ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Rebirth Omega : The Birth of Rebirth ต้นกำเนิดจักรวาลรีเบิร์ท

    ลำดับตอนที่ #1 : ปฐมบทจักรวาลรีเบิร์ท

    • อัปเดตล่าสุด 20 ม.ค. 66


    ในอดีตอันไกลโพ้นได้มีมหาสงครามที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ของจักรวาลรีเบิร์ทเนื่องจากการต่อสู้กันระหว่างโอริออนและเอนด์,อาชูร่า,เฮลิออส ทำให้เกิดพหุจักรวาลขึ้นมา และต่อมาหลายหมื่นปีอาชูร่าก็ได้พบกัลรากเหง้าของเด็กคนหนึ่งที่มีพลังสูงมาก ๆ และเสี่ยงต่อการเป็นภัยอันตรายแก่ทุกสิ่งเชาเลยจับแยกออกมาเป็น2ส่วน นั่นก็คือ ส่วนที่มีพลังทำลายล้างและส่วนที่สามารถควบคุมมิติเวลาได้ เขาจึงได้ส่งลูกศิษย์ของเขานามว่าอิรูน่าไปคอยจับตามองส่วนที่เป็นพลังทำลายล้างเอาไว้แต่นั่นมันก็หลังจากที่เขาจับแยกไปแล้ว16ปี

    “ที่เรียกมามีอะไรงั้นหรอคะอาจารย์?”

    “มีเด็กคนนึงจะให้ไปดูหน่อย เป็นน้องชายของฮิเมกะน่ะ”

    “เจ้านั่นทำไมหรอคะ?”

    “ฉันจะปั้นมันเป็นเทพทำลายล้างรุ่นที่4ต่อจากโอเกอร์

    “แต่ว่าโอเกอร์เองก็ยัง-”

    “ฉันบอกให้ไปดูไง”

    พอเทพทำลายล้างขึ้นเสียง หญิงสาวผมสีแดงสดก็น้อมรับด้วยความหวาดกลัวในทันที

    “รู้สึกจะอยู่กับเจ้ามิคุระด้วยสิ”

    “มิคุระ?!”

    “เอาเถอะตราบใดที่สองคนนั้นยังเป็นเพื่อนกันคงไม่มีอะไรเกิดขึ้นหรอก”

    .

    .

    .

    .

    ณ ประเทศญี่ปุ่น ในเมืองแห่งนึงเป็นเมืองที่ถูกแฝดนรกรูน-รีนคอยมาบุกป่วนเป็นประจำเพราะเนื่องจากเมืองนี้มีอัตราการเติบโตของพลังเวทย์ที่สูงมากๆและช่วงนี้ก็มาบ่อยขึ้นเรื่อย ๆ จนตัวของฮิเมกะและยูเอมิเริ่มที่จะไม่ไหว

    พอมาที่โรงเรียน หญิงสาวผมสีชมพูอ่อนก็หมอบฟุบลงกับโต๊ะพร้อมกับหลับลงไปด้วยความเหน็ดเหนื่อย 

    “คิจิคาระ...คิจิคาระ!”

    “ค...คะ!” เด็กสาวสะดุ้งตื่นจากเสียงเรียกของครูประจำชั้นจนเพื่อนรอบข้างต่างก็หัวเราะเธอ

    “ครูเรียกเธอตั้งนานแล้วนะ นี่ยังไม่เบอกหลับในชั่วโมงอีกงั้นหรอ”

    “ขอโทษค่ะ...พอดีงานที่หนูทำมันกินแรงหนูไปหน่อย”

    “อย่าหักโหมตัวเองนักสิ”

    “ค่ะ...”

    ตัดมาตอนพักเที่ยง หญิงสาวก็ได้ค้นของในกระเป๋าแต่ก็ปรากฏว่าเธอลืมเอาข้าวกล่องมาเนื่องจากสมองตอนเช้า ๆ มันเบลอมาก ๆ เธอจึงนั่งน้ำตาไหลอยู่คนเดียวจนกระทั่งมีชายสองคนเดินเข้ามาหาพร้อมกับวางข้าวกล่องไว้ข้างหน้าเธอ

    “เอานี่ไปกินซะจะได้มีแรงเรียนต่อตอนบ่าย”

    “อ...อืม ขอบใจนะ”

    “ว่าแต่งานของเธอคืออะไรน่ะยูเอมิ ทำไมฉันเห็นตั้งแต่ช่วงขึ้นปี1มาเธอนอนไม่ค่อยพอยังไงก็ไม่รู้” ชายผมสีแดงสดถาม

    “เอ๋? งั้นหรอ?” ยูเอมิกล่าวพร้อมกับกินข้าวไปด้วย

    “อย่าพูดตอนข้าวอยู่ในปากเซ่!!”

    “นี่โอคุโตะ เรื่องบางเรื่องน่ะนายไม่จำเป็นจะต้องรู้ก็ได้นะ”

    “เอ็งพูดแบบนี้หมายความว่ายังไงกันมิคุระ?”

    “เปล่า~ไม่มีอะไรทั้งนั้นแหละ”

    ชายผมสีน้ำตาลกล่าวจบเขาก็ได้ซัดข้าวมันไก่ในกล่องจนหมดก่อนที่จะเอาสมุดการบ้านให้กับยูเอมิ

    “อย่าลืมทำไปส่งซะล่ะ”

    “ขอบใจนะ”

    “นี่ยูเอมิ ขอเวลาแปปนึงได้มั้ย”

    “หือ?...ได้สิ”

    แล้วตัวของมิคุระก็ได้จูงมือของยูเอมิขึ้นไปคุยที่ดาดฟ้าโรงเรียนแล้วประเด็นที่ทั้งสองคนพูดถึงก็คือ

    “เธอรู้สึกยังไงกับโอคุโตะ?”

    “เอ๊ะ!? กับโอคุโตะจังหรอ! อยู่ ๆ ให้พูดก็-” เด็กสาวบิดตัวไปมาพร้อมกับทำสีหน้าเขินเล็กน้อย

    “ฉันรู้ว่าเธอชอบหมอนั่นอยู่แต่ไม่ใช่แบบนั้นสิ ที่ว่ารู้สึกถึงอะไรบางอย่างในตัวหมอนั่นได้มั้ย”

    “ขอโทษนะมิคุระคุง โอคุโตะจังเขาก็แค่คนธรรมดานะ”

    “ไม่หรอก มันจะไม่เป็นแบบนั้น ตอนนี้เจ้าแฝดนรกรูน-รีนได้ออกมาอาละวาดอีกแล้วเธอต้องไปช่วยรุ่นพี่ฮิเมกะก่อนนะตอนนี้”

    “อีกแล้วงั้นหรอ...ก็ได้”

    จากนั้นหญิงสาวก็ได้ใช้พลังของเธอพร้อมกับกระโดดออกไปจากดาดฟ้าโรงเรียน

    “จะตามไปก็ได้นะโอคุโตะ ถึงขนาดมาแอบฟังแบบนี้ฉันคงห้ามนายไม่ได้หรอก”

    แล้วพอมิคุระพูดจบชายหนุ่มที่หลบอยู่ก็ได้วิ่งออกไปจากโรงเรียนเพื่อไปตามตัวของยูเอมิกลับมาแล้วตัวของอิรูน่าก็ได้มาโผล่อยู่ที่ด้านหลังของมิคุระ

    “ทั้งหมดนี่เป็นแผนของนายหรอมิคุระ?”

    “ก็ประมาณนั้นแหละครับ ฝากดูเจ้านั่นทีนะครับคุณอิรูน่า”

    “ฉันล่ะเบื่อจริงๆที่4จักรพรรดิแบบนายต้องมาลงทุนเกิดใหม่เนี่ย”

    “เอ้า มันก็สนุกดีนี่ครับได้ใช้ชีวิตแบบคนทั่วๆไปน่ะ”

    อิรูน่าที่เบื่อจะฟังตัวของมิคุระก็ได้ตามตัวของโอคุโตะไป จากนั้นมิคุระก็ยิ้มพร้อมกับพูดลอยๆออกไป

    “จากนี้ไปชะตากรรมของนายขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของนายแล้วนะ โอคุโตะ...”

    .

    .

    .

    .

    ณ ห้างสรรพสินค้าของเมืองคารามะ(เมืองสมมติ) แฝดนรกรูน-รีนก็ได้ทำการไล่ทำลายข้าวของเพื่อที่จะเก็บมานาแห่งความหวาดกลัวและความสิ้นหวังมาจากตัวของคนแถวนั้น ซึ่งก่อนหน้านี้ทั้งสองได้จัดการกับฮิเมกะพร้อมกับจับเธอขึงไว้กับเสาแห่งความมืด

    “เมื่อไหร่ คิจิคาระ ยูเอมิ จะโผล่มาน้า~”

    “ตั้งใจหน่อยสิรีน เพื่อที่จะเป็นแหล่งพลังงานของท่านเอบีสเราจำเป็นต้องสร้างความโกลาหลให้มากๆ”

    “ทำไมท่านเอบีสไม่ลงมาทำลายโลกนี้เองล่ะ ทั้งๆที่มันก็ทำได้ง่ายจะตายไป”

    ชายผมยาวกล่าวก่อนจะหยิบปืนใหญ่ออกมาเตรียมที่จะยิงใส่ห้างแต่ว่าในช่วงเวลานั้นก็มีการโจมตีนึงลอยเข้ามาหามือของรีนจนปืนหลุดมือไป

    “มาแล้วสินะ คิจิคาระ ยูเอมิ กำลังรออยู่เลย”

    “ปล่อยรุ่นพี่ฮิเมกะนะ!”

    หญิงสาวได้พุ่งเข้าไปหารีนในทันทีแต่ก็ถูกมือหุ่นยนต์ของรูนจับตัวเอาไว้ได้พร้อมกับเหวี่ยงร่างของเธอลงไปอย่างรุนแรงจนตัวของโอคุโตะที่ปั่นจักรยานตามมาได้รับแรงกระแทกจนปลิวไปไกล แต่ว่าเขาก็ได้พยายามวิ่งมาดูยูเอมิที่บาดเจ็บหนักจากการโจมตีเพียงครั้งเดียวของรูน

    “ยูเอมิ!”

    “...โอคุโตะจัง...ทำไม- ระวัง!”

    ฉึก! มีเหล็กแหลมของรีนได้พุ่งเข้ามาเสียบร่างของชายผมสีแดงสดด้วยความรวดเร็ว เลือดของเขาได้ทะลักออกมาจากร่างก่อนที่นักวิทยาศาสตร์คลั่งจะโยนร่างของเขาออกไป

    “โอคุโตะ!!!! ปล่อยนะ!!!”

    “โอคุโตะจัง!!!!!!!!!!!!!”

    .

    .

    .

    .

    ณ ห้องมืดๆห้องหนึ่ง ชายหนุ่มผมสีแดงสดได้ตื่นขึ้นมาพร้อมกับสภาพที่เรียกได้ว่าน่าจะตายแล้วแน่ๆ แต่ในตอนนั้นเขาก็ได้เจอกับตัวเองเวอร์ชั่นผมสีดำกับผมสีทองกำลังยืนมองเขาด้วยความเวทนา

    “แกจะนอนไปอีกจนถึงเมื่อไหร่กันห๊ะ?”

    “ฉัน...ตายแล้วหรอ...ยมบาลกับเทวดาหรอ...”

    “ชาโดว์คุง ผมคิดว่าเขายังไม่รู้ตัวนะว่าเขายังไม่ตายน่ะ”

    “เฮ้อ...นี่โอคุโตะ แกได้ยินฉันใช่มั้ย”

    “...เสียงของฉัน...ใบหน้าของฉัน...ว๊ากกก” ชายหนุ่มสะดุ้งตกใจเมื่อเห็นชายสองคนที่ใบหน้าคล้ายตัวเองอยู่ด้านหน้า

    “ในที่สุดก็รู้ตัวสักทีนะ ขอต้อนรับสู่ส่วนที่ลึกที่สุดในจิตใจของแกแล้วกัน ฉันชื่อชาโดว์และเจ้านั่นชื่อไชน์นิ่ง เราสองคนก็คือแสงสว่างและความมืดของแก”

    “ห๊ะ...”

    “แกไม่เคยอ่านพวกนิยายแฟนตาซีรึยังไง ตอนนี้แกก็รู้แล้วล่ะว่าตัวแกเองมันก็แฟนตาซีเหมือนกัน”

    “เหอะ...งั้นหรอ แล้ว... พวกนายอยากให้ฉันออกไปกระทืบสองคนนั้นที่มันกำลังจะทำอะไรสักอย่างสินะ"

    “เดี๋ยวก่อนนะโอคุโตะคุง นายไม่คิดจะตกใจต่อหน่อยหรอ” ไชน์นิ่งถาม

    “ไม่รู้สิ พอเห็นพวกนายแล้วเหมือนมันไปกระตุ้นอะไรบางอย่างในตัวฉันน่ะนะ แล้วต้องทำยังไง?”

    “แกก็แค่ต้องกลับไปกระทืบสองคนนั้นซะ แค่นั้นแหละ”

    “ยากกว่าที่คิดอีกนะ...ถ้างั้นก็ไว้เจอกันใหม่ แสงกับความมืดของชั้น”

    โอคุโตะกล่าวพร้อมกับโบกมือลาชาโดว์กับไชน์นิ่งแล้วเดินจากไป ไชน์นิ่งก็ได้พูดขึ้นมาว่า

    “ถ้าเกิดเป็นแบบนี้ก็แสดงว่า”

    “เจ้านั่นไม่เคยคิดจะลังเลตั้งแต่แรกแล้วล่ะ ไม่ว่าจะแสงหรือความมืดน่ะ เพราะเจ้านั่นคือตัวตนที่อยู่ตรงกลางของสิ่งนั้นยังไงล่ะ!”

    .

    .

    .

    .

    ตัดกลับมาที่ปัจจุบัน ตัวของยูเอมิที่พ่ายแพ้ในการต่อสู้กับรูนและรีนก็ถูกจับมามัดไว้กับเสาแห่งความมืดเพิ่อสูบพลังงานด้านลบไปให้กับเอบีส ในขณะเดียวกันอิรูน่าที่ดูอยู่ก็เห็นท่าไม่ดีก็คิดจะเข้าไปช่วยแต่ว่าเธอก็สังเกตความผิดปกติได้

    “พลังทำลายล้าง?! มาจากตรงไหนกัน!”

    เธอพยายามมองหาต้นตอของพลังงานนั้นแล้วก็พบกับร่างของชายหนุ่มที่น่าจะตายไปแล้วลุกขึ้นมาพร้อมกับบาดแผลที่ถูกฟื้นฟูอย่างรวดเร็วจนน่าประหลาดใจ ผมของเขาเริ่มมีสีดำแทรกขึ้นมาพร้อมกับออร่าประหลาดที่ทำให้ทุกคนแถวนั้นรู้สึกตัว

    “...นั่นมันอะไรน่ะ...โอคุโตะจัง?”

    “อย่าบอกนะว่า?!”

    ฮิเมกะตกใจเป็นอย่างมากเพราะพลังที่โอคุโตะมีในตอนนี้สูงมากๆในชนิดที่แบบว่าจากมนุษย์ธรรมดากลายเป็นอสูรกายในทันที

    “ต้องขอบใจที่ช่วยฆ่ากันน่ะ แล้วก็ปล่อยพี่สาวกับเพื่อนของฉันมาได้แล้ว”

    “เมื่อกี้นี้แกน่าจะไส้ไหลแล้วนี่?!”

    “ไส้ไหลงั้นหรอ น่าสนใจดีแฮะ”

    พอพูดจบชายหนุ่มผมสีดำสลับกับสีแดงก็มาโผล่อยู่ตรงหน้าของรีนแล้ว และคนที่รู้ว่ามันเกิดอะไรขึ้นก็มีแค่อิรูน่าคนเดียว

    ไทม์ลีปอย่างงั้นหรอ!? หมอนี่เองสินะคนที่อาจารย์บอกน่ะ...”

    ตู้มมมมมม หมัดขวาของชายหนุ่มกระแทกเข้าไปที่เสาแห่งความมืดจนแตกสลายภายในการโจมตีเดียวก่อนที่จะไปรับร่างของพี่สาวและเพื่อนมาวางไว้ที่พื้น

    “โอคุโตะจัง...”

    “ในที่สุดฉันก็เข้าใจแล้วล่ะว่างานของเธอคืออะไร...พี่ครับช่วยพายูเอมิออกไปทีนะครับ”

    “โอคุโตะ...นายเป็นตัวอะไรกันแน่!” ฮิเมกะถามแล้วชายหนุ่มผมสีดำสลับกับสีแดงก็มองเช้าไปที่ฝ่ามือของตัวเอง

    “...ไม่รู้สิครับ...ผมเองก็ไม่แน่ใจเหมือนกัน”

    ฟิ้วววว ร่างของชายหนุ่มพุ่งเข้าไปหาแฝดนรกด้วยความเร็วสูงจนไม่คิดว่ามันเป็นมนุษย์อีกต่อไป รูนจึงได้กางบาเรียออกมาเพื่อกันการโจมตีแต่ว่าก็ถูกทำลายด้วยการต่อยเพียงหมัดเดียว จากนั้นเขาก็ได้ชาร์จท่าเอาไว้ที่มือขวาของเขา

    “Omega The-End!”

    (โอเมก้า ดิเอนด์)

    ในขณะที่ท่าของเขาจะถูกร่างของรีนจู่ๆเขาก็ถูกพามายังอีกที่นึงโดยชายที่หน้าตาเหมือนกันกับเขาแต่ผมสีเงิน

    “แกเองสินะที่ทำให้ฉันต้องลงมือน่ะ”

    “แกเป็นใครกันล่ะ?”

    “ฉันชื่อว่า ซาดิอุส คงจะให้แกมาทำร้ายลูกน้องของฉันไม่ได้หรอกนะ”

    พอเขาพูดจบก็ได้เคลื่อนที่มาหาโอคุโตะพร้อมกับปะทะกันอย่างดุเดือดจนกระทั่งทั้งสองกำลังจะใช้ท่าไม้ตายใส่กัน

    “Omega The-End!”

    (โอเมก้า ดิเอนด์)


    “Dimension Breaker!”

    (ดิเมนชั่น เบรคเกอร์)

    แต่ในช่วงวินาทีนั้นทั้งสองก็ถูกหยุดไว้โดยตัวของเอบีสและมิคุระแล้วก็ได้จับแยกกันในที่สุดส่วนรูนและรีนก็สามารถหลบหนีไปได้ อิรูน่าจึงได้ลงมาหาโอคุโตะและมิคุระที่อยู่ในเหตุการณ์

    “นายจะฆ่าตัวตายรึยังไงกัน”

    .

    “ซาดิอุส ฉันจะบอกอะไรกับแกไว้อย่างนึงนะ อย่าคิดจะฆ่า เซย์จิ โอคุโตะ เชียวล่ะ”

    “ทำไมกันล่ะ! ฉันรู้สึกไม่สบายใจตั้งแต่เจ้านั่นโผล่มาเมื่อกี้นี้ ความรู้สึกแบบนี้มันอะไรกัน!”

    “ก็แกกับมันน่ะ...”

    .

    “มีจุดกำเนิดมาจากสิ่งเดียวกันยังไงล่ะ”

    พออิรูน่าพูดขึ้นมามันทำให้โอคุโตะช็อคไปตามๆกันรวมถึงตัวของซาดิอุสที่ฟังเอบีสเล่าเองก็รู้สึกเช่นเดียวกัน

    “ถ้าเกิดนายหรือซาดิอุสตายไป ทั้งนายและซาดิอุสจะหายไป จนกว่าทั้งสองคนจะยอมรับและรวมกันเป็นหนึ่งได้ชะตากรรมของนายกับซาดิอุสถูกแขวนบนเส้นด้ายว่าใครจะตกลงไปตายก่อนหรือจะรอดด้วยกันทั้งหมด”

    “ที่ฟังมานี่คือโอคุโตะกับเจ้าซาดิอุสเป็นคนๆเดียวกันหรอ?”

    “อย่างน้อย ๆ ก็เคยเป็น เอาล่ะพวกนายกลับไปก่อนฉันมีธุระกับหมอนี่ต่อ”

    แล้วมิคุระก็ได้พายูเอมิกับฮิเมกะกลับไปส่วนโอคุโตะก็ถูกอิรูน่าพาตัวมายังสถานที่นึงที่มีตัวของเทพทำลายล้างนั่งอยู่

    “มาแล้วหรอเจ้าหนู....”


    แล้วเรื่องราวจะเป็นอย่างไรต่อไปโปรดติดตาม...

    -------

    และนี่ก็คือเรื่องราวจุดกำเนิดของจักรวาลรีเบิร์ทในตอนที่1แต่ปริศนาเกี่ยวกับเรื่องอื่นก็ยังคงมีอยู่ถ้าเกิดไม่อยากพลาดการคลายปมต่างๆของเนื้อเรื่องตัวละครOCโปรดติดตาม....

    ถ้างั้นก็ เจอกันตอนหน้าครับ เย้

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    นักเขียนปิดการแสดงความคิดเห็น
    ×