วครับ ตอนแรกผู้กำกับบอกว่าถ่ายฉากห้องดำเสร็จจะให้เลิก แต่ดันลืมถ่ายฉากที่ผมกับเซฮุนต้องนอนด้วยกัน เลยต้องถ่ายกันอีก
มันเลยทำให้ผมหมดสภาพนอนอืดอยู่บนเตียงเนี้ยแหละ เพลียมากๆ ไม่คิดเลยว่าวันหนึ่งจะถ่ายเยอะขนาดนี้
"ขออีกแปปได้ไหมเซฮุนนา ฮยองเหนื่อยมากเลยขอพักสายตาแปปนึง"
ผมพูดทั้งๆที่ยังหลับตาอยู่ ถ้าให้เดาเซฮุนน่าจะนั่งอยู่ข้างๆหัวผมเนี้ยแหละ
"อย่าขี้เกียจสิครับฮยอง เหนื่อยมาทั้งวันแล้วไปอาบน้ำให้สบายๆแล้วค่อยนอน"
เซฮุนดึงมือผมให้ลุกขึ้นจากเตียง ผมก็อยากฝืนไม่ลุกนะ แต่แรงเจ้าเด็กนี้เยอะไม่ใช่เล่นเลยต้องลุกขึ้นมาจนได้
"ก็ได้ แต่ขอขี่คอหน่อยสิ \(^ω^\)"
ผมหันไปอ้อน คือมันขี้เกียจจริงๆครับ
"นี่โตแล้วใช่ไหมฮยอง"
แม้ปากเซฮุนจะบ่นแต่ก็ลงไปนั่งยองๆที่พื้นแล้วหันหลังให้ผมที่นั่งอยู่บนเตียง
"น่ารักที่สุด"
ผมกระโดดลงไปขี่คอเจ้ามักเน่ทันที แล้วก็พูดขึ้น
"ตัวก็ไม่ใช่เบาๆนะฮยอง"
เซฮุนบ่นขณะพาผมไปยังห้องน้ำ
"จะบ่นทำไมในเมื่อก็ยอมให้ขี่อยู่ดี"
"ลงได้แล้ว หรือต้องให้อาบให้เลย"
เซฮุนไล่ผมลง เพราะตอนนี้มันอยู่หน้าห้องน้ำแล้ว
"ไม่ต้อง แบร่"
ผมกระโดดลงจากหลังเซฮุนแล้วก็เข้าห้องน้ำไปเลย
"เสร็จแล้วว"
ผมเดินออกมาจากห้องน้ำแล้วก็เข้าไปยังห้องนอน เห็นเซฮุนกำลังจัดเสื้อผ้าเข้าตู้อยู่
"เสร็จเร็วจัง ฮยองจัดต่อหน่อยสิ เดี๋ยวผมไปอาบน้ำก่อน"
เซฮุนวางเสื้อผ้าลง แล้วหันไปหยิบผ้าเช็ดตัวแทน
"ได้ๆวางไว้นั่นแหละ"
ผมบอกแล้วก็โยนผ้าเช็ดผมลงกับพื้น และเดินตรงผ้าที่กองเสื้อผ้า
"เสื้อสีขาวต้องไว้ตู้นี้ ส่วนสีดำต้องไว้ฝั่งนี้"
ผมพึมพำคนเดียว แล้วก็แยกเสื้อผ้าให้เป็นทิศเป็นทาง เสื้อผ้าผมกับเซฮุนบางทีเราก็ใช้ร่วมกันครับ เลยไม่จำเป็นต้องแยกตู้ใครตู้มัน แยกแค่สีพอจะได้หาง่ายๆ หลังจากเอาเสื้อผ้าขึ้นมาหมดแล้วก็จัดการในส่วนของชั้นในและชุดนอนโยนมันเข้าลิ้นชักที่ซื้อมาในวันนี้
หลังจากจัดเสร็จผมก็มาขึ้นเตียงนอน พรุ่งนี้มีถ่ายตอนค่ำๆครับ ส่วนงานอื่นก็ไม่มี เท่ากับพรุ่งนี้ผมจะได้มีเวลาพักผ่อนอีกสักหน่อย
"อ้าว จัดเสร็จแล้วหรอ?"
เซฮุนเดินเข้ามาพร้อมเช็ดหัวมาด้วย
"ใช่"
ผมตอบทั้งๆที่สายตายังคงจ้องโทรศัพท์อยู่
"จุนมยอนฮยอง ทิ้งผ้าแบบนี้ได้ไง?"
เซฮุนพูดขึ้นแล้วชูผ้าเช็ดหัวผมที่ทิ้งไปเมื่อกี้ขึ้นมา
"อ่าา..ฮยองลืมน่ะ โทษที"
ผมตอบแบบขอไปที แหม อยู่หอผมยิ่งกว่านี้อีก แค่นี้ทำเป็นบ่น
"ถ้าอยู่หอผมจะไม่บ่นเลย แต่นี่มาถ่ายรายการนะ"
เซฮุนพูดแล้วก็ลงมานั่งที่เตียง
"งื้อ ผิดไปแล้วครับคุณพ่อ"
ผมหันไปยิ้มให้เซฮุน
"มาเขียนสิ่งที่รายการให้ทำดีกว่า"
เซฮุนหยิบเอกสารจากโต๊ะข้างเตียงมา
"เออใช่ลืมไปเลย"
วันนี้ก่อนเลิกกองพีดีเอาเอกสารมาให้เราสองคนหนึ่งชุด เป็นสิ่งที่จะต้องทำต่อไปนี้คร่าวๆว่าต้องไปไหน ทำอะไรยังไงในแต่ละตอน หรือแพลนที่จะต้องไปฮันนีมูน ให้เราเขียนในสิ่งที่อยากทำหรืออยากไปด้วย
"ข้อหนึ่ง อยากไปฮันนีมูนที่ไหน? ให้เขียนมาสองข้อ"
เซฮุนเปิดเอกสารมาแล้วอ่าน
"อืมม..ไม่รู้แหะ ไม่เคยคิดเรื่องแบบนี้เลย"
ผมบ่น
"ฮยองชอบแอลเอใช่ไหม หรือเราจะไปแอลเอกันดี?"
"จริงๆก็ชอบนะ แต่เซฮุนอะอยากไปหรือเปล่า? ฮยองว่าหาที่ใหม่ดีกว่า"
ผมเสนอ ไม่ใช่ว่าไม่ชอบแอลเอนะครับ แต่ผมไม่อยากเอาความคิดตัวเองเป็นใหญ่
"งั้นปารีสไหม? ผมอยากลองไปดู"
เซฮุนหันมาถาม
"ก็ดีนะ ดูโรแมนติกดี"
"งั้นอีกข้อผมเขียนแอลเอนะ"
"ได้เลย"
"ข้อสอง ให้เตรียมของขวัญสำหรับคู่รัก"
เซฮุนอ่านต่อ
"อืมม..ฮยองเลือกหมวกแล้วกัน เขาให้เราเตรียมเองใช่ปะ?"
ผมถามเซฮุน
"ใช่ครับ งั้นผมเอาไรดีอะ แหวนโอเคปะ?"
เซฮุนเสนอ
"แต่ฮยองไม่ชอบใส่แหวนอะเซฮุน"
ผมพูดพร้อมทำแก้มป่องๆหวังให้น้องเปลี่ยน
"งั้นผมรู้ละจะซื้อไร"
"ซื้อไรๆ"
"ไม่บอกรอดูเอง มาข้อสาม เตรียมงานเลี้ยงขึ้นบ้านใหม่"
"หืมม ตายละหมายความว่าพวกเมมเบอร์ในวงต้องมาที่นี่งั้นหรอ?"
ผมถาม
"ใช่ วุ่นวายแน่ๆฮยอง ว้าาอุส่าหนีมาอยู่กันสองคน"
"เขาบอกปะ ว่าช่วงไหน?"
"ไม่อะ ที่พูดมาสามข้อเขาแค่ให้เตรียมไว้ ไม่มีเวลาบอก เราจะรู้ตอนได้มิสชั่นการ์ดเท่านั้น"
รายการนี้นี่มันทำให้ตื่นเต้นได้ทุกทีสิน่าา
"ร้ายชะมัด ต่อๆ"
"ข้อสี่ ต้องมีการพบปะครอบครัวอีกฝ่าย เฮ้ยเอาจริงดิ"
เซฮุนที่อ่านอยู่ยังต้องร้องตกใจ
"นั่นสิ ข้อนี้เราไม่เอาได้ไหม?"
ผมก็รู้แหละว่าต้องมี เพราะเวอร์ชั่นชายหญิงก็มีพาไปพบญาติอีกฝ่ายเหมือนกัน แต่สำหรับผมกับเซฮุนนี่มัน..
"ลองไปคุยกับพ่อแม่ก่อนถ้าท่านโอเคก็ถ่ายไปเถอะ ผมว่าสนุกดีนะ"
ถามว่ามันน่าสนุกไหมก็ดีครับ แต่มันดูเหมือนจริงไปหน่อย ฮ่าๆ หรือผมคิดเยอะไป?
"โอเค ก็ได้"
ผมต้องเออออไปก่อน ค่อยคุยกับพ่อแม่ทีหลังแล้วกัน
"ข้อห้า ต้องเปิดบัญชีร่วมกัน เสียเปรียบผมอะข้อนี้"
"อะไรเสียเปรียบยังไง?"
ผมหันไปมองค้อน
"ก็ฮยองขี้เหนียวอะ"
"ย่าห์! เขาเรียกใช้เงินเป็นนะ"
"ผมต้องยอมสินะ"
เซฮุนหันหน้ากับไปอ่านเอกสารในมือต่อ
"ถ้าจบรายการเงินนี้ฮยองให้เอาไปใช้เที่ยวก็ได้"
ผมบอกอย่างแมนๆ
"จริงนะฮยอง!"
เซฮุนหันมาทำหน้าดีใจใส่ผม
"อื้อ อ่านต่อเถอะฮยองง่วงแล้ว"
"งั้นข้ามอ่านกฏเลยก็ได้ ที่เหลือก็ไม่มีไรละ ถึงเรารู้ไปก็ใช่ว่าจะรู้วันเวลาที่แน่ชัด"
ที่เซฮุนพูดมาก็ถูกครับ เอกสารพวกนี้บอกแค่ว่าจะต้องทำอะไรแต่ก็ไม่ได้ว่าบอกตอนไหน ให้แล้วแต่มิสชั่นการ์ด
"ก็ดี"
ผมตอบในสภาพที่ตาจะปิดแล้ว
"ห้ามมีข่าวเรื่องชู้สาวในระหว่างที่อยู่ในรายการคู่รักจำแลง ห้ามมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งกันกับคู่รักจำแลง ถ้ามีข่าวต้องถอนตัวออกจากรายการทันที"
"มันก็กฏทั่วไป"
"งั้นก็นอนเถอะ ไว้เราค่อยมานั่งอ่านพรุ่งนี้อีกทีก็ได้ไม่มีไรสำคัญแล้ว"
เซฮุนบอกพร้อมเก็บเอกสารไว้วางไว้บนโต๊ะข้างเตียง เมื่อเห็นผมตาจะปิดแล้ว
"งื้อ ปิดไฟด้วยนะ"
พอน้องเก็บเอกสารผมก็คว้าผ้าห่มมาห่มทันที คนมันง่วงนี่น่าา
"พอเป็นเตียงคู่แล้วก็ไม่ชินเลย"
เซฮุนล้มตัวลงนอนข้างผมแล้วเข้ามาในผ้าห่มกับผม
"ยังไง"
ผมถามทั้งๆที่หลับตาอยู่
"ก็ไม่ได้กอดฮยองไง ปกติเตียงเราเล็กเลยได้นอนกอดกัน.."
แต่เซฮุนยังพูดไม่จบผมก็เขยิบเข้าไปเบียดเซฮุน ไปใกล้ๆให้เจ้ามักเน่กอด เซฮุนที่รู้ว่าผมเขยิบเข้ามาทำไมก็คว้าตัวผมเข้าไปกอด อย่าว่าแต่น้องไม่ชินเลย ผมเองก็ไม่ชินครับ เรานอนกอดกันเกือบทุกวันในเตียงเล็กๆ พอมานอนเตียงกว้างๆเลยแปลกๆ
"เตียงกว้างก็กอดได้นะ นอนเถอะ"
ผมพูดแล้วก็หลับไปในอ้อมแขนเซฮุนเช่นทุกคืน
"ฝันดีครับ"
เซฮุนใช้มืออีกข้างที่ว่างมาลูบหัวผม
"ทำอะไรอะจุนมยอนฮยอง"
ผมสะดุ้งเล็กน้อยเมื่อได้ยินเสียงมักเน่ออกมาจากห้องนอน
"เอ่อ จะลองทำข้าวดูอะ"
ผมตอบไปตามความจริง ตอนนี้ผมยืนอยู่ในครัวกำลังจะกดหม้อหุงข้าวอยู่
"นึกยังไงถึงอยากทำครับ?"
เซฮุนเดินมาเปิดตู้เย็นหยิบน้ำไปดื่ม
"ก็ฮยองตื่นเช้ามาอ่านเอกสารของรายการเขาให้ทำอาหารให้สามีกิน ฮยองเลยอยากมาลองทำก่อน"
เมื่อเช้าผมตื่นก่อนเซฮุนน่ะครับ แต่ก็ไม่ถือกับตื่นเช้าแบบนั้นเพราะตื่นมาเที่ยงแล้ว ก็เลยว่างๆหยิบเอกสารของรายการมาอ่าน ก็เจอว่าให้ทำอาหาร ไปแคมป์ปิ้ง บลาๆ ดูแล้วผมต้องฝึกทำกับข้าวอีกเยอะเลย พอดีกับเซฮุนที่ยังไม่ตื่นเลยจะมาแอบฝึกสักหน่อย
"ผมนี่โชคดีชะมัดที่ตื่นก่อนไม่งั้นเรือนหอเราได้ไหม้แน่ๆ"
"ย่าห์!! คนอุส่าตั้งใจทำ"
"โอ๋ๆ ไม่ทำหน้าแบบนั้นสิครับฮยอง ผมแซวเล่นน่ะ"
เซฮุนเดินเข้ามากอดผมจากข้างหลังพร้อมเอาคางเกยกับไหล่ผม
"อย่ากอดแบบนี้สิ มันทำอะไรไม่ถนัดนะ"
ผมพยายามดิ้น
"ซ้อมไว้ไงครับ เดี๋ยวในรายการผมจะกอดฮยองแบบนี้ แบบนี้ด้วย"
เซฮุนเอาแขนมาโอบเอวผมแล้วก็ก้มลงมาหอมแก้มผม
"งื้ออ เซฮุนนาหนวดมันทิ่ม จั๊กจี๋นะ"
ผมหันหน้าหลบ
"ฮ่าๆ ไม่แกล้งแล้วๆ มาผมช่วยทำดีกว่า"
"ฮยองว่าจะทำข้าวผัดกิมจิ ช่วยฮยองหั่นกิมจิหน่อยสิ"
ผมชี้ไม่ยังถ้วยกิมจิข้างๆเตาแก๊ส
"ครับๆ"
"นี่เซฮุน ได้อ่านฟีดแบคคู่เราบ้างหรือเปล่า เมื่อเช้าฮยองยังไม่ได้อ่านเลย"
"อ่านครับ รายการออนแอร์ตอนที่เราสัมภาษณ์ไปละ"
"จริงหรอ นี่เท่ากับเราถ่ายสองอาทิตย์เขาก็ออนหนึ่งตอนเลยดิ เร็วมาก"
"ใช่ครับ"
"แล้วฟีดแบคเป็นไงบ้าง"
ผมถามขณะหั่นแฮมไปด้วย ส่วนเซฮุนก็กำลังหั่นกิมจิ
"ก็ดีนะ ยังไม่เจอคอมเม้นอะไรแย่ๆ ส่วนใหญ่ทุกคนบอกว่าเราเหมือนคู่แต่งงานอยู่แล้ว"
"จริงหรอ? แต่ก็น่าจะจริงละ เซฮุนกับฮยองตัวติดกันขนาดนั้น"
"ออกไปหาซื้อของกินมาตุนในตู้เย็นกันไหม?"
"อื้อ ก็ดีนะในตู้มีแต่กิมจิ"
"งั้นเดี๋ยวรอกินข้าวผัดฝีมือภรรยาก่อนแล้วกันเนอะ อะหั่นเสร็จแล้ว"
"ไปอาบน้ำรอเลย เดี๋ยวฮยองจัดการเอง"
หลังจากหั่นกิมจิในภรรยาจำแลงเสร็จ ผมก็เดินเข้ามาเอาเสื้อผ้าไปอาบน้ำ เมื่อเช้าผมอ่านคอมเม้นบางส่วนแล้วครับที่ผมบอกฮยองว่าไม่มีคอมเม้นไม่ดีน่ะ ผมโกหกครับ เพราะผมก็เจอคอมเม้นที่ไม่ดีอยู่บ้าง แต่มันก็เทียบไม่ได้กับคอมเม้นที่ดี คอมเม้นที่ว่านั่นก็แค่บอกว่าไม่น่าเชื่อว่าEXOจะมาออกรายการอะไรแบบนี้ แถมเป็นลีดเดอร์อีก ผมเลยเลี่ยงที่จะบอกจุนมยอนฮยอง เพราะเจ้าตัวค่อนข้างเครียดกับอะไรแบบนี้ อย่าให้เขารู้เลยครับ
"มาแล้ว กลิ่นไรไหม้ๆน่ะฮยอง"
ผมเดินออกมาจากห้องน้ำก็ได้กลิ่นเหมือนกิมจิไหม้
"งื้ออ..ไม่ไหม้นะแค่มัน.."
จุนมยอนทำท่าพูดไม่ออกแล้วก็ยื่นจานให้ผม
"ฮ่าๆๆๆๆๆ นี่น่ะหรอไม่ไหม้?"
พอเห็นข้าวผัดในจานก็ขำแล้วครับ ข้าวที่แฉะกับกิมจิที่ดูไหม้
"ขำขนาดนี้ก็ทิ้งมันเถอะ"
จุนมยอนฮยองพูดแล้วคว้าจานกลับไป
"อย่าทิ้ง ผมกินเอง"
ผมรีบคว้ากลับมาแล้วกินมันลงไป
"เป็นไงๆๆๆ"
พอผมกินคำแรกเข้าไปจุนมยอนก็รีบถามทันที
"ทำครั้งแรกได้แค่นี้ก็โอเคแล้วครับ"
คือรสชาติมันไม่ได้แย่นะ เพราะกิมจิมันช่วยไว้ แต่ข้าวเนี้ยแหละมันแฉะไปหน่อย
"แสดงว่าไม่ได้อร่อยสินะ"
"ทำไมพูดอย่างงั้นละ ผมไม่ได้บอกสักหน่อย แค่บอกว่ามันก็ดีแล้ว"
"สงสัยฮยองต้องให้คยองซูสอนซะแล้ว"
"ฮ่าๆ อย่าไปคิดมากครับ ฮยองไปอาบน้ำเถอะ เดี๋ยวผมล้างจานในครัวเอง"
ผมตอบแล้วก็ก้มหน้าก้มตากินอาหารในจานต่อไป
"ถ้าไม่อร่อยก็ไม่ต้องฝืนกินนะเซฮุนนา ฮยองไม่ได้ว่าอะไร"
จุนมยอนฮยองพูดจบแล้วก็เดินไปอาบน้ำ
ซุปเปอร์มาร์เก็ต
"เซฮุนเอาโค้กไหม"
ตอนนี้ผมมาเดินที่ห้างกันแล้วครับ
"เอาสิ"
ผมจอดรถเข็นไว้ข้างๆแล้วก็ยกเครื่องดื่มน้ำอัดลมลงมาหนึ่งถาดจากชั้นวางของในห้าง
"เอาโซดาให้ฮยองด้วยแพคหนึ่ง"
"ปะ เรียบร้อย"
หลังจากยกน้ำสองแพคเสร็จก็เข็นรถ เข็นไปโซนอื่น
"เซฮุนอยากซื้ออะไรอีกปะ?"
จุนมยอนฮยองหันมาถามผม
"เอาของสดไปตุนไว้ก็ได้ครับ จะได้ทำอาหารกินกัน แต่เอาอาหารแช่แข็งไปเผื่อก็ดี"
ผมพูดแล้วก็เข็นรถไปตามจุนมยอนฮยอง
"งั้นซื้อไข่ไก่หนึ่งแพค หมูสับ บลาๆๆ"
จุนมยอนฮยองนี่แปลกนะครับ ทำอาหารไม่เป็นไม่ชอบเข้าครัวแต่กลับรู้ว่าต้องใช้อะไรบ้าง นับถือจริงๆ
"ฮยองๆ เอาข้าวโพดด้วยผมอยากกิน"
ผมเข็นรถตามแล้วชี้ไปที่ข้าวโพดอ่อน
"โอเค กินแครอทปะ?"
ฮยองหันมาถามผม
"ไม่อะอยากกินกระต่ายแถวนี้มากกว่า"
ผมบอกแล้วทำหน้าหื่นๆใส่จุนมยอนฮยอง
"ไอ้บ้า"
วันนี้จุนมยอนฮยองพูดคำว่าไอ้บ้ามากี่ครั้งแล้วน้า
"ฮยอง อย่าลืมซื้อโฟมล้างหน้านะ"
"โอเค มีไรอีกปะ"
"อืม..น้ำยาซักผ้า"
"เออใช่ๆ"
แล้วจุนมยอนก็วิ่งไปที่โซนของใช้ในบ้านอีกครั้ง
"อย่าวิ่งสิฮยอง"
ผมพูดไล่หลังไป ดีนะวันนี้วันธรรมดาคนไม่ค่อยเยอะ
"ไม่ได้หรอกต้องรีบเดี๋ยวต้องกลับไปเตรียมตัวถ่ายตอนเย็นอีก"
"ครับๆ"
กลับมาถึงบ้านก็จัดของกินเข้าตู้เย็น แยกของใช้ให้เป็นที และก็ต้องเริ่มแต่งตัวกันอีกครั้งเพราะกำลังจะถึงเวลาต้องถ่ายอีกแล้ว รายการนี้เหนื่อยไม่เบาเลยนะครับ แต่ไม่เป็นไรผมว่าคุ้ม ได้อยู่กับจุนมยอนฮยองทั้งวันแบบนี้
"เซฮุนนาวันนี้ใส่เสื้อคู่กันดีปะ?"
จุนมยอนฮยองที่กำลังแต่งตัวหันมาถามผมพร้อมชูเสื้อสีขาวกับดำขึ้นมาทาบตัว
"เอาสิครับ น่าสนใจ"
ผมบอกแล้วก็เดินไปหยิบเสื้อสีดำมาใส่
"ฮัลโหลครับ สวยยออิโดหรอ ได้ครับๆ"
จุนมยอนฮยองรับโทรศัพท์ขึ้นมาคุย
"ทีมงานหรอฮยอง?"
"ใช่ๆ เขาบอกให้เราขับรถไปที่สวนเลยถ้าเตรียมตัวเสร็จ"
"โอเค ผมเสร็จละ เดี๋ยวไปรอข้างนอก"
"วันนี้ถ่ายฉากเดินเล่นในสวน แล้วต่อด้วยไปดูหนังที่โรงหนังนะครับ"
พอมาถึงพีดีก็เข้ามาใช่ติดไมค์ให้กับผมสองคน
"โอเคครับ"
ผมตอบพีดีกลับไป
"โอเค งั้นเริ่มถ่ายแล้วนะครับ"
พอกล้องเริ่มถ่ายผมก็คว้ามือจุนมยอนฮยองมาจับไว้แล้วก็เดินไปรอบๆสวน ดีหน่อยครับที่เวลาค่ำๆแบบนี้ในสวนจะมีไฟตามทาง มันเลยดูโรแมนติกหน่อยๆ
ส่วนของฉากในสวนก็ไม่มีไรมากครับ พีดีบอกว่าแค่อยากให้ดูเหมือนมาเดินเล่นกัน แล้วก็พาไปต่อที่ดูหนัง ส่วนผมตอนนี้ก็เดินมาได้สักพักแล้วครับ
"จุนมยอนฮยอง"
ผมเอ่ยขึ้นมาระหว่างที่เรากำลังเดินเล่นอยู่
"หืมม?"
จุนมยอนฮยองหันมาทางผม
"ผมอยากไปดูหนัง ไปดูหนังกันไหม?"
"ไปสิ เซฮุนอยากดูเรื่องอะไรหรอ?"
"อืมม..ขอไปดูที่หน้าโรงแล้วกัน"
"เซฮุนนา ฮยองเมื่อยแล้ว อุ้มกลับไปที่รถหน่อยสิ"
จุนมยอนฮยองไม่พูดเปล่า นั่งลงกับเก้าอี้แถวนั้น
"ฮยองนี่มันจริงๆเลย"
ปากผมบ่นครับแต่ก็ต้องลงไปนั่งยองๆให้ลีดเดอร์ขึ้นมาบนหลังผม
"ไปเลย"
จุนมยอนกระโดดขึ้นมาบนหลังผมเรียบร้อยแล้ว
โรงหนัง
"หนังผีหรอเซฮุน?"
จุนมยอนฮยองเดินมาหาผม เมื่อกี้เราแยกกันไปซื้อน่ะครับ จุนมยอนฮยองไปซื้อป็อปคอร์น ผมมาเลือกตั๋วหนัง
"อ่าห้ะ ฮ่าๆๆๆ"
ผมตอบเสร็จก็ต้องขำทันที เพราะหน้าจุนมยอนฮยองตอนนี้เหมือนเด็กอนุบาลโดนแย่งอมยิ้มเลยครับ ถึงแม้มันจะดูน่ารักก็เถอะ
"ขำอะไรเล่า!"
จุนมยอนฮยองหันมาเอ็ด
"ป๊าาาววว เอาน้ำมาผมถือเอง"
ผมคว้าน้ำอัดลมจากมือจุนมยอนฮยองมาถือ
"เปลี่ยนเรื่องไม่ได้เหรอฮุนนา"
"มันมีรอบนี้รอบเดียวนิครับ ฮยองไม่ต้องกลัวนะผมอยู่ข้างๆตลอด"
ผมรู้ครับว่าจุนมยอนฮยองกลัวหนังผี แต่มันไม่มีรอบแล้วนี่น่าช่วยไม่ได้
"ตายแน่ๆเลยฮยอง"
"เข้าโรงแล้วนะ จะไปเข้าห้องน้ำก่อนไหม?"
ผมหันไปถามคนตัวเล็กข้างๆที่ตอนนี้หน้าซีดมาก
"ไม่อะ รีบๆเข้าไปเถอะ"
เมื่อเห็นว่าคนตัวเล็กมีท่าทีกลัว ผมก็เลยคว้าเอวจุนมยอนฮยองมาโอบไว้ และค่อยไปที่นั่ง ดีนะว่าผมจองแบบโซฟาไว้
"มันจะน่ากลัวมากไหมอะเซฮุน"
จุนมยอนนั่งลงข้างๆผมแล้วเอาถังป็อปคอร์นมาตั้งไว้ตรงกลางระหว่างเรา
"ก็คงนิดหน่อย แต่ไม่ต้องกลัวนะผมอยู่นี่ทั้งคน"
ผมคว้ามือจุนมยอนฮยองมาจับไว้
"เริ่มแล้ววๆ"
จุนมยอนพูดด้วยเสียงกระซิบ
ตั้งแต่หนังเริ่มมาต้นเรื่องจนถึงตอนนี้ ยังไม่มีอะไรน่ากลัวผมกับจุนมยอนฮยองก็กินป็อปคอร์นกันเพลินๆจน
เพล้ง!
ปัง!
ปึง!
"เฮ้ย!"
มันเป็นฉากที่อยู่ผีก็โผล่ออกมา ทำให้จุนมยอนปัดถุงป็อปคอร์นที่คั่นกลางระหว่างตกลงไปอยู่ที่พื้นแล้วก็เขยิบมานั่งใกล้ๆผมพร้อมเอาหัวเอนมาซบไหล่ผมแล้วเอามือเอามาคล้องแขนผมพร้อมจับมือผมไปด้วย ผมที่เห็นว่าคนตัวเล็กกลัวก็เลยเอามือข้างที่ว่างมาปิดตาฮยองให้
จุ๊บ!
"ไม่ต้องกลัวนะฮยอง"
ผมกระซิบเบาๆ จุ๊บที่แก้มฮยองไปหนึ่งที
"อื้อ"
SH PART
Q : ทำไมคุณถึงเลือกดูหนังผีกับภรรยา
A : เอาจริงๆก็เพราะภรรยาผมกลัวไงครับเลยเลือก ฮ่าๆ ผมอยากให้เขาสบายใจได้เพราะมีผมอยู่ข้างๆ ผมอยากทำให้เขาหายกลัว อีกอย่างการดูหนังผีกับภรรยามันก็ดีนะครับ ดูภรรยาผมสิอ้อนผมมากๆเลยตอนอยู่ในโรงหนัง
Q : ทำไมถึงหอมแก้มภรรยาในโรงหนัง
A : อืมม.. เพราะว่ามันน่าจะทำให้ภรรยาผมลืมเรื่องที่น่ากลัวก็ได้ ฮ่าๆๆ ผมก็เป็นห่วงเขาแหละครับ ทั้งที่รู้ว่ากลัวผมก็ยังจะเลือกหนังผี
JM PART
Q : คุณกลัวหนังผี?
A : ใช่ครับ ผมกลัวผี ไม่ว่าจะเป็นหนังสือผี หรือหนังผี เลี่ยงได้ผมจะเลี่ยงตลอด แต่วันนี้กลับแปลกไปครับที่ผมสามารถอยู่ในโรงหนังได้ยันจบ คงเพราะมีสามีอยู่ๆด้วยครับ มันทำให้ผมหายกลัวไปชั่วขณะ ถ้าได้ดูกันจะเห็นเลยว่าน้องดูแลผมดีมากๆ เลยทำให้ผมไม่ค่อยกลัวเหมือนอย่างเคย ขอบคุณจริงๆไม่งั้นนะผมได้ร้องไห้กลางโรงหนังแน่ๆ
Q : รู้สึกยังไงตอนสามีมาหอมแก้ม?
A : ต้องบอกว่ามันไม่ใช่ครั้งแรกที่สามีทำแบบนั้นกับผมครับ แต่ครั้งนี้มันต่างออกไป ผมว่าเขาทำให้ผมหายกลัวจากสิ่งที่ฉายอยู่ก็เป็นได้ และมันก็ได้ผล เพราะเซฮุนเขารู้ครับว่าอะไรที่จะทำให้ผมหายกลัวได้บ้าง เช่น ถ้าผมอยู่กับเขาผมก็จะไม่กลัวอะไรอีกเลย
#ฟิคคู่รักซักล้าง
ยังไม่ได้แก้คำผิดนะคะ
TALK
ฮืออ เสียใจเบาๆ หายไปไหนกันหมดคะ นักอ่านนน เม้นแสดงตัวหน่อย
ถ้านักอ่านหาย คนเขียนจะหายบ้างนะน้อยใจ ฮ่าๆๆๆ
เม้นให้กำลังใจกันบ้างเด้อ ไม่งั้นจะงอนแล้วจริงๆนะ TT
อัพเดตเรื่องONCEตอนนี้ส่งต้นฉบับให้กับพิสูจน์อักษรแล้วนะ
ตอนแรกจะไม่จ้างแต่คงต้องจ้างTT
ฝากฟิคคู่แปลกด้วยค่าา เป็นคู่แบคมยอน ซิ่วโฮ และออลโฮ
MINI COUPLE (ALL SUHO) (BAEKHO) (XIUHO)
อัพตอนใหม่แล้ว ตามไปให้กำลังใจกันได้นะคะ
ขอบคุณค่ะที่คอยติดตามกันมาตลอด
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น