NC

คำเตือนเนื้อหา

เรื่องนี้อาจมีเนื้อหาหรือการใช้ภาษา
ที่ไม่เหมาะสม เยาวชนที่มีอายุต่ำกว่า 18 ปี
ควรใช้วิจารณญานในการอ่าน
กดยอมรับเพื่อเข้าสู่เนื้อหา

อ่านเงื่อนไขเพิ่มเติม
ปิด
ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    (end)「Fic Boku no Hero Academia」XXX {Villain x OC}[จบรูทหลัก]

    ลำดับตอนที่ #24 : again

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 2.87K
      490
      2 ธ.ค. 62


    [21]




    อืม...


    ฉันมองเสื้อผ้าในตู้เก็บเสื้อผ้า ครึ่งหนึ่งของพื้นที่เต็มไปด้วยเดรส รองลงมาคือกระโปรงเเละเสื้อสีอ่อนที่ดูผู้หญิงที่สุด เเละส่วนน้อยถึงน้อยมากก็คือกางเกงกับเสื้อเนื้อหนา เพราะงานตัวเองไม่ได้ไปข้องเกี่ยวกับการต่อสู้อะไรก็เลยไม่ได้ซื้อชุดที่ใส่เเล้วคล่องตัวมาเผื่อเลย

    นิ่งไปครู่หนึ่ง นึกถึงรอยบนตัวที่ตอนนี้คงเริ่มขึ้นสีเข้มไม่ต่างจากรอยช้ำ กับเรื่องงานภัยพิบัติอะไรนั่นที่อาจารย์ไอซาวะวานให้มาช่วย USJสินะ? ในที่สุดก็เลือกเสื้อเเขนยาวสีดำกับกางเกงขายาวมา รองเท้าก็คงต้องใส่ผ้าใบ วันนี้คงได้ขยับตัวสนุกเเน่เลย

    มัดผมที่ยาวขึ้นให้ไม่ให้เกะกะเวลาอาบน้ำ ครีมอาบน้ำกลิ่นวนิลาหอมฟุ้ง เวลาตอนนี้คงประมาณหกโมงเช้า

    ยังมีเวลามากพอจะทำอาหารเช้าสักอย่างสองอย่างก่อนที่ออลไมท์จะตื่น



    ...



    “โอ้ วันนี้ตื่นเร็วจังนะ”


    ฉันยิ้มรับพลางวางจานอาหารเช้าง่าย ๆ ของตัวเอง อย่างขนมปังปิ้ง เบคอน เเละไส้กรอกลงบนโต๊ะอาหาร ที่ออลไมท์ทักอย่างนั้นก็ไม่แปลก ปรกติเช้าอย่างนี้ใช่เวลาตื่นของฉันที่ไหน

    เเต่นั่นก็โทษฉันไม่ได้หรอก ใครให้ตอนที่ยังอยู่ที่รังวายร้ายชีวิตสโลวไลฟ์ขนาดนั้นล่ะ นอกจากกิน นอน กิน นอน รักษา ดูเเลเด็กน้อยน่ารักวนไปก็เเทบไม่มีอะไรทำ อยู่นานขนาดนั้นก็ต้องติดนิสัยมาเป็นธรรมดา ดีเเค่ไหนเเล้วที่ฉันลากตัวเองออกไปยูเอย์ได้ทั้งที่อยากนอนเล่นเกมอยู่บ้าน

    “คาบบ่ายอาจารย์ไอซาวะวานฉันให้ไปช่วยงานนี่คะ นาน ๆ ทีจะถูกใช้งานบ้างก็ต้องตื่นเต้นเป็นธรรมดา” ฉันนั่งลงบนเก้าอี้ “เป็นคาบสอนของคุณด้วยนี่นา ครั้งเเรกเลยนะที่ได้ร่วมงานกับฮีโร่อันดับหนึ่งอย่างนี้”

    ออลไมท์นั่งลงบนเก้าอี้ตัวตรงกันข้าม หัวเราะโง่ ๆ “ร่วมงานอะไรกัน เธอก็ช่วยฉันมากหลายครั้งเเล้วนี่”

    “หมายถึงในฐานะคนไม่รู้จักกันต่างหาก” ฉันถอนหายใจ ฝืนกินอาหารลงไปอีกสักสองสามคำก่อนจะดื่มน้ำตามลงไป ดีที่จานของฉันทำให้อาหารน้อยเป็นพิเศษก็เลยไม่ได้เเย่มากนัก “อิ่มเเล้วค่ะ”

    “เอ๋” ออลไมท์หยุดกินอาหารของตัวเอง “อิ่มง่ายไปเเล้ว อาหารเช้าสำคัญสำหรับเด็กวัยนี้นะ...”

    ไม่ฟังหรอก

    อีกอย่างไมใช่เด็กสักหน่อย

    ฉันเท้าคางกับโต๊ะ รับคำ ‘ค่า ๆ เข้าใจเเล้วค่ะ’ ในบางช่วงที่เขาหันมาทำหน้าดุใส่เมื่อเห็นฉันไม่สนใจ ซึ่งในสภาพผอมเเห้งเเบบนี้การดุของเขามันตลกสิ้นดี ไม่เห็นน่ากลัวเลยสักนิด

    หลุดขำออกมา ก่อนจะโดนดุอีกรอบ


    “สาวน้อย ที่พูดนี่เพราะฉันเป็นห่วงเธอนะ”


    ชะงักไป สบกับดวงตาสีฟ้าจริงจังได้ครู่หนึ่งฉันก็เบนสายตาไปทางอื่น เลิกเท้าคางกับโต๊ะ กลับมานั่งดี ๆ

    ออลไมท์

    หลังการต่อสู้ครั้งนั้นระบบหายใจของคุณพังไปกว่าครึ่ง กระเพาะอาหารถูกเอาออก ใบหน้าซีดเซียว ดวงตาทั้งสองข้างต้องทำศัลยกรรมซ้ำเเล้วซ้ำอีก ค่าตอบเเทนของการเป็นฮีโร่ไม่น้อยเลย

    “ออลไมท์ ถ้าคุณต้องการฉันสามารถทำให้คุณหายเป็นปรกติได้นะคะ”

    ฉันพยายามยิ้มอย่างสดใสที่สุด ยิ้มกว้างไปถึงดวงตา  

    “ที่ว่าดื่มเลือดหรือจูบนั่นฉันโกหกค่ะ เเค่เรื่องล้อเล่น คุณไม่จำเป็นต้องทำอย่างนั้นหรอก เเค่ปล่อยให้ฉันเเตะตัวนิดหน่อยก็พอ หลังจากนั้นความทรมานทุกอย่างของคุณจะหายไปทันที...”

    คำสารภาพหยุดลงเมื่อเขาเอื้อมมือมาลูบหัว

    “เด็กดี”

    สายตาเเละรอยยิ้มอ่อนล้านั้น



    “ขอบคุณนะ”



    เหมือนบอกไม่ให้พูดต่อ

    ฉันเม้มปาก รู้สึกใบหน้าเห่อร้อนขึ้นมาดื้อ ๆ

    เขาอาจจะฝังใจเรื่องที่ฉันป่วยครั้งนั้นเเล้วคิดว่าเป็นเพราะเขาที่พึ่งพลังฉันหนักเกินไป เเต่ความจริงก็คือไม่ใช่

    ที่ฉันป่วยก็เพราะประจำเดือน เเต่ถึงวันนั้นไม่มีประจำเดือนฉันก็จะป่วยอยู่ดี ด้วยกระเป๋าน้ำร้อนอันนั้น เพิ่มอุณหภูมิให้ร่างกายนิด เเสร้งอ่อนเเออีกหน่อย คงไม่ยากที่จะทำให้คน ๆ หนึ่งเชื่อ ที่เเน่ใจเพราะว่าไม่ใช่ครั้งเเรกที่ฉันทำ

    ข่าวในโทรทัศน์ที่เหยื่อผู้เคราะห์ร้ายถูกช่วยเหลือโดยฮีโร่คนอื่น ประโยค ‘คุณไม่จำเป็นต้องไปช่วยทุกอย่างหรอก หัดถนอมร่างกายตัวเองหน่อย’ คาดหวังให้เขาโง่น้อยลง เเต่สุดท้ายก็พลิกกลับไปหมด ดูถูกฮีโร่ในตัวของเขามากเกินไป ไม่ใช่เเค่ความโง่ที่นับวันยิ่งเพิ่มมากขึ้น เขายังไม่ให้ฉันช่วย

    งี่เง่า



    “จะไปทำงานเเล้วค่ะ”



    ฉันนี่งี่เง่าจริง ๆ


    ทั้งเรื่องตกลงไปทำงานยุ่งยากอย่างยูเอย์ ค้นข้อมูลเรื่องการดูเเลผู้ป่วยที่ถูกตัดกระเพาะ ดูเเลอาหารการกินของเขา เรื่องน่ารำคาญเเบบนี้ฉันทำมาตั้งนานได้ยังไง ทั้งที่จะรักษาให้มันจบ ๆ ไปเลยก็ได้เเท้ ๆ

    ‘อีกไม่นานจะไปรับ’

    งี่เง่าที่สุด



    “เจอกันคาบบ่ายนะคะ”



    ได้

    ถ้าคุณไม่อยากใช้ฉันก็ไม่เป็นไร




    ……..




    ฉันเดินตามหลังอาจารย์ไอซาวะไม่ต่างจากลูกเป็ด


    ตั้งเเต่ที่เขาเดินเข้ามาห้องพยาบาลมาเรียกฉันไปใช้งานภัยพิบัติ ฉันก็เดินตามหลังเขาตลอดทาง

    เเบบว่า เขาใจดีเเม้ว่าจะทำหน้าเหมือนรำคาญฉันเต็มทน นอกจากขมวดคิ้วเเล้วเขาก็ไม่ได้ดุหรือตวาดเลย

    พอเข้าห้องเอไปเขาก็ตอบคำถาม ‘ใครเหรอครับ’ ของเด็กให้ เเนะนำตัวฉัน เสร็จสรรพ ก่อนจะบอกกิจกรรมวันนี้ว่าเราจะไปทำอะไร ที่ไหน กดรีโมตควบคุมให้ชุดคอสตูมฮีโร่ของนักเรียนเเต่ละคนออกมา ใครอยากเปลี่ยนก็เปลี่ยน ไม่อยากเปลี่ยนก็ไม่ต้องเปลี่ยน ชุดคอสตูมบางคนมันอาจจะไปเกะกะ...บลาๆๆ ฉันมีหน้าที่ยืนอยู่หลังเขา โปรยยิ้มอย่างเป็นมิตร

    ผู้สืบทอดฮีโร่ดูมีพิรุธปิดไม่มิดเลยเมื่อเห็นหน้าฉัน

    ส่วนโชโตะมีสีหน้าตกใจ เหมือนคิดว่าจะไม่ได้เจอฉันนอกเหนือจากห้องพยาบาล เราสบตากันครู่หนึ่งก่อนที่ฉันจะเป็นฝ่ายผละออกเมื่อรู้ตัวว่าถูกอาจารย์ไอซาวะมอง ช่างสังเกตจริง ๆ

    ช่างเถอะ

    ต่อมา ฉันถึงได้ขึ้นไปนั่งบนรถบัสเพราะUSJอยู่ไกลจากอาคารหลัก เด็กที่เป็นหัวหน้าห้องดูเหี่ยวเเห้งหลังจากที่รู้ว่าที่นั่งรสบัสไม่ได้จัดอย่างที่คิด เหมือนจะชื่อ ‘อีดะ เทนยะ’ หรืออะไรสักอย่าง อัตลักษณ์เอนจินของเขาดูไปดูมาก็ไม่เลว


    “คิดอะไรอยู่”


    ฉันกะพริบตา หลุดจากภาพในหัว หันมามองอาจารย์ไอซาวะที่มองเหมือนฉันเป็นยัยวายร้าย สายตาทำเอาฉันเจ็บนิดหน่อย เขาดูจะไม่ไว้ใจฉันมากขึ้นหลังจากเหตุการณ์สัญญาณเตือนภัยยูเอย์ดังลั่น

    “ฉันง่วงค่ะ”  

    “ง่วง?” อาจารย์ไอซาวะขมวดคิ้ว  

    “ใช่ค่ะ ง่วงมากเลย”

    เขาถอนหายใจออกมาเฮือกหนึ่ง เบนหน้าหนีเหมือนไม่อยากคุยกันอีก อ่ะ ขยับหนีด้วย ทำไมล่ะ ที่ว่าง่วงฉันไม่ได้โกหกนะ อย่างที่บอกว่าฉันเป็นสาวน้อยที่บอบบางที่สุด จับนิดหน่อยก็บอบช้ำจะตายเเล้ว อย่าไปพูดถึงรอยเเดงนั่นเลย ยิ่งมันกลายเป็นรอยช้ำยิ่งปวดหนึบ นอนหลับลงก็บ้าเเล้ว ไม่อย่างนั้นฉันจะตื่นเช้าได้ยังไง

    นักเรียนห้องเอดูสนุกสนานครึกครื้น มีเด็กอัตลักษณ์กบสงสัยเรื่องพลังของผู้สืบทอดอิซึคุที่ดันไปคล้ายคลึงกับออลไมท์ เเต่ความก็ไม่เเตกเพราะมีเด็กคนอื่นเเก้ต่างให้ว่าออลไมท์ใช้พลังเเล้วไม่บาดเจ็บสักหน่อย

    ดีจังเลยนะอิซึคุคุง

    เด็กหัวเเดงเปิดหัวข้อเรื่องอัตลักษณ์ที่ทำให้ร่างตัวเองเเข็งได้ กลายเป็นหัวข้อใหม่ ลากยาวไปถึงเรื่องอัตลักษณ์ของคนอื่น ความนิยมฮีโร่ เเล้วก็วกกลับมาเรื่องอัตลักษณ์อีกครั้งเมื่อมีเด็กคนหนึ่งเอ่ยประโยค


    “ถ้าให้พูดถึงอัตลักษณ์ที่ทั้งเจ๋งเเล้วก็เเข็งเเกร่ง ก็ต้องเป็นบาคุโกกับโทโดโรกิคุงสินะ”


    บาคุโก...อ่า ใช่ เด็กหัวเม่นท่าทางดุร้ายนั่น

    คนที่ระเบิดของขวัญผู้สืบทอดทิ้ง

    เพื่อนสมัยเด็กของอิซึคุ อัตลักษณ์ระเบิดยังไม่น่ากลัวเท่าเซนส์การต่อสู้ ผลการเรียนเยี่ยม ถูกคาดหวังให้เป็นฮีโร่ โตมาด้วยคำยกย่องจากคนรอบข้าง ก่อกำเนิดเป็นเด็กที่ความภูมิใจในตัวเองสูงเทียมฟ้า

    อิซึคุคุงผู้น่าสงสาร

    “เเต่บาคุโกมักจะโมโหตลอดเลยนี่ เขาคงไม่ได้รับความนิยมหรอก” เป็นเด็กผู้หญิงอัตลักษณ์กบที่ขัด

    “ว่าไงนะ?!”

    เสียงดังจังเลย...

    เเต่ถามว่าเกลียดเขาไหม ก็ไม่หรอก ตราบใดที่อีกฝ่ายยังไม่เอาท่าทางหมาบ้านั่นมาใช้กับฉัน

    ฉันเหลือบมองไปยังที่นั่งด้านหลังของเด็กที่กำลังโวยวายอยู่ ขยับยิ้มส่งให้เด็กผมสองสีที่เหมือนอยู่ในโลกส่วนตัวของตัวเอง บรรยากาศเย็นชาซะจนฉันเศร้าใจ เเบบนี้ใครที่ไหนจะกล้าคุยกับเขา

    ตอนเด็กก็น่ารักน่าชังออกเเท้ ๆ ทำไมโตมาถึงกลายเป็นเด็กหน้าตายเเบบนี้ได้นะ

    ชีวิตวัยเด็กที่ควรสดใส

    หลับตาลงสักพัก  



    “พวกเราใกล้ถึงเเล้ว กลับไปนั่งที่ซะ”



    เสียงของอาจารย์ไอซาวะเเละเสียงตอบรับของเด็กห้องเอทำให้ฉันลืมตาขึ้น มองออกไปข้างนอก USJอยู่ไม่ไกล

    ความคิดที่จะหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาพิมพ์ข้อความส่งให้ใครบางคนต้องหยุดชะงักลง



    ....



    เมื่อถึงUSJ สเปซฮีโร่ หมายเลข 13 ก็รออยู่ก่อนเเล้ว


    ฮีโร่ที่ช่วยเหลือผู้คนจากภัยพิบัติมาเเล้วนับไม่ถ้วน เด็กหลายคนดูจะชื่นชมเขามาก อ่า เขาเป็นคนสร้างสถานที่ฝึกอันนี้มาด้วยล่ะ เป็นฮีโร่ที่สุดยอดเหมือนอาจารย์ไอซาวะเลย

    ฉันเห็นอาจารย์ไอซาวะเดินไปหาหมายเลข 13 ฉันก็เดินตาม ใกล้จนได้ยินเนื้อความที่สองฮีโร่พูดคุยกัน

    ระหว่างทางออลไมท์ทำงานฮีโร่มากไปจนหมดเวลาก่อน ตอนนี้เขาพักอยู่ที่ห้องรับรอง

    ฉันนิ่งไป รู้สึกในหัวว่างเปล่าขึ้นมาเสียดื้อ ๆ ถึงเเม้จะรู้อยู่เเล้วก็ตามว่าต้องมีเหตุการณ์นี้เกิดขึ้น เเต่ที่คิดไว้กับความเป็นจริงกลับไม่เหมือนกันเลย ฉัน --- ฉันรู้สึกหน้ามืด โกรธจนหายใจถี่


    งี่เง่า


    งี่เง่าที่สุด


    ฮีโร่คนอื่นเเม่งไม่มีเลยหรือไง


    ฉันก้มหน้าต่ำ ปากเม้มเเน่น จับชายเสื้ออาจารย์ไอซาวะไว้เเล้วเดินตามเขาไปอยู่ที่มุมหนึ่งเพื่อปล่อยให้หมายเลข 13 พูดกล่าวกับนักเรียน อัตลักษณ์สามารถใช้ฆ่าคนได้ง่าย ๆ  คาบนี้พวกเธอจะรู้จักการใช้อัตลักษณ์เพื่อช่วยเหลือคนอื่น หวังว่าเมื่อจบคาบนี้ไปจะรู้จักการใช้อัตลักษณ์เพื่อช่วยคนอื่นนะ...อ่า เเม่ง จะช่วยคนอะไรนักหนา

    “เขาเเค่หมดเวลา ไม่ได้เป็นอะไรสักหน่อย”

    “...รู้ค่ะ”

    “ถ้าอย่างนั้นก็เลิกทำหน้าเหมือนจะร้องไห้ได้เเล้ว”

    อะ -- อะไรนะ?

    “ไม่ได้ร้องไห้นะคะ” ตวัดสายตาขึ้นไปมอง ก่อนจะถอยออกห่างหนึ่งก้าว “เเล้วก็อย่ามาลูบหัวฉันด้วย”

    “หึ”


    เป็นบ้าอะไรของคุณ


    ฉันหรี่ตามองอาจารย์ไอซาวะที่ก้าวออกไปจะพูดกับนักเรียนเมื่อหมายเลข 13 กล่าวจบ เมื่อกี้น่าขนลุกชะมัดเลย เห็นนะว่าเเอบหัวเราะด้วยน่ะ ไหนสายตาไม่ไว้ใจฉันตอนเเรก ผู้ชายคนนี้เป็นพวกสองบุคลิกอย่างนั้นเหรอ


    “เอาล่ะ ก่อนอื่นก็---” ประโยคขาดไป


    เสียงไฟฟ้าเเล่นเปรี๊ยะตามเเผงไฟฟ้าก่อนที่มันจะดับลง ไม่ใช่เเค่ฉันที่รับรู้ได้ถึงความผิดปรกติ นักเรียนหลายคนก็เริ่มมองซ้ายขวาอย่างสงสัยเเล้วเช่นกัน

    ตรงลานน้ำพุ หมอกสีดำปรากฎขึ้นเเละเริ่มขยายใหญ่ขึ้นเรื่อย ๆ เเละขยายเรื่อย ๆ จนมันครอบคลุมไปทั้งหมด

    อาจารย์ไอซาวะมีสีหน้าตกใจ ตะโกน “เกาะกลุ่มกันไว้ห้ามขยับ! หมายเลข 13 ปกป้องนักเรียนด้วย!!”

    ฉันเบิกตากว้างเมื่อเเขนถูกกระชากอย่างไม่ทันตั้งตัว เอนวูบไปขณะหนึ่งก่อนจะเลื่อนสายตามองดูเจ้าของฝ่ามือที่ยึดเเขนฉันเอาไว้ไม่ปล่อย ท่ามกลางเสียงสับสนวุ่นวายของนักเรียนคนอื่น โชโตะดูมีสติที่สุด

    “อะไรน่ะ?! เหมือนตอนสอบเข้าเปี๊ยบเลย เริ่มคาบเรียนเเล้วงั้นเหรอ”

    “อย่าขยับ!!”

    อาจารย์ไอซาวะตะโกนจนฉันสะดุ้ง หันไปมองถึงรู้ว่าเขาเตรียมตัวพร้อมต่อสู้เเล้ว จริงจังยิ่งกว่าตอนที่สัญญาณเตือนภัยยูเอย์ลั่นซะอีก

    มันเริ่มโผล่ออกมาจากหมอกสีดำทีละคน...ทีละคน รู้ตัวอีกทีก็เยอะมากจนทำให้นึกถึงฝูงมด

    สิ่งที่ปรากฎต่อหน้าพวกเขาในตอนนี้



    “พวกนั้นคือวิลเลิน!!”



    อีกไม่นานจริง ๆ ด้วย

    ฉันเพ่งมองเด็กที่ยืนเด่นท่ามกลางวิลเลินฝูงมด ออร่าที่เเผ่ออกมามองด้วยตาเปล่ายังรู้เลยว่าหมอนี่คือหัวหน้า ยิ่งข้าง ๆ เขาประดับด้วยหมอกสีดำ กับวิลเลินร่างยักษ์หน้าตาหน้าเกลียด กล้ามใหญ่จนน่ากลัวว่าจะหักคอคนได้ง่าย ๆ

    มนุษย์ทดลองที่นายท่านขยันเล่าให้ฟัง

    เห็นตัวจริงเเล้วฉันยิ่งอยากจะอ้วก

    รสนิยมห่วยเเตกสิ้นดี



    ...




    อาจารย์ไอซาวะกระโดดลงไปสู้กับวายร้ายเเล้ว


    ก่อนหน้าจะไปยังฝากนักเรียนไว้กับหมายเลข 13 ด้วย -- เเละหมายเลข 13 ก็จัดกลุ่มให้ฉันรวมไปกับพวกนักเรียน ในสายตาของสองฮีโร่เเล้วฉันคงไม่ต่างจากคนไร้ประโยชน์ที่มีดีเเค่รักษา ฮึก เเต่ก็นั่นล่ะ บทอ่อนเเอก็เหมาะกับฉันดี

    อาจารย์ไอซาวะเท่มาก

    เขาจัดการวายร้ายตัวประกอบได้หมด ชนิดที่ว่าต้องอ้าปากค้างเเล้วปรบมือรัว ๆ ให้ สมกับเป็นฮีโร่มือโปร วายร้ายพวกนั้นไม่คณามือเขาสักนิด เก่งจนโทมูระคุงเริ่มหงุดหงิด ดูจากมือที่อยู่ไม่สุขเเล้วเริ่มเกาที่คอ...หวา ไม่ได้นะ เดี๋ยวเป็นเเผลหรอก พี่สาวปวดใจจะตายเเล้ว

    ยังไม่ทันที่จะได้มองการต่อสู้สุดเหวี่ยง ฉันก็ได้วิ่งอีกรอบ จุดหมายคือบานประตูตอนที่เข้ามาครั้งเเรก

    นะ -- เหนื่อย เหนื่อยจะตายอยู่เเล้ว

    ระยะทางก็ไม่ใช่ใกล้ ๆ เลยนะ ฮื่อ นรกสำหรับคนที่เอาเเต่กินกับนอนอย่างฉันชัด ๆ

    เเต่ก็นะ



    “เกรงว่าคงจะให้ออกไปไม่ได้”



    กลุ่มนักเรียนที่วิ่งไปหาทางออก ในหมู่วายร้ายก็มีคนที่มีหัวสมองเหมือนกัน ถ้าให้ออกไปได้เกมก็จบพอดีน่ะสิ

    หมอกสีดำเข้ามาขวางทางเอาไว้ก่อนที่จะถึงประตู   



    “ยินดีที่ได้รู้จัก พวกเราคือสมาพันธ์วิลเลิน อาจจะอวดดีไปสักหน่อย เเต่พวกเราต้องกำจัดโรงเรียนยูเอย์ซึ่งเป็นฐานของฮีโร่ออกไป เพื่อสัญลักษณ์เเห่งสันติภาพ

    ...เพื่อดับลมหายใจสุดท้ายของออลไมท์”



    ภัยคุกคามขั้นสูงสุด…



    “คิดว่าออลไมท์อยู่ที่นี่เสียอีก เเต่คงมีการเปลี่ยนเเปลงสินะ? เอาเถอะ ไม่ว่าจะอยู่หรือไม่...”



    คุโรกิริ !

    ฉันเเทบจะห้ามตัวเองไม่ให้หลุดขำไม่ได้ อันที่จริงก็เกือบจะลืมไปซะสนิทเลยว่าบาร์เทนเดอร์ที่เห็นทีไรก็เอาเเต่ผสมเครื่องดื่มอย่างไรเสียก็เป็นวายร้าย ฮุก -- เเต่ยังไงก็ไม่ไหวจริง ๆ คุโรกิริพูดจาเเบบนี้ได้ด้วยเหรอเนี่ย ปรกติจะสุภาพจนน่าหมั่นไส้เเท้ ๆ

    ฉันยืนมองเหตุการณ์นิ่ง ในขณะที่นักเรียนทุกคนเริ่มตื่นตัว ข้างหน้านั่น หมายเลข 13 ยกมือขึ้นเตรียมใช้อัตลักษณ์เมื่อเห็นหมอกสีดำเริ่มขยายใหญ่ขึ้น -- เเต่เเล้วก็หยุดชะงัก


    เมื่อไอ้เด็กบ้าสองคนพุ่งตัวออกไป !


    ตูม !

    “ไม่คิดหรือไงว่าเเกจะโดนจัดการก่อนที่เเกจะลงมือน่ะ !” เป็นเสียงของไอ้เด็กหัวเเดงไม่กลัวตาย อ่ะ เอาเข้าไป

    ฉันยกเเขนขึ้นบังหน้า ฝุ่นควันโขมงจากการปะทะ มลพิษชัด ๆ เลย สูดควันเเบบนี้ไปทุกวันคงตายสักวันเเหง

    “อันตราย...อันตราย อย่างที่คิด ถึงจะเป็นนักเรียนเเต่ก็ถือว่าเป็นไข่ทองคำอันเเสนยอดเยี่ยม”

    เมื่อฝุ่นควันจางลงไปเเล้วฉันก็ได้ยินเสียง

    คุโรกิริไม่เป็นอะไรสักนิด เเหงล่ะ เพราะอย่างนั้นเขาถึงทำฉันหงุดหงิดไง เป็นกลุ่มควันที่น่าโมโหจะตาย

    ส่วนไอ้บ้าสองคน...เอาเป็นว่ายังไม่ตาย

    “ถอยออกมาทั้งสองคน!!” หมายเลข 13 ตะโกนบอก



    ซึ่งก็น่าเสียดาย



    ที่หมอกควันได้เข้าปกคลุมจนไม่เห็นอะไร





    “โชซัง!!”





    เอาล่ะ

    ฉันจะได้ไปโผล่ที่ไหนกันนะ?







    ★ ☆ ★ ☆ ★ ☆

    วาร์ปเเล้วล่ะ!!


    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×