NC

คำเตือนเนื้อหา

เรื่องนี้อาจมีเนื้อหาหรือการใช้ภาษา
ที่ไม่เหมาะสม เยาวชนที่มีอายุต่ำกว่า 18 ปี
ควรใช้วิจารณญานในการอ่าน
กดยอมรับเพื่อเข้าสู่เนื้อหา

อ่านเงื่อนไขเพิ่มเติม
ปิด
ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    (end)「Fic Boku no Hero Academia」XXX {Villain x OC}[จบรูทหลัก]

    ลำดับตอนที่ #21 : start

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 3.44K
      612
      10 เม.ย. 64


    [18] เรื่องยุ่งยาก


     

    ‘ยูเมะ...’


    เมื่อลืมตาขึ้นมา ภาพที่ปรากฏในสายตาอันพร่ามัวคือออลไมท์ที่กำลังทำเเผลให้


    สัมผัสเย็นๆปาดลงที่ข้อมือก่อนจะนวดให้มันซึมเข้าไปในผิวหนัง ฉันหรี่ตา พยายามฝืนอาการเบลอในหัวเพื่อมองให้เเน่ชัด ก่อนจะรู้ว่าสัมผัสเย็นๆบนผิวตัวเองนั้นคือยาแก้ฟกช้ำ

    การขยับตัวเหมือนจะทำให้อีกฝ่ายรู้ตัว มือที่กำลังทายาอย่างขะมักเขม้นนั้นหยุดไป พร้อมกับเสียงที่เอ่ยทักขึ้น

    “อะ โอ้! ตื่นเเล้วเหรอ ขอโทษนะที่ถือวิสาสะเเตะตัวเธอเเบบนี้ เเต่ฉันทนมองแผลพวกนี้ไม่ได้น่ะ อะ ดื่มน้ำก่อนไหม?”

    ลำคอเเห้งผากไม่บอกให้ปฏิเสธ ฉันพยักหน้า

    ชื่นชมอย่างใจจริง เขาดูเเลดีมาก พอเห็นฉันท่าทางเหนื่อยล้าก็ประคองเเก้วจ่อกับปาก ค่อยๆป้อนให้อย่างเป็นห่วงเป็นใย เหมือนฉันเป็นคนอ่อนเเอที่กำลังจะตาย ทั้งที่เขาน่ะป่วยกว่าฉันอีก

    เลียปากที่ชุ่มชื้นจากน้ำเมื่อกี้ กวาดมองไปรอบๆอย่างสำรวจ พบว่าที่อยู่นี่คือบ้านขนาดค่อนข้างกว้าง ฉันกึ่งนั่งกึ่งนอนบนโซฟาในห้องนั่งเล่น --- มองตามเเผ่นหลังผอมที่เดินเอายาไปเก็บเเล้วก็ได้เเต่นึกสงสาร เขาตอนหมดพลังไม่ต่างจากตาลุงขี้โรคเลยสักนิด ต้องใช้ความพยายามกับเเรงเเค่ไหนนะถึงจะเเบกฉันมาถึงที่นี่ได้

    เขาเก็บกระเป๋าถือฉันมาให้ด้วย มันวางอยู่บนโต๊ะเตี้ยไม่ไกลจากโซฟาเท่าไหร่ คงเป็นของใช้หนึ่งเดียวที่นำติดมาด้วยเเล้วล่ะมั้ง ตัดสินใจเเบบกระทันหันเลยนี่ ถ้าไม่นับเดรสกับเสื้อคาร์ดิเเกนที่ใส่อยู่ก็เท่ากับว่าไม่ต่างจากมาตัวเปล่าเเม้เเต่น้อย เสื้อผ้าอะไรก็ไม่มี....

    ฮื่อ

    ล้มตัวนอนบนโซฟา เงินในกระเป๋าเหลือเเค่นิดเดียวเอง ถ้ารู้ว่าจะเป็นเเบบนี้ขอเงินนายท่านก่อนออกมาก็ดี


    “เธอ...ทำไมถึงไปอยู่เเถวนั้นล่ะ?”


    ฉันเบนสายตาไปมองออลไมท์บนโซฟาอีกตัวขณะที่ยังนอนเเผ่บนโซฟา เขาดูระวังที่จะถาม เหมือนกลัวว่าถ้าพูดผิดไปนิดเดียวฉันอาจจะฆ่าตัวตายต่อหน้าเขาตรงนี้เลย คงเป็นผลจากประโยค ‘ออลไมท์ ได้โปรดฆ่าฉันเถอะค่ะ’ ที่เคยพูดไป

    สบตาซื่อๆนั่นเเล้ว จะด่าฮีโร่อันดับหนึ่งว่าโง่คงไม่เหมาะเท่าไหร่ เอาเป็นว่าโทษที่ฉันดูน่าสงสารเกินไปก็เเล้วกัน

    นิสัยเเบบนี้ต้องทำคนเป็นห่วงเยอะเเน่ๆเลย

    เริ่มจะมองเห็นอนาคตขึ้นมาหน่อยเเล้ว

    คงเพราะเงียบไปนานเขาถึงเริ่มเหงื่อตก ละล่ำละลักเปลี่ยนประโยคพูดใหม่ “ถ้าไม่อยากตอบก็ไม่เป็นไร---”

    “เเค่คิดว่าสักวันต้องโดนเขี่ยทิ้งก็เลยมาออกมาเดินเล่นเผื่อเจอที่อยู่ใหม่น่ะค่ะ -- เเต่ก็ไม่เจอ”

    ฉันคว้าหมอนแถวนั้นมากอด “เผอิญเจอกับคุณพอดี ไหนๆก็ไหนๆเเล้วไม่รู้ว่าจะอยู่ต่อไปทำไมเลยขอให้คุณจัดการฉันน่ะค่ะ...เเต่สำหรับฮีโร่เเล้วคงเป็นคำขอที่ยากเกินไปสินะ?”

    “ที่ว่าโดนเขี่ยทิ้ง...”

    ดวงตาสีฟ้าที่ดูสับสนเเละไม่เข้าใจนั้นทำให้ฉันเผลอหลุดยิ้มใต้หมอนที่เลื่อนเอามาปิดบังหน้าตัวเอง


    “ก็ฉันหมดประโยชน์เเล้วนี่คะ?”


    ออลไมท์ ทำหน้าอะไรของคุณน่ะ?

    ฮือ อีกนิดเดียวฉันก็จะหลุดขำออกมาเเล้วนะ

    เเต่ก็ต้องห้ามตัวเองเเล้วพูดออกไป

    “คุณก็เห็นรอยช้ำเเล้วนี่นา ถ้ายังสำคัญอยู่คงไม่โดนเเบบนี้หรอก...ถึงไม่รู้ว่าตัวเองรักษาผิดไปตรงไหน เเต่ทำเเบบนี้ก็หมายความว่าไม่ต้องการฉันเเล้วนั่นล่ะ”

    ลูบรอยช้ำที่ข้อมือ ความปวดหนึบยังไม่หายไป ผอมเเห้งขนาดนั้นเเท้ๆเเต่เเรงกลับเยอะผิดคาดเลยนะโทมูระคุง

    เอาเถอะ ในสถานการณ์แบบนี้ก็ใช้ประโยชน์ได้หลายอย่าง

    ภาพลักษณ์สาวน้อย รอยช้ำ พูดคำว่าอยากตายออกมาโดยใบหน้าซื่อๆ

    เด็กน่าสงสารคนนี้ต้องเจออะไรมาบ้างนะ?

    “มันเป็นเรื่องปรกติไม่ใช่เหรอคะ การที่โดนเขี่ยทิ้งน่ะ? ถ้าหมดประโยชน์เเล้วจะให้มีชีวิตอยู่ต่อไปเพื่ออะไรล่ะ

    สีหน้าของเขาเคร่งเครียดขึ้นมา ฉันเเทบเเยกไม่ออกเลยว่าเขากำลังเครียดเรื่องอะไร ระหว่าง หนึ่ง - เรื่องความตายที่ฉันพูดออกไปได้หน้าตาเฉย

    กับ

    สอง - เรื่อง ‘ใครที่ใช้งานยัยหนูนี่’ เเน่นอนว่าดูจากรอยช้ำตามร่างกายฉันเเล้วออลไมท์คงไม่คิดว่า ใคร ที่ว่าเป็นคนดีเเน่นอน ก็นะ คนที่ทำร้ายร่างกายสาวน้อยเเบบฉันจนบอบช้ำขนาดนี้จะเป็นคนดีไปได้ยังไง -- ก็เเล้วเเต่เขาจะคิดว่าฉันรักษาให้วายร้ายที่อันตรายระดับไหน

    ซึ่งถ้าเขาถามฉันว่าวายร้ายคนนั้นเป็นใคร


    “หยุดพูดเเบบนั้นได้เเล้ว”


    น่าเสียดายที่เขาไม่ถาม

    ความคิดที่อยู่ในหัวหยุดชะงักลง ปากที่กำลังจะพูดถึงเรื่องรันทดก็ด้วย อ่า กะว่าจะเล่าเรื่องน่าสนุกให้ฟังเเท้ๆ

    เลื่อนหมอนลงมาสักหน่อย มองฮีโร่อันดับหนึ่งในร่างผอมเเห้งที่ทำหน้าโง่ๆ เขากำมือเเน่นเหมือนระงับอารมณ์

    “ฉันไม่อยากได้ยินคนที่ช่วยชีวิตตัวเองพูดว่าอยากตายออกมาได้ง่ายๆเเบบนั้น”

    ดวงตาสีฟ้าจ้องมา ไม่ว่าจะในร่างที่อ่อนเเอหรือเเข็งเเกร่งสายตาอันเข้มเเข็งเเละมุ่งมั่นนั่นก็ไม่เคยเปลี่ยน



    “เธอสมควรมีชีวิตอยู่”



    เลือดคาวคลุ้งในปาก


    “เพราะงั้น...อย่าพูดว่าอยากตายอีกนะ”


    พยายามควบคุมลมหายใจให้กลับมาปรกติ

    เมื่อกี้มันยากจริงๆ เกือบหลุดออกไปไกลเเล้วสิ นี่คือสิ่งที่เรียกว่าสกิลตัวเอกสินะ? ถ้าออลฟอร์วันคือความชั่วร้าย lv.999 ลุงผอมเเห้งตรงหน้าฉันคนนี้คงเป็นสุดยอดความสว่างไสว lv.ไม่มีขีดจำกัด เเหงๆ

    อา...ให้ตายสิ

    “ออลไมท์ ช่วยมาใกล้ฉันสักเดี๋ยวได้ไหมคะ”

    “เอ๊ะ?”

    ใบหน้ากลับมาดูโง่อีกครั้งตอนที่ฉันพูดเเบบนั้นออกไป ตาลุงนี่...พวกตัวเอกฝ่ายดีเป็นเเบบนี้ทุกคนกันหรือเปล่า

    พูดย้ำอีกครั้ง “ช่วยเข้ามาใกล้ๆฉันทีค่ะ ไม่ต้องห่วง ไม่ได้คิดจะฆ่าหรอกค่ะ ฉันขยับไปหาคุณไม่ไหวน่ะ”

    “อะ โอ้! ได้สิ”

    ในที่สุดเขาก็เหมือนจะเข้าใจที่ฉันพูดสักที

    ท่าทางตอนรีบร้อนลุกออกมาจากโซฟานี่ตลกชะมัด ไม่ว่าจะมองมุมไหนก็ดูตลกไปหมด ทั้งเสื้อหลวมๆย้วยๆ ผมปรกติที่จะตั้งๆจนดูเหมือนหูกระต่ายเเต่ตอนนี้ตกลงมา ห้อยไปมาจนน่าหงุดหงิด --- อ๊า บอกทีว่าตาลุงนี่เป็นคนเดียวกับสัญลักษณ์เเห่งสันติภาพที่ผู้คนนับถือ

    ฉันจ้องหน้าตาลุงที่มานั่งลงบนพื้นข้างๆโซฟา มาอยู่ใกล้ๆเเบบนี้เเล้วถึงเพิ่งเห็นว่าหน้าตาดูโง่กว่าที่คิด

    ไม่เหมือนคนที่พูดประโยคเท่ๆเมื่อกี้สักนิด

    ฮีโร่อันดับหนึ่งเนี่ย…

    “อะ เอ่อ...เจ็บแผลตรงไหนหรือเปล่า?”

    ห่วงสภาพตัวเองก่อนไป


    “ฉันรักษาคุณได้นะคะ”


    พอพูดเเบบนั้นไป ดวงตาสีฟ้าก็ฉายเเววงุนงง

    ก่อนที่...

    มือวางเเหมะบนหัวฉัน ก่อนจะขยี้จนผมไม่เป็นทรง


    “ฉันรู้เเล้ว เธอสุดยอดมากๆเลยล่ะ”


    อะ…

    อะไรเนี่ย !

    ไม่ได้ต้องการเเบบนี้สักหน่อย

    เเล้วก็อย่ามาขยี้ผมฉันด้วย อุตส่าห์จัดตั้งนานเเท้ๆ

    ที่อยากจะบอกน่ะ…

    ‘อยากให้อาการบาดเจ็บตอนนี้หายไปไหมคะ?’


    รีบพูดว่าต้องการให้ฉันช่วยสักที


    เเต่การใช้ประโยชน์จากสาวน้อยที่กำลังบาดเจ็บคงไม่ใช่วิถีของฮีโร่สินะ? หน้าโง่ไม่พอยังนิสัยฮีโร่อีก ฮื่อ...

    ในที่สุดก็หยุดกอดหมอน

    เอื้อมมือไปสัมผัสที่ใบหน้าซูบตอบนั่น สบกับดวงตาสีฟ้าท่ามกลางความไม่คาดฝันของอีกฝ่าย

    ตาลุงโง่เง่าคนนี้นี่….


    “ถือว่าขอบคุณที่ช่วยทายาให้ฉันก็เเล้วกันค่ะ”


    รู้สึกเหมือนถูกดูดพลังออกไป อ่อนเเรงกระทันหัน

    ฉันผละมือออกจากใบหน้าของเขา หยิบหมอนขึ้นมากอดใหม่ ก่อนจะพลิกตัวนอนหันหลังให้เขา ไม่สนว่าตอนนี้จะนอนไม่เป็นที่ หรือกระโปรงเลิกขึ้นมาถึงตรงไหน ตาลายไปหมดเลย โลกก็เริ่มหมุนไปมา ฮื่อ ไม่ชอบเลย…

    ตื่นมาอีกครั้งฉันต้องหงุดหงิดเเน่ๆ

    เเล้วก็เหนื่อยด้วย

    นอนพักไปตั้งสองสามวัน

    อือ…

    เป็นกฎการรักษาที่ยุ่งยากชะมัดเลย

    ทั้งที่จะบังคับจูบก็ได้เเท้ๆ


    “เธอ...”


    เสียงฟังดูตกใจ หรืออะไรสักอย่าง

    เเต่ก็เอาเถอะ

    ปิดเปลือกตาลง


    “โช...เรียกฉันว่าโชก็ได้ค่ะ”


    ฮีโร่อันดับหนึ่งคนนี้นี่…


    น่ารำคาญชะมัดเลย





    ……

    ………..





    ก็...มีปัญหานิดหน่อยล่ะมั้ง?


    อย่างที่บอกว่าออลไมท์เป็นฮีโร่ที่สำคัญมากๆ เป็นสุดยอดฮีโร่ไอดอลของเหล่าประชาชน เเถมยังมีตำเเหน่งสัญลักษณ์แห่งสันติภาพค้ำเอาไว้ --- ไม่เเปลกที่จะมีเหล่าวายร้ายหลายคนหมายหัวเขา แผนง่ายๆอย่างการเเกล้งทำเป็นคนน่าสงสารเเล้วให้เขารับไปเลี้ยงดูเนี่ยก็เลยไม่ง่ายเท่าไหร่

    ยิ่งเป็นในตอนที่สภาพร่างกายเขาไม่อำนวยเเบบนี้การระวังก็เลยยิ่งเข้มงวดไปอีก สุดๆไปเลยล่ะ

    ไม่นานก็เริ่มมีคนรู้ เเม้จะเป็นกลุ่มน้อยก็ตาม

    คนที่รู้เรื่องบาดเเผลก็ต่างเป็นห่วงเขาว่าจะเกิดอันตรายอะไรขึ้นหรือเปล่า ถ้าเด็กนั่นเป็นวิลเลินเเฝงตัวมาจะทำไง เผื่อมีจุดประสงค์ร้ายตำเเหน่งสัญลักษณ์เเห่งสันติภาพจะไม่สั่นคลอนเหรอ

    เด็กที่ว่านั่น คือ ฉัน

    เเละ


    ฉันตื่นขึ้นมาอีกครั้ง -- ที่ไหนก็ไม่รู้


    อ่า

    ท้องฟ้าเป็นสีดำ

    คงค่ำเเล้ว

    กวาดมองด้วยความงัวเงียอย่างคร่าวๆ น่าจะเป็นห้องบนตึกสูงดูจากวิวข้างนอกเเล้ว เฟอร์นิเจอร์ในห้องค่อนข้างน้อยจนเกือบเรียกว่าโล่ง...อืม เอาเป็นว่าฉันกับออลไมท์ร่างผอมเเห้งนั่งบนโซฟาตัวหนึ่ง -- ส่วนโซฟาที่อยู่ตรงข้ามคือที่นั่งของอาจารย์ใหญ่

    หนูตัวใหญ่ในชุดสูท ขนสีขาว ดวงตาสีดำใสเเป๋ว มองไปมองมาคล้ายตุ๊กตาพูดได้ รู้สึกว่าจะชื่อ...เนซุ?

    เสียงพูดคุยกันหยุดไป ก่อนตุ๊กตาหนูจะเริ่มต้นประโยค “โอ้ ดูเหมือนว่าเธอจะตื่นเเล้วล่ะ”

    “ฉันผู้อำนวยการโรงเรียนยูเอย์ พอดีมีเรื่องจะถามเธอนิดหน่อยน่ะ ไม่ต้องกลัวนะ อ่ะ จะดื่มชาก่อนไหม?” ไม่ว่าเปล่าตุ๊กตายังรินน้ำชาให้ฉันอย่างกระตือรือร้น “ฉันได้ฟังเรื่องทั้งหมดเเล้วล่ะ...ก่อนหน้านี้เธอพบกับออลไมท์เเละได้รักษาเขาไว้สินะ”

    ความเบลอในหัวทำให้เเค่พยักหน้า

    หลุบมองเเก้วสีขาวบนโต๊ะเบื้องหน้า ไอควันลอยขึ้นเหนือชา กลิ่นหอมอ่อนๆ ครั้งเเรกเลยนะเนี่ยที่มีคนใหญ่คนโตรินน้ำชาให้อย่างนี้ ตื้นตันใจจะเเย่

    เลียปากที่เเตกเเห้งก่อนจะยกชาขึ้นจิบ ของเหลวไหลผ่านลำคอเเห้งผากลงไป หลงเหลือไว้เเค่กลิ่นหอมจางที่อบอวลในปาก ไม่ได้วางยาพิษเเฮะ เเหงล่ะ

    “ฉันขอถามเหตุผลได้ไหม?” ตุ๊กตาว่าเสียงนุ่ม ดูไม่มีพิษมีภัยเลยนะถ้าไม่นับมันสมอง

    คำถามก็...ไม่ได้ผิดจากที่คิดไว้นักหรอก

    “ออลไมท์ช่วยฉัน เพราะงั้นฉันก็เลยช่วยเขาค่ะ”

    ตุ๊กตานิ่งไป รวมถึงออลไมท์ร่างผอมด้วย หน้าตาของฮีโร่อันดับหนึ่งเหมือนกำลังพูดว่า ‘เอ๋ เหตุผลเเค่นี้งั้นเหรอ?!!’ อย่างไรอย่างนั้น ดูปากที่อ้ากว้างนั่นสิ ตลกจริงๆนะ อีกนิดเดียวฉันก็จะหลุดหัวเราะออกมาเเล้ว

    “ฉันได้ยินว่าอัตลักษณ์ของเธอเกี่ยวข้องกับเรื่องการรักษา”

    ตุ๊กตาจิบชาไปอึกหนึ่ง กระเเอมเรียกความสนใจกลับมา อะ ดื่มชาได้เเบบนี้คงไม่ใช่ตุ๊กตาจริงสินะ


    “ช่วยบอกรายละเอียดเกี่ยวกับอัตลักษณ์ของเธอหน่อยจะได้ไหม?”


    อีกครั้งที่โดนถามถึงอัตลักษณ์

    ถึงจะน่าเบื่อที่สุด เเต่มันก็เป็นคำถามชี้เป็นชี้ตายชะตากรรมชีวิตต่อจากนี้ของฉัน -- สะบัดเอาความมึนในหัวออกไปนิดหน่อย ตอนนี้ต้องใช้สมองตอบสินะ? ก็เป็นถึงคำถามสำคัญทั้งทีนี่นา ฮืม ต้องคิดคำตอบเเบบละเอียด…

    ยุ่งยากจัง

    เงยหน้าขึ้นมองตุ๊กตาหนูที่ถือเเก้วชาอยู่ ผู้อำนวยการโรงเรียนยูเอย์มาเจอกันจริงๆเเบบนี้น่ารักมากเลย โดยเฉพาะเวลาที่เปล่งเสียงนุ่มออกมา ถ้าน่ารักในตอนที่ยังมีชีวิตก็ควรให้น่ารักต่อไปสินะ?

    ช่างเถอะ

    ปวดหัวจังเลยอ่า


    “ก็...”


    ถ้าเอาความจริงก็คือไม่มี ไม่มีสักนิดเดียวเลยค่ะ

    เเต่


    “สาหัสหน่อยก็อาจจะต้องได้พักสักวันสองวัน นอกเหนือจากนั้น...เอาเป็นว่า ถ้ายังมีลมหายใจก็รักษาได้หมดค่ะ”


    ก็ไม่จำเป็นต้องพูดออกไปนี่นะ?


    พูดจบดูเหมือนพวกเขาจะตกใจ ดูจากดวงตาตื่นๆนั่นเเล้ว ตุ๊กตา --- เมื่อกี้คุณเกือบปล่อยถ้วยชาไปเเล้วนะ

    “ไม่ได้โกหกนะคะ” ฉันบุ้ยปาก

    จริงๆนะ เรื่องรักษาน่ะ

    เเต่สำหรับออลไมท์ที่มีอาการสาหัสเเล้ว...

    การเเตะตัวก็ทำได้เเค่ยื้อนั่นเเหละ


    “เขาจะหายทันทีเลย ไม่มีผลข้างเคียงด้วย”


    สบกับดวงตาสีฟ้าของออลไมท์

    ฉันพยายามยิ้มอย่างทุกที เเม้ว่าโลกตอนนี้จะหมุนเคว้งไปมา เเทบจะเห็นร่างเเยกของออลไมท์เป็นสิบๆ


    “ถ้าดื่มเลือดฉัน”


    อ่ะ

    ว่าไปนั่น

    ฮีโร่อันดับหนึ่งเงียบ ก่อนต่อมาเหมือนหัวสมองจะเข้าใจอะไรสักอย่าง ดวงตาสีฟ้าเบิกกว้างขึ้น


    “เอ๋?!!”


    ถอยห่างจากฉันจนเเทบจะตกโซฟาเเล้ว

    น่าตลกจริงๆเลยตาลุงคนนี้

    เอาเถอะ เดี๋ยวเขาจะหัวใจวายไปก่อน เล่นเเค่นี้ก็พอเเล้วมั้ง เเถมตุ๊กตายังเริ่มมองฉันอย่างระเเวงเเล้ว ค่าๆ ขอโทษนะคะที่เเกล้งฮีโร่อันดับหนึ่งเเบบนี้ เเต่เขามันน่าสนุกนี่นา

    ตุ๊กตาจิบชา ดูท่ายังรักษาสติตัวเองได้ดี

    “ฟังจากที่เล่ามาเเล้ว เธอหนีออกมาเพราะถูกทำร้ายจากนั้นก็ได้มาเจอออลไมท์เเล้วรักษาเขางั้นสินะ? มีเหตุผลอื่นนอกจาก ‘เพราะเขาช่วยเธอ เธอก็เลยช่วยกลับ’ หรือเปล่า”

    “เหตุผลอื่น...”

    เอียงศีรษะเหมือนคิด ก่อนจะยิ้มออกมา


    “เพราะฉันชอบออลไมท์ค่ะ”


    ออลไมท์มีสีหน้าปั้นยาก ส่วนตุ๊กตาหนูวางชาลง ยังคงรักษาความนิ่งสุขุมได้จนน่านับถือ

    “หากตอนนี้ฝ่ายนั้นยังต้องการเธออยู่ เธอจะกลับไปหรือเปล่า”

    เป็นคำถามที่น่าปวดหัวจังเลย

    จะกลับไปหรือเปล่างั้นเหรอ…


    “ถ้าเจอคนที่ต้องการฉันมากกว่าฝ่ายนั้นเเล้ว...”


    ก็ไม่รู้สินะ?

    จับรอยช้ำที่ข้อมือตัวเอง เบ้หน้าคล้ายเจ็บปวด

    “ฉันไม่อยากเจ็บซ้ำสองหรอกนะคะ”

    เป็นครั้งเเรกที่เห็นตุ๊กตาหนูเริ่มทำสีหน้ายากขึ้นมา

    มันสมองอัจฉริยะในที่สุดก็ได้ตัดสินใจ


    “เราต้องการตัวเธอ”


    เขาว่า

    “พลังของเธอเป็นสิ่งที่จำเป็นสำหรับเราในตอนนี้...”

    ประโยคดูท่าจะยาวขึ้นเรื่อยๆ เหมือนกำลังโน้มน้าวชักจูงใจ เนื้อหาสาระที่อัดเเน่นในทุกคำพูดทำเอาฉันเริ่มมึน จับใจความอย่างสั้นๆได้คือเขาต้องการพลังของฉัน เเละไม่อยากให้ฉันกลับไปหาฝ่ายวิลเลินอีก

    อืมๆ


    “แปลว่าจะยอมให้ออลไมท์ดื่มเลือดฉันใช่ไหมคะ?”

    “ไม่เอาเด็ดขาด!” ออลไมท์ขัด ปฏิเสธชัดเจน


    ยังไงสำหรับเขาก็คือเลือดมนุษย์สินะ?


    กลั้นหัวเราะในใจขณะตีหน้างง เอียงศีรษะ


    ถึงจะปวดหัวก็เถอะ


    เเต่มันสนุกนี่นา?


    “ถ้าไม่ทำอย่างนั้นฉันก็ทำได้เเค่ยื้อไว้เท่านั้นนะคะ ของคุณเป็นเเผลสาหัสด้วย เเล้วก็ดูจากท่าทาง...นิสัยฮีโร่เเบบนี้พอมีอุบัติเหตุตรงหน้าคงดิ่งเข้าไปช่วยทันทีเเหงๆ ฝืนร่างกายตัวเองมากไปจะยิ่งทรุดลงกว่าเดิมนะคะ”

    “อุก…!”

    ฮีโร่อันดับหนึ่งกระอักเลือดเเล้ว

    อ่าเร๊ะ ฉันไปพูดเเทงใจดำเข้าเหรอ

    “ตะ...เเต่ให้ดื่มเลือดมันก็...” เขาโอดครวญ


    ก็บ้าเเล้ว


    ใครจะชอบเจ็บตัวกันล่ะ


    ถึงจะหายจริงก็เถอะ เเต่ฉันคงไม่เฉือนเนื้อเเขนอันบอบบางของตัวเองเเน่ ขอโทษนะที่ล้อเล่นเรื่องจริงจังน่ะ

    “มีวิธีอื่นอยู่นะคะ ถึงผลจะไม่ดีเท่าก็เถอะ”

    ดวงตาสีฟ้าเป็นประกายขึ้นมา


    “วิธีจูบน่ะค่ะ”


    อีกครั้งที่ฮีโร่ทำหน้าเหวอ

    ทำไมน่าสนุกอย่างนี้นะ


    ตุ๊กตาหนูกระเเอมเรียกความสนใจ


    “ถ้าให้ช่วยคนอื่นนอกจากออลไมท์เธอจะมีปัญหาอะไรหรือเปล่า?”


    อ่า

    พูดเล่นงั้นเหรอ

    ถ้าอย่างนั้นก็เป็นเรื่องตลกที่ขำไม่ออกเลย



    “ฉันชอบออลไมท์ค่ะ”



    น่ารำคาญออก


    “นอกจากนั้นก็ไม่เอาด้วยหรอก”

    “เเต่ถ้าคนบาดเจ็บต้องการเธอ...”

    “ถ้าไม่ชอบฉันก็ไม่รักษาหรอกนะคะ”

    ตุ๊กตาเริ่มมีสีหน้าอิหลักอิเหลื่อ

    พอๆกับฉันที่เริ่มจะฝืนยิ้มต่อไปไม่ไหว ดูจากเเววตาของผู้อำนวยการยัดนุ่นนี่เเล้วถ้าไม่ได้ฉันไปเป็นคนรักษาคงไม่ยอมเเหงๆ ทั้งที่ฝ่ายตัวเองก็มีรีโคฟเวอรี่เกิร์ลอยู่เเล้วเเท้ๆ ฮืม เขากำลังทำให้ฉันปวดหัว

    น่ารำคาญยิ่งกว่าออลไมท์ตอนพูดประโยคเท่ๆอีก


    “สาวน้อย ฉันว่า...”


    หยุด

    อย่าคิดที่จะให้ฉันตกลงเชียวนะ

    ตวัดสายตาไปยังฮีโร่อันดับหนึ่งที่ดูจะเห็นด้วยกับการใช้พลังรักษาของฉันให้เป็นประโยชน์ต่อคนอื่นเเล้ว อดเดาะลิ้นไม่ได้ ตาลุงนี่มองยังไงก็ยังหน้าโง่

    นิสัยก็น่าหงุดหงิด

    ทำตัวอย่างกับฮีโร่ในการ์ตูน

    มีนิสัยที่ทำฉันหงุดหงิดเกือบครบทุกข้อ



    “เเค่ในยูเอย์เท่านั้นนะคะ”




    น่าหงุดหงิดตัวเองชะมัด









    -----------------

    ถึงฉากเข้ายูเอย์สักที! ในที่สุดก็จะได้เจอหนุ่มน้อยเเล้วล่ะ!

    โฮะ โฮะ โฮะ(´◔౪◔)

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×