ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [ EXO ] Vampire's story (ChanBaek , KaiHun)

    ลำดับตอนที่ #2 : Vampire's s†ory... I

    • อัปเดตล่าสุด 12 เม.ย. 58


     
     



    Chapter 1




     เชียร์ส!!~
     
     กริ๊ง!!
     
           เสียงชนแก้วของเหล่าสตาฟและศิลปินในร้านเนื้อย่างเจ้าประจำที่พวกเขาชอบมานั่งกินกันบ่อยๆยามเลิกงานดังขึ้นเพื่อฉลองให้การคัมแบคครั้งที่2ของพวกเขา ภายในร้านตอนนี้ไม่มีทั้งแฟนคลับและคนนอกเพราะคุณลีซูมานอาสาเป็นเจ้ามือโดยการปิดร้านเนื้อย่างและออกเงินค่าอาหารและเครื่องดื่มทั้งหมดให้
     
         
            แบคฮยอนนั่งคีบเนื้อที่ย่างจนสุกเข้าปากและคุยสัพเพเหระไปได้สักพักก็ขอตัวออกมาเข้าห้องนํ้า เขาเดินเข้าไปที่ห้องด้านในสุดจัดการล็อคกลอนประตูพลางเหลือบมองนาฬิกาข้อมือที่บอกเวลา5ทุ่ม54 ริมฝีปากระบายยิ้มออกมาอย่างโล่งอก
            
            เขาควานมือเข้าไปในกระเป๋ากางเพื่อหยิบตลับเล็กๆที่ภายในมีแคปซูนเล็กๆสีแดงสดประมาณเกือบสิบเม็ดเรียงตัวอยู่อย่างเป็นระเบียบ เขาหยิบมันขึ้นมาใส่ปากเพียง1เม็ด ฟันคมขบกัดลงบนเจ้าเม็ดสีแดงเพื่อลิ้มรสของเหล็วที่อยู่ภายใน ร่างบางหลับตาลงเพื่อซึมซับรสชาติที่ติดอยู่บนปลายลิ้น ละเลียดมันจนหมดอย่างใจเย็น
       
            แบคฮยอนเปิดเปลือกตาขึ้น นัยตาที่เหลือบสีแดงเพียงเสี้ยววินาทีแล้วกลับเป็นสีดำสนิทดังเดิมอีกครั้ง มือเรียวเก็บตลับยาไว้ในกระเป๋ากางเกงแล้วหันไปกดปุ่มให้ชักโครกทำงานเสมือนกับว่าเขาเข้ามาทำธุระในห้องนํ้าจริงๆแล้วจึงเดินไปล้างมือที่อ่างล้างมือ ดวงตาเรียวเล็กมองภาพตัวเองที่สะท้อนอยู่ในกระจก เขาถอนหายใจออกมาอย่างโล่งออกเมื่อกินยาไปเรียบร้อยก่อนเที่ยงคืน ยานี่เป็นสิ่งสำคัญที่ทำให้เขาสามารถมีชีวิตอยู่ได้โดยไม่ต้องไปเที่ยวดูดเลือดจากสัตว์หรือมนุษย์คนอื่นๆ ส่วนผสมของตัวยาก็คงจะมียานอนหลับอ่อนๆเพราะธรรมชาติของแวมไพร์จะไม่นอนเวลากลางคืน มีเลือดที่วาซื้อมาจากโรงพยาบาลเอกชนต่างๆและอาจจะมีสารที่สามารถป้องกันไม่ให้ผิวของเขาไหม้จากการโดนแสงอาทิตย์ด้วย จริงๆแล้วเขาก็ไม่ค่อยรู้เกี่ยวกับส่วนผสมของมันสักเท่าไหร่เพราะหน้าที่ผลิตมันเป็นของหมอลู่หาน ตระกูลลู่เป็นตระกูลที่คิดค้นสูตรยาและผลิตยาให้เขาตั้งแต่รุ่นบรรพบุรุษและเขาคิดว่ารุ่นของเขาอาจจะเป็นรุ่นสุดท้าย...
     
            หมอลู่หานทำงานอยู่ที่โรงพยาบาลในกรุงปักกิ่ง ซึ่งแต่ละปีเขาจะไปที่นั้นเพื่อไปเอายา ซึ่งแต่ละครั้งที่ไปคุณหมอคนสวยก็จะกำชับนักกำชับหนาว่าอย่าลืมกินมันก่อนเที่ยงคืน จนเขาเบื่อที่จะฟัง แต่เขาก็ทำตามคำสั่งได้ดีมาโดยตลอด ยกเว้นก็แต่ครั้งนี้ที่เขาเกือบลืมกินมันเพราะมัวแต่คุยเพลิน เขาไม่อยากจะคิดเลยว่าถ้าเกินเที่ยงคืนไปแล้วเขายังไม่ได้กินจะเกิดอะไรขึ้น....
    เหอะ จะเกิดอะไรขึ้นงั้นเหรอ? เขาก็จะกลายเป็นแวมไพร์ไง..... ตาเปลี่ยนเป็นสีแดง มีเขี้ยวงอกยาวออกมา หน้าซีด ตัวเย็นและต้องการ 'เลือด'
     
     
            
            "นี่แบคฮยอน นายจะล้างจนมือเปลื่อยเลยหรือไง"
     
            
            ร่างบางที่กำลังจมอยู่ในห้วงความคิดของตัวเองสะดุ้งหันควับไปมองผู้มาใหม่ที่ยืนพิงกรอบประตูห้องนํ้าอยู่อย่างหวาดๆ
     
            
            
            "เอ้าๆทำหน้าอย่างกับเห็นผีอย่างนั้นแหละ" ผู้มาใหม่พูดอย่างติดขำนิดๆ
     
            
            "เอ้า! ก็ใครใช้ให้นายมาเงียบๆล่ะคยองซู ฉันก็ตกใจเป็นนะ ว่าแต่นายเถอะจะเข้าห้องนํ้าไม่ใช่เหรอ มายืนมองฉันอยู่ทำไม"
     
            
            "เปล่า ก็เห็นคนอื่นบอกว่านายไปเข้าห้องนํ้าแล้วหายไปนาน เลยให้ฉันมาตามเนี่ย นี่ก็เที่ยงคืนกว่าแล้ว พวกทีมงานกลับบ้านกันหมดละ นายจะนอนค้างที่นี่รึไง?"
     
            คยองซูเริ่มปริปากบ่นพลางทำท่ามองนาฬิกา
     
           "เออๆก็กำลังจะไปแล้วเนี่ย แล้วจ่ายค่าอาหารกันหรือยัง"
     
            
            "คุณซูมานจ่ายให้หมดแล้ว ไปเถอะ ง่วงนอนแล้วเนี่ย"
     
            
            "อืมๆ" 
     
           
            ทั้งสองเดินออกจากหลืบแคบที่ทำเป็นห้องนํ้าสำหรับลูกค้าภายในร้านอาหาร
    เมื่อเดินไปถึงก็เห็นสมาชิกคนอื่นๆยืนเล่นโทรศัพท์รอพวกเขาอยู่หน้าร้านแล้ว
     
            
            "นานๆคุณซูมานจะพามาเลี้ยงสักที นายกินไปแค่นิดเดียวเอง น่าเสียดาย ปกติเห็นกินอย่างกับวันต่อไปอาหารจะหมดโลก"
     
            
            เดินมาถึงก็เจอร่างของรูมเมทตัวโย่งทำลอยหน้าลอยตาบ่นเรื่องที่เขากินน้อยกินไม่คุ้มเป็นอย่างแรก
     
            
            "ก็คนมันไม่หิวนี่ ดีซะอีกประหยัดเงินคุณซูมานด้วย ฉันไม่ได้เห็นแก่กินเหมือนคนแถวนี้สักหน่อย"
     
            
            แบคฮยอนจะรู้ไหมว่าประโยคที่ตัวเองพูดทำเอากลุ่มคนที่ยืนถัดจากชานยอลสะดุ้งกันเป็นแถบ
     
            
            "ฮยองอย่าว่าไอ้จงอินดิ"
     
            
            เป็นน้องเล็กของวงที่พูดขึ้นมาอย่างติดตลกทำเอาพี่ๆที่ยืนอยู่หลุดขำออกมา
     
            
            "อะไรของมึงเซฮุน กูเห็นมึงกินอย่างกับแดก"
     
            จงอินเอื้อมมือไปโบกหัวคนที่ยืนทำหน้าแป๊ะยิ้มอยู่ข้างๆพร้อมกับยีหัวทองๆจนผมชี้โด่ชี้เด่ไม่เป็นทรงพลางเอามือจิกผมแล้วลากให้เซฮุนเดินไปอีกทาง พวกพี่ๆที่เห็นแบบนั้นเลยส่ายหน้าอย่างหน่ายๆกับพฤติกรรมของน้องทั้งสองที่โตจนป่านนี้แล้วแต่ยังเล่นกันเป็นเด็กๆแล้วเดินออกไปหน้าซอยที่มีรถตู้จอดรออยู่
     
            
            "เห้ย สองคนนั้นอ่ะ คนอื่นเขาไปกันหมดละ จะยืนจีบกันอีกนานมั้ย หออ่ะจะกลับมั้ย"
     
            
            แบคฮยอนหันไปมองจงอินและเซฮุนที่ยังมัวแต่ยืนเล่นกันเป็นเด็กๆ เอ่ยแซวนิดหน่อยตามประสาคนขี้แกล้งก่อนจะเดินทิ้งห่างออกมา ปล่อยให้น้องทั้งสองเดินโวยวายตามมา
     
            
            "โหยยอะไรอ่ะแบคฮยอน ใครจะไปจีบไอ้ดำนี่ คนที่หลงไปจีมมันก็มีแต่แฟนคลับเท่านั้นแหละ" เซฮุนบ่นอุบพลางทำปากยื้น
     
            
            "นี่ พูดดีๆนะโอเซฮุน กูไม่อยากจะบอกว่าแฟนคลับที่จีบกูมีแต่นูน่าสวยๆทั้งนั้นแหละ มึงต่างหากที่ไม่มีใครคิดจะจีบ ท่อนร้องก็น้อยหน้าก็แป๊ะ เนอะแบคฮยอน" เด็กผิวแทนเถียงกลับแถมยังหันไปหากำลังเสริมที่เดินอยู่ข้างหน้า
     
            
            "ย๊าห์ ไม่ต้องมาเนอะเลย พวกนายสองคนเป็นน้องต้องเรียกฉันว่าฮยองสิ เดี๋ยวพ่อก็จับดูดเลือดซะหรอก" คนเป็นพี่หันไปมองตาขวาง 
     
            
            จริงๆเขาไม่ได้โกรธเจ้าเด็กสองคนนี้หรอก ใครดูก็รู้ว่าน้องทั้งสองจงใจแกล้งเขา ไม่ได้คิดจะลามปามอะไร
     
            
            "อ้าวฮยองเปลี่ยนร่างจากคัพเพิ่ลเป็นยุงได้ด้วยเหรอ ว๊าวว เจ๋งเลยย" เด็กตัวขาวเอ่ยถามพลางทำตาโตแล้วเอามือป้องปากทำหน้ากระแดะสุดชีวิต
     
            
            แบคฮยอนที่เดินมาถึงรถพอดีไม่ได้ว่าอะไรแต่กลับกระตุกยิ้มมุมปากแล้วก้าวขึ้นรถตู้ตามชานยอลไป เมื่อเข้าไปข้างในก็เห็นสมาชิคคนอื่นนั่งรอกันอยู่แล้ว  มือซ้ายเอื้อมไปปิดประตูพร้อมกับส่งสายตาที่สื่อไปให้ว่า พวกนายคงต้องจ่ายค่าแท็กซี่กันเองแล้วล่ะ บ๊าย 
     
            "ออกรถเลยครับ" เมื่อสิ้นเสียง รถตู้ก็เคลื่อนออกไปทันที
     
            "นายนี่ก็ชอบแกล้งน้องอยู่เรื่อย" ลีดเดอร์ตัวขาวที่นั่งอยู่ข้างหน้าพูดออกมาอย่างขำๆ
     
     
            พอซูโฮพูดจบภายในรถไม่มีบทสนทนาใดๆเกิดขึ้น เพราะคนอื่นๆเหมือนจะง่วงนอนกันจนไม่รู้จะขุดประเด็นไหนขึ้นมาเป็นหัวข้อสนทนาระหว่างทางความเงียบนี้ไม่ได้ทำให้แบคฮยอนอึดอัดเพราะตาเขาก็เริ่มปรือๆแล้วเหมือนกัน และไม่นานมันก็ปิดลง พร้อมสัมผัสนุ่มๆจากฝ่ามือของใครสักคนที่เอนหัวของเขาไปซบไหล่
     
                                    •
                                  •
                                     •
                                  •
                                     •
                                  •
     
    01: 24 AM
     
            "นี่แบคฮยอน.."
            
            "บยอนแบคฮยอน.."
     
            "ไอ้หมา.."
     
            "ไอ้หมาอ้วน!"
     
            "ตื่น!!"
     
     
            "เห้ย!!"
            
            
            ร่างที่นอนหลับตาสะดุ้งแทบตกรถเพราะเมื่อลืมตาขึ้นมาสิ่งที่เห็นกลับเป็นดวงตากลมโตของชานยอลที่อยู่หางจากเขาไม่ถึงห้าคืบด้วยซํ้า
     
            
            "ย่าห์ ไอ้หูกาง! จะปลุกก็ปลุกดีๆได้ไหมเล่า แล้วหน้านี่ก็เอาออกไปห่างๆหน่อย ตาก็โตหูก็กางฉันตกใจนึกว่ามนุษย์ต่างดาว"
     
     
            คนตัวเล็กแหวลั่น ก้าวขาลงจากรถแล้วสาวท้าวขึ้นหอไปโดยไม่รอใครอีกคนที่ยืนหัวเราะอยู่ ใครจะไปรู้ล่ะว่าที่เขายื่นหน้าเข้าไปใกล้อีกคนขนาดนั้นนะ ปาร์คชานยอลจงใจทั้งนั้นแหละ แล้วเมื่อกี้อย่าคิดว่าเขาไม่เห็นนะ ถึงตอนนี้รอบๆตัวจะมีแค่ไฟสะหลัวๆตามรายทางแต่ริ้วสีแดงจางๆบนแก้มของแบคฮยอนก็ไม่สามารถรอดพ้นสายตาเขาไปได้หรอก                       
     
     
     
     
     
     
     
     
            โว้ยยยยย ไอ้บ้าชานยอลมันทำอะไร มันคิดจะทำอะไร!? จากตอนแรกที่เขากำลังง่วงนอน จะหลับแหล่มิหลับแหล่ ตอนนี้อาการทั้งหมดกลับหายเป็นปิดทิ้ง
     
            
             แบคฮยอนเอามือขยี้ผมตนเองจนฟูฟ่อง  เดินกระทืบเท้าปึงปังเข้าไปในลิฟต์ที่เปิดรออยู่เหมือนรู้ว่าจะมีคนใช้ทั้งๆที่ยังไม่มีใครกด
    ร่างบางก้าวเท้าเข้าไปในลิฟต์ นิ้วมือเรียวสวยที่ขนาดผู้หญิงยังต้องอายเอื้อมไปกดตัวเลขชั้นที่ต้องการ ดวงตาเรียวเหลือบมองตัวเลขที่กำลังเพิ่มขึ้นเลื่อยๆตามชั้นที่ลิฟต์เคลื่อนผ่าน
     
     
            ติ้ง!
     
            ประตูลิฟต์ค่อยๆเปิดออกเผิยให้เห็นทางเดินที่เงียบสงบปลอดผู้คน แบคฮยอนก้าวขาซ้ายออกจากเจ้ากล่องสี่เหลี่ยมแต่ยังไม่ทันได้ก้าวขาอีกข้างตามออกไปก็มีเหตุให้เขาต้องตกใจอีกรอบ
     
     
            "แฮ่!!!!"
     
     
            "อ๊ากกกกกก!"
     
     
          เสียงแรกเป็นเสียงของเจ้าเพื่อนซี้ทางม้าลาย ที่แอบซุ่มอยู่ตรงกระถางต้นไม้ข้างประตูลิฟต์ ส่วนเสียงที่สองเป็นของแบคฮยอนที่วันนี้ถูกทำให้ตกใจโดยเหตุการคล้ายๆแบบนี้ไปหลายรอบ
     
     
            "โว้ยยยยยยย ไอ้พวกบ้า! เล่นอะไรกันไม่รู้เรื่อง! ฉันนึกว่าพวกแฟนคลับโรคจิตซะอีก" คนเป็นพี่โวยพร้อมกับเอามือมาทาบตรงอก
     
     
            "เอ้า ก็ฮยองทิ้งพวกผมนี่!"
     
            
            "ใช่ ฮยองทิ้งพวกเรา งั้นพรุ่งนี้ฮยองต้องเป็นคนเลี้ยงไก่ทอด!"
     
     
            "ไอ้ดำพูดถูก! เอาเป็นว่าฮยองตกลงนะ วู้ววว แบคฮยอนใจดีที่สุด" เจ้าเด็กหน้าติ๋มพูดเองเออเองอยู่คนเดียวแล้วหันไปแท็กมือกับจงอินที่ยืนเป็นกำลังเสริมอยู่ข้างๆ
     
     
            "ย่าห์! ไอ้พวกติ๊งต๊องนี่ ฉันไปตกลงตอนไหนห้ะ!?" เขาว่าเขาได้ยินเจ้าเด็กสองคนนี่พูดกันอยู่สองคนไม่ใช่เหรอ ทำไมกลายเป็นเขาไปตกลงว่าจะเลี้ยงไก่พวกมันไปได้
     
     
            "เอาน่าาฮยอง ไม่ต้องเกรงใจพวกผมหรอก พวกผมไม่ถือ เนอะไอ้ฮุน"
     
     
            "ตามที่กัมจงมันพูดเลยพี่ คริ คริ"
     
     
            โอ๋ยยยย ไอ้พวกนี้ก็เข้าขากันดีรึเกิน เข้าขากันดีนักเดี๋ยวก็แช่งให้เข้าตูดกันซะเลยนี่
     
     
            "เห้อ....เออๆก็ได้ๆ" ผมตอบไปอย่างปลงๆ คือจริงๆถึงผมจะตอบว่าไม่ เจ้าสองตัวนี้ก็ไปขอให้คนอื่นเลี้ยงอยู่ดีแหล่ะ ถ้าไม่มาขอผมคนต่อไปก็คงเป็นพี่ซูโฮไม่ก็ชานยอล แต่ตัดคยองซูไปได้เลย... เพราะคงไม่มีใครอยากจะท้าทายอำนาจมืดหรอกจริงมั้ย?
     
     
            "เออนี่ ฮยอง.....ผมว่าเมื่อกี้ตาฮยองมัน....เอ่อ..ไม่มีอะไร" เซฮุนพูดงึมงำๆออกมาเบาๆ
     
     
            "ห้ะ นายว่าไงนะ?" จริงๆเขาก็ถามไปงั้นๆแหละ ใกล้แค่นี้ทำไมเขาจะไม่ได้ยิน
     
     
            "เปล่าๆ ผมแค่จะบอกว่าตาฮยองมีขี้ตาติดอยู่" เซฮุนพูดพร้อมกับทำนิ้วชี้ๆไปที่ตาของแบคฮยอน
     
     
            "อ๋อออ ขอบใจ" กล้าวขอบใจพลางทำเป็นเอานิ้วเกลี่ยที่หัวตา ร่างบางหันหลังให้เซฮุนกับจงอิน ขาที่ไม่ยาวมากก้าวไปตามทางเดิน 
     
            อืม..เซฮุนคงอาจจะหมายถึงสีตาสินะ เมื้อกี้คงจะตกใจมากไป เขาคงต้องหัดควบคุมอารมณ์ให้ดีกว่านี้
     
            ร่างบางเดินไปจนเกือบสุดทางเดินแล้วกดออดที่ติดอยู่หน้าห้อง สักพักใครสักคนที่อยู่ข้างในก็เปิดประตูออกมา เมื่อเห็นว่าเป็นแบคฮยอน คนข้างในก็เปิดประตูกว้างให้แบคฮยอนเดินเข้าห้องไป
     
     
     
     
     
     
     
     
     
            ทางด้านของเด็กสองคนที่ยังยืนอยู่หน้าลิฟต์
     
     
            "เห้ยมึง เมื้อกี้กูเห็นจริงๆนะเว้ย! มึงเห็นป่ะ?" 
     
            เซฮุนหันไปถามความเห็นจากคนที่ยืนทำหน้าง่วงอยู่ข้างๆ 
     
             "เห็นไรวะ?"
     
             จงอินถามเพื่อนตัวขาวด้วยเสียงที่ติดจะมึนๆพร้อมหันมาทำตาปรือใส่
     
             "มึงไม่ต้องมาทำหน้าหมีง่วงใส่กูเลย คือกูหมายถึงตาแบคฮยอนอ่ะ ตอนที่เราแฮ่ ตาพี่แบคเหมือนเปลี่ยนเป็นสีแดงเลยว่ะ เห้ย มึงอย่าทำหน้างั้นดิเห้ย กูเห็นจริงๆนะเว้ยย"
     
             
             "กูไม่เห็นว่ะ นี่ หนูโอ...กูว่ามึงดูหนังมากไปละ"
     
             "โหยยยไรวะ! เออๆกูอาจจะง่วงตากูเลยเบลอ" นั่นสิ เขาคงง่วงมากไปจริงๆ
     
             
            "เบลอว่ารักแถบป่ะ?"
     
     
            เจ้าหมีที่ทำเมื่อกี้ทำท่าจะหลับมิหลับแหล่บัดนี้กลับทำหน้าเหมือนเด็กสาวแรกรุ่น ก้มหน้ากัดปากล่างพลางทำเป็นเอานิ้วม้วนปลายผมทั้งที่ไม่มีปลายผมให้ม้วน ซึ่งท่าทางอย่างนั้นทำให้อวัยวะที่ถูกห่อหุ้มด้วยรองเท้ายี่ห้อดังของอีกคนกระตุกเป็นจังหวะโอเวอร์โดส
     
     
            "ถุ้ยย เบลอที่หน้า! นี่หมี มึงเห็นนู่นมั้ย" จงอินหันไปมองตามทิศทางที่อีกคนชี้แล้วพยักหน้าหงึกหงัก 
     
     
            "อะไร? อนาคตของเราเหรอ?" จงอินถาม ทำให้เซฮุนปรายหางตามองอย่างเอือมๆ
     
     
            "ไม่ คิมจงอิน นั่นคือประตูระเบียงของชั้นนี้ มึงเอาตีนยันให้มันเปิดนะ แล้วเดินออกไปสัก3ก้าว" คนผิวแทนที่บ้าจี้ทำตามคำสั่งเอาเท้ายันประตูระเบียงที่เป็นกระจกทั้งบานให้เปิดอ้าจนสุด เดินออกไป3ก้าวตามที่เพื่อนตัวขาวบอกแล้วหันกลับมามองคนสั่ง
     
     
            "โอเค มึงไปเล่นคนเดียวตรงนู้นนะ บาย"
    พูดจบโอเซฮุนก็เดินไปหน้าห้องที่เมื่อสักครู่แบคฮยอนเปิดประตูเข้าไป เอื้อมมือไปหยิบคีย์การ์ดสำรองที่ลีดเดอร์ตัวขาวให้ไว้เพราะเขากับจงอินชอบออกไปหาอะไรกินข้างนอกบางทีพอกลับมาถึงหอ ทุกคนก็นอนกันหมดแล้วเลยเข้าห้องไม่ได้ มือเรียวยิบมันออกมาทาบที่เครื่องสแกน รอให้ไฟเปลี่ยนเป็นสีเขียวแล้วเปิดประตูเข้าห้องไปอย่างหน้าตาเฉยทิ้งจงอินให้ยืนเคว้งอยู่คนเดียวตรงระเบียง
     
     
            คิมจงอินหลุดหัวเราะออกมากับความบ้าบอของตัวเอง ทั้งๆที่รู้ว่าอีกคนแกล้งแต่เขาก็ยังจะทำตาม
     
     
     
     
     
     #แวมไพร์BH —  >  —  >  —  >  —  >  —  > — > — > — > — > — > — > — > — >
     
     
     
     
     
            หลังจากที่แบคฮยอนขึ้นห้องไป ปาร์คชานยอลก็ยังยืนอยู่ที่เดิม เขาหันซ้ายหันขวามองไปรอบๆบริเวณหน้าหอพักว่ามีซาแซงหรือพวกแฟนคลับอยู่แถวนี้หรือเปล่า กวาดสายตาไปรอบๆปรากฎว่าทางสะดวก เขาว่าจะไปซื้อของที่ซุปเปอร์ใกล้ๆนี้สักหน่อยเพราะของในตู้เย็นถ้าไม่นับรวมนํ้าเปล่ากับเกลือแร่แล้ว ก็ไม่มีอะไรพอยาท้อยาไส้ได้เลย..... คงไม่ต้องบอกใช่มั้ยว่าเป็นฝีมือใคร เพราะมันไม่ใช่ตู้เย็นรวม แต่เป็นตู้เย็นที่ผมซื้อมาไว้ในห้อง.......
     
            ผมคิดอะไรไปเรื่อเปื่อยระหว่างทางที่เดินไปซุปเปอร์แต่ตาก็ยังคอยมองรอบๆว่ามีกลุ่มซาแซงอยู่แถวนี้รึเปล่า
     
     
            "โอ๊ะ! ฮยองๆ" ขณะที่ผมเดินอยู่ก็มีเสียงเรียกจากข้างหลัง ผมหันไปมองก็เห็นว่าเป็นจงอินทีากำลังวิ่งตามมาแล้วหยุดอยู่ข้างๆผม
     
     
           "หืม มีไรวะไอ้เด็กดำ" พูดพลางเลิกคิ้วถาม
     
     
            "โหย คำก็ดำสองคำก็ดำ แบบนี้เขาเรียกผิวสีแทนนน"
     
            "เออ แทนก็แทน ว่าแต่มีอะไร?" ชานยอลหันไปถามพร้อมกับก้าวเท้าเดินไปตามทางช้าๆ
     
            "เปล๊า ผมแค่จะบอกว่าที่หน้าหออ่ะ ผมเห็นนาาา แน่ๆๆเริ่มรุกพี่แบคแล้วใช่ป่ะละ ผมบอกให้พี่รุกตั้งนานแล้ว เห็นป่ะ ก็ไม่ได้แย่สักหน่อย ดูก็รู้ว่าพี่เขาเขินอ่ะ" จงอินพูดพลางหันมาหรี่ตามองเขาที่เดินอยู่ข้างๆ
     
            "เออน่า รู้แล้วก็อย่าพูดมาก ถ้าแบคฮยอนรู้ฉันจะหมายหัวนายไว้คนแรก" หันไปชี้หน้าเจ้าเด็กรุ่นน้องที่เดินทำหน้าไม่รู้ไม่ชี้อยู่ข้างๆ
     
            "โหยพี่ ขนาดนี้ละ ยังมีคนที่ไม่รู้ด้วยเหรอ คนที่ไม่รู้นี่คงจะมีแต่พี่แบคคนเดียวนั่นแหละ เอ..แต่ผมว่าพี่เขารู้แล้วนะ ขนาดแฟนคลับยังรู้อ่ะพี่...ลองถามใจตัวเองดูนะ" จงอินพูดพร้อมกับเอื้อมมือมาตบบ่าแล้วเดินแซงหน้าเขาเข้าร้านสะดวกซื้อไป
     
            "เอาก็เอาวะ.." ถ้าจีบไม่ติดก็ให้มันรู้กันไปว่า ปาร์คชานยอล คนนี้มันไม่มีนํ้ายา
    ต่อไปนี้เขาคงต้องเริ่มทำอะไรสักอย่างแล้วล่ะ เขาพูดกับตัวเองแล้วเดินตามจิงอินเข้าไปในร้านสะดวกซื้อที่เปิด24ชม.
     
     
     
     
     
     
     
     
     
     
     
     
     
     
     
     
    100%
    จบตอนแรกแล้ววว แต่มันสั้นเกินไปใช่มั้ย.. พอมาอ่านเองแล้วรู้สึกว่ามันสั้น😂 เดี๋ยวเราจะแก้ไขให้ตอนต่อๆไปยาวกว่านี้นะ คือยังแต่งไม่ถึงไหนเลยอ่ะ ยังอยู่ตอนที่3อยู่เลย นี่มาอัพเนื่องในวันเกิดท่านเซฮุน5555555555555
    ปล. อ่านฟิคเยอะนี่ไม่ได้ช่วยให้แต่ฟิคดีขึ้นเลยนะ .ร้องไห้แรง
     
    เพื่อนรัก..เราฝากสกรีมแท็ก #แวมไพร์BH ด้วยนะ หรือท่ามันกากเกินไป แบบ อินี่เปิดเรื่องไว้ทำไมรกเด็กดี ก็ไปด่าอีเจ้าของแอคนี้ได้เลย @KL_294343 
    ไปละบ๊ายบายย .สาดนํ้า💦
     
    ✄THE ORA


     
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×