ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Rebirth Omega : The Birth of Rebirth ต้นกำเนิดจักรวาลรีเบิร์ท

    ลำดับตอนที่ #3 : ซาตานวิปริต

    • อัปเดตล่าสุด 20 ม.ค. 66


    ชายหนุ่มผมสีแดงสดยืนประจันหน้ากับสิ่งมีชีวิตที่ไม่รู้จักแล้วก็เกิดอาการแขนขาสั่นเนื่องจากแรงกดดันมหาศาลของสิ่งมีชีวิตตัวนั้น มันได้เดินมาหาเขาอย่างช้าๆพร้อมกับชักดาบมารออกมาจากห้วงมิติมืดแล้วก็พุ่งเข้าไปหวังจะฆ่าตัวของโอคุโตะทิ้งแต่ว่าชายหนุ่มก็ไหวตัวทันก่อนจะใช้พลังธาตุสายฟ้าในการชิ่งหลบออกมาก่อน

    “หืม? ธาตุสายฟ้า?”

    “มีปัญหารึยังไงกัน?”

    “เปล่า ก็แค่คิดว่าคนที่น่าสนใจแบบแกเนี่ยใช้พลังธาตุพื้น ๆ นี่ในการต่อสู้อย่างงั้นหรอ?”

    “แกกำลังพูดเรื่องอะไรกัน”

    “นี่แกโง่หรือแกบ้ากันเนี่ยห๊ะ เข้ามาท้าทายโดยที่ไม่รู้ตัวว่าจริง ๆ แล้วแกเก่งขนาดไหนเนี่ยนะ”

    “ก็พอรู้...แต่ยังใช้ไม่ได้”

    “หรอ...น่าเสียดายนะ เพราะเท่าที่ได้ฆ่าคนมามากมายมีแกแค่คนเดียวที่แสงสว่างและความมืดอยู่ในจุดที่สมดุลกับพอดีเป๊ะ มันจะมีใครอีกบนโลกนี้ล่ะห๊ะ”

    “พูดมากอยู่ได้!”

    โอคุโตะได้ชักปืนออกมาพร้อมกับลั่นไกออกไปในทันทีแต่ว่าทันทีที่เขาลั่นไก ตัวปืนก็ดีดซะจนเขากระเด็นไปกระแทกกับกำแพงโรงเรียนจนร้าวแถมกระสุนยังไม่โดนอีกต่างหาก

    “ปืนนั่นดีดใช่เล่นเลยนะเนี่ย~”

    “(อะไรเนี่ย!? แรงดีดของปืนมันรุนแรงขนาดนี้เลยงั้นหรอ!)” โอคุโตะตกใจกับแรงดีดของปืน

     “น่าเบื่อจริง...รู้สึกว่าจะมีแมลงเม่าบินเข้ามาอีกแล้วสิ เก็บดาบแป๊บ”

    ปีศาจตัวนั้นได้เก็บดาบมารเอาไว้ก่อนจะใช้มือรับการโจมตีที่มาจากด้านบนด้วยมือเพียงข้างเดียว

    เพลิงแห่งแคปริคอนงั้นหรอ...”

    “จงปรากฏ อาภรณ์แห่งเวอร์โก้!”

    แล้วก็มีหญิงสาวผมสีชมพูอ่อนที่กระโดดลงมาจากดาดฟ้าโรงเรียนพร้อมกับชุดเกราะของเทพแห่งดวงดาวก่อนจะหันคฑาแห่งแคปริคอนใส่หน้าปีศาจตนนั้น (จริงๆก็ได้แรงบันดาลใจมาจากลูซี่ในแฟรี่เทลแต่ว่าด้วยความที่ยูเอะในโอริออนเครสเองก็ใช้เวทย์แห่งดวงดาวเลยต้องทำให้มันเหมือนๆกัน)

    “ฉันรู้จักเธอนะ...รู้สึกจะเป็น คิจิคาระ ยูเอมิ ผู้ใช้ศาสตรา12ราศี โซดิแอค การ์เดี้ยน นี่เอง”

    “เลิกยุ่งกับโอคุโตะจังเดี๋ยวนี้เลยนะ!”

    “แต่ฉันยังอยากเล่นกับเจ้านี่ตอนเอาจริงอยู่เลยน่ะสิ”

    “จุดมุ่งหมายคืออะไร นายเป็นใครกัน!”

    “...ฉันคือจุดสูงสุดของความชั่วร้ายและบาปทุกอย่างที่เกิดขึ้นโดยฝีมือมนุษย์ ปีศาจที่เกิดจากความโกรธแค้้นที่มีต่อพระเจ้า นั่นแหละคือตัวฉัน”

    “จะบอกว่านายเป็นซาตานงั้นหรอ!?”

    “ก็ใช่...ชื่อของฉันคือ เคออสไครซิส แฟนท่อม

    พอตัวแฟนท่อมพูดจบก็มีประตูมิติเปิดออกมาจากบนดาดฟ้าโรงเรียนปรากฏร่างของซาดิอุสโผล่มาเพราะสัมผัสพลังของโอคุโตะได้

    “ซาดิอุส?!”

    “ฉันจะต้องเอาร่างของแกมาเป็นของฉันให้ได้ เซย์จิ โอคุโตะ!”

    ซาดิอุสได้ใช้เวทย์มิติสลับที่กันกับยูเอมิที่ขวางทางเขาไว้อยู่ก่อนจะใช้ดิเมนชั่นเบรคเกอร์เพื่อที่จัดการฆ่าโอคุโตะแล้วเอาวิญญาณเข้ามาในร่างแต่ก็ถูกแฟนท่อมจับมือเอาไว้ได้

    “น่าสนใจกว่าเดิมอีกนะเนี่ย”

    แฟนท่อมกล่าวพร้อมกับเหวี่ยงซาดิอุสกลับไปพร้อมกับพูดตอกหน้าใส่อีก

    ต่อคิวนะน้องๆ”

    เมื่อคำยั่วยุของแฟนท่อมหลุดออกมาจากปาก ซาดิอุสก็ยิ่งโมโหหนักพร้อมกับเปลี่ยนเป้าหมายไปเป็นแฟนท่อมแทนทำให้ยูเอมิมีเวลามาดูตัวของโอคุโตะที่บาดเจ็บจากแรงดีดของปืน

    “โอคุโตะจัง ไม่บาดเจ็บนะ!”

    “...”

    “โอคุโตะจัง-”

    “ฉันมีเรื่องอยากจะขอร้องเธอหน่อยน่ะยูเอมิ”

    “เอ๊ะ?”

    ในขณะที่โอคุโตะได้บอกบางอย่างให้กับยูเอมิฟัง ตัวของแฟนท่อมและซาดิอุสก็ได้สู้กันอย่างดุเดือดจนผืนดินสั่นสะเทือน แต่ในช่วงที่แฟนท่อมเสียท่าให้กับเวทย์มิติของซาดิอุสก็ได้มีลำแสงวาบขึ้นมาจากร่างของยูเอมิที่ช่วยโอคุโตะถือปืนก่อนจะประกอบเข้าด้วยกันกลายเป็นปืนกระบอกใหญ่ขึ้น

    “ปืนนั่น!?”

    “จงกู่ร้องคำราม Dragonic Seeker!”

    (ดราโกนิค ซีคเกอร์)

    ตู้มมมมมม ลูกกระสุนพลังงานพุ่งตรงเข้าไปหาทั้งแฟนท่อมและซาดิอุสจนทั้งสองต้องหลบเต็มกำลังส่วนฝ่ายยิงก็กระเด็นกันไปคนละทางถึงแม้ว่าจะมียูเอมิคอยช่วยก็ยังไม่สามารถคุมปืนอยู่ได้

    “วันนี้ถอยก่อน!”

    ซาดิอุสได้รีบชิ่งหนีไปส่วนตัวของแฟนท่อมก็ได้เดินมาหาทั้งสองคนก่อนจะชาร์จพลังบางอย่างไว้ที่มือแต่ว่าเขาก็ถูกหญิงผมสีแดงสดเข้ามาหยุดเอาไว้

    “แฟนท่อม นี่คิดจะทำร้ายลูกศิษย์ของฉันอย่างงั้นหรอ มันเกินที่เคออสสั่งมานี่”

    “เจอกับอาจารย์แล้วหรอครับเนี่ยคุณอิรูน่า แหม~ถึงจะไม่ได้เจอกันนานเกือบ500ปีคุณก็ยังสวยเหมือนเดิมเลยนะครับ-”

    โป๊กกกกก เทพีแห่งการทำลายล้างได้เขกหัวตัวของซาตานผมสีน้ำเงินเข้มไปหนึ่งทีเพราะเธอไม่ค่อยชอบให้ใครมาพูดเรื่องอายุเท่าไหร่

    “แต่ถึงคุณจะว่างั้นก็เหอะ เจ้านี่มันมีแสงสว่างกับความมืดเท่ากันพอดีเป๊ะ ๆ เลยนะครับ”

    “ก็แหงล่ะ ต้นกำเนิดของเจ้านี่มันลึกลับกว่าที่นายคิดเยอะ...ขอโทษเรื่องแฟนท่อมด้วยละกัน”

    “มันทำร้ายคนนะคะ!”

    “นี่น่ะหรอ? ลูกน้องแฝดนรกน่ะ ที่เจ้านี่มาก็เพราะว่าเคออสได้รู้วิธีการจัดการกับเอบีสอย่างสมบูรณ์แล้วน่ะสิ”

    “ใช้พลังของปีศาจหรอครับ?”

    “เปล่า ในการจะชนะเจ้าเอบีสได้น่ะต้องมีอยู่4อย่าง นั่นก็คือ เทพทำลายล้าง,เทพปีศาจ,เทพ,เทพอสูรจอมมาร อยู่ด้วยกันน่ะซึ่งอันที่1ก็คือนายนั่นแหละโอคุโตะ อันที่2ก็คือแฟนท่อมนี่แหละส่วนอีก2คนที่เหลือยังไม่มีข้อมูล”

    “งั้นก็แสดงว่าไอ้ซาตานนี่มันวิปริตงั้นหรอครับ!”

    “ก็ประมาณนั้นแหละ”

    .

    .

    .

    .

    วันต่อมา จู่ๆตัวของแฟนท่อมก็ได้โผล่มาพร้อมกับเป็นนักเรียนย้ายเข้ามาใหม่โดยใช้ชื่อแฝงว่า “นากามุระ ชินจิ” ก่อนที่จะได้มานั่งคุยกับพวกโอคุโตะช่วงพักเที่ยง

    “ให้ตายสิ ทำไมเอ็งมาอยู่นี่ได้”

    “มาช่วยเอาอีกครึ่งนึงของนายกลับไปนั่นแหละ ถึงจะโดนสั่งมาแบบนั้นก็เถอะแต่ว่าจริงๆชั้นสนใจนายมากกว่า“

    “เฮ้อ...”

    “นี่พวกนายมีคนมาหาแหน่ะ”

    มิคุระกล่าวก่อนจะมีกลุ่มที่แต่งตัวคล้ายๆกับทหารมาจับตัวของโอคุโตะและแฟนท่อมไปไหนก็ไม่รู้เหลือไว้แต่ยูเอมิกับมิคุระที่ยังคงตกใจกับสิ่งที่เกิดขึ้น

    “ม...มันอะไรน่ะมิคุระคุง”

    “ไม่รู้สิ”

    .

    .

    .

    .

    ณ ฐานปฏิบัติการลับของหน่วยงานอะไรสักอย่าง โอคุโตะและแฟนท่อมถูกพาตัวมายังห้องของคนๆหนึ่งที่ใหญ่ที่สุดในหน่วยงานตอนนี้หลังจากนั้นทั้งโอคุโตะและแฟนท่อมก็ถูกปล่อยตัวเพื่อให้เขาคนนี้ได้สอบปากคำ เขาเป็นชายผมสีเงินที่ใส่เครื่องแบบทหารครบมือยืนมองพวกเขาอยู่

    “พวกนายคือคนที่อยู่ในรูปนี่สินะ”

    เขาคนนั้นได้พูดขึ้นมาก่อนจะเอารูปถ่ายมาให้ดูซึ่งทั้งสองคนก็เถียงไม่ออก

    “เอาล่ะแนะนำตัวช้าไปหน่อย ชั้นคือสารวัตรหน่วยปราบปรามพิเศษสิ่งผิดปกติทางธรรมชาติ ไคล์ วอล์คเกอร์

    “ที่เป็นนักบอลแมนฯซิตี้?”

    “คนละคนกัน”

    “แล้วจะมาจับเราเข้าคุก?”

    “เปล่า พวกนายดูนี่ก่อน”

    แล้วจากนั้นไคล์ก็ได้เปิดคลิปให้ดูเป็นคลิปที่มียานเอเลี่ยนจำนวนมากลอยอยู่นอกโลกในปัจจุบันแล้วทางสหพันธ์โลกกำลังเจรจากับเอเลี่ยนอยู่

    “มันจะหลุดโลกเกินไปแล้วมั้งนิยายเรื่องนี้”

    “ก็มันไม่ใช่แค่เรื่องของมนุษย์แล้วน่ะสิ ชั้นอยากให้พวกนายไปตามหาเด็กคนนี้หน่อย”

    ไคล์ได้ยื่นรูปของเด็กผู้หญิงผมสีทองอายุน่าจะประมาณ15ปีให้กับโอคุโตะและแฟนท่อมก่อนจะได้อธิบายไปว่าเด็กผู้หญิงในรูปก็คือเจ้าหญิงของดาวเอเลี่ยนที่หนีออกมา

    “ถ้าเกิดเราหาไม่ได้ภายใน3วันโลกของเราจะถูกทำให้กลายเป็นผงธุลีในทันที”

    “ห๊ะ?!”

    “ลูกน้องของฉันได้ติดเครื่องติดตามไว้กับพวกนายสองคนแล้ว ข้อมูลอย่างอื่นเดี๋ยวฉันจะส่งไปให้”

    ไคล์พูดจบพร้อมกับสั่งลูกน้องให้พาตัวโอคุโตะและแฟนท่อมกลับมาที่โรงเรียนอีกครั้งพร้อมกับได้เล่าเรื่องราวทั้งหมดให้กับมิคุระและยูเอมิฟัง

    “ฟังดูแย่เนอะ~”

    “ไม่ต้องพูดเลยมิคุระแก๊!”

    .

    .

    .

    .

    ณ บนเนินเขา มีชายหนุ่มรุ่นราวคราวเดียวกันกับโอคุโตะได้ออกมาเดินเล่นเพื่อหาแรงบันดาลใจใหม่ๆแต่ว่าพอถึงยอดเขาก็ได้เจอกับเด็กสาวกำลังเด็ดดอกไม้พร้อมกับตกใจเมื่อเห็นชายหนุ่มคนนั้น

    “อย่าเข้ามานะ!”

    “เดี๋ยวสิ!”

    เด็กสาวได้กางบาเรียออกมาทำให้ชายหนุ่มหวาดผวากับพลังของเธอ

    “นายคือคนที่ท่านพ่อส่งมาสินะ! ออกไปให้พ้น!”

    “เธอพูดเรื่องอะไรน่ะ?!”

    แล้วจู่ๆตัวของเด็กสาวก็ได้หายตัวไปอย่างลึกลับทำให้ชายหนุ่มก็ยังคงติดสตั้นไปพักหนึ่งก่อนจะเดินไปที่โรงพยาบาลที่พี่สาวของเขานอนพักฟื้นร่างกายอยู่

    “ขอโทษนะโซตะที่ต้องให้มาดูแลพี่แบบนี้น่ะ”

    “ไม่หรอกครับ...เมื่อกี้นี้ผมเจอเรื่องแปลกๆด้วยล่ะครับ ผมเจอเด็กผู้หญิงผมสีทองอยู่ที่เนินเขาแล้วก็บอกเกี่ยวกับเรื่องที่ผมไม่รู้อะไรเลยด้วย”

    “อืม...แปลกดีนะ”

    แล้วจากนั้นทีวีก็ได้ประกาศข่าวเกี่ยวกับการแถลงการของนาซ่าว่ามีเอเลี่ยนพยายามจะมาชิงบางอย่างไปจากโลกแล้วนักข่าวก็ได้เปิดเผยภาพของเด็กสาวที่โซตะเจอมาสดๆร้อนๆ

    “เด็กคนนั้น?!”

    “ฟังข่าวต่อก่อนแปปนึงแล้วค่อยพูดสิ”

    “อ่า...ขอโทษครับ”

    จากนั้นนักข่าวก็ได้ประกาศว่านาซ่าได้จัดเตรียมหน่วยค้นหาพิเศษที่นำโดย ไคล์ วอล์คเกอร์ ในการติดตามตัวเด็กสาวคนนี้และขอให้ใน3วันนี้อย่าออกไปจากบ้านหรือเคหสถานจนกว่าสถานการณ์จะกลับมาเป็นปกติ

    “เอเลี่ยนหรอครับ”

    “ก็คงจะเป็นแบบนั้นแหละ วันนี้จะกลับไปก่อนก็ได้นะ”

    “ครับ”

    แล้วตัวของโซตะก็ได้ออกจากห้องไป หลังจากนั้นหญิงสาวผมสีทองผู้เป็นพี่ของโซตะก็ได้ลุกขึ้นมาพร้อมกับหยิบชูครีมบนโต๊ะที่โซตะซื้อมาฝากอย่างสบายๆ

    “แอบฟังอยู่ใช่ไหมมิคุระคุง?”

    “ก็ก่อนที่เจ้าโซตะจะเข้ามาอีกนั่นแหละครับ”

    มิคุระได้คลายการพรางตัวก่อนที่จะเล่าเรื่องที่ทั้งโอคุโตะและแฟนท่อมได้เข้าไปพัวพันกับเหตุการณ์ในปัจจุบันแล้วด้วย

    “แล้วรุ่นพี่จะนอนอยู่บนเตียงนี่ไปถึงเมื่อไหร่ล่ะครับ”

    “ไม่รู้สิ...จบเหตุการณ์นี้มั้ง”

    “อย่าหักโหมตัวเองนะครับ ต่อไปนี้ก็ยังไม่รู้ว่าเจ้าเอบีสมันวางแผนอะไรไว้หรือเปล่า”

    “จ้า~”

    “งั้นผมไปนะครับประธานฮารุกะ

    แล้วมิคุระก็กระโดดลงไปทางหน้าต่างทำให้ตัวของฮารุกะต้องปวดหัวกันอีก

    “ถึงจะเป็น4จักรพรรดิอย่างน้อยเธอก็ทำตัวให้มันเป็นมนุษย์หน่อยเถอะมิคุระคุงเอ้ย”


    แล้วเรื่องราวจะเป็นอย่างไรต่อไป โปรดติดตาม...


    ถ้างั้นก็ เจอกันตอนหน้าครับ เย้

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    นักเขียนปิดการแสดงความคิดเห็น
    ×