คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #10 : Liar (n.)
[09] ช่วงเวลา
พอฉันนึกถึงอนาคต ก็คิดในใจว่าดีเเล้วล่ะ
เเสงเเดดเริ่มกลายเป็นสีส้มเมื่อถึงเวลาสี่โมงกว่า ความร้อนอยู่ในระดับที่รับได้ไม่เเสบผิว ฉันก้มมองดูเงาบนพื้นสลับกับประตูใหญ่ของบ้านตระกูลโทโดโรกิ ตอนนี้เงาหัวยังมี เเต่ต่อไปไม่เเน่
น้องน้อยดึงมือฉันเรียกความสนใจ ตาเเป๋วๆเเบบนี้เองที่ทำฉันหน้ามืดตามัว หลงยิ่งกว่าคนมีความรัก เจ็บใจจัง ไหนบอกว่าจะใจเเข็งไง มาเเพ้ง่ายๆเเบบนี้ได้เหรอ
“เข้าบ้านกัน” เขาดึงมือฉันไป “คุณสัญญาเเล้ว”
ฉันนึกย้อนอดีต เเต่ไม่ว่าจะยังไงก็นึกไม่ออกว่าไปสัญญาตอนไหน
รู้สึกโคตรอยากจะเถียงกลับไปว่าเห็นอย่างนี้พี่สาวก็ไม่ชอบสัญญาพล่อยๆนะ โชโตะคุงอย่ากุเรื่องเอาเองสิ -- เเต่พอเห็นดวงตาสองสีใสๆนั่นเเล้วฉันก็ได้เเต่กลืนประโยคนั้นลงคอ เเย้มยิ้มตอบกลับไปอย่างเป็นธรรมชาติ
“อืมๆ สัญญาเเล้วนี่นา”
ฉันก้าวเข้าไปในเขตบ้าน เหลือบมองเงาตัวเอง เอ๋ เเวบนึงเหมือนส่วนหัวจะหายไปหรือเปล่านะ เมื่อกี้เเดดเเรงจนตาพร่าเลย คิดไปเองสินะ คิดไปเองเเหงๆ คิดไปเองเเน่เลย
บ้านตระกูลโทโดโรกิค่อนข้างตื่นตา เป็นบ้านเเบบญี่ปุ่นโบราณขนาดใหญ่ มีน้ำพุใจกลางสระน้ำ มีศาลากลางน้ำ รวมๆเเล้วคือสวยดี โดยเฉพาะต้นไม้กับสวนดอกไม้ที่ถูกจัดเอาไว้เเละตกเเต่งดูเเลอย่างดีนั่น ชวนให้นึกถึงฉากพวกบ้านอลังการๆของตัวละครมีฐานะในการ์ตูน
ไม่นึกว่าจะมีโอกาสเห็นของจริงเป็นครั้งที่สองนะเนี่ย
“โชโตะ! หายไปไหนมาน่ะ!!”
เสียงเรียกดังขึันพร้อมๆกับเสียงฝีเท้าอันรวดเร็ว พวกเขาวิ่งมา เสียงสองเสียงเเทบจะตะโกนออกมาพร้อมๆกันเมื่อเห็นหน้าน้องคนสุดท้อง -- อ๊ะ มาหลบหลังฉันไม่ได้นะ นั่นครอบครัวเธอไม่ใช่หรือไงโชโตะคุง
พี่สาว ‘โทโดโรกิ ฟุยูมิ’ มีผมสีขาวเเซมเเดง ใส่เเว่นตา ท่าทางเรียบร้อยชวนให้นึกถึงเด็กเรียนที่นั่งอยู่หน้าห้อง ดูคร่าวๆอายุน่าจะประมาณ17-18
ส่วนพี่ชาย ‘โทโดโรกิ นัตสึโอะ’ มีผมขาว ร่าเริงสมสมวัย อายุตอนนี้น่าจะ15-16 ได้
ถ้าจะให้เจาะจง อืม พวกเขาหน้าตาดี มีออร่าสะดุดตา ไม่เเปลกใจเท่าไหร่ ก็เป็นครอบครัวตัวเอกที่ค่อนข้างมีบทบาทนี่ จะวาดให้หน้าโหลก็คงไม่ได้
“พวกพี่เป็นห่วงมากเลยรู้ไหม…” ฟุยูมิมีสีหน้าเหมือนจะร้องไห้ เธอถอดเเว่นก่อนจะยกมือเช็ดน้ำตาที่คลออยู่ออก “นึกว่าจะเป็นอะไรไปซะเเล้ว”
ในที่สุดเด็กชายที่ยืนหลบข้างหลังฉันเมื่อกี้ก็ออกมาเผชิญหน้า ถึงจะอย่างนั้นก็เถอะ เอ่อ ช่วยปล่อยมือที่จับชายเสื้อฉันไว้ได้หรือเปล่า มันจะยืดหมดเเล้วนะน้องชาย
เด็กพวกนี้ทำไมชอบดึงเสื้อนักนะ นายน้อยด้วย อ่า นายน้อยโทมูระอีกคน เสื้อฉันมันมีอะไรหรือเปล่า
“ช่างเรื่องนั้นไปก่อนเถอะพี่”
คราวนี้พี่ชายของเขาหันหน้ามามองฉัน หรี่ตาลงอย่างไม่ไว้ใจ
“ว่าเเต่เธอเป็นใครน่ะ?”
ไม่ไหวๆ จิตใจฉันมันไม่ไหวเเล้ว ทำไมเจอเเต่สายตาหวาดระเเวงเเบบนี้นะ หน้าตาฉันหรืออะไรที่มันทำให้ดูไม่น่าไว้ใจเหรอไง อยากร้องไห้ชะมัดเลย
“เอ่อ เธอที่ว่าหมายถึงฉันใช่ไหมคะ?” ชี้นิ้วมายังตัวเอง ทำท่าเขินอาย “คือว่า พอดีฉันหลงทางน่ะค่ะ จากนั้นก็เจอโชโตะคุง อ่า...เกิดเรื่องหลายเรื่องเลย”
กะพริบดวงตาที่คล้ายไม่ได้โกหกอะไร เลื่อนไปสบสายตากับนัตสึโอะที่หน้าเเดง จากนั้นจึงคลี่รอยยิ้มที่คิดว่าอ่อนหวานที่สุดจนดวงตาหยีลง ช่วงจังหวะพอดีกับที่กลีบซากุระสีชมพูปลิวมาตกลงบนเส้นผมที่ไหวไปตามสายลม
“ยินดีที่ได้รู้จักนะคะ โช...เรียกฉันว่าโชก็ได้ค่ะ”
นัตสึโอะเลื่อนสายตาลง เหมือนจะหลบเลี่ยงการสบตากับฉัน อืม ก็อยู่ในช่วงวัยรุ่นวัยว้าวุ่นนี่นะ เริ่มสนใจผู้หญิงเเล้วสิ ไม่เป็นไรๆ ฉันเข้าใจ ในหนังสือบางเล่มรักกันตอนเด็กยังมีเลย
“ผะ ผมโทโดโรกิ นัตสึโอะครับ ส่วนพี่สาวโทโดโรกิ ฟุยูมิ” เขาเเนะนำตัวกลับเสียงตะกุกตะกัก “เเล้วรอยที่คอของคุณ...”
คำถามเดิมรอบที่...จำไม่ได้เเล้ว
ฉันอยากจะกลอกตา เเต่คิดดูเเล้วคงไม่ดีเเละขัดต่อภาพลักษณ์ผู้หญิงที่สร้างไปเมื่อกี้ ดังนั้นจึงปั้นสีหน้าลำบากใจ เบนสายตาขมขื่นมองไปทางอื่น มือพยายามขยับคอเสื้อมาปิดรอยไว้ รู้อยู่เเก่ใจว่าปิดยังไงก็ไม่มิดหรอก
“คือว่า...มีปัญหานิดหน่อยน่ะค่ะ”
ดูอ่อนเเอดีใช่ไหมล่ะ
ฉันเเสดงเป็นนางเอกขนาดนี้เเล้ว พ่อพระเอกก็ช่วยเสริมขึ้นมาหน่อยซี จะเอาเเต่เงียบไม่ได้หรอกนะ ขืนให้พี่สาวพูดออกไปมากกว่านี้ล่ะก็เรื่องโกหกคงเยอะเกินจำไหวเเน่
“เธอจะมาดูเเลผม” ดีมากน้องน้อย เขาออกมายืนหน้าฉันเต็มตัวเเล้ว พระเอกจิ๋วเผชิญหน้ากับพวกพี่สาวพี่ชายอย่างมุ่งมั่น “ไม่ได้...เหรอครับ”
ตอนท้ายเขาทำหน้าสลด พูดเสียงหงอๆ
ท่าทางเเบบทำฉันใจอ่อนระทวย อยากจะทรุดลงไปกอดขาเขาเเล้วบอกว่าอยากได้อะไรบอกมาเลยจ้ะ พี่สาวจะประเคนให้หมดเลย -- อา เป็นเด็กชายที่มีอิทธิพลสูงในหลายความหมายจริงๆ
“โชโตะเหงาสินะ พี่กับนัตสึโอะช่วงนี้ก็ไม่ค่อยมีเวลาด้วย” ฟุยูมิยิ้มกว้าง ดวงตาอ่อนลง “พี่จะลองไปขอพ่อให้นะ”
“หึ” นัตสึโอะเเค่นหัวเราะ กอดอก “คิดว่าคนอย่างเขาจะอนุญาตเหรอครับ ขนาดพวกเราที่เป็นลูกเเท้ๆยังไม่ให้เข้าใกล้โชโตะ...ไม่สิ ไม่ใช่ลูกเเต่เป็นผลงานที่ผิดพลาดสินะ?”
สีหน้ากับน้ำเสียงเเบบว่า เฮ้อ คุณฮีโร่อันดับสองตัวจริงต้องน่าหมั่นไส้ ไม่ก็นิสัยเสียเเหงๆ รู้หรือเปล่าว่าน้ำเสียงลูกชายที่พูดถึงเขาไม่ต่างกับพูดถึงคนเเปลกหน้าเลย
ฉันลองเหลือบมองหน้าโชโตะคุง -- หวา สายตาเมื่อได้ยินชื่อพ่อนี่น่ากลัวจังเเฮะ ต่างกับนัตสึโอะผู้เป็นพี่ชายหน่อยเดียวคือเก็บท่าทางอารมณ์ได้ดีกว่า ไม่เอาน่า ความน่ารักจะหายหมดนะ
ท้องฟ้าเริ่มกลายเป็นสีหม่น เข็มนาฬิกายังเดินไปทุกวินาที
ฉันรู้สึกปวดขาขึ้นมา อีกนิดเดียวอาจจะเป็นตะคริวได้ อยากได้เก้าอี้สักตัวจริงๆ เเต่คงต้องยืนรอไปก่อนสินะเพราะตัวละครฉากนี้ยังมาไม่ครบ
“หายไปไหนมา”
เสียงหนึ่งดังขึ้น นัตสึโอะกับฟุยูมิหันหลังไปมอง น้องสาวใส่เเว่นสีหน้าฝืดเฝื่อน นัตสึโอะคือโกรธ เยาะเย้ย หรืออะไรก็ตามที่เเสดงให้เห็นว่าไม่ถูกกับไอ้หมอนี่ -- ส่วนโชโตะ อา อย่าสร้างพายุน้ำเเข็งสิ
ฉันลองมองตามไปบ้าง พ่อของเหล่าตัวเอกพวกนี้คือฮีโร่อันดับสอง ผมสีเเดงชี้ขึ้น ใบหน้าคมประดับด้วยดวงตาเเข็งกร้าว ริมฝีปากเรียบตึง ยิ่งมีหนวดเครา รวมกับกล้ามเนื้อตามร่างกาย อืม น่ากลัวนิดๆนะเนี่ย ดูไม่อ่อนโยนเลย
เอนเดฟเวอร์ -- โทโดโรกิ เอ็นจิ
สายตาไม่เป็นมิตรมองฉัน เหมือนกับกำลังถามว่า ‘เธอเป็นใคร?’ อย่างไรอย่างนั้น
ขอบคุณจริงๆที่เขายังไม่มีท่าทีคุกคามอะไร ไม่งั้นฉันเเย่เเน่ๆ ร่างบอบบางของฉันอาจจะบุบสลายเพราะกล้ามเนื้อกับเเรงมหาศาลของเขาก็ได้
“โชโตะ เเกพาใครเข้ามา”
เสียงน่ากลัวชะมัด สายตายังโหดอีก น่าสงสัยจริงๆว่าตอนที่เขาไปช่วยเด็ก เด็กจะกลัวเขามากกว่าพวกวิลเลินหรือเปล่า
“พ่อคะ...คือว่าหนูมีเรื่องจะขอ คือว่าให้เธอมาดูเเลโชโตะ...” ฟุยูมิเกริ่น ใบหน้าเเละน้ำเสียงกล้าๆกลัวๆเหมือนรู้ว่าพ่อตัวเองตอนนี้อารมณ์ไม่ดีนัก -- เเหงสิ คิ้วขมวด ออร่าอึมครึม หน้าบึ้งซะเเบบนี้ขนาดฉันยังดูออกเลย
“ฉันไม่อนุญาต” น้ำเสียงเขาเฉียบขาด สายตาไล่ให้ไปไกลๆส่งมาที่ฉัน “การที่มีคนนอกเข้ามายุ่งเเบบนี้มันจะส่งผลต่อการฝึก”
เขาปรายหางตามองฉันอย่างเย็นชา เห...ฉันคิ้วกระตุกขึ้นมา รอยยิ้มบนใบหน้าเริ่มไม่สดใสน่ารักเหมือนตอนเเรก ไอ้บ้านี่ น่าหมั่นไส้ชะมัด
“จะมากเกินไปเเล้วนะ!”
เปล่านะ ไม่ใช่เสียงฉัน เสียงนัตสึโอะต่างหาก
หน้าตาเขาเหมือนพร้อมจะเข้ามาต่อยพ่อตัวเองเต็มที่ มือกำหมัดเเน่น ขบกรามกรอด เเบบว่า ถ้าไม่มีสีผมกับบางอย่างที่คล้ายคลึงกันล่ะก็ฉันคงสงสัยว่าเป็นคนเเปลกหน้ากันหรือเปล่า ฮีโร่อันดับสองคนนี้มีครอบครัวอบอุ่นจริงๆ
“พวกเราไม่ใช่เครื่องมือของคุณ! โชโตะก็ด้วย! ตอนที่เเม่เสียไปคุณยังคิดไม่ได้อีกเหรอ ทั้งหมดที่มันเป็นเเบบนี้สาเหตุก็มาจากคุณทั้งนั้น!”
ฉากทะเลาะขึ้นเสียงต้องมา
นัตสึโอะเหมือนสติเเตกไปเเล้ว เขาตะโกนเสียงดังจนฉันสะดุ้งโหยง น้องชายที่หน้าเเดงพูดเเนะนำตัวเสียงตะกุกตะกักตอนเเรกหายไปไหน มีอะไรเข้าสิงเขาหรือเปล่า
อื๋อ? ไม่ใช่สิ ฉันได้ยินนะที่บอกว่าเเม่เสียไปน่ะ ตายเเล้วเหรอ เเต่ดูจากสีหน้าโกรธเกรี้ยวขั้นสุดนั่นเเล้วไม่น่าจะใช่เรื่องหลอกนะ -- อ่า Butterfly Effect หรือไงกันนะ งั้นน้องน้อยของฉันก็อยู่คนเดียวสิเเบบนี้
“หึ พวกเเกเป็น เเต่ต่างกับโชโตะที่เป็นผลงานสมบูรณ์เเบบ พวกเเกอยู่ในโลกที่ต่างกัน อัตลักษณ์ของเขาถ้าฝึกให้มันดีๆอีกไม่กี่ปี...”
ดวงตาคู่นั้นเเฝงความทะเยอทะยานชัดเจน
“ก่อนที่จะถึงวันนั้น ฉันไม่อยากให้สภาพเเวดล้อมทำให้อะไรเปลี่ยนไป”
เขาหยุดชะงักไป ดวงตาวูบไหวเเต่ก็กลับมาเป็นเหมือนเดิมในเสี้ยววิ ก่อนจะหันมามองฉัน
“ส่วนเธอ ออกไปได้เเล้ว”
หงุดหงิดจัง
ชายเสื้อฉันถูกดึงอีกครั้งด้วยมือเล็กๆเหมือนกับกำลังจะบอกว่าอย่าไปทำตามที่เขาบอก ดวงตาสองสีเมื่อมองไปที่พ่อของตัวเองเเข็งกร้าวเย็นชาขึ้น ใจฉันกระตุกขึ้นมา ถึงเป็นเเบบนี้ก็ยังหล่อจังเลยน้า
ฉันลองมองขึ้นไปข้างบน ท้องฟ้าเริ่มมืดลงทุกที
นาฬิกาบอกเวลาหกโมงกว่า ฉันสงสัยจังว่านายน้อยกลับหรือยัง กินข้าวอะไรหรือยัง คงไม่ใช่ว่ากำลังตามหาฉันต่อหรอกนะ อากาศช่วงนี้ก็เริ่มหนาวเเล้วด้วย
“ฉันขอพูดอะไรสักหน่อยได้ไหมคะ?”
ฉันคลี่ยิ้มให้โชโตะคุง ลูบผมนุ่มๆ จากนั้นเดินไปใกล้เอนเดฟเวอร์ -- ลมที่พัดมาอดทำเอาตัวสั่นไม่ได้ ขอล่ะ นายน้อยอย่าอยู่ข้างนอกเลย ฉันกลัวว่าเขาจะเป็นหวัด ดีไม่ดีอากาศเย็นเเบบนี้เป็นไข้คงเเย่
“เมื่อกี้ฉันฟังอยู่น่ะค่ะ ที่คุณพูดว่าโลกเเตกต่างอะไรสักอย่าง...นั่นหมายถึงอัตลักษณ์ใช่หรือเปล่า ที่ไล่ฉันเพราะว่าฉันเเตกต่างกับเขาสินะ”
ฉันถูจมูกที่ตอนนี้คงเเดงก่ำของตัวเอง ชี้นิ้วมาที่คอตัวเอง เกี่ยวไหม ก็ไม่หรอก เพียงเเต่ว่าถ้าทำให้ดูน่าสงสารมีเรื่องมีราวมากขึ้นการตัดสินใจจะง่ายกว่าใช่มั้ยล่ะ
“ตอนนี้ฉันมีปัญหานิดหน่อยน่ะค่ะ พอดีกับที่โชโตะคุงมายื่นข้อเสนอ เเล้วฉันก็สัญญากับเขาไปเเล้วด้วยสิ เพราะงั้นถ้าฉันทำให้คุณสนใจเเละเปลี่ยนความคิดว่าพวกเรามีโลกต่างกันอะไรนั่นได้...”
เเบมือสองข้างออก อยากจะถอนหายใจซะตรงนี้จริงๆ เเค่ออกไปตั้งเเต่เขาไล่ก็จบเเล้วเเท้ๅ
เเต่พอนึกถึงใบหน้ากับดวงตาสองสีตัดพ้อเเล้วก็ --- ฮือ พี่สาวยอมเเล้ว ยกให้หมดใจเลย
เปลวไฟสีเเดงเต้นเร้าบนฝ่ามือข้างซ้าย ความเย็นเเช่เเข็งที่ฝ่ามือขวา
“ช่วยพิจารณาเรื่องฉันอีกครั้งได้ไหมคะ?”
ถ้าเขายังเป็นฮีโร่ผู้มีคุณธรรม
ก็โปรดรับคนจรจัดน่าสงสารคนนี้ไว้หน่อยเถอะ
★ ☆ ★ ☆ ★ ☆
โช : ความจริงเเล้วฉันเก่งล่ะ (・▽・)
โช : ฮีโร่กล้ามเเน่นทุกคนเลย *มองตาละห้อย* เเต่ถ้าฉันเข้าไปนัวเนียตอนนี้จะโดนเฉดหัวทิ้งหรือเปล่านี่สิ
ตัดภาพมาที่อีกฝั่ง
นายน้อย(?) : ...
นายน้อย(?) : หิว
ความคิดเห็น