NC

คำเตือนเนื้อหา

เรื่องนี้อาจมีเนื้อหาหรือการใช้ภาษา
ที่ไม่เหมาะสม เยาวชนที่มีอายุต่ำกว่า 18 ปี
ควรใช้วิจารณญานในการอ่าน
กดยอมรับเพื่อเข้าสู่เนื้อหา

อ่านเงื่อนไขเพิ่มเติม
ปิด
ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    (end)「Hunter X Hunter」L’appel Duvide [OC]

    ลำดับตอนที่ #15 : solitude

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 3.3K
      534
      21 เม.ย. 63


    กับพวกพี่...แต่ก่อนก็ไม่ได้สนิทกันขนาดนี้หรอก



    ‘ไม่อยากอยู่คนเดียว’


    จำได้ว่าตอนแรกยังเรียกสมาชิกๆอยู่เลย

    จีโดนแม่ทิ้ง จากนั้นก็ไปเจอคุโรโร่ที่กำลังบาดเจ็บ คุณหอมๆเลือดท่วมไปทั้งตัวเหมือนแค่เหยียบซ้ำอีกแผลก็จะลาโลกได้ตอนนั้น จีก็เลยช่วยรักษา คิดว่าหลังจากหายจะเอาติดไปด้วยเป็นอาหารสำรองเผื่อท้องร้อง

    ก็บอกไปแล้วแหละว่าจะกินนะ

    กำลังจะจับกินแล้วด้วย

    ‘ฉันคนเดียวคงไม่อิ่ม จีจะไปดูคนอื่นด้วยไหม?’

    แต่ก็ตะกละอยากกินเพิ่ม

    พอตกลงก็ถูกจูงมือพามาหาอาหารคนอื่น

    ตอนนั้นอาหารทุกคนยังเด็ก แต่ถึงแม้จะยังเด็กก็มีกลิ่นน่าอร่อยทุกคน พอมายืนรวมๆกันแล้วหอมจนน้ำลายจะไหล แต่นอกจากคุโรโร่ที่รู้ว่าอาหารเป็นเรื่องจริงแล้ว คนอื่นก็คิดว่าเป็นเรื่องล้อเล่นกันหมด

    สมาชิกทุกคนเหมือนเป็นคนพิเศษ โดดเด่นต่างจากคนอื่นในประเทศที่ถูกทิ้ง พากันฉายแววเก่งตั้งแต่เด็ก ถ้าโตไปคงยิ่งเก่ง ยิ่งอร่อยกว่านี้ จีก็เลยคิดจะอยู่กับพวกเขาไปจนถึงตอนนั้นแล้วค่อยกิน ไหนๆก็ถูกคิดว่าล้อเล่นอยู่แล้ว ฉวยโอกาสระหว่างรอโตแอบแทะเล็มไปด้วยซะเลย

    ชีวิตทุกคนแตกต่างจากจี พวกเขาไม่ได้เกิดมาแล้วถูกทุกอย่างรัก ก็เลยถูกรอบข้างบังคับให้ต้องโตเป็นผู้ใหญ่ เวลาจะทำอะไรก็คิดมาก คิดซับซ้อน คิดเยอะไปหมด



    ‘หนูเหงา’



    ต่างกับจี

    ที่ถึงแม้เวลาจะผ่านไปก็ยังคงเป็นเด็กเอาแต่ใจ


    ‘มาพูดอะไรเอาวันนี้!’ คนตัวโตแผดเสียงใส่ เหมือนจะจำแผนคุโรโร่ได้ว่าจะให้เขาคนนี้เป็นทัพหลักเพราะพลังเยอะที่สุดในกลุ่ม ‘อย่ามาเบะปากใส่นะเฟ้ย!’

    จีเป็นเด็กเอาแต่ใจ

    ในขณะที่มีคนชอบก็ต้องมีคนไม่ชอบ คนตัวโตเป็นอย่างหลัง เขาไม่ชอบจี คิดว่างั้นนะ เพราะตั้งแต่เจอกันครั้งแรกก็เสียงดังใส่ ชอบมองเขม่นไม่เหมือนคุโรโร่ที่โอ๋ตลอด แล้วก็ไม่อ่อนโยนเหมือนคุณคนสวยด้วย

    ‘เด็กจะร้องไห้แล้วอุโบ’ คุณคนสวยเป็นคนหยุด เดินมานั่งบนเตียงเก่าๆแล้วก็ทาบมือกับหน้าผากเด็กที่กำผ้าห่มแน่น ทำท่าเหมือนจะงอแง ‘ตัวร้อนจี๋ คงเพราะเมื่อวานไปเล่นข้างนอกนั่นแหละ’


    ‘ทำตัวเองนี่’


    เสียงแข็งอีกแล้ว


    ‘ฮึก’


    เบะปาก

    จะงอแงจริงๆแล้วนะ

    ไม่ชอบเลยเวลาที่คุโรโร่อยากได้อะไร ไม่ชอบเลยเวลาที่ทุกคนต้องวางแผนรัดกุมตลอด ไม่ชอบที่ต้องฝึกซ้ำแล้วซ้ำเล่าเพื่อแข็งแกร่งจนวันจริงไม่อ่อนแอจนทำพลาด ทุกคนยุ่งไปหมด

    ส่วนจีที่ไม่ได้มีหน้าที่อะไรในแผนก็เหมือนเป็นเศษ ได้แค่ดู นอนเล่น แล้วก็กินจนถูกสมาชิกคนนึงว่าหัวหน้ากำลังขุนจีให้อ้วนเหมือนหมู สักวันก็จะโดนจับกิน

    พอทุกวันได้แต่กินกับนอนก็เกิดเบื่อขึ้นมา

    เมื่อวานก็เลยแอบหนีไปเล่นข้างนอก เดินสุ่มกินไปเรื่อย พอกินอิ่มถึงค่อยกลับ...ดึกหน่อยแต่คนอื่นที่ยุ่งอยู่ไม่รู้หรอก จุดหมายที่กลับก็เป็นห้องหัวหน้าด้วย ตัวเปื้อนเลือดก็ถูกเขาล้างออกให้ เสื้อก็เปลี่ยนใหม่ กำจัดหลักฐานการกินออกทุกอย่าง

    พอถามก็บอกว่าไปเล่นเหมือนเดิม

    เด็กขี้เบื่อ อยู่นิ่งกับที่ไม่ได้ การออกไปเล่นข้างนอกก็ไม่ใช่ครั้งแรกที่เกิดขึ้น ทุกคนก็เลยไม่ติดใจเอาความ...ที่ยังไม่ได้บอกก็คือครั้งนี้นอกจากจะไปเล่นก็ยังไปกินด้วย

    กินของแปลกหน้าประทังท้อง

    เช้ามาก็เลยไข้ขึ้นแบบนี้



    ‘หนูเหงา ไม่อยากอยู่คนเดียว’

    ‘จี...’



    สุดท้ายคุโรโร่ก็เดินมาหาด้วยใบหน้าอ่อนใจ

    ฝ่ามือของเขาบางครั้งก็อุ่นเหมือนเตาผิง บางครั้งก็เย็นเหมือนน้ำแข็ง เพราะตั้งแต่แรกถูกฝ่ามือนี้ลูบหัวกล่อมให้หลับก็เลยติดไปแล้ว ยังมีเสียงนุ่มๆอีก เขาก็เลยกลายเป็นคุณอาหารพิเศษที่จียอมฟังเวลางอแง


    ‘ตอนกลับจะเอาของฝากมาให้นะ’


    ของฝากเหรอ

    อื้อ...ก็ได้ เห็นแก่คุณที่ลำบากใจหรอกนะ


    ‘หัวหน้าตามใจอีกแล้ว!’


    แต่แค่ได้ยินเสียงขัด

    ความอยากเอาแต่ใจก็กลับมาอีกครั้ง



    ‘น้องนอนไม่หลับถ้าไม่มีคุณหมีให้กอด’



    จะทำ

    จะเอาแต่ใจให้หงุดหงิดตายไปเลย




    ‘คุณตัวโตมาอยู่เป็นเพื่อนหนูหน่อย’




    ทุกสายตาหันไปมอง ‘คุณตัวโต’ ที่ว่าเป็นจุดเดียว

    สมาชิกคนนึงหัวเราะแล้วล้อเขาว่าเป็นคุณหมีจนคนตัวโตคำรามลั่น แทบจะเข้ามาบีบคอเด็กที่นอนซมให้เละคามือ แต่เด็กที่ว่าไม่ได้สนใจสักนิด เอาแต่จ้องหัวหน้าตาแป๋ว แอบใจฟีบลงนิดหน่อยตอนที่เห็นเขาถอนหายใจ

    แต่สุดท้าย



    ‘ช่วยหน่อยนะอุโบ’

    ‘หัวหน้า!!’



    ก็ถูกตามใจอยู่ดี

    คุโรโร่ทาบนิ้วชี้กับปาก ทำเสียง ‘ชู่ว’ ให้ลดเสียงลง เลื่อนมือที่วางบนหน้าผากมาปิดตา กระซิบข้างหู

    ‘หลับตา...แล้วก็ไม่ต้องสนใจเสียงอะไรสักพักนะ’

    ก่อนจะลุกขึ้นจากเตียง จีได้ยินเสียงเสียงฝีเท้าคนอื่นเดินออกไปข้างนอก ได้ยินเสียงปิดประตู แล้วก็เสียงเหมือนทุกคนกำลังปรึกษากัน

    คุณตัวโตที่โวยวายตอนแรกเริ่มเงียบไปแล้ว

    แล้วไม่นานนักคุโรโร่ก็กลับมา

    เสียงเบาพอให้ได้ยินแค่สองคน


    ‘เป็นเด็กดีนะ’

    จีพยักหน้า พอถูกตามใจก็ยิ้มแฉ่ง ‘ฮื่อ’

    ‘คนเก่ง’

    เขาชมเสียงนุ่ม ลูบหัวเหมือนรู้ว่าต้องทำยังไงคนป่วยถึงจะพอใจ

    ‘แล้วฉันจะรีบกลับ’




    …...




    ‘เอาแต่ใจจริงๆเล้ยย’


    คุณตัวโตขี้บ่น

    เป็นคุณหมีที่ขี้บ่นที่สุด

    ตั้งแต่ทุกคนออกไปก็ยังไม่หยุดบ่นสักนิด เอาผ้าชุบน้ำเช็ดตัวให้ก็บ่นไป ถลึงตาใส่ไป ยังขู่ว่าถ้าขืนคราวหน้าเอาแต่ใจอีกจะบีบให้กระดูกหัก ไม่กล้างอแงอีกเลย


    ‘เจ็บ’

    ‘ห๊ะ?’

    ‘ฮึก คุณถูแรงจนหนูช้ำแล้ว’


    เสียงบ่นหายไป มือที่กำลังใช้ผ้าเช็ดก็หยุด คุณตัวโตที่ยังขู่น่ากลัวเมื่อกี้ก้มมามองดูผิวที่ตัวเองเช็ดก่อนจะสบถออกมาเสียงดัง มือใหญ่หยาบกร้านพยายามลูบส่วนที่เขียวช้ำเหมือนจะให้มันหาย แต่ยิ่งลูบยิ่งช้ำกว่าเดิม


    ‘อ่อนแอจริงเว้ย!’

    ‘คุณจะไปไหนน่ะ’

    ‘ช้ำแบบนี้ก็ต้องกินยาไม่ใช่รึไงว--’

    คำหยาบท้ายเสียงหายไปเมื่อถูกเด็กจ้องตาแป๋ว คุณสมาชิกตัวโตทำหน้าหงุดหงิด แต่ก็ไม่ได้สบถออกมาอีก

    จะออกไปเหรอ

    ไม่ได้นะ


    ‘อยู่เป็นเพื่อนหนู’


    ไม่ให้ไปหรอก



    ‘คุณต้องอยู่ที่นี่เป็นเพื่อนหนู’



    เขาสบถออกมาอีกคำ ไม่ได้จะก้าวออกไปข้างนอกอีกแล้วกลับมานั่งข้างเตียง ทำได้แค่เช็ดตัวให้งกๆ แต่ไม่ได้เช็ดแรงจนเจ็บเหมือนตอนแรกอีกแล้ว ใบหน้าคุณตัวโตดูเครียดยิ่งกว่าเวลาเจอศัตรู ได้ยินแต่เสียงพึมพำว่าเหมือนเช็ดตัวให้ตุ๊กตาแก้ว ทำหักไปมีหวังซวย

    ตอนแรกว่าจะเอาแต่ใจให้เขาหงุดหงิดเล่น

    แต่ตอนนี้ไม่อยากทำแล้ว

    พอตัวเย็นขึ้นก็อารมณ์ดีขึ้น



    ‘ขี่หลังหน่อย’

    ‘ฝันไปเถอะ’

    ‘...ฮึก’

    ‘เออๆ เข้าใจแล้วโว้ย! หยุดงอแงสักทีได้ไหมวะ!’



    ได้ขี่คอแทนล่ะ

    สูงจัง เหมือนนั่งบนยอดเขาเลย



    ‘อยากไปดูดาวข้างนอก’

    ‘เออๆ’



    ดึกแล้วก็ต้องมีคุณดาว

    จีสูงขนาดนี้ต้องจับได้แน่ๆ



    ‘ฮ--ฮัดชิ่ว!’

    ‘เวรละ!’



    คุณดาวอยู่สูงเกินไป

    จับไม่ได้ แถมอากาศข้างนอกยังหนาวด้วย

    อุโบกินทำท่าจะพากลับไปในที่พักเหมือนเดิมแต่จีก็งอแงจะอยู่ข้างนอกจนอีกฝ่ายยอมอย่างช่วยไม่ได้ สุดท้ายก็กลับเข้าไปเอาผ้าห่มผืนหนามา ห่อจนคนป่วยกลายเป็นก้อนกลมๆ วางไว้บนตักแล้วใช้แขนสองข้างกอดไว้อีกชั้น

    อุ่นจัง

    เหมือนมีเกราะกำบังเลย


    ‘คิดยังไงถึงได้ออกไปข้างนอก’ จู่ๆพี่ตัวโตก็บ่นขึ้นมา ‘เดี๋ยวก็ถูกพวกตามล้างแค้นจับไปสักวัน’

    ไม่กลัวหรอก

    เดี๋ยวจะกินให้หมดเลย


    ‘ก็แค่...เบื่อ’


    เหตุผลที่ออกไป



    ‘คนอื่นยุ่งกันหมดเลย’



    ก็มีแค่นั้นแหละ



    ‘เอาแต่ใจชิบ’

    ‘ทำไมคนอื่นกลับช้าจัง’

    ‘ก็เปลี่ยนแผนใหม่หมดนี่หว่า’

    ‘ฮื่อ รีบกลับหน่อยสิ’ บ่นมุบมิบ ‘น้องรออยู่นะ’

    ‘ที่ช้าก็เพราะตัวเองแท้ๆ...’


    ‘ไม่เป็นไร จีจะอวยพรให้เอง’


    เงยหน้ามองดาวบนฟ้า

    ‘ทุกอย่างจะสำเร็จ’

    ‘ฟังที่คนเขาพูดหน่อยสิวะ!’



    เสียงดังอีกแล้ว



    ‘ที่จริงถ้าอยากได้หนูไปเอาให้ก็ได้’

    ‘อยู่เฉยๆไปเหอะ’



    ถลึงตาใส่อีก



    ‘คุณเสียงดัง’

    ไม่รู้ว่าเพราะป่วย หรือเพราะผ้าห่มนุ่มๆอุ่นๆกับดวงดาวที่ระยิบระยับบนฟ้า เด็กที่ปรกติต้องมีคนลูบหัวกล่อมให้นอนถึงปรือตาลง ก้อนผ้าห่มโงนเงนไปซบท่อนแขนของคุณตัวโต มึนๆในหัวจะหลับอยู่รอมร่อ

    ‘หนูไม่ชอบคนเสียงดังเลย...’



    ไม่ชอบ

    ไม่ชอบจริงๆนะ

    คนเสียงดังน่ะน่ากลัว



    ‘แต่คุณหมีใจดี...จีก็เลยหายไม่ชอบแล้ว’



    ง่วงจัง

    ไหนบอกว่าจะรีบกลับไง




    ….




    ‘ไหนตอนแรกว่าเกลียดยัยหนูไง’

    ‘ก็เกลียด!’

    ‘ก่อนจะพูดเลิกกอดก่อนเถอะ’

    ‘อุโบปากแข็ง’

    ‘หุบปาก!’

    ‘...ไข้น้องลดแล้ว’

    ‘ไหน ให้ฉันดูหน่อยมาจิ’



    เสียงของคุณคนสวยที่ชอบถือปืน



    ‘ไข้ลดแล้วจริงๆด้วย’



    กลิ่นของเลือด


    ‘เออ ลืมถาม ไหนหัวหน้าว่าแผนกินเวลาไง’ แขนที่กอดก้อนผ้าห่มคลายออก ‘คิดว่าจะกลับช้ากว่านี้...ไหงเร็วซะได้ นี่เร็วกว่าแผนที่วางไว้ตอนแรกอีกไม่ใช่เหรอไง’

    เสียงที่พูดคุยกันเงียบกริบ

    จีตัวลอยหวือเพราะถูกอุ้ม อุ้มท่าเจ้าหญิงแบบไม่ทันให้ตั้งตัวจนใจหายวาบ จากที่งัวเงียจะนอนต่อต้องลืมตาขึ้นมาอย่างเสียไม่ได้...แต่พอเห็นหน้าคนอุ้มที่คุ้นเคย จากที่จะงอแงใส่ก็ดีใจจนยิ้มตาปิด



    ‘ที่เร็ว...เพราะช่วงหลังเราแทบไม่ต้องทำอะไร’



    มาจิเป็นคนพูดแทน


    ‘จู่ๆพวกมันก็ระเบิด’


    สายตาที่มองไปยังก้อนผ้าห่มอ่อนลง



    ‘ระเบิดเอง...จนตายไม่เหลือสักคน’



    คุณคนสวยกำลังพูดถึงจีรึเปล่านะ

    กำลังชมรึเปล่านะ

    ไม่รู้สิ

    แต่หัวหน้าที่อุ้มอยู่กำลังขยับยิ้ม

    และก้มมากระซิบ


    ‘เด็กดี...’





    (1)


    ‘ช่วงนี้อย่ามาเจอกันเลยดีกว่า’


    ความผิดหวังฉายออกมาเด่นชัด

    น้องแมวพยายามห้าม พยายามพูดเกลี้ยกล่อมสถานการณ์ที่กำลังพังให้ดีขึ้น แต่ก็ไม่สำเร็จ กอร์นดูรูปอาหารแล้วนิ่งไป กำหมัดแน่นระงับความโกรธ ส่วนเลโอลีโอก็กัดปากจนเลือดซิบ เบือนหน้าหนีไม่อยากฟังอะไร

    เหมือนแก้วที่แตกสลาย



    “หนูจะไปพักที่อื่นนะ”



    ถึงกลับมาต่อใหม่



    “ถ้าอยากให้ช่วย...ก็เรียกได้ทุกเมื่อ”

    “หนีให้รอดก่อน เธอน่ะถูกตามล่าอยู่ไม่ใช่เหรอไง”

    “เลโอลีโอ!”



    ก็ยังเหลือรอยแตกร้าวอยู่ดี



    “ฉันจะไปด้วย!”



    มือถูกบีบแน่น

    ดวงตาสีฟ้าสวยสั่นระริก ยกมือขึ้นปาดหยาดน้ำที่หยดลงมาเปื้อนแก้มออกให้...ตอนนั้นถึงเพิ่งรู้ตัวว่าภาพที่เห็นพร่ามัวขนาดไหน น้ำตามันไหลลงมาไม่หยุด มากที่สุดในรอบปี แต่จีไม่ได้ร้องไห้ แล้วก็ไม่ได้สะอึกสะอื้นด้วย

    แต่เจ็บ

    แบบนี้มันเจ็บยิ่งกว่าร้องเสียอีก



    “คิรัวร์อยู่นี่แหละ”



    ชอบ

    ชอบมากเลยนะ



    “หนูโตแล้วนะ...ไม่ต้องตามดูแลก็ได้”



    แต่เพราะชอบถึงให้มาอยู่ด้วยไม่ได้

    น้องแมวกำลังมีเพื่อน กำลังได้พบประสบการณ์ใหม่ๆ เรียนรู้สิ่งใหม่ๆ จีพัง แต่ไม่อยากให้เขาพังไปด้วย น้องแมวเหมาะกับรอยยิ้มมากกว่าใบหน้าไม่มีความสุข จีไม่มั่นใจว่าตัวเองสามารถทำให้เขายิ้มได้ แต่เพื่อนน่ะทำได้นะ

    เพราะงั้นต้องยิ้มให้มากๆ

    ‘คิลไม่จำเป็นต้องมีเพื่อนหรอก’

    ต้องมีความสุขให้มากๆนะ


    จีเองก็จะพยายาม

    จะพยายามยิ้ม แล้วก็มีความสุขให้ได้



    “แล้วเจอกัน”



    แม้จะไม่เหมือนแต่ก่อน

    แต่ก็ถือว่าได้โตขึ้น

    เป็นจีที่เป็นผู้ใหญ่กว่าตอนนี้



    (2)


    ‘เด็กดื้อ’


    จู่ๆคำพูดนั้นก็ผุดขึ้นมาในหัวตอนอยู่ที่ในร้านสังสรรค์ร้านหนึ่งในยอร์คชิน มันเป็นร้านเล็กๆที่อยู่ไม่ห่างจากโรงแรมของพวกเลโอลีโอเท่าไหร่ ลึกเข้ามาในซอยที่เป็นแหล่งมั่วสุม แตกต่างจากที่ที่เคยไปมา

    ร้านนี้เปิดเพลงเสียงดังระดับหูสะเทือน ตั้งแต่ทางเข้าก็คลุ้งไปด้วยกลิ่นเหม็นๆของบุหรี่ ที่สำคัญไม่ตรวจอายุคนเข้า แค่บอกว่าหลังจากเข้าไปแล้วก็ให้รับผิดชอบชีวิตของตัวเองเอง เข้ามาถึงรู้ว่าไม่ใช่คำขู่ พวกที่นั่งอยู่ตามโต๊ะแต่ละคนดูน่ากลัวทั้งนั้น กล้ามเนื้อแข็งแรงอย่างกับจะหักคอคนมือเปล่าได้

    ดึงฮู้ดมาปิดหน้าก่อนจะเดินไปนั่งแถวเคาน์เตอร์บาร์ เครื่องดื่มแก้วแรกเป็นค็อกเทลกลิ่นกาแฟผสมนมสด ท็อปด้วยเชอร์รี่ รสชาติไม่ได้แย่เพราะเจือรสนมกับกาแฟ แต่ก็รู้สึกแปลกลิ้นนิดหน่อย...เพราะมันไม่หวานหอมเหมือนขนมที่คุณแม่คิเคียวทำให้กินเลยแม้แต่นิดเดียว

    พวกพี่น่ะ เวลาเสร็จงานใหญ่ก็จะแอบไปดื่มบ่อยๆ

    ทิ้งให้จีนอนรอจนแทบจะเฉาตาย พอดื้อจะฉลองด้วยสิ่งที่พี่เขาให้มาก็คือน้ำหวานแบบไร้แอลกอฮอล์ เพราะถูกมองว่าเป็นเด็กถึงถูกห้าม จีไม่เหมาะกับของแบบนี้บ้างล่ะ ไม่อร่อยบ้างล่ะ ถ้าดื้อมากพี่สาวจะงดอาหารบ้างล่ะ

    ที่พอคุยด้วยได้ก็มีแค่พี่เฟย์

    แต่ไม่รู้ว่าเหนื่อยจะปฏิเสธแล้วหรือยังไง สุดท้ายวันนึงถึงแอบเอาเครื่องดื่มนั่นมาแล้วบอกให้ลองชิมดู...รสชาติมันแย่แล้วก็ขมมาก กลืนไปอึกเดียวร้อนไปทั้งลำคอ โลกหมุนแล้วก็รู้สึกหนักในหัว งอแงหนักจนพวกพี่รู้กันหมดว่าแอบไปทำอะไรมา

    ก็ไม่ใช่ว่าไม่รู้หรอกว่ามันเป็นของไม่ดี

    ตอนที่ท่านแม่ยังอยู่ตาแก่ชวนดื่มบ่อยจะตายไป ไม่สลบคาโต๊ะก็ไม่หยุด จีเป็นคนดูก็เลยเห็นตั้งแต่ต้นจนจบ ตาแก่อวดดีเมาไม่เป็นท่า มาวอแวท่านแม่ทั้งที่กลิ่นเหล้าหึ่งจนโดนส่งออกไปนอกร้าน...แล้วก็ถูกสอนว่านั่นเป็นตัวอย่างที่ไม่ดี ถ้าจีทำแม่จะไม่รัก

    ไม่รักเด็กไม่ดี

    แต่ถึงจะเป็นเด็กดี

    ‘ข้าเบื่อโลกนี้...แล้วก็เบื่อจะเล่นบทแม่ลูกแล้ว’

    ก็ถูกทิ้งเหมือนเดิม


    ‘จียังเด็ก’

    ‘หนูไม่เด็กแล้วนะคุโรโร่’


    จีจำไม่ได้แล้วว่าหยุดนับอายุไปตอนไหน

    อาจจะเป็นตั้งแต่ที่รู้ว่าไม่โตไปกว่านี้ หรือตั้งแต่ที่เรื่องทุกอย่างเฉลยออกมาว่าทั้งหมดเป็นแค่การละเล่นแก้เบื่อ

    จีชอบกินเหมือนพี่สาวคนโต ได้รับสิ่งของและความรักจากคนอื่นเพราะพี่สาวคนนั้นไม่เคยได้รับ  เพราะแม่น่ะมองจีเป็นตัวแทนของพี่...เป็นตัวแทนของของเล่นที่ท่านแม่รักที่สุด ถึงพยายามชดเชยสิ่งที่พี่ขาดให้จี

    พี่เป็นของเล่นที่มีความเป็นมนุษย์มากที่สุด

    ความเป็นมนุษย์...ที่ท่านแม่ไม่เคยมี

    ที่จีถูกทิ้งก็เพราะเป็นมนุษย์เหมือนพี่สาวไม่ได้


    ‘หนูอยากดื่ม’

    ‘ทำไมจีถึงอยากลองขนาดนั้น?’


    ทำไม?

    ทำไมงั้นเหรอ


    ‘ไม่รู้สิ’


    ตั้งแต่แรกก็เป็นเด็กดีมาโดยตลอด

    กับท่านแม่จีคิดว่าตัวเองพยายามไม่แพ้ใคร กระทั่งชุดเดรสสีแดงกุหลาบที่ไม่ชอบก็ยังสวมใส่ด้วยรอยยิ้มเพราะเป็นของที่ถูกเลือกให้ อ้อนยิ่งกว่าพวกพี่ เป็นอันดับหนึ่งของจีในตอนนั้น เป็นทุกอย่าง ทั้งรักและเคารพ

    ไม่เข้าใจหรอกว่าผิดพลาดตรงไหนถึงถูกทิ้ง จนมานึกได้ว่าแม่พูดถึงพี่เขาด้วยความรักมากขนาดไหน...อ้อ ความผิดพลาดมีแค่อย่างเดียว จีไม่ใช่พี่ ไม่ใช่ของเล่นน่าสนุก ไม่มีความเป็นมนุษย์พอให้ท่านแม่สนใจอยู่ต่อ

    เป็นของ...ที่ไม่ถูกต้องการอีกแล้ว


    ‘หนูอาจจะแค่อยากลืมความเจ็บปวด’


    ที่ชมว่า ‘เด็กดี’ ที่จริงคุณโกหกใช่รึเปล่า?

    ที่บอกว่ารัก ความจริงแล้วคุณกำลังพูดถึงใคร?


    ‘อยากจะลืม...ว่าไม่เป็นที่รัก’



    “ช่างคุ้นหน้าคุ้นตาเสียจริง”



    ที่นั่งข้างๆถูกจับจองโดยผู้หญิงใจร้าย

    เป็นคู่หมั้นที่เคยเหยียบขนม พูดอะไรสักอย่างเกี่ยวกับคุโรโร่ที่จีไม่เข้าใจ บอกว่าน้องแมวไม่มีวันรัก...แล้วก็เดินหนีไปดื้อๆ เรื่องรูปอดีตอาหารของจีก็คงจะเป็นเธอที่จัดการเหมือนกัน เพราะที่ซองเอกสารมีกลิ่นจางๆติดอยู่

    กลิ่นเดียวกับคุณคู่หมั้น


    “ทะเลาะกันถึงขั้นหนีมาอยู่ในที่แบบนี้แล้วเหรอ?”


    กลิ่นที่ไม่ใช่อาหาร

    กลิ่นฉุนติดจมูก


    “ถูกตบ? ไม่แปลกใจเลยล่ะค่ะ ก็นะ ใครจะไปรับเรื่องน่าขยะแขยงแบบนั้นได้กัน...กินมนุษย์ สัตว์ประหลาดชัดๆ ไม่ยักรู้ว่าแมงมุมมีรสนิยมเลี้ยงของแบบนี้”


    ฮู้ดที่ปิดหน้าถูกดึงออก

    ใบหน้าแหงนขึ้นเมื่อถูกกระชากผมจากทางด้านหลัง คนทำเป็นผู้ชายตัวใหญ่ที่คงจะเป็นบอดี้การ์ดของอีกฝ่าย เสียงเพลงจังหวะหนักๆกลบเสียงคุยกันที่มุมหนึ่งได้มิด ยิ่งมุมนี้เป็นมุมอับที่จีว่าจะมานั่งเงียบๆแล้วด้วย

    ถึงจะมีใครตาย

    ก็คงไม่มีใครสนใจ


    “ห้าพันล้านสำหรับคนอย่างคุณรู้สึกว่ามากไปหน่อยนะคะ?”


    คู่หมั้นแสยะยิ้มน่าเกลียดเหมือนพวกศัตรูของพี่ ปลายนิ้วไล้ไปตามกรอบหน้าของคนที่ถูกล็อกคอจนหายใจไม่ออก ก่อนที่จะจิกเล็บทั้งห้าที่แก้ม ออกแรงจนรับรู้ว่าเล็บฝังเข้าไปในเนื้อ

    แก้มที่ถูกตบเริ่มปวดตุบๆ

    พรุ่งนี้คงกลายเป็นรอยช้ำ


    “ตอนที่ถูกทิ้งรู้สึกยังไงบ้างคะ? เจ็บดีไหม? หรือว่ารู้สึกสิ้นหวัง? แหม คิลน่าจะทำตามข้อตกลงของเราให้นานอีกหน่อย ฉันจะได้เลื่อนเวลาปล่อยความลับออกไปให้คุณได้อยู่กับเพื่อนบ้าง...”


    มาเบลส่งสัญญาณบอกให้ปล่อยตัว แค่นั้นร่างเล็กร่วงเหมือนหุ่นเชิดถูกตัดสาย กุมคอไอจนหน้าแดง จู่ๆขอบตาร้อนผ่าวขึ้นมาดื้อๆ จีรู้ว่าตัวเองเจ็บ แต่ไม่รู้ว่าเจ็บเพราะถูกทำร้าย หรือเพราะคำพูดเชือดเฉือนใจเมื่อกี้กันแน่

    เหมือนแอลกอฮอล์จะเริ่มออกฤทธิ์ ภาพที่เห็นพร่ามัวด้วยหยาดน้ำ ภาพของคุณคู่หมั้นบิดเบี้ยวจนไม่ต่างจากปีศาจร้าย ปากที่แสยะยิ้มน่ากลัวมากกว่าจะดูสวยงาม เป็นครั้งแรกที่เห็นใบหน้าใต้หน้ากากของใครแล้วรู้สึกขยะแขยงจนอยากจะอาเจียน เป็นความรู้สึกที่ยิ่งกว่าได้กินอาหารเน่าๆเสียอีก

    ไม่สิ

    จะเทียบกับอาหารก็คงไม่ได้


    “หลังจากส่งเธอให้พวกมาเฟียแล้วฉันกำลังคิดอยู่พอดีว่าจะเข้าไปแทนที่ดีไหมนะ? แมงมุมน่ะใครจะเข้าไปก็ได้นี่นา เราอายุใกล้เคียงกันด้วยนี่ บางทีตำแหน่งน้องเล็กอาจจะเหมาะกับฉันมากกว่าก็ได้...เพราะดูยังไง ฉันก็มีดีกว่าคุณทุกอย่าง”


    มองตั้งแต่บนจรดล่างด้วยสายตาของผู้เหนือกว่า แย้มยิ้มงดงามราวที่กำลังพูดเป็นเรื่องปรกติ นิ้วจิ้มหน้าผากจนจีเซถอยหลัง...ถึงใกล้ขนาดนี้ก็ยังไม่มีกลิ่นหอมๆ

    ไม่มีอะไรพิเศษ

    เป็นแค่หนึ่งในฝูงมดยั้วเยี้ยบนโลกนี้



    “และบางทีคุโรโร่ก็อาจจะทิ้งคุณมาหาฉั----”

    “หุบปากได้รึยัง?”



    ทำไม

    ‘กอดนะจี’

    ทำไมต้องทนด้วย



    “มะ เมื่อกี้พูดว่าอะไรนะ!”

    “หูหนวกรึไง”

    ดวงตามองอย่างเอาเรื่องขณะที่ย่างเข้าไปใกล้ๆคนที่ถอยหลังเรื่อยๆ จับข้อมือไม่ให้อีกฝ่ายหนี ก่อนจะเงยหน้าขึ้นสบตาตรงๆ ยิ่งมองยิ่งรู้สึกเกลียด ในหัวมีแต่คำว่าไม่ชอบคนคนนี้เต็มไปหมด ความทรงจำที่ไม่ดีไหลมาเป็นฉากๆ ทั้งตอนที่เหยียบขนม ทั้งบอกให้นอนบนพื้น แล้วก็เมื่อกี้ที่พูดทำร้าย เป็นความโกรธที่มากจนทำให้ตัวสั่นไปหมด

    “รู้หรือเปล่าว่าทำไมเราถึงกล้ามาที่อันตรายแบบนี้คนเดียว?” จีบีบข้อมือเธอด้วยแรงทั้งหมด บีบให้เหมือนกับตอนที่ถูกจิกแก้ม “เพราะเราเก่ง...เก่งจนถึงไม่มีพวกพี่ก็เอาตัวรอดได้”

    “ได้ยินว่าเนลสันเก่งเรื่องข่าว โดยเฉพาะเธอที่ถูกวางตัวเป็นผู้นำแทนพี่สาว แต่คงเป็นแค่ข่าวลือ...เพราะถ้าจริง ว่าที่ผู้นำคงไม่โง่มาหาเรื่องสัตว์ประหลาดตัวต่อตัวแบบนี้ อ้อ ลืมไป มีบอดี้การ์ดมาด้วยสินะ? ข้างในหนึ่ง แล้วก็รออยู่หน้าประตูอีกหนึ่ง แต่คิดว่าคนแค่นั้นจะคุมอยู่งั้นเหรอ?”

    มดตัวร้ายกรีดร้องจะเรียกให้บอดี้การ์ดเข้ามาช่วย ทว่าร่างสูงใหญ่ก็นิ่งเหมือนถูกตรึงอยู่กับที่ ดวงตาเบิกกว้างด้วยความตกใจกลัว ปากขยับแต่ไร้เสียง

    “ฉะ ฉันจะเรียกให้พวกนั้นมาจั---!”

    “ก็เรียกสิ”

    จียิ้ม เป็นการยิ้มด้วยความรู้สึกเหมือนตัวเองร้ายกาจที่สุด พี่เฟย์เคยสอนเพราะอยากให้น้องเยาะเย้ยพวกศัตรูกลับไปบ้าง ไม่ใช่ยิ้มแป้นเหมือนพวกมันเป็นเพื่อน แต่การสอนก็ไม่สำเร็จ

    “จะมาเฟียที่ว่า...หรือทั้งตระกูลเนลสันของเธอ...”

    จะให้ทำได้ยังไงล่ะ

    ในเมื่อจีไม่เคยให้ความสำคัญกับพวกมด



    “เรียกมาให้หมด...จะได้บี้ในครั้งเดียว”



    ยัยมดร้ายกรีดร้องแข่งกับเสียงเพลงในร้านที่ดังกระหึ่ม ใบหน้าเหมือนตุ๊กตาบิดเบี้ยว กัดปากที่เคลือบสีสดใสจนเป็นรอยฟัน คว้าแก้วน้ำขึ้นมาจะสาดใส่หน้า

    แต่จีไม่ได้ตัวเปียก

    เพราะก่อนที่จะได้ทำอะไร มือของอีกฝ่ายที่จับแก้วน้ำก็ขาดออกจากข้อมือด้วยบางอย่างที่คมกริบ เลือดกระฉูดออกมาจากรอยแผลที่ถูกตัด แก้วน้ำตกพื้นแตกเป็นเสี่ยง คนถูกตัดมือเบิกตากว้าง มองมือที่หายไปตัวสั่น ก่อนจะกรีดร้องออกมาทั้งน้ำตา ดวงตาแดงก่ำด้วยเส้นเลือด

    “กะ แก!!”

    จีไม่ได้ทำนะ

    ระบบป้องกันตัวก็ไม่เกี่ยว


    ที่ต้องแค้น




    “พอได้แล้วมั้ง?




    คือฮิโซกะ

    มายากรแย้มยิ้มยามก้าวออกมาจากเงามืด ดวงตาสีอำพันวาววับซ่อนสัตว์ร้ายไว้ข้างใน ดึงอาวุธที่ใช้ตัดมือออกจากผนังแล้วทำให้หายไปราวกับเล่นมายากล ก้าวผ่านเศษแก้วที่แตกกระจายเข้าไปหาคนตัวเล็กที่จิกเคาน์เตอร์ตัวสั่น แก้มขาวๆเป็นรอยช้ำเขียว เลือดซึมออกมาจากรอยจิก ไม่พอยังปากแตกอีกต่างหาก

    รู้อย่างนี้พาตัวไปตั้งแต่งานงัดข้อนั่นดีกว่า


    “พี่สาวเธอเรียกไปหาแหน่ะ


    ขังไว้ก็ดีหรอก


    “ฉันถูกจ้างให้มาบอก บอกเสร็จก็ถือว่าจบงาน”

    เขาอุ้มคนที่ทำท่าจะไม่ไหวขึ้นพาดบ่า มองน้องสาวของผู้ว่าจ้างด้วยดวงตาเรียวคมที่โค้งลง

    “ถ้าอยากถูกตัดส่วนอื่นด้วยฉันก็ไม่มีปัญหาหรอกนะ พี่เธอไม่ได้ห้ามฆ่าด้วยสิ


    น้ำเสียงพร้อมที่จะทำจริงๆ

    ออร่าน่ากลัวแผ่ออกมากดดัน แค่นิดเดียวก็รู้ผลแพ้ชนะ ยัยมดตัวร้ายหนีออกไปอย่างกลัวตายพร้อมกับบอดี้การ์ดที่ถูกคลายการตรึง...ยังแค้นไม่หายเลย ยังเอาคืนไม่สะใจเลยด้วย ไหนบอกว่าจะเรียกพวกมาให้บี้ไง

    เม้มปากอย่างอัดอั้น กำมือก่อนจะทุบหลังตัวตลก ทำเหมือนเขาเป็นกระสอบทรายให้ต่อยตีเล่น


    “คุณดูอยู่นานรึยัง”

    “อือฮึ”

    “ตั้งแต่ตอนไหน”

    “ตั้งแต่แรก” เขาหัวเราะ ตบหลังปุๆ “ไม่คิดว่าอิลูมิจะทำงานให้หรอก ผีเห็นผี ระหว่างนี้ก็ทำงานให้คู่หมั้นทางนั้น บอกตำแหน่งว่าเขาอยู่ไหน แล้วก็กันไม่ให้มาเจอน้องนุ่มนิ่ม แรงหึงผู้หญิงน่ากลัวใช้ได้


    เจ้าผีร้าย

    อิลูมิรู้ต้องกลายเป็นยักษ์พิโรธผมชี้แน่


    “ของขวัญที่ให้ไปล่ะ?”

    “หนูทิ้งไปแล้ว”

    “ใจร้าย นั่นให้ด้วยใจเลยนะ!”

    “คุณก็เลยโกรธเหรอ”

    “หืม?”


    “เพราะหนูทิ้งมัน คุณก็เลยโกรธเหรอ?”


    เขาไม่ตอบ อุ้มคนตัวเล็กออกมาจากที่โสโครก โชคดีมีที่พักอยู่ไม่ไกล เพราะเขารู้ว่าเด็กจะหน้าบูดถ้าไม่ได้นอนเตียงดีๆก็เลยเช่าห้องแพงไว้ให้ ตอนแรกกะว่าจะให้ดูวิวสวยสักหน่อย แต่สภาพนี้...คงไม่มีกะจิตกะใจอยากจะทำอะไรแล้ว ดูสิ แค่ปล่อยลงเตียงก็กอดตัวเองเป็นก้อน

    เขาพลิกร่างเล็กให้หันมา สะกิดเรียกจนเจ้าก้อนคลายแขนที่กอดปิดหน้าปิดตาออก

    พอมาอยู่ในห้องสว่างรอยช้ำยิ่งเห็นชัดกว่าเดิม น้องน้อยของแมงมุมแก้มบวมเป่ง รอยช้ำเขียวๆตัดกับผิวขาวชัดเจน ตาก็แดงจากการร้องไห้ ดูน่าสงสารไปหมด เขาคิดว่าถ้าคนที่ถูกเธอเรียกว่าพี่สาวมาเห็นคงโกรธจนตามล่าคนทำพลิกยอร์คชินแน่

    ก็ถนอมมาตั้งเท่าไหร่

    แค่จะไปใกล้ยังหวงขนาดนั้น...โดยเฉพาะหัวหน้า

    “หนู...พยายามจะโตแล้วนะ”


    เจ็บ

    พอฮิโซกะจิ้มแก้มถึงรู้ว่าเลโอลีโอโกรธขนาดไหน

    ถ้าไม่เห็นแก่น้องแมวคงถูกฆ่าไปแล้ว


    “แต่มันก็เจ็บ...เจ็บจนทนไม่ไหว”


    ขมยิ่งกว่ากาแฟ

    ‘เด็กดี...’

    เจ็บจนอยากจะกลับไปเป็นเด็กอย่างเมื่อก่อนอีกครั้ง เป็นจีที่ยังไม่รู้จักความเจ็บปวด รับรู้ได้แค่รสหวานของความรักจากพวกพี่ เป็นเด็กดื้อที่ถูกตามใจจนเสียคน อยากได้อะไรก็ได้ เหมือนโลกทั้งใบหมุนรอบตัวเอง

    บางที

    ‘จีน่ะเป็นเด็กอย่างนี้ก็ดีอยู่แล้ว’

    ก็ควรจะเป็นเด็กตลอดไป



    “โอ๋หนูหน่อย ฮิโซกะ”



    ความนุ่มหยุ่นกดแนบบนริมฝีปาก ละเลียดชิมทีละนิด ไม่ได้ลึกซึ้งอย่างที่เคยทำมา แต่รสหวานที่ไม่ได้สัมผัสมานานก็ทำให้ร้องไห้ออกมาจนได้ เหมือนความอ่อนแอที่เก็บไว้ถูกกระเทาะออกมาอีกครั้ง ใบหน้าเปียกชื้น สะอึกสะอื้นจนสำลักอากาศที่หายใจเข้าไป

    หวานมากกว่านี้

    ต้องหวานกว่าความขมที่ได้รับ

    “โอ๋...ฮึก โอ๋หนูอีก”


    ฮิโซกะหัวเราะ ความพึงพอใจบางเบาแฝงอยู่ในนั้น สัมผัสนุ่มย้ายจากริมฝีปากมาที่แก้ม แล้วก็กดจูบที่หน้าผาก

    ปาดน้ำตาออกให้ด้วยความอ่อนโยนอย่างที่ไม่คิดจะทำกับใคร สัมผัสรอยช้ำที่แก้มอย่างเบามือ จูบราวกับจะปลอบประโลมให้หายจากความเจ็บปวด


    “ครับ ไม่ต้องร้องแล้วนะ”







    ----------------

    solitude : การอยู่โดดเดี่ยว/สถานะของความเหงา

    ----------------


    -หัวข้อ- นักเขียน

    รูปภาพที่เกี่ยวข้อง

    //ป้ายยาทาฟกช้ำให้


    พอจะเห็นตอนจบรึยังคะ เห็นรึยังงงงงงงงง

    สุดปลายทางนั้นคือความมื---แค่กๆๆๆๆ

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×