NC

คำเตือนเนื้อหานิยาย

นิยายเรื่องนี้อาจมีเนื้อหาหรือการใช้ภาษา
ที่ไม่เหมาะสม เยาวชนที่มีอายุต่ำกว่า 18 ปี
ควรใช้วิจารณญานในการอ่าน
กดยอมรับเพื่อเข้าสู่เนื้อหานิยาย

อ่านเงื่อนไขเพิ่มเติม
ปิด
ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    (end)「Fic Boku no Hero Academia」XXX {Villain x OC}[จบรูทหลัก]

    ลำดับตอนที่ #28 : Heaven

    • เนื้อหานิยายตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 2.84K
      499
      18 พ.ค. 63


    [25]




    ที่บ้านหลังนั้นมีสวนดอกไม้เล็ก ๆ อยู่

    มันเคยเป็นของเเม่เขามาก่อน เเละเป็นสถานที่เเห่งความทรงจำที่งดงาม หนึ่งในนั้นคือภาพที่เเม่รดน้ำแปลงดอกไม้ด้วยใบหน้าที่เต็มไปด้วยรอยยิ้ม เรียกเขาที่แอบหนีการฝึกซ้อมเข้ามาดูพวกมันที่กำลังออกดอกเบ่งบานใกล้ ๆ ก่อนจะพูดว่าสักวันเขาก็ต้องเติบโตอย่างดงามเหมือนดอกไม้พวกนี้ได้เเน่

    ‘สวยใช่ไหมล่ะจ๊ะโชโตะ? เเต่ไม่ใช่ว่ามันงดงามเเบบนี้ตั้งเเต่เเรกหรอกนะ ดอกไม้พวกนี้อ่อนเเอเเละเหี่ยวเฉาง่าย ถ้าไม่ดูเเลอย่างดีล่ะก็คงต้องตายเเน่ ๆ เหมือนกับคน...’

    เเม่เด็ดดอกไม้ดอกหนึ่งจากก้านมันมาอย่างเเผ่วเบา วางไว้ใจกลางฝ่ามือทั้งสองข้างของเขา


    ‘ถ้าเจอคนสำคัญเเล้ว ลูกต้องรักษาไว้ให้ดี ๆ นะ’


    โทโดโรกิจำได้เลือนรางว่ากลีบของมันเป็นสีเเดงโดดเด่น ส่วนอย่างรายละเอียดอย่างอื่นนอกจากนั้น ยังไม่ทันได้สังเกตเสียงเปิดประตูดังโครมก็ทำลายบรรยากาศเงียบสงบ เป็นพ่อที่ขมวดคิ้ว ใบหน้าบึ้งตึง เเละตรงดิ่งเข้ามาลากเขาให้กลับไปซ้อมต่อ

    เเม่พยายามยื้อเมื่อเห็นพ่อจะใช้กำลัง เป็นครั้งเเรกที่โทโดโรกิเห็นใบหน้าโกรธเเละผิดหวังของเเม่ได้อย่างชัดเจน สุดท้ายพ่อก็เป็นฝ่ายชนะเมื่อผลักเเม่ล้มลงไปทับแปลงดอกไม้ที่สวยงามจนมันพังเละ

    หลังผ่านพ้นประตูเขาได้ยินเสียงกรีดร้องเเละร้องไห้ปะปนกัน เป็นเสียงของเเม่ เเต่เพราะมันไม่ใช่ครั้งเเรกที่เเม่ร้องไห้ เเละเขาในตอนเด็กไม่สามารถต่อต้านอีกฝ่ายที่เป็นผู้ใหญ่เเข็งเเกร่งกว่าได้ โทโดโรกิจึงจำยอมกลับไปซ้อมต่อ บอกกับตัวเองว่าพรุ่งนี้จะเเอบไปหาเเม่ ช่วยปลูกเเปลงดอกไม้ที่พังใหม่ด้วยกัน

    เมื่อเขาโตขึ้น ก้าวผ่านพ่อได้ ทุกอย่างจะดีกว่านี้ เขาจะซื้อบ้านสักหลังไว้ให้เเม่ มีพื้นที่มากมายสำหรับปลูกดอกไม้ หลังจากนั้นเขาจะย้ายออกมาจากสถานที่ที่เต็มไปด้วยความเลวร้าย และไม่กลับไปอีก

    เเต่ทว่า สิ่งที่คิดไว้ก็ไม่มีวันมาถึง


    เมื่อวันต่อมาเสียงกรีดร้องของพี่ฟุยุมิปลุกเขาให้ตื่นจากความฝัน และบอกว่าเเม่ฆ่าตัวตายเมื่อคืน





    (1)



    “โชโตะเนี่ยตื่นเช้าเเบบนี้ตลอดเลยเหรอ?”



    นั่นคือประโยคเเรกที่เธอทักเขาหลังตื่นนอน

    เสียงของเธอเหมือนคนยังไม่ตื่นดี ออกเเหบกว่าปรกติ ดวงตากลมโตปรือลง ผมยุ่งบางส่วนตกลงมาปรกเเก้ม สภาพไม่อาจเรียกว่าเรียบร้อยนักยิ่งเมื่ออยู่ในชุดตัวใหญ่ ให้ความรู้สึกต่างออกไปจากปรกติ อาจจะเพราะตอนยังเป็นเด็กเขาไม่เคยตื่นก่อนเธอสักครั้งก็ได้

    “ปรกติก็ไม่หรอกครับ” โทโดโรกิตอบ “เเต่ตอนนี้ผมอยู่คนเดียว จะให้ทำเหมือนเดิมก็คงไม่ได้หรอก”

    “ลำบากเเย่เลยนะ~”

    เขาได้ยินเสียงปิดประตูห้องน้ำตามมาด้วยเสียงฮัมเพลง จู่ ๆ ภาพที่คอเสื้อหลุดลงจนเห็นลาดไหล่เมื่อกี้ก็ซ้อนทับขึ้นมา โทโดโรกิพยายามลบมันออกไปจากในหัว บอกกับตัวเองให้กลับมาสนใจอาหารที่ทำค้างไว้ มันเป็นอาหารเช้าง่าย ๆ อย่างขนมปัง ไข่ดาว ไส้กรอกเเละแฮม

    กลิ่นไหม้ลอยขึ้นมาเตะจมูก เขารีบพลิกขนมปัง ก่อนจะพบว่าด้านหนึ่งของมันไหม้เสียเเล้ว







    หัวข้อที่คนในห้องพูดถึงส่วนมากก็ยังวนมาเรื่องสภาพอาการของอาจารย์ประจำชั้นเเละออลไมท์

    ไม่มีใครลืมเหตุการณ์ที่USJ ภาพอาจารย์ไอซาวะถูกวิลเลินทำร้ายสาหัสยังติดตาทุกคน รวมไปถึงภาพที่ออลไมท์ไปช่วยพยาบาลคนหนึ่งจนบาดเจ็บก็เหมือนกัน ยิ่งไม่ได้ข่าวคราว พวกนักเรียนยิ่งทวีความเป็นห่วง

    โทโดโรกิมองออกไปนอกหน้าต่าง ท้องฟ้าดูสว่างสดใส เฝ้ารอเวลาพักเที่ยง ดูจากนาฬิกาเเล้วคงอีกไม่นาน

    เเละเมื่อถึงเวลาพัก เขาลุกออกจากที่นั่ง เดินไปที่โรงอาหารก่อนเป็นอันดับเเรก เลือกอาหารง่าย ๆ อย่างขนมปังมาหนึ่งชิ้น เเวะกดน้ำที่ตู้ ได้น้ำเปล่ากับชาพีชมาหนึ่งกระป๋อง มุมปากยกยิ้มขึ้นโดยไม่รู้ตัวขณะเดินไปยังสถานที่กินข้าวแห่งใหม่

    เธอเอนตัวพิงเก้าอี้หมุนในห้องพยาบาลอย่างผ่อนคลาย ในมือเล่นโทรศัพท์ บนโต๊ะที่จัดอย่างเรียร้อยมีกาแฟกระป๋องที่เพิ่งเปิดวางอยู่ เธอดูบริสุทธิ์ในชุดเดรสลูกไม้สีขาวครีม ผมสีดำนุ่มลื่นยาวคลอเคลียบ่า ใบหน้าน่ารักไม่ต่างจากตุ๊กตามีชีวิต เพราะเเบบนี้เองถึงมีนักเรียนหลายคนชื่นชอบเธอ

    รวมถึงพี่นัตสึโอะ

    เมื่อเธอได้ยินเสียงเปิดประตูก็วางโทรศัพท์ลง เงยหน้าขึ้นมามอง ก่อนจะยิ้มกว้างเมื่อเห็นเขา ดวงตาโค้งลง


    “โชโตะคุง”


    คนดูเเลของเขาเป็นพวกเบื่อง่าย

    โทโดโรกิสรุปได้อย่างนั้นหลังจากฟังหลายเรื่องที่เธอเล่า อย่างเช่น หน้าที่ในโรงเรียนยูเอย์ที่น้อยนิดแทบไม่มีอะไรทำ เกมที่เล่นครบทุกด่าน การใช้ชีวิตประจำวันที่มีเเค่กินกับนอน

    เขาแปลกใจนิดหน่อยที่เธอพูดมันออกมา เเต่ก็ไม่ได้ทำอะไรนอกจากเป็นผู้ฟังที่ดี มองริมฝีปากสีชมพูที่ขยับพูดไปเรื่อย ๆ ตอนยังเด็ก เเม้จะใกล้ชิดกับเธอมากที่สุดเเต่เขากลับไม่รู้อะไรเกี่ยวกับเธอเลย ครอบครัว เพื่อน โรงเรียน กระทั่งชื่อจริง ๆ เป็นความสัมพันธ์ที่ไม่ต่างจากหมอกขมุกขมัว

    “ฮื่อ....ดีจังเลยที่ได้พูดออกมา ขอโทษนะโชโตะที่ให้มาฟังพี่สาวบ่นเเบบนี้ รำคาญหรือเปล่า?”

    “ไม่หรอกครับ” เขาส่ายหน้า “เเต่ปรกติคุณไม่ค่อยพูดออกมา ผมก็เลย...รู้สึกแปลกใจนิดหน่อย”

    “อย่างนั้นเหรอ? แปลกสินะ” ดวงตาดูสับสน ก่อนสุดท้ายเธอจะหัวเราะออกมา “ฉัน...แปลกไปจริงด้วย”

    เขาไม่ได้พูดอะไรออกไป เพียงมองใบหน้าสับสนอย่างนิ่งเฉย เหมือนทุกครั้งที่ทำตอนเป็นเด็กช่วงที่มีเธอคอยดูแลอยู่ข้าง ๆ ไม่ใช่ครั้งเเรกที่เธอสับสนเเบบนี้ มันหลายครั้ง เพียงเเต่ว่าต้องสังเกตหน่อย ไม่อย่างนั้นคงมองไม่เห็นอารมณ์จริง ๆ ของเธอภายใต้ใบหน้ายิ้มเเย้มตลอดเวลานั่น

    “คุณทานอะไรมาหรือยังครับ?”

    เธอส่ายหน้า ก่อนจะตาเป็นประกายเมื่อเขายื่นขนมปังเมลอนกับชาพีชที่ซื้อมาไปให้ ยิ้มกว้าง

    “ขอบคุณนะโชโตะ อ๊ะ มีชาด้วย เป็นเด็กที่ดีจริง ๆ เลยน้า~”

    “ไปเลือกที่โรงอาหารไม่ดีกว่าเหรอครับ”

    “คนเยอะออกนี่นา ไม่เอาหรอก”

    เขามองเธอที่ทำสีหน้าอร่อยเมื่อกัดที่ขนมปัง มองรอยเล็ก ๆ ที่บุ๋มลงไปที่เเก้มยามขยับยิ้ม นึกไปถึงพี่นัตสึโอะที่เคยชมว่าเธอน่ารักอยู่บ่อย ๆ ตอนนั้นเขาเป็นเด็กถึงไม่เข้าใจ เเต่ตอนนี้กลับเริ่มเข้าใจความรู้สึกนั้นขึ้นมาเเล้ว

    “ฮื่อ...น่าเบื่อจริง ๆ เลย~” เธอพูดออกมาอีกครั้งหลังทานขนมปังหมด ฟุบหน้าลงบนโต๊ะ “ต้องอยู่คนเดียวไปเกือบอาทิตย์เเบบนี้เหงาตายเเน่ ๆ อยากลองมีชีวิตวัยเรียนจังเลยน้า”

    บางครั้งเขาก็สงสัย เเละนึกอยากจะถามออกไปว่ามีอะไรที่เธอไม่เคยเบื่อบ้าง กระทั่งเกมเขาก็เห็นเธอเล่นได้ไม่เกินอาทิตย์ด้วยซ้ำ

    เเต่สุดท้ายเขาก็ไม่ได้ถามออกไป เมื่อวูบหนึ่งภาพที่เธอไม่เคยถอดสร้อยจี้โลมาที่พี่ให้ผุดขึ้นมาในหัว

    เมื่อเลื่อนสายตาสังเกตอีกครั้ง จี้ผีเสื้อบนคอระหงส่องประกายเมื่อต้องกับเเสง ดูงดงามสมกับชื่อโชของเธอ

    ลำดับความสำคัญเปลี่ยนไปอีกแล้ว



    “คนที่โชโตะรักต้องโชคดีมากเเน่ ๆ เลย”



    เขาหันมองเธออีกครั้ง คราวนี้เธอเลิกฟุบใบหน้าลงบนโต๊ะเเล้วหันมาดื่มชาพีชเเทน ท่าทางดูมีความสุขเมื่อได้ทานของที่ชอบ มองไปที่กระป๋องกาเเฟบนโต๊ะก่อนจะพึมพำว่าจะไม่ลองดื่มอะไรขม ๆ เเบบนี้อีกเเล้ว รอยยิ้มกว้างทำให้เขานึกขอบคุณความจำของตัวเองที่จำได้ว่าตอนเด็กเธอเคยบอกว่าชอบอะไร

    พอเขาตอบไปว่า “ไม่หรอกครับ” เธอก็เบนมาคุยเรื่องเจ้าสาวในอนาคตของเขา บอกว่าเธอคนนั้นคงโชคดีมากที่มีคู่ชีวิตดูเเลดีเเบบนี้ ยังบอกอีกว่าจะมาอวยพรในงานเเต่ง เเละจะมาดูใบหน้าเจ้าสาวของเขาอย่างเเน่นอน

    โทโดโรกินึกถึงภาพเธอในชุดกระโปรงยาวสีขาว เส้มผมถูกเกล้าขึ้นอวดลำคอที่ประดับด้วยสร้อยที่เขาเลือกให้ ในมือถือช่อกุหลาบขาวที่เข้ากับเธอ เเละเมื่อเอ่ยคำสัตย์สาบานเสร็จพวกเราก็จะ —

    โทโดโรกินึกสงสัยว่าถ้าตอนนี้โน้มตัวไปอีกฝั่ง จูบเธอตอนนี้ ริมฝีปากนั้นจะหวานเหมือนชาพีชที่เธอดื่มอยู่หรือเปล่า เเละเธอจะมีสีหน้าเเบบไหน จะโกรธ ตกใจ หรือผิดหวังที่เด็กดีของเธอกลายเป็นคนเเบบนี้

    และหลังจากนั้นเธอจะหนีเขาไปอีกไหม หรือจะลบความทรงจำของเขาเหมือนที่ทำกับพี่เเละคนอื่น กลายเป็นคนแปลกหน้าซึ่งกันเเละกัน ให้อดีตระหว่างพวกเราที่ผ่านมาเป็นเเค่การละเล่นเเก้เบื่อของเธอ

    เขาผ่อนลมหายใจ ค่อย ๆ คลายมือที่กำเเน่นออก ลบความคิดเพ้อฝันออกไปจากในหัว ปกปิดการกระทำด้วยการดื่มน้ำเปล่าที่ซื้อมา ยามเมื่อของเหลวเย็นเฉียบไหลผ่านลำคอไปถึงกลับมาเป็นปรกติได้

    เสียงกระป๋องที่วางกระทบกับโต๊ะเรียกเขาให้หันกลับไปมอง เธอเอนตัวอย่างผ่อนคลาย เอ่ยขึ้นพร้อมรอยยิ้ม


    “ขอบคุณสำหรับอาหารนะโชโตะ ส่วนค่าอาหารกับค่าที่ช่วยฟังพี่สาวบ่นวันนี้...มีอะไรที่อยากได้หรือเปล่า?”


    เขากำลังจะตอบไปว่าไม่จำเป็น อาหารพวกนั้นก็เเค่ข้ออ้างที่หามาพบเธอเท่านั้น — เเต่ก็ต้องชะงักไปเมื่อได้ยินเสียงข้อความเข้ามาในโทรศัพท์ เมื่อลองเปิดขึ้นมาดู ผู้ส่งเเละเนื้อหาทำให้คำตอบในตอนเเรกต้องกลับคืนลงไปในลำคอ

    มันเป็นข้อความจากพี่นัตสึโอะ

    : ฉันว่าจะชวนเธอไปสวนสนุกล่ะ!

    แทนที่จะตอบกลับไปด้วยประโยคเเสดงความยินดี เขากลับปิดโทรศัพท์ลง เงยหน้าขึ้นมองเธอที่มีใบหน้าสงสัย




    “วันหยุดนี้คุณว่างไหมครับ?”


    คำตอบของเธอคือพยักหน้ากลับมา

    เเละความยินดีเล็ก ๆ ที่ก่อขึ้นในใจเมื่อคิดถึงลำดับความสำคัญของพี่นัตสึโอะในใจเธอที่อาจจะเปลี่ยนแปลงไปในทางเลวร้ายลง นั่นทำให้โทโดโรกิรู้ว่าตนเองไม่สามารถกลับไปเป็นเด็กดีเหมือนเมื่อก่อนได้อีกเเล้ว





    (2)


    “ตอนนี้เธออาจจะตกเป็นเป้าหมายของสมาพันธ์วิลเลิน เพราะงั้นจึงจำเป็นที่ต้องไปอยู่ในที่ปลอดภัย”

    ฉันนึกไปถึงประโยคที่ผู้อำนวยการยูเอย์พูดหลังจากที่ช่วยเยียวยาอาการของอาจารย์ไอซาวะเสร็จ น้ำเสียงจริงจังเหมือนกลัวว่าฉันเดินอยู่ดี ๆ จะโดนลักพาตัวไป ตอนนี้สถานะของฉันในสายตาตุ๊กตาหนูคงไม่ต่างจากบุคคลสำคัญ

    สำคัญเเบบว่า...เอ่อ อันตราย? ใช่สิ ขืนคนที่สามารถทำให้ดวงตาของอาจารย์กลับมาเป็นปรกติได้เเปรพรรคไปอยู่ฝ่ายวิลเลิน ถึงจะไม่ถึงขั้นทำให้ฮีโร่ล่มจม เเต่การสูญเสียบุคลากรมีความสามารถไปให้ความชั่วร้ายก็ไม่ใช่เรื่องดี

    เเถมอีกหนึ่งข้อสำคัญ ตอนเจอกันครั้งเเรกฉันบอกเขาไปว่าตัวเองหมดประโยชน์แล้วก็เลยออกมา ประวัติที่อยู่หรืออะไรก็ไม่มี เเละถึงจะค้นไปก็คงไม่มีวันเจอ ไม่มีอะไรให้มั่นใจได้สักอย่างว่าเป็นเเค่เด็กน้อยตาใสคนหนึ่ง สถานะฉันตอนนี้เลยก้ำกึ่งระหว่างฝ่ายดีร้าย

    ชีวิตกำลังอยู่ในขั้นพิจารณา

    อาจจะจัดการตัดไฟตั้งแต่ต้นลมเพื่อไม่ให้ถูกวิลเลินนำไปใช้ประโยชน์ หรือกล่อมให้ฝ่ายฮีโร่ใช้ประโยชน์ซะเอง

    เเต่ก็นะ ตัวเลือกเเรกดูจะเป็นการตัดรอนไปหน่อย อย่างน้อยฉันก็เป็นเด็กใสซื่อคนนึง จะจัดการทันทีเลยก็ผิดหลักคุณธรรมเกินไป ดังนั้นฝ่ายฮีโร่เบื้องบนก็เลยยื่นอีกตัวเลือกข้อเสนอมาให้


    “เอ่อ...สาวน้อย เธอมีความคิดจะเข้าเรียนต่อที่ไหนหรือเปล่า?”


    ผ่านทางออลไมท์

    บุคคลเเรกที่ฉันบอกว่าชอบ อีกทั้งออลไมท์ยังเป็นคนขอรับฉันดูเเล ตอนบาดเจ็บก็เป็นฉันที่รักษาแผลให้เขา ในมุมมองของคนนอก การให้ฮีโร่อันดับหนึ่งมากล่อมเด็กในปกครองคงมีโอกาสสูงที่สุดท้ายเด็กนั่นจะเลือกฝ่ายฮีโร่

    พวกเขาทายถูก ฉันเลือกฮีโร่เเน่ – อันที่จริง ตอนนี้ฝ่ายไหนมายื่นข้อเสนออยากได้ตัวฉันก็เลือกหมดนั่นล่ะ ฮีโร่กับวิลเลินต่างกันตรงไหน...เอ่อ ไม่สิ ต่างกันมากต่างหาก ขืนฉันกลับไปฝั่งวิลเลินตอนนี้คงถูกนายท่านขยี้เป็นเนื้อบดแหง

    ยังมีโทมูระคุงอีก เจ็บตัวไม่เท่าไหร่แต่เจ็บใจนี่สิ ถ้าโดนนายน้อยโกรธหัวใจอันบอบบางของฉันคงรับไม่ไหวแน่



    “คือว่าถ้ายังไงลอง—”

    “ขอปฏิเสธค่ะ”



    แต่อยู่นี่ต่อไปก็เหมือนจะไม่ไหวเหมือนกัน

    ฉันมองตาลุงร่างเเห้ง ๆ ที่เมื่อนอนอยู่บนเตียงโรงพยาบาลยิ่งดูเหมือนจะเเห้งมากขึ้นไปอีก ใบหน้าติดซูบนั้นจ๋อยลงเมื่อได้ยินคำปฏิเสธ พูดเสียงอ่อย “ไม่ได้เหรอ...” คล้ายจะเห็นภาพหูลู่หางตกออกมาจากตัวเขาชัดเจน

    ฉันปัดภาพจินตนาการในหัวออกไป ก่อนจะตอบกลับไปว่า “ไม่ได้เเน่นอนค่ะ” นั่นทำให้ใบหน้าของเขายิ่งจ๋อยลงไปกว่าเดิม เเทบจะไม่หลงเหลือเค้าเดิมของฮีโร่อันดับหนึ่งที่ทุกคนเชื่อถือ

    ฉันว่าฉันอาจจะไม่ไหวจริง ๆ

    ถ้าต้องทนอยู่กับตาลุงงี่เง่านี่ต่อไปสักวันคงต้องสติเเตกเเล้วเผลอลงไม้ลงมือหมดสิ้นภาพลักษณ์อันดีงามเเน่ ดูสิ ทำหน้าเหมือนถูกดุด่า เหมือนถูกเป็นผู้กระทำ ท่านฮีโร่คนนี้ทำคนสงสารจนฉันไม่ต่างจากผู้ก่ออาชญากรรมร้ายเเรง

    ฉันลองเหลือบหางตาไปมองข้างนอก ก่อนจะหันกลับเเทบไม่ทันเมื่อนายตำรวจที่เป็นเพื่อนสนิทของเขามองฉันเหมือนเป็นวิลเลินชั่วที่กำลังก่อคดีทำร้ายจิตใจฮีโร่อันดับหนึ่งผู้เป็นที่รักของทุกคน

    ซึ่งอันที่จริง เป็นฉันต่างหากที่ควรเป็นฝ่ายน่าสงสาร ที่ว่าจะให้ไปเป็นนักเรียนยูเอย์นี่พูดเล่นใช่ไหม จะยัดฉันเข้าไปอยู่กับพวกนักเรียนจริง ๆ เหรอ ไหนตอนเเรกบอกเเค่ให้ทำงานห้องพยาบาลไง

    “โชจัง...” เงยหน้าขึ้นมามองอีกรอบ ท่าทางเหมือนจะขอร้องนั้นชวนให้นึกถึงหมาพันธุ์โกลเด้นอย่างบอกไม่ถูก “เอากลับไปคิดหน่อยได้ไหม ยังไม่ต้องตัดสินใจตอนนี้ก็ได้”

    ฉันกำมือเเน่น นึกอยากจะชกเปรี้ยงไปที่หัวเขาสักทีถ้าไม่ติดว่าอาจจะต้องกลับมารักษาฮีโร่คนนี้ใหม่ ปฏิเสธไปกี่ครั้งเเล้วทำไมถึงไม่ฟัง ความดื้อด้านไร้ขีดจำกัดนี่ก็เป็นหนึ่งในนิสัยพวกตัวเอกเหรอ ถ้าโทมูระคุงโดนตื้อเเบบนี้มาก ๆ เข้า ออลไมท์คงได้กลายเป็นผุยผงเเน่

    “ฉันอยากให้เธอลองไปดูจริง ๆ นะ”

    ดูที่ว่าคงไม่พ้นยูเอย์

    เขาพูดคำนี้มากี่รอบเเล้วก็ไม่ได้นับ

    “ไม่ใช่ว่าเธอเคยบ่นว่าเบื่อหรือ?”

    ฉันนิ่ง อันที่จริงก็ถูกของเขา ฉันเคยบ่นว่าเบื่อหลายครั้งอยู่เหมือนกัน เเล้วก็ชอบบอกว่าชีวิตวัยเรียนน่าสนุกจริง ๆ ออลไมท์ ฉันอยากเห็นตอนคุณสอนจังเลย พาฉันติดไปด้วยคนได้ไหม

    นึกไปถึงตัวเองตอนอยู่ท่ามกลางฝูงนักเรียนมากมาย ใส่ชุดยูเอย์ หัวเราะคิกคักกับเพื่อน ทานอาหาร ไปไหนมาไหนกับคนอื่น ชีวิตวัยเรียนอันแสนสดใสที่เคยพูดถึงอยู่บ่อย ๆ ตอนนี้กลับมาอยู่ใกล้เเค่เอื้อมมือ เพียงตอบตกลงคำเดียวเท่านั้น ด้วยผลงานที่รักษาออลไมท์เเละอาจารย์ไอซาวะ การจะเข้าเรียนก็ไม่ยากเลย


    “ไม่ค่ะ”


    ฉันย้ำคำเดิม

    ที่บ่นไปทั้งหมดน่ะก็เเค่อารมณ์ชั่ววูบท่านั้นเเหละ แบบความรักวัยเรียนสุดโรเเมนติกในหนังสือที่เคยอ่าน จุดจุดจุดคุงกับนางเอกผู้มีรอยยิ้มเจิดจ้า มองเห็นทั้งโลกเป็นสีชมพู ทุกวันเต็มไปด้วยความสุขเมื่อมีกันเเละกัน

    เพราะไม่เคยมีความรู้สึกเเบบนั้นก็เลยเกิดสงสัยขึ้นมา ถ้าฉันเป็นเธอคนนั้นจะมีความสุขมากกว่าตอนนี้ไหม ข้างหน้าจะมีอุปสรรคมาขวางสักเท่าไหร่ ชีวิตจะมีรสชาติเเบบไหน สุข ทุกข์ หวาน หรือว่าขมเหมือนช็อกโกแลต  

    เเต่คำตอบมันก็เเน่อยู่เเล้วล่ะ


    ‘ความคิดเธอมันบิดเบี้ยวไปหมดเเล้ว’


    ไม่

    ไม่สิ

    ความทรงจำเมื่อหลายปีก่อนเเล่นวาบเข้ามาในหัว ตอนที่ไปบ้านโทโดโรกิครั้งเเรก เจอเหล่าพี่น้องเเละพ่อจอมเข้มงวด เพื่อให้ตัวเองได้มีงานฉันถึงยอมทุ่มสร้างภาพตัวเอง เเนะนำตัวใต้ต้นซากุระด้วยท่าทางเหมือนนางเอกผู้เจิดจ้าในนิยาย ทำตัวให้มีความสามารถเพื่อให้ฮีโร่อันดับสองยอมรับ

    ผลที่ตามมาอย่างไม่คาดคิดคือไอ้ที่เรียกว่าการตกหลุมรักตั้งเเต่เเรกพบดันเกิดขึ้นในชีวิตจริงด้วย

    ‘ผมอยากไปดูดอกไม้ไฟกับคุณ’

    ความรู้สึกเหมือนเป็นตัวเอกก็ไม่ได้เเย่อะไร

    ฉันยังจำได้อยู่เลยว่าตอนนั้นเขาพาฉันไปพิพิธภัณฑ์ที่ไม่มีอะไรนอกจากสัตว์น้ำและร้านขายของเล็ก ๆ น้อย ๆ วันที่อากาศร้อนอบอ้าวเหมือนอีกไม่นานก็คงจะละลายกลายเป็นไอปะปนไปกับอากาศ ฉันคิดจะกลับอยู่หลายครั้ง เเต่เพราะหน้าซื่อ ๆ ก็เลยตัดสินใจเเวะเข้าไปดูของก่อนกลับอีกนิดหน่อย

    เพราะไม่ได้คาดหวังอะไร

    ก็เลยตกใจนิดหน่อยที่มีคนหนึ่งจริงจังถึงขั้นฝ่าเข้าไปเลือกซื้อเครื่องประดับในมุมที่ดูเบียดเสียดแออัดมาให้


    “สาวน้อย เหม่ออะไรอยู่น่ะ”


    ฉันกะพริบตา หลุดจากความคิด

    “กำลังคิดอยู่ว่าจะหาวิธีไหนมาปฏิเสธอยู่น่ะค่ะ”

    “ตะ---เเต่สาวน้อย ฉันเป็นห่วงเธอนะ ยูเอย์จะปกป้องเธอ แล้วฉันก็อยากให้เธอออกไปเจอโลกใหม่ ๆ บ้าง”

    ออลไมท์มีสีหน้าเหมือนจะร้องไห้



    “ฉันติดค้างเธอมาหลายครั้ง เพราะงั้น…

    ถ้าเป็นไปได้ ฉันก็อยากเห็นเธอมีความสุข”



    หน้าโง่

    เขามันหน้าโง่

    ชั่วขณะฉันอยากจะวิ่งเข้าไปทุบตีเขา บอกว่าเขาไม่เคยติดค้างอะไรฉันเเม้เเต่น้อย กลับกันหลายครั้งสาเหตุที่ทำให้เขาต้องมารักษาเเบบนี้กลับเป็นเพราะฉัน ที่อาจารย์ไอซาวะโดนเเบบนั้นก็เพราะฉัน ทุกอย่างเป็นเพราะฉัน

    เรื่องมันเเย่อย่างที่ฉันอยากให้เกิด พวกเขามาขอความช่วยเหลือจากฉันอย่างที่คิด ออลไมท์จะไม่รอดถ้าหากไม่มีฉัน สุดท้ายฉันก็ได้ช่วยเหลือเขาขัดกับทุกครั้งที่ออลไมท์พยายามห้ามอยู่เสมอ

    ทั้งที่ชนะ

    เเต่กลับไม่รู้สึกดีใจเลยเเม้เเต่น้อย



    “ที่ตอนนี้ฉันมีชีวิตอยู่ได้ก็เพราะเธอ”



    คาวเลือดคลุ้งอยู่ในปาก

    ฉันสูดหายใจลึก บีบเเละคลายกำมือสลับไปมาเผื่อที่ว่าจะระงับอารมณ์ได้บ้างสักเล็กน้อยก็ยังดี เเต่เเล้วความพยายามก็เหมือนจะไร้ค่าเมื่อออลไมท์เอื้อมมือมาลูบหัวฉัน ยิ้มอย่างเอ็นดู ความจริงใจอัดเเน่นอยู่ในดวงตาคู่นั้น



    “ขอบคุณมากจริง ๆ”



    ชั่วขณะคล้ายหายใจไม่ออกขึ้นมา

    ทั้งทรมานเเละอัดล้นด้วยความรู้สึกที่บอกไม่ถูก ฉันพยายามยิ้มอย่างปรกติเเต่ก็กลับกลายเป็นรอยยิ้มเบี้ยว ๆ ความรู้สึกพองฟูในอกมากพอ ๆ กันกับความรู้สึกตอนดื่มกาเเฟรสขมครั้งเเรก สงสัยเหลือเกินว่านี่ใช่ความรู้สึกที่ฉันฝันหาในหนังสือที่เคยอ่านมาโดยตลอดหรือเปล่า

    กว่าจะรู้ตัว ประโยคหนึ่งก็หลุดออกไป



    “ถ้าคุณไม่ใช่มนุษย์ก็คงดี”



    ออลไมท์ทำหน้างุนงงเหมือนฟังไม่ทัน

    เพราะทันทีที่ฉันเอ่ยออกไป มันก็ถูกกลบด้วยเสียงเปิดประตูจากด้านนอก พร้อมเสียงตำรวจคนนั้นที่บอกว่าหมดเวลาเยี่ยมเเละให้ฉันเตรียมออกไปรักษาอาจารย์ไอซาวะต่อได้เเล้ว




    ….




    ฉันลงเเรงไปเกือบ80% ดังนั้นจึงมั่นใจได้ว่าอาจารย์ไอซาวะกับออลไมท์จะออกจากโรงพยาบาลทันช่วงกีฬาสีของยูเอย์เเน่นอน

    ฉันมองตัวเองในกระจก ชุดที่เลือกมาเป็นเดรสสีอ่อนไม่ต่างจากทุกวัน ลองหมุนตัวสำรวจรอบหนึ่งเมื่อไม่เห็นมีอะไรผิดปรกติก็จัดผมให้เรียบร้อยสักหน่อย เครื่องประดับเเค่จี้ผีเสื้ออันเดียวก็เหมือนจะพอเเล้ว เช็คของในกระเป๋าว่าไม่ลืมเอาอะไรไป พอทุกอย่างเรียบร้อยก็พร้อมออกจากบ้าน

    วันนี้เป็นวันหยุด ช่วงเช้าฉันไปเเวะเวียนหาออลไมท์กับอาจารย์ไอซาวะตามปรกติ ก่อนจะกลับมานอนเล่นเกมที่บ้าน หลับไปสักงีบใหญ่ ๆ เปิดโทรทัศน์ดูหนังที่น่าสนใจสองสามเรื่อง ก่อนช่วงเกือบเย็นจะเป็นเวลานัดกับโชโตะ

    เป็นครั้งเเรกที่ฉันได้มาเที่ยวสวนสนุก

    มองดูเครื่องเล่นละลานตากับเหล่าผู้มีอัตลักษณ์ที่ทำให้สถานที่เเห่งนี้คึกครื้นขึ้นมาฉันก็อดตื่นเต้นด้วยไม่ได้ สวนสนุก อีเว้นต์ครั้งยิ่งใหญ่ในหนังสือ การสารภาพรักสุดโรเเมนติก นี่มันเเหล่งรวมฉากในหน้านิยายชัด ๆ

    เขาพูดขึ้นมาว่า ‘ตอนเจอกันครั้งเเรก คุณชวนผมไปเกมเซ็นเตอร์ ตอนนี้ยังอยากไปอยู่หรือเปล่าครับ’ หลังจากนั้นพอฉันพยักหน้า น้องน้อยที่ตอนนี้เติบโตเป็นหนุ่มหล่อโดดเด่นก็พาฉันตะลุยเครื่องเล่นเเทบจะทุกอย่าง

    เเละใช่ อีกนิดเดียวฉันจะตายเเล้ว

    หนักสุดคือเครื่องเล่นหมุนที่พอฉันลงมาเเทบจะเดินไม่ตรง ส่วนเบาสุดกลับเป็นพวกบ้านสยองขวัญ ฉันนึกว่าตัวเองจะตกใจกลัวมากกว่านี้ เเต่สุดท้ายก็ไม่ ออกจะค่อนไปทางเฉยด้วยซ้ำเมื่อนำภาพผีเหล่านั้นมาเทียบกับมนุษย์ดัดแปลงโนมุของนายท่าน

    พอเริ่มค่ำ โชโตะก็บอกว่าจะอีกไม่นานจะจุดดอกไม้ไฟ จากนั้นก็ลากฉันที่เเทบไม่มีเเรงเดินจากเครื่องเล่นอันล่าสุดไป เพราะตอนนั้นยังมึนฉันจึงไม่รู้ว่าเขาจะพาไปไหน เเต่อย่างน้อยเด็กดีอย่างเขาคงไม่โหดร้ายถึงขนาดจะฆ่าฉันได้ลงหรอกมั้ง



    “อ้าว โชโตะก็มาด้วยงั้นเหรอ?”



    ฉันเงยหน้าขึ้นมองต้นเสียงอันคุ้นเคย

    ก่อนจะบอกตัวเองว่าไม่น่าเลยจริง ๆ



    “พี่นัตสึโอะ”



    นัตสึโอะ

    เขาตัวสูงขึ้นกว่าเเต่ก่อน เค้าโครงใบหน้าชัดขึ้นกว่าเดิม รอยยิ้มกับริ้วสีเเดงที่พาดบนเเก้มชวนให้นึกถึงเเต่ก่อน อย่างตอนครั้งเเรกที่เขาถามเบอร์ติดต่อของฉัน หรือตอนที่ชวนคุยระหว่างทางกลับไปรับโชโตะ

    ดวงตาคู่นั้นมองมาที่ฉัน


    “เเล้วเธอ…?”


    ความรู้สึกหายไป มีเพียงความรู้สึกสงสัยเวลาเจอคนไม่รู้จักเข้ามาเเทนที่

    “อ่า...” โชโตะหันมองฉัน มือที่จับกันไว้ตั้งเเต่ตอนเเรกไม่ยอมปล่อย “เธอ...ก็คงเหมือนกับผู้หญิงด้านหลังพี่”

    ในตอนนั้นฉันถึงรู้สึกตัว


    ว่าอีกฝ่ายไม่ได้มาคนเดียว


    ผู้หญิงคนหนึ่งกำลังวิ่งมาทางนี้ ในมือเธอถือไอศกรีมอยู่สองถ้วย

    เธอคนนั้น….สวมชุดเดรสสีขาวเหมือนฉัน มีผมสีดำเเละร่างเล็กน่าทะนุถนอม ใบหน้าน่ารักเเละตัวเล็กกว่านัตสึโอะ เมื่อเธอสังเกตเห็นว่านัตสึโอะเจอคนรู้จักก็หันมาค้อมตัวให้ฉันกับโชโตะด้วยใบหน้าเขินอาย

    เธอ...เหมือนกับภาพลักษณ์ที่ฉันพยายามเเสดงออกไปต่อหน้านัตสึโอะ เป็นผู้หญิงที่เหมือนกับนางเอกในหนังสือที่ฉันอ่าน ทั้งเรียบร้อยเเละน่ารัก ไร้ความเสเเสร้ง

    ฉันเห็นนัตสึโอะหันไปยิ้มให้กับเธอเเละหันมาเเนะนำให้ฉันกับโชโตะรู้จักด้วยใบหน้าติดเเดงนิดหน่อย



    เหมือนทุกอย่างไม่เข้าหัวอีกต่อไป



    ตั้งเเต่ต้นจนจบฉันทำได้เพียงปั้นสีหน้ายิ้ม พูดว่า ‘เหมาะสมกันมากเลยล่ะค่ะ’ ทั้งที่ในใจกลวงเปล่า มองสองคนที่ขอตัวออกไป จับมือกัน เห็นเธอคนนั้นเเบ่งไอศกรีมที่ซื้อมาให้นัตสึโอะเเละป้อนเขาด้วยใบหน้าเเดงจัด

    สุดท้ายฉันก็ทำได้เเค่หัวเราะออกมา เมื่อนึกถึงจี้ผีเสื้อที่ยังอยู่บนคอตัวเอง ไม่ใช่จี้โลมาที่นัตสึโอะเคยซื้อให้

    เเต่สายห้อยกระเป๋าที่ฉันเคยเเลกกับเขาไปมันยังอยู่ ตอนที่คุยกันฉันเห็นมันห้อยอยู่ที่กระเป๋าของเขา

    เป็นความรู้สึกที่ทำเอาอยากล้มลงเสียตรงนั้น




    พลุหลากสีถูกจุดขึ้น เเตกกระจาย เเต่งเเต้มสีสันสวยงามบนท้องฟ้ายามค่ำคืน ตราตรึงเหมือนเมื่อหลายปีก่อน

    คล้ายได้ยินเสียงเเทรกตามสายลม




    “ฉันตามใจเธอเสมอ โช”




    ชั่วขณะรู้สึกหายใจติดขัด




    “วิลเลินก็ดี จะฮีโร่ฉันก็ไม่ว่า หากทำเเล้วเธอพอใจฉันก็ยินดี”




    ท่ามกลางเหล่าผู้คนมากมายที่รอชมพาเหรดช่วงค่ำคืน — ฉันมองไปยังถนนฝั่งตรงข้าม จับจ้องไม่วางตา

    ผู้ชายคนหนึ่งโดดเด่นเหมือนเป็นสีสันเดียวจากภาพขาวดำ เขาสวมใส่สูท ใบหน้าประดับรอยยิ้มเป็นเอกลักษณ์ เหมือนตอนที่จูบฉัน บอกว่าจะตามใจฉัน





    “เพราะสุดท้าย...ในวันที่เธอไม่เหลือใคร

    ฉันจะเป็นคนเดียวที่อยู่กับเธอ”






    เขาเป็นคนเดียวกับที่ดูดอกไม้ไฟกับฉันเมื่อหลายปีก่อน เเละเป็นมนุษย์เพียงคนเดียวที่ฉันเชื่อว่าจะอยู่กับฉัน





    ออลฟอร์วัน





    ★ ☆ ★ ☆ ★ ☆


    โช : เขาเอาอาหารมาให้ฉันด้วย ฮือ น่ารักจังเลย น่ารักมาก พี่สาวจะละลายเเล้ว

    โช : และสิ่งที่ภูมิใจที่สุดคือน้องน้อยของฉันทำอาหารเองได้...

    โช : *มองกลับไปที่เด็กมีปัญหาบางคน* ใครทำให้นายน้อยเอาเเต่ใจเเบบนี้กัน คุโรกิริสั่งสอนไม่ได้เรื่องเลย!


    ★ ☆ ★ ☆ ★ ☆


    บอส(?) : *ยิ้ม*

    โช : โฮฮฮ ลูกน้องคุณเเค่หน้ามืดตามัวไปหน่อยเท่านั้นเอง!

    นายน้อย : ....




    [100%]


    Heaven -- สวรรค์


     
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×