ลำดับตอนที่ #2
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : บทที่ 2 tairitsu
5 ปีหลังจากสงครามที่เมืองซิลเวียซึ่งเป็นบ้านเกิดของผม
ทางฝ่ายมหาทวีปได้สูญเสียจุดยุทธศาสตร์ที่สำคัญมากไปให้กับจักรวรรดิอย่างช่วยไม่ได้ แต่ทางฝ่ายจักรวรรดิเองก็ไม่สามารถยึดเมืองซิลเวียได้เองเช่นกันเนื่องจากตัวเมืองเสียหายมากเกินจนไม่สามารถที่จะซ่อมแซมให้กลับมาดีได้เหมือนเดิม จึงสามารถพูดได้ว่าทั้งสองฝ่ายเสมอกันก็ว่าได้
แต่ว่า... เพราะความพ่ายแพ้ของมหาทวีปทำให้เมืองที่เคยประกาศตัวเป็นกลางได้ตัดสินใจไปเข้าพวกกับทางจักรวรรดิกันส่วนใหญ่แล้ว
ท้ายที่สุดแล้ว พวกเราก็ทำอะไรไม่ได้เลยสักอย่าง แม้แต่จะปกป้องใครสักคนยังทำไม่ได้ ในเมื่อพวกเรามันไร้พลังขนาดนั้น การที่จะยอมรับความพ่ายแพ้กับจักรวรรดิแล้วยุบมหาทวีปที่ไร้พลังนี่ไปเสียก็คงไม่มีใครคัดค้านอะไรแท้ ๆ ทำไมทุกคนถึงยังคงตั้งมั่นที่จะต่อสู้ต่อไปทั้งที่รู้ตัวอยู่ว่าจะต้องพ่ายแพ้แน่ ๆ
ถึงจะเป็นแบบนั้น ตัวผมที่รอดชีวิตมาจากสมรภูมิรบอันดุเดือดนั่นมาได้ ไม่มีเป้าหมายหลงเหลืออยู่ในชีวิตอีกแล้ว ได้แต่ตั้งโรงตีดาบเล็ก ๆ แถบชานเมืองคาเนเลียซึ่งเป็นเมืองท่าของมหาทวีป ใช้ชีวิตอย่างเลื่อยเปื่อยไปโดยไม่รู้ว่าตัวเองจะมีชีวิตอยู่ไปได้จนถึงเมื่อไหร่กัน
ผมเอนหลังพิงเก้าอี้โยกเก่าแก่อันหนึ่งอย่างเบา ๆ แล้วเหม่อมองไปยังท้องฟ้า
" ราเฟียส! ได้เวลาประชุมสถาเมืองแล้วนะ! "
เด็กผู้หญิงตัวเล็กผมสีทองยาววิ่งเข้ามาจ้องมองผมด้วยดวงตาสีเขียวมรกต จากนั้นก็โดดมากอดคอผมอย่างสนิทสนม
" อ่า... วันนี้ไม่ไปไม่ได้หรือ? "
" ไม่ได้นะ! ราเฟียสไม่ยอมไปร่วมประชุมมา 3 ครั้งแล้วนะ ถ้าเกิดไม่ไปอีกเดี๋ยวคุณลุงเนฟิลก็บ่นอีกหรอก โธ่! "
เด็กน้อยพยายามดึงผมให้ลุกขึ้นมาจากเก้าอี้โยกอย่างกระตือรือร้น
เธอคนนี้คือมิฟฟี่ เด็กที่ผมได้ช่วยมาระหว่างที่กำลังหนีออกมาจากเมืองซิลเวีย ในตอนนั้นผู้คนส่วนใหย่ตายกันไปเกือบหมดแล้ว ท่ามกลางกองซากศพมีเด็กผู้หญิงตัวเล็ก ๆ นั่งร้องไห้อยู่คนเดียว ผมสงสารตัวเธอจึงพามาด้วยและตั้งชื่อให้เธอว่า มิฟฟี่
" สรุปแล้วฉันจะต้องไปร่วมจริง ๆ ใช่ไหมเนี่ย... ไม่อยากเลย "
ผมบ่นอุบอิบแต่สุดท้ายก็หยิบผ้าคลุมหนังสัตว์สีน้ำตาลเข้มที่พาดอยู่บนโต๊ะมาคลุมแล้วเดินออกจากบ้านไปโดยมีมิฟฟี่ยืนโบกมืออยู่ด้านหลัง
การประชุมสภาเมืองของคาเนเลียจะจัดขึ้นเดือนละครั้ง เนื้อหาการประชุมในแต่ละครั้งนั้นก็ไม่พ้นแนวทางการบริหารเมืองและเรื่องภายในต่าง ๆ ซึ่งบอกตามตรงว่าไม่จำเป็นที่จะต้องให้ผมไปร่วมด้วยเลย แต่ทางท่านเจ้าเมืองกลับบอกผมว่ามันเป็นการพัฒนาแนวทางการบริหารเมืองคาเนเลียจึงต้องยอมรับอย่างเลี่ยงไม่ได้
พอเดินผ่านพ้นเขตของหมู่บ้านผมก็มองไปยังตัวเมืองอย่างน่าเบื่อหน่ายพลางคิดไปเรื่อย
ในตอนนี้ โลกกำลังหมุนเวียนไปในทิศทางไหน? พวกเรากำลังเผชิญอยู่กับอะไร? และเราได้รับอะไรตอบแทนมากันแน่นะ?
** ** ** ** ** ** ** ** ** **
ทางฝ่ายมหาทวีปได้สูญเสียจุดยุทธศาสตร์ที่สำคัญมากไปให้กับจักรวรรดิอย่างช่วยไม่ได้ แต่ทางฝ่ายจักรวรรดิเองก็ไม่สามารถยึดเมืองซิลเวียได้เองเช่นกันเนื่องจากตัวเมืองเสียหายมากเกินจนไม่สามารถที่จะซ่อมแซมให้กลับมาดีได้เหมือนเดิม จึงสามารถพูดได้ว่าทั้งสองฝ่ายเสมอกันก็ว่าได้
แต่ว่า... เพราะความพ่ายแพ้ของมหาทวีปทำให้เมืองที่เคยประกาศตัวเป็นกลางได้ตัดสินใจไปเข้าพวกกับทางจักรวรรดิกันส่วนใหญ่แล้ว
ท้ายที่สุดแล้ว พวกเราก็ทำอะไรไม่ได้เลยสักอย่าง แม้แต่จะปกป้องใครสักคนยังทำไม่ได้ ในเมื่อพวกเรามันไร้พลังขนาดนั้น การที่จะยอมรับความพ่ายแพ้กับจักรวรรดิแล้วยุบมหาทวีปที่ไร้พลังนี่ไปเสียก็คงไม่มีใครคัดค้านอะไรแท้ ๆ ทำไมทุกคนถึงยังคงตั้งมั่นที่จะต่อสู้ต่อไปทั้งที่รู้ตัวอยู่ว่าจะต้องพ่ายแพ้แน่ ๆ
ถึงจะเป็นแบบนั้น ตัวผมที่รอดชีวิตมาจากสมรภูมิรบอันดุเดือดนั่นมาได้ ไม่มีเป้าหมายหลงเหลืออยู่ในชีวิตอีกแล้ว ได้แต่ตั้งโรงตีดาบเล็ก ๆ แถบชานเมืองคาเนเลียซึ่งเป็นเมืองท่าของมหาทวีป ใช้ชีวิตอย่างเลื่อยเปื่อยไปโดยไม่รู้ว่าตัวเองจะมีชีวิตอยู่ไปได้จนถึงเมื่อไหร่กัน
ผมเอนหลังพิงเก้าอี้โยกเก่าแก่อันหนึ่งอย่างเบา ๆ แล้วเหม่อมองไปยังท้องฟ้า
" ราเฟียส! ได้เวลาประชุมสถาเมืองแล้วนะ! "
เด็กผู้หญิงตัวเล็กผมสีทองยาววิ่งเข้ามาจ้องมองผมด้วยดวงตาสีเขียวมรกต จากนั้นก็โดดมากอดคอผมอย่างสนิทสนม
" อ่า... วันนี้ไม่ไปไม่ได้หรือ? "
" ไม่ได้นะ! ราเฟียสไม่ยอมไปร่วมประชุมมา 3 ครั้งแล้วนะ ถ้าเกิดไม่ไปอีกเดี๋ยวคุณลุงเนฟิลก็บ่นอีกหรอก โธ่! "
เด็กน้อยพยายามดึงผมให้ลุกขึ้นมาจากเก้าอี้โยกอย่างกระตือรือร้น
เธอคนนี้คือมิฟฟี่ เด็กที่ผมได้ช่วยมาระหว่างที่กำลังหนีออกมาจากเมืองซิลเวีย ในตอนนั้นผู้คนส่วนใหย่ตายกันไปเกือบหมดแล้ว ท่ามกลางกองซากศพมีเด็กผู้หญิงตัวเล็ก ๆ นั่งร้องไห้อยู่คนเดียว ผมสงสารตัวเธอจึงพามาด้วยและตั้งชื่อให้เธอว่า มิฟฟี่
" สรุปแล้วฉันจะต้องไปร่วมจริง ๆ ใช่ไหมเนี่ย... ไม่อยากเลย "
ผมบ่นอุบอิบแต่สุดท้ายก็หยิบผ้าคลุมหนังสัตว์สีน้ำตาลเข้มที่พาดอยู่บนโต๊ะมาคลุมแล้วเดินออกจากบ้านไปโดยมีมิฟฟี่ยืนโบกมืออยู่ด้านหลัง
การประชุมสภาเมืองของคาเนเลียจะจัดขึ้นเดือนละครั้ง เนื้อหาการประชุมในแต่ละครั้งนั้นก็ไม่พ้นแนวทางการบริหารเมืองและเรื่องภายในต่าง ๆ ซึ่งบอกตามตรงว่าไม่จำเป็นที่จะต้องให้ผมไปร่วมด้วยเลย แต่ทางท่านเจ้าเมืองกลับบอกผมว่ามันเป็นการพัฒนาแนวทางการบริหารเมืองคาเนเลียจึงต้องยอมรับอย่างเลี่ยงไม่ได้
พอเดินผ่านพ้นเขตของหมู่บ้านผมก็มองไปยังตัวเมืองอย่างน่าเบื่อหน่ายพลางคิดไปเรื่อย
ในตอนนี้ โลกกำลังหมุนเวียนไปในทิศทางไหน? พวกเรากำลังเผชิญอยู่กับอะไร? และเราได้รับอะไรตอบแทนมากันแน่นะ?
** ** ** ** ** ** ** ** ** **
" คุณหนูคะ ได้เวลาไปลาดตระเวณนะคะ ไม่รีบไปเดี๋ยวไปสายนะคะ "
เสียงของหญิงสาววัยใสดังกังวาลไปทั่วคฤหาสถ์อันกว้างขวางจนได้ยินไปเกือบหมดทุกคนเสียแล้ว
" เข้าใจแล้ว จะไปเดี๋ยวนี้แหละ "
เสียงของหญิงสาววัยใสดังกังวาลไปทั่วคฤหาสถ์อันกว้างขวางจนได้ยินไปเกือบหมดทุกคนเสียแล้ว
" เข้าใจแล้ว จะไปเดี๋ยวนี้แหละ "
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น