คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #70 : ปาร์ตี้ก่อนไปเรียน...
หลังจากที่ฉันระบายเรื่องที่เกิดกับตัวเองให้ลิลลี่และคริสตน่าฟังฉันก็เริ่มกลับมาร่าเริงไม่นั่งเงียบหรือออกไปนั่งท่ามกลางหิมะอีกไม่รู้ตอนนั้นฉันคิดยังไงถึงออกไปนั่งกลางหิมะคงจะอารมณ์นางเอกเอ็มที่กำลังอกหักล่ะมั้ง..
"เรามาจัดปาร์ตี้กันก่อนไปเรียนพรุ่งนี้ดีมั้ย?" คริสติน่าถามความเห็นทุกคน
"ดีสิเปิดเพลงด้วยได้มั้ย?" ฉันถามคริสติน่า
"แน่นอน! มีไมค์ไว้ร้องเพลงด้วยนะ" คริสติน่าพูด
"ยิ่งดีเข้าไปใหญ่เลย! ว่าแต่คุณรีโต้กับคุณนายเรต้าจะอนุญาติหรอ?" ฉันพูดก่อนจะถามว่าพ่อกับแม่คริสติน่าจะอนุญาติรึเปล่าแต่จะว่าไปพวกฉันเจอกับพวกเขาแค่สองครั้งเองเพราะพวกเขาไปทำงานที่ต่างประเทศ
"ฉันขออนุญาติเรียบร้อยพ่อกับแม่บอกว่าจัดได้เพื่อแทนการขอโทษที่ไปส่งพวกเราไม่ได้" คริสติน่าบอกไคลีย์ ตอนนี้พ่อกับแม่ฉันกำลังทำงานอยู่ที่ต่างประเทศปกติฉันจะต้องไปด้วยแต่โชคดีที่มีเพื่อนอยู่ฉันเลยไม่ต้องไปนั่งหลังขดหลังแข็งในรถ
"มันต้องอย่างนี้สิ!" ซีเรียสพูดก่อนจะร้องออกมาด้วยความดีใจ
"งั้นฉันไปบอกแม่บ้านให้เตรียมน้ำกับขนมให้นะ" คริสติน่าพูดก่อนจะเดินไปบอกกับแม่บ้านเพื่อให้เธอเตรียมของสำหรับปาร์ตี้ให้แล้วค่อยเดินมารอกับเพื่อน
"นี่ขอถามอะไรหน่อยสิทำไมบ้านเธอถึงไม่ใช้เอลฟ์ล่ะ?" เจมส์ถามคริสติน่าด้วยความสงสัย
"แม่ฉันชอบคนมากกว่าเพราะดูธรรมดาดีเอาง่ายๆก็คือแม่ยังไม่ชินกับเวทมนตร์น่ะ" คริสติน่าบอก
"แล้วเธอไม่กลัวความลับที่ว่าเป็นแม่มดแตกหรอ?" รีมัสถาม
"ไม่นะ" คริสติน่าพูด
"ทำไมล่ะ?" ซีเรียสถามต่อ
"แล้วใครเขาจะเอามักเกิ้ลมากันแม่บ้านที่นี่ล้วนแต่เป็นสควิบกันหมดเพื่อความสบายใจอย่างน้อยพวกเธอก็รู้เรื่องเวทมนตร์บ้างแค่อาจใช้มันไม่ได้แต่เราก็ไม่กดขี่พวกเขาหรอกนะใครอยากหยุดวันไหนก็ได้แค่ต้องเปลี่ยนกันหยุดเงินก็จ่ายให้ทั้งเงินมักเกิ้ลและเงินเกลเลียน" คริสติน่าพูด
"สุดยอดว่าแต่เธอรับแม่บ้านเพิ่มมั้ย?" ฉันถามอย่างติดตลกแต่คิดจริง
"รับแต่ไม่ใช่แม่บ้านทำความสะอาดหรอกนะ" คริสติน่าบอก
"ฉันทำอาหารไม่เป็นนะบอกไว้ก่อน" ฉันพูด
"คนละแม่บ้านกันแม่บ้านที่ฉันหมายถึงคือ..." คริสติน่าที่กำลังจะหยอดไคลีย์ก็โดนขัดจังหวะซะก่อน
"เตรียมของเสร็จแล้วค่ะคุณหนู" แม่บ้านที่ดูจะอายุเยอะที่สุดเดินมาบอกคริสติน่า
"ไปปาร์ตี้กันทุกคน!" คริสติน่าพูดก่อนจะพาเพื่อนๆไปที่ห้องจัดเลี้ยงที่ขนาดไม่ใหญ่มาก อีกแค่นิดเดียวเธอก็จะหยอดไคลีย์สำเร็จไม่น่าเลย
คริสติน่าพาทุกคนมาที่ห้องจัดเลี้ยงก่อนที่ทุกคนจะเริ่มปาร์ตี้กันการปาร์ตี้ครั้งนี้ไม่มีแอลกอฮอล์มีแค่น้ำโค้กกับน้ำผลไม้ทุกคนดูสนุกกันมากจะมีแค่เซเวอร์รัสและเรกูลัสเท่านั้นที่นั่งมองนิ่งๆรีมัสเองก็โดนเจมส์ลากออกไปเต้นด้วยส่วนไคลีย์นั้น....
"แต่อย่ามาจิ๊จ๊ะให้มันมากไปมันจะเป็นบ้าเรื่องเล็กจะกลายเป็นเรื่องใหญ่!" ฉันร้องเพลงจิ๊จ๊ะพร้อมกับเต้นท่าสตาร์ทรถของโตโน่อย่างเมามันถึงแม้มันจะไม่มีดนตรีก็ตาม
"ใครก็ได้ช่วยหยุดยัยนี่ที! ยัยนี่กำลังกระทืบเท้าฉันอยู่~" เจมส์ร้องให้คนช่วยเพราะกำลังโดนไคลีย์เต้นท่าประหลาดๆแล้วเท้าของเธอมันมาโดนเท้าของเขา ไม่ว่าเขาจะเดินหนีไปไกลขนาดไหนเท้าเขาก็ยังคงโดนกระทืบอยู่ดี นี่สินะที่ระบายอารมณ์ของนาง!!
"เดี๋ยวๆไคลีย์พอก่อนฮ่าๆ" ลิลลี่เข้าไปหยุดไคลีย์เพราะตอนนี้เจมส์กำลังวิ่งหนีไคลีย์ในขณะที่ไคลีย์เองก็วิ่งไล่เขาด้วยท่าเต้นนั่น
"โอเคหยุดก็ได้คนกำลังสนุก แต่อย่ามาจิ๊จ๊ะ!" ฉันพูดพร้อมกับกำลังร้องเพลงจิ๊จ๊ะต่อแต่กับโดนเจมส์แย่งไมค์ไป
"พอเถอะฉันไหว้ล่ะ~" เจมส์พูดพร้อมกับยกมือขึ้นไหว้ไคลีย์อย่างอ้อนวอน
"เธอเต้นดุดันมากไคลีย์" คริสติน่าพูดพลางหัวเราะออกมาอย่างบ้าคลั่ง
"ดุดัน?...อ๋อ~ ดุดันไม่เกรงใจใคร~ใหม่ฟอร์ดเรนเจอร์แร็ปเตอร์!" ไคลีย์พูดออกมาเหมือนกับคนเมา
"ไคลีย์กินอะไรเข้าไปทำไมถึงดูเหมือนคนเมา?" เซเวอร์รัสถามหลังจากได้ยินเสียงที่เริ่มเปลี่ยนไปของไคลีย์
"ฉันเห็นเธอกินโค้กแค่แก้วเดียวนะ" คริสติน่าพูดเพราะเธอเป็นคนยื่นมันให้ไคลีย์
"โอเคฉันว่าไคลีย์กำลังแพ้โค้กอยู่..." เซเวอร์รัสพูดก่อนจะส่ายหัวอย่างเหนื่อยใจแค่แก้วเดียวยังขนาดนี้เขาไม่อยากจะคิดเลยว่าถ้าหมดขวดจะขนาดไหน ยังดีที่แพ้แล้วเมาถ้าแพ้แล้วหายใจไม่ออกคงซวยแย่
"ฟอร์ด..." ไคลีย์ยังคงพูดต่อไปก่อนจะหงายหลังลงโซฟาแล้วหลับไป
"ไปสนุกกันต่อเถอะเดี๋ยวฉันสองคนดูพี่ไคลีย์เอง" เรกูลัสบอกกับทุกคนก่อนที่เขาจะจัดท่านอนให้ไคลีย์ดีๆ
(เช้าวันใหม่)
ฉันตื่นขึ้นเป็นคนสุดท้ายเพราะโดนลิลลี่ปลุกพร้อมกับตั้งคำถามกับตัวเองว่าฉันมานอนที่นี่ได้ยัวไง? แถมตอนนี้ยังรู้สึกมึนๆอึนๆเหมือนพึ่งเมามาทั้งที่เหมือนคืนไม่มีแอลกอฮอล์เลยอาการมันเหมือนคนกำลังเมาค้างงั้นแหละ
"ทำไมฉันมานอนที่ได้เมื่อคืนจำได้ว่ากำลังนั่งกินโค้กอยู่เลย" ฉันพูดกับลิลลี่และคริสติน่า
"จำอะไรไม่ได้เลยงั้นหรอ?" ลิลลี่ถามน้องสาวที่นั่งมึนอยู่บนเตียงอย่างกับคนเมา
"ไม่ได้เลยแต่ตอนนี้รู้สึกเหมือนตัวเองกำลังจะอ๊วก.." ฉันพูดก่อนจะรีบวิ่งเข้าน้ำเพราะว่ามันจะอ๊วกออกมาจริงๆ
"อาบน้ำไปเลยก็ได้นะ!" ลิลลี่ตะโกนบอกน้องสาวก่อนจะได้ยินเสียงอ๊วกตอบกลับมาแทน
"ดีนะที่พวกเราเลือกจัดกระเป๋าก่อนไม่งั้นไม่ทันแน่" คริสติน่าพูดก่อนที่เธอและลิลลี่จะลงไปที่ห้องกินข้าวโดยไม่ลืมบอกไคลีย์ว่าให้ตามลงไป
"เป็นไงบ้างล่ะเลิกพูดคำว่าฟอร์ดอะไรนั่นรึยัง?" เจมส์ถามเพราะเมื่อคืนขนาดหลับแล้วยังสามารถพูดคำนี้ต่อไปได้
"เลิกแล้ววันนี้เราคงต้องดูแลเธอเป็นพิเศษไม่งั้นมีล้มหัวทิ่มแน่" ลิลลี่พูด
"แล้วจะลงมาไหวมั้ยเนี่ย" รีมัสพูดขึ้น
"ไม่ต้องห่วงฉันบอกแม่บ้านไว้แล้วล่ะ" คริสติน่าพูดก่อนที่จะนั่งลงแล้วจัดข้าวไว้รอไคลีย์ไม่นานเจ้าตัวก็เดินมาที่ห้องกินข้าวโดยมีแม่บ้านสองคนหามปีกเธอคนละข้าง
"คงต้องดูแลจริงๆนั่นแหละหามมาขนาดนี้" ซีเรียสพูดก่อนที่ทุกคนจะพร้อมใจกันหันไปมองไคลีย์
"กินสิ กินเลยฉันมาล้าวว~" ไคลีย์พูดด้วยอารมณ์ที่ยังเหมือนคนเมาค้างที่ดูจะค้างจนเหมือนยังเมาอยู่
"ไหวแน่นะ?" ลิลลี่ถาม
"หมั่นใจน้องคนนี้สิ" ฉันบอกลิลลี่พร้อมกับพยายามทำให้ตัวเองดูปกติเหมือนไม่ได้เมาเพราะฉันเองก็ไม่รู้ว่าเมาอะไรเหมือนกัน
....สองวิต่อมา.…. ทุกคนเงียบก่อนจะนั่งมองไคลีย์นั่งตักอาหารเช้าเข้าจมูกตัวเอง
"ทำไมมันกินไม่ได้กันนะ?" ฉันถามก่อนจะพยายามยัดข้าวเข้าปากแต่ยัดยังไงก็ยัดไม่เข้าสักที
"ไคลีย์ขอเถอะเดี๋ยวฉันป้อนเอง" เซเวอร์รัสทนไม่ไหวจนต้องลุกขึ้นและเดินไปนั่งลงเก้าอี้ที่ยังว่างอยู่ข้างไคลีย์
"กินฉันด้ายน่า~" เธอยืนยันกับเขาในขณะที่เขาเช็ดเศษอาหารตรงจมูกให้เธอบางทีเธออาจมีพูดผิดไปบ้าง….
“ไม่ใช่ล่ะแปลกๆ” เรกูลัสพูดพร้อมกับมองไคลีย์ที่กำลังแย่งช้อนจากเซเวอร์รัส
"อยู่นิ่งๆเดี๋ยวฉันป้อนเอง" และหลังจากนั้นทุกคนก็เลิกกินข้าวเช้าเพื่อนั่งลุ้นว่าไคลีย์จะงับช้อนถูกรึเปล่า
หลังจากที่ทุกคน(ไคลีย์)กินข้าวเช้าเสร็จก็ได้เวลาที่ทุกคนจะต้องไปขึ้นรถไฟแล้ว คริสติน่าสั่งให้คนขับรถออกรถทันทีหลังจากแบกไคลีย์มาที่รถเสร็จ
"นี่ทุกคนทำไมยัยนี่ถึงเป็นขนาดนี้ทั้งมันควรหายได้แล้วนะ" เจมส์พูดขึ้น
"มันเป็นอาการเมาค้างน่ะแค่ไคลีย์ค้างเยอะไปหน่อย…" คริสติน่าบอกเจมส์
"ถ้าจะค้างเยอะขนาดนี้อย่าหาโค้กมาให้นางกินอีกนะฉันยังไม่อยากนิ้วเท้าระบมอีกครั้ง" เจมส์พูดก่อนที่ทุกคนจะหัวเราะออกมารวมถึงไคลีย์ที่หัวเราะตามพวกเขาไปด้วยโดยที่ไม่รู้ว่าเขาหัวเราะอะไรกัน
ทุกคนขนของลงจากรถโดยมีเซเวอร์รัสขนของให้ไคลีย์ส่วนเจ้าตัวนั้นกำลังพยายามทำให้ตัวเองเดินตรงให้ได้อยู่แต่สุดท้ายก็เป็นหน้าที่ของซีเรียสที่ต้องแบกไคลีย์ขึ้นหลังผ่านกำแพงแล้วพาเธอเดินขึ้นรถไฟเพื่อหาตู้นั่งกัน พวกเขาหาอยู่นานก็ไม่เจอเพราะมันเต็มหมดแต่โชคยังดีที่มีรุ่นพี่ให้ซีเรียสลิลลี่และเซเวอร์รัสเข้าไปนั่งได้ส่วนคนอื่นให้ไปนั่งอีกห้องหนึ่งเพราะยังมีที่ว่างอยู่ พวกของซีเรียสไม่ได้อยากนั่งที่นี่เลยสักนิดถ้าไม่ติดว่าคนบนหลังซีเรียสกำลังดึงหัวเขาอยู่อ่ะนะ
“นี่ทุกคนฉันกำลังถอนหญ้าด้วยแหละดูสิ!” ไคลีย์พูดในขณะที่กำลังหลับอยู่
“นั่นมันผมฉัน!” ซีเรียสรีบวางไคลีย์ลงนอนหนุนตักเซเวอร์รัสแม้เขาอยากจะให้หนุนตักเขาก็ตามแต่ตอนนี้เขาต้องรีบวางเธอก่อนไม่งั้นเขาได้หัวล้านจริงๆแน่
“ขอถามหน่อยสิเธอเป็นอะไรน่ะ?” นาร์ซิสซ่าถามลูกพี่ลูกน้องของตัวเองที่กำลังเอาขาของเด็กผู้หญิงขึ้นตักตัวเองอยู่
“แค่แพ้น้ำหวานน่ะไม่มีอะไรหรอก” ซีเรียสตอบ โชคดีที่มัลฟอยไม่อยู่ลิลลี่เล่าเรื่องที่เกิดขึ้นกับไคลีย์ให้พวกเขาฟังแล้วพวกเขายังไม่อยากให้เธอเห็นหน้ามัลฟอยตอนนี้
“คนนั้นน้องสาวใช่มั้ย?” นาร์ซิสซ่าหันไปถามเด็กผู้หญิงอีกคนที่นั่งข้างเธอ
“ใช่ค่ะ” ลิลลี่ตอบออกไปอย่างเกร็งๆ
“ตอนเข้าปีหนึ่งหน้ายังพอเหมือนกันแต่พอขึ้นปีสองหน้าเริ่มไม่เหมือนหรือว่าน้องเธอดูเป็นสาวขึ้นนะ” นาร์ซิสซ่าพูด เธอเคยมีโอกาสได้พูดกับเอฟเวนส์คนน้องเธอก็เป็นเด็กน่ารักดีนะดูจะซนๆมากกว่าไม่แปลกที่ลูเซียสจะชอบเป็นเธอเองถ้าได้พูดคุยกับน้องมากกว่านี้ก็คงหลงเหมือนกัน
“ไคลีย์โตไวค่ะแต่แอบดื้อไปหน่อยยิ่งโตยิ่งดื้อ” ลิลลี่พูด
“ฮ่าๆงั้นหรอ” นาร์ซิสซ่าหัวเราะอย่างเอ็นดูถึงใครจะมองว่าเธอคลั่งเลือดบริสุทธิ์แต่จริงๆแล้วเธอเองก็ไม่ต่างไปจากคนทั่วไปเพียงแต่ต้องรักษาคำว่าเลือดบริสุทธิ์ไว้โดยการไม่ยุ่งกับมักเกิ้ลแรกๆเธอก็ทำตามที่พ่อกับแม่บอกแต่พอได้คุยกับพวกเขาแล้วมันก็ไม่ต่างอะไรกับที่คุยกับพวกเลือดบริิสุทธิ์หลังจากนั้นเธอก็มักจะแอบมาคุยกับเด็กนักเรียนที่เป็นมักเกิ้ลตลอดแฟนเธอก็เห็นด้วยหมายถึงแฟนเก่าอ่ะนะตอนนี้เลิกแล้วเพราะเธอต้องมาหมั้นกับลูเซียส
เสียงประตูถูกเปิดออกก่อนจะเผยให้เห็นชายหนุ่มร่างสูงโปร่ง ผมยาวสีบลอนด์ซีดเขายืนนิ่งอยู่หน้าประตูไม่ยอมเข้ามาด้านในจนหญิงสาวผู้เป็นคู่หมั้้นต้องร้องทัก
“เข้ามาสิคะลูเซียส” นาร์ซิสซ่าร้องทักชายหนุ่มที่เอาแต่ยืนมองร่างของเด็กสาวที่กำลังนอนหนุนตักของสเนปอยู่
“อืม” ลูเซียสตอบก่อนจะเดินเข้าไปนั่งข้างนาร์ซิสซ่า
“พอดีว่าที่อื่นมันเต็มหมดแล้วฉันเลยให้เด็กๆเข้ามานั่งด้วยน่ะค่ะ” นาร์ซีสซ่าบอกลูเซียสด้วยท่าทีสบายๆต่างจากลูเซียสต้องก้มหน้ามองพื้นเพราะไม่อาจมองหน้าของไคลีย์ได้ไม่งั้นเขาคงต้องเข้าไปกอดเธอแน่ๆ
“อ๋ออืม” ลูเซียสตอบสั้นๆ
“ไม่เข้าไปทักน้องหน่อยหรอ?” นาร์ซิสซ่ากระซิบถาม ลูเซียสโดยที่ไม่รู้เรื่องที่เกิดขึ้นกับทั้งสอง
“ไม่ต้องหรอก” ลูเซียสตอบ
“ทำไมล่ะไม่ใช่ว่าคบกันอยู่หรอกหรอ?ทักน้องหน่อยก็ดีนะ” นาร์ซิสซ่าพูดพลางคิดว่าเขาดูแปลกไปปกติต้องเข้าไปพูดไปคุยกับน้องแล้วหรืออาจเป็นเพราะน้องกำลังหลับกันเขาถึงไม่ยอมเข้าไปทัก
“ไม่ก็คือไม่นาร์ซิสซ่า” ลูเซียสยืนยันเสียงแข็ง
“โอเค…” นาร์ซีสซ่าตอบก่อนที่เธอจะหันไปพูดกับเอฟเวนส์คนพี่แทน
ลูเซียสนั่งมองพื้นอยู่นานเพราะเขากำลังหักห้ามใจตัวเองเพื่อไม่ให้มองหน้าไคลีย์แต่สุดท้ายเขาก็หักห้ามใจตัวเองไม่ไหวจนต้องเงยหน้าขึ้้นมองไคลีย์หลังจากที่เขาเห็นใบหน้าของไคลีย์ขอบตาของเขาก็ร้อนผาวเพราะแค่เห็นใบหน้าของเธอเขาก็หวนนึกถึงช่วงเวลาที่เคยอยู่ด้วยกัน ลูเซียสสูดหายใจเข้าลึกๆและพยายามหักห้ามใจตัวเองไม่ให้เข้าไปกอดเธอ
เซเวอร์รัสและซีเรียสนั่งมองลูเซียสเงียบๆก่อนที่เสียงของไคลีย์จะดัังขึ้นท่ามกลางความเงียบ
“ดุดัน!ไม่เกรงใจใครอื้อ อื้อ!” เสียงละเมอของไคลีย์ดังขึ้นก่อนที่เซเวอร์รัสจะรีบเอามืออุดปากไคลีย์ไว้เพราะรู้ว่าเจ้าตัวกำลังพูดอะไรต่อ
“เงียบนะไคลีย์เดี๋ยวฉันเอาขนมให้กิน” เซเวอร์รัสกระซิบบอกไคลีย์ที่อยู่ๆก็ละเมอขึ้น
“เซฟหรอ?สัญญาแล้วนะว่านายจะเต้นท่าโตโน่ให้ฉันดู” ไคลีย์พูด เอ้า!บอกจะเอาขนมให้กินไม่ใช่เต้นให้ดูทำไมเธอฟังเป็นเต้นให้ดูไปได้ล่ะเนี่ย! เซเวอร์รัสคิดก่อนจะนั่งอุดปากไคลีย์ไปตลอดทางเพราะกลัวว่าเธอจะพูดอะไรออกมาอีก
ซีเรียสและคนอื่นๆได้แต่กั้นขำจากบรรยากาศที่ดู
อึมครึมก็กลับมาดูผ่อนคลายขึ้นลูเซียสเองจากที่กำลังพยายามหักห้ามใจตัวเองไม่ให่้เข้าไปกอดไคลีย์ก็ต้องเปลี่ยนมาหักห้ามใจไม่ให้ขำออกมาแทนไม่งั้นท่าทางที่เขาทำก่อนนี้ได้หายไปหมดแน่ ไคลีย์ก็ยังเป็นไคลีย์อยู่วันยังค่ำยังเป็นคนที่สามารถสร้างร้อยยิ้มให้คนรอบข้างได้เสมอแม้จะหลับก็ตาม
*ยังไม่ตรวจคำผิด*
หน้าไคลีย์ตอนร้องเพลงจิ๊จ๊ะ :
ส่วนสีหน้าของเจมส์นั้น...
ความคิดเห็น