คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #1 : ซวย
ที่อยู่ในมือของผมตอนนี้คือ แผ่นกระดาษแผ่นหนึ่ง
ไม่ได้มีอะไรพิเศษ ไม่ใช่ตั๋วชิงโชค ใบประกาศเกียรตินิยม เป็นเพียงแค่กระดาษเก่าสีซีด เต็มไปด้วยคราบสีเหลือง ยับยู่ยี่เหมือนมันอยู่มาเป็นร้อยปี คนที่เขียนข้อความลงไปก็ดูไม่น่าจะเป็นคนเรียบร้อยเพราะตัวหนังสือเอียงไปเอียงมา บางตัวก็มีการขีดฆ่าซ้ำแบบขอไปที ปากกาที่ใช้เขียนก็หลากสี ตัวอักษรบางตัวก็มีสีที่ใช้เขียนไม่ต่ำกว่าสามสี ไม่แน่ใจว่าคนเขียนจงใจทำให้มันดูเป็นศิลปะ(เละๆ)หรือปากกามันหมดกระทันหันแต่ที่แน่ๆคนที่มองดูข้อความอย่างผมได้แต่ส่ายหัว ระอาใจ
ถามหน่อย ใครมันจะไปอ่านออก...
ผมไม่ได้อยากจะได้ไอ้เจ้าสิ่งนี้มาไว้ในครอบครองแต่ระหว่างที่วิ่งหนีหมาจากหน้าปากซอยหัวซุกหัวซุนอยู่ดีๆกระดาษใบเล็กๆแผ่นนี้ก็ปลิวมาปิดหน้าผม ทำให้การมองเห็นของผมกลายเป็นศูนย์ จนเกือบจะชนเข้ากับรถจักรยานที่สวนมา เจ้าของจักรยานตะโกนเสียงดัง
‘เฮ้ย ไอ้บ้า หลีกไป’
ผมตกใจ ตื่นตระหนก ตาก็มองไม่เห็น มือก็ถือถุงเต็มไปหมด ไอ้จะให้โยนถุงทิ้งแล้วรีบเอากระดาษที่บังตาออกก็คิดไม่ทัน อีกอย่างของแต่ละอย่างในถุงก็ดูทนทานต่อแรงกระแทกทั้งนั้น ไข่เอย นมเอย หากโยนไปก็คงไม่เหลือแม้แต่ซาก ผมจึงใช้เซนส์มั่วๆโดยการเบี่ยงตัวเองไปทางขวา
ไม่รู้จะเรียกว่าซวยได้มั้ย เพราะไอ้ทางขวาที่ผมว่านั้น มันดันมีรถอีกคันสวนมา คราวนี้รถยนต์ซะด้วย
อ่า อย่างที่หลายคนกำลังคิดแหละครับ ไอ้คนที่มันถูกอะไรบังตาไว้ ถือถุงเต็มสองมือ แบกกระเป๋าที่หนักเหมือนแบกโลกไว้ทั้งใบและใช้เซนส์ที่ไม่ค่อยจะมีอย่างผม มันจะเหลือเรอะ...ก็เข้าประสานงากับรถยนต์ไปตามระเบียบ...แต่ดูเหมือนพระเจ้าคงยังไม่อยากให้ผมไปอยู่ด้วยกับท่าน ท่านจึงดลบันดาลให้รถคันนั้นเพียงแค่เชี่ยวผมเบาๆ
ก็ไม่ได้เป็นอะไรมาก แค่ข้อเท้าเเพลง(จากการหกล้ม) รอยถลอกฟกช้ำตรงแขนซ้าย(อันนี้ก็จากการล้ม) แผลโดนรถเชี่ยวตรงต้นขา ไข่(ในถุง)แตกไม่เป็นชิ้นดี
หลังจากที่อาบน้ำเสร็จอย่างทุลักทุเล ผมก็กลับมาอ่านข้อความในกระดาษที่วางอยู่บนเตียงก่อนจะปาทิ้งลงถังขยะอย่างหงุดหงิด
‘ซวย’
กระดาษดูดวงแบบชุ่ยๆหรือคนมือบอลเป็นคนเขียนกันนะ
“เออ ไม่ต้องบอกก็รู้แล้วโว้ย วันนี้แม่งซวยทั้งวัน ตั้งแต่โดน ครูทำโทษหน้าห้อง สมุดการบ้านถูกขโมย ฝนตก ร่มหาย โรคจิตจับตูดบนรถเมล์ ป้าร้านขายของหยิกแก้มจนชา ถูกไอ้เขี้ยวเพฌฆาตไล่เอาขนปุกปุยมาถูไถแถมยังโดนรถเชี่ยว เฮอะ แล้วไข่ก็ดันมาแตกอีก วันนี้จะกินอะไรดีเนี่ย ! ”พอพูดบ่นกับตัวเองเสร็จ ผมก็ยืนหอบหายใจเล็กน้อย = = ทีเวลาลำบากแบบนี้ ไอ้พี่ชายตัวดีก็ดันอยู่ไม่ติดบ้าน ทิ้งน้องทิ้งนุ่งให้อดอยากปากแห้งส่วนตัวเองบินลัดฟ้าไปหาว่าที่แฟน(ที่มันคิดไปเอง)ถึงซีแอทเทิล
ไม่รู้จะไปทำไมบ่อยๆ ไปกี่ครั้งๆก็ไม่เห็นคนฝั่งนั้นเขาจะรับรักซักที ดูไปก็เหมือนพวกสโตรกเกอร์ชัดๆ
ติ๊งหน่อง
ใครมาช่างแม่ง กูไม่เปิดหรอก อารมณ์ไม่ดี (อ้าว พาลนี่หว่า)เออ พาลแล้วไง คนน่ารักแบบกูทำอะไรก็ไม่ผิด
ติ๊งหน่อง
คิดว่ากดแค่สองครั้ง จางอูยองจะรีบถลาไปเปิดประตูอย่างนั้นเหรอ...คิดผิดแล้ว ผมกำลังนั่งค้นหาเศษซากส่วนประกอบของอาหารในตู้เย็นอยู่ โว๊ะ มีแต่ผัก จะให้กินเจเหรอ -*- นมจืดก็รสชาติอย่างกับนมเปรี้ยว
I’m gonna be ok (Gonna be ok)
I’ll be ok (Gonna be ok)
baby without you, baby without you
หื้ออ แล้วใครมันโทรมาป่านนี้วะ ดึกดื่นเที่ยงคืนมันไม่นอนรึไงถึงโทรมารบกวนชาวบ้านเขา ถึงผมจะยังไม่นอนก็เถอะแต่ความจริงมันต้องเกรงใจกันหน่อยมั้ย เดี๋ยวรับโทรศัพท์แล้วจะด่าให้
“ฮะ...”ผมกดรับโทรศัพท์โดยที่ยังไม่ได้ดูชื่อคนโทรมา
“ไอ้เด็กเวร อยู่บ้านแล้วทำไมไม่มาเปิดประตูยะ ฉันกดออดจะเป็นร้อยรอบ หูตึงรึไง ห๊า”ยังไม่ทันพูดฮัลโหลเสียงอีกฝั่งหนึ่งก็สวนมา ผมชะงัก ใครวะ เสียงคุ้นๆ...อ้าว พี่แชยอน(คนที่เป็นพิธีกรรายการ M-net ค่ะ)ถึงว่าเสียงแจ้นๆ โทรมาก็แว้ดใส่ทันทีแล้วรีบวางสายด้วยนะ
ผมละทิ้งทุกสิ่งอย่างไว้เบื้องหลัง เดินไปเปิดประตู ไม่ใช่ว่ากลัวนะแค่เกรงใจ เขาบอกเพศแม่เวลาโมโหนี่น่ากลัวที่สุด เปิดประตูมาก็เจอพี่แชยอนกับลูกชายยืนถือของพะรุงพะรุงเต็มสองมือ พี่แชยอนฉีกยิ้มให้ผมขัดกับการวีนทางโทรศัพท์ก่อนหน้านี้ก่อนคุณเธอจะยัดทุกสิ่งอย่างที่ขนมาทั้งของตัวเองและของลูกชายไว้ในมือผมแล้วสองแม่ลูกก็รีบเดินเข้าบ้านไป
ผมวางของไว้บนโต๊ะอาหาร กวาดสายตามองคนสองคนที่เพิ่งเข้ามา ไอ้คนแม่ก็นั่งดูทีวี หัวเราะเอิ๊กอ๊าก ส่วนไอ้ลูกชายก็นอนเหยียดตัวบนโซฟาหนุนตักแม่มัน แหม สบายอะไรแบบนี้นะ ช่างเป็นครอบครัวที่น่ารักกันจริงๆ แต่ขอโทษนะครับ นี่บ้านผม
“พี่สาว มีอะไรถึงมาหาตอนนี้อ่ะ พี่แทคไม่อยู่ กลับบ้านไปเหอะ”ผมรีบเปิดฉากไล่ก่อนที่สองคนนี้จะทำตัวสบายกว่าเจ้าของบ้านไปมากกว่านี้ พี่แชยอนหันมาจิกตาใส่เหมือนผมพูดอะไรผิด
“แล้วใครว่าฉันมาหาไอ้เด็กนั่น ฉันมาหาแกต่างหากย่ะ...ฉันมีเรื่องจะให้ช่วย”
“เอ๊ะ”
.
..
ควมซวยไม่เข้าใครออกใคร เมื่อมันมาหาคุณ คุณก็ต้องเตรียมอยู่กับมันไปซักระยะ
“พี่อูยอง ผมหิว”เสียงเล็กๆของเด็กชายอายุ 12 ขวบเรียกผมที่กำลังนั่งปลงกับชะตากรรมตัวเองให้หันไปมอง
เออ กูก็หิวเหมือนกัน !
แต่ตอนนี้กูงงมากกว่า...ทำไมอยู่ดีๆถึงมีเด็กในบ้านของชายโสด แล้วแม่มันไปไหน ? ถึงปล่อยให้เด็กหิวโหย
=_______________= ^^
เมื่อประมาณ 10 นาทีที่แล้ว เรื่องที่พี่แชยอนขอให้ผมช่วยก็ถูกเปิดเผยออกมา ผมรู้ว่าพี่แชยอนมีบุญคุณต่อผมและพี่แทคมาก เขาคอยช่วยเหลือผมกับพี่ที่จากบ้านที่ปูซานมาอยู่โซลตั้งแต่แรก เรียกได้ว่า เปรียบเสมือนแม่คนหนึ่งของพวกเราเลยล่ะ ดังนั้นผมจึงคิดมาเสมอว่า หากพี่เขามีอะไรให้ช่วยผมก็พร้อมที่จะช่วยอย่างเต็มใจ ผมดูเป็นเด็กกตัญญูมั้ยล่ะ แต่ว่า...พี่สาวฮะ
ทำไมผมจะต้องมา ‘เลี้ยงลูก’ให้พี่ด้วยล่ะครับ ?
TOT พี่ก็รู้ว่าผมเกลียดสิ่งมีชีวิตที่อายุน้อยกว่าตัวเอง แค่เข้าใกล้ก็รู้สึกขนลุก อยากอาเจียนออกมา วิงเวียนศีรษะ เอ่อ อันนี้ก็เว่อร์ไป แต่ผมเกลียดเด็กจริงๆนะ
“พี่อูยองฮะ แล้วคืนนี้จะให้เควิ่นนอนไหนอ่ะ”
อย่า อย่าพูดอะไรอีกเลย อย่าถามอะไรอีกเลย ไม่อยากฟัง ไม่อยากตอบ...นอนนอกบ้านมั้ยมึง ?
ติ๊งหน่อง
ใครมันมากดออดอีกวะ หรือจะเป็นพี่แชยอน พี่ครับ...พี่เปลี่ยนใจ เป็นห่วงสวัสดิภาพของลูกชายตัวเองเลยไม่ให้ผมเลี้ยงให้แล้วใช่มั้ยครับ โอเค ผมจะรีบไปเปิด ผมคิดเองเออเองเสร็จก็รีบวิ่งไปเปิดประตูหวังว่าจะเป็นแบบที่คิด
“เอ่อ พี่เป็นเพื่อนของแทคยอน จากวันนี้ไปพี่จะมาอยู่ด้วยนะครับ”
แต่ความหวังก็ดับสลายเมื่อคนที่อยู่ข้างนอกไม่ใช่พี่แชยอน แต่เป็นผู้ชายต่างชาติที่มาพร้อมกับประโยคชวนปวดหัว
อ๊ากกก
จางอูยอง มึงซวยแล้ว !
มีทั้งเด็ก ทั้งต่างชาติเลย...
ปาม เม้นประเดิมเรยเนอะ 555 โอเค งั้นจิหากินกับคู่นี้ต่อไป รูปด้งนี่คือหาได้แล้วนะแต่มันลงไม่ได้ ไม่รู้ทำไม -*- เควิ่น U-kiss ถูกแล้วค่ะ ! อย่าเพิ่งคิดว่าเควิ่นจะมาป่วนเลย ขู่ไว้ก่อนซะงั้น ฮ่าๆ ต้องรอดูกันต่อไป
ปอลอ.จะเปิดเทอมแล้วเหมือนกัน จะเอาเวลาไหนมาแต่งฟิคฟะ !
เม้นได้ ด่าได้ค่ะ ^^
ความคิดเห็น