คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #38 : [Route : AFO] Viraha (END)
ท่านวายร้ายไม่ได้ห้ามฉันอีก
เพียงแต่วันต่อมาเขาก็ติดฉันราวกับเงา แอลกอฮอล์กลายเป็นของต้องห้ามอย่างเด็ดขาด ของมีคมเองก็เช่นกัน
แค่ฉันคิดจะเข้าครัวทำอาหารเขาถึงกับมาจ้องดูทุกขั้นตอนราวกับว่าจู่ ๆ ฉันจะเกิดความคิดบ้า ๆ ขึ้นแล้วเอามีดมากรีดแขนตัวเองอีก อาหารที่ควรจะออกมาสมบูรณ์แบบและใช้เวลาทำไม่นานก็บวกเวลาเพิ่มไปอีกเพราะฉันต้องแบ่งสมาธิให้จดจ่อกับอาหาร ไม่ใช่หน้าของเขา
ฉันต้องปฏิเสธและรับปากไปหลายรอบกว่าเขาจะวางใจลง แค่นิดเดียวก็ยังดี
อันที่จริงถึงเขาจะไม่ตามติดแบบนี้ฉันก็ไม่มีความคิดที่จะทำอีกแล้วเช่นกัน เพราะนอกจากจะไม่ตายเพราะเสียเลือดแล้ว การกรีดของมีคมลงบนผิวก็ยังเจ็บอีกต่างหาก ซ้ำกว่าแผลเป็นจะจางลงก็ตั้งนาน
ถึงจะผ่านมาหลายวันฉันก็ยังไม่กลับไปสหพันธ์วิลเลิน เอาแต่ขลุกตัวอยู่แต่ในห้อง แม้ในบางวันจะออกไปข้างนอกบ้างแต่ก็เป็นแค่ร้านสะดวกซื้อใกล้ ๆ ก่อนจะกลับมาที่ห้องเหมือนเดิม
เมื่อฉันลองเลียบ ๆ เคียง ๆ ถามท่านวายร้ายเรื่องโทมูระคุง เขาก็ตอบมาแค่คำว่า ‘ดี’ คำเดียว
ฉันไม่กล้าตีความว่าดีในความหมายของเขาคืออะไร แต่ยังไงเขาก็คงไม่ปล่อยให้ผู้สืบทอดตัวเองเป็นอะไรหรอกมั้ง อัตลักษณ์ของโทมูระคุงก็เยี่ยมใช้ได้ เพราะงั้น –- คิดในแง่ดีเข้าไว้
ฉันลุกขึ้นจากเตียงแล้วชะเง้อหาท่านวายร้าย พบว่าเขากำลังคุยโทรศัพท์อยู่นอกระเบียง เป็นภาพที่เห็นจนชินตาไปแล้ว แทบไม่ต้องเดาว่าเหตุการณ์ต่อไปคืออะไร
จากนี้เขาก็คงจะกำชับให้ฉันอยู่ในห้องอย่างเรียบร้อย ก่อนจะออกไปจัดการธุระข้างนอกเหมือนทุกที พอค่ำก็กลับมาพร้อมขนม
ฉันตีขาไปมา ใจหนึ่งเริ่มคิดว่าการใช้ชีวิตวนลูปเสียเวลาแบบนี้มันควรจะพอได้แล้ว ส่วนอีกใจหนึ่งก็โต้กลับมาว่าอยู่ในห้องแบบนี้ก็ดีแล้วนี่ ขนมที่เขาซื้อมาฝากก็อร่อยออก จะออกไปลำบากอีกทำไม
ความขี้เกียจกับความเบื่อตีกันในหัว ก่อนที่ความขี้เกียจจะเป็นฝ่ายพ่ายแพ้เมื่อฉันลองจับ ๆ บีบ ๆ ตัว แล้วผงะเมื่อส่วนที่บีบไปมีแต่ความนุ่มนิ่ม…โดยเฉพาะตรงหน้าท้อง
ฉันแทบร้องไห้ รับรู้ได้ในทันทีว่าส่วนไขมันลึกลับที่เพิ่มมานี้ต้นเหตุมาจากไหน ในเมื่อเมื่อวานนี้ฉันยังกินมันอย่างเอร็ดอร่อยอยู่เลย มาการองกล่องใหญ่ ไม่รวมวันก่อนและอาทิตย์ที่แล้วที่ของฝากเป็นสารพัดของหวานจากร้านมีชื่ออีก
ฮือ นายท่าน คุณเลี้ยงดีเกินไปแล้ว!
ในขณะที่คร่ำครวญกับตัวเองในใจ ท่านวายร้ายก็คุยโทรศัพท์เสร็จเรียบร้อย ฉันคว้าหมอนใกล้มือมากอด มองบอสวายร้ายที่หยิบเสื้อโค้ทมาสวมทับ แล้วก็มีหมวกอีกใบปิดหน้าตา แต่ไม่ว่าจะมุมไหน มองยังไงก็ยังเป็นชายหนุ่มที่มีเสน่ห์เหลือล้น ท่านบอสลับผู้เพียบพร้อม
ถ้าสมมติว่าเราออกไปเดินด้วยกัน ในสายตาคนนอกท่านวายร้ายคงถูกมองว่าเป็นป๋าเลี้ยงเด็----
“คิดอะไรอยู่”
ฉันกะพริบตา ไล่ภาพวายร้ายที่ถูกจับข้อหาพรากผู้เยาว์ออกไปจากในหัว คลี่ยิ้มและตอบเขา “แค่กำลังคิดเรื่องอายุนิดหน่อยน่ะค่ะ แต่ก็...ช่างเถอะ”
ตราบใดที่ยังเป็นแบบนี้ จะอายุเท่าไหร่ก็ไม่สำคัญหรอก
เขามองฉันด้วยสีหน้าแปลกประหลาด “วันเกิดเธอล่ะ?”
“นั่นสินะคะ...อาจจะมี? หรืออาจจะไม่มี? แต่มันก็ไม่ใช่เรื่องสำคัญขนาดต้องเก็บเอามาคิดนี่นา”
ฉันเอาหน้าซุกหมอน ตอบอย่างไม่ใส่ใจ แทนที่จะเรียกวันเกิด สำหรับฉันเรียกวันเฮงซวยน่าจะถูกกว่า
“อ๊ะ แต่ถ้าเป็นวันที่ได้รับของขวัญที่ดีที่สุดฉันรู้นะคะ — วันที่เจอคุณยังไงล่ะ! ฮื่อ...ถึงจะจำวันที่ไม่ได้ก็เถอะ”
“อย่างนั้นเหรอ” ฉันได้ยินเสียงถอนหายใจ เขาเดินมาก่อนจะวางมือบนหัวฉัน “อยู่ที่นี่เงียบ ๆ—แล้วก็วันนี้ ถ้าเป็นไปได้ฉันก็ไม่อยากให้เธอออกไปเล่นข้างนอก”
ฉันมองดูนาฬิกาที่บอกเวลาเกือบสองทุ่ม ท้องฟ้าข้างนอกเป็นน้ำเงินเข้มเกือบดำ ดวงดาวแต่งแต้มชัดเจน
“โชคดีนะคะ”
ท่านวายร้ายออกไปแล้ว
กลิ้งไปบนเตียง นึกไปถึงกล่องขนมที่แช่ไว้ในตู้เย็นเพราะยังกินไม่หมด วินาทีต่อมาฉันก็ลุกจากเตียงแล้วหอบมันออกมาวางบนโต๊ะอาหาร ตั้งแต่มาการอง ช็อกโกแลต ครีมบูเล่ พุดดิ้ง ละเลียดกินไปเรื่อย ๆ
ทั้งหมดอร่อยจนรู้สึกว่าทานต่อได้เรื่อย ๆ แต่เพราะหน้าท้องนุ่มนิ่มที่เหมือนเป็นชนักติดหลังทำให้ฉันต้องยับยั้งความอยากของตัวเอง คิดในใจอย่างแน่วแน่ว่าคราวหลังจะบอกท่านวายร้ายให้ซื้อของอย่างอื่นมาแทนขนม
ความหวานติดลิ้น ฉันจิบน้ำเปล่าตาม เงยมองนาฬิกาที่ยังคงเดินไม่หยุด ตอนนี้มันบอกเวลาสองทุ่มกว่าแล้ว
เดรสสีครีมตัวยาวที่ใส่อยู่สุภาพจนไม่จำเป็นต้องไปเปลี่ยนตัวใหม่ ดังนั้นฉันจึงแค่หยิบเสื้อคลุมมาสวมทับอีกชั้นเผื่อต้องปะทะลมหนาวข้างนอก จัดการหวีผมที่ยุ่งให้เรียบร้อย แล้วหยิบกระเป๋ากับโทรศัพท์ติดตัวมา
ภาพที่สะท้อนในกระจกดูมีบางอย่างขาดหายไป ฉันขมวดคิ้ว — แตะที่ลำคอไร้เครื่องประดับ ก่อนจะนึกขึ้นมาได้ว่าสร้อยเส้นนั้นขาดไปเมื่อไม่กี่วันก่อน พอบอกนายท่าน เขาก็แค่พยักหน้ารับรู้ วันต่อมาสร้อยก็หายไปแล้ว
ฉันมองดูลำคอเปลือยเปล่า ไม่ได้ประดับอะไรทั้งนั้น จู่ ๆ ก็รู็สึกเบาหวิวขึ้นมา เหมือนได้ปลดอะไรสักอย่างออกไป
หวังว่าพุดดิ้งรสใหม่ที่ร้านข้างล่างจะยังไม่หมดนะ
…..
ฉันนั่งหลังตรง ตาแทบไม่กะพริบ
เรื่องคือ พอฉันลงมาก็ได้แต่เสียใจเพราะร้านที่ขายพุดดิ้งปิด พอกำลังจะกลับขึ้นห้องจู่ ๆ ก็ถูกสับท้ายทอยจนสลบ
ตื่นมาอีกทีก็รู้ว่าตัวเองถูกลักพาตัวเสียแล้ว
เมื่อลองสำรวจไปรอบ ๆ ที่ที่ฉันอยู่ตอนนี้น่าจะเป็นที่ตึก หรือคอนโด หรือที่ไหนสักแห่งที่สูงมาก ๆ เพราะมองจากผนังกระจกตรงนี้สามารถชมวิวของโตเกียวทาวเวอร์ได้ชัดเจน ถึงขั้นพามาเลาจน์หรูแบบนี้ได้ต้องมีฐานะแน่ อีกทั้งค็อกเทลบาร์ก็ยังมีไวน์ดีอยู่หลายขวดด้วย เยี่ยมไปเลย
ฉันนวดท้ายทอยที่ถูกทำร้าย ดวงตามองโซฟาฝั่งตรงข้าม อีกฝ่ายเป็นชายร่างใหญ่เหมือนวิลเลินกล้ามเนื้อที่เจอในค่ายฤดูร้อน ใบหน้ามีรอยแผลและรอยยิ้มน่าขนลุก
ด้านหลังเขามีลูกน้องคอยประกบ เช่นเดียวกับที่หลังฉัน แน่นอนว่าคงไม่ได้ประกบปกป้อง แต่รอเป่าหัวเผื่อฉันไม่ทำตาม ที่ประตูทางออกก็มีลูกน้องเฝ้าเหมือนกัน
มองรอยยิ้มชั่วร้ายที่เคยอ่านเจอในการ์ตูนบ่อย ๆ ยังไม่รวมเสียงหัวเราะน่าขนลุก คงหนีไม่พ้นวิลเลินสักกลุ่ม
“เป็นการชวนที่ไม่คาดฝันเลยนะคะ” ฉันคลี่ยิ้ม “แถมยังกะทันหันจนไม่มีเวลาให้ตอบกลับไปเลยสักนิด”
“ขออภัยที่ทางเราทำตัวเสียมารยาทไป” เขากล่าวขณะฉีกยิ้ม “พวกเราคงได้เจอกันครั้งแรก ผม---------- เป็นคนรู้จักของผู้ปกครองคุณหนู ยินดีที่ได้รู้จัก”
การถูกสับท้ายทอยทำฉันปวดไปหมดจนแทบจะร้องไห้ ไม่ได้ฟังที่อีกฝ่ายพูดสัดนิด ฉันมองผ่านเขาไปยังลูกน้องแต่ละคน กล้ามเป็นมัดพอ ๆ กันทั้งลูกน้องและหัวหน้า แค่คิดว่าฝ่ามือนั่นทุบคอฉันแล้วก็ปวดใจขึ้นมา ฮือ พุดดิ้งก็ไม่ได้กิน แถมยังมาเจอแบบนี้อีก
“เราอยากจะให้คุณหนูช่วยอะไรสักหน่อย”
ฉันยกแก้วน้ำเปล่าบนโต๊ะขึ้นดื่ม
“แล้วของตอบแทนล่ะ อยากให้ฉันช่วยต้องมีของตอบแทนนะคะ พุดดิ้ง? เค้ก? อืม พายแอปเปิ้ลก็อยากกิน”
สมองวายร้ายประมวลผลอย่างรวดเร็วจนน่านับถือ “ได้สิ! ที่คุณหนูต้องการเราสามารถให้ได้หมดเลย”
ฉันมองหน้าเขา ใบหน้าวายร้ายตอนนี้ถูกแทนที่ด้วยสารพัดขนมน่าอร่อย ความอยากกินพุ่งสูงปรี๊ด ก่อนจะดับลงเมื่อฉันก้มมองดูท้องนุ่มนิ่มของตัวเอง ชนักติดหลังทำให้ต้องกลืนน้ำลายฉับพลัน
“ช่างมันเถอะค่ะ” ฉันถอนหายใจ มองดูเวลาบนโทรศัพท์ “นี่ก็ใกล้จะได้เวลานอนแล้วด้วย ขอตัวกลับก่อนนะคะ”
“หยุดก่อน!!”
เขาตะโกนลั่นเมื่อฉันลุกขึ้นจากโซฟาเตรียมตรงดิ่งไปที่ทางออก วายร้ายกล้ามรีบแล่นมาขวาง ส่วนลูกน้องที่เฝ้าประตูก็กันไว้เหมือนจะไม่ให้ออก ฉันถอนหายใจเฮือกใหญ่ มองดูแขนที่ถูกจับไว้ไม่ให้ไปไหน เริ่มปวดพอ ๆ กับท้ายทอย
“สองครั้งแล้วนะคะ” ฉันเงยหน้ามอง วายร้ายคนนี้พอยืนดี ๆ แล้วสูงเกือบสองเมตรได้มั้ง “เอาเถอะ เผื่อท่านวายร้ายยังต้องการใช้คุณอยู่ ชุดแบบนี้ก็เปื้อนง่ายด้วย ถ้าทิ้งไปคงเสียดายแย่...”
ถอนหายใจเป็นรอบที่สาม
“เพราะงั้น….ช่วยหลับไปทีนะคะ?”
ฉันรีบดึงแขนตัวเองออกมา เบี่ยงตัวหลบร่างที่หมดสติกลางอากาศ ทั้งเจ้านายและลูกน้องต่างลงไปกองกับพื้นเหมือนหุ่นเชิดที่ถูกตัดสาย
ฉันนวดแขนที่ปวดขึ้นมาและช้ำไม่ต่างจากท้ายทอย ถึงว่าทำไมเขาถึงบอกให้อยู่ที่ห้อง
ค็อกเทลบาร์หรูล่อตาล่อใจ ไม่ไกลจากนั้นคือตู้เย็นที่พอเปิดเข้าไปอัดแน่นไปด้วยขนมและผลไม้ เยี่ยมเลย
ฉันมองร่างที่นอนแน่นิ่ง
ถือว่าเป็นค่าทำขวัญสาวน้อยก็แล้วกันนะคะ
………
ในตอนที่ฉันนั่งอยู่บนขอบระเบียงบนดาดฟ้าและกำลังชมวิวอยู่นั้น จู่ ๆ ทั้งร่างก็ถูกยกขึ้นจากด้านหลัง
ฉันเบิกตากว้างขณะที่ตัวลอยหวือ ถึงหลังจากนั้นจะถูกวางลงให้กลับมายืนบนพื้นดี ๆ หัวใจก็ยังเต้นไม่หาย เมื่อกี้เกือบหัวใจวายซะแล้ว มาแบบไม่ให้สุ่มให้เสียงเลยสักนิด
ท่านวายร้ายขมวดคิ้ว ทำใบหน้าเหมือนกำลังดุ
“ไวน์ขวดนี้ไม่มีแอลกอฮอล์นะคะ” ฉันวางขวดไวน์ลงบนพื้น รีบบอก “ฉันยังไม่ได้แตะแอลกอฮอล์เลยสักนิด”
เขาไม่ได้สนใจขวดไวน์สักนิด
“ทำไมไปนั่งบนระเบียงแบบนั้น”
ฉันเอียงคอ “ก็มันเห็นวิวชัดเจนดีนี่คะ”
“ฉันนึกว่าคุณจะกลับดึกกว่านี้เสียอีก ไหน ๆ ก็ออกมาทั้งทีฉันก็เลยอยากชมบ้าง” ก่อนจะยกมือขึ้นปัดเส้นผมที่ยุ่งออกจากใบหน้าเขา ครั้งล่าสุดที่เป็นแบบนี้ก็คงเป็นตอนที่รู้ว่าฉันกรีดแขนล่ะมั้ง “ขอโทษที่ทำให้ลำบากนะคะ”
ซุกใบหน้าภายใต้อ้อมกอดของเขา แนบหูและฟังเสียงหัวใจที่เต้นระรัว ฉันยกแขนขึ้นตอบกลับ มือลูบแผ่นหลัง
“ไม่มีฝันร้ายแล้วนะคะ”
….
ฉันยกมือซ้ายขึ้น เพชรบนปีกผีเสื้อต้องแสงอาทิตย์ยามเช้า ส่องประกายระยิบระยับจนทำฉันตาพร่า
จี้อันนั้นปรากฎว่าเขาสั่งทำใหม่ จากสร้อยคอเป็นแหวนเงิน เขามอบมันให้ฉันหลังจากกลับมาถึงที่พักแล้ว
มองใบหน้าตอนหลับอย่างนิ่งงัน ฉันแนบริมฝีปากลงบนแหวน เก็บความคิดที่จะฆ่าตัวตายอีกรอบไว้ข้างใน อันที่จริงการกระโดดจากดาดฟ้าก็น่าสนใจ แต่ศพน่าจะไม่สวย
จะแกล้งทำเป็นรักก็ดี หรือจะอบอุ่นแบบนี้ก็ดี ตราบเท่าที่เขายังอยู่กับฉันได้ จะเป็นอย่างไหนก็ไม่สำคัญ
(3.1) ตอบจบของรูทหลัก
เธอตายไปแล้ว
โอกาสรอดแทบเป็นศูนย์เมื่อกดปืนลงบนตำแหน่งหัวใจแล้วลั่นไก ร่างของเธอจมลงไปในน้ำเหมือนหุ่นที่ถูกตัดสายเชิด เรียวแขนข้างหนึ่งพาดขอบอ่างอย่างอ่อนแรง กระบอกปืนตกอยู่บนพื้นไม่ไกลจากนั้น
การเอากระสุนที่ฝังค้างออกมาไม่ใชเรื่องที่เกินกว่าความสามารถ แต่มันก็ไร้ประโยชน์และสายเกินไป ร่างบอบบางถูกย้อมไปด้วยสีเลือด ราวกับเขากำลังมองตอนจบของละครโศกนาฏกรรมสักเรื่อง
เขายืนดูเนิ่นนาน ไม่รู้ว่าเวลาผ่านไปเท่าไหร่ แต่โชก็ไม่มีทีท่าว่าจะลืมตาฟื้นขึ้นมา หรือบอกเขาว่าที่เห็นอยู่เป็นแค่เรื่องตลก เธอแค่ล้อเขาเล่นเหมือนทุกที เปลือกตาของเธอปิดสนิท ริมฝีปากอิ่มซีด ใบหน้าไร้สีเลือด
ออลฟอร์วันช้อนร่างของเธอขึ้นจากในอ่าง ซับหยดน้ำที่เกาะตามร่างออก เช็ดผมจนมันเริ่มแห้ง กระทำทุกอย่างด้วยความเชื่องช้า ปฏิบัติกับเธออย่างทะนุถนอมแม้ว่าที่อยู่ตรงหน้านี้จะเป็นตุ๊กตาที่เหลือแค่ร่างกลวงเปล่า
จนกระทั่งสัมผัสได้ถึงลมหายใจแผ่วเบา และหัวใจที่เต้นตุบเป็นจังหวะ
“โช”
ทาบมือบนใบหน้าที่เริ่มกลับมามีสีเลือด “โช” เขาเรียกชื่อเธอซ้ำอีกครั้ง แววตาอ่อนลงและคลี่รอยยิ้มอบอุ่น
ปลายนิ้วไล้บนริมฝีปากสีชมพูอ่อนนุ่ม เขาแทรกนิ้วผ่านช่องว่างระหว่างนิ้วมือ กอบกุมมือเล็ก ๆ ได้ทั้งหมด รับรู้ถึงความอุ่นร้อนจากผิว แม้เธอจะยังไม่ลืมตาแต่สภาพก็แตกต่างจากก่อนหน้านี้ คล้ายแค่หลับไปไม่ใช่กลายเป็นศพ
เขาเงยหน้าขึ้นไป และคิดว่าจะได้สบกับดวงตากลมโตคู่นั้น เธออาจจะเสียใจที่การฆ่าตัวตายครั้งนี้ไม่ประสบผลสำเร็จ ดวงตาที่มักเป็นประกายคงหมองหม่นด้วยความผิดหวัง จากนั้นก็ร้องไห้อย่างน่าสงสาร
เขาจะปลอบเธอ กอดตุ๊กตาที่แสนเปราะบางเอาไว้ด้วยความทะนุถนอม จะรอจนกว่าเธอจะหยุดร้องไห้ โชจะกลับมาเป็นเหมือนเดิม ความสัมพันธ์ของเราจะยังดำเนินต่อไปตราบจนโลกใบนี้ล่มสลายด้วยมือของโทมูระ
เธอสามารถออกไปเล่นได้เท่าที่ต้องการ จนกว่าจะเบื่อหรือรู้สึกว่าถูกทอดทิ้ง จากนั้นเธอก็จะกลับมาหาเขา และรู้ว่าถึงแม้จะถูกทอดทิ้งกี่ครั้งต่อกี่ครั้ง เขาก็จะอยู่ข้างเธอ เป็นเพียงคนเดียวที่สามารถเป็นที่พักพิงให้เธอได้
เธอจะเป็นคนเติมเต็มสีสันในชีวิตหลังเขาได้ทุกอย่างมาไว้ในกำมือ ทำให้เขารู้สึกประหลาดใจทุกครั้งเมื่อเธอเปิดเผยเรื่องในอดีต ทั้งคนที่เธอรัก หรือคนที่รักเธอ----
แต่ทั้งหมดก็กลายเป็นเพียงความคิดเพ้อฝัน
“โช...เธอหลับนานไปแล้ว”
เมื่อความจริงแล้วเปลือกตายังปิดสนิท
และเธอไม่ได้ฟื้นขึ้นมา
★ ☆ ★ ☆ ★ ☆
มีจบรูทหลักอีกนะคะ เป็นตอนสั้นๆ
อันที่จริงมีตอนต่อจากนั้นนิดหน่อยว่าเขาจัดการดูแลยัยที่กึ่งตายกึ่งไม่ตายยังไง แต่คิดว่าไปเฉลยเอารูทคนอื่นน่าจะดีกว่า :)
นักเขียน : ตอนจบรูทบอสอันนี้น่าจะแฮปสุดแล้วค่ะ :)
ต้องสงสัยกันแน่เลยว่าผู้ชายในความฝันยัยก็บอกว่ารักนี่? ตกลงมันกันแน่เฮ้ย!
555555555555555รักค่ะ แต่ถ้าให้เลือกระหว่างเขากับออลฟอร์วันที่สามารถอยู่กับเธอต่อไปได้จนกว่าเธอจะเบื่อโลกใบนี้ ยังไงเธอก็ต้องเลือกอย่างหลังอยู่แล้ว
ความคิดเห็น