ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Real Diary! เด็กโง่ ขอโกอินเตอร์

    ลำดับตอนที่ #2 : ความไม่แฟร์ของโลกมนุษย์

    • อัปเดตล่าสุด 15 ต.ค. 53


     

    ความไม่แฟร์ของโลกมนุษย์

     

                    เคยอ่านในเน็ต เขาบอกว่าความแฟร์ไม่มีอยู่จริง ความแฟร์ก็คือความพอใจเบื้องลึกของมนุษย์ที่เอามาตัดสินว่าแฟร์หรือไม่แฟร์ เช่น แม่ให้เงินน้อง 20 บาท ให้พี่ 40 บาท

                    ในสายตาน้อง ไม่แฟร์เลย ควรได้เท่ากันดิ L

                    ในสายตาพี่ แฟร์ดีแฮ่ะ เราโตกว่าควรได้เยอะกว่า J

                    นั่นไง ข้อพิสูจน์ว่าความแฟร์ไม่มีอยู่จริง และมันยิ่งจริงเข้าไปอีกเมื่อ...

                   

                    ทางซ้ายมันกำลังวางแผนไปซัมเมอร์แคมป์ที่นิวซีแลนด์

                    ทางขวากำลังจะบินไปอเมริกาปลายเดือน

                    ข้างหน้าจะไปอยู่ที่ลอนดอนกับแม่

                    ข้างหลังเตรียมเก็บกระเป๋าไปดูหอเอนปิซ่าที่อิตาลี

                    หันกลับมามองตัวเอง...

                    หรูที่สุดไม่เคยเกินเอเชีย -*-

                    ไอ้การจะไปต่างประเทศโซนอเมริกา ยุโรป ดูยากโคตรๆ ยิ่งจะไปเรียนต่อต่างประเทศยิ่งเป็นไปไม่ได้
                   
                    มันเหมือนกับคนๆ หนึ่งพยายามแทบตายเพื่อจะได้มันมา แต่ในขณะเดียวกัน ก็มีคนกลุ่มหนึ่งที่เกิดมามีทุกสิ่งโดยไม่ต้องพยายามอะไรเลย!

                    พอคิดมาได้แค่ตรงนี้เราอดจะเคืองพ่อไม่ได้ ที่เอาเรามาเรียนโรงเรียนลูกคุณหนูค่าเทอมเกือบครึ่งแสน แน่นอน ทั้งโรงเรียนมันรวยล้นฟ้า แต่เราไม่ได้รวยแบบพวกนั้น (ไม่ได้จนนะ) การเห็นเด็กนักเรียนในโรงเรียนพูดถึงการไปเที่ยวต่างประเทศ ไปอยู่ต่างประเทศเป็นเรื่องปกติเหมือนเห็นคนกินข้าว ถ้าย้อนกลับไปเมื่อสองปีก่น การไปเรียนต่างประเทศแทบจะไม่เคยผุดขึ้นมาในหัว แต่เมื่อตอนปิดเทอมขึ้นม.1 ด้วยความดัดจริตเล็กๆ -..- เลยอยากแอ๊บทำเป็นไฮโซชอบฟังเพลงอังกฤษ เมื่อคิดได้ดังนั้นจึงจัดการโหลดเพลงเท่าที่ในหัวจะนึกชื่อเพลงออกมานั่งฟัง อยู่มาวันหนึ่งไอ้พี่ชายตัวดีมันเห็นเรานั่งฟังเพลง (อังกฤษ) อยู่มันจึงพูดเปรยๆ อย่างน่าตบขึ้นมาว่า

    “ฟังไปควายก็แปลไม่ออกหรอก”

    !!

    !!!

    !!!!

    ตอนนั้นรู้สึกเหมือนมีคนเอาบาซูก้ามายิง มันดังบึ้มในหัวก่อนจะรู้สึกจี๊ดดดขึ้นมา เลยจัดการหาเนื้อเพลงอังกฤษมานั่งแปล โดยลืมไปว่า...

    เกรดหนึ่งกว่าๆ ในวิชาอังกฤษบ่งบอกความเก่งได้ดีอยู่แล้ว!!

    แน่นอนแค่แปลเพลงแฮปปี้เบิร์ดเดย์ได้ก็ถือว่าโคตรน่าอัศจรรย์

    จนกระทั่งสองสามวันต่อมา เรานั่งเล่นคอมดูเว็บนู่นเว็บนี้ โซระในบางที -..- จู่ๆ เอ็มก็เด้งขึ้นมา ไอ้คนที่ทักมาไม่ใช่ใครอื่น นอกจากไอ้เพื่อนตัวดีที่ไปซัมเมอร์ที่ออสฯ

    นี่เป็นสิ่งที่จำได้คร่าวๆ จากการคุยเอ็มที่ผ่านมาสองปีกว่า =_=

    ปล. อาจมีคำไม่สุภาพเล็กน้อย /../

    View says : Hi!

    นามสมมตินะจ๊ะ เดี๋ยวเจ้าตัวเห็นแล้วมันจะโกรธเอา

    Pookie says : เออ

    View says : แกเป็นไงบ้างง ที่นี่หนุกโคตรอ่ะ โฮสใจดีเว่อร์

    Pookie says : อะไรคือโฮสวะ?

    บ้านนอกจริง อะไรจริงเน่อะเรา =_=;;

    View says : ฟายชิบเลยนะแก โฮสคือคนที่เรามาอยูด้วยที่นี่ เขาเรียกว่าโฮส ของเราเป็นซิงเกิลมัม ลูกสาวเค้าน่ารักโคตรอ่ะแก

    Pookie says : อ๋อ เก็ตแล้วๆ

     View says : ที่เนี่ยโคตรมันส์อ่ะแก เสียดายเดี๋ยวต้องกลับแล้ว T^T ค่อยดูนะปีหน้าเราจะมาใหม่

                    Pookie says : อิจฉาเว้ย อยากไปบ้าง

                    View says : มาดิๆ 55555

                    Pookie says : เออ ไปออสฯ นี่ง่ายเหมือนขึ้นรถเมล์ไปเลยนะ ไอ้บ้า -*-

                    View says : 55555 มัมเรียกกินข้าวแล้วอ่ะ ไปก่อนนะ บาย

                    แล้วมันก็ออฟไลน์ ตอนนั้นต่อมอิจฉาเล็กก็เริ่มขยายตัวขึ้น เริ่มขึ้นแล้วว่าไอ้วิวมันต้องเก่งอังกฤษน่าดูถึงไปอยู่ที่นู่นได้ ตอนนั้นรู้สึกอยากไปบ้าง เลยเดินไปบอกแม่ คำตอบก็คือโดนว่าว่าเพ้อเจ้อ บ้าหรือป่าวไปเดือนเดียวเสียเป็นแสน ไปทำบ้าอะไร แม่บอกว่าถ้าอยากไปก็ต้องสอบชิงทุนเอง แบบไปปีหนึ่งเสียสามแสนอย่างเนี้ย เพราะถ้าไม่ใชทุนก็อดไป บ้านเราไม่มีตังค์มากมายขนาดนั้นนี่

                    หลังจากนั้นเราเลยมุ่งมั่นจนโดนทั้งบ้านหาว่าประสาท จนตอนนี้จากอังกฤษ 1 กว่าๆ กลายมาเป็นสามกว่าๆ แล้ว แต่เราก็ยังไม่มั่นใจอยู่ดี ว่าฝันเราจะเป็นจริงหรือเปล่า เพราะหลายๆ ปัจจัยด้วยกัน

                    1.เงิน ข้อนี้สำคัญที่สุด ชิงทุนอาจจะลดค่าใช่จ่ายเยอะแต่มันก็แพงอยู่ดีเนอะ -*-

                    2.ความสามารถด้านภาษาอังกฤษ ตอนนี้เราอาจจะเก่งขึ้นจากสมัยก่อน และเก่งกว่าคนหลายๆ คน แต่ก็มีหลายคน (มากๆ) เก่งกว่าเราอีกเยอะ

                    3.เกรด หลายโครงการจะต้องเกรดเฉลี่ยไม่ต่ำกว่าสอง โอเค ตรงนี้เราผ่าน แต่เกรดเฉลี่ยรายวิชานี่สิเรื่องใหญ่ โดยเฉพาะคณิตศาสตร์ และถ้าเกรดไม่ถึงที่เขากำหนด ค่าใช้จ่ายก็จะสูงขึ้นอีก

                    4.จำนวนนักเรียที่ชิงทุน เห็นปั๊ปมันให้ความรู้สึกแพ้ตั้งแต่ยังไม่เริ่ม T^T เยอะไปไหนคะ?

     

                    แต่!...มาดูข้อดีของดีของโครงการกันดีกว่า

    1.       ประหยัดค่าใช่จ่ายได้หลายแสน ถ้าเราไปเองเสียไม่ต่ำกว่าล้าน แต่โครงการแล้วเฉลี่ยไม่เกินสามแสน (ไม่นับค่าใช่จ่ายหลายเดือนที่เราต้องออกเอง)

    2.       ถ้าเราไปเองเราจะได้วีซ่าที่แตกต่างจากไปกับโครงการ ซึ่งจะมีสิทธิเทียบเท่ากับคนที่นั่น เพราะเราไปในสถานะยูวทูต

    3.       ประสบการณ์ที่แตกต่าง อย่างที่รู้ๆ กันอยู่แล้ว เราต้องไปอยู่กับโฮส ซึ่งแตกต่างกับบ้านเราซึ่งเราต้องปรับตัวเข้าหาเขา ช่วยเหลืองานบ้าน เพื่อนที่ต่างกับเด็กไทย (ทั้งนิสัยและหน้าตา) แค่คิดมันก็ดูน่าสนุกแล้วอ่ะ

    4.       ที่แน่ๆ เราได้ภาษาชัวร์ๆ ไม่มากก็น้อย

     

     

    ฯลฯ  

                   

                    เอาเถอะ บทความนี้จะไม่จบจนกว่าเราจะไปถึงที่หมาย

                    ปล.ตอนต่อจากนี้จะเกี่ยวกับรายละเอียดโครงการต่างๆ ซึ่งส่วนมากจะเกี่ยวกับพวกอเมริกา ออสเตรเลีย แคนาดา
                           นิวซีแลนด์

     

     


    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×