ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Rebirth Omega : The Birth of Rebirth ต้นกำเนิดจักรวาลรีเบิร์ท

    ลำดับตอนที่ #4 : ตื่นขึ้นจตุรเทพคนที่3

    • อัปเดตล่าสุด 20 ม.ค. 66


    ณ โรงเรียน หลังจากที่ตัวของโอคุโตะและแฟนท่อมได้ไปตามหาเด็กสาวที่เป็นเหมือนกับเจ้าหญิงของดาวนั้นมาเป็นเวลากว่า2วันทั้งสองคนก็ไม่ได้มีอะไรคืบหน้าเลยจนกระทั่งไคล์ได้ติดต่อมาหาพวกเขา

    “เลิกเรียนแล้วมาหาฉันที่ศูนย์ใหญ่นะ ฉันมีของบางอย่างที่จะต้องให้”

    พอโอคุโตะได้อ่านข้อความนั้นก็เกิดอาการเบื่อเนื่องจากว่าต้องตามหาเจ้าหญิงเอเลี่ยนแถมวันนี้น่าจะเป็นวันสุดท้ายก่อนที่พวกเอเลี่ยนจะเป่าโลกนี้ทิ้ง

    “ทำหน้าเหมือนกำลังจะตายเลยนะ”

    “ใช่น่ะสิ...จะตายจริงๆนั่นแหละ ว่าแต่โซตะ ตัวของประธานนี่ยังไม่มาโรงเรียนอีกหรอ?”

    “หมอบอกว่าต้องนอนโรงพยาบาลจนกว่าจะดีขึ้นน่ะ...”

    “หรอ...นายนี่ดีจังนะ พี่สาวก็สวย เรียนก็เก่ง หล่ออีกต่างหาก”

    “ก็ไม่ได้ขนาดนายที่ต้องวิ่งงานนั่นนู่นนี่ทุกวันหรอกนะ เห็นว่าช่วงนี้เยอะเป็นพิเศษเลยนี่”

    “อา...ค่อนข้างหนักหน่วงเลยล่ะ”

    .

    .

    .

    .

    ในระหว่างทางไปยังโรงพยาบาลตัวของโซตะก็ได้มากับโอคุโตะและชินจิ(แฟนท่อม)เพื่อที่จะติวหนังสือให้เพราะไอ้2คนนี้มันไม่ค่อยถูกกับวิชาคณิตศาสตร์ แต่พอกำลังจะไปที่ห้องสมุดก็เจอกับเด็กหญิงผมสีทองคนเดิมที่ยืนมองรถขายไอศกรีมอยู่ด้านหน้าห้องสมุด

    “สารวัตร เจอตัวแล้วครับ!”

    โอคุโตะได้รีบแจ้งไปหาไคล์ที่ศูนย์ใหญ่ทันทีจนไคล์บอกให้สั่งจับตัวเธอมาแต่ในขณะที่ทั้งโอคุโตะและแฟนท่อมกำลังจะเข้าไปจับเด็กสาว เธอจึงเกิดอาการกลัวแต่ว่าก็มีโซตะเข้ามาห้ามเอาไว้

    “หยุดนะ! พวกนายไม่คิดจะฟังเด็กคนนี้บ้างรึไงกัน!”

    “นายทำบ้าอะไรของนายน่ะ! เด็กคนนั้นคือตัวที่ทำให้โลกของเราพินาศได้เลยนะ!”

    “แต่จริง ๆ ฉันก็ไม่ได้ขัดข้องกับความคิดของนายหรอกนะโซตะ”

    “ไอ้แฟนท่อม!”

    “เอ้า ก็หาทางออกอย่างสันติไง ทั้งฝ่ายเด็ก,ฝ่ายเราแล้วก็พวกเอเลี่ยนนั่นด้วย” แฟนท่อมกล่าว แล้วตัวของโซตะก็ได้เข้าไปหาเด็กหญิงคนนั้นพร้อมกับถามไป

    “ฉันชื่อ มินามิ โซตะ ฉันไม่ได้มาทำร้ายเธอหรอกนะ”

    “แต่ว่า...”

    “เอาเถอะ ลองเล่าเรื่องของเธอให้ฟังหน่อยสิ”

    “...ฉันชื่อ เรน่า องค์หญิงลำดับที่1ของดาวรูเบลรุส กาแล็คซี่RB0037”

    “ทำไมพวกนั้นต้องการตัวเธอ?”

    “...เพื่อไปทำลายล้างจักรวาล...”

    พอเรน่าได้พูดขึ้นมาทั้งสามคนก็ยืนติดสตั้นไป3วินาทีก่อนจะมีเหล่าทหารเอเลี่ยนโผล่มาพร้อมกับปืนเลเซอร์ไล่กราดยิงคนแถวนั้นแต่โชคดีที่ชินจิ(แฟนท่อม)ได้พาคนแถวนี้ออกไปหมดแล้วเลยทำให้ไม่มีผู้เสียชีวิต แต่ว่าในขณะที่โอคุโตะและแฟนท่อมกำลังยุ่งอยู่กับทหารส่วนหนึ่ง โซตะที่พยายามจะปกป้องเรน่าก็ถูกดาบเลเซอร์แทงทะลุร่างกายก่อนจะถูกโยนออกไปเหมือนเศษขยะ

    “โซตะ!!!!”

    โอคุโตะตะโกนออกไปสุดเสียงก่อนพลังของเขาจะถูกปลดปล่อยออกมาอีกครั้งนึง(ฮาฟอัลติเมท) ผมของเขาเริ่มมีสีดำปกคลุมเล็กน้อยก่อนเขาจะใช้ความเร็วในการฆ่าเหล่าทหารเอเลี่ยนจนหมดแต่ก็ยังเหลือตัวแจมนั่นก็คือซาดิอุสที่สัมผัสถึงพลังของโอคุโตะได้ก็โผล่เช้ามาปะทะกับเขาในทันที

    “หลีกไป!!”

    ชายผมสีดำแดงโจมตีด้วยความโกรธแต่ก็ถูกเวทย์มิติของซาดิอุสเล่นงานจนถูกโจมตีสวนกลับมา

    “กระจอกกว่าตอนแรกที่เราเจอกันอีกนะ เซย์จิ โอคุโตะ”

    “หนวกหู! ทำไมแกต้องโผล่มาตอนนี้ด้วยวะ! ซาดิอุส!”

    "ก็เพื่อเอาแกเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของฉัน ฉันจะได้เติมเต็มสักที!” พอกล่าวจบซาดิอุสก็ได้ใช้เวทย์มิติวาร์ปเข้ามาหาโอคุโตะแต่ก็ถูกแฟนท่อมจัดการโต้กลับไป

    จนกระทั่งมิคุระและยูเอมิได้เดินทางมาสมทบก่อนซาดิอุสจะหนีไปแล้วจากนั้นโอคุโตะก็คืนร่างเดิมพร้อมกับอาการเหนื่อยหอบ ส่วนเรน่าก็ยังคงช็อคกับสิ่งที่เกิดขึ้น

    “เด็กคนนี้หรอเจ้าหญิงเอเลี่ยนน่ะ?” หญิงสาวผมสีชมพูถาม

    “ใช่...ส่วนมินามิ...ตายแล้วงั้นหรอ” มิคุระถามซ้ำเข้าไปอีก

    พอเจอคำถามนี้ทั้งโอคุโตะและแฟนท่อมก็อึ้งแล้วก็พูดไม่ออกแล้วก็มีเฮลิคอปเตอร์บินมาหาพวกเขาแล้วก็มีใบหน้าอันคุ้นเคยนั่นก็คือสารวัตรไคล์และลูกน้อง

    “พาเด็กนั่นขึ้นมา”

    แล้วไคล์ก็ได้พาพวกโอคุโตะพร้อมกับเรน่าและศพของโซตะไปที่ศูนย์ใหญ่หน่วยของเขาเอง

    .

    .

    .

    .

    ณ สถานที่ที่ไม่รู้จัก โซตะได้ตื่นขึ้นมาในวิหารแห่งหนึ่งซึ่งมีชายหน้าตาคล้ายๆกับเขาพร้อมกับหญิงสาวสวมเกราะที่มีปีกอยู่ด้วย

    “ที่นี่ที่ไหนกัน พวกคุณเป็นใคร?” โซตะถาม

    “ฟื้นแล้วหรอ...ที่นี่คือจุดกึ่งกลางระหว่างภพคนเป็นกับภพคนตาย ผมคือลุชวิก เป็นเทพผู้ส่งสาสน์ และผมมีข้อเสนอด้วยหากนายอยากกลับไปมีชีวิตต่อ”

    “ข้อเสนอ?” ชายหนุ่มทำหน้างงพร้อมกับเกาหัวแกรกๆ

    “มาเป็นผู้สืบทอดของผมสิ”

    “ห...ห๊ะ?!”

    “พูดกับเด็กแบบนั้นจะเข้าใจได้ยังไงกันลุชวิก เสียสติไปแล้วหรอ?” หญิงสาวที่ประกบคู่ถาม

    “เห็นเป็นเด็กหน้าตาบ้านๆแบบนี้เขาก็เป็นถึงน้องชายของ เฮสคาลิน่า เลยนะ”

    “เฮสคาลิน่า? ผมไม่ได้-”

    “ก็ มินามิ ฮารุกะ พี่สาวของนายนั่นแหละ อย่าคิดว่าผมไม่รู้เรื่องอะไรของนายเลยนะโซตะ ผมจับตาดูนายมาตลอดนั่นแหละ”

    “!?”

    “เอาล่ะผมจะช่วยนายก่อน ถ้าเกิดตัดสินใจได้เมื่อไหร่ค่อยมาหาผมแล้วกัน”

    แล้วตัวของลุชวิกก็ได้ส่งโซตะออกไปด้านนอกโดยที่โซตะมันก็ยังคงไม่เข้าใจกับเรื่องราวที่เกิดขึ้นจริงๆ

    .

    .

    .

    .

    ณ ศูนย์ใหญ่หน่วยปราบปรามพิเศษสิ่งปกติเหนือธรรมชาติ ไคล์ก็ได้พาตัวของเรน่าเข้ามาสอบปากคำเพื่อหาข้อมูลเกี่ยวกับเอเลี่ยนพวกนั้นแต่ในขณะที่กำลังล้วงความลับจู่ ๆ โซตะที่คิดว่าตายแล้วก็ฟื้นกลับมาพร้อมกับแผลที่หายสนิท

    “เหมือนกับโอคุโตะจังตอนนั้นเลย!”

    “โอคุโตะเองก็ตายมาก่อนหรอ?”

    แฟนท่อมถามแล้วตัวของยูเอมิก็พยักหน้าตอบ โอคุโตะจึงได้ถามกับโซตะไป

    "นายไปเจอใครมารึเปล่า? แบบตัวตนที่ดูประหลาด ๆ ไม่ค่อยน่าไว้ใจหน่อยน่ะ”

    “นายรู้ได้ยังไง?!”

    “ฉันก็เป็นแบบนายนั่นแหละ แต่แค่ความกรณีของฉันคือมันไปปลุกความเป็นตัวประหลาดออกมาแค่นั้นเอง”

    พอคุยกันจบ ไคล์ก็ได้เดินออกมาพร้อมกับได้เล่าข่าวร้ายให้กับพวกโอคุโตะได้ฟัง

    “เราจะคืนตัวเด็กคนนี้ให้กับเอเลี่ยนพวกนั้นไม่ได้เด็ดขาด”

    “หมายความว่ายังไงกันครับสารวัตร?” เด็กหนุ่มผมสีแดงสดถาม

    “ฉันได้ลองตรวจสอบข้อมูลของเอเลี่ยนพวกนั้นรวมถึงข้อมูลที่เด็กคนนี้รายงานมา ก็พบว่าเอเลี่ยนบนดาวดวงนั้นน่ะเป็นพวกล่าอาณานิคม ถึงเราจะส่งตัวเด็กคนนี้คืนไปเจ้าพวกนั้นก็คงรุกรานเราอยู่ดี”

    “เป็นพวกที่ต่อให้ก้มหัวให้ก็ต้องจับมาทำเป็นทาสสินะ” แฟนท่อมกล่าว

    “ถูกต้อง ถึงอารมณ์มันจะต่างจากแฝดนรกน่ารำคาญอย่างรูน-รีนก็ตามแต่ยังไงเราก็มีวิธีเดียวก็คือไล่พวกมันออกไป”

    พอไคล์ได้พูดขึ้นมาทั้งโอคุโตะ,มิคุระ,ยูเอมิและแฟนท่อมก็ตกใจเล็กน้อยเพราะว่าไคล์เองก็รู้จักรูน-รีนด้วยแต่ก็น่าจะพอเข้าใจได้เพราะไคล์เองก็น่าจะรู้จักก่อนพวกเขาอีก

    “เอาเถอะ ฉันจะไปเตรียมตัวก่อน พวกนายก็ดูข่าวไปเรื่อยๆแล้วกันถ้าเกิดว่าเจ้าพวกนั้นบุกเมื่อไหร่ก็ถึงตาพวกนายแล้ว”

    ไคล์กล่าวก่อนจะเดินออกไปเพื่อประชุมแผนการต่อส่วนเรน่าก็ยังคงตกใจและสั่นกลัวเมื่อยังเห็นโซตะมีชีวิตอยู่ เธอค่อยๆนั่งลงข้างๆโซตะก่อนจะจับมือของเขา

    “อย่าทิ้งฉันไว้อีกนะ...”

    “...”

    “จะว่าไป...เจ้าพวกนั้นมันยังไม่ยอมออกไปไหนเลยแฮะ...จะไปขอความช่วยเหลือจากอาจารย์ก็ไม่ได้” โอคุโตะเริ่มบ่น

    “อย่างน้อยนายก็ใช้ฮาล์ฟอัลติเมทได้แล้วนี่” มิคุระกล่าว

    “ฮาล์ฟอัลติเมท?” โอคุโตะสงสัย

    “มันต่างจากตอนแรกที่นายได้พลังมาตรงที่ว่าพลัง,ความเร็วและการควบคุมสติของตัวนายเองยังไม่ดีเท่าตอนแรกเจ้าซาดิอุสมันก็เลยพูดแบบนั้นได้”

    “หรอ ตอนนั้นฉันเก่งขนาดนั้นเลยหรอ?”

    “นี่เอ็งจำอะไรไม่ได้จริงดิ” แฟนท่อมถาม

    โอคุโตะพอถูกถามแบบนั้นมันก็เงียบแล้วก็ไม่พูดอะไรต่อจากนั้นเรน่าก็รู้สึกถึงอะไรบางอย่างจากพ่อของเธอทำให้เธอเกิดอาการสั่นกลัว

    “ท่านพ่อ...กำลังจะมาที่นี่...”

    “งั้นฉันไปสะกัดให้ก่อนแล้วกัน”

    มิคุระกล่าวแต่ว่าเขาก็ถูกยูเอมิดึงตัวเอาไว้ก่อนเพราะว่าถ้าเกิดนั่นเป็นแผนหลอกล่อจริงๆแค่3คนคงจะเอาพวกนั้นไม่ไหวแน่นอนแต่มิคุระก็ได้สวนกลับไป

    “3ใน4จตุรเทพก็อยู่ตรงนี้แล้วนี่”

    “ที่เธอเคยพูดน่ะหรอ”

    “ใช่ คนแรกก็คือโอคุโตะ คนที่สองก็คือแฟนท่อม และคนที่สาม-”

    “ฉันหรอ?” ยูเอมิชี้เข้าหาตัวเอง

    “เปล่า” มิคุระกล่าวพร้อมกับชี้ไปหาโซตะที่ยังตามเหตุการณ์ไม่ทัน

    “เอ๊ะ โอเร๊ะ?”

    “เอ็งนั่นแหละมินามิ ตามคำทำนายของเทพจุดจบคนที่ได้รับพรจากลุชวิกมาก็คือนายสินะ”

    “รู้เรื่องนั้นได้ยังไง?!”

    “เห็นฉันเป็นแบบนี้จริง ๆ ฉันรู้แม้กระทั่งว่าเรื่องมันจะจบยังไงด้วยซ้ำแต่ว่าบอกไม่ได้เดี๋ยวมันจะเละไปหมด”

    “งั้นแสดงว่า-”

    “พวกนายสามคนก็เหลือเฟือแล้วล่ะ”

    พอมิคุระกล่าวจบเขาก็ได้ออกไปเพื่อถ่วงพ่อของเรน่าเอาไว้แต่ความจริงคือเขาไม่ได้จะไปถ่วงเวลาให้แต่อย่าใดเพราะเขาจะไปเอาตัวของฮารุกะออกมาจากโรงพยาบาลก่อนจะถูกเหล่าเอลี่ยนบึ้มทิ้ง แล้วในไม่ช้าก็เป็นอย่างที่เรน่าได้บอกเอาไว้ ชายผมหงอกถือไม้เท้าได้เดินเข้ามาพร้อมกับจัดการยามไปได้อย่างง่ายดาย

    “เรน่า...”

    “เวรล่ะ ทุกคนเราต้องออกไปจากที่นี่-” ในขณะที่แฟนท่อมกำลังจะพาหนีชายแก่ก็ได้ใช้ไม้เท้าเคาะกับพื้นแล้วทั้ง5คนก็ออกมาด้านนอกก่อนจะเคาะอีกครั้งทำให้แรงโน้มถ่วงนั้นกดทับร่างของแฟนท่อม,โอคุโตะ,โซตะและยูเอมิลงกับพื้น

    “กลับมาหาข้าซะเรน่า”

    ชายแก่กล่าวก่อนที่จะเคาะไม้เท้าอีกครั้งแล้วร่างของเรน่าก็ได้ถูกเปลี่ยนไปเป็นหอกเล่มหนึ่งซึ่งเขาก็ทิ้งให้พวกโอคุโตะต้องสู้กับพวกกีกี้อยู่ด้านล่าง

    “เรน่า!!!!!!!”

    โซตะตะโกนออกมาหลังจากที่เสียเรน่าคืนไปให้พ่อของเธอแล้วตัวของโอคุโตะกับแฟนท่อมก็จัดการละเลงเลือดพวกที่จะเข้ามาโจมตีพวกเขา

    “วิญญาณเอเลี่ยนนี่ก็อร่อยดีเหมือนกันนะเนี่ย”

    “แฟนท่อม!”

    โอคุโตะได้ขว้างปืนสองกระบอกของเขาให้กับซาตานก่อนที่ซาตานจะประกอบกันกลายเป็นปืนอีกกระบอกหนึ่ง

    “แหลกไปซร้า!!!”

    ตู้ม! ลูกกระสุนถูกลั่นออกมาใส่ยานรบลำหนึ่งของเหล่าเอเลี่ยนและกระสุนนี้ไปเจาะบาเรียที่ทันสมัยของเอเลี่ยนเหล่านั้นได้อย่างสบายก่อนที่ยานลำนั้นจะร่วงลงมาที่พื้น

    “ปืนนั่นมันบ้าอะไรกันเนี่ย!?”

    โซตะตกใจมากเมื่อปืนประหลาดมีพลังทำลายล้างที่สูงมากๆจนพ่อของเรน่าก็ได้ส่งมือขวาของตนเองลงมาเพื่อปราบพวกโอคุโตะที่ก่อความวุ่นวายให้กับแผนการของเขา

    “จะว่าไปพวกแกนี่ก็เหมือนอยู่นะ 4จตุรเทพในตำนานนั่นน่ะแต่ก็นะ คงไม่ใช่คู่ต่อสู้ของข้าหรอก”

    “ยูเอมิ รีบพาโซตะหนีไปเร็ว!” โอคุโตะสั่ง

    “โซตะคุงเขาไม่ยอมขยับเลย!”

    ในขณะที่กำลังวุ่นวายอยู่ ตัวของโซตะที่นิ่งไปเพราะเขาก็ได้ไปหาตัวของลุชวิกอีกครั้งนึงเพื่อตอบคำถาม

    “คำตอบล่ะครับ?”

    “ผมจะสืบทอดครับ ทั้งพลังแล้วก็หน้าที่ของคุณ”

    “ดี...งั้นก็รับนี่ไป”

    ลุชวิกได้เปลี่ยนสภาพของสาวๆด้านหลังของเขาให้กลายเป็นหอกก่อนจะมอบให้กับโซตะ

    “นี่คือ บรุนด์ฮิล กับ ซิกรุนด์ ทั้งสองจะช่วยดูแลนายต่อจากนี้ไป”

    “อย่าบอกนะว่า?! วัลคีรี่ของเทพโอดินในนิยาย-”

    “โอดินน่ะมีจริง”

    พอลุชวิกกล่าวจบเขาก็ได้ไล่โซตะออกไปพร้อมกับหอกทั้งสองเล่มก่อนที่เขาจะลืมตาตื่นขึ้นมาแล้วก็พบกับมือขวาพ่อของเรน่าได้ทำการ1รุม3อยู่แต่ที่ตึงมือมันจริงๆเห็นจะมีแต่แฟนท่อมที่มีประสบการณ์ในการต่อสู้มากกว่าเพื่อน

    “ทุกคนหลบไป!”

    โซตะตะโกนเสียงดังพร้อมกับเรียกหอกที่พึ่งได้จากตัวของลุชวิกออกมาทำให้ตัวของแฟนท่อมที่รู้จักกับหอกสองเล่มนั้นดีก็ตกใจ

    “โอคุโตะ! ยูเอมิ! หลบเร็ว!”

    แฟนท่อมตะโกนพร้อมกับกระโดดหลบส่วนโอคุโตะก็พุ่งไปพาตัวของยูเอมิออกมา

    “จงทะลวงทุกสรรพสิ่ง หอกศักดิ์สิทธิ์แห่งโอดิน!"

    "Divine Drive!”

    (ดีไวน์ ไดร์ฟ)

    แล้วหอกศักดิ์สิทธิ์ทั้งสองเล่มในมือของโซตะก็ถูกปาออกไปด้วยความเร็วสูงจนทำให้มือขวาของพ่อเรน่าต้องหลบการโจมตีแต่ด้วยความสามารถของบรินท์ฮิลทำให้หอกทั้งสองเล่มจะติดตามไปเรื่อยๆส่วนความสามารถของซิกรุนก็คือเพิ่มพลังโจมตีขึ้นตามความเร็วที่ถูกปาออกมา ยิ่งถูกปาออกมาเร็วและนานเท่าไหร่พลังโจมตียิ่งจะสูงขึ้น

    “น่ารำคาญจริง!”

    มือขวาพ่อของเรน่าได้ใช้เกราะขั้นสูงในการรับมือกับบรินท์ฮิลและซิกรุนที่ถูกปล่อยออกมาทำให้ในจังหวะทีเผลอมีช่วงว่างในการโจมตี

    “จงสำแดงฤทธิ์ ตาชั่งแห่งลิบร้า!”

    ยูเอมิได้ใช้ท่าของลิบร้าในการเพิ่มน้ำหนักร่างกายมือขวาของพ่อเรน่าจนร่างกายของเขาในตอนนี้หนักมากๆและไม่สามารถยกแขนขึ้นได้จนบาเรียที่ถูกกางก็ได้คลายออกทำให้โดนเต็มๆ

    “The-Eclipse!”

    (ดิ อีคลิปส์!)


    “Judgement Inferno!”

    (จัดท์เมนท์ อินเฟอร์โน)

    ตู้มมมมมมมม ท่าของทั้งสองคนกระแทกเข้าไปที่หน้าของมือขวาพ่อของเรน่าจนร่างของเขาปลิวไปไกลแต่ก็ยังไม่ถึงกับชนะเพราะว่ามันก็ถึกพอสมควร

    “มันยังไม่ตายอีกหรอน่ะ!”

    “พวกนายน่ะไปช่วยเด็กคนนั้นเลยทางนี้ฉันเอง”

    แล้วก็มีเสียงของไคล์ดังขึ้นพร้อมกับห่าฝนดระสุนปืนยิงกระหน่ำใส่เอเลี่ยนตัวนั้นอย่างไม่มีหยุดยั้ง แฟนท่อมจึงได้พาทั้งสามคนออกมาก่อนส่วนไคล์ก็รู้ดีว่าแค่กระสุนปืนปกติเจาะผิวหนังของมันไม่เข้าแน่นอน

    นากาโตะ ถึงเวลาของนายแล้ว”

    “โอ๊ส...”

    เสียงเอื่อย ๆ จากบนรถตู้ดังออกมาก่อนจะมีชายผมสีเขียวเดินลงมาจากรถแล้วเหล่าทหารชั้นผู้น้อยก็ทำความเคารพเขา

    “ร้อยเอกอาคัตสึกิ ขออภัยที่-”

    “ช่างเหอะ แค่ให้ผมจัดการเจ้านั่นสินะสารวัตร?”

    “เออ”

    “เอาล่ะ...ได้เวลากินแล้ว!


    แล้วเรื่องราวจะเป็นอย่างไรต่อไปโปรดติดตาม...


    ถ้างั้นก็ เจอกันตอนหน้าครับ เย้

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    นักเขียนปิดการแสดงความคิดเห็น
    ×