NC

คำเตือนเนื้อหา

เนื้อหาของเรื่องนี้อาจมีฉากหรือคำบรรยายที่ไม่เหมาะสม

  • มีการบรรยายฉากกิจกรรมทางเพศ
  • มีการบรรยายเนื้อหาที่เกี่ยวกับความรุนแรงสูง
  • มีเนื้อหาที่เครียดหรือหดหู่มาก ซึ่งอาจกระทบต่อภาวะทางจิตใจ

เยาวชนที่มีอายุต่ำกว่า 18 ปี ควรใช้วิจารณญานในการอ่าน

กดยอมรับเพื่อเข้าสู่เนื้อหา หรือ อ่านเงื่อนไขเพิ่มเติม
ปิด
ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    (end)「Fic Boku no Hero Academia」XXX {Villain x OC}[จบรูทหลัก]

    ลำดับตอนที่ #10 : Liar (n.)

    • อัปเดตล่าสุด 22 ก.ค. 63



    [09] ช่วงเวลา


    พอฉันนึกถึงอนาคต ก็คิดในใจว่าดีเเล้วล่ะ


    เเสงเเดดเริ่มกลายเป็นสีส้มเมื่อถึงเวลาสี่โมงกว่า ความร้อนอยู่ในระดับที่รับได้ไม่เเสบผิว ฉันก้มมองดูเงาบนพื้นสลับกับประตูใหญ่ของบ้านตระกูลโทโดโรกิ ตอนนี้เงาหัวยังมี เเต่ต่อไปไม่เเน่

    น้องน้อยดึงมือฉันเรียกความสนใจ ตาเเป๋วๆเเบบนี้เองที่ทำฉันหน้ามืดตามัว หลงยิ่งกว่าคนมีความรัก เจ็บใจจัง ไหนบอกว่าจะใจเเข็งไง มาเเพ้ง่ายๆเเบบนี้ได้เหรอ


    “เข้าบ้านกัน” เขาดึงมือฉันไป “คุณสัญญาเเล้ว”


    ฉันนึกย้อนอดีต เเต่ไม่ว่าจะยังไงก็นึกไม่ออกว่าไปสัญญาตอนไหน

    รู้สึกโคตรอยากจะเถียงกลับไปว่าเห็นอย่างนี้พี่สาวก็ไม่ชอบสัญญาพล่อยๆนะ โชโตะคุงอย่ากุเรื่องเอาเองสิ -- เเต่พอเห็นดวงตาสองสีใสๆนั่นเเล้วฉันก็ได้เเต่กลืนประโยคนั้นลงคอ เเย้มยิ้มตอบกลับไปอย่างเป็นธรรมชาติ


    “อืมๆ สัญญาเเล้วนี่นา”


    ฉันก้าวเข้าไปในเขตบ้าน เหลือบมองเงาตัวเอง เอ๋ เเวบนึงเหมือนส่วนหัวจะหายไปหรือเปล่านะ เมื่อกี้เเดดเเรงจนตาพร่าเลย คิดไปเองสินะ คิดไปเองเเหงๆ คิดไปเองเเน่เลย

    บ้านตระกูลโทโดโรกิค่อนข้างตื่นตา เป็นบ้านเเบบญี่ปุ่นโบราณขนาดใหญ่ มีน้ำพุใจกลางสระน้ำ มีศาลากลางน้ำ รวมๆเเล้วคือสวยดี โดยเฉพาะต้นไม้กับสวนดอกไม้ที่ถูกจัดเอาไว้เเละตกเเต่งดูเเลอย่างดีนั่น ชวนให้นึกถึงฉากพวกบ้านอลังการๆของตัวละครมีฐานะในการ์ตูน

    ไม่นึกว่าจะมีโอกาสเห็นของจริงเป็นครั้งที่สองนะเนี่ย


    “โชโตะ! หายไปไหนมาน่ะ!!”


    เสียงเรียกดังขึันพร้อมๆกับเสียงฝีเท้าอันรวดเร็ว พวกเขาวิ่งมา เสียงสองเสียงเเทบจะตะโกนออกมาพร้อมๆกันเมื่อเห็นหน้าน้องคนสุดท้อง -- อ๊ะ มาหลบหลังฉันไม่ได้นะ นั่นครอบครัวเธอไม่ใช่หรือไงโชโตะคุง

    พี่สาว ‘โทโดโรกิ ฟุยูมิ’ มีผมสีขาวเเซมเเดง ใส่เเว่นตา ท่าทางเรียบร้อยชวนให้นึกถึงเด็กเรียนที่นั่งอยู่หน้าห้อง ดูคร่าวๆอายุน่าจะประมาณ17-18

    ส่วนพี่ชาย ‘โทโดโรกิ นัตสึโอะ’ มีผมขาว ร่าเริงสมสมวัย อายุตอนนี้น่าจะ15-16 ได้

    ถ้าจะให้เจาะจง อืม พวกเขาหน้าตาดี มีออร่าสะดุดตา ไม่เเปลกใจเท่าไหร่ ก็เป็นครอบครัวตัวเอกที่ค่อนข้างมีบทบาทนี่ จะวาดให้หน้าโหลก็คงไม่ได้

    “พวกพี่เป็นห่วงมากเลยรู้ไหม…” ฟุยูมิมีสีหน้าเหมือนจะร้องไห้ เธอถอดเเว่นก่อนจะยกมือเช็ดน้ำตาที่คลออยู่ออก “นึกว่าจะเป็นอะไรไปซะเเล้ว”

    ในที่สุดเด็กชายที่ยืนหลบข้างหลังฉันเมื่อกี้ก็ออกมาเผชิญหน้า ถึงจะอย่างนั้นก็เถอะ เอ่อ ช่วยปล่อยมือที่จับชายเสื้อฉันไว้ได้หรือเปล่า มันจะยืดหมดเเล้วนะน้องชาย

    เด็กพวกนี้ทำไมชอบดึงเสื้อนักนะ นายน้อยด้วย อ่า นายน้อยโทมูระอีกคน เสื้อฉันมันมีอะไรหรือเปล่า

    “ช่างเรื่องนั้นไปก่อนเถอะพี่”

    คราวนี้พี่ชายของเขาหันหน้ามามองฉัน หรี่ตาลงอย่างไม่ไว้ใจ

    “ว่าเเต่เธอเป็นใครน่ะ?”


    ไม่ไหวๆ จิตใจฉันมันไม่ไหวเเล้ว ทำไมเจอเเต่สายตาหวาดระเเวงเเบบนี้นะ หน้าตาฉันหรืออะไรที่มันทำให้ดูไม่น่าไว้ใจเหรอไง อยากร้องไห้ชะมัดเลย

    “เอ่อ เธอที่ว่าหมายถึงฉันใช่ไหมคะ?” ชี้นิ้วมายังตัวเอง ทำท่าเขินอาย “คือว่า พอดีฉันหลงทางน่ะค่ะ จากนั้นก็เจอโชโตะคุง อ่า...เกิดเรื่องหลายเรื่องเลย”

    กะพริบดวงตาที่คล้ายไม่ได้โกหกอะไร เลื่อนไปสบสายตากับนัตสึโอะที่หน้าเเดง จากนั้นจึงคลี่รอยยิ้มที่คิดว่าอ่อนหวานที่สุดจนดวงตาหยีลง ช่วงจังหวะพอดีกับที่กลีบซากุระสีชมพูปลิวมาตกลงบนเส้นผมที่ไหวไปตามสายลม



    “ยินดีที่ได้รู้จักนะคะ โช...เรียกฉันว่าโชก็ได้ค่ะ”



    นัตสึโอะเลื่อนสายตาลง เหมือนจะหลบเลี่ยงการสบตากับฉัน อืม ก็อยู่ในช่วงวัยรุ่นวัยว้าวุ่นนี่นะ เริ่มสนใจผู้หญิงเเล้วสิ ไม่เป็นไรๆ ฉันเข้าใจ ในหนังสือบางเล่มรักกันตอนเด็กยังมีเลย

    “ผะ ผมโทโดโรกิ นัตสึโอะครับ ส่วนพี่สาวโทโดโรกิ ฟุยูมิ” เขาเเนะนำตัวกลับเสียงตะกุกตะกัก “เเล้วรอยที่คอของคุณ...”

    คำถามเดิมรอบที่...จำไม่ได้เเล้ว

    ฉันอยากจะกลอกตา เเต่คิดดูเเล้วคงไม่ดีเเละขัดต่อภาพลักษณ์ผู้หญิงที่สร้างไปเมื่อกี้ ดังนั้นจึงปั้นสีหน้าลำบากใจ เบนสายตาขมขื่นมองไปทางอื่น มือพยายามขยับคอเสื้อมาปิดรอยไว้ รู้อยู่เเก่ใจว่าปิดยังไงก็ไม่มิดหรอก



    “คือว่า...มีปัญหานิดหน่อยน่ะค่ะ”



    ดูอ่อนเเอดีใช่ไหมล่ะ  


    ฉันเเสดงเป็นนางเอกขนาดนี้เเล้ว พ่อพระเอกก็ช่วยเสริมขึ้นมาหน่อยซี จะเอาเเต่เงียบไม่ได้หรอกนะ ขืนให้พี่สาวพูดออกไปมากกว่านี้ล่ะก็เรื่องโกหกคงเยอะเกินจำไหวเเน่

    “เธอจะมาดูเเลผม” ดีมากน้องน้อย เขาออกมายืนหน้าฉันเต็มตัวเเล้ว พระเอกจิ๋วเผชิญหน้ากับพวกพี่สาวพี่ชายอย่างมุ่งมั่น “ไม่ได้...เหรอครับ”

    ตอนท้ายเขาทำหน้าสลด พูดเสียงหงอๆ

    ท่าทางเเบบทำฉันใจอ่อนระทวย อยากจะทรุดลงไปกอดขาเขาเเล้วบอกว่าอยากได้อะไรบอกมาเลยจ้ะ พี่สาวจะประเคนให้หมดเลย -- อา เป็นเด็กชายที่มีอิทธิพลสูงในหลายความหมายจริงๆ

    “โชโตะเหงาสินะ พี่กับนัตสึโอะช่วงนี้ก็ไม่ค่อยมีเวลาด้วย” ฟุยูมิยิ้มกว้าง ดวงตาอ่อนลง “พี่จะลองไปขอพ่อให้นะ”

    “หึ” นัตสึโอะเเค่นหัวเราะ กอดอก “คิดว่าคนอย่างเขาจะอนุญาตเหรอครับ ขนาดพวกเราที่เป็นลูกเเท้ๆยังไม่ให้เข้าใกล้โชโตะ...ไม่สิ ไม่ใช่ลูกเเต่เป็นผลงานที่ผิดพลาดสินะ?”

    สีหน้ากับน้ำเสียงเเบบว่า เฮ้อ คุณฮีโร่อันดับสองตัวจริงต้องน่าหมั่นไส้ ไม่ก็นิสัยเสียเเหงๆ รู้หรือเปล่าว่าน้ำเสียงลูกชายที่พูดถึงเขาไม่ต่างกับพูดถึงคนเเปลกหน้าเลย

    ฉันลองเหลือบมองหน้าโชโตะคุง -- หวา สายตาเมื่อได้ยินชื่อพ่อนี่น่ากลัวจังเเฮะ ต่างกับนัตสึโอะผู้เป็นพี่ชายหน่อยเดียวคือเก็บท่าทางอารมณ์ได้ดีกว่า ไม่เอาน่า ความน่ารักจะหายหมดนะ

    ท้องฟ้าเริ่มกลายเป็นสีหม่น เข็มนาฬิกายังเดินไปทุกวินาที

    ฉันรู้สึกปวดขาขึ้นมา อีกนิดเดียวอาจจะเป็นตะคริวได้ อยากได้เก้าอี้สักตัวจริงๆ เเต่คงต้องยืนรอไปก่อนสินะเพราะตัวละครฉากนี้ยังมาไม่ครบ



    “หายไปไหนมา”



    เสียงหนึ่งดังขึ้น นัตสึโอะกับฟุยูมิหันหลังไปมอง น้องสาวใส่เเว่นสีหน้าฝืดเฝื่อน นัตสึโอะคือโกรธ เยาะเย้ย หรืออะไรก็ตามที่เเสดงให้เห็นว่าไม่ถูกกับไอ้หมอนี่ -- ส่วนโชโตะ อา อย่าสร้างพายุน้ำเเข็งสิ

    ฉันลองมองตามไปบ้าง พ่อของเหล่าตัวเอกพวกนี้คือฮีโร่อันดับสอง ผมสีเเดงชี้ขึ้น ใบหน้าคมประดับด้วยดวงตาเเข็งกร้าว ริมฝีปากเรียบตึง ยิ่งมีหนวดเครา รวมกับกล้ามเนื้อตามร่างกาย อืม น่ากลัวนิดๆนะเนี่ย ดูไม่อ่อนโยนเลย

    เอนเดฟเวอร์ -- โทโดโรกิ เอ็นจิ

    สายตาไม่เป็นมิตรมองฉัน เหมือนกับกำลังถามว่า ‘เธอเป็นใคร?’ อย่างไรอย่างนั้น

    ขอบคุณจริงๆที่เขายังไม่มีท่าทีคุกคามอะไร ไม่งั้นฉันเเย่เเน่ๆ ร่างบอบบางของฉันอาจจะบุบสลายเพราะกล้ามเนื้อกับเเรงมหาศาลของเขาก็ได้


    “โชโตะ เเกพาใครเข้ามา”


    เสียงน่ากลัวชะมัด สายตายังโหดอีก น่าสงสัยจริงๆว่าตอนที่เขาไปช่วยเด็ก เด็กจะกลัวเขามากกว่าพวกวิลเลินหรือเปล่า

    “พ่อคะ...คือว่าหนูมีเรื่องจะขอ คือว่าให้เธอมาดูเเลโชโตะ...” ฟุยูมิเกริ่น ใบหน้าเเละน้ำเสียงกล้าๆกลัวๆเหมือนรู้ว่าพ่อตัวเองตอนนี้อารมณ์ไม่ดีนัก -- เเหงสิ คิ้วขมวด ออร่าอึมครึม หน้าบึ้งซะเเบบนี้ขนาดฉันยังดูออกเลย

    “ฉันไม่อนุญาต” น้ำเสียงเขาเฉียบขาด สายตาไล่ให้ไปไกลๆส่งมาที่ฉัน “การที่มีคนนอกเข้ามายุ่งเเบบนี้มันจะส่งผลต่อการฝึก”

    เขาปรายหางตามองฉันอย่างเย็นชา เห...ฉันคิ้วกระตุกขึ้นมา รอยยิ้มบนใบหน้าเริ่มไม่สดใสน่ารักเหมือนตอนเเรก ไอ้บ้านี่ น่าหมั่นไส้ชะมัด


    “จะมากเกินไปเเล้วนะ!”


    เปล่านะ ไม่ใช่เสียงฉัน เสียงนัตสึโอะต่างหาก

    หน้าตาเขาเหมือนพร้อมจะเข้ามาต่อยพ่อตัวเองเต็มที่ มือกำหมัดเเน่น ขบกรามกรอด เเบบว่า ถ้าไม่มีสีผมกับบางอย่างที่คล้ายคลึงกันล่ะก็ฉันคงสงสัยว่าเป็นคนเเปลกหน้ากันหรือเปล่า ฮีโร่อันดับสองคนนี้มีครอบครัวอบอุ่นจริงๆ


    “พวกเราไม่ใช่เครื่องมือของคุณ! โชโตะก็ด้วย! ตอนที่เเม่เสียไปคุณยังคิดไม่ได้อีกเหรอ ทั้งหมดที่มันเป็นเเบบนี้สาเหตุก็มาจากคุณทั้งนั้น!”


    ฉากทะเลาะขึ้นเสียงต้องมา

    นัตสึโอะเหมือนสติเเตกไปเเล้ว เขาตะโกนเสียงดังจนฉันสะดุ้งโหยง น้องชายที่หน้าเเดงพูดเเนะนำตัวเสียงตะกุกตะกักตอนเเรกหายไปไหน มีอะไรเข้าสิงเขาหรือเปล่า

    อื๋อ? ไม่ใช่สิ ฉันได้ยินนะที่บอกว่าเเม่เสียไปน่ะ ตายเเล้วเหรอ เเต่ดูจากสีหน้าโกรธเกรี้ยวขั้นสุดนั่นเเล้วไม่น่าจะใช่เรื่องหลอกนะ -- อ่า Butterfly Effect หรือไงกันนะ งั้นน้องน้อยของฉันก็อยู่คนเดียวสิเเบบนี้

    “หึ พวกเเกเป็น เเต่ต่างกับโชโตะที่เป็นผลงานสมบูรณ์เเบบ พวกเเกอยู่ในโลกที่ต่างกัน อัตลักษณ์ของเขาถ้าฝึกให้มันดีๆอีกไม่กี่ปี...”

    ดวงตาคู่นั้นเเฝงความทะเยอทะยานชัดเจน

    “ก่อนที่จะถึงวันนั้น ฉันไม่อยากให้สภาพเเวดล้อมทำให้อะไรเปลี่ยนไป”

    เขาหยุดชะงักไป ดวงตาวูบไหวเเต่ก็กลับมาเป็นเหมือนเดิมในเสี้ยววิ ก่อนจะหันมามองฉัน



    “ส่วนเธอ ออกไปได้เเล้ว”

     

    หงุดหงิดจัง

    ชายเสื้อฉันถูกดึงอีกครั้งด้วยมือเล็กๆเหมือนกับกำลังจะบอกว่าอย่าไปทำตามที่เขาบอก ดวงตาสองสีเมื่อมองไปที่พ่อของตัวเองเเข็งกร้าวเย็นชาขึ้น ใจฉันกระตุกขึ้นมา ถึงเป็นเเบบนี้ก็ยังหล่อจังเลยน้า

    ฉันลองมองขึ้นไปข้างบน ท้องฟ้าเริ่มมืดลงทุกที

    นาฬิกาบอกเวลาหกโมงกว่า ฉันสงสัยจังว่านายน้อยกลับหรือยัง กินข้าวอะไรหรือยัง คงไม่ใช่ว่ากำลังตามหาฉันต่อหรอกนะ อากาศช่วงนี้ก็เริ่มหนาวเเล้วด้วย


    “ฉันขอพูดอะไรสักหน่อยได้ไหมคะ?”


    ฉันคลี่ยิ้มให้โชโตะคุง ลูบผมนุ่มๆ จากนั้นเดินไปใกล้เอนเดฟเวอร์ -- ลมที่พัดมาอดทำเอาตัวสั่นไม่ได้ ขอล่ะ นายน้อยอย่าอยู่ข้างนอกเลย ฉันกลัวว่าเขาจะเป็นหวัด ดีไม่ดีอากาศเย็นเเบบนี้เป็นไข้คงเเย่

    “เมื่อกี้ฉันฟังอยู่น่ะค่ะ ที่คุณพูดว่าโลกเเตกต่างอะไรสักอย่าง...นั่นหมายถึงอัตลักษณ์ใช่หรือเปล่า ที่ไล่ฉันเพราะว่าฉันเเตกต่างกับเขาสินะ”

    ฉันถูจมูกที่ตอนนี้คงเเดงก่ำของตัวเอง ชี้นิ้วมาที่คอตัวเอง เกี่ยวไหม ก็ไม่หรอก เพียงเเต่ว่าถ้าทำให้ดูน่าสงสารมีเรื่องมีราวมากขึ้นการตัดสินใจจะง่ายกว่าใช่มั้ยล่ะ


    “ตอนนี้ฉันมีปัญหานิดหน่อยน่ะค่ะ พอดีกับที่โชโตะคุงมายื่นข้อเสนอ เเล้วฉันก็สัญญากับเขาไปเเล้วด้วยสิ เพราะงั้นถ้าฉันทำให้คุณสนใจเเละเปลี่ยนความคิดว่าพวกเรามีโลกต่างกันอะไรนั่นได้...”


    เเบมือสองข้างออก อยากจะถอนหายใจซะตรงนี้จริงๆ เเค่ออกไปตั้งเเต่เขาไล่ก็จบเเล้วเเท้ๅ

    เเต่พอนึกถึงใบหน้ากับดวงตาสองสีตัดพ้อเเล้วก็ --- ฮือ พี่สาวยอมเเล้ว ยกให้หมดใจเลย



    เปลวไฟสีเเดงเต้นเร้าบนฝ่ามือข้างซ้าย ความเย็นเเช่เเข็งที่ฝ่ามือขวา





    “ช่วยพิจารณาเรื่องฉันอีกครั้งได้ไหมคะ?”




     



    ถ้าเขายังเป็นฮีโร่ผู้มีคุณธรรม

    ก็โปรดรับคนจรจัดน่าสงสารคนนี้ไว้หน่อยเถอะ








    ★ ☆ ★ ☆ ★ ☆


    โช : ความจริงเเล้วฉันเก่งล่ะ (・▽・)

    โช : ฮีโร่กล้ามเเน่นทุกคนเลย *มองตาละห้อย* เเต่ถ้าฉันเข้าไปนัวเนียตอนนี้จะโดนเฉดหัวทิ้งหรือเปล่านี่สิ


    ตัดภาพมาที่อีกฝั่ง


    นายน้อย(?) : ...

    นายน้อย(?) : หิว

     


    ※ คุโรกิริติดงาน
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×