คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #4 : ตื่นขึ้นจตุรเทพคนที่3
ณ โรงเรียน หลังจากที่ตัวของโอคุโตะและแฟนท่อมได้ไปตามหาเด็กสาวที่เป็นเหมือนกับเจ้าหญิงของดาวนั้นมาเป็นเวลากว่า2วันทั้งสองคนก็ไม่ได้มีอะไรคืบหน้าเลยจนกระทั่งไคล์ได้ติดต่อมาหาพวกเขา
“เลิกเรียนแล้วมาหาฉันที่ศูนย์ใหญ่นะ ฉันมีของบางอย่างที่จะต้องให้”
พอโอคุโตะได้อ่านข้อความนั้นก็เกิดอาการเบื่อเนื่องจากว่าต้องตามหาเจ้าหญิงเอเลี่ยนแถมวันนี้น่าจะเป็นวันสุดท้ายก่อนที่พวกเอเลี่ยนจะเป่าโลกนี้ทิ้ง
“ทำหน้าเหมือนกำลังจะตายเลยนะ”
“ใช่น่ะสิ...จะตายจริงๆนั่นแหละ ว่าแต่โซตะ ตัวของประธานนี่ยังไม่มาโรงเรียนอีกหรอ?”
“หมอบอกว่าต้องนอนโรงพยาบาลจนกว่าจะดีขึ้นน่ะ...”
“หรอ...นายนี่ดีจังนะ พี่สาวก็สวย เรียนก็เก่ง หล่ออีกต่างหาก”
“ก็ไม่ได้ขนาดนายที่ต้องวิ่งงานนั่นนู่นนี่ทุกวันหรอกนะ เห็นว่าช่วงนี้เยอะเป็นพิเศษเลยนี่”
“อา...ค่อนข้างหนักหน่วงเลยล่ะ”
.
.
.
.
ในระหว่างทางไปยังโรงพยาบาลตัวของโซตะก็ได้มากับโอคุโตะและชินจิ(แฟนท่อม)เพื่อที่จะติวหนังสือให้เพราะไอ้2คนนี้มันไม่ค่อยถูกกับวิชาคณิตศาสตร์ แต่พอกำลังจะไปที่ห้องสมุดก็เจอกับเด็กหญิงผมสีทองคนเดิมที่ยืนมองรถขายไอศกรีมอยู่ด้านหน้าห้องสมุด
“สารวัตร เจอตัวแล้วครับ!”
โอคุโตะได้รีบแจ้งไปหาไคล์ที่ศูนย์ใหญ่ทันทีจนไคล์บอกให้สั่งจับตัวเธอมาแต่ในขณะที่ทั้งโอคุโตะและแฟนท่อมกำลังจะเข้าไปจับเด็กสาว เธอจึงเกิดอาการกลัวแต่ว่าก็มีโซตะเข้ามาห้ามเอาไว้
“หยุดนะ! พวกนายไม่คิดจะฟังเด็กคนนี้บ้างรึไงกัน!”
“นายทำบ้าอะไรของนายน่ะ! เด็กคนนั้นคือตัวที่ทำให้โลกของเราพินาศได้เลยนะ!”
“แต่จริง ๆ ฉันก็ไม่ได้ขัดข้องกับความคิดของนายหรอกนะโซตะ”
“ไอ้แฟนท่อม!”
“เอ้า ก็หาทางออกอย่างสันติไง ทั้งฝ่ายเด็ก,ฝ่ายเราแล้วก็พวกเอเลี่ยนนั่นด้วย” แฟนท่อมกล่าว แล้วตัวของโซตะก็ได้เข้าไปหาเด็กหญิงคนนั้นพร้อมกับถามไป
“ฉันชื่อ มินามิ โซตะ ฉันไม่ได้มาทำร้ายเธอหรอกนะ”
“แต่ว่า...”
“เอาเถอะ ลองเล่าเรื่องของเธอให้ฟังหน่อยสิ”
“...ฉันชื่อ เรน่า องค์หญิงลำดับที่1ของดาวรูเบลรุส กาแล็คซี่RB0037”
“ทำไมพวกนั้นต้องการตัวเธอ?”
“...เพื่อไปทำลายล้างจักรวาล...”
พอเรน่าได้พูดขึ้นมาทั้งสามคนก็ยืนติดสตั้นไป3วินาทีก่อนจะมีเหล่าทหารเอเลี่ยนโผล่มาพร้อมกับปืนเลเซอร์ไล่กราดยิงคนแถวนั้นแต่โชคดีที่ชินจิ(แฟนท่อม)ได้พาคนแถวนี้ออกไปหมดแล้วเลยทำให้ไม่มีผู้เสียชีวิต แต่ว่าในขณะที่โอคุโตะและแฟนท่อมกำลังยุ่งอยู่กับทหารส่วนหนึ่ง โซตะที่พยายามจะปกป้องเรน่าก็ถูกดาบเลเซอร์แทงทะลุร่างกายก่อนจะถูกโยนออกไปเหมือนเศษขยะ
“โซตะ!!!!”
โอคุโตะตะโกนออกไปสุดเสียงก่อนพลังของเขาจะถูกปลดปล่อยออกมาอีกครั้งนึง(ฮาฟอัลติเมท) ผมของเขาเริ่มมีสีดำปกคลุมเล็กน้อยก่อนเขาจะใช้ความเร็วในการฆ่าเหล่าทหารเอเลี่ยนจนหมดแต่ก็ยังเหลือตัวแจมนั่นก็คือซาดิอุสที่สัมผัสถึงพลังของโอคุโตะได้ก็โผล่เช้ามาปะทะกับเขาในทันที
“หลีกไป!!”
ชายผมสีดำแดงโจมตีด้วยความโกรธแต่ก็ถูกเวทย์มิติของซาดิอุสเล่นงานจนถูกโจมตีสวนกลับมา
“กระจอกกว่าตอนแรกที่เราเจอกันอีกนะ เซย์จิ โอคุโตะ”
“หนวกหู! ทำไมแกต้องโผล่มาตอนนี้ด้วยวะ! ซาดิอุส!”
"ก็เพื่อเอาแกเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของฉัน ฉันจะได้เติมเต็มสักที!” พอกล่าวจบซาดิอุสก็ได้ใช้เวทย์มิติวาร์ปเข้ามาหาโอคุโตะแต่ก็ถูกแฟนท่อมจัดการโต้กลับไป
จนกระทั่งมิคุระและยูเอมิได้เดินทางมาสมทบก่อนซาดิอุสจะหนีไปแล้วจากนั้นโอคุโตะก็คืนร่างเดิมพร้อมกับอาการเหนื่อยหอบ ส่วนเรน่าก็ยังคงช็อคกับสิ่งที่เกิดขึ้น
“เด็กคนนี้หรอเจ้าหญิงเอเลี่ยนน่ะ?” หญิงสาวผมสีชมพูถาม
“ใช่...ส่วนมินามิ...ตายแล้วงั้นหรอ” มิคุระถามซ้ำเข้าไปอีก
พอเจอคำถามนี้ทั้งโอคุโตะและแฟนท่อมก็อึ้งแล้วก็พูดไม่ออกแล้วก็มีเฮลิคอปเตอร์บินมาหาพวกเขาแล้วก็มีใบหน้าอันคุ้นเคยนั่นก็คือสารวัตรไคล์และลูกน้อง
“พาเด็กนั่นขึ้นมา”
แล้วไคล์ก็ได้พาพวกโอคุโตะพร้อมกับเรน่าและศพของโซตะไปที่ศูนย์ใหญ่หน่วยของเขาเอง
.
.
.
.
ณ สถานที่ที่ไม่รู้จัก โซตะได้ตื่นขึ้นมาในวิหารแห่งหนึ่งซึ่งมีชายหน้าตาคล้ายๆกับเขาพร้อมกับหญิงสาวสวมเกราะที่มีปีกอยู่ด้วย
“ที่นี่ที่ไหนกัน พวกคุณเป็นใคร?” โซตะถาม
“ฟื้นแล้วหรอ...ที่นี่คือจุดกึ่งกลางระหว่างภพคนเป็นกับภพคนตาย ผมคือลุชวิก เป็นเทพผู้ส่งสาสน์ และผมมีข้อเสนอด้วยหากนายอยากกลับไปมีชีวิตต่อ”
“ข้อเสนอ?” ชายหนุ่มทำหน้างงพร้อมกับเกาหัวแกรกๆ
“มาเป็นผู้สืบทอดของผมสิ”
“ห...ห๊ะ?!”
“พูดกับเด็กแบบนั้นจะเข้าใจได้ยังไงกันลุชวิก เสียสติไปแล้วหรอ?” หญิงสาวที่ประกบคู่ถาม
“เห็นเป็นเด็กหน้าตาบ้านๆแบบนี้เขาก็เป็นถึงน้องชายของ เฮสคาลิน่า เลยนะ”
“เฮสคาลิน่า? ผมไม่ได้-”
“ก็ มินามิ ฮารุกะ พี่สาวของนายนั่นแหละ อย่าคิดว่าผมไม่รู้เรื่องอะไรของนายเลยนะโซตะ ผมจับตาดูนายมาตลอดนั่นแหละ”
“!?”
“เอาล่ะผมจะช่วยนายก่อน ถ้าเกิดตัดสินใจได้เมื่อไหร่ค่อยมาหาผมแล้วกัน”
แล้วตัวของลุชวิกก็ได้ส่งโซตะออกไปด้านนอกโดยที่โซตะมันก็ยังคงไม่เข้าใจกับเรื่องราวที่เกิดขึ้นจริงๆ
.
.
.
.
ณ ศูนย์ใหญ่หน่วยปราบปรามพิเศษสิ่งปกติเหนือธรรมชาติ ไคล์ก็ได้พาตัวของเรน่าเข้ามาสอบปากคำเพื่อหาข้อมูลเกี่ยวกับเอเลี่ยนพวกนั้นแต่ในขณะที่กำลังล้วงความลับจู่ ๆ โซตะที่คิดว่าตายแล้วก็ฟื้นกลับมาพร้อมกับแผลที่หายสนิท
“เหมือนกับโอคุโตะจังตอนนั้นเลย!”
“โอคุโตะเองก็ตายมาก่อนหรอ?”
แฟนท่อมถามแล้วตัวของยูเอมิก็พยักหน้าตอบ โอคุโตะจึงได้ถามกับโซตะไป
"นายไปเจอใครมารึเปล่า? แบบตัวตนที่ดูประหลาด ๆ ไม่ค่อยน่าไว้ใจหน่อยน่ะ”
“นายรู้ได้ยังไง?!”
“ฉันก็เป็นแบบนายนั่นแหละ แต่แค่ความกรณีของฉันคือมันไปปลุกความเป็นตัวประหลาดออกมาแค่นั้นเอง”
พอคุยกันจบ ไคล์ก็ได้เดินออกมาพร้อมกับได้เล่าข่าวร้ายให้กับพวกโอคุโตะได้ฟัง
“เราจะคืนตัวเด็กคนนี้ให้กับเอเลี่ยนพวกนั้นไม่ได้เด็ดขาด”
“หมายความว่ายังไงกันครับสารวัตร?” เด็กหนุ่มผมสีแดงสดถาม
“ฉันได้ลองตรวจสอบข้อมูลของเอเลี่ยนพวกนั้นรวมถึงข้อมูลที่เด็กคนนี้รายงานมา ก็พบว่าเอเลี่ยนบนดาวดวงนั้นน่ะเป็นพวกล่าอาณานิคม ถึงเราจะส่งตัวเด็กคนนี้คืนไปเจ้าพวกนั้นก็คงรุกรานเราอยู่ดี”
“เป็นพวกที่ต่อให้ก้มหัวให้ก็ต้องจับมาทำเป็นทาสสินะ” แฟนท่อมกล่าว
“ถูกต้อง ถึงอารมณ์มันจะต่างจากแฝดนรกน่ารำคาญอย่างรูน-รีนก็ตามแต่ยังไงเราก็มีวิธีเดียวก็คือไล่พวกมันออกไป”
พอไคล์ได้พูดขึ้นมาทั้งโอคุโตะ,มิคุระ,ยูเอมิและแฟนท่อมก็ตกใจเล็กน้อยเพราะว่าไคล์เองก็รู้จักรูน-รีนด้วยแต่ก็น่าจะพอเข้าใจได้เพราะไคล์เองก็น่าจะรู้จักก่อนพวกเขาอีก
“เอาเถอะ ฉันจะไปเตรียมตัวก่อน พวกนายก็ดูข่าวไปเรื่อยๆแล้วกันถ้าเกิดว่าเจ้าพวกนั้นบุกเมื่อไหร่ก็ถึงตาพวกนายแล้ว”
ไคล์กล่าวก่อนจะเดินออกไปเพื่อประชุมแผนการต่อส่วนเรน่าก็ยังคงตกใจและสั่นกลัวเมื่อยังเห็นโซตะมีชีวิตอยู่ เธอค่อยๆนั่งลงข้างๆโซตะก่อนจะจับมือของเขา
“อย่าทิ้งฉันไว้อีกนะ...”
“...”
“จะว่าไป...เจ้าพวกนั้นมันยังไม่ยอมออกไปไหนเลยแฮะ...จะไปขอความช่วยเหลือจากอาจารย์ก็ไม่ได้” โอคุโตะเริ่มบ่น
“อย่างน้อยนายก็ใช้ฮาล์ฟอัลติเมทได้แล้วนี่” มิคุระกล่าว
“ฮาล์ฟอัลติเมท?” โอคุโตะสงสัย
“มันต่างจากตอนแรกที่นายได้พลังมาตรงที่ว่าพลัง,ความเร็วและการควบคุมสติของตัวนายเองยังไม่ดีเท่าตอนแรกเจ้าซาดิอุสมันก็เลยพูดแบบนั้นได้”
“หรอ ตอนนั้นฉันเก่งขนาดนั้นเลยหรอ?”
“นี่เอ็งจำอะไรไม่ได้จริงดิ” แฟนท่อมถาม
โอคุโตะพอถูกถามแบบนั้นมันก็เงียบแล้วก็ไม่พูดอะไรต่อจากนั้นเรน่าก็รู้สึกถึงอะไรบางอย่างจากพ่อของเธอทำให้เธอเกิดอาการสั่นกลัว
“ท่านพ่อ...กำลังจะมาที่นี่...”
“งั้นฉันไปสะกัดให้ก่อนแล้วกัน”
มิคุระกล่าวแต่ว่าเขาก็ถูกยูเอมิดึงตัวเอาไว้ก่อนเพราะว่าถ้าเกิดนั่นเป็นแผนหลอกล่อจริงๆแค่3คนคงจะเอาพวกนั้นไม่ไหวแน่นอนแต่มิคุระก็ได้สวนกลับไป
“3ใน4จตุรเทพก็อยู่ตรงนี้แล้วนี่”
“ที่เธอเคยพูดน่ะหรอ”
“ใช่ คนแรกก็คือโอคุโตะ คนที่สองก็คือแฟนท่อม และคนที่สาม-”
“ฉันหรอ?” ยูเอมิชี้เข้าหาตัวเอง
“เปล่า” มิคุระกล่าวพร้อมกับชี้ไปหาโซตะที่ยังตามเหตุการณ์ไม่ทัน
“เอ๊ะ โอเร๊ะ?”
“เอ็งนั่นแหละมินามิ ตามคำทำนายของเทพจุดจบคนที่ได้รับพรจากลุชวิกมาก็คือนายสินะ”
“รู้เรื่องนั้นได้ยังไง?!”
“เห็นฉันเป็นแบบนี้จริง ๆ ฉันรู้แม้กระทั่งว่าเรื่องมันจะจบยังไงด้วยซ้ำแต่ว่าบอกไม่ได้เดี๋ยวมันจะเละไปหมด”
“งั้นแสดงว่า-”
“พวกนายสามคนก็เหลือเฟือแล้วล่ะ”
พอมิคุระกล่าวจบเขาก็ได้ออกไปเพื่อถ่วงพ่อของเรน่าเอาไว้แต่ความจริงคือเขาไม่ได้จะไปถ่วงเวลาให้แต่อย่าใดเพราะเขาจะไปเอาตัวของฮารุกะออกมาจากโรงพยาบาลก่อนจะถูกเหล่าเอลี่ยนบึ้มทิ้ง แล้วในไม่ช้าก็เป็นอย่างที่เรน่าได้บอกเอาไว้ ชายผมหงอกถือไม้เท้าได้เดินเข้ามาพร้อมกับจัดการยามไปได้อย่างง่ายดาย
“เรน่า...”
“เวรล่ะ ทุกคนเราต้องออกไปจากที่นี่-” ในขณะที่แฟนท่อมกำลังจะพาหนีชายแก่ก็ได้ใช้ไม้เท้าเคาะกับพื้นแล้วทั้ง5คนก็ออกมาด้านนอกก่อนจะเคาะอีกครั้งทำให้แรงโน้มถ่วงนั้นกดทับร่างของแฟนท่อม,โอคุโตะ,โซตะและยูเอมิลงกับพื้น
“กลับมาหาข้าซะเรน่า”
ชายแก่กล่าวก่อนที่จะเคาะไม้เท้าอีกครั้งแล้วร่างของเรน่าก็ได้ถูกเปลี่ยนไปเป็นหอกเล่มหนึ่งซึ่งเขาก็ทิ้งให้พวกโอคุโตะต้องสู้กับพวกกีกี้อยู่ด้านล่าง
“เรน่า!!!!!!!”
โซตะตะโกนออกมาหลังจากที่เสียเรน่าคืนไปให้พ่อของเธอแล้วตัวของโอคุโตะกับแฟนท่อมก็จัดการละเลงเลือดพวกที่จะเข้ามาโจมตีพวกเขา
“วิญญาณเอเลี่ยนนี่ก็อร่อยดีเหมือนกันนะเนี่ย”
“แฟนท่อม!”
โอคุโตะได้ขว้างปืนสองกระบอกของเขาให้กับซาตานก่อนที่ซาตานจะประกอบกันกลายเป็นปืนอีกกระบอกหนึ่ง
“แหลกไปซร้า!!!”
ตู้ม! ลูกกระสุนถูกลั่นออกมาใส่ยานรบลำหนึ่งของเหล่าเอเลี่ยนและกระสุนนี้ไปเจาะบาเรียที่ทันสมัยของเอเลี่ยนเหล่านั้นได้อย่างสบายก่อนที่ยานลำนั้นจะร่วงลงมาที่พื้น
“ปืนนั่นมันบ้าอะไรกันเนี่ย!?”
โซตะตกใจมากเมื่อปืนประหลาดมีพลังทำลายล้างที่สูงมากๆจนพ่อของเรน่าก็ได้ส่งมือขวาของตนเองลงมาเพื่อปราบพวกโอคุโตะที่ก่อความวุ่นวายให้กับแผนการของเขา
“จะว่าไปพวกแกนี่ก็เหมือนอยู่นะ 4จตุรเทพในตำนานนั่นน่ะแต่ก็นะ คงไม่ใช่คู่ต่อสู้ของข้าหรอก”
“ยูเอมิ รีบพาโซตะหนีไปเร็ว!” โอคุโตะสั่ง
“โซตะคุงเขาไม่ยอมขยับเลย!”
ในขณะที่กำลังวุ่นวายอยู่ ตัวของโซตะที่นิ่งไปเพราะเขาก็ได้ไปหาตัวของลุชวิกอีกครั้งนึงเพื่อตอบคำถาม
“คำตอบล่ะครับ?”
“ผมจะสืบทอดครับ ทั้งพลังแล้วก็หน้าที่ของคุณ”
“ดี...งั้นก็รับนี่ไป”
ลุชวิกได้เปลี่ยนสภาพของสาวๆด้านหลังของเขาให้กลายเป็นหอกก่อนจะมอบให้กับโซตะ
“นี่คือ บรุนด์ฮิล กับ ซิกรุนด์ ทั้งสองจะช่วยดูแลนายต่อจากนี้ไป”
“อย่าบอกนะว่า?! วัลคีรี่ของเทพโอดินในนิยาย-”
“โอดินน่ะมีจริง”
พอลุชวิกกล่าวจบเขาก็ได้ไล่โซตะออกไปพร้อมกับหอกทั้งสองเล่มก่อนที่เขาจะลืมตาตื่นขึ้นมาแล้วก็พบกับมือขวาพ่อของเรน่าได้ทำการ1รุม3อยู่แต่ที่ตึงมือมันจริงๆเห็นจะมีแต่แฟนท่อมที่มีประสบการณ์ในการต่อสู้มากกว่าเพื่อน
“ทุกคนหลบไป!”
โซตะตะโกนเสียงดังพร้อมกับเรียกหอกที่พึ่งได้จากตัวของลุชวิกออกมาทำให้ตัวของแฟนท่อมที่รู้จักกับหอกสองเล่มนั้นดีก็ตกใจ
“โอคุโตะ! ยูเอมิ! หลบเร็ว!”
แฟนท่อมตะโกนพร้อมกับกระโดดหลบส่วนโอคุโตะก็พุ่งไปพาตัวของยูเอมิออกมา
“จงทะลวงทุกสรรพสิ่ง หอกศักดิ์สิทธิ์แห่งโอดิน!"
"Divine Drive!”
(ดีไวน์ ไดร์ฟ)
แล้วหอกศักดิ์สิทธิ์ทั้งสองเล่มในมือของโซตะก็ถูกปาออกไปด้วยความเร็วสูงจนทำให้มือขวาของพ่อเรน่าต้องหลบการโจมตีแต่ด้วยความสามารถของบรินท์ฮิลทำให้หอกทั้งสองเล่มจะติดตามไปเรื่อยๆส่วนความสามารถของซิกรุนก็คือเพิ่มพลังโจมตีขึ้นตามความเร็วที่ถูกปาออกมา ยิ่งถูกปาออกมาเร็วและนานเท่าไหร่พลังโจมตียิ่งจะสูงขึ้น
“น่ารำคาญจริง!”
มือขวาพ่อของเรน่าได้ใช้เกราะขั้นสูงในการรับมือกับบรินท์ฮิลและซิกรุนที่ถูกปล่อยออกมาทำให้ในจังหวะทีเผลอมีช่วงว่างในการโจมตี
“จงสำแดงฤทธิ์ ตาชั่งแห่งลิบร้า!”
ยูเอมิได้ใช้ท่าของลิบร้าในการเพิ่มน้ำหนักร่างกายมือขวาของพ่อเรน่าจนร่างกายของเขาในตอนนี้หนักมากๆและไม่สามารถยกแขนขึ้นได้จนบาเรียที่ถูกกางก็ได้คลายออกทำให้โดนเต็มๆ
“The-Eclipse!”
(ดิ อีคลิปส์!)
“Judgement Inferno!”
(จัดท์เมนท์ อินเฟอร์โน)
ตู้มมมมมมมม ท่าของทั้งสองคนกระแทกเข้าไปที่หน้าของมือขวาพ่อของเรน่าจนร่างของเขาปลิวไปไกลแต่ก็ยังไม่ถึงกับชนะเพราะว่ามันก็ถึกพอสมควร
“มันยังไม่ตายอีกหรอน่ะ!”
“พวกนายน่ะไปช่วยเด็กคนนั้นเลยทางนี้ฉันเอง”
แล้วก็มีเสียงของไคล์ดังขึ้นพร้อมกับห่าฝนดระสุนปืนยิงกระหน่ำใส่เอเลี่ยนตัวนั้นอย่างไม่มีหยุดยั้ง แฟนท่อมจึงได้พาทั้งสามคนออกมาก่อนส่วนไคล์ก็รู้ดีว่าแค่กระสุนปืนปกติเจาะผิวหนังของมันไม่เข้าแน่นอน
“นากาโตะ ถึงเวลาของนายแล้ว”
“โอ๊ส...”
เสียงเอื่อย ๆ จากบนรถตู้ดังออกมาก่อนจะมีชายผมสีเขียวเดินลงมาจากรถแล้วเหล่าทหารชั้นผู้น้อยก็ทำความเคารพเขา
“ร้อยเอกอาคัตสึกิ ขออภัยที่-”
“ช่างเหอะ แค่ให้ผมจัดการเจ้านั่นสินะสารวัตร?”
“เออ”
“เอาล่ะ...ได้เวลากินแล้ว!”
แล้วเรื่องราวจะเป็นอย่างไรต่อไปโปรดติดตาม...
ถ้างั้นก็ เจอกันตอนหน้าครับ เย้
ความคิดเห็น