ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    WGM-SESU COUPLE (HUNHO)

    ลำดับตอนที่ #3 : NO.3

    • อัปเดตล่าสุด 24 พ.ค. 60




    3



         หลังจากอัดฉากห้องดำเสร็จผมก็ต้องเตรียมตัวไปซื้อเฟอร์นิเจอร์กัน 
         หลายคนอาจจะงงว่าห้องดำคืออะไร งั้นผมจะขออธิบายสั้นๆนะ มันเหมือนกับห้องพูดความรู้สึกอะครับ ส่วนมากพีดีตั้งคำถามเกี่ยวกับการถ่ายทำของตอนนั้นๆ เช่นวันนี้เราจะไปเดินซื้อของกัน พีดีอาจจะมาถามว่ารู้สึกยังไง เราก็มีแค่หน้าที่ตอบไปตามความจริงเท่านั้นเองและที่สำคัญคือฉากห้องดำ ตอนถ่ายผมถ่ายอยู่ เซฮุนจะรู้ไม่ได้ว่าผมพูดอะไรไม่สามารถมาฟังได้ จะมารู้อีกทีคือตอน ออนแอร์เท่านั้น เช่นกันถ้าเซฮุนเข้าไปถ่ายฉากห้องดำผมก็ไม่สามารถรู้ได้ว่าเซฮุนให้สัมภาษณ์ว่ายังไง ต้องมาลุ้นตอนออนแอร์ครับ 
         เอาละตอนนี้ผมก็มาถึงห้างสำหรับเฟอร์นิเจอร์แล้ว แอบรู้สึกไม่ชินเลยเวลามีกล้องมากมายมาถ่ายตลอดเวลาแบบนี้ แต่ผมจะพยายามให้เต็มที่แล้วกัน

    "คิดไรอยู่ครับฮยอง"
    พอลงมาจากรถเดินเข้าห้าง เซฮุนก็หันมาถามผม

    "คิดเรื่องของเราไง ฮ่าๆ"
    ผมตอบกลับไปแบบเขินๆ 

    "ปากหวานนักนะ ปะ ไปเลือกเตียงกันก่อนดีกว่า"
    เซฮุนคว้ามือผมไปจับแล้วก็พาไปที่แผนกห้องนอน

    "เซฮุนชอบแบบนี้ปะ?"
    ผมชี้ไปที่เตียงคู่ตรงหน้า หัวแตียงมันดูมีชั้นเก็บนิดๆหน่อยๆด้วย

    "แล้วแต่ฮยองครับ เรื่องเตียงให้ฮยองเลือกเลย"
    เซฮุนบอก แอบเขินแหะ เซฮุนยังจับมือผมไม่ปล่อยเลย

    "อืมมม...งั้นเอาแบบนี้ดีกว่าเพราะเซฮุนไม่ชอบแบบมีหัวเตียง"
    ผมยืนใช้ความคิดอยู่แถวหน้าแผนกเตียง

    "แต่ฮยองชอบแบบมีหัวเตียงไม่ใช่หรอครับ?"
    เซฮุนหันมาถาม

    "ไม่เป็นไร เอาแบบนี้แหละ"
    ผมยิ้มแล้วถ่ายรูปสินค้าไว้ในโทรศัพท์

    "แล้วแต่นะ งั้นไปดูไรต่อดี"
    เซฮุนจูงมือผมไปที่โซนของโซฟา

    "แบบนี้ดีไหมเซฮุน ฮยองชอบสีแบบนี้อะ"
    ผมชี้ไปที่โซฟาแบบสามที่นั่งสีออกครีมๆหน่อย

    "แต่ผมว่าสีดำหรือสีอื่นดีกว่าไหม เราสองคนทำอะไรไม่ค่อยระวังใช้สีอ่อนๆคงไม่เหมาะ"
    เซฮุนออกความเห็น

    "อืมมงั้นแบบนี้สีเทาเป็นไง?"
    ผมถามอีกครั้ง

    "จัดไปครับคุณภรรยา"
    เซฮุนพูดจบก็เอามือมายีหัวผม

    "ผมมันยุ่งน้าาา"
    ผมบ่น

         หลังจากนั้นเราก็ไปดูเครื่องใช้ไฟฟ้าบางส่วน ทีวี ตู้เย็น หม้อหุงข้าวที่ไม่รู้จะซื้อไปทำไมเพราะไม่มีใครหุงเป็นแต่โน๊ตทางรายการเขียนมาว่าต้องมี พวกเราเลยต้องซื้อกัน
         ระหว่างที่เราเลือกเครื่องใช้ไฟฟ้ากันผมแอบคิดนะว่านี่เราแต่งงานกันจริงๆ มันดูหวานไปหมด แต่ชีวิตจริงผมกับเซฮุนเดินเลือกของกันก็ประมาณนี้แหละครับ ผมมักจะถามความคิดเห็นน้องเสมอว่าชอบไหม ถ้าไม่ชอบผมก็ไม่เอา เหมือนผมสปอยน้องเลยว่าไหมครับ? คงเพราะเซฮุนเป็นมักเน่ด้วยผมเลยตามใจ เพราะกับเมมเบอร์คนอื่นผมไม่ค่อยสปอยแบบนี้หรอก
         ตอนนี้ผมกับเซฮุนก็เดินมาถึงโซนของใช้แล้วครับ มาเลือกดูของจำเป็นกันหน่อย พวกผ้าปูที่นอน หมอน หรือสลิปเปอร์ ทางทีมงานบอกว่าให้เลือกแค่พอถ่ายทำแล้วที่เหลือทางทีมงานจะมาเติมของให้ทีหลัง ส่วนเรื่องนอนที่หอใหม่ต้องรอดูทางห้างว่าจะจัดส่งของให้ได้วันนี้เลยไหม ถ้าได้พวกผมก็ต้องนอนที่เรือนหอใหม่นี่เลย ถ้าไม่ได้ก็ต้องเป็นพรุ่งนี้

    "ฮยองสลิปเปอร์นี้เหมาะกับฮยองเลยอะ"
    เสียงเซฮุนดังขึ้นมาจากข้างๆทำให้ผมต้องออกจากความคิด

    "หูยยยหวานไป๊"
    ผมบอกพร้อมหยิบสลิปเปอร์ในมือเซฮุนมาเพื่อที่จะลอง

    "หวานอะไรเหมาะกับฮยองจะตาย"
    แต่เซฮุนกับก้มลงไปนั่งยองๆกับพื้นพร้อมใส่รองเท้าให้ผมลอง

    "เซฮุนนาลุกมาเถอะ"
    ผมเขินเกินกว่าจะยืนเฉยๆได้ ปกติไม่เห็นทำแบบนี้เลย.. อย่างงี้มันเขินนะ

    "ใส่ได้พอดีเลย"
    แต่เหมือนเซฮุนจะไม่ฟังเสียงผมเลยสักนิดกับ กับบอกว่ารองเท้าพอดีกับเท้าผม ผมเลยก้มมองลงดูสลิปเปอร์สีชมพูดแสนหวาน อืมม จะว่าไปก็น่ารักดีนะ

    "งั้นเอาคู่นี้ก็ได้แต่เซฮุนต้องใส่สีฟ้าคู่กับฮยองนะ"
    ผมถอดสลิปเปอร์แล้วเปลี่ยนกับเป็นรองเท้าตัวเองอย่างรวดเร็ว เพราะกลัวเซฮุนจะมาใส่ให้อีก แล้ววิ่งไปหยิบสีฟ้าที่เป็นแบบเหมือนผมไซส์เซฮุนมาคู่นึง

    "ไหน ขอผมลองหน่อย"
    ผมวางรองเท้าไว้ที่พื้น

    "พอดีไหมๆ"
    ผมถาม

    "พอดีเลยครับ รู้ใจดีจริงๆ"
    เซฮุนพูดแล้วก็ก้มหยิบรองเท้ามาใส่รถเข็น

    "ไปเลือกผ้าปูกันต่อนะ"
    แล้วผมก็เดินนำไปยังแผนกเครื่องนอน ส่วนเซฮุนก็เข็นรถเข็นตามผมมา

         เราใช้เวลาไปสักพักใหญ่ๆกว่าจะเลือกของกันเสร็จ นี่แค่แต่งงานปลอมๆนะครับยังเหนื่อยขนาดนี้แล้วถ้าแต่งงานกันจริงๆจะเหนื่อยขนาดไหนเนี้ย ผมละคิดภาพไม่ออกเลย
         ตอนแรกที่พีดีบอกจะให้เข้าหอเลยก็แอบงงเหมือนกัน เพราะถ้าได้ดูเวอร์ชั่นปกติจะต้องแต่งงานก่อน ด้วยความสงสัยเจ้ามักเน่ก็เลยไปถามเลยได้คำตอบว่า คนเกาหลียังไม่ยอมรับเรื่องเพศเดียวกันแต่งงาน ก็เลยต้องตัดส่วนนั้นไป และเติมเต็มส่วนที่ขาดหายไปแทน
         ตอนนี้ผมกับเซฮุนก็กลับมาที่เรือนหอแล้วครับ เขินปากจังที่ต้องเรียกว่าเรือนหอ ต่อจากนี้ขอผมเรียกมันว่าบ้านแล้วกันง่ายดี โชคดีของเราสองคนจริงๆครับที่วันนี้เฟอร์นิเจอร์สามารถมาส่งให้ได้ ตอนนี้เราเลยต้องรีบกลับมานั่งรอที่บ้านเพื่อรอเฟอร์นิเจอร์มาส่ง ผมว่าวันนี้กว่าจะเลิกกองมีดึกแน่ๆ

    "จุนมยอนนี่ฮยอง มาจัดของเข้าที่ก่อนดีไหม?"
    พอเข้าห้องมาผมก็เลือกที่จะไปนั่งกับพื้นกลางห้องเพราะเหนื่อยมาก แต่เจ้ามักเน่หรือสามีจำแลงของผมก็ดันเรียกขึ้นมา

    "ได้สิ เซฮุนอยากเริ่มจากตรงไหนละ?" 
    แต่ถึงแม้เหนื่อยแค่ไหนก็ต้องยิ้มรับครับ เพราะทั้งไมค์ทั้งกล้องยังคงทำงานอยู่

    "เริ่มจากห้องนอนดีไหม?"
    เซฮุนเสนอ

    "ก็ดีนะ"
    ถึงแม้เตียงและเฟอร์นิเจอร์ยังไม่มาส่ง แต่เราก็มีขนมาเองบ้างบางส่วนพวกชั้นวางของหรือลิ้นชักข้างเตียง

    "แล้วจะหันเตียงไปทางไหนดี?"
    พอเข้ามาในห้องก็ต้องวางตำแหน่งทิศทางของเตียงก่อนคร่าวๆเพื่อที่จะได้วางชั้นวางของได้

    "เอาแบบนี้ดีไหม..."
    ผมอธิบายไปพร้อมลากลิ้นชักบางส่วนให้อยู่ในที่ ที่ควรอยู่

    "มาๆผมยกเองฮยองแค่ชี้พอว่าจะให้ผมวางตรงไหน"
    ผมที่กำลังจะยกตู้ข้างเตียงขึ้นก็ต้องวางลง เพราะเซฮุนมาขอยกไปเอง

    "เขยิบซ้ายอีกหน่อยๆ"
    ผมพูดแล้วชี้ไปด้านซ้ายของกำแพง

    "ตรงนี้นะ แล้วลิ้นชักนี่เอาไง?"

    "เอาไว้ห้องนั่งเล่นดีไหม? ไว้เก็บของใช้"
    ผมเสนอ

    "อืมม..แต่ผมว่าลิ้นชักแบบนี้เก็บไว้ใส่พวกกางเกงนอนกับชุดนอนไม่ดีกว่าหรอครับ?"
    จะว่าไปก็ดีนะ เพราะที่หอพักเราก็จะมีลิ้นชักสำหรับใส่ชุดนอนอยู่

    "งั้นก็ได้ วางไว้ตรงนั้นเลย"
    ผมชี้ไปที่ข้างประตู

    "โอเคเรียบร้อย เหลือเตียงมา"

    "ปะ ห้องครัวต่อ"

    ติ๊งต่อง!

    "โอ๊ะ สงสัยเฟอร์นิเจอร์มาส่งแล้วแน่เลย"
    เซฮุนพูดแล้วก็วิ่งออกไปเปิดประตู

    "ใช่จริงๆด้วย"
    ผมเดินตามเซฮุนออกไปดู

    "ฮยองไปจัดของในครัวเถอะครับ เดี๋ยวเรื่องเฟอร์นิเจอร์ผมจัดการบอกเจ้าหน้าที่เอง"
    เซฮุนบอก

    "จะไหวหรอ?"
    ผมถามอย่างเป็นห่วง

    "นี่ใครครับ สามีจุนมยอนฮยองนะ แค่นี้สบาย"
    เซฮุนพูดแล้วก็เสยผมตัวเองไปหนึ่งที

    "ไอ้บ้า เขินะเว้ย"










         โอยเหนื่อยชะมัด กว่าจะบอกเจ้าหน้าที่ให้วางเฟอร์นิเจอร์เสร็จก็ปาไปเกือบเย็นแล้วครับ ไหนเราจะต้องจัดบ้านอีก ตอนนี้ส่วนของห้องครัวและโต๊ะกินข้าวเรียบร้อยแล้ว ห้องน้ำก็เรียบร้อยแล้ว จะเหลือก็แต่ห้องนั่งเล่น กับห้องนอน จุนมยอนฮยองกำลังเห่อกับตู้โชว์อยู่เพราะเจ้าตัวน่ะขนฟิคเกอร์สตาร์วอร์มาเต็มเลย ตอนนี้ก็เลยนั่งเห่อจัดอยู่ ส่วนผมก็นั่งอยู่บนโซฟามองอยู่ห่างๆแหละครับ เจ้าตัวไม่ให้เข้าไปยุ่ง หวงกว่ากระเป๋าก็ฟิคเกอร์สตาร์วอร์เนี้ยแหละ

    "จุนมยอนฮยอง ให้ผมช่วยไหม"
    ผมขยับตัวเองลงไปนั่งกับพื้นให้เสมอกับลีดเดอร์ตัวเล็ก

    "อยากช่วยหรอ"
    จุนมยอนฮยองหันมาถาม

    "ครับผม"
    ผมเขยิบเข้าไปนั่งซ้อนข้างหลังตัวจุนมยอนฮยองและเอาคางเกยไหล่คนตัวเล็ก

    "งื้ออ ก็ได้"
    สุดท้ายจุนมยอนฮยองก็ยอมให้ผมช่วยจัดจนได้ ลองถ้าไม่มีกล้องถ่ายสิครับ ไม่มีทางหรอก

    "เซฮุนยกเซ็ทนี้ไปวางบนชั้นบนสุดให้หน่อยสิ"
    จุนมยอนฮยองหยิบฟิคเกอร์กล่องหนึ่งออกมาจากลังที่ขนมาจากหอพัก แล้วยื่นให้ผม

    "ได้ๆ"
    ผมรับมันมาแล้วลุกขึ้นยืนไปวางชั้นบนตามคำสั่งของคนตัวเล็ก

    "อันนี้ด้วยวางชั้นสองนะ วางดีดีละ อย่าให้ตกนะ"
    จุนมยอนฮยองส่งฟิคเกอร์ตามขึ้นมาอีกกล่อง

    "คร้าบคุณภรรยา ว่าแต่เอาไลท์เซเบอร์มาทำไมเนี้ย?"
    ผมรับกล่องมาจากมือจุนมยอนฮยองแล้วก็ถามขึ้น เพราะผมเห็นแท่งยาวๆอยู่ข้างๆกล่อง

    "อ่อ อันนี้เอามาไว้ตีนายตอนไม่ฟังฮยองไง"
    จุนมยอนฮยองตอบแล้วยิ้ม ผมแพ้รอยยิ้มแบบนี้จัง ยอมให้ตีสักร้อยทีเลยอะ

    "ใจร้ายจริงๆฮยองเนี้ย อะเสร็จแล้วมีอีกไหมครับ?"

    "อะ กล่องสุดท้ายอันนี้แพงนะวางดีดี"
    จุนมยอนฮยองยื่นกล่องมาให้ผม ผมมองแล้วก็สงสัยมันจะแพงแค่ไหนเชียวตัวตุ๊กตาแค่เล็ก

    "ค้าบ ภรรยาเสร็จแล้วไปจัดห้องนอนต่อเถอะ"
    ผมดึงมือจุนมยอนฮยองขึ้นมาจับผมฉุดให้ลุกขึ้นยืน

    พรึ่บ!

         อย่างกับในละครน้ำเน่าครับ เพราะด้วยแรงผมเยอะทำให้ดึงจุนมยอนขึ้นมาแล้วสะดุดมาในอ้อมแขนผม ท่าเราตอนนี้เลยกลายเป็นว่าจุนมยอนฮยองกำลังยืนซุกอกผมอยู่ พร้อมจับมือผมไว้อีก กำไรเห็นๆเลยรายการนี้ หึหึ

    "ย่าห์ ปล่อยฮยองนะ"
    จุนมยอนฮยองที่ซบกับอกผมพูดขึ้นเบาๆ 

    "ผมเปล่ารั้งฮยองไว้นะ ฮยองไม่ยอมออกไปเองมากกว่า"
    ผมแซว แต่มันก็เคือเรื่องจริงครับ ผมแค่จับมือฮยองไว้ ไม่ได้รั้งไรไว้เลย

    "ไอ้บ้า เขินเลย"
    จุนมยอนฮยองสะบัดมือผม แล้วก็เดินเข้าห้องนอนไปเลย 

    "คัท!"
    เสียงผู้กำกับดังขึ้น ทำให้จุนมยอนฮยองที่เดินเข้าห้องนอนไปต้องเดินออกมา นี่เป็นการสั่งคัทครั้งแรกเลยครับถ่ายตั้งแต่หน้าบริษัทผมยันตอนนี้เพิ่งสั่งคัท โหดปะละ

    "เดี๋ยวถ่ายฉากห้องดำ แล้วก็เลิกกองได้เลยครับ"
    พีดีพูดขึ้นมาหลังจากผู้กำกับสั่งคัท

    "ผมไปอัดก่อนนะ อย่าแอบฟังละ"
    ผมหันไปบอกกับจุนมยอนฮยองที่ยืนอยู่หน้าห้องนอน

    "ตามสบาย"







    SH PART

    Q : หลังจากเห็นเรือนหอแล้วรู้สึกยังไง?

    A : ชอบครับ ฮ่าๆ มันดูสวยกว่าหอพักของเราซะอีก เรือนหอในฝันของผมก็ประมาณนี้แหละครับ ไม่ต้องใหญ่มาก แต่เอาเข้าจริงๆ ที่ผมชอบที่นี่ก็เพราะมีจุนมยอนฮยองอยู่ด้วยครับ


    Q : แล้วทำไมอยู่ๆคุณถึงก้มลงไปสวมรองเท้าให้ภรรยาแบบนั้้น

    A : อืมม..ไม่รู้สิครับ ผมแค่คิดว่านั้นคือสิ่งที่สามีควรทำให้ภรรยานะ ฮ่าๆ หรือไม่จริง? 


    Q : ทำไมตอนเฟอร์นิเจอร์มาส่งถึงไม่ให้ภรรยาช่วย?

    A : เอาความจริงปะครับ? ถ้าจุนมยอนฮยองมาช่วยเนี้ยจะเสร็จช้าลงไปอีกสองเท่า ฮ่าๆ นี่ออนแอร์เมื่อไหร่บอกนะครับผมจะได้หลบฝ่ามือจุนมยอนฮยองทัน ล้อเล่นน่ะครับผมไม่อยากให้ภรรยาผมเหนื่อย แค่วันนี้เขาไปเดินเลือกซื้อของนานแบบนั้นก็คงเหนื่อยแล้ว เรื่องแค่นี้สามีอย่างผมทำให้ได้สบายอยู่แล้ว



    Q : ตอนดึงภรรยาให้ลุกขึ้นจากพื้น ตั้งใจให้เป็นแบบนั้น?

    A : ถ้าหมายถึงตอนที่จุนมยอนเสียหลักล้มมาทางผมน่ะหรอ? ไม่ได้ตั้งใจครับ ฮ่าๆ ด้วยความที่ภรรยาผมตัวเล็กและผมก็แรงเยอะเลยทำให้เกิดการสกินชิพแบบนั้นขึ้น แต่มันก็เป็นฉากที่น่ารักดีไม่ใช่หรอครับ? ผมชอบนะภรรยาผมตัวหอมมากเลยละ




    JM PART

    Q : หลังจากเห็นเรือนหอแล้วรู้สึกยังไง?

    A : ว้าวว มันสวยกว่าห้องเราที่หอพักอีก ฮ่าๆ ผมชอบนะครับที่หอมันสวยแบบนี้ แต่ก็แอบรู้สึกแย่เพราะเดี๋ยวมันก็ต้องรกถ้าผมอยู่ ผมไม่ค่อยทำความสะอาดห้องน่ะครับ เซฮุนก็มักจะบ่นผมอยู่บ่อยๆ เซฮุนนาฮยองจะพยายามทำความสะอาดห้องให้มากขึ้นนะ ฮ่าๆ


    Q : รู้สึกยังไงตอนสามีก้มลงไปสวมรองเท้าให้แบบนั้น

    A : ให้ตายเถอะครับ ตลอดเวลาที่เราอยู่ด้วยกันจะสิบปี เขาไม่เคยทำแบบนั้นให้ผมเลย แต่ผมก็รู้สึกขอบคุณเขานะครับ เป็นครั้งแรกที่ได้เห็นเซฮุนในมุมแบบนี้เลย ทำให้ทั้งตกใจและตื่นเต้นไปพร้อมกัย ผมชอบครับกับสามีในลุคแบบนี้ 


    Q : ตอนสามีคุณแย่งตู้ออกไปจากมือคุณเพื่อยกมันเอง คุณรู้สึกยังไงกัน?

    A : อืมม..ถ้าเวลาเราทำงานกันในวงผมก็ยังต้องให้ความช่วยเหลือเขาบ้าง แต่พอเป็นรายการนี้เห็นทีผมต้องเป็นฝ่ายของความช่วยเหลือจากเขาแล้วครับ เพราะว่าเขาคือสามีของผมไง ฝากตัวด้วยนะคุณสามี








    #ฟิคคู่รักซักล้าง







    ยังไม่ได้แก้คำผิดนะคะ








    TALK
    ยังขอยืนยันคำเดิมว่าแต่งยากจริงๆ ตอนแรกๆอาจจะไม่ค่อยสนุกนะคะ ทนๆอ่านไปก่อน
    เดี๋ยวกลางๆเรื่องจะเข้าที่เอง เรื่องนี้ไม่มีดราม่านะยืนยันเลย! ฮ่าๆ
    จะพยายามมาให้บ่อย เม้นให้กำลังใจเราหน่อยน้าาา เม้นเยอะอัพไวเลยสัญญา
    แทคฟิคในทวิตกันได้นะคะ อ่านทุกอันๆๆ #ฟิคคู่รักซักล้าง
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×