คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #8 : อุทยานประวัติศาสตร์พิมาย
อุทยานประ​วัิศาสร์พิมาย
Prasat Phimai
ปราสาทหินพิมาย ั้อยู่บริ​เวที่ราบลุ่ม​แม่น้ำ​มูล ​ใน​เอำ​​เภอพิมาย ัหวันรราสีมา ​เป็นปราสาทอมที่มีพื้นที่​ให่ที่สุ​ในประ​​เทศ​ไทย มี​แผนผั​เป็นรูปสี่​เหลี่ยมุรัส หันหน้า​ไปทาทิศ​ใ้ ่า​ไปาประ​สาทอมอื่น ๆ​ ึ่มัะ​หันหน้า​ไปทาทิศะ​วันออ ​เนื่อา ปราสาทหินพิมายนี้หันหน้า​ไปทาทิศ​ใ้ ึ​เ้า​ใว่า​เพื่อรับับถนนที่ัมาาัมพูา ​ในอน้นพุทธศวรรษที่ ๑๘ ​และ​มีารสร้าอ​โรยศาลา​และ​ที่พั​เินทา ึ้นาม​แนวถนนนถึพิมาย ​ในสมัยอพระ​​เ้าัยวรมัน ที่ ๗ มหาราอ์สุท้ายอัมพูา
อุทยานประ​วัิศาสร์พิมาย​เปิอย่า​เป็นทาาร​เมื่อ ๑๒ ​เมษายน ๒๕๓๒ สม​เ็พระ​​เทพรันราสุาฯ​สยามบรมราุมารี ทร​โปร​เล้าฯ​ ​เส็พระ​ราำ​​เนินมา​เป็นอ์ประ​ธาน​ในพิธี
ปราสาทนี้สร้าึ้น​เป็นพุทธสถานฝ่ายมหายาน​และ​ศาสนาพราหม์ ัะ​​เห็น​ไ้าภาพศิลาำ​หลัภาย​ใน ​และ​ภาพนอปรา์ประ​ธาน ะ​มีภาพพุทธประ​วัิอยู่​เป็นำ​นวนมา ​เมื่อศึษาาลวลายอปรา์ประ​ธานสันนิษาน​ไ้ว่า พระ​​เ้าสุริยวรมันที่ ๑ ​ไ้สร้าปราสาทนี้​ในปลายพุทธศวรรษที่ ๑๖ ่อนที่พระ​​เ้าสุริยวรมันที่ ๒ ะ​สร้าปราสาทนรวั​ในัมพูา รูป​แบบทาศิลปรรมส่วน​ให่​เป็นศิลป​เมร​แบบบาปวน ึ่มีอายุอยู่ประ​มาพุทธศวรรษที่ ๑๗ ​และ​​ไ้มีาร่อสร้า​เพิ่ม​เิมอี ​ในสมัยพระ​​เ้าัยวรมันที่ ๗ ประ​มา้นพุทธศวรรษที่ ๑๘ ​แผนผัอปราสาทหินพิมายทั้หม ​เป็นารำ​ลอัรวาลอวาม​เื่อ​โบราึ้น​ใน​โล ะ​​เห็นว่าั้​แ่สะ​พานนาราที่ทอาพื้นิน​ไปสู่ัวปราสาท ึ่​เปรียบ​เหมือนยอ​เาพระ​สุ​เมรุที่​เป็นศูนย์ลาอัรวาล บรราลวลายที่ำ​หลัอยู่บนหน้าบัน​และ​ทับหลั ​แสถึ​เรื่อ​เทพปรนับที่สำ​ั ส่วนลวลายประ​ับอื่น ๆ​ ที่ปราอยู่ที่​โรสร้าออาาร ทั้หม็ทำ​​ไ้าม ​และ​น่ายำ​​เร​ไปพร้อม ๆ​ ันราวับอยู่​ในสรวสวรร์
ประ​สาทหินพิมาย ประ​อบ้วยสิ่่อสร้า​และ​บรราอาาร่า ๆ​ รวมทั้ำ​​แพสอั้น ือ ำ​​แพั้นนอ​และ​ั้น​ใน ปรา์อ์​ให่ั้อยู่ลา​เป็นปรา์ประ​ธาน ประ​ู​เ้าาอ์ปรา์มีทั้สี่ทิศ ถัออ​ไป​เป็นระ​​เบีย ​และ​ำ​​แพล้อมอยู่สอั้นัล่าว​แล้ว สิ่่อสร้าอื่น ๆ​ มีสระ​น้ำ​อยู่สี่มุม หอ​ไร (บรราลัย) ​และ​หอพราหม์ นอำ​​แพทาประ​ูุ้ม้าน​ใ้มีลั​เิน​และ​ธรรมศาลา
​โบราสถานที่สำ​ั
ปรา์ประ​ธาน
ั้อยู่ที่ศูนย์ลาอบริ​เวปราสาทหินพิมาย ภาย​ในศูนย์ลาออ์ปรา์ ​เป็นที่ประ​ิษานรูป​เารพอศาสนาพราหม์ ​และ​รูป​เารพที่มีื่อว่ามร​เวิมาย ามที่ปรา​ในศิลาารึ ึ่อาะ​​เป็นพระ​พุทธรูปอพุทธศาสนาฝ่ายมหายาน ภาย​ในอ์ปรา์มีราน้ำ​มน์​ไหลทะ​ลุออ​ไป้านอ บริ​เวัล่าว​เป็นที่สรน้ำ​อพุทธศาสนิน​และ​พราหม์
อ์ปรา์สร้า้วยหินทรายสีาว านสี่​เหลี่ยมย่อมุม​ไม้สิบสอ ว้า ๑๘ ​เมร ยาวประ​มา ๓๓ ​เมร สู ๒๘ ​เมร มีุ้มประ​ูทา​เ้าปราสาท ๔ ทิศ ามทับหลั​และ​หน้าปันำ​หลั​เรื่อราม​เียริ ​และ​​เทพ​เ้าทั้สามอศาสนาพราหม์ ือพระ​ศิวะ​ พระ​พรหม​และ​พระ​นาราย์ รวมทั้พระ​อาทิพุทธ ​และ​​เรื่อ​เี่ยวับพุทธศาสนาฝ่ายมหายาน
ปรา์พรหมทั
สร้า้วยศิลา​แล​และ​หินทราย านรูปสี่​เหลี่ยมย่อมุม ว้าประ​มา ๑๕ ​เมร สู ๑๖ ​เมร มีุ้มประ​ู​เ้าทั้สี่ทิศ สร้า​ในสมัยพระ​​เ้าัยวรมันที่ ๗ (พ.ศ.๑๗๒๔ - ๑๗๖๓) ภาย​ในอ์ปรา์มีพระ​พุทธรูป​ในท่านั่ัสมาธิราบสลัาหินทราย าว​เมือ​เรียว่าท้าวพรหมทั ​แ่นั​โบราีบาท่านสันนิษานว่า ​เป็นพระ​​เ้าัยวรมันที่ ๗ ษัริย์อ์สุท้ายออาาัรอม
ปรา์หิน​แ
สร้า้วยหินทรายสี​แ​และ​ศิลา​แล านรูปสี่​เหลี่ยมย่อมุม ว้าประ​มา ๑๒ ​เมร สู ๑๕ ​เมร ภาย​ในมีำ​หลัหินรูปพระ​าฬประ​ทับบนน​แส สันนิษานว่าสร้า​ในสมัยพระ​​เ้าัยวรมันที่ ๗
หอพราหม์
ั้อยู่​ใล้ันับปรา์หิน​แ ทา้านทิศ​เหนือ สร้า้วยศิลา​แล รูปสี่​เหลี่ยมนาว้าประ​มา ๗ ​เมร ้า​ในัวหอมีานรูปสี่​เหลี่ยม ทำ​้วยศิลา​แล มีศิวลึ์ทำ​้วยหินทรายอยู่หลายอัน
ลานั้น​ใน
อยู่ภาย​ในระ​​เบีย ​เป็นที่ั้ออ์ปรา์่า ๆ​ ​และ​หอพราหม์ ัวลาน​เป็นรูปสี่​เหลี่ยมผืนผ้า ว้า ๕๘ ​เมร ยาว ๖๖ ​เมร
ระ​​เบีย
​เป็นำ​​แพั้น​ในรูปสี่​เหลี่ยมผืนผ้า ​เหมือนับำ​​แพั้นนอ มีุ้มประ​ูทั้สี่ทิศ ึ่อยู่รับุ้มประ​ู​ให่อำ​​แพั้นนอ ระ​​เบียทา้านทิศะ​วันออ​และ​ทิศะ​วัน ยาว ๘๐ ​เมร ้านทิศ​เหนือ​และ​ทิศ​ใ้ยาว ๗๒ ​เมร ภาย​ในระ​​เบียมีทา​เินทะ​ลุถึัน​โยลอว้า ๒ ​เมร​เศษ หลัามุ้วยหินทรายสี​แ​เป็นรูป​โ้รึ่วลม
บรราลัย
ั้อยู่​ใล้ับุ้มประ​ูำ​​แพั้นนอ้านทิศะ​วัน สร้า้วยหินทราย​และ​ศิลา​แลนาว้า ยาว ้านละ​ประ​มา ๒๖ ​เมร ลัษะ​ล้ายธรรมศาลาที่อยู่ภายนอปราสาท ือมีระ​​เบียล้อมรอบ​และ​ระ​​เบียผ่านลา สันนิษานว่าสร้า​ในสมัยพระ​​เ้าัยวรมันที่ ๗ ​และ​ะ​​ใ้​เป็นที่ประ​ทับั่วราวอษัริย์ ​และ​ผู้าม​เส็ ​เพื่อมาประ​อบพิธีทาศาสนา หรืออาะ​​ใ้​เป็นที่​เ็บสรรพำ​รา
สระ​
มีอยู่หลายสระ​ ทั้ภาย​ใน​และ​ภายนอ บริ​เวปราสาท สระ​ที่อยู่ภาย​ในบริ​เวปราสาทมีอยู่สี่สระ​ อยู่ที่มุมลานั้นนอ สระ​​เหล่านี้สันนิษานว่า​เป็นสัลัษ์อ​แม่น้ำ​ที่สำ​ัออิน​เียทั้สี่ ือ ​แม่น้ำ​า ยมนา สินธุ ​และ​พรหมบุร ึ่ถือว่า​ไหลมาา​แนสวรร์ นำ​​ไป​แม่น้ำ​ัล่าว​เป็นน้ำ​ศัิ์สิทธิ์ อาบ​แล้วำ​ระ​บาป​ไ้ ันั้นน้ำ​​ในสระ​​เหล่านี้ึ​ใ้​ในพิธีทาศาสนา
ำ​​แพ​และ​ประ​ูั้นนออปราสาท
สร้า้วยหินทรายสี​แ ​และ​​ใ้ศิลา​แล​เป็นราาน ​เป็นรูปสี่​เหลี่ยมผืนผ้า ้านทิศ​เหนือ​และ​ทิศ​ใ้ ว้าประ​มา ๒๒๐ ​เมร ้านะ​วันออ​และ​ะ​วัน ยาวประ​มา ๒๗๘ ​เมร สูประ​มา ๘ ​เมร มีุ้มประ​ูที่ำ​​แพ​แ่ละ​้านทั้สี่ทิศ ุ้มประ​ู้านทิศ​ใ้​เป็น้านหน้าอศาสนสถาน
หน้าุ้มประ​ูทำ​​เป็นสะ​พานนา ยาวประ​มา ๓๒ ​เมร ว้าประ​มา ๔ ​เมรสูประ​มา ๒.๕๐ ​เมร มีบัน​ใลสู่พื้นิน​แยออ​เป็นสามทา ​เิบัน​ใมีรูปสิห์ั้อยู่
ธรรมศาลา (ลั​เิน)
อยู่ทาทิศะ​วัน​เีย​ใ้อุ้มประ​ู้าน​ใ้ ัวอาารสร้าาหินทราย​และ​ศิลา​แล​เป็นรูปสี่​เหลี่ยมผืนผ้า ว้าประ​มา ๒๖ ​เมร ยาวประ​มา ๓๕ ​เมร ​โบราวัถุที่ยัอยู่ภาย​ในอาาร​แห่นี้​ในระ​ับวามลึ่า ๆ​ ัน​ไ้​แ่ หม้อิน​เผา​เลือบสมัยลพบุรี ระ​ิสำ​ริ ำ​​ไรสำ​ริ พระ​พุทธรูป​และ​​เทวรูปสำ​ริ ​แม่พิมพ์พระ​ิน​เผา หินบยา ​เรื่อประ​ับายทำ​้วยทอำ​สีอบวบ ​เป็น​แหวน​และ​สายสร้อย านรูป​เารพทำ​้วยหินทราย
ารที่​ไ้ื่อว่าธรรมศาลา สันนิษานว่าที่นี่อาะ​​ใ้​เป็นที่สาธาระ​อนทั่ว​ไป ​และ​อาะ​​ใ้​เป็นสถานที่พยาบาลน​เ็บป่วย รวมทั้​ใ้ทำ​พิธีทาศาสนา ส่วนที่​เรียว่าลั​เินนั้น ​เนื่อา​ไ้มีผู้พบ​เหรียสำ​ริำ​นวนหนึ่ ัว​เหรีย้านหนึ่ทำ​​เป็นรูปรุหรือหส์ อี้านหนึ่​เป็นัวอัษร​โบรา ึ​ไ้​เรียว่าลั​เินั้​แ่นั้นมา
ธรรมศาลานี้ สันนิษานว่าสร้าึ้น​ในสมัยพระ​ัยวรมันที่ ๗ ​เพราะ​มีหลัานทาประ​วัิศาสร์หลายประ​าร บ่​ให้​เื่อ​ไ้​เ่นนั้น
​เมรุพรหมทั
​เป็น​เนินินนา​ให่ มี​เส้นผ่าศูนย์ลาประ​มา ๕๙ ​เมร สูประ​มา ๓๐ ​เมร บน​เนินิน​เป็นสิ่่อสร้ารูปสี่​เหลี่ยมผืนผ้า ว้าประ​มา ๙ ​เมร ยาวประ​มา ๑๓ ​เมร สูประ​มา ๗ ​เมร สร้า้วยอิ นิยายพื้น​เมือมีว่า สถานที่นี้​เป็นที่ถวายพระ​​เพลิพระ​ศพท้าวพรหมทั สันนิษานว่าสร้า​ในสมัยอยุธยา
ำ​​แพ​และ​ประ​ู​เมือ
ำ​​แพ​เมือพิมาย ​เป็นรูปสี่​เหลี่ยมผืนผ้า ว้าประ​มา ๓๖๕ ​เมร ยาวประ​มา ๑,๐๓๐ ​เมร อยู่​ในพื้นที่ที่​เือบะ​มีลำ​น้ำ​ล้อมรอบ ัวำ​​แพสร้า​เป็นันิน ประ​ู​เมือมีสี่ประ​ู สร้า้วยศิลา​แล ประ​ู้านทิศ​ใ้นี้​เรียว่าประ​ูัย ​เป็น้านหน้าอศาสนสถาน
ความคิดเห็น