คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #3 : เด็กบางคนคือผ้าขาวสะอาด ย้ำว่าบางคน [ครึ่งเเรก]
[02] เด็กชาย
ฉันเริ่มมีความคิดที่จะพกลูกพีชติดตัว
ถึงการที่จูบเขาเเล้วบางครั้งมีเลือดติดออกมาด้วยจะไม่ใช่เรื่องที่เเย่ เเต่ถ้าให้เลือกระหว่างเลือดรสเค็มปร่ากับความหอมหวานของผลไม้เเล้วล่ะก็ ยังไงคุณก็ต้องเลือกอย่างหลังอยู่เเล้วใช่ไหม? ใช่สิ ฉันก็เหมือนกัน
ชีวิตของฉันกำลังดำเนินไปอย่างเรียบง่าย ยกตัวอย่างก็เช่น ตื่นมากินอาหารที่คุโรกิริทำ จากนั้นตามด้วยของหวานอย่างพีช เเละค่อยไปรักษาเขา นอกจากนั้นเวลาว่างที่เหลือส่วนใหญ่ก็หมดไปกับการนอนเเละการเดินสำรวจที่นี่
คนที่ถือมีดจ่อคอฉันในตอนเเรกหายไปเเล้ว เเบบไปเเล้วไปเเล้วไปลับจนไม่รู้ตายไปแล้วหรือยัง ส่วนคุโรกิริช่วงนี้ก็ดูเหมือนจะไม่ว่างเหมือนกัน เขาเริ่มหายตัวออกไปบ่อยๆ บางวันกลับมาด้วยท่าทางเหนื่อยล้าที่ไม่รู้เป็นเพราะอะไร
ไม่น่าใช่การต่อสู้นะ ฉันว่างั้น เสื้อผ้าของเขายังอยู่ดี ร่องรอยบาดเจ็บก็ไม่มี น่าเสียดายที่ร่างเขาเป็นควันฉันถึงรู้อะไรลึกกว่านี้ไม่ได้
ท้องฟ้าวันนี้ดูเหมือนจะสดใสเหมาะเเก่การออกไปเที่ยวเล่นอย่างมาก คุโรกิริไม่อยู่ตั้งเเต่เมื่อวานไม่รู้ว่าติดธุระอะไร อาหารเช้าวันนี้ก็เลยไม่มี เเต่จะกินหรือไม่กินก็มีค่าเท่ากัน เพราะงั้นก็ช่างมันเถอะ
ฉันเดินไปที่ตู้เย็นเเละคิดจะหยิบลูกพีชออกมาอย่างทุกที เเต่ก็ต้องเลิกคิ้วในเมื่อมันเหลืออยู่เพียงลูกสุดท้าย คงเป็นเพราะหลายวันมานี้ฉันกินมันทุกวันเลยล่ะมั้ง
จะจูบรสเลือดหรือจูบรสผลไม้ความจริงไม่ว่าอย่างไหนฉันก็ไม่มีปัญหานะ เเต่ถึงอย่างนั้นก็อดมองดูตัวเองไม่ได้ เเทบทุกวันฉันใส่เเต่เชิ้ตตัวใหญ่ตัวหลวมโพรก เเน่ล่ะ อย่างที่บอกไปว่าช่วงนี้มันวุ่นมาก จะเอาเวลาที่ไหนไปดูเสื้อผ้าให้ฉันกัน
หลายครั้งที่คิดจะบอกเเต่มันก็ลืม
บางทีฉันควรออกไปซื้อของให้ตัวเองได้เเล้ว
ฉันหยุดโยนลูกพีชเเละรับมันไว้ในมือเมื่อตัดสินใจอะไรได้ ขาก้าวอย่างเชื่องช้าไปที่ห้องของท่านจอมวายร้ายเพื่อรักษาเขาอย่างทุกวันขณะที่กัดลูกพีชลูกสุดท้ายไปด้วย
ฉันจูบเขาครั้งที่เท่าไหร่เเล้วนะ จูบวันละครั้ง บางวันสองครั้ง ไม่ได้ดูปฎิทินด้วยสิว่ามันผ่านมากี่วันเเล้ว ตอนนี้วันที่เท่าไหร่…หื้ม
น่าเเปลกใจ วันนี้ลูกพีชไม่มีรสชาติเลย
….
……..
การจูบผ่านไปได้ด้วยดี ก็ปรกติเหมือนทุกวัน
น้ำลายที่ไม่รู้ว่าของฉันหรือของเขาติดออกมาหลังการรักษา ฉันเลียมันก่อนที่จะมันหยดลงบนเสื้อ ยกหลังมือขึ้นเช็ดปากที่ชุ่มชื้นเเละเจ่อขึ้นจากเเต่เดิม
ฉันพบว่าการขึ้นมาคร่อมบนตักเขาเเล้วค่อยจูบมันดีกว่าการที่อ้อมไปด้านข้างเเล้วหามุมจูบ ท่านเฮงซวยที่ดูเหมือนจะชินกับการสัมผัสหรืออะไรสักอย่างก็ไม่ได้ว่าอะไร ผิดจากที่คาดนิดหน่อย นึกว่าตัวเองจะโดนเหวี่ยงไปติดกำเเพงซะเเล้ว เเต่มันก็ไม่ น่าดีใจจริงๆ
ถ้าสมมติเขาเกิดทำมันจริงๆ อืม ฉันโกรธ ฉันจะตีเขากลับด้วย เเละต่อจากนั้นก็จะด่าว่าเฮงซวย หรือไม่ก็ไอ้คิ้วโล้น -- เเละถ้าเขาโมโหจนคิดจะฆ่าฉัน ฉันจะอยู่ต่อไปเพื่อทำให้เขาประสาทกินตายไปเลย
เเต่มันก็เเค่เรื่องสมมติ ดีเเล้วที่เขาเป็นนายท่านผู้ประเสริฐ หล่อเหลา ใจเย็นดุจสายน้ำ -- ที่บอกว่าฉันจะโกรธอะไรนั่นก็ล้อเล่นเหมือนกัน คุณก็รู้อยู่ว่าคนดีเเบบฉันทำเรื่องนั้นไม่ลงหรอก
หลายครั้งที่หลังจูบเสร็จฉันไม่ยอมลงไปจากตักของเขา ท่านวายร้ายไม่ได้ว่าอะไรอีกเช่นเคย รู้ไหม ตอนนี้ฉันโคตรถือดีเลย เเหม ไม่โกรธ ไม่ด่า ไม่ทำหน้าไม่พอใจ คนใหญ่คนโตคนนี้เเม่งดีจริงๆ เอาใจฉันไปเลย
ฉันมองเขา สุขภาพร่างกายดีกว่าเเต่หลายวันก่อนลิบลับ บาดเเผลที่ตัวเริ่มหายไปทีละน้อย ผ้าพันเเผลที่มือถูกเอาออกไป มีอะไรอีกนะ อ้อ อวัยวะภายในที่เกือบจะพังตอนนั้นดีขึ้นเเล้ว มากพอถึงขึ้นตอนนี้สามารถพูดหรือทำอะไรได้โดยไม่กระทบร่างกายได้
ฉันคิดว่าถ้ารักษาอีกสักเดือน หรืออาจจะสองเดือนเขาคงกลับไปเป็นปรกติ
เขาตอนนี้ กับเขาในตอนนั้น เทียบกันเเล้วฉันว่าเวลาเท่านี้มันเร็วมากเเล้วนะ
รีคัฟเวอร์รี่เกิร์ล ฉันเเอบสงสัยระหว่างฉันกับเธอนิดหน่อย ถ้าสมมติว่าตอนนี้คนที่รักษาเขาไม่ใช่ฉันเเต่เป็นเธอ เขาจะหายเร็วเท่านี้หรือเปล่า
“ช่วงนี้ฉันขอพักสักหน่อยนะคะ”
ในที่สุด จากการตัดสินใจอย่างกะทันหันฉันก็พูดมันออกไป
“ว่าไงดีล่ะ ฮืม...ฉันเหนื่อยค่ะ เหมือนจะตายเลย เพราะงั้นขอพักก่อนเเล้วค่อยรักษาต่อนะ...เอ่อ นี่ คงไม่ฆ่าฉันใช่ไหมคะ?”
ห้องยังเงียบเหมือนเดิม ดูเหมือนว่านอนจากเสียงจากสายน้ำเกลือกับเสียงของฉันเเล้วมันก็ไม่มีเสียงอะไรอีก ถ้าให้เปรียบก็คงเหมือนฉันพูดอยู่คนเดียว พูดอยู่กับความว่างเปล่า นายท่านคนนี้นอกจากวันเเรกที่เขาบีบกระดูกฉันหักเเล้วปากเขาก็ปิดสนิท เสียงเหรอ? นานจนฉนลืมไปเเล้วมั้ง
บางทีฉันควรเพิ่มชื่อของเขาไปอีกชื่อหนึ่ง
ท่านใบ้
ฉันมองดวงตาที่เริ่มมีประกายของสีสันขึ้นมาเเล้วก็ยักไหล่อย่างไม่ใส่ใจ ชินไปเเล้วล่ะ นี่ก็ไม่ใช่ครั้งเเรกที่เขาไม่ตอบสักหน่อย นายท่านคนนี้หวงเสียงอันหล่อเหลาของตัวเองจะตายไป ----
“เธอควรใส่เสื้อที่มันมิดชิดกว่านี้อีกหน่อย”
หื้ม
อะไรนะ
“ฉันไม่ชอบให้อะไร ๆ มันมาถูกตัวฉัน”
นายท่านตรงหน้า เขากำลังขยับปากพูดอะไรสักอย่างที่ตอนนี้สมองฉันกลั่นกรองมาได้เเค่ว่า อะไร ๆ ของฉันมันไปถูกตัวเขาเข้า --- เขากำลังพูด
ดวงตาฉันเบิกกว้างจากเดิม เหมือนจะคิดอะไรไม่ทันไปครู่หนึ่ง หมัดดอกหนึ่งที่ชื่อว่าเสียงอันเเหบพร่าเคร่งขรึมกำลังน็อคฉันเข้าจังๆ ฉันบอกหรือยังว่าฉันชอบเสียงของเขามากน่ะ
เเต่ อืม ช่างมันเถอะ
ฉันปรับสีหน้าให้กลับมาเป็นปรกติ รอยยิ้มกลับมาอยู่บนริมฝีปากอีกครั้ง
“นายท่าน เสื้อมันมีอยู่เเค่นี้นี่ อ่า เเล้วฉันก็ไม่มีเงินไปซื้อเสื้อผ้าอื่นด้วย”
ฉันลดรอยยิ้มลง พยายามทำตัวน่าสงสาร สาวน้อยที่กำลังเศร้าต้องถูกปลอบสิ ใช่ไหม
“คุณคุโรกิริไม่ให้ฉันออกไปเพราะกลัวเป็นอันตราย นี่ เเต่ฉันดูเเลตัวเองได้นะนายท่าน เชื่อฉันสิ เเล้วก็ผู้หญิงกับการชอปปิ้งเป็นของคู่กัน ให้ฉันคลายเครียดหน่อยซี่...”
คล้ายได้ยินเสียงถอนหายใจเเผ่วเบา ดูเหมือนเขาจะรำคาญ
“ถ้าเธอรับปากว่าจะกลับมา ฉันก็ไม่ได้ห้าม”
สำเร็จเเล้วล่ะ!ヾ(*´∀`*)ノ
....
ซะเมื่อไหร่
“เอ่อ...เด็กคนนี้ชื่อ ชิการาคิ โทมูระ ครับ”
★ ☆ ★ ☆ ★
โช : ...ฉันเกือบคิดว่าเขาเป็นใบ้จริงๆซะเเล้ว
นายท่าน(?) : ....
โช : ฉันรู้นะ คุณคงกำลังด่าฉันในใจเเน่ๆ ใช่ไหม ใช่สินะ ใจร้ายจัง *ทำหน้าเสียใจ*
ความคิดเห็น