ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    (END) ONCE AGAIN (HUNHO)

    ลำดับตอนที่ #3 : 3

    • อัปเดตล่าสุด 28 มี.ค. 60




    3
    จุดเริ่มต้นของความวุ่นวาย หนึ่ง




    1อาทิตย์ผ่านไป
    ค่ายเพลงOH ณ กรุงโซล ประเทศเกาหลีใต้ 


    "บอสคะ เดี๋ยวอีก4เดือน จะมีการฝึกงานของนักศึกษาปี4 ทางมหาลัยเขาขอให้เด็กบางส่วนมาฝึกที่นี่ค่ะ" เลขาประจำหน้าห้องทำงานผมเดินเอาเอกสารเข้ามาให้ นี่มันวันอาทิตย์ชัดๆแต่ผมก็ยังคงต้องมาทำงาน เฮ้อ

    "ใช่มหาลัยของคุณอาที่เคยเข้ามาคุยก่อนหน้านี้ไหม? ถ้าไม่ใช่ขอไม่รับนะ ตอนนี้บริษัทเราวุ่นวายพอแล้ว" 
         ก่อนหน้านี้มีคุณอาลูกพี่ลูกน้องของพ่อผม เข้ามาคุยว่าอยากให้คณะดนตรีในมหาลัยมีค่ายเพลงยักษ์ไว้รองรับนักศึกษาไว้ฝึกงานจะได้มีหน้ามีตา จริงๆปกติแล้วค่ายผมไม่รับเด็กฝึกงานครับมันวุ่นวายมาก แต่ถ้าเขาเป็นญาติก็ต้องให้ความช่วยเหลือใช่ไหมละ แม้ใจจริงจะไม่อยากก็เถอะผมกำลังจะขยับขยายกิจการนิดหน่อย ตอนนี้กำลังดิวเรื่องเปิดออดิชั่นทั่วโลก แม้ฟังดูง่ายแต่วิธีการไม่ใช่ง่ายๆเลยครับ

    "ใช่ค่ะ นักศึกษามหาลัยโซล เอกโปรดิวเซอร์" เลขาพูดจบก็ยื่นเอกสารมาให้ตรงหน้า 

    "มี5คน?" ตอนแรกคิดว่าจะมีเยอะแหะแต่แค่นี้ก็ดีละ

    "ใช่ค่ะ ทางนั้นเขาประสานงานมาว่า ทั้งเอกมีแค่50คนจะกระจายไปตามค่ายเพลงต่างๆ เขาจะส่งรายชื่อนักศึกษามาให้ทางเราอีกที"

    "โอเค" แล้วผมก็เซ็นอนุมัติลงไป

    "อ่ออีกเรื่องค่ะบอส วันนี้บอสมีดูโชว์เคสของเด็กฝึกนะค่ะ" 

    "หืม?" ผมงงนิดหน่อย 

    "ที่จะเลือกมาเดบิวต์นะค่ะ" อย่างนี้นี่เอง 
         ขอผมอธิบายการทำงานในค่ายเพลงของผมหน่อย ผมปกครองศิลปินในค่ายให้เป็นครอบครัวครับ ไม่ต้องมาเรียกผมประธานเหมือนค่ายเพลงอื่นไม่ต้องเกร็งเวลานั่งประชุมกัน ส่วนใหญ่ศิลปินทุกๆคนเลยจะเรียกผมว่าเฮียฮุน และพนักงานในค่ายจะเรียกผมว่าบอส และเพราะการที่ดูแลศิลปินรวมไปถึงพนักงานในค่ายให้เหมือนครอบครัว เลยทำให้ผมค่อนข้างสนิทกับทุกคนในบริษัท รวมถึงการเลือกศิลปินและออดิชั่นผมมักจะลงไปเลือกด้วยตัวเองทั้งหมดและผมจำชื่อศิลปินเด็กฝึกรวมไปถึงพนักงานได้หมดเลยผมใส่ใจทุกคนครับ เราพูดคุยแสดงความคิดเห็นกันเหมือนเพื่อนพี่น้อง เพราะเหตุนี้เลยทำให้ค่ายเพลงของผมติดอันดับหนึ่งของเกาหลีที่คนอยากมาออดิชั่น และอันดับหนึ่งที่ประธานค่ายเป็นกันเอง แต่ก็มีอย่างหนึ่งที่คนในค่ายผมและพนักงานไม่รู้คือ เรื่องที่ผมแต่งงาน ใช่ครับตอนผมแต่งงานกับน้องจุนนี่เรื่องเงียบมากๆ ไม่มีใครรู้เลยและผมก็ไม่เคยพาน้องจุนมาที่บริษัทด้วย

    "โอเคๆฉันลืมไปสนิทเลย งั้นฝากไปบอกเด็กๆด้วยนะว่าเดี๋ยวโชว์เสร็จฉันพาไปเลี้ยงเนื้อย่าง" 

    "รับทราบค่ะ" แล้วเลขาก็เดินออกไป

    ~เสียงเรียกเข้า~
    [หูกาง]

    "ว่าไงมึง" 

    (ทำอะไรอยู่ครับ พี่ฮุน) มันเลียนแบบเสียงน้องจุนอีกแล้ว

    "แค่นี้นะ" 

    (เฮ้ยๆ โหไรวะแซวนิดเดียวเอง)

    "เออมีไร"

    (เป็นไงน้องแบคเด็ดไหม)

    "อืมม ก็ใช้ได้นะขาวดี ฮ่าๆ" 

    (สานต่อปะวะ)

    "ก็ดูๆกันไป น้องเขาก็ดี ไม่งี่เง่าไม่เรียกร้อง" หลังจากคืนนั้นในผับเราก็ไปจบกันที่โรงแรม พอวันต่อมาน้องแบคก็โทรมาหาผม ช่วงนี้ผมไม่มีใครเหงาๆก็เลยคิดว่าศึกษาดูใจไปคงไม่ผิดเท่าไหร่ 
         นี่ก็ผ่านมาเกือบเดือนแล้วครับที่หย่ากับจุนมยอน ชีวิตผมดีขึ้นเพราะไม่ต้องเจอคำถามบ้าๆนั่นทุกวัน แถมมีเวลาทุ่มให้งานอย่างเต็มที่อีกด้วย แต่ถ้าถามถึงความคิดถึงหรือเหงาตอบเลยว่ามีครับ แต่ผมว่าเราคงเข้ากันไม่ได้จริงๆแหละ หลังๆเราทะเลาะกันบ่อยจนไม่เหลือความรักอีกเลย ไหนจะเรื่องทำลายข้างของที่เขากีดกระเป๋าผมนั่นไม่ใช่ครั้งแรกครับ ก่อนหน้านี้ผมปาMACBOOKของผมจนแตกละเอียด แล้วงานร้อยกว่าล้านวอนอยู่ในนั้น พูดแล้วก็แค้น ไอ้เด็กงี่เง่า หย่าไปได้ก็ดี

    (เออดีดี เพื่อนมีความสุขกูก็ดีใจ)

    "โทรมาถามแค่นี้?"

    (เปล่าจะชวนไปแดกเหล้า)

    "กูไม่ว่างวะ มีดูเด็กโชว์เคส"

    (วันอาทิตย์เนี้ยนะ? เออๆงั้นไว้วันอื่นก็ได้แค่นี้นะ) 

    ~เสียงเรียกเข้า~
    [MAMA] ให้ตายวันนี้จะได้ทำงานไหมเนี้ย

    "ครับม๊า"

    (ลูกอยู่กับน้องจุนหรือเปล่า ม๊าโทรหาน้องจุนไม่ติดอะ ม๊าอยากคุยกับน้องจุน) 
    หน้าผมซีดเลยพอม๊าพูดถึงน้องจุน ป๊ากับม๊าผมยังไม่มีใครรู้เลยครับว่าหย่ากัน ถ้ารู้นะบ้านแตกแน่ๆ จริงๆผมก็โตพอที่จะไม่ต้องบอกเรื่องเล็กๆน้อยๆพวกนี้แล้วนะ แต่แน่นอนสำหรับหม่าม้ามันไม่ใช่เลยสำหรับป๊ากับม๊า ผมยังคงเป็นเด็กในสายตาพวกท่าน

    "โถ่ม๊า ผมไม่ได้ว่างนะ ผมทำงานอยู่" ผมบ่น

    (ม๊าก็แค่โทรมาถามเอง บ่นเป็นคนแก่ไปได้) จุกครับ วันนั้นโดนจุนมยอนด่าไอ้แก่ไปนี่เสียเซลฟ์ไปหลายวัน
     
    "30แล้วครับ ก็แก่แล้วไหมละ" ผมย้อน

    (เคๆงั้นก็แค่นี้แหละ)

    "ครับ" 

         พอวางสายเสร็จก็หันกลับมาสนใจเอกสารบนโต๊ะต่อ เรื่องโชว์เคสวันนี้ทำแบบแอบเครียดนิดนึง เพราะความฝันของเด็กฝึกคือการเดบิวต์ใช่ไหมละครับ ตอนนี้มีเด็กฝึกที่พร้อมจะเดบิวต์แล้วสองวง แต่ผมต้องเลือกแค่วงเดียว หรือผมจะหาวิธียัดไปสองวงเลยดีไหม? ผมค่อนข้างผูกพันกับเด็กสองกลุ่มนี้มากๆเลยครับ เห็นกันตั้งแต่พ่อแม่แต่ละคนจูงมือพามาออดิชั่น เฮ้ออ หนักใจจัง













    MASS CLUB

    "นึกยังไงวันนี้มาคลับนี้หะ น้องรัก แถมพรุ่งนี้จะเปิดเทอมยังกล้ามาเที่ยวอีกนะ" มินซอกฮยองตะโกนแข่งกับเสียงเพลงในคลับถามผม ใช่วันนี้คือวันอาทิตย์แล้วพรุ่งนี้ผมก็เปิดเทอม ใจกล้าปะล้าาา

    "ก็เบื่อที่เก่าๆนิ มินซอกฮยองซื้อเบียร์ให้ผมหน่อยสิ น้าๆๆ" ผมอ้อนมินซอกฮยอง

    "เบื่อจริงๆทำไมไม่ไปโซนวีไอพีเนี้ย มายืนเบียดกันข้างล่างแบบนี้ไม่โอเคเลย" มินซอกฮยองบ่น

    "มันเต้นไม่สนุกนิ" ผมตอบไป โซนวีไอพีส่วนคัวสะดวก็จริงครับแต่เวลาเต้นน่ะไม่มันส์จริงๆ

    "หึย" แล้วมินซอกฮยองก็เดินไปซื้อเบียร์ให้ผมที่บาร์

    "ขอโทษครับ" ผมหันไปขอโทษผู้ชายด้านหลัง เมื่อกี้เผลอหยีบเท้าเขาไป

    "โอ๊ะ คุณ" เสียงนั่นทำให้ผมหันไปมอง

    "นั่นคุณที่ผมเข็นรถไปโดนเท้าอาทิตย์ที่แล้วนิ" ผมหันไปพูดกับเขา ผมจำได้ ลักยิ้มนั่น ใจสั่นชะมัด

    "ฮ่าๆใช่ครับ โลกกลมจังเลยนะ" พอมายืนใกล้ๆแบบนี้ ผู้ชายคนนี้ตัวสูงกว่าผมมากเลยทีเดียว

    "เบียร์มาแล้ว อ้าวคุณวันนั้นนิ" มินซอกฮยองเดินมายืนข้างๆผมพอดีแล้วหันไปทักผู้ชายตัวสูงวันนั้น

    "คุณ?" ผู้ชายคนนั้นท่าทางจะงงกับท่าทีของมินซอกฮยอง

    "อ่อผมเป็นพี่ชายเขาน่ะครับ" มินซอกฮยองตอบผู้ชายตัวสูงคนนั้น

    "อ่อครับ" ผู้ชายคนนั้นตอบมาแล้วยิ้ม ผมชอบเวลาเขายิ้มจัง ลักยิ้มนั่นจะดูลึกลงไปอีก น่ารักจัง

    "คนนี้หล่อนะเอาดิ จีบเลยๆ ไหนๆก็โสดแล้ว" มินซอกฮยองหันมากระซิบผม มาองมาเอาอะไรเนี้ยทะลึ่ง(?) ผมรู้นะว่าฮยองเป็นห่วงผมอยากให้มีแฟนจะได้ลืมพี่ฮุนแต่ทำแบบนี้ผม ... เขิน

    "บ้า เดี๋ยวมินซอกฮยองจะไปไหน" ผมรั้งแขนมินซอกฮยองไว้เมื่อเห็นว่ากำลังจะเดินออกไปอีกทาง
     
    "ผมฝากจุนมยอนน้องชายผมด้วยนะ" มินซอกฮยองไม่ตอบคำถามผม แต่หันไปพูดกับผู้ชายตัวสูงคนนั้นแทนแล้วก็เดินออกจากตรงนี้ไปเลย เดี๋ยวเถอะฮยอง นี่น้องนะโว้ยยย ทิ้งกันแบบนี้ได้ไง

    "แหะๆ สงสัยพี่ชายผมจะมีธุระ" ผมหันไปพูดกับคนตัวสูงคนนั้น

    "ฮ่าๆนั่นสิครับ คุณจุนมยอน" 

    "ว่าแต่คุณชื่ออะไรเหรอครับ?" ผมหันไปถาม ไหนๆฮยองจะเปิดทางให้ผมแบบนี้แล้ว จัดสักหน่อยก็ดี เหงาๆเบื่อๆเหมือนกัน

    "เลย์ครับ" 

    "ท่าทางผมจะเป็นน้องแฮะ ผมจุนมยอนอายุ23ครับ" ผมหันไปบอกด้วยรอยยิ้ม

    "ฮ่าๆ ผมแก่กว่าน้องจุนมยอนเยอะเลย เอาเป็นว่าเรียกว่าพี่เลย์ก็ได้เนอะ" พี่เลย์หันมายิ้มให้ผมอีกหนึ่งที

    "งั้นพี่เลย์ ก็เรียกผมแค่น้องจุนก็พอครับ" พูดจบก็ยกขวดเบียร์ขึ้นมา เป็นเชิงบอกว่าให้ชน

    "ยินดีที่ได้รู้จักครับน้องจุน" พูดจบพี่เลย์ก็ยกเบียร์ขึ้นดื่ม

    "เช่นกันครับพี่เลย์" 

    "น้องจุนจะขึ้นไปอยู่โซนวีกับพี่ไหม? พอดีพี่มากับญาติอยู่ข้างบนน่ะ" หลังจากนั้นก็เต้นกันไปได้สักพัก พี่เลย์ก็หันมาถามผม

    "ก็ได้ครับ" ยังไงอยู่ข้างล่างคงไม่สนุกแล้วในเมื่อมินซอกฮยองไม่อยู่

    "นี่ญาติพี่ครับ คริส คริสนี่น้องจุนมยอนพอดีบังเอิญเจอด้านล่าง" พอขึ้นมาก็เจอเพื่อนพี่เลย์นั่งอยู่ที่โซนวีไอพีคนนึงพอพี่เลย์แนะนำตัวเสร็จผมก็ก้มโค้งให้พี่ที่ชื่คริสทีนึง

    "สวัสดีครับน้องจุนมยอน" พี่คริส หันมายิ้มให้ผม 

    "สวัสดีครับพี่คริส" ผมทักกลับไปพร้อมลงไปนั่งข้างๆพี่เลย์

    "แฟนเลย์หรอ?" พี่คริสหันมาถามผม

    "บ้ามึงก็พูดไป กูเพิ่งเจอน้องเขา" พี่เลย์หันไปเอ็ดพี่คริส

    "อ้าวหรอขอโทษที" 

    "ฮ่าๆไม่เป็นไรครับ" ผมบอกยิ้มๆ นี่ผมใจง่ายไปหรือเปล่าเนี้ยอยู่ๆก็ขึ้นมานั่งกับคนที่เพิ่งรู้จัก

    "น้องจุนจะเบื่อหรือเปล่าครับเนี้ย ขึ้นมานั่งกับพวกพี่แบบนี้" พี่เลย์หันมาถาม ผมว่าเขาสุภาพบุรุษมากเลยนะ ถ้าเป็นผู้ชายสายเที่ยวไม่มีเว้นระยะห่างระหว่างนั่งแน่ๆ นี่นั่งห่างผมตั้งช่วงตัวแน่ะ

    "ไม่ครับๆ"

    "งั้นมาชนกันดีกว่า" พี่คริสพูดขึ้นมาพร้อมยกแก้วชน ผมก็ได้แต่เอาเบียร์ขวดที่มินซอกซื้อให้เมื่อกี้มาชน

    "น้องจุนอยากดื่มเป็นเหล้าไหม เบียร์น้องจุนจะหมดแล้วนะ" พี่เลย์หันมาถาม

    "ก็ได้ครับ"

         แล้วหลังจากนั้นผมก็กลายเป็นดื่มสองกษัตริย์ทันที เมาไม่ใช่เล่นเลยนะ ผมยิ่งคออ่อนๆอยู่พวกพี่เขาสองคนดื่มกันเก่งมากเลยแก้วชนแก้วตลอด แล้วผมเมาขนาดนี้จะกลับบ้านยังไงเนี้ย  งื้ออ ใช่มีคนเดียวที่ช่วยผมได้ พี่ฮุน..

    "พี่ฮุนน้องจุนอยากกลับบ้าน งื้อ" ผมหันไปอ้อนคนข้างๆ

    "น้องจุนครับพี่ไม่ใช่ อื้อ" ทำไมวันนี้ปากพี่ฮุนไม่นิ่มเหมือนเดิมน้าา

    "พี่ฮุนกลับบ้านกันนะๆๆ" ผมยังคงอ้อนคนข้างๆ

    "มึงพาน้องเขาไปส่งเถอะวะท่าจะเมาแล้ว" ผมได้ยินเสียงอีกคนพูด

    "เออๆ แล้วกูจะไปส่งไงวะเนี้ย" แล้วผมก็รู้สึกเหมือนตัวลอยขึ้นจากพื้น หลังจากนั้นสติก็ดับลง..





    "น้องจุนครับ บ้านอยู่ที่ไหน?" จริงๆเลยนานๆจะมาเกาหลีทั้งทีดันมาเจออะไรแบบนี้ คนตัวสูงคิดในใจ ถามว่าเขาชอบคนตัวเล็กที่อุ้มอยู่นี่ไหม ก็ตอบได้แค่น่ารัก..แล้วปากน้องเขาก็นุ่มมากเช่นกัน

    "พี่ฮุนน้องจุนอยากกลับบ้าน" แต่แล้วเสียงคนตัวเล็กที่อุ้มอยู่ก็พูดขึ้นมาอีก นี่เขาบอกไม่รู้กี่รอบแล้วว่าไม่ได้ชื่อฮุน แต่คนตัวเล็กไม่ฟังเขาเลย

    "น้องจุนครับ มีเบอร์พี่ชายในโทรศัพท์ไหม" คนตัวสูงพยายามจะหาทางส่งคนตัวเล็กกลับบ้าน แต่คนตัวเล็กนั้นไม่ให้ความร่วมมือเลย เขาเลยวางจุนมยอนลงที่เก้าอี้หน้าคลับเพื่อที่จะล้วงหาโทรศัพท์ พอเอาออกมาแบตก็ดันหมด นี่มันซวยจริงๆ คนตัวสูงคิด เขารู้ตั้งแต่ในคลับที่พี่ชายคนตัวเล็กพูดแล้วว่าฝากน้องชาย แต่ก็ไม่คิดว่าจะทิ้งน้องชายจริงๆ 

    "พี่ฮุนพาน้องจุนกลับบ้านน้า น้องจุนคิดถึงพี่ฮุนจะแย่แล้ว" แล้วคนเป็นน้องก็คว้าคอคนตัวสูงเขาไปจูบอีกรอบ

    "งั้นก็ช่วยไม่ได้นะ" เพราะเขาเองก็พยายามทุกวิธีแล้วเหมือนกัน


















    น้องจุน!!ทำไมเมาแล้วเป็นแบบนี้ลูก
    เวลาเมาเราจะพูดในสิ่งที่คิดแต่ไม่เคยได้พูด 
    เราเองก็เป็นหนึ่งในนั้น ฮ่าๆ
    แล้วพี่ฮุนจะรู้ไหมเมีย(เก่า)ตัวเองโดนคนอื่นหิ้วเนี้ย
    งื้ออ อีกสองตอนเดี๋ยวให้มาเจอกันแล้ว

    ส่วนเรื่องรักปลอมๆไว้ก่อนเนอะยังไม่อยากให้จบ
    ฮ่าาาาาาๆๆ


    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×