NC

คำเตือนเนื้อหา

เรื่องนี้อาจมีเนื้อหาหรือการใช้ภาษา
ที่ไม่เหมาะสม เยาวชนที่มีอายุต่ำกว่า 18 ปี
ควรใช้วิจารณญานในการอ่าน
กดยอมรับเพื่อเข้าสู่เนื้อหา

อ่านเงื่อนไขเพิ่มเติม
ปิด
ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    (end)「Fic Boku no Hero Academia」XXX {Villain x OC}[จบรูทหลัก]

    ลำดับตอนที่ #33 : summer ครบ

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 2.18K
      325
      1 มี.ค. 62

    [30]



    โทโดโรกิรู้ว่าตัวเองเป็นเด็กมีปัญหา


    มันเริ่มตั้งแต่พอแม่จากไป สิ่งที่เขาสนใจและมักมองอยู่เสมอก็เปลี่ยนมาเป็นคน ถ้าให้เจาะจงก็คือคนรอบข้างที่มีครอบครัวอบอุ่น มีพ่อแม่มารอรับกลับบ้าน ระหว่างทางก็เล่าเรื่องน่าสนุกที่เจอในโรงเรียนให้ฟัง พอมีความสนุกก็ยิ้มแย้ม เจอเรื่องตลกก็หัวเราะ พอร้องไห้ก็มีพ่อเเม่คอยปลอบ

    เมื่อเห็นภาพนั้น ทุกครั้งโทโดโรกิก็มักจะนึกไปถึงแม่ที่อ่อนโยนของตัวเอง นึกถึงเวลาที่เคยร้องไห้แล้วถูกปลอบ แต่ทว่าช่วงเวลานั้นไม่มีอีกต่อไปแล้ว ดังนั้นแทนที่เขาจะรู้สึกมีความสุขไปกับภาพครอบครัวที่เห็น มันจึงกลายเป็นความรู้สึกอื่น

    ครอบครัวของเขาถ้านับในเรื่องฐานะและความมั่งคั่งถือว่าสมบูรณ์พร้อม ทั้งที่เป็นอย่างนั้นบางสิ่งกลับขาดหายไป เป็นสิ่งที่แม้แต่พี่น้อง หรือคำชื่นชมจากคนอื่นก็ถมช่องว่างนั้นไม่ได้ เหมือนแก้วรั่ว ๆ ที่พยายามเติมน้ำเข้าไป แต่แม้จะพยายามเท่าไหร่มันก็ไม่เคยเต็มสักที

    จนกระทั่งในวันหนึ่ง

    ‘อ๊ะ เรามีแผลเหมือนกันเลยนะ’

    แก้วใบนั้นก็ได้ถูกเปลี่ยนใหม่




    …..




    ตอนที่เเม่ยังอยู่ โทโดโรกิเคยร้องไห้ไม่รู้กี่ครั้งต่อกี่ครั้ง แต่สุดท้ายก็มักจะถูกปลอบจนกลับมายิ้มได้อยู่เสมอ พอไม่มีแม่แล้ว เมื่ออยากร้องไห้ขึ้นมาเขาก็ต้องห้ามตัวเองให้หยุดตั้งแต่ต้น เพราะพ่อเฮงซวยคนนั้นไม่มีทางมาปลอบอย่างเด็ดขาด ซ้ำจะพูดว่าเขาถูกแม่ดูแลจนเคยตัว

    เพื่อตัดเหตุการณ์นั้น เขาจึงพยายามที่จะไม่ร้องไห้ จนนาน ๆ เข้าก็กลายเป็นความเคยชิน และสุดท้ายก็เป็นความเฉยชาไปในที่สุด จนเคยคิดด้วยซ้ำว่าตัวเองอาจจะลืมวิธีแสดงอารมณ์บนใบหน้าไปแล้วจริง ๆ ก็ได้ นั่นคงจะเป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้เด็กคนอื่นไม่ค่อยเข้ามายุ่งด้วยนัก

    เพราะอยู่คนเดียวมาโดยตลอด เขาจึงรู้สึกแปลก ๆ ที่วันหนึ่งได้เป็นเพื่อนกับใครสักคนนอกจากพี่น้องของตัวเอง

    เธอคนนั้นแรกเริ่มทำเหมือนสนใจเขา เข้าหาด้วยประโยคแบบที่คนปรกติไม่น่าจะใช้ แต่ทว่าในตอนนั้นโทโดโรกิกำลังหนีออกจากบ้าน ด้วยความเร่งรีบจึงเผลอตอบตกลงไป คิดว่าถ้าหากเกิดอันตรายขึ้นมาจริง ๆ ทักษะทั้งหมดที่ถูกฝึกมาคงไม่เสียเปล่า

    เธอคนนั้นยิ้มแย้มอยู่เสมอ แม้จะถูกอัตลักษณ์ของเขาทำร้ายก็ทำเพียงคลี่ยิ้ม และจัดการมันออกอย่างใจเย็น ก่อนจะหันมาคุยกับเขาต่อเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น ไม่สนกระทั่งสายตาของใครต่อใครที่มองมายังรอยช้ำรอบคอของเธอ

    เธอบอกว่าที่ได้รอยช้ำมาเพราะไปทำให้เจ้านายโกรธ เขามองจากความเข้มของมันที่ตัดกับสีผิวของเธออย่างชัดเจนแล้วก็รู้สึกสงสารขึ้นมา ถ้าคิดในอีกแง่นี่ไม่ต่างจากการพยายามฆ่าเลยสักนิด แม้ว่าเธอจะยังหายใจอยู่ก็ตาม

    ในขณะที่โทโดโรกิทานโซบะก็สังเกตมองเธอไปด้วย เขาเห็นเธอมองออกไปข้างนอกหน้าต่าง ก่อนจู่ ๆ จะลุกขึ้นด้วยสีหน้าตกใจ บอกกับเขาว่าเมื่อกี้เจอเด็กที่เจ้านายฝากให้ดูแล

    คำถามอย่าง ‘โชโตะคุงจำทางกลับบ้านได้หรือเปล่า’ เดาได้ไม่ยากว่าเธอคงจะให้เขากลับเอง

    แน่นอนว่าโทโดโรกิต้องจำได้อยู่แล้ว

    แต่เมื่อมองดูรอยช้ำ และคิดว่าอาจจะไม่ได้เจอกันอีก...เขาจึงตอบเป็นอย่างอื่น ก่อนจะชวนให้กลับไปด้วยกัน

    เขาชอบรอยยิ้มของเธอ

    ‘ที่พูดไปทั้งหมดมาจากใจจริงของฉันนะ’

    แม้ว่าในตอนนั้น


    เธอจะกำลังโกหกอยู่ก็ตามที





    (1)


    จำได้ว่ามีวันหนึ่งที่คาบสุดท้ายให้เรียนด้วยตนเอง

    เด็กผู้ชายจับกลุ่มโดยมีบาคุโกเป็นศูนย์กลาง ส่วนอาซากิที่ไม่มีอัตลักษณ์ เพื่อหลีกเลี่ยงการถูกหาเรื่องก็เลยหลบไปที่ห้องสมุด ส่วนเขาก็ฟุบหน้าลงกับโต๊ะ เหม่อมองออกไปข้างนอก รอเวลาที่ออดเลิกเรียนจะดัง

    โทโดโรกิไม่ได้หลับอย่างทุกที สาเหตุหนึ่งก็เพราะความตื่นเต้นและประหม่า หลังจากที่เมื่อวานพูดจนเธอใจอ่อน ในที่สุดผู้ดูแลของเขาก็บอกว่าวันนี้จะมาค้างด้วย จะไม่หนีกลับไปหาเด็กอีกคนเหมือนทุกครั้ง มื้อเย็นก็ตกลงกับพี่ฟุยูมิไว้แล้วว่าจะทำหม้อไฟ

    เพราะไม่ได้หลับเขาถึงได้ยินคนในห้องพูด แม้จะไม่ได้ตะโกน แต่การที่จับกลุ่มใกล้ ๆ แล้วเผลอเสียงดังเพราะความตื่นเต้น ก็เพียงพอแล้วที่จะทำให้เขาได้ยินชัดเจน

    กลุ่มผู้หญิงในห้องกำลังพูดเรื่องหนังสือที่กำลังอ่านอยู่ตอนนี้ นิยายที่โด่งดังในเว็บ โทโดโรกิคงจะเบือนหน้าหนีแล้วไม่สนใจไปแล้วถ้าหากว่าเนื้อหาที่พวกเธอกำลังพูดไม่เกี่ยวข้องกับความรักระหว่างชายหญิง

    การที่ได้ใกล้ชิดกับเจ้าชายผู้มีอดีตฝังใจ ทำให้เขาเปิดใจ และในตอนสุดท้ายก็ได้เคียงคู่กันอย่างมีความสุข

    ชวนให้นึกไปถึงนิทานหลายเรื่องที่แม่เคยเล่าให้เขาฟัง เนื้อหาไม่ต่างจากที่พวกเธอเล่าเท่าไหร่ เพียงเเต่ว่าฝ่ายที่ถูกทำร้ายและถูกรังแกคือฝ่ายหญิง จนกระทั่งวันหนึ่งก็มีคนมาช่วยให้เธอหลุดพ้นจากวังวนนั้น

    เขาคนนั้นได้กลายเป็นเจ้าชายของเธอ และสุดท้ายพวกเขาทั้งสองก็อยู่ด้วยกันอย่างมีความสุข

    ในตอนนั้นโทโดโรกินึกไปถึงเธอ ถ้าเปรียบเขาเหมือนคนที่ถูกช่วยเอาไว้ในนิยาย เธอเองก็คงเป็นเจ้าหญิงของเขา เจ้าหญิงที่ดึงเขาออกจากโลกอันแสนน่าเบื่อ เมื่อเธอยิ้มโลกใบนี้ก็เหมือนถูกแต่งแต้มด้วยสีสัน...

    ออดเลิกเรียนดังขึ้นมา คนอื่นทยอยเก็บของ อีกไม่นานพี่นัตสึโอะก็จะมารอรับกลับอย่างทุกที

    ถึงจะรู้ว่าไม่ควรให้อีกฝ่ายรอนาน แต่ตอนนั้นเขากลับขยับไม่ออกเลยสักนิด ใบหน้าเห่อร้อนขึ้นมาเหมือนเป็นไข้ หัวใจเต้นแรงจนรู้สึกเจ็บ กว่าจะกลับมาเป็นปรกติ มองดูนาฬิกาอีกทีก็สายมากแล้ว

    โทโดโรกิรีบเก็บของแล้วลงไปข้างล่าง ระหว่างทางก็คิดว่าตอนนี้เธอจะอยู่ที่ไหนและทำอะไรอยู่ บางทีอาจจะกำลังช่วยพี่ฟุยูมิในครัว จัดจาน หรือไม่ก็ออกมาซื้อของเพิ่ม


    แต่เมื่อมาถึงหน้าโรงเรียน


    สิ่งที่คิดก็กลายเป็นควันและจางหายไป

    เมื่อเธอในจินตนาการกำลังคุยอยู่กับพี่นัตสึโอะ ใบหน้าเเต้มไปด้วยรอยยิ้มกว้าง เหมือนจะคุยเรื่องน่าสนุกกันอยู่เธอถึงได้หัวเราะขนาดนั้น

    เขามองอยู่นาน รู้ตัวอีกทีก็ตอนที่สะดุ้งเพราะมีสัมผัสเย็นจัดมาแตะตรงแก้ม

    โทโดโรกิกะพริบตา มองไปที่ต้นเหตุของความเย็นสลับ ก่อนจะเลื่อนสายตากลับมามองใบหน้าเป็นห่วงของเธอ


    ‘เป็นอะไรหรือเปล่า? รู้สึกไม่ดีตรงไหนไหม?’


    พอเขาส่ายหน้าปฏิเสธ เธอก็ทำหน้าเหมือนไม่เชื่อเท่าไหร่นัก ก่อนจะยื่นขวดแก้วที่ถูกแช่จนเย็นมาให้ สีของเครื่องดื่มในขวดมองเห็นได้ชัด มันคือโซดารสผลไม้ที่เห็นโฆษณาบ่อย ๆ ในโทรทัศน์


    ‘ช่วงนี้เริ่มเข้าหน้าร้อนแล้วด้วย...’


    เธอบ่นอย่างเป็นห่วง ทั้งที่กรอบหน้าก็ชื้นด้วยเหงื่อจนต้องยกมือขึ้นเช็ดบ่อย ๆ ผิวถูกแดดจนมันแดงขึ้น เธอดูจะไม่ถูกกับหน้าร้อนมากกว่าเขาที่มีอัตลักษณ์น้ำแข็งกับไฟเสียอีก

    เขาหันไปหาพี่ ถามไปว่าทำไมถึงมาด้วยกันได้

    พี่นัตสึโอะอึกอักอย่างเคย พูดตะกุกตะกักที่แค่มองดูก็รู้ว่าไม่ปรกติ ‘พอดีเจอโชซังที่มาซื้อของระหว่างทางพอดี...ก็เลยชวนมาด้วยกัน’

    พอหันไปหาเธอบ้าง ที่เห็นได้ชัดคือใบหน้าแดงจัด ไม่รู้ว่าเป็นเพราะอุณหภูมิหรืออย่างอื่น...พอคิดอย่างนั้นโทโดโรกิก็รู้สึกว่าฤดูร้อนเลวร้ายไปเสียดื้อ ๆ แม้แต่โซดาที่ดื่มเข้าไปก็หารสหวานไม่ได้เลยแม้แต่น้อย

    ในตอนนั้นถึงได้รู้ความจริง

    แม้เธอจะเป็นเจ้าหญิงของเขา


    แต่เขาไม่ใช่เจ้าชายของเธอ





    ……..





    “หายไปแล้ว?”


    ดาบิซังขมวดคิ้วมุ่น ใบหน้าสับสน


    “เมื่อกี้ยังได้ยินเสียงอยู่แท้ ๆ”


    เขาพึมพำกับตัวเอง วายร้ายคนอื่นก็ดูสนใจเหมือนกัน พวกเขาต่างเข้ามาสำรวจในห้องที่เคยถูกแช่แข็งไว้ ค้นนู่นนี่ในห้องไม่หยุด ไม่ใช่เล่นซ่อนแอบสักหน่อย อ๊ะ โชโตะไม่ได้อยู่ในกล่องหรอกนะโทกะจัง

    ฉันลูบข้อมือที่ถูกบีบ ยังรู้สึกปวดไม่หาย นอกจากนั้นปากก็รู้สึกเจ็บแปลบ วันพรุ่งนี้มันอาจจะเป็นแผลก็ได้

    ...ทั้งที่ไม่เคยใช้กำลังกับฉันเลยแท้ ๆ

    คิดพลางทำหน้าเหมือนช่วยไม่ได้ อธิบายไปว่า “เขาทำฉันเจ็บก็เลยเผลอไปน่ะค่ะ ขอโทษนะคะ ป่านนี้เด็กคนนั้นคงไปตกอยู่ที่ไหนสักที่แล้วเเหละ”

    ดาบิมองหน้าฉันนิ่งเหมือนกำลังจับผิด ฉันเอียงคอก่อนจะสบสายตากลับไป ยิ้มเหมือนที่พูดไปคือเรื่องจริง

    และในที่สุดเขาก็เป็นฝ่ายยอมแพ้ พ่นลมหายใจอย่างหัวเสีย รอยแผลยิ่งเสริมให้การไม่สบอารมณ์ของเขาคือการที่พร้อมจะฆ่าใครสักคน ฉันเหงื่อไหลพราก คงไม่ได้คิดจะเผาฉันหรอกนะ

    “อยากได้เขามาเป็นพวกงั้นเหรอคะ?” ฉันยิ้ม “ถึงฉันไม่ส่งเขาออกไป ยังไงซะเด็กคนนั้นก็ไม่เหมาะที่จะมากำลังให้โทมูระคุงเหมือนเดิมนั่นล่ะค่ะ”

    “เหตุผล?”

    “อุดมการณ์ของเขาไม่เหมือนพวกเราค่ะ” ฉันหลุบสายตาลง นึกไปถึงตอนที่เขาพูดประโยคนั้นออกมา คิดยังไงถึงให้ฉันไปตัดสินอนาคตของเขา อารมณ์ชั่ววูบทำให้ทุกอย่างพังได้เลยนะ

    ดาบิซังไม่คิดจะถามต่อ เขาเดินออกจากห้องไปพร้อมวายร้ายคนอื่น อ่ะ รอดแล้วสิ ดีจังเลย

    โทกะจังเข้ามาตบหลังฉันอย่างแรงจนฉันสะดุ้ง เธอหัวเราะก่อนจะบอกว่าอัตลักษณ์ของฉันเหมือนคุโรกิริ ก่อนจะรัวคำถามใส่ไม่ยั้ง ทั้งเรื่องอัตลักษณ์แล้วก็เรื่องที่ไปรู้จักกับโทมูระคุงได้ยังไง

    คำถามเยอะจนฉันเวียนหัว พอกำลังจะตอบเท่าที่จำคำถามได้ไหล่ก็ถูกจับยึดไว้จากด้านหลัง


    “พอได้แล้ว”


    หยุดคำถามได้ชะงัด


    “ฉันมีเรื่องจะคุยกับยัยนี่หน่อย เธอออกไปก่อน”


    โทกะมองฉันสลับกับโทมูระคุงก่อนจะทำหน้ายู่ ยอมออกไปแต่โดยดี

    ฉันได้ยินเสียงบ่นของเธอ “โทมูระขี้หวง!”

    ฉันรู้สึกได้ถึงลางไม่ดี จู่ ๆ ก็อยากจะร้องไห้ขึ้นมา รู้แบบนี้รีบเดินออกไปตั้งแต่แรกดีกว่า อยู่สองคนแบบนี้ไม่ปลอดภัยเลย

    เขาจับไหล่ฉันให้หันมาเผชิญหน้า ฉันมองหน้าเขาที่ดูไม่สบอารมณ์ ดวงตาสีแดงแข็งกร้าวกว่าตอนเจอกันครั้งแรก ท่าทางเหมือนจะเข้ามากัดฉันได้ทุกเมื่อแล้วก็กลืนน้ำลาย ฮือ ฉันทำอะไรผิดไปอีก

    “ไม่พอใจเรื่องที่ฉันทำตามใจเหรอคะ?” โฮ ฉันผิดไปแล้ว อย่าตีฉันเลย “ขอโทษนะโทมูระคุง ไว้คราวหน้าพี่สาวจะหาคนมาให้ก็แล้วกัน เอาที่เก่งกว่านี้เลยดีไหม?”

    เขาจ้องหน้าฉัน ยิ่งไม่พอใจมากกว่าเดิม


    “ตอนที่อยู่ในห้องเธอทำอะไรกับเด็กนั่น”


    ฉันกะพริบตา “ก็...คุยกันล่ะมั้งคะ?”

    จริง ๆ นะ คุยจริง ๆ ไม่ได้โกหกเลยแม้แต่นิด

    ‘แต่ฉันชอบโชโตะตอนเป็นฮีโร่มากกว่านี่นา’

    ‘ผม...’

    ‘เธอไม่คิดเหมือนกันเหรอ?’

    “สงสัยอะไรงั้นเหรอคะ?”

    “...คุยแค่นั้นจริง ๆ?”

    ฉันพยักหน้า “ค่ะ”

    พอตอบไปแบบนั้นโทมูระคุงที่นิ่งมาตลอดก็เหมือนไม่พอใจ อารมณ์แปรปรวนจนฉันตามไม่ทัน จะขยับหนีก็ดันช้าไปหน่อย ในที่สุดก็โดนเขายึดคางเอาไว้ไม่ให้หันหน้าหนี จะขยับก็ไม่ได้เพราะเขาออกแรงกับคางฉันแทบบี้ให้เป็นผง



    “ก่อนหน้านี้เธอไม่มีแผล”



    ปลายนิ้วเขากดลงบนริมฝีปากอย่างแรง ฉันนิ่วหน้าด้วยความเจ็บ ยิ่งเมื่อเล็บเขาจิกลงตรงแผลก็แทบน้ำตาร่วง


    “จะอธิบายว่ายังไง?”


    เขาผ่อนแรงลง ฉันถึงใช้จังหวะนั้นสะบัดหน้าหนีจากมือของเขา ลูบคางป้อย ๆ เมื่อกี้น้ำตาจะไหลจริง ๆ นะ!

    “ข้อผิดพลาดเล็กน้อยค่ะ” ฉันมองหน้าเขา ทว่าในขณะที่พูดก็ถอยหลังหาประตู “อย่าสนใจเลยนะคะ เอาล่ะ! มาฉลองที่ปลอดภัยกันเถอะค่ะ เดี๋ยวฉันจะช่วยเรื่องอาหารเอง~!”

    ประโยคหลังหันไปบอกเหล่าวายร้ายคนอื่น พูดจบก็วิ่งออกห่างโทมูระคุงทันที --- ซึ่ง แน่นอนว่าพวกเขางงงวยกับประโยคที่ฉันพูดไป เพราะในโกดังนี้ไม่มีอย่างไหนที่ดูเป็นห้องครัวได้เลยสักนิด


    จนกระทั่งฉันดีดนิ้ว เสกมันออกมาเหมือนมายากล


    ไม่ใช่เครื่องครัวหรือวัตถุดิบหรอกนะ นั่นยุ่งยากออกจะตายไป ถึงแม้ถ้าคิดจะทำก็ทำได้ก็เถอะ

    ฉันจิบชาพีชที่จำได้ว่าคุโรกิริเป็นคนทำ ของเหลวสีชมพูอยู่ในแก้วค็อกเทลสวยงาม เฮ้อ ถ้าคุโรกิริยังอยู่เวลาโทมูระคุงโมโหฉันก็น่าจะไปหลบหลังเขาได้แท้ ๆ




    “มีใครอยากทานอะไรเป็นพิเศษหรือเปล่าคะ?”



    โทมูระคุงต้องไม่พอใจแน่ ๆ ที่เปลี่ยนเรื่องแบบนี้





    แต่ก็นะ?






    จะพูดออกไปได้ยังไงล่ะ

    ว่า ‘โชโตะโกรธมากจนกัดฉัน’ น่ะ






    ★ ☆ ★ ☆ ★ ☆


    : โทโดโรกิกับฤดูร้อนของเขา


    อาจจะงงๆหน่อย ช่วงหลังก็คือยัยคุยกับโชโตะเสร็จแล้ว จากนั้นพี่บิก็เปิดประตูเข้ามาว่าจะดูว่าเป็นไงนั่นล่ะค่ะ

    ตอนนี้ยกเว้นการหัวเราะไปก่อนค่ะ

    ノ(・ω・)ノ


    ผลการค้นหารูปภาพสำหรับ meme cat cry

    คิดว่านักอ่านที่ขึ้นเรือเด็กผมสองสีคงกำลังอยากมอบมีมนี้ให้นักเขียนแน่เลยค่ะ
    *โฮะโฮะโฮะ* -------- ไม่ใช่สิ! โฮฮฮฮฮฮฮ สงสารนักเขียนหน่อยเถอะค่ะ เราเชียร์ทุกเรือนะคะ! จะนายท่าน นายน้อย วิลเลินคนอื่น เชียร์ทุกเรือนั่นล่ะค่ะ!
    (เพราะงั้นต้องมีระเบิดไปเสริมความแข็งแรงยังไงล่ะ!-------------แค่กๆๆๆ)

     
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×