คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #1 : การรักษา
[00] ความหวังของเหล่าร้าย
อัตลักษณ์ พลังวิเศษ อาชญากรรม การช่วยเหลือ
“ฮีโร่! พวกเขามาช่วยเราเเล้ว!!!”
ฉันได้ยินเสียงร้องตะโกนอย่างยินดีจากที่ไกลๆ ดังมาก จนหากยืนที่จุดกำเนิดเสียงหูฉันคงดับไปแล้ว หากนะ เพราะความเป็นจริงคือตอนนี้ฉันอยู่ที่ไกลจากผู้คนมากๆ เเบบมากๆเลย และแน่นอนว่าคงไม่มีใครกล้าตามมา
ฉันยืนอยู่ท่ามกลางซากปรักหักพังจากตึกที่ถล่มลงมา สถานที่ที่คนปรกติควรหลีกให้ห่าง กลุ่มเปลวเพลิงยังคงลุกโชติช่วงเหมือนไม่มีวันดับลง เสียงกรีดร้องดังเเว่วมาเรื่อยๆ ไม่ต้องเดาเลยว่าคงเป็นผู้เคราะห์ร้าย ไฟพวกนี้คงร้อนมาก
ท้องฟ้าวันนี้ดูไม่ค่อยสดใสนัก สีของมันมืดครึ้มชวนให้นึกถึงสีน้ำที่บีบผสมกันมั่วๆ ส่วนอุณหภูมิของอากาศค่อนข้างบอกได้ยาก มันทั้งเย็นเพราะนี่อยู่ในช่วงฤดูหนาว เเละมันก็ร้อนเพราะไฟที่ลุกไหม้จากอัตลักษณ์ของพวกฮีโร่หรือไม่ก็พวกวิลเลิน
กลิ่นเหม็นไหม้ลอยเข้าจมูก ทั้งฉุนเเละเเสบไปหมด ฉันจามออกมาก่อนจะถูจมูกที่ค่อนข้างเเดงของตัวเอง มือขยับเลื่อนผ้าพันคอสีเเดงหม่นมาปิดใบหน้าครึ่งล่างเอาไว้ ก่อนจะก้าวขาเดินต่อไป
ข้างหน้านั่น ประมาณว่าอีกสิบถึงยี่สิบก้าวจะเป็นตรอกซอยที่ยังไม่ถูกพังลงไป โห โชคดีจริง ตรอกนั่นดูเป็นสถานที่หลบชั้นเยี่ยมเลยนะ หนีด้วย สถานที่วาร์ปชั้นเยี่ยม ถ้าฉันเป็นวายร้าย - ไม่ต้องเดาเลย ฉันก้าวขาผ่านเปลวเพลิงไปอย่างไม่ลังเล เป้าหมายคือตรอกหลบภัยนั่น
ฉันเริ่มเข้าใจความรู้สึกของผู้เคราะห์ร้ายขึ้นมานิดหน่อยตอนที่ไฟสีเเดงเผาลามผิวหนัง มันค่อนข้างร้อนในระดับหนึ่ง ทว่าก็อุ่น ดีจริง อย่างน้อยในสภาพอากาศเย็นเเบบนี้ตัวฉันก็ไม่เเข็งตาย
ฉันเดินเร็วนะ เพราะอย่างนั้นไม่นานก็มาถึงตรอกที่ว่า
อย่างเเรกที่ไม่น่าประทับใจคือกลิ่นเหม็นเน่า หนักกว่ากลิ่นฉุนไหม้ของเปลวไฟ ยิ่งในตอนที่ฉันเลื่อนมือไปดึงผ้าพันคอลงมากลิ่นเหม็นเน่าก็ยิ่งชัดเจนกว่าเดิม ฉันรีบปิดปากในทันทีเมื่อรู้ว่ามีของเหลวมาจุกที่ลำคอ น้ำตารื้นขึ้นมานิดนึงเเต่ก็ยังไม่หยดลงเพราะฉันเช็ดมันออกก่อน
เริ่มถึงเวลาค่ำเเล้ว พระอาทิตย์ตกดิน
ใต้เงามืดในตรอกซอย ฉันเห็นคนกลุ่มหนึ่ง
หนึ่งในนั้นบาดเจ็บหนัก กลิ่นเลือดคลุ้งพอๆกับกลิ่นเหม็นเน่าของขยะ เหมือนจะสลบแต่ก็ไม่ ใบหน้าของเขาเต็มไปด้วยรอยบาดเเผลน่าเกลียดเกินคนจะนึกออก หนึ่งในนั้นบาดเเผลคงมาจากการที่ถูกไฟเผาไหม้ ดวงตาของเขาเลื่อนลอยเหมือนคนไม่มีสติ ร่างสูงใหญ่ประดับด้วยรอยเเผล เสื้อขาด --
บาดแผลใหญ่ชนิดที่ว่าความตายอยู่ใกล้นิดเดียว
เเต่ยังไม่ทันที่จะได้ชื่นชมความอดทน -- มันเร็วมากๆ มีดถูกจ่อรอบลำคอของฉัน ฉันหลุบตาลงต่ำ ประกายสีเงินของใบมีดทำเอาฉันตาพร่าไปพักหนึ่ง มีดนั่นไม่ต้องบอกก็รู้ว่าคมมาก
มันใกล้ชนิดที่ว่าถ้าขยับปุ๊บ คอฉันอาจจะหลุดจากตัว
หรือไม่ก็เป็นคนถือมีดเอง
คนธรรมดาไม่มีทางทำเเบบนี้ได้หรอก เขาคงจะเป็นพวกตัวร้าย
เสียงขู่คำรามดังใกล้หู
“อัตลักษณ์ของเเกคืออะไร?”
ฉันบอกไปหรือยังว่าฉันอ่อนไหวง่าย
ใจเต้น ใจสั่น เสียงเหี้ยมเกรียมทำฉันขนลุกขึ้นมา
มีดยังจ่อคอที่เดิม เขาเค้นถามอีกครั้ง เสียงดังขึ้น “รีบบอกมา!”
มันดูร้อนรน ลึกลงไปยังมีความตื่นตระหนก ความกลัว สาเหตุคงเป็นเพราะผู้ชายที่บาดเจ็บอยู่นั่น หัวหน้าไม่ก็คนที่สำคัญมากๆสินะ? ถ้าปรกติมีผู้หญิงเเปลกหน้าอย่างฉันเดินเข้ามาพวกเขาคงไม่ถามเเละไม่ลังเลที่จะลงมือ เเต่นี่ไม่ใช่
มนุษย์ลึกลงไปยังมีความหวังอยู่ เเม้จะรู้ทั้งรู้ว่าเป็นไปไม่ได้ก็ตาม
เขาคงกำลังคาดหวังอะไรสักอย่างในตัวผู้หญิงอย่างฉัน ในหัวคงวุ่นเหมือนเส้นด้ายที่พันกัน
ความคิดของเขาก็อย่างเช่น ทุกคนต่างมีอัตลักษณ์ใช่ไหมล่ะ หัวหน้าเรากำลังจะตาย ถ้ารักษาได้ล่ะก็…
นี่คงไม่คิดถึงความเป็นไปได้อีกอย่างเลยใช่ไหม? -- อย่างเช่นที่ว่าฉันไม่มีอัตลักษณ์ หรือเป็นเเค่คนธรรมดาที่เข้ามาหลบภัยน่ะ
ฉันขบปากดึงสติตัวเอง เมื่อกี้เกือบจะหลุดหัวเราะออกไปเเล้วเชียว
“คุณคนนั้นน่ะ ฉันรักษาเขาได้นะ”
สัตว์ร้ายมักจะมีปฏิกิริยากับความอันตราย หนึ่งในพวกเขาที่คอยพยุงหัวหน้าท่าทางระวังขึ้น
ฉันไม่รู้ว่าตัวเองพูดด้วยน้ำเสียงหรือเเสดงสีหน้าเเบบไหนออกไป รู้เเต่ว่ามีดจ่อเข้ามาใกล้ขึ้นจนมันบาดลำคอของฉัน ของเหลวสีเเดงไหลออกมาพร้อมๆกับความเเสบที่รอบลำคอ
พวกเขาไม่รู้หรอกว่าเลือดหยดหนึ่งของฉันมีค่าขนาดไหน เพราะถ้าพวกเขารู้ พวกเขาต้องร้องไห้ด้วยความเสียดายเเน่
“ถ้าไม่รักษาเขาต้องตายแน่ ๆ เลยค่ะ”
ฉันเงยหน้ามองท้องฟ้าที่ถูกความมืดกลืนกิน ตอนนี้เวลาผ่านไปเท่าไหร่เเล้วนะ เเย่จริงที่ฉันไม่มีเงินพอซื้อนาฬิกาสักเรือน
ฉันเลื่อนสายตามาสบตาคนที่คอยหยุงหัวหน้าเเละดูเหมือนตอนนี้คนที่จ่อมีดกับคอฉันอยู่จะเชื่อฟังเขา
“ลำพังเเค่คุณขยับนิ้วก็ฆ่าฉันได้อยู่เเล้ว ทำไมไม่ลองเชื่อว่าฉันรักษาเขาได้สักหน่อยล่ะคะ”
เหมือนพวกเขากำลังตัดสินใจ ฉันกลอกตา อยากจะบอกเหลือเกินว่ารีบๆหน่อย ฮีโร่น่ะก็มีสมองนะ ตราบใดที่ยังไม่เห็นซากของพวกก่อการร้ายพวกเขาไม่มีทางหยุดค้นหาหรอก
ตรอกนี่ก็ใช่ว่าจะลับอะไรขนาดนั้น เเละดูจากสภาพของเเต่ละคน ขืนโดนเจอก็จบเห่กันพอดี
ทันทีที่พวกเขาดูเหมือนจะตัดสินใจอะไรได้ หมอกควันสีดำเกิดขึ้นมาพร้อมกับมีดที่ถอยห่างออกไป ฉันถูกดึงตัวเข้าไป คนที่ถือมีดตามประกบข้างไม่ให้เล่นอะไรตุกติก
หนึ่งในพวกเขามีอัตลักษณ์วาร์ป ฉันขอเดาว่าเขาชื่อคุโรกิริ
ในตอนที่หมอกควันจะจางหายไป ดวงตาฉันสะท้อนภาพของเปลวเพลิงที่เริ่มจะมอดดับเพราะอัตลักษณ์ของหนึ่งในเหล่าฮีโร่
เสียงร้องยินดีดังกว่าครั้งไหนๆ ชื่อของออลไมท์ถูกตะโกนขึ้นมาดังชัดเจนกว่าใคร ดูเหมือนว่าฮีโร่ทำสำเร็จเเล้ว การก่อการร้ายครั้งนี้ล่มไม่เป็นท่า
เสียงพวกนี้ทำฉันเเสบเเก้วหูจริงๆ
[0.5] การช่วยเหลือที่สมควรถูกประณาม
พวกเขาดูเหมือนจะวางใจฉัน
ไม่รู้สิ อาจจะไม่ก็ได้ เเต่เเล้วยังไงล่ะ ในตอนนี้เขามีทางเลือกเหรอ หื้ม
ที่ซ่อนตัวของพวกเขาอยู่ในตึกอะไรสักอย่างที่ฉันไม่รู้จัก ห้องค่อนข้างกว้าง มีห้องย่อยอีกต่างหาก โชคดีจริงๆ เหล่าร้ายพวกนี้น่าจะมีเงินอยู่พอควร ใช่มั้ย?
ในห้องห้องหนึ่งจากเหล่าห้องทั้งหลาย เหล่าร้ายพาฉันมาที่นี่ หัวหน้าของเขาถูกวางไว้ที่เตียงเหมือนเตียงในโรงพยาบาล เลือดจากบาดเเผลของเขาซึมเข้าไปในผ้าปูเตียงสีขาว ดวงตาของเขาปิดลงไปเเล้ว ลมหายใจเเม้จะเเผ่วเบาเเต่ก็ยังมีอยู่
พลังใจล้นเหลือ คงไม่ยอมตายหากอุดมการณ์ยังไม่สำเร็จ ฉันนับถือเขานะ
คนที่เคยจ่อมีดกับคอฉันตอนนี้กำลังวิ่งวุ่น เดาว่าคงไม่มีความสามารถในเรื่องรักษาเท่าไหร่ ล่าสุด วินาทีที่เเล้วเขาวิ่งออกจากห้องไปไหนก็ไม่รู้ ทิ้งฉันไว้กับเจ้าของอัตลักษณ์วาร์ปเกท - คุโรกิริ
ดวงตายังจับจ้องมองมาเเบบไม่กะพริบ เหมือนกดดันกลายๆว่าถ้าฉันไม่รักษา หรือหัวหน้าของเขาเป็นอะไรไป ฉันตาย ใช่สิ คนตายพูดไม่ได้นี่
เเสงไฟในห้องทำฉันตาพร่ามัวไปสักหนึ่ง เเต่ยังไงตากับขาก็เป็นอวัยวะคนละส่วนกัน ในขณะที่ฉันหรี่ตาลงเพื่อปรับสภาพดวงตาขาทั้งสองข้างก็ก้าวเดินไปหยุดที่ข้างเตียงของเขา
ฉันวางมือไว้บนท่อนเเขนชุ่มเลือด น่าเสียใจที่เขายังไม่ลืมตาขึ้นมา ฉันก็เลยถูกเพ่งเล็งจากคุโรกิริมากกว่าเดิม เเบบว่า ถ้าครั้งต่อไปหัวหน้ายังไม่ลืมตาขึ้นมา ฉันตรียมตัวโดนเชือดได้เลย
น่ากลัวจัง
ตัวสั่นไปหมดเลย
ฉันหลุบสายตามองเขาอีกครั้ง ในสภาพที่ใกล้กันทำให้เห็นอะไรหลายอย่าง บาดเเผลที่ใบหน้าคงยากที่จะเเก้ไข ตั้งเเต่กระโหลกลงมาผิวหนังของเขาถูกไฟไหม้ มันบิดเบี้ยวเเทบนึกโครงหน้าเดิมไม่ออก
เเต่ที่รู้ ๆ เขาดูดีนะ อย่างน้อยคาง จมูก เเละริมฝีปากที่เหลืออยู่สภาพก็สมบูรณ์เเบบไร้ที่ติ เเม้ว่าทั้งหมดที่ฉันว่ามามันจะเปื้อนเลือดอยู่ก็ตาม
ฉันเลื่อนมือไปสัมผัสริมฝีปากของเขา ก่อนจะก้มหน้าลงไปท่ามกลางความตกใจของคนในห้อง
เลือดจากเขามันติดอยู่ที่ปลายลิ้น คาวเเละเค็มปร่า
หนังสือที่บอกว่ารสของจูบเเรกน่ะหอมหวาน เหมือนตัวลอยได้อะไรนั่น เเม่ง โกหกทั้งเพ
ฉันผละใบหน้าออกมา ปาดคราบเลือดบนปากตัวเอง ครั้งนี้เขาลืมตาขึ้นมาเเล้ว เเม้ว่าจะเป็นเเค่การปรือตาอย่างเลื่อนลอยก็ตาม เเต่ยังไงฉันก็อดดีใจไม่ได้จริงๆ ไม่เกิดเหตุฆาตกรรมเเล้ว
คุโรกิริเหมือนตกใจจนช็อค เเต่ก็ช่างมันเถอะ
ฉันก้มลงไปบดริมฝีปากกับเขาอีกครั้ง รสเลือดจางลงไปกว่าครั้งเเรกถึงจะลึกซึ้งกว่าเดิม ฉันสัมผัสได้ถึงความชื้นเเฉะที่ริมฝีปากเเละปลายลิ้น
อย่างน้อยก็ไม่ตายเเล้ว
เขาคือออลฟอร์วัน - ผู้อยู่เบื้องหลังเหล่าวิลเลิน
จูบเเรกของฉันกับคนใหญ่คนโต
เเหม ดีใจจนน้ำตาจะไหลเลยเนี่ย
★ ☆ ★ ☆ ★ ☆
ความคิดเห็น