NC

คำเตือนเนื้อหานิยาย

นิยายเรื่องนี้อาจมีเนื้อหาหรือการใช้ภาษา
ที่ไม่เหมาะสม เยาวชนที่มีอายุต่ำกว่า 18 ปี
ควรใช้วิจารณญานในการอ่าน
กดยอมรับเพื่อเข้าสู่เนื้อหานิยาย

อ่านเงื่อนไขเพิ่มเติม
ปิด
ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    (end)「Fic Boku no Hero Academia」XXX {Villain x OC}[จบรูทหลัก]

    ลำดับตอนที่ #37 : [Route : AFO] Viraha (2)

    • เนื้อหานิยายตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 1.23K
      241
      6 มี.ค. 62



    ในที่สุดฉันก็ฟังเรื่องที่เขาเล่าจนหลับ

    ในคืนนั้นฉันไม่ได้ฝันอีก




    ……




    เมื่อลืมตาขึ้นมาแล้วเห็นหน้าบอสวายร้ายในระยะใกล้ชิด ฉันก็พลันนึกไปถึงฉากในโชโจมังงะที่เคยอ่าน

    แสงแดดยามเช้าลอดผ่านม่านโปร่ง อาบไล้บนใบหน้าเย็นชาให้ดูอ่อนโยนผิดปรกติ นางเอกเขินอาย จ้องใบหน้านั้นตาไม่กะพริบ ฉากหลังเป็นแสงวิ้ง ๆ เต็มไปด้วยสีชมพูแห่งความรัก จากนั้นพอเธอจะเอื้อมมือไปจับหน้า คุณพระเอกก็ลืมตาขึ้นมาอย่างเชื่องช้า ส่งรอยยิ้มพร้อมกับพูด ‘อรุณสวัสดิ์’

    ถึงจะเป็นฉากที่เห็นได้บ่อย ๆ แต่เพราะลายเส้นที่ดีงาม วาดใบหน้าของพระเอกได้ออกมาสมบูรณ์แบบ ส่วนนางเอกของเรื่องก็เรียบร้อยอ่อนหวาน ทั้งฉากฟันฝ่าอุปสรรคก็โรแมนติก หนังสือเรื่องนี้ก็เลยติดอันดับขายดีในร้าน

    ฉันอ่านไปได้แค่รอบเดียวก่อนจะยกให้น้องไคเพราะตอนนั้นเขาดูเครียดกับงานมาก ไอ้เราก็อุตส่าห์หวังว่าความรักจะช่วยปลอบประโลมหัวใจเขา ไม่คิดว่าอ่านได้ไม่ถึงครึ่งเล่มเขาก็ใช้อัตลักษณ์ทำลายทิ้งเสียแล้ว

    ฉันมองใบหน้าที่ราวกับหลุดออกมาจากภาพวาดของท่านวายร้ายแล้วก็ถอนหายใจ นอกจากภาพลักษณ์จะดูดีแล้ว พลังที่มีถ้านับตามเกณฑ์มนุษย์ก็ยังเข้าขั้นสุดยอดอีกต่างหาก นี่ครบสูตรบอสลับในเกมชัด ๆ

    ฉันมองหน้าเขาอยู่นาน ก่อนจะสังเกตเห็นรอยคล้ำใต้ตาจาง ๆ จะว่าไปแล้วเมื่อคืนกว่าจะได้นอนก็ปาไปจนดึก สาเหตุเพราะฉันนอนไม่หลับสักที ท่านวายร้ายก็เลยต้องลุกไปหาหนังสือมาอ่านให้ฟังตั้งหลายรอบ

    กว่าฉันจะเคลิ้มหลับ เสียงทุ้มน่าฟังในตอนแรกก็เริ่มแหบเพราะการอ่านติดกันนานเกินไป และพอฉันกำลังจะหลับก็เห็นว่าเขาเดินไปปิดไฟด้วยสีหน้าเหนื่อยอ่อนจนนึกว่าจะล้มลงนอนบนพื้นเสียแล้ว

    เห็นลากตัวเองมานอนบนเตียงแบบนี้ได้ก็โล่งอก ฉันปัดความคิดที่จะยกมือแตะใบหน้าเขาออกไป ถึงจะลูบรอยคล้ำใต้ตานั่นไปก็เท่านั้น ฉันช่วยให้มันหายไปไม่ได้สักหน่อย เพราะงั้นปล่อยให้เขาพักผ่อนต่อไปดีกว่า

    อาการปวดหัวเมื่อคืนหายไปแล้ว อาการพะอืดพะอมจะอ้วกก็ด้วย ฉันนึกขอบคุณนายท่านที่อุตส่าห์เสียสละตัวลงทุนอ่านหนังสือให้ฟังตั้งนานในใจ อันที่จริงถ้าไม่มีเขาช่วยฉันก็คงจะปวดตัวเพราะนอนในห้องน้ำทั้งคืนแน่ ๆ

    ฉันก้าวขาลงจากเตียงอย่างเบาที่สุด เห็นเขายังไม่ตื่นก็ลอบถอนหายใจอย่างโล่งอกก่อนจะเดินไปหาผ้าเช็ดตัวแล้วเดินเข้าห้องน้ำ ทำทุกอย่างด้วยเสียงที่เบาที่สุด

    ในห้องน้ำมีของใช้ใหม่วางอยู่ครบก็เลยไม่มีปัญหา ฉันจัดการทำธุระให้เรียบร้อยก่อนจะลงไปแช่ในน้ำที่เป็นสีกุหลาบ ได้กลิ่นเจือจางจากน้ำมันหอมที่จุดไว้ เอนตัวพิงอ่างจนน้ำขึ้นมาถึงระดับอก ขวดสบู่เหลวที่เป็นทรงคล้ายรูปเพชรต้องแสงไฟแล้วส่องประกายระยิบระยับจนแสบตา

    วันนี้โทมูระคุงมีนัดคุยกับวิลเลินกลุ่มอื่น

    แต่ท่านวายร้ายตัวจริงยังไม่ได้ถูกจับเข้าคุก ฉันก็เลยไม่รู้ว่าเหตุการณ์มันจะเป็นยังไงต่อไป พวกเขาจะร่วมมือกันแต่โดยดี หรือเสียสมาชิกไปทั้งสองฝ่ายเพราะตกลงกันไม่ได้

    ‘มันหายไปแล้ว...เข้าใจไหมยูเมะ มันหายไปแล้ว’

    ฉันกะพริบตา วักน้ำขึ้นลูบใบหน้า โทมูระคุงไม่เป็นอะไรอยู่แล้วล่ะน่า เขาเก่งออกจะตายไป แค่เขาจับตัวอีกฝ่ายได้ก็แค่ย่อย...แต่กว่าจะย่อย ฝ่ายนั้นคงทำให้เขาตายก่อน

    “อุ๊ก...”

    รีบยกมือขึ้นปิดปากตัวเองเมื่อนึกถึงร่างที่กลายเป็นเศษเนื้อ จู่ ๆ อาการพะอืดพะอมก็เหมือนจะกลับมาอีกรอบ

    แต่ถ้าให้ไปช่วย…

    ‘ยูเมะ...ยูเมะ’

    ฉันหัวเราะก่อนจะเอนหลังลงจนระดับน้ำขึ้นมาถึงลำคอ สีกุหลาบและกลิ่นหวานชวนนึกไปถึงวันแห่งความรัก ถ้าตอนนี้ฉันอยู่กับกับโทมูระคุง โดนลากไปเจอวิลเลินกลุ่มนั้นด้วย จากสถานการณ์ที่ไม่ดีอยู่แล้วคงย่ำแย่เข้าไปใหญ่

    ไม่น่าเลยจริง ๆ

    ขอบตาร้อนผ่าว แสบร้อนในจมูก ก่อนที่จู่ ๆ น้ำตาจะหยดร่วงลงมาอย่างห้ามไม่ได้ การมองเห็นถูกบดบังด้วยม่านน้ำตา ฉันสูดจมูก กะพริบตาหลายครั้ง แต่น้ำตาก็ยังไม่หยุดไหลสักทีจนเริ่มไม่เข้าใจร่างกายตัวเองขึ้นมา

    ฉันก้มใบหน้าลง น้ำตาหยดรวมผสมกับน้ำในอ่าง

    จ้องข้อมือที่เห็นเส้นเลือดได้ชัดเจน สลับกับคมมีดที่ส่องประกายสีเงิน จะว่าไปแล้วฉันเองก็ไม่เคยเจ็บจริง ๆ จัง ๆ เลยสักครั้ง หลายปีที่ผ่านมาก็ถูกดูแลอย่างดีมาโดยตลอด

    ช่วงค่ายฤดูร้อนพอจะโดนวิลเลินกล้ามเนื้อทำร้าย ฉันก็ทำให้เขาหายไปเสียก่อน จะมีก็แต่แผลถลอกจากการปีนขึ้นผามาเท่านั้น ส่วนตอนที่ถูกจับโดยฮีโร่ไม้ก็ไม่น่าจะเรียกการบาดเจ็บ เพราะมันแค่อึดอัดนิดหน่อยเท่านั้น

    ฉันกลัวการเจ็บตัว อาจจะเพราะครั้งหนึ่งเคยทำตัวเป็นฮีโร่แล้วถูกทำร้ายแทน มันเจ็บ ขยับตัวก็ไม่ได้ พอจะถูกตีอีกครั้งความรู้สึกเมื่อตอนนั้นก็หวนคืนมา รู้ตัวอีกทีก็ติดนิสัยเสียที่ว่า ‘ก่อนที่เขาจะตีฉัน ฉันจะตีเขาก่อน’ มาเสียแล้ว

    และเพื่อป้องกันการถูกตีคืนในภายหลัง ทุกครั้งก็เลยตัดไฟตั้งแต่ต้นลม ทำให้พวกเขากลายเป็นปุ๋ยต้นไม้ซะ

    ยัยคนเลวร้าย

    มองดูคมมีดที่แนบบนข้อมือ

    ‘...อย่าล้อเล่นแบบนั้นอีก’

    ฉันนึกไปถึงเสียงหัวใจที่เต้นไม่เป็นจังหวะของเขาเมื่อตอนนั้น นึกถึงดวงตาที่ดูเศร้าสร้อยตอนพูดมันออกมา เขาเป็นวายร้ายที่มีชีวิตอยู่มาเป็นร้อยปี อยู่มานานกว่าฉันเสียอีก คงเห็นคนที่รักหายไปจนชินตาแล้วล่ะ

    ฉันมองดูมีดในมืออีกครั้ง

    ยังไงดีนะ?





    …..





    ในความฝัน ออลฟอร์วันเห็นตัวเองและเธอคนนั้น


    ในความฝันเขาคอยปลอบเธอ อยู่เป็นเพื่อนเมื่อเธอทำหน้าเหมือนจะร้องไห้ รั้งรออยู่ในห้องไม่ไปไหนเพียงเพราะรู้ว่าเธอจะเข้ามาเมื่อเกิดความเบื่อหน่าย มองดูเธออ่านหนังสือ กลิ้งไปมาบนเตียงอย่างไม่รู้จะทำอะไร ก่อนสุดท้ายจะปีนขึ้นมาบนตัวเขา ซุกใบหน้ากับเสื้อเหมือนลูกแมว และหลับไปทั้งอย่างนั้น

    เขายอมกินช็อกโกแลตที่ขมจนลิ้นชาทั้งที่รู้ว่ามันเป็นของที่เธอทำพลาด สนุกเมื่อเห็นใบหน้าหลากหลายของเธอ ทั้งการสำนึกผิด และทำเหมือนไม่รู้สึกอะไรเมื่อใบหน้าของพวกเราใกล้กัน เขากอดเธอ เล่าเรื่องวายร้ายในอดีตทั้งที่รู้ว่าเธอไม่ชอบ และเมื่อถึงจุดหนึ่งเธอก็รั้งคอเขาลงมาแนบริมฝีปาก เป็นการหยุดที่เรามักทำเป็นประจำ

    เธอหอบหายใจและร้องไห้ ตีเขาด้วยมือเล็ก ๆ เหมือนคนทำอะไรไม่ได้ ก่อนจะพูดออกมาว่าเธอเสียดายขนาดไหนที่ไม่ได้ไปเที่ยวกับเด็กที่เธอเจอ เขาลูบหลังและปลอบเธอทั้งที่สาเหตุทั้งหมดมาจากตัวเขาเอง ตอนนี้เธอยังเสียใจ แต่เขารู้ว่าสักวันความรู้สึกมันก็จะจางหายไป เหมือนกับของผ่าน ๆ มาที่เธอเล่นจนเบื่อหน่าย

    เขาไม่โกรธที่เมื่อเจอกันอีกครั้งเธอกลับไปอยู่ฝั่งตรงข้าม มันก็เหมือนชีวิตประจำวันของเธอ การอยู่ฝั่งใดฝั่งหนึ่งไปเรื่อย ๆ ก็เหมือนกับเกม แค่นับเวลาถอยหลังว่าเธอจะเบื่อเมื่อไหร่ ถ้ามันเรียบเอื่อยและไร้สีสันเกินไปเวลาก็จะถูกเร่งเร็วขึ้น รอวันที่จะระเบิดออกมา

    เธอชอบไปข้องเกี่ยวกับเด็กที่น่าสนใจ และบางครั้งเธอก็มักจะมาพูดให้เขาฟังด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม ตอนที่เธอไปอยู่ฝั่งฮีโร่เธอเจอเด็กคนนั้น ใบหน้าดีใจและแฝงความสนุก เขามองเธอที่คิดจะเล่นเกมอีกครั้ง หัวเราะในลำคอโดยที่เธอไม่เห็น มนุษย์ระหว่างที่โตขึ้นไม่รู้จะมีอะไรหล่อหลอมบ้าง เธอไม่รู้ตัวเลยว่าในขณะนั้นถูกเด็กใสซื่อมองด้วยสายตาแบบไหนอยู่

    ในความฝัน เขามักจะพูดอยู่เสมอว่าจะตามใจเธอ และในตอนที่เธอเสียใจที่สุด เขาก็ไปยืนอยู่ตรงหน้า ให้เธอรู้ว่าต่อให้จะเกิดอะไรเขาก็ยังจะอยู่ข้างเธอ เขาทำมันเพียงเพราะรู้ว่านั่นเป็นสิ่งที่มีผลกับเธอมากที่สุด โชต้องการใครสักคนที่สามารถอยู่กับเธอไปได้ตลอด และเขาคือมนุษย์ที่ตรงกับความต้องการนั้นของเธอ

    ในความฝัน การเล่นกับเธอเหมือนเป็นเกมฆ่าเวลา โชเหมือนกับของเล่นที่ควบคุมไม่ได้และมันพิเศษแตกต่างจากของที่เขามีอยู่ ส่วนเธอก็มองเขาเป็นที่พักพิงในวันที่รู้สึกโดดเดี่ยว เหมือนแมวที่มองกล่องเป็นเขตปลอดภัย

    ความสัมพันธ์จะสิ้นสุดลงเมื่อเขาไม่ได้มองเธอเป็นของเล่นที่พิเศษอีกต่อไป หรือถ้าหากเธอหากล่องอื่นที่ปลอดภัยและสามารถเป็นที่พักพิงที่ดีกว่าเขาได้ แม้จะไม่ได้พูดมันออกมาแต่พวกเราก็รู้อยู่แก่ใจดี

    ในความฝัน เขาเก็บเธอได้ในสนามเด็กเล่นร้างแห่งหนึ่ง โชเหมือนแมวที่ถูกทิ้ง อยู่ในสภาพสกปรกอย่างที่ไม่เคยเป็น ใบหน้าเต็มไปด้วยคราบน้ำตาและกลิ่นแอลกอฮอล์หลายอย่างตีกัน ดวงตากลมโตของเธอคลอไปด้วยหยาดน้ำตาเหมือนกำลังคาดหวังอะไรสักอย่าง ก่อนจะบอกรักเขา

    ในความฝันเขาไม่ได้รักเธอ ดังนั้นจึงไม่รู้สึกอะไรกับประโยคนั้น เพียงส่งยิ้มให้เธอและพากลับไปที่ห้องพัก

    เขาปล่อยให้เธออยู่ในห้องน้ำระหว่างที่ออกมาหาเสื้อผ้าสำหรับเธอ ก่อนจะได้ยินเสียงแก้วแตกในห้องน้ำจึงรีบวิ่งเข้ามาดู ภาพที่เห็นทำให้เขานิ่งค้าง เพราะคนที่คิดว่าจะอยู่ไปจนเขาตาย ตอนนี้กลับนึกอยากจะตายก่อน


    ‘ฉันรักคุณค่ะ’


    เธอคลี่ยิ้มอย่างเชื่องช้า ดวงตาหยาดเยิ้มไปด้วยฤทธิ์แอลกอฮอล์ ริมฝีปากเอ่ยประโยคบอกรักทั้งน้ำตา



    ‘ประโยคนั้นฉันอยากพูดกับคนที่รัก

    แต่น่าเสียดาย...ที่เขาไม่ได้ยืนอยู่ตรงนี้’



    ก่อนจะยิงตัวตาย

    ศพของเธอจมลงไปในน้ำ เลือดสีแดงผสมกับน้ำในอ่างจนมันกลายเป็นสีกุหลาบเข้ม ตัดกับผิวขาวเหมือนเลือดที่หยดลงบนหิมะในฤดูหนาว เรือนผมที่นุ่มเหมือนขนแมวแนบลู่ไปกับใบหน้า ริมฝีปากสีชมพูที่แนบชิดกันไม่รู้ต่อกี่ครั้งเริ่มซีดลง

    ออลฟอร์วันเห็นตัวเองในความฝัน

    เขาคนนั้นไม่มีแม้แต่หยดน้ำตา...สีหน้าเดียวที่เห็นตอนนั้นมีเพียงอารมณ์เสียดายที่ของเล่นชิ้นโปรดพังไป





    …..





    เขาตรงดิ่งไปที่ห้องน้ำเมื่อตื่นขึ้นมาแล้วพบว่าบนเตียงมีเพียงความว่างเปล่า

    หยาดเหงื่อผุดซึมทั้งที่อากาศเย็นจัด เขาได้ยินเสียงของบางอย่างตก ภาพในความฝันฉายวาบขึ้นมาอีกครั้ง เขารีบเปิดประตู รีบร้อนและตื่นตระหนกจนกระทั่งลืมไปว่าถึงจะเหมือนจริงเพียงใด ยังไงมันก็เป็นแค่ความฝัน

    เธออยู่ในอ่างอาบน้ำ...ทว่าไม่มีปืนอยู่ในมือ

    ดวงตากลมโตเบิกกว้างอย่างตกใจเมื่อเขาเข้าไปสวมกอด สัมผัสได้ถึงความอุ่นร้อนจากร่างกาย ผิวของเธอเริ่มขาวซีดเพราะแช่น้ำนานเกินไป เหมือนหิมะที่ไม่มีสีเจือปน น้ำในอ่างก็เป็นเพียงสีชมพูอ่อน

    “ฝันร้ายหรือคะ?”

    เธอยกแขนขึ้นกอดตอบ ฝ่ามือลูบหลัง

    “คงเพราะอ่านหนังสือให้ฉันฟังเมื่อวานแน่เลย เรื่องนั้นขอบคุณแล้วก็ขอโทษด้วยนะคะ ลำบากคุณไปขนาดนั้น...”

    ฝ่ามือบอบบางจับใบหน้าของเขาให้สบตาด้วย

    “อรุณสวัสดิ์ค่ะ ฝันร้ายหายไปแล้วนะคะ” เธอคลี่ยิ้มอย่างเชื่องช้า “ไม่เป็นอะไรแล้วนะ?”

    มันเป็นแค่ฝัน...

    เขาคงจะคิดว่าตัวเองคิดมากไป ถ้าหากไม่สังเกตเห็นแขนของเธอ


    และพบรอยกรีดมากมายบนนั้น










    ★ ☆ ★ ☆ ★ ☆


    Viraha (ภาษาฮินดี) : ความรู้สึกรักเมื่อถึงเวลาที่ต้องจากกัน

    Viraha : ความรู้สึกที่เกิดขึ้นระหว่างคู่รักในขณะที่กำลังจะจากกัน เป็นความเจ็บปวดที่เกิดจากความพลัดพรากที่จะต้องสูญเสียคนรัก หรืออยู่ห่างไกลกัน



    ★ ☆ ★ ☆ ★ ☆


    : ถ้ารู้ว่าฝันร้ายกลายเป็นจริง

    d=(´▽`)=b

    //คนเขียนเชียร์ทุกเรือนะคะ

    (ำไม่มีอะไรหรอกค่ะ แค่อยากจะบอกว่าถ้าไม่ชอบเรือนั้นเรือนี้ก็สามารถกดข้ามไปได้เลยนะคะ ค่อยมาอ่านอีกทีก็ได้ แต่ขอล่ะค่ะ อย่าแซะหรือเม้นต์ว่าไม่ชอบเลย นักเขียนที่เป็นลูกเรือทุกลำก็เสียใจเหมือนกันนะ)

    แต่ละรูทมีไม่กี่ตอนนะคะ แต่จบดี(ในแบบของไรท์)แน่นอน *โฮะโฮะโฮะ*

    ヽ(´∀`)ノ


    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×