คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #5 : Mondstadt Arc : ปลดล็อก ตราบาปแห่งโอริออน
พอเบียงก้าได้พูดมาแบบนั้นเธอก็พุ่งเข้าไปหวังจะปลิดชีพเซจ อย่างน้อยเทคโนโลยีของโลกเธอก็สามารถสร้างร่างโคลนของเขาได้ แต่ว่าเธอถูกเซซิเลียป้องกันการโจมตีเอาไว้ได้
“เธอไม่น่าใช่คนแบบนี้นี่ คำสั่งของเขาใช่ว่ามันจะถูกเสมอไปนะ!”
“หลีกไปค่ะ”
เบียงก้าได้สั่งให้เหล่าแฟนท่อมโจมตีใส่เซซิเลียจนเธอกระเด็นออกมา ลูมินที่ดูอยู่ก็กำดาบของเธอเอาไว้แน่นแต่เซจก็ได้ห้ามเอาไว้
“เรื่องของตัวเองก็ต้องจัดการด้วยตัวเอง ไม่ต้องห่วงหรอกแค่นี้ไม่ตายหรอก”
“แต่ว่า-”
“ถ้าเกิดฉันแพ้ก็แค่ทำเหมือนกับฉันไม่เคยมีตัวตนมาก่อน โอเคนะ”
ในขณะที่เซจกำลังพูดอยู่ ทั้งดิลุค,จีนและเวนติต่างก็ถูกแฟนท่อมของเบียงก้าเข้าโจมตีจนกระทั่งเธอได้เข้ามาเตะลูมินจนกลิ้งลงไป เธอได้ปล่อยหมัดตรงออกมาแต่ว่าแขนของเธอก็ถูกโซ่ล่ามเอาไว้แล้ว
“ไม่นึกว่าเธอจะใช้วิธีนี้โมโหกันนะ คุณผมทอง” ถึงแม้น้ำเสียงจะดูใจเย็นผิดกับที่คาดการณ์เอาไว้ แต่มันก็ไปปลดล็อคบางอย่างในตัวของเซจให้กลับมาทำงานอีกครั้ง ความรู้สึกโกรธและแรงอาฆาตทำให้ ‘ตราบาปแห่งโอริออน’ ทำงานอีกครั้งนึง
“เข้าแผนของทางนี้เลยล่ะค่ะ” หญิงสาวได้สลัดแขนออกมาจากโซ่อย่างง่ายได้พร้อมกับเอาอุปกรณ์คล้ายกับสเก้าท์เตอร์ในดราก้อนบอลมาส่องดูค่าความเปลี่ยนแปลงในตัวของเซจ ก็พบว่าค่าหลายๆอย่างในร่างกายของเซจเพิ่มขึ้นอย่างมหาศาลจากตอนแรกประมาณ10เท่า ตราสัญลักษณ์ที่ปรากฏที่ตาซ้ายของเขามีเพิ่มขึ้นมาเป็น2ชั้นก่อนที่แฟนท่อมตัวใหญ่จะถูกล่ามโซ่อย่างรวดเร็ว
‘เขาจัดการกับคิงแบบนี้เลยหรอ!?’ เบียงก้าคิดในใจ
“มัวเหม่ออะไรอยู่”
ตู้ม! ชายหนุ่มซัดเข้าไปที่กลางลำตัวของเธออย่างรุนแรงจนเธอจุกไปเล็กน้อย เธอจึงได้แทงสวนกลับไปแต่ว่าเซจก็เอี้ยวตัวหลบพร้อมกับต่อยเข้าที่หน้า แต่แฟนท่อมทั้งสองก็มาบังหน้าเอาไว้
“นี่ยังไม่ใช่ที่สุดของเธอสินะ แน่นอนว่านี่ก็ยังไม่ใช่ที่สุดของฉันเหมือนกัน ฉันไม่รู้หรอกว่าพลังพวกนี้มันเป็นของฉันจริงหรือเปล่า แต่สิ่งที่ฉันรู้ในตอนนี้คือเธอใช้วิธีสกปรกในการที่จะทำให้ฉันเอาจริง ถึงแม้จะซาบซึ้งในน้ำใจแต่ถ้าเกิดเราได้เจอกันอีกอย่าได้ใช้วิธีแบบนี้”
“นี่คุณกำลังสอนฉันอยู่อย่างนั้นหรอคะ?” เบียงก้าปาหอกออกไปแต่เซจก็หลบได้ ซึ่งนั่นเป็นแผนของเธอ เธอได้ใช้หอกเป็นตัวล่อพร้อมกับเข้าไปเตะเซจจนตกหน้าผาไป
“คุณเซจ!!!!” ลูมินได้ตะโกนเรียกแต่ก็ไม่มีเสียงตอบรับใดๆกลับมา
“ภารกิจสำเร็จ-”
เคร้ง! จู่ๆก็มีโซ่พุ่งเข้าไปล่ามคอของเบียงก้าก่อนที่เซจจะเกี่ยวตัวเองขึ้นมาพร้อมกับฟาดร่างของหญิงสาวลงพื้นอย่างรุนแรงจะเธอกระอักเลือด เธอได้เช็ดเลือดที่ปากก่อนจะสังเกตที่ดวงตาข้างซ้ายของชายหนุ่มปรากฏว่ามันมี3ชั้นแล้ว
“ลูกเตะเมื่อกี้ ใช้ได้ แต่ก็ยังไม่เท่าของเจ้านั่นอยู่ดี” ชายหนุ่มผมสีแดงสดเดินเข้ามาหาอย่างช้าๆพร้อมกับใช้เวทย์โซ่ล่ามร่างของหญิงสาวผู้มาจากต่างโลกเอาไว้ และคราวนี้โซ่ของเขาไม่ใช่โซ่เวทย์ปกติแต่เป็นโซ่เวทย์จากตราบาป ยิ่งดิ้นมากเท่าไหร่พลังงานก็ยิ่งถูกดูดมากเท่านั้น เพราะใช้เวลานานในการร่ายเลยทำให้โซ่นี้เหนียวเป็นพิเศษ
“ฉันชนะแล้ว”
“พวกคุณมันปีศาจ...ทั้งคุณ ทั้งกัปตัน”
“ฉันจำหมอนั่นไม่ได้หรอก พูดไปก็เท่านั้นแหละ” แล้วเซจก็ได้คลายผนึกให้แล้วเขาก็นอนสลบลงไปเนื่องจากมานาหมดหลอด เบียงก้าจึงค่อยๆลุกเพื่อจะไปหยิบอาบิสฟลาวเวอร์มาจัดการกับเซจ แต่เซซิเลียก็ไปหยิบมาก่อนพร้อมกับเอาหอกชี้หน้า
“นี่ขนาดเขาสู้ไม่ได้แล้วเธอยังจะฆ่าเขาอีกอย่างงั้นหรอเบียงก้าจัง”
“ทำไมคุณถึงเป็นห่วงเขาขนาดนั้นล่ะ เขาไม่ใช่ลูกของคุณสักหน่อย...อีกอย่างนึงฉันคิดว่าต่อให้เอาไปตอนนี้พลังของเขาก็ไม่มีทางเอาชนะกัปตันได้หรอก นอกจากยังได้พลังกลับมาไม่ครบแล้วยังสมองเสื่อมอีก...” เบียงก้านั่งลงพร้อมกับมองท้องฟ้า
“นี่เป็นครั้งที่2แล้วที่ฉันแพ้ให้กับผู้ชายผมสีแดง...จริงๆแล้วที่ฉันมาที่นี่ฉันยังมีอีกจุดประสงค์นึง”
“บอกมา” เซซิเลียเร่ง แล้วเบียงก้าก็เอารูปให้ดู ซึ่งแผนของอ็อตโต้เขียนไว้ว่าให้รีบจับ/ฆ่าเซจก่อนที่อสรพิษแห่งมิดการ์ดจะได้ตัวไป
“เธอกำลังจะมาที่นี่ มาเพื่อฆ่าเขาแล้วเอาDNAไปทำอาวุธ... ไรเดน เมย์ กำลังมาที่นี่”
“เมย์จังน่ะหรอ!?”
“...”
“แล้วเราจะต้องทำยังไงกับเธอ?” จีนถาม
“จับเธอไว้ แต่อย่าเอาไปไว้ในคุก เสียเงินเปล่าๆ ส่วนอาบิสฟลาวเวอร์ฉันจะเป็นคนเก็บเอาไว้เอง” เซซิเลียกล่าวแล้วจีนก็ได้คุมตัวเบียงก้าไปขังไว้
.
.
.
.
วันต่อมา เซจก็ได้มารับตัวเบียงก้าออกจากคุกไป ส่วนลูมิน,ไพม่อนและเวนติก็ได้นำพิณศักดิ์สิทธิ์ไปคืนให้กับโบสถ์ก่อนจะรีบหนีออกมาเจอกับเซจ,เซซิเลียและเบียงก้า
“ฉันจะให้โอกาสเธอแก้มือ”
“เรื่องแบบนั้นไม่จำเป็นหรอกค่ะหัวหน้า” เบียงก้าพูดขึ้นมาจนเซจเหวอ เพราะเขาก็ไม่เคยอยากได้เบียงก้าเป็นลูกน้องเลยด้วยซ้ำ
“ไม่มีสิ่งไหนที่สามารถอธิบายเกี่ยวกับสัญลักษณ์ที่ตาของคุณได้ พลังลึกลับนั่นมันทำให้ฉันหวั่นไหว...ฉันรู้สึกถึงพลังที่ชั่วร้ายในดวงตานั่น”
“ทั้งๆที่เธอก็ทำร้ายคนอื่นเพื่อให้ฉันโกรธแล้วเอาตราบาปออกมาเนี่ยนะ”
“...ขอโทษด้วยค่ะ...ฉันไม่ได้อยากทำแบบนี้แต่ว่าคุณดันดื้อด้านเอง”
‘แล้วทำไมจู่ๆคนผิดถึงกลายเป็นตูล่ะ?’ เซจสงสัย
เบียงก้ายืดเส้นยืดสายนิดหน่อยก่อนจะบอกกับเซจไปว่ายังไงซะตอนนี้เธอก็ยังไม่คิดจะกลับไปอยู่แล้ว(มิติเกนไคไกโอคุโตะเวิร์สตอนนี้คือตีกันกับแฮชเชอร์ที่10อยู่)และอีกอย่างคือเธอต้องการที่จะไถ่โทษที่ไปทำร้ายคนอื่นด้วย
“แล้วอาบิสฟลาวเวอร์นี่-”
“คุณเอาไปใช้เถอะ ยังไงซะมันก็เป็นของคุณมาก่อนอยู่แล้วนี่” เบียงก้ากล่าว
“งั้นเราจะไปกันต่อดีมั้ยล่ะ ที่ที่ดวาลินอยู่น่ะ”
“โดยที่ไม่มีจีนกับดิลุค?”
“ใช่ นายก็ได้พลังส่วนใหญ่กลับมาแล้วนี่เซจ~” เวนติกล่าวแล้วชายหนุ่มผมสีแดงสดก็ได้มองตัวเองในตอนนี้ ความรู้สึกเก่าๆเริ่มกลับเข้ามา พอได้ใช้ครั้งแรก ครั้งต่อๆไปมันก็ไม่ตำเป็นต้องมีตัวกระตุ้นอีกแล้ว แถมในตอนนี้พลังส่วนใหญ่ที่เขาใช้ก็คือตราบาปสามขั้นนี้นี่แหละ
“จะขอบคุณหรือจะโกรธดีเนี่ย...”
“แต่นายยังเหลือตราบาปอีกสองชนิดที่ยังไม่ได้ปลดล็อคน้า~” เวนติกล่าว
“แล้วเอ็งจะสปอยล์ทำพรื๊อ!!”
“เอ้า ก็หนึ่งในนั้นเป็นสิ่งที่ผนึกความทรงจำของนายไว้อยู่ไง แต่ผมไม่รู้หรอกน้า~”
‘เดี๋ยวก็จับยัดลงโอ่งซะเลยนี่!’
“ถ้างั้นก็ฝากด้วยแล้วกันนะ หัวหน้า~” เวนติได้เดินนำออกไปเลย
“นี่ชั้นกลายเป็นหัวหน้าตั้งแต่เมื่อไหร่กันเนี่ย”
“เวนติเขารู้ในสิ่งที่คุณยังนึกไม่ออกน่ะค่ะ ไว้เราค่อยๆมาเก็บความทรงจำด้วยกันนะคะ” ลูมินกล่าวพร้อมกับจับมือเซจวิ่งตามเวนติไป
“เราก็ไปกันเถอะ คุณเซซิเลีย” เบียงก้ากล่าวพร้อมกับจับมือเซซิเลีย
“อืม”
แล้วเรื่องราวจะเป็นอย่างไรต่อไป โปรดติดตาม...
----
ถ้างั้นก็ เจอกันตอนหน้าครับ
ความคิดเห็น