คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : Diagonus One
แกลอรี่ภาพวาดเป็นสถานที่ที่จัดขึ้นเพื่อเหล่าบรรดาผู้ที่หลงไหลในภาพวาดของศิลปินต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นศิลปินที่เป็นมืออาชีพศิลปินที่มีชื่อเสียงอยู่ในวงการไปจนถึงศิลปินที่มีฝีมือ ภาพวาดจำนวนหลายร้อยรูปได้มาบรรจุอยู่ข้างฝาผนังในแกลอรี่แห่งนี้ บางรูปดูทันทีก็สามารถเข้าใจได้โดยง่ายในขณะที่บางรูปนั้นต้องใช้การตีความถึงจะเข้าใจสิ่งที่ศิลปินต้องการสื่อผ่านภาพวาดออกมาให้คนดูได้รับรู้ ซึ่งภาพวาดตรงหน้าผมนี้ก็เป็นศิลปะที่ต้องใช้การตีความ ผมเพ่งพินิจมองเข้าไปในรูปภาพนั้น มันเป็นเพียงแค่เส้นตรงหลายสีที่ขีดซ้อนทับกันไปมาจนนับไม่ถ้วน ขีดไปคนละทิศละทางจนเต็มรูปภาพ ผมรู้สึกประหลาดใจกับผลงานชิ้นนี้ ทั้งที่ไม่เข้าใจความต้องการของเจ้าของภาพ มันอาจดูเป็นผลงานที่ไร้สาระในสายตาคนอื่นเพราะไม่มีใครมายืนดูยกเว้นผมที่หยุดนิ่งจ้องเข้าไปในรูปภาพนี้นานนับชั่วโมง
แปลก ประหลาด เจ้าของภาพนี้เขาคิดยังไงนะถึงได้วาดภาพแบบนี้ออกมา
ตื้ด...
“ว่าไงครับ”ผมพูดใส่โทรศัพท์ที่ตั้งสั่นไว้
‘พี่ถึงบ้านแล้วนะ อูยองอยู่ไหนครับ’
“อ่า เหรอ งั้นเดี๋ยวผมจะรีบกลับไปนะ อื้อ โอเคครับ บาย”ผมเก็บมือถือไว้ที่กระเป๋ากางเกงตามเดิม ก้มดูนาฬิกาข้อมือ มันเป็นเวลาเกือบ 6 โมง ถึงเวลาแล้วสินะที่ต้องกลับบ้าน ป่านนี้อาหารที่คนที่บ้านทำไว้คงเย็นชืดแย่ ผมเหลือบมองภาพวาดตรงหน้าอีกครั้ง ทำไมกันนะถึงได้รู้สึกแปลกเวลามอง มันเศร้า มันว้าเหว่ ยุ่งเหยิง สับสน คนที่วาดเขาจะรู้สึกแบบนี้ตอนวาดรึเปล่านะ ไม่มั้งจางอูยอง นายคงคิดมากเกินไป ผมส่ายหน้าก่อนจะหันหลังให้ภาพวาดนั้น ด้วยความที่บรรยากาศรอบตัวเงียบเชียบทำให้ผมไม่รู้ตัวว่ามีคนเดินมาจากทางข้างหลัง เขาคว้าเอวผมไว้เมื่อผมเดินไปชนเขาแล้วทำท่าจะล้ม
“โอ๊ะ ขอโทษครับ”
ผมเงยหน้ามองคนที่ช่วยผมไว้ ทันทีที่ได้เห็น ผมก็ต้องชะงัก ใบหน้าขาว หล่อเหลายากจะหาใครเปรียบเทียบ ร่างสูง ท่าทางแข็งแรง ผิวขาวสะอาดหมดจดในเสื้อเชิ๊ตสีขาวพับแขนขึ้นกับกางเกงขายาว เสื้อผ้าธรรมดาแต่คนใส่ไม่ธรรมดา หากเป็นคนอื่นก็คงเฉยๆแต่สำหรับผู้ชายที่โอบเอวผมอยู่นี่กลับดูดีซะจนผมพูดไม่ออก ดวงตาเขามีประกายแวววาวเมื่อสบตากับผม
เขาปล่อยผมที่ยืนอึ้งให้เป็นอิสระ ยิ้มบางๆให้กับคำขอโทษของผมก่อนจะเดินจาก ผมหันมองตามฝีก้าวของเขาโดยที่ไม่รู้ตัวเองสักนิด ยากเกินควบคุม ใจเต้นตึกตักอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน จนกระทั่งลับสายตา เขากลายเป็นเพียงแค่ธาตุอากาศ
แต่ภาพที่เขากับผมสบตากัน ดวงตาคู่นั้นยังคงติดอยู่ในความคิดผม
“กลับบ้านช้าจังเลยนะ”
“ดูภาพวาดเพลินน่ะ เฮ้อ เหนื่อยจัง วันนี้เรียนทั้งวันเลย”ผมวางกระเป๋าลงบนโต๊ะก่อนจะเดินไปกอดคนที่นั่งยิ้มอยู่ตรงโซฟา ซบไหล่แข็งแรงนั่น หลับตาลงด้วยความเหนื่อยล้า
“พี่ก็นึกว่า...แอบไปเที่ยวกับคนอื่น นอกใจพี่ซะอีก”
“พี่แทค!”ผมตีไหล่คนพูด แต่เขาก็ไม่ได้มีท่าทางเจ็บปวดแม้แต่น้อย เอาแต่หัวเราะเสียงดังที่ยั่วผมได้ ผมมุ่ยหน้า คนตัวโตหยุดหัวเราะ ก้มหน้ามาใกล้ผม จูบผมที่ริมฝีปากเบาๆ ให้ความรู้สึกดี นุ่มนวล ก่อนจะผละหน้าออกไป ผมลืมตาช้าๆ เห็นรอยยิ้มอ่อนโยนของพี่แทคที่มองมาทางผมจนผมอดไม่ได้ที่จะเขินเลยซุกหน้าลงไปที่หน้าอกของเขา ได้ยินพี่แทคหัวเราะเบาๆอย่างชอบใจ
ผมชื่อ จางอูยอง เป็นนักศึกษามหาวิทยาลัยอันนัมปีที่สามส่วนคนที่ลูบหัวผมอยู่ตอนนี้ ชื่อ อ๊คแทคยอน พนักงานบริษัทธรรมดาๆคนหนึ่ง ที่หน้าตาดีกว่าคนทั่วไป รูปร่างดีกว่าคนอื่นๆ พี่เขาทั้งเท่ห์ ทั้งใจดี ทั้งตามใจผมตลอด พี่เขาเป็นแฟนผมเอง เราอยู่ด้วยกันมาตั้งแต่ผมอายุ 15 ปีด้วยความยินยอมของพ่อแม่ทั้งสองฝ่าย พี่แทคเป็นคนดี พี่แทคมีคนมาชอบเยอะแต่พี่เขาไม่เคยสนใจใครเลยนอกจากผม พี่แทครักผมและผมก็รักพี่แทค
ความสัมพันธ์ในฐานะ’คู่รัก’ของเราสวยงามมา 6 ปี
“อูยอง พี่หิว ยังไม่ได้ทำกับข้าวเลย”พี่แทคโอดครวญ
“อ้าว ผมก็คิดว่าพี่แทคทำแล้วเลยไม่ได้ซื้ออะไรมา”
“ยัง ของในตู้เย็นหมด”
“ทำไมไม่ไปซื้อ ?”
“ก็เมื่อเช้าอูยองไม่ได้เอากุญแจบ้านไปด้วย พี่ก็เป็นห่วง ไม่รู้ว่าเราจะกลับบ้านเมื่อไหร่ เกิดกลับมาแล้วพี่ไม่อยู่ เข้าบ้านไม่ได้ พี่กลัวอูยองจะโดนคนฉุดไปน่ะสิ ถ้าเป็นผู้หญิงพี่จะไม่ว่าอะไรเลยแต่เป็นผู้ชายแหงๆที่มาฉุด”แล้วใบหน้าทะเล้นนั้นก็ทำให้ผมพลั้งมือตีเขาไปอีกรอบ ดูพูดเข้าสิ พูดซะยืดยาวแต่สุดท้ายก็แกล้งเรา พี่แทคหัวเราะกับหน้าเอือมระอาของผมก่อนจะกอดผมเขย่าๆ ดูสนุกสนาน ผมได้แต่ส่ายหัวแล้วเริ่มหัวเราะบ้าง หกปีที่แล้วคนๆนี้เป็นยังไง ตอนนี้ก็ยังเป็นแบบนั้นอยู่ ขี้แกล้ง ชอบพูดแหย่ ทำให้ผมเคืองบ่อยๆแต่ก็ไม่ได้นานเพราะพอเคืองพี่แกก็จะมาทำให้ผมหัวเราะ
พี่แทคเคยพูดว่า ‘แกล้งก็เพราะรัก’
หลังจากที่ผมกับพี่แทคนั่งเล่น นั่งแหย่ หัวเราะกันอยู่สักพัก สุดท้ายเราสองคนก็ตัดสินใจไปซูเปอร์เพื่อซื้อของมาเก็บไว้ในตู้เย็นและทำกินเป็นอาหารเย็นสำหรับวันนี้ พี่แทคหยิบจับผัก ผลไม้และของหลายอย่างด้วยความชำนาญในขณะที่ผมได้แต่เข็นรถเข็นให้เพราะเลือกของไม่ถูก ปกติแล้วพี่แทคมักจะเป็นคนจัดการทุกอย่างในชีวิตผมไม่ใช่แค่เรื่องการทำอาหารเพียงอย่างเดียวแต่รวมไปถึงการใช้ชีวิตประจำวันด้วย ของส่วนใหญ่พี่แทคจะเป็นคนซื้อให้ เลือกให้ทั้งนั้น ผมแทบจะไม่ต้องหยิบจับอะไรเลย
จนผมอดคิดไม่ได้ ผมจะอยู่ได้ยังไงนะถ้าไม่มีพี่แทค แต่ผมก็เชื่อว่าไม่ว่าจะยังไงพี่แทคก็คงไม่ไปไหนเหมือนที่เขาเคยพูดไว้เมื่อนานมาแล้ว ครั้งแรกที่เราคบกัน
“เดี๋ยวมานะ จะไปซื้อขนม”
“พี่รออยู่แถวนี้นะ หยิบมาเผื่อด้วย”ผมยกนิ้วโอเค พี่แทคพยักหน้าก้มลงไปเลือกของใส่รถเข็นต่อ ผมเดินมาตรงโซนขนมถุงหยิบขนมหลายอย่าง หลายถุงใส่ตะกร้าที่เพิ่งหยิบมาใหม่ จนลืมไปว่าพี่แทคก็เป็นมนุษย์เงินเดือน...= = คงไม่เป็นอะไรหรอกมั้งแต่ผมก็ไม่ลืมหยิบ มะม่วงอบแห้ง ของโปรดของพี่แทคติดมาด้วย 3 ถุง อิมพอร์ตจากไทยแลนด์ก่อนจะเดินกลับมาหาพี่แทค
ผมชะงักเมื่อเห็นว่าพี่แทคกำลังคุยอยู่กับใครบางคน ผู้ชายผิวขาว รูปร่างสูง หน้าตาต่างจากผู้ชายเกาหลีทั่วๆไป ผู้ชายที่ผมจำได้ว่าเพิ่งเจอวันนี้ ผู้ชายที่ทำให้หัวใจผมเต้นตึกตัก ผู้ชายที่มีดวงตาติดตรึงใจของผม เขายืนหันหน้ามาทางผมในขณะที่คุยอยู่กับพี่แทค ผมยืนนิ่งมองสองคนนั้น ทั้งดวงตา ใบหน้าและริมฝีปากของเขายิ้มเมื่อฟังพี่แทคพูดอะไรบางอย่าง มันดูดี สวยเหมือนหลุดมาจากภาพวาด คนที่เดินผ่านไปมาก็คงคิดเหมือนกันเพราะทุกคนต่างหยุดนิ่ง เหมือนมีแรงดึงดูด สะกดทุกสายตาให้จับจ้องมาที่เดียวกัน ไม่มีใครสามารถละสายตาจากผู้ชายคนนี้ได้ แต่สองคนนั้นไม่ได้สนใจคนรอบข้างมากนัก เขายังคงยืนคุยและหัวเราะกันต่อ เวลาผ่านไปนานเท่าไหร่ไม่รู้ ผมเห็นผู้ชายคนนั้นเดินตรงมาทางผม เขาเลิกคิ้วขึ้น ทำหน้าประหลาดใจเมื่อเห็นผม ริมฝีปากคลี่ยิ้มบางๆก่อนจะเดินผ่านผมไป แขนของเราสองคนสัมผัสกันอย่างไม่ได้ตั้งใจ ร้อน ตื่นเต้น...ผมกำลังตื่นเต้น หัวใจเหมือนจะหลุดตามคนที่เดินไป
“ใครน่ะ คนที่คุยด้วย”ผมนั่งดูโทรทัศน์ หันหน้าไปถามคนตัวโตที่หยิบของใส่ตู้เย็นหลังจากที่เรากลับมาถึงบ้าน พี่แทคทำหน้างง คิดอะไรบางอย่าง
“อ๋อ...ไอ้นิกคุณ เพื่อนพี่เอง ที่เคยเล่าให้ฟังไง ว่าอยู่อเมริกา”
“คนที่เป็นคนไทยน่ะเหรอ”มิน่า หน้าตาถึงได้ไม่เหมือนคนเกาหลี ที่แท้ก็คนต่างชาติ
“อื้อ...ทำไม สนใจล่ะสิ”พี่แทคถามเสียงเล็กเสียงน้อย ไม่ได้ใส่ใจเท่าไหร่นักเป็นเพียงแค่การพูดแหย่ มือก็หยิบจับของเตรียมทำอาหาร ผมหันกลับมาดูโทรทัศน์ ข้างหน้ามีรายการโปรดที่ผมชอบดูเป็นประจำแต่ผมกลับมองเป็นใบหน้าและรอยยิ้มบางๆของผู้ชายคนนั้น
พี่แทค...ถ้าผมบอกว่าสนใจล่ะ พี่จะทำยังไง
เย็นนี้อาหารเป็นแกงกระหรี่ราดข้าวกับเกี๊ยวทอดหลายชิ้น อร่อยมาก แม้ในหัวจะครุ่นคิดถึงรอยยิ้มของผู้ชายที่ชื่อ ‘นิกคุณ’ แต่ผมก็นั่งยิ้มให้พี่แทคและกินไปสองจาน พี่แทคเก็บจานและของบนโต๊ะทั้งหมดเอาไปล้าง ไล่ผมให้ไปอาบน้ำ เข้านอนเพราะพรุ่งนี้ผมมีเรียนเช้า เขากลัวผมจะตื่นไม่ไหว พอผมอาบน้ำเสร็จ ออกมาก็เจอพี่แทคนอนตะแคงอยู่บนเตียง ผมเดินเข้าไปใกล้ ปัดผมที่ปิดตาคนตัวโตออก ดูสิ ทำงานเหนื่อยมาทั้งวันยังต้องมาดูแลผมอีก พี่คงจะเหนื่อยมากสินะ ผมจับหัวพี่แทคให้มาอยู่บนตักผม ก้มลงไปสัมผัสริมฝีปากของเขาเบาๆ ถือว่าเป็นรางวัลให้กับเขาที่เหนื่อยแต่ก็ยังสนใจผม เขาลืมตาแล้วยิ้มนิดหน่อยก่อนจะปิดเปลือกตาลงตามเดิม ผมหันไปมองนาฬิกาที่แขวนอยู่ติดประตู สามทุ่ม เพิ่งสามทุ่ม ยังไม่ดึก ผมต้องโทรไปหาเพื่อนเพื่อให้เอารายงานไปมหาวิทยาลัยพรุ่งนี้ด้วย
ผมหยิบโทรศัพท์มือถือที่อยู่บนโต๊ะข้างหัวเตียงขึ้นมาจะกดโทรออกแต่ก็ต้องตกใจ เอ๊ะ ที่ห้อยโทรศัพท์มือถือหายไปไหน จะได้ว่าครั้งสุดท้ายที่ผมคุยโทรศัพท์ก็คือตอนที่อยู่แกลอรี่ หรือว่า...จะตกตั้งแต่ตอนนั้น
“พี่แทค เดี๋ยวกลับมานะ ลืมของไว้ ไม่ต้องๆ นอนเถอะ ไปเองได้”ผมพูดขัดเมื่อพี่แทคงัวเงียๆทำท่าจะลุกไปด้วย
เมื่อผมมาถึงแกลอรี่มันก็ปิดซะแล้ว ผมมองตึกที่มืดมิด ไร้แสงไฟ ตอนนี้เป็นเวลา 4 ทุ่มกว่าก็ไม่น่าแปลกที่มันจะปิด ใครเขาจะมาดูตอนนี้ อ่า ผมลืมนึกเรื่องเวลาไป ป่านนี้ที่ห้อยโทรศัพท์มือถือของผมคงโดนเหยียบหรือไม่ก็โดนเก็บทิ้งไปแล้วแน่ๆ ผมเศร้าใจจัง ของชิ้นแรกที่พี่แทคให้ตอนเราคบกัน ที่ห้อยโทรศัพท์มือถือรูปแมว หายไป แม้จะเป็นของราคาถูกแต่สำหรับผมมันมีค่ามากนะ
ผมถอนหายใจ เดินหันหลังออกจากหน้าตึก คงต้องไปบอกพี่แทคหรือไม่บอกดี พี่แทคคงไม่ว่าอะไรหรอกแต่ผมนี่รู้สึกผิดเอง แค่ของชิ้นเล็กยังรักษาไว้ไม่ได้เลย ผมต่อว่าตัวเองในใจ ยังเดินไปได้ไม่ถึงไหน อยู่ดีๆก็มีมือใครบางคนจับแขนผมไว้จากทางด้านหลัง ผมหันกลับไปมองด้วยความตกใจ ตาโต
“นึกว่าจะไม่ทันแล้ว”ในตอนแรกคิดว่าเป็นพวกโรคจิตที่มาจับแขนแต่กลับเป็นผู้ชายที่อยู่ในความคิดผม นิกคุณ เพื่อนพี่แทค ใบหน้าและเสื้อเชิ๊ตสีขาวของเขาเปียกเหงื่อเล็กน้อย หอบหายใจแรงดูเหมือนคนเพิ่งวิ่งมาจากที่ไกลแสนไกล มือข้างหนึ่งชูของที่ผมตามหาอยู่ ผมหยิบมันมาเก็บใส่กระเป๋ากางเกง ก้มหัวให้แสดงความขอบคุณ
“รีบมาหาของจนลืมเปลี่ยนชุดเลยเหรอเนี่ย”เขาพูดกลั้วหัวเราะ เอ๊ะ ผมมองเสื้อตัวเองอย่างอายๆ ชุดนอนลายหมีพูห์กับรองเท้าแตะ ผมยิ้มเขิน เขาฉีกยิ้มกว้าง สดใสซะจนผมคิดว่าที่ตรงนี้ไม่จำเป็นต้องมีแสงไฟมาประดับไล่ความมืดเลยด้วยซ้ำ แค่มีเขาคนเดียวก็คงพอ
“ขอโทษครับ”
“มาขอโทษฉันทำไมล่ะ ไม่ได้ว่าอะไรซักหน่อย...ว่าแต่ว่า นายอยากเข้าไปข้างในมั้ย”ผมมองตามนิ้วที่ชี้ไปทางแกลอรี่ก่อนจะหันกลับมามองคนพูดที่หน้ามีรอยยิ้มสดใส
ป่านนี้พี่แทคคงกำลังรอผมอยู่ที่บ้านด้วยความเป็นห่วง ผมควร...จะเข้าไปตามคำเชิญเหรอ
--------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
ตอนแรกมาแล้ว ฮุ้วว -O- ก็ไม่เศร้านี่ ดูตอนแรกซะก่อน ใครว่าเรื่องนี้เศร้า ไม่มี๊
ตอบเม้น
คุณ yaya กี่เศร้าก็ต้องรอดู อาจจะเศร้าแค่อินโทรมั้งคะ คิดมาก...
คุณ lopassot เดาสิ ๆ คิดว่าใครพูดอะไรล่ะ
คุณ poky..=] TOT อาจจะสนุกน้อยกว่าเรื่องแรก ทำใจเถอะ บทเศร้าก็คงมี(มาก) 55 จุ๊บบ
คุณ คุณด้งSocute ซ้อมร้องไว้เลยเหรอ ระวังจะซ้อมเก้อ
คุณ kimsooah มาต่อแล้วค่ะ
คุณ kungnit ไม่รู้สิ คิดไว้คร่าวๆ แต่อาจจะมีมากกว่านั้น เอาสักกี่เศร้าดีน้า
คุณ greentea2pm มากกว่าสาม ใบ้ให้ :P
คุณ 2kwang ^^ love Chabu too
คุณ เด็กน้อยตัวกลมอ่า นั่นสิทำไมต้องแทคเจย์คุณด้งหรือแทคด้งคุณเจย์ฟะ -*- คุณโฮเรอะ สังเกตุมานานล่ะ โมเมนต์มหาศาลแต่เห็นทีแล้วปวดใจ อย่าชวนเข้าลัทธิเลยค่ะ มัน Sad (แต่ถ้าเป็น ด้งโฮหรือแทคด้งก็ไม่แน่ พี่คุณห้ามไปจับคู่กับใครทั้งนั้นยกเว้นด้ง !) (< - - โดนแฟนคลับ คุณชาน คุณเจย์ คุณโฮ คุณซู? แทคคุณ ตบกระจาย) เห็นด้วยว่าคุณด้ง real
ปอลอ.ไม่เป็นไรค่ะ >O< ไม่ไร้สาระเลย ยังไงก็ติดตามต่อนะคะ อย่าแอบเลย ฮ่าๆ
คุณ ปี๊ป่อ(รักเด็กด้ง) ตอบคำถามที่ว่า 'ทำร้ายด้งนี่มันสนุกใช่มั้ยฮะ' กลับไปดูฟิคเรื่องที่แล้วสิค่ะ จะรู้ว่าไรเตอร์สนุกในการทำร้ายด้ง(กับพี่คุณ)มั้ย ก๊ากกก ด้งเจ็บวันละนิดจิตไรเตอร์เเจ่มใส ประโยคที่สอง คิดว่าของพี่คุณเหรอ อื้ม เดี๋ยวคิดดูก่อนนะ :P เดาผิด แบร่ เป็นของใคร เดาต่อสิ ๆ...ส่วน NC = = ก็เคยบอกว่าให้ไปจับเว็บมาสไปเก็บไว้ก่อนถึงจะแต่งได้อย่างสบายใจ ฮ่าๆ
ปอลอ.ใครจะรังแกด้งก็ช่าง แต่ไม่ให้พี่คุณกระเด็นไปถึงมือคนอื่นหรอก ต้องผ่านไรเตอร์ก่อน
ปอลอ.อ่า อายุเท่ากัน ! แก่เหมือนกันสินะ :P
คุณ wickynana -O- แม่ยกโฮตัวจริงเสียงจริง มีน่าๆ(มั้ง) เจ๊คะ ไปอ่านมาแล้วนะ ไวท์เม้นเเรงไปมั้ย ?(แรงตรงไหน -*-) เก่งง่ะ ลดไปตั้ง 7 โล ภายใน 9 วัน TOT เป็นไวท์ตายพอดี อ่อ สอบพยาบาล อนาคตพยาบาลนี่เอง
ปอลอ.อ่าคะ รักค่ะ เจ๊
คุณ Lemonadezoda จะพยายามเศร้าให้ถึงที่สุดค่ะ 55 TOT โดนแบนหรอ ปลอบใจๆ
คุณ ปาม,, เอ๋ รู้ใจเรื่องสีนะ 55 เอาแนวนี้แระคะ ไม่ฮาแต่ก้อไม่เศร้า(มั้ง) เรื่องนั้นเผลอกดปิดเรื่องไปแล้ว ลงต่อไม่ได้ TOT เอาแปลว่าถ้าจะลงสเปจะเอามาลงที่นี่หรือไม่ก็ใน SF แทนนะคะ
คุณ Pomeranian ก็ดราม่านิดๆมั้ง อย่าไปคิดว่าเศร้ามากค่ะ คนบ้าแต่งเศร้าไม่ค่อยจะได้
To my precious guy
Happy birthday Wooyoung oppa i love u more and more . wish u have many many happy time and keep going on don't scare anything Pls endure for ur love fans .according your new song(without u) 'everything happens for a reason' i know it mean ? wanna those fans try to understand it like me
last i'll support and protect u with all my heart TOT วิดีโอแฮปอูด้งที่บ้านน่ารักมาก หน้าฉันเด่นชัดเกิ๊น
(ใครอยากได้ฟิคแฮปอูยองก็แอดเมลไรเตอร์ไปนะคะ little_puppiez@hotmail.com ^^ บังเอิญแต่งเเล้วแต่มันติดเรท เดี๋ยว(?)จะส่งให้อ่านเอาค่ะ แต่มีข้อแม้ ต้องมาเม้นหลังจากที่อ่านจบด้วย)
ความคิดเห็น