คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #4 : ★;2# พี่เลี้ยงเด็ก?! {Edit}
{ 2,พี่เลี้ยงเด็ก?! }
“กว่าจะตามหาตัวนายนี่ทำไมมันยากเย็นนัก”
เสียงทุ้มของฮันกยอง เอ่ยถามพนักงานคนหนึ่งในบริษัทของตัวเอง รูปร่างหน้าตาที่แสนเงียบขรึมและดูมั่นใจนั่น ทำให้เค้าน่าจับตามองไม่น้อง ริมฝีปากเรียวกระตุกยิ้ม ก่อนจะนั่งลงตรงเก้าอี้แถวนั้น แล้วโบนกระเป๋าทำงานหัวบอสอย่างไม่ใส่ใจ....
“มีอะไรหรือไงครับ ?”
“มีน่ะมี เธอช่วยได้หรือเปล่าล่ะ”
“อะไรล่ะ งานเหรอ? ที่ไหนอย่างไงไม่เกี่ยงหรอก”
“ไม่เชิง...”
ฮันกยองทำสีหน้าเคร่งเครียด ก่อนจะเปลี่ยนเป็นรอยยิ้มเจ้าเล่ห์ มือหนาค้นนู่นค้นนี่บนโต๊ะ ไม่นานแฟ้มงานอันเบ่อเริ่ม ก็ถูกโยนใส่หน้าคนน่ารัก อย่างไม่ค่อยใส่ใจเท่าไหร่
“หือ?? งานโฆษณาตัวใหม่ อยากได้เด็กที่...”
“นั่นแหล่ะบุคลิกตามนั้นแหล่ะ ช่วยฉันได้ไหมล่ะ ?”
“สบายๆ”
ร่างเล็กว่าก่อนจะโยนแฟ้มงานใส่หน้าคนตัวสูงกลับ มือเรียวคว้ากระเป๋าสะพายใบโตเตรียมพร้อมจะออกจากห้องทำงาน แต่แล้วเสียงเรียกของผู้เป็นเหมือนเจ้านายก็ดังขึ้นขัดเสียก่อน
“หาพี่เลี้ยงเด็กให้ฉันคนสิ”
“บอสหาเองไม่ได้หรือไงครับ?”
ดวงตากลมโตตวัดมองอย่างประชดประชัน ใช่ว่าเจ้านายของเค้าจะไม่ใหญ่ แต่แค่หาพี่เลี้ยงเด็กทำไมต้องมาใช้เค้าด้วยนะ ถ้าไม่ใช่เรื่องงานเค้าก็ไม่อยากคุยกับใครนักหรอกจริงๆ...เว้นแต่บอสคนนี้แหล่ะ บอสที่เป็นเหมือนเพื่อน ที่เล่นหัวกันได้...
“ฉันอยากได้ผู้ชาย...”
“นายจะเอาผู้ชายมาเลี้ยงลูกชายนายน่ะนะ?!”
“ถ้าผู้หญิงเลี้ยง ฉันคง...”
“เข้าใจแล้ว....”
“สมแล้วที่เป็น อีซองมิน”
ฮันกยองเปรยเบาๆ เมื่อเพื่อนรักของเค้าเข้าใจในสิ่งที่เค้ากำลังสื่อ... ซองมินรู้ว่าฮันกยองไม่อยากเข้าใกล้ผู้หญิง เขากำลังขยาดผู้หญิง เค้ากำลังปิดกั้นตัวเองจากเรื่องความรัก เพราะว่ากลัวกลัวว่าจะเกิดความผิดพลาดขึ้นมาอีก...หัวใจของเค้ามันไม่แน่นอน...
แต่ถึงแบบนั้นสำหรับลูกชายคนนี้ของเค้าแล้ว มันไม่ใช่ความผิดพลาดเลยด้วยซ้ำ มันเหมือนดั่งดวงดาวที่เค้าได้สัมผัสได้ดูแล...ดั่งพรวิเศษ....
“อรุณสวัสดิ์ฮยอกแจ”
“อรุณสวัสดิ์ครับพี่ซองมิน”
เสียงทักทายของสองพี่น้องในครัวยามเช้าดังขึ้น นานๆทีจะเห็นพี่ชายคนนี้กลับบ้านและนานๆทีเช่นกันที่จะได้อยู่ด้วยกันแบบนี้ในคอนโดกว้างที่นี่ ก่อนฮยอกแจจะเปิดประเด็นถึงสิ่งที่ค้างคาในใจมาหลายอาทิตย์
“พี่...ฉันจะยกสมบัติให้มูลนิธิบ้านกำพร้าฯถ้ายังไงพี่ช่วยเซ็นต์กำกับหน่อยนะ”
“เอาจริงงั้นสิ เรื่องที่จะยกสมบัติค่อนหนึ่งของนายให้ที่นั่น”
ซองมินว่ายิ้มๆใบหน้าหวานที่สดใสอยู่ตลอดเวลาทำให้ฮยอกแจเองสดใสไปด้วยเช่นกัน มือเรียววางอาหารเช้าลงบนโต๊ะก่อนจะมองหน้าน้องชายที่เตรียมนู่นเตรียมนี่ให้เค้าอย่างเอาใจ
“พี่ครับ แล้วผมเองก็ชอบงานเลี้ยงเด็กพี่จะว่าไหมถ้า...”
“ฮยอกแจนายรู้ว่าพี่ไม่เคยห้ามนายในสิ่งที่นายอยากทำ...”
“...”
“นายโดนขัดใจมามากพอแล้ว โตแล้วเดินตามทางนายสิ”
ซองมินว่ายิ้มๆก่อนจะตักอาหารเช้าเข้าปาก ฮยอกแจเองก็ยิ้มอย่างมีความสุขก่อนทั้งคู่จะเปิดบทสนทนาตามประสาพี่น้องที่ห่างหายกันไปหนึ่งสัปดาห์
อีซองมิน พี่ชายหน้าหวานของฮยอกแจ ทำงานอยู่ในบริษัทออกแบบภายในที่โด่งดังของเกาหลี แต่ทว่าซองมินไม่ได้รับหน้าที่ออกแบบหรอกนะเพราะเค้าไม่ถนัดในเรื่องนั้น งานของเค้าก็คือการเก็บภาพถ่ายบรรยากาศรอบๆโซลหรือนอกโซล เพื่อให้บอสศึกษาและนำไปประยุกต์ใช้กับงาน
และเหตุมาจากการที่ซองมินต้องเดินทางบ่อยๆเลยทำให้เค้ารู้จักหลายภาษาพร้อมๆกับเก็บภาพความทรงจำตามเทศกาลหรือสถานที่ต่างๆ นั่นจึงทำให้นิตยสารหลายเล่มที่ต้องการตัวเค้าเพื่อไปเป็นช่างภาพให้ แต่ทว่าซองมินกลับหาตัวจับได้ยากเมื่องานของเค้าก็คือการเดินทางตลอดเวลาและเค้าก็มักจะเลือกเดินทางไปทำสัญญาเรื่องนู่นเรื่องนี่กับฮันกยองมากกว่าการออกงานปาร์ตี้ใหญ่ๆ
เพราะเหตุที่ว่าขี้เกียจโดนทาบทาม แน่นอนว่าถึงเวลาบริษัทพวกนั้นจะเขี่ยซองมินออกเมื่อเจอคนที่เก่งกว่า นั่นจึงทำให้ซองมินเลือกที่จะอยู่แบบเดิม...
นอกจากนั้นรูปถ่ายของซองมินเองยังถูกนำไปทำแกลลอรี่โดยเป็นของขวัญพิเศษจากบอสหรือหัวหน้าเมื่อสิ้นปีที่ผ่านเนื่องจากซองมินได้รับตำแหน่งพนักงานดีเด่นที่ทำให้บริษัทเจริญก้าวหน้ามาจนทุกวันนี้ และผลตอบรับที่ได้คือการกวาดซื้อภาพถ่ายทั้งหมด นั่นคือผลพลอยได้ในฝีมือของซองมินเอง
และ อีฮยอกแจ ผู้ที่รักอาชีพแนนนี่อย่างหมดหัวใจ การดูแลเด็กซักคนช่างเป็นเรื่องง่ายสำหรับเค้า แต่เค้าจะรับดูแลแค่ช่วงที่พิเศษเท่านั้น อย่างเช่น พ่อแม่ออกเดท แค่เพียงคืนเดียว เพราะฮยอกแจกลัวการผูกมัด
กลัวว่าเค้ากับเด็กจะเกิดสิ่งต้องห้ามสำหรับพี่เลี้ยงนั่นคือ ‘ความรัก’ งานแนนนี่ไม่มั่นคงถ้าเค้าจะเลิกจ้างก็คือเลิก ซึ่งจะส่งผลเสียต่อตัวเด็กเองที่จะเรียกหาแต่แนนนี่ มันจะสร้างความลำบากใจให้กับพ่อแม่ เพราะงั้นฮยอกแจเลยไม่เลือกที่จะเสี่ยง
เค้าชอบหมกมุ่นอยู่ในบ้านกำพร้าเหมือนพ่อ หรือไม่ก็โรงเรียนอนุบาล รับเป็นครูให้ช่วงๆหนึ่ง เรียกได้ว่าฮยอกแจเองก็ทำงานสบายๆมานานแล้วเช่นกัน
“อ่อ ฮยอกแจหาเด็กให้พี่หน่อยได้ไหม เอาแบบพูดเก่ง ฉลาด รู้ทันคนน่ะ”
“ทำไมล่ะ?”
“ก็บอสอยากได้เด็กๆน่ารักซักคนหนึ่งมาเล่นโฆษณาล่ะมั้ง”
“เอางี้พี่ ฉันรู้จักอยู่คนหนึ่งเย็นนี้พาบอสมาที่บ้านนี้แล้วกันนะ”
“โอเค”
ซองมินว่าก่อนจะพยักหน้าหงึกหงักแล้วเข้าห้องเพื่อจะเตรียมตัวเข้าบริษัท นานๆทีซักอาทิตย์ละครั้งที่ซองมินจะปรากฏตัวที่บริษัท แม้แต่ฮันกยองเองยังมองว่าเป็นเรื่องยากที่จะให้คนเก่งอย่างซองมินทำงานอยู่กับที่
“ฮยอกแจสนใจ รับงานประจำไหม?”
“ถามทำไมพี่รู้คำตอบมันอยู่แล้วนะ”
“...ก็คนแบบนายหาง่ายๆที่ไหนล่ะ”
ซองมินว่าก่อนจะยกน้ำอุ่นขึ้นดื่ม แล้วก็ออกไปข้างนอกทันที คนหน้าหวานขับรถแวะไปยังร้านกาแฟที่คุ้นเคย หน้ามหาลัยเก่าของเค้าก่อนจะเปิดประตูเข้าไปทักทายเพื่อนๆซึ่งอยู่ในนั้น สถานที่อีกแห่งที่ซองมินชอบมากลบด่านรองจากที่บ้าน
“ซองมิน~”
“พี่อีทึก><”
“ให้ตายเหอะ ไม่เจอสองอาทิตย์สวยขึ้นนะ”
“เอาเหมือนเดิมนะฮะ อ่า...เหรอคึๆ”
ซองมินว่าเขินๆก่อนจะนั่งลงที่โต๊ะ มองไปยังบรรยากาศรอบๆเรียกได้ว่าทุกอย่างยังเหมือนเดิมด้วยซ้ำ
“เป็นไงงานที่ทำ”
“ดีฮะ สบายดี”
“แล้วยงฮวายัง...”
“อ่าของได้แล้วผมไปนะฮะ”
ซองมินว่าก่อนจะรีบหนีจากวงสนทนานั้นทันที เมื่อเอ่ยถึงใครอีกคนซองมินเองก็ไม่รู้จะตอบอย่างไร ความสัมพันธ์ในตอนนี้มันค้างๆคาจนเค้าเองก็หวั่นใจ ซองมินส่ายหน้าไปมาก่อนจะบึ่งรถไปยังบริษัททันที
“บ้าเหรอ แกอยากเสียคนดีๆไปหรือไงวะ”
“โถ่แบบนั้นแถวบ้านเรียกขี้เกียจ”
“เค้ามีฝีมือโว้ย”
เสียงบทสนทนาในห้องของบอสดังขึ้น ซองมินกรอกตาไปมาอย่างรำคาญในใจนึกว่าจะเป็นชเวซีวอน เพื่อนคนสำคัญของฮันกยองที่มีธุรกิจในเกาหลีมากกว่าและรวยกว่าแต่ทั้งหมดซีวอนก็ไม่ได้บริหารเอง จนะกระทั่งร่างเล็กเปิดประตูเข้ามาถึงจะรู้ว่าไม่ใช่ชเวซีวอน
ชายหนุ่มที่อยู่ในชุดเสื้อเชิ้ตกับกางเกงธรรมดาแต่ดูดี บวกกับผมสีบลอนด์เงินสลวยนั่นแล้วก็ทำให้ซองมินเองแอบใจเต้นอยู่เหมือนกัน ไม่คิดว่าฮันกยองจะมีน้องชายหล่อกระแทกใจแบบนี้ แต่ทว่าด้วยนิสัยของซองมินจึงต้องทำเชิดเข้าไว้เสียก่อน...
“อ้าวลูกค้าเหรอฮะ ขอโทษที่มาผิดจังหวะ”
“บ้า! นี่ไงคนที่นายจะได้ร่วมงานในเร็วๆนี้”
“พูดเป็นหนังไปได้ น้ำเน่าครับ”
ซองมินว่าก่อนจะกระแทกแก้วกาแฟลงบนโต๊ะ จนร่างสูงที่ยืนอยู่ถึงกับมองด้วยความพอใจในรูปร่างหน้าตาแต่กลับไม่พอใจในเรื่องกริยาเนี่ยน่ะสิ
“นี่โจวคยูฮยอนน้องชายฉันที่จะมาเป็นบอสนาย ส่วนนี่อีซองมินตำแหน่งอิสระหาตัวจับได้ยาก ถือว่าโชคดีมากที่แกเข้ามาศึกษางานแล้วเจอคนดังของฉัน”
“ผมกลายเป็นคนไม่มีตำแหน่งในบริษัทของคุณไปแล้วหรือไง”
ร่างเล็กว่าอย่างไม่พอใจ ก่อนจะควานหาของในกระเป๋าไปพลาง คยูฮยอนที่ยืนเงียบยังคงมองไม่วางตา น่ารักไปหมดจริงๆ...
“เอ้านี่งานที่ปารีสเมื่อวันก่อน กว่าจะเก็บภาพมาได้ยากโฮก”
ซองมินว่าก่อนจะโยนอัลบั้มรูปลงบนโต๊ะ คยูฮยอนถือวิสาสะหยิบงานนั้นไปดู เค้าค่อนข้างอึ้งในฝีมือการถ่ายภาพของซองมินมากทีเดียว ความหรูหราของเมืองที่นั่นกับความเรียบง่ายของบุคคล มันทำให้คยูฮยอนนึกอยากออกแบบทันทีเมื่อเห็นภาพที่ซองมินถ่าย
“เป็นไงล่ะ น่าทึ่งใช่ไหม?”
“เออ เดี๊ยวผมไปรับซองยุนให้แล้วกันเฮียมีนัดกับพี่เค้าไม่ใช่เหรอ?”
“ภูมิใจไว้นะซองมิน ฝีมือของนายทำให้คยูฮยอนผู้ไม่ยอมก้มหัวเรียกพี่”
“แก่ว่ะ เรียกซองมินแล้วกัน ฉันไม่ถือ”
ว่าพร้อมตบบ่าคยูฮยอนแรงๆ กริยาแบบนั้นยิ่งทำให้คยูฮยอนสงสัย ‘เก่งหาตัวจับได้ยาก’ และซองมินไม่เคยคุยกับใครนอกจากฮันกยองหรือซีวอนนี่จึงเป็นอีกเรื่องที่คยูฮยอนเองก็เริ่มสนใจในตัวซองมิน
“ทีเงี้ยล่ะทำพูด ทีคนอื่นเรียกล่ะตวาดเชียว”
“ก็มันมีเจ๊ด้วยนี่หว่า!”
ซองมินว่าก่อนจะตบหัวฮันกยองไปทีหนึ่งด้วยความหมันไส้ เห็นดังนั้นคยูฮยอนก็ได้แต่นึกขำอยู่ในใจ คนอะไรมีความกล้าได้ขนาดนี้ ตบหัวพี่ชายของเค้าอย่างไม่กลัวตายแถมกล้าตบบ่าคยูฮยอนผู้เย่อหยิ่งอีก
“อ่อ ซองมินงานที่ให้ไปว่าไงล่ะ ?”
“พี่เลี้ยงน่ะไม่ได้ แต่เด็กน่ะไปดูวันนี้เลยก็ได้...”
“อยากได้พี่เลี้ยงไวๆนะ ลูกชายฉันใกล้ปิดเทอมเต็มทนแล้ว”
อยากให้ฮยอกแจมาทำงานนี้
ความคิดที่แล่นมาในหัวทำให้ซองมินกระตุกยิ้ม แต่ก็รอฟังฮันกยองพูดจนจบ คงดูได้จากนิสัยน้องชายแล้ว ก็เริ่มไม่แน่ใจเท่าไหร่ว่าฮยอกแจจะว่างมาทำงานให้บอสไหม เพราะตัวเค้าเองก็รู้คำตอบมันอย่างที่ฮยอกแจว่า...
“ไวๆแล้วกัน ฉันอยากให้ซองยุนเติบโตมาเป็นคนที่ดี นายไม่ได้อยู่ในวงการพวกนั้น อันนั้นฉันก็พอเข้าใจ แต่ถ้านายมีลูกนายก็จะเข้าใจเองล่ะ..”
ฮันกยองพูด ด้วยสายตาเลื่อนลอย...เค้าไม่แม้แต่จะกล้าพูดสิ่งที่อยู่ออกไป เค้าได้แต่เก็บมันเอาไว้ รับฟังคำที่คนอื่นแนะนำราวกับจะทำตาม แต่ทว่าเค้าก็แค่เก็บมันไปเปรียบเทียบ ฮันกยองก็เหมือนเด็กคนหนึ่งซึ่งมีความคิด ดื้อเงียบ...
“แล้วเวลาล่ะฮะที่ใช้ในการเลี้ยงซองยุน?”
“ก็ตลอดเวลาที่ฉันพักผ่อน...”
“งั้นเหรอ?...ผมก็ไม่อยากพูดเท่าไหร่นะ น้องชายผมทำงานพี่เลี้ยงอยู่”
“อืมน้องชายงั้นเหรอ? นายก็คงคุยได้สินะ”
“ถ้ามันง่าย ผมคงไม่ตัดใจสินใจบอกคุณหรอกบอส”
ซองมินว่าเนือยๆ เจ้านั่นน่ะกลัวอะไรนักหนาก็ไม่รู้ ที่พ่อของตัวเองทำงานมาไม่รู้ตั้งเท่าไหร่ยังไม่เคยกลัวมันเลยด้วยซ้ำ พ่อของเค้าแค่คิดว่าการเติมเต็มคือสิ่งที่วิเศษที่สุด แต่แปลกที่น้องชายเค้าไม่ค่อยจะเข้าใจมันเท่าไหร่
“ฉันพอจะคุยตัวต่อตัวกับเค้าได้ไหมล่ะ?”
“ไม่รู้สิ จะนัดให้แล้วกัน ไปกันยังล่ะ”
ก่อนทั้งสามจะเดินออกมายังห้องทำงาน ซองมินขับรถไปตามยังแผนที่ที่ฮยอกแจให้ไว้ ในใจจริงๆแล้วอยากให้ฮยอกแจมาทำงานที่บ้านของฮันกยองอย่างไม่สาเหตุคงเป็นเพราะว่า ซองมินจะได้ไม่เป็นห่วงที่ฮยอกแจขับรถไปบ้านนั้นทีบ้านนู้นทีล่ะมั้ง
จนกระทั่งรถของซองมินจอดลงยังหน้าบ้านทาวน์เฮ้าส์หลังหนึ่ง ร่างเล็กกดออกรออย่างชั่งใจก่อนฮยอกแจจะเปิดประตู และเมื่อฮันกยองเห็นน้องชายที่เป็นพี่เลี้ยงเด็กของซองมินครั้งแรกก็ต้องถึงกับตกใจแล้วพึมพำออกมาเบาๆ
.
แม้ซองมินจะฟังไม่ออกแต่เค้าก็ได้แต่ตบบ่าเตือนสติแล้วพากันเดินเข้าไปยังในบ้าน ฮยอกแจนั่งลงบนโซฟาพลางพินิจใบหน้าของฮันกยองดูดีไปหมดจริงๆ แต่แล้วหัวก็สลัดเรื่องนั้นออกไปเมื่อเด็กน้อยในความดูแลของเค้าเดินลงมาพร้อมกับแม่ของแก
“สวัสดีค่ะ”
“ครับ ผมฮันกยอง...”
“ค่ะ ฮยอกแจเล่าให้ฟังหมดแล้ว”
หญิงสาวระบายยิ้มอ่อนโยน ก่อนจะอุ้มเด็กสาวขึ้นมาไว้บนตักดูๆแล้วน่าจะรุ่นราวคราวเดียวกับลูกชายหัวแก้วหัวแหวนของเค้า
“เดี๊ยวอาทิตย์หน้า ฉันก็ต้องไปทำงานต่างประเทศตั้งเดือนหนึ่งฝากฮยอกแจดูแลไว้แบบถาวรเลยค่ะ คงไม่มีปัญหาเพราะอีกอย่างลูกสาวฉันปิดเทอม”
ฮยอกแจรับงานช่วงที่เด็กปิดเทอม??
ซองมินแอบสงสัยแต่ก็ยังฟังหญิงสาวพูดต่อ ซองมินกำลังมองหน้าฮยอกแจอย่างไม่เข้าใจซึ่งฮยอกแจเองก็เอาแต่นั่งก้มหน้า
“ฉันรู้ว่าฮยอกแจไม่เคยรับงานแบบนี้แต่...ซองมินเธออยากฟังข้อตกลงของฉันกับน้องชายเธอหรือเปล่าล่ะ?”
“แล้วแต่ครับ...”
ซองมินตอบอย่างหยั่งเชิง หญิงสาวเองก็ได้แต่อมยิ้มเศร้าๆ...
“ฉันสามารถ ทำให้พวกคุณพบกับแม่...จริงๆได้”
ประโยคที่ทำให้ทุกคนในห้องเงียบสงัด ฮยอกแจมองหน้าซองมินอย่างคาดหวัง เค้ารู้ว่าซองมินไม่เคยขัดใจเค้า แต่ว่าคราวนี้คงยากจริงๆสินะ...
“...จะให้ผมเชื่อได้อย่างไง เราเพิ่งเจอกันครั้งแรกเองนะครับ?”
เงียบไปนาน ซองมินสวนกลับแทบจะทันควัน เค้ากำลังไม่พอใจอย่างมาก มาเอ่ยถึงแม่ของเค้าซี้ซั้วแบบนี้ จะให้เค้าเชื่อได้อย่างไร ในเมื่อตัวเค้าเองเป็นลูกแท้ๆ ยังไม่เคยเห็นแม้แต่ภาพหรือแม้แต่เรื่องราว พวกเค้าสองคนเองก็ไม่เคยรับรู้...
“นั่นมันสำหรับเธอกับฉัน แต่ฉันกับฮยอกแจเราตกลงเรื่องนี้กันมาพอสมควรแล้วค่ะ”
กริยาท่าทางการพูดของเธอมีสีหน้า ท่าทางซึ่งดูมั่นใจและซองมินเองก็เป็นคนที่เข้าถึงยากในเรื่องส่วนตัวดังนั้นเธอจึงยกเหตุผลเรื่องที่คุยกับฮยอกแจมานานเป็นข้ออ้าง ซองมินพอจะอ่านเกมส์ออกแล้วล่ะนะ
“เราสนิทกันเพราะเรียนจบมาพร้อมๆกันน่ะ...เธอคงไม่ว่า...”
“ตัวผมเองบอกตามตรงว่าไม่เชื่อคุณเลย”
“อย่างที่ฮยอกแจบอกไว้เลยนะคะ”
เธอยังคงยิ้ม...
“ครับ ผมเข้าถึงยาก”
“...การที่ฉันมาตัดสินใจพูดแบบนี้ คิดหนักทีเดียวนะคะ”
ซองมินฟังอย่างไม่เชื่อหู คนที่ให้กำเนิดเค้าไร้ตัวตน เค้าคิดอย่างนั้นเสมอมาก่อนหญิงสาวจะยื่นรูปถ่ายใบหนึ่งที่ซีดเซียวให้ซองมินดู รูปถ่ายของพ่อเค้าที่ยืนถ่ายกับผู้หญิงคนหนึ่งซึ่งเธอท้องได้ประมาณหกเจ็ดเดือนสถานที่ที่หน้าบ้านหลังที่พวกเค้าจากมา โดยในมือของพ่ออุ้มเด็กชายวัยสามขวบไว้...
“คนนี้คือลูกชายคนโต คนนี้ใกล้คลอดแล้ว แล้วนี่ก็ฉันคนถ่ายให้ ความจริงมีเป็นอัลบั้มนะซึ่งน้องชายเธอดูแล้ว อย่างไรก็เถอะช่วยดูแลลูกฉันด้วยนะ ระหว่างนั้นฉันจะคุยกับซอนอึนให้”
จบประโยคของหญิงสาวซองมินก็อมยิ้มก่อนจะพยักหน้าหงึกหงักให้ซึ่งเธอก็หายห่วง ซองมินสั่งให้ฮันกยองนั่งคุยเรื่องธุรกิจกับหญิงสาวไป ฮันกยองเองก็ได้แต่มองตามไปอย่างเป็นห่วง แน่นอนที่สุดว่าซองมินคงไม่ให้เค้าก้าวก่ายในเรื่องส่วนตัวอย่างแน่นอน
“คงไม่มีปัญหาหรอกครับ เพราะผมเองก็ไม่สนเงื่อนไขของคุณต่อพนักงานของผม ผมหวังว่าตัวผมเองจะดูแลลูกสาวของคุณในวงการบันเทองได้อย่างดีเยี่ยม”
“ค่ะ ฉันก็มั่นใจอย่างนั้น”
เธอตอบพลางลูบหัวผู้เป็นลูกสาวอย่างรักใคร่ แม้จะน่าแปลกที่อายุปานนี้แล้วแต่กลับมีลูกรุ่นคราวเดียวกับฮันกยอง และเพื่อนที่อายุเท่ากันเองก็มีลูกอ่อนกว่าฮันกยองไม่กี่ปี แต่ฮันกยองเองก็ไม่พยายามถาม เค้ามีความเกรงใจพอควร
ซองมินซึ่งลากฮยอกแจออกมานอกบ้าน ดวงตาสวยกำลังมีน้ำสีขาวใสรินไหล...
“นายกำลังกรีดเลือดตัวเองใช่ไหมฮยอกแจ?”
Edit 10.09.21; 22.35
ดิทเนื้อหาใหม่นะคะ
ยาวกว่าเดิมโปรดติชมกันด้วยนะคะTT~
ถ้ามันยังแย่อยู่ก็จะปรับใหม่ให้อีกค่ะ ขอบคุณค่ะ!!
---------------------------------------------------------------------------------------------
ตอนนี้บอกตามตรงว่าแอบรู้สึกแย่TT คนอ่านไม่มีเม้นท์
วุ่นวายมากค่ะ ช่วยติดตามต่อด้วยนะคะT33T
ความคิดเห็น