ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [Fic::Yaoi] ไม่มีกิจห้ามเข้า ★ ฐานทัพลับเฉพาะกิจ [ hanhyuk]

    ลำดับตอนที่ #2 : เรื่องยาว :: Love mini sp. oh baby boy ตอนที่ 42

    • อัปเดตล่าสุด 10 ส.ค. 56




     

    Seventy-Nine


     

    คำพูดทบทวนวกไปวนมาในสมองของร่างบางซ้ำแล้วซ้ำเล่า ความรู้สึกที่ส่ายตาหวานจะหันไปมองคนข้างกายก่อนจะหันกลับมามองนอกหน้าต่าง จองมินแจ บุคคลที่ไม่เคยเชื่อเรื่องอื่นยกเว้นเรื่องที่อ่านเจอในหนังสือ


     

    ( ฮันโซ มินแจอยากกินช๊อคโกเล็ต ) เขาพิมข้อความลงบนหน้าจอมือถือก่อนจะยื่นให้อีกคนอ่าน


     

    ช๊อคโกเล็ตเหรอ อื้ออ ร้านสะดวกก่อนได้ป่ะ “ เขาว่าก่อนจะจอดรถลงข้างทางสำหรับร้านสะดวกซื้อ 24 ชั่วโมง “ เอาเหมือนเดิมนะ เดี๋ยวจะไปซื้อให้ “ ใบหน้าพยักหน้าลงก่อนอีกคนจะหยุดรถ เค้าในเกียร์หยุดก่อนจะดึงเบรคมือ


     

    ฮันโซ..” เสียงหวานเอ่ยชื่อคนที่เดินจากไปเบาๆ ถ้อยเสียงเด็กที่เค้าแค่ก้มหน้าและหลับตาลง


     

    ไม่อยากจะพูดกับ ฮันโซ เลยสักนิด.. คนที่คอยแต่บังคับตั้งแต่วันแรกที่เจอหน้า วันแรกที่เขาย่ำยีหัวใจของเราทั้งๆความผิดนั่นมันก็เป็นแค่ การที่ใครคนนั้นต้องหารได้ยินเสียงของเรา การกระทำที่ทำมันอย่างต่อเนื่องั้งแต่วันนั้นจนถึงวันนี้ พักบ้างก็แค่ไม่กี่วัน เพราะดูเหมือนอีกคนจะเหนื่อยเกินไป จากการเล่นอะไรสักอย่าง


     

    ทุกวันตลอดสองสามอาทิตย์ที่เขาเพียงแค่ทำตามที่ทุกคนในบ้านหลังนั้นสั่ง “ กินข้าวเยอะๆ นะมินแจ.. “ เขาก็จะทำแบบนั้นตามคุณอาฮยอกแจสั่ง “ วันนี้ฉันจะไปเล่นบอล คอยก่อนนะ “ เขาก็จะไปนั่งคอย การกระทำที่ตัวเขาแค่ใช้ชีวิตอยู่เงียบๆคนเดียว ไปเรียน ดูฮันโซเล่นบอล อ่านหนังสือ กินข้าว อาบน้ำ ทำการบ้าน อ่านหนังสืออีกรอบ ทำการบ้านบนเตียง แล้วก็หลับ.. การกระทำที่ไม่มีอะไรทั้งนั้น เป็นชีวิต เหมือนเดิมที่น่าเบื่อหน่าย


     

    คนสองคนนั้น ก็แค่ทำเป็นแสนดี หวังดีจะให้ เขามาอยู่ที่นี่.. ที่แท้ ก็กำลังฆ่าเค้าชัดๆ.. ฆ่าด้วยวิธีโหดเหี้ยมที่สุด คือ ให้ใครก็ไม่รู้ ย่ำยีหัวใจเขา


     

    อะ.. “ ร่างสูงเดินกลับมากล่องยื่นถุงขนมให้อีกคน ภายในนั้นมันเป็นขนมในแบบต่างๆที่เค้าชอบ ขนมญี่ปุ่น เป็นรูปหน่อไม้ อร่อยและกินได้เป็นโหลๆ


     

    ( ฮันโซ ซื้อมาให้มินแจเยอะจัง )


     

    ก็มินแจชอบกิน “ เขาตอบก่อนจะยกมือขึ้นลูปผมของอีกคน การกระทำที่เขาเองก็ไม่เคยทำมาก่อน มือหนากอดไหล่บางนั่นเอาไว้ หยิกแก้มอีกข้างที่ไม่ได้ใกล้เขาประโยคที่เขาไมไ่ด้เอ่ยขึ้นพูดอยู่ในใจของตัวเอง “ ฉันมันคงแย่มากเลยสินะ.. ทั้งๆที่ด่าฮยอนไปตั้งมากมายตอนนั้นว่าแย่ขนาดไหน แต่ดูตัวเองตอนนี้สิ.. ไม่ต่างอะไรกันเลย “


     

    ( ฮันโซกำลังคิดอะไรอยู่เหรอ ) ประโยคคำถามที่เขาแค่ยิ้ม ใบหน้าคมเลื่อนมาใกล้คนที่เอาแต่สงสัย ใบหน้าของมินแจสวยหวานแบบน่ารัก ดวงตาสดใสและปากสีชมพูนั้น สวยราวกับเด็กน้อยดัวเล็กๆ แก้มของเขาหอม และตัวก็ยังนุ่ม ฝ่ามือนุ่มราวกับผิวเด็กที่ไม่เคย แตะต้องสั่งใดเลย


     

    ความน่ารักที่ชวนให้เขารู้สึกหงุดหงิด.. มินแจน่ารัก.. ความน่ารักที่เหมือนเค้าจะไม่ได้รับเลยซึ่งความรัก สายตาที่เอาแต่ปฏิเสธใสซื่อเกินกว่าจะทำให้เขาโกหกตัวเองได้ว่าอีกคนหลงใหลไปกับการเล้าโลมบนเตียงของเค้า


     

    มึงไม่ได้เหี้ยเหมือนกูนี่หว่า ทำไม ทำแบบนั้นกับเขากันว่ะ “ อึนฮยอนถามเค้าหลังจากมื้ออาหารวันนี้ ในระหว่างที่เขาเองจะแค่ยืนมองแผ่นบางหนึ่งคู่ที่กำลังปรึกษาเรื่องราวบางอย่างกันเงียบๆ


     

    มึงรู้ได้ไง “


     

    ก็มึงเป็นเพื่อนกู..” เขาว่าก่อนจะยกยิ้ม “ กูก็เคยคิดนะ ว่าถ้ากูเหี้ยมากๆ พยอลจะเลิกรักกู แล้วก็แอบเคยคิดว่าจะทำยังไงให้เขารัก.. กูไม่ได้ดีเหมือนใครคนอื่นเค้า พวกมึงบางคนยังมีส่วนที่ดี แต่กูไม่ “


     

    ก็แค่มันน้อยมากๆ อะมึง ”


     

    ขอบใจนะสัด..” ร่างสถบก่อนจะจับไหล่เพื่อน “ ทำไมมึงไม่ทำดีกับมินแจว่ะ คือ ช่วงนี้เลิกอึ้บมันก่อนแล้วทำตัวดีๆ ตามใจเขาหน่อย เค้าก็ดูน่อมแน่มเด็กๆ ถ้าเค้าเริ่มพูดกับมึง มึงก็ค่อยรุกต่อ กูว่าคนอย่างมินแจก็เหมือนพยอลของกูนั่นละ ยิ่งบังคับมึงยิ่งไม่ได้ แต่ถ้ามึงอ่อนให้ คร้านจะคลานเข้ามาเหมือนลูกแมว “


     

    เมียมึง ทำแบบนั้นเหรอ “


     

    เปล่ากูพูดให้มัน มีแรงใจ “


     

    โถ่ ห่านนน “


     

    แล้วไงว่ะ เมียกูเอ็กซ์กว่านั้นเยอะ ไอ้คลานท่าแมวอะ จิ๊บๆ เมียกูต้องตีลังกาเข้ามาหากูเว้ย กร๊ากกก กูชอบแบบไซต์ไฟล์!! ”


     

    ไอ้สัด “


     

    ก็แค่ลองอะไรดู..” เขาบอกมินแจแบบนั้นก่อนจะหันไปขับรถต่อ ความจริงที่บางทีเขาก็ไม่เห็นจำเป้นว่าต้องสนใจอะไรนัก ในเมื่อ พี่สาวก็บอกอยู่ทุกวัน ว่าแค่ของเล่นที่แม่ให้ .. แต่พอนานไป ทำไมมันรู้สึกว่า ตุ๊กตาตัวนี้ มันน่าสงสารขนาดนี้กันว่ะ


     

    ภายในห้องของเขาที่มินแจเองก็ยังคงอ่านหนังสืออยู่เหมือนทุกครั้ง ร่างบางนั่งนิ่งเอามือทั้งสองข้างเท้าคาง จดจ่อกับหน้าหนังสือที่เค้าก็เคยสงสัยว่า มันเกี่ยวกับเรื่องอะไรนัก


     

    มินแจ อ่านหนังสืออะไรนะ “ เขาก่อนอีกคนจะพลิกหน้าปกมัน มาให้เขาอ่าน “ ความรัก อ่านทำไมอะ คิดว่าอ่านวิทยาศาสตร์อะไรพวกนั้นอีก “


     

    ( หนังสือวันนี้มินแจอ่านไป สามรอบแล้ว ) เขาเขียนลงบนสมุดในฮันโซอ่านก่อนอีกคนจะพยักหน้า เขาดึงร่างบางขึ้นจากเก้าอี้ ก่อนจะให้มานั่งตักเขา


     

    ความรักใครเขาอ่านหนังสือกันละ.. ทำไม มินแจไม่ลองเปิดใจให้ฉันนะ ฉันจะได้สอนมินแจไง “


     

    ( มินแจไม่ได้รักฮันโซ) เขาพิมตอบกลับอีกคนแบบนั้น


     

    ฉันรู้.. แต่นั่นเพราะฉันไม่ดี ลองพูดกับฉันสักประโยคได้มั๊ย “


     

    ( มินแจไม่พูดกับคนใจร้าย )


     

    ฉันใจร้ายเหรอ “ เขาถามก่อนอีกคนจะพยักหน้า รอยยิ้มเข้มหอมแก้มคนน่ารักราวตุ๊กตาในอ้อมกอด “ ถ้าฉันเป็นคนใจร้ายฉันก็เป็นอสูรกายนะสิ... งั้นฉันจะให้มินแจเป็น บิวตี้นะ .. บิวตี้แอนด์เดอะบีสไง “


     

    ( ฮันโซ.. เวลาเค้าจะทำกัน เค้าต้องพูดหวานๆเหรอ ? งั้นฮันโจะทำแบบนั้นกับมินแจนะ ) ดวงตาหวานหลับลงพร้อมเสมอสำหรับการโยนเหวี่ยงจากเขาลงเตียง แต่ตอนนี้เค้ากลับแต่จูบริมฝีปากสวยนั่น


     

    พูดกับฉันสักคำเถอะนะ มินแจ ถ้ามินแจพูดกับฉัน ฉันอาจจะใจเย็นลงกว่านี้ก็ได้ พูดอะไรก็ได้ “ คำขอร้องที่อีกคน นิ่งไปสักพัก ปากบางพยายามเอ่ยเสียงเบาระหว่างที่เขารอฟัง แต่ทว่าคำนั้นกลับทำให้เขายิ้มกว้าง


     

    พูดอะไรก็ได้ “


     

    กวนตีนใช่ป่ะ “ เขาถามอีกคนที่ก็แค่ก้มหน้า “ มินแจ พูดกับฉันเถอะนะ ถึงนายจะเกลียดฉัน แต่ก็พูดกับฉันเถอะ ฉันอึดอัด แล้วก็ไม่อยากทำร้ายนาย “


     

    อื้อ.. “


     

    หึ งั้นต้องพยายามแล้วนะ “ คำถามที่อีกคนแค่พยักหน้า มินแจดึงตัวเองจ้องหน้าอีกคนก่อนที่เขาจะแค่ลูบผมสวย


     

    วันนี้ไม่ทำหรอก มินแจอ่านหนังสือเถอะ ฉันอยากจะดูหนังนะ “


     

    มินแจ..” เขาว่าด้วยเสียงน่ารักที่อีกคนกันมองอย่างอยากจดจำคำพูดแรกของอีกคน “ อยากดูหนังด้วย “


     

    งั้นเหรอ “ รอยยิ้มคมยกยิ้มขึ้นก่อนจะดึงเอวบางมานั่งลงข้างๆ “ เอาสิ แต่ฉันขอไปใส่แผ่นก่อนนะ “


     

    อื้อ..”


     

    ช่วงเวลาสบายที่ไม่มีอะไรทั้งนั้น มันเป็นแค่ความธรรมดาของเวลาที่ร่างบางกำลังเปิดใจ มันเป็นความรู้สึกที่เค้าแค่อยากจะเปลี่ยนแปลง อยากจะลองรักใครสักคนด้วยการเป็นคนดูแล .. เริ่มความรักครั้งใหม่ กับใครสักคนที่เค้าไม่ได้รักเหมือนที่ครั้งนึงเพื่อนสนิทเคยเป็นแบบนั้น

     

    ฉันอาจจะเลว ที่แค่อยากจะลืมคนบางคน... แต่นั่นเพราะฉันตัดสินใจแล้ว.. ว่าฉันจะลองรักใหม่อีกครั้ง

    ว่ากันว่า คนเรา..ยิ่งเจ็บเท่าไหร่ ยิ่งต้องการรัก มากเท่านั้น


     

    สนามฟุตบอลใหญ่ เฮฮาไปด้วยคนกลุ่มเดิมเหมือนทุกครั้ง ฮันโซมาในชุดฟุตบอลตัวโปรด เค้าจูงมือบางที่ข้างตัวก็ถือหนังสือหนามาด้วย การเดินมาแบบเงียบๆแม้จะจูงมือกันมา มันเป็นแบบนี้ทุกครั้ง แตกต่างจากบางคู่ที่ดูกระหนุงกระหนิง สมเป็นคู่รักจริงๆ เพราะมีแต่การหยอกล้อ


     

    พยอล..” เสียงใสว่าเบาๆ ก่อนจะหันมองร่างสูงข้างกายที่แค่ปล่อยมือเขาลง คนตัวเล็กเดินช้าๆเข้าไปยืนตรงหน้าคนที่กำลังคุยกัน


     

    มินแจ มาแล้วเหรอ.. “ ซึงพยอลถามก่อนอีกคนจะพยักหน้า มือบางดึงให้อีกคนนั่งลงก่อนจะหันมามองคนรัก “ นายไปเตรียมตัวเล่นบอลสิ “


     

    แหมมม รักฉันจังเลยน๊า~ พอเพื่อนมาก็ไล่ ทันทีเลย “


     

    เอาน่า เพื่อนนายก็มาครบแล้ว ไปวอร์มร่างกายได้แล้ว นั่งอู้อยู่ได้ “


     

    เออๆ จ้า กูไปก็ได้ “ อึนฮยอนว่าก่อนจะย้ายที่นั่งไปนั่งข้างๆเพื่อน เค้าดึงรองเท้าบอลขึ้นมาสวม พร้อมประโยคชวนคุย “ มึงคุยกับ มินแจดีๆตามที่กูบอกยัง “


     

    แล้ว..”


     

    แล้วมินแจว่าไง “


     

    คุยแล้ว.. แต่ก็สั้นๆอะมึง กูบอกให้เม่งพูดอะไรก็ได้ มันเลยบอกกูว่า อะไรก็ได้.. กวนตีนสัด ”


     

    ฮ่าๆ..ก็ถูกแล้วนิ มึงจะเซงทำไม ก็มึงบอกมันแบบนั้นอะ ” ร่างสูงหัวเราะก่อนจะหันไปมองสองคนที่กำลังคุยกันสนุกสนาน สองร่างที่อารมณ์ยิ้ม หัวเราะทำเอาผู้ชายทั้งสนามส่งสายตามามองแค่จุดเดียว


     

    ซึงพยอลลุกขึ้นยืนก่อนจะดึงมือของมินแจให้เดินตามเค้า รอยยิ้มใสยิ้มมาแต่ไกลก่อนจะมายืนตรงเขา พร้อมเสียงอ้อน


     

    ฮยอน~ ขอไปกินเค้กที่ร้านอาซอลลี่ ได้เปล่า “


     

    ไปทำไม ค่อยไปหลังฉันเล่นบอลเสร็จ “ เขาว่า


     

    ไม่เอาจะไปตอนนี้ จะไปกินเค้ก ฮยอนให้ฉันไปนะ น๊า~ ฉันกับมินแจไม่อยากนิ่งตรงนี้แล้วนะ เบื่อแล้ว อยากไปกินเค้กนั่งตาแอร์ นะๆ น๊า~ “


     

    ไม่ให้ไป “ อึนฮยอนยังคงยืนยันคำเดินก่อนอีกคนจะทำหน้ามุ้ยพร้อมหันไปบอกคนเานหลังที่ตัวเองจูงมือมา


     

    มินแจ ช่วยอ้อนหน่อยสิ น๊าๆ ฮยอนน๊า ฉันอยากไปกินนี่นา นะๆ “


     

    น๊า~ น๊า~ ฮยอนน๊า~ ” เสียงแปลกดังขึ้นตามหลัง มันเป็นเสียงเด็กที่อึนฮยอนยกยิ้มทันทีก่อนจะขำขึ้น เขาหันไปหาเพื่อนสนิทที่ก็ยิ้มตามเช่นกัน


     

    มานี่มามินแจ “ เขากวักมือเรียกคนรักของตัวเองให้เดินเข้ามาใกล้ ก่อนจะดึงลงมาให้นั่งตัก “ มินแจอยากไปเหรอ “ คำตอบที่อีกฝ่ายก็พยักหน้ารัว “ งั้นมินแจก็ อ้อนฉันสิ แล้วฉันจะให้ไป “


     

    น๊า~ ฮันโซน๊า~ น่า น๊า น๊า~ ” เสียงขึ้นลงสูงต่ำทำเอาเขาหลุดขำก่อนจะหอมแก้มคู่หมั้น มินแจน่ารักและใสซื่อเกินกว่าอะไรจริงๆ คนที่ไม่ว่าเขาจะบอกให้ทำอะไร ก็ทำทุกอย่าง.. ยกเว้นจะสั่งให้พูด


     

    ฉันให้ไปนะ.. เป็นรางวัลที่มินแจ อ้อนฉัน “


     

    เย้! “ ซึงพยอลร้องบอกก่อนจะดึงตัวเองนั่งตักอึนฮยอนเหมือนกัน “ ฮยอนก็ให้ ฉันไปน๊า น่า น๊า~ น๊าๆ “


     

    กูชินแล้วกับมึงอะไร พยอล..หยุดเถอะ “ อึนฮยอนว่าก่อนจะยักคิ้วให้ จมูกคมหอมแก้มใสที่กำลังทำหน้ามุ้ย


     

    ใช่สิ ฉันไมไ่ด้สดใหม่เหมือนมินแจนี่ ฉันมันเก่าแล้ว “


     

    คิดไปถึงนู้นเชียว “


     

    เชอะ แต่ยังไงฉันก็จะไป เพราะฉันจะไปดูแลมินแจ “ คนตัวเล็กว่าก่อนจะลุกขึ้นเต็มความสูง มือบางคว้าเอามือของเพื่อนสนิทเอาไว้ “ ไปเถอะมินแจ อย่าไปสนใจ คนแบบนั้นเลย เราไปกินเค้กอร่อยๆ กันดีกว่า ไปนั่งส่องหนุ่มๆกัน “


     

    นี่ๆ อย่านะเว้ยย “ อึนฮยอนว่าไล่หลัง ก่อนอีกคนจะหันมาแลบลิ้นใสด้วยท่าทางน่ารัก


     

    ไม่สนหรอกจ๊ะ แบร่~ ”


     

    เหอะ.. จริงเล๊ยย ไอ้เตี้ยย “ เขาสถบก่อนจะหันมาสนใจรองเท้าฟุตบอลของตัวเองต่อ พร้อมคำถามของเพื่อนสนิทที่เอ่ยถาม


     

    มึงไม่สนจริงๆเหรอว่ะ “


     

    ไม่สนอะไรว่ะ พยอลอ้อนนะเหรอ..”


     

    เออ มึงไม่สนจริงๆเหรอ “


     

    หึ.. หัวใจกูเต้นแรงทุกครั้ง ที่มันทำแบบนั้น พยอลน่ารัก มึงรู้มั๊ย ฮันโซ.. พยอลนะ เหมือนสีชมพูในวงกลมสีดำของกูเลยนะ น่ารัก สดใส ขี้อ้อน.. กูไม่เคยคิดว่าจุดสีชมพูจะเข้ากับวงกลมสีดำของกูได้หรอก กูเคยคิดว่ามันเด่นเกินไป แต่ตอนนี้กูคิดใหม่แล้วละ เพราะมันต้องเด่นสิ.. มันจะได้เข้าได้กับคนอย่างกู..”


     

    ก็ดีที่มึงมีความสุขดี ..”


     

    ทำไมว่ะ “ คำถามที่อีกคนแค่ยืนขึ้นก่อนวิ่งออกไปกลางสนาม.. ความรู้สึกที่บอกกับตัวเองแค่ในใจเท่านั้น


     

    ทำไมละเหรอ.. เพราะกูจะได้ตัดใจง่ายๆ เพราะมันเป็นความสุขของเพื่อน ที่กูรักมากคนนึงไง


     

    ร้านกาแฟและขนมบรรยากาศเย็นที่ทำให้สองร่างล้มตัวลงบนโซฟานุ่มอย่างรู้สึกดี กว่าอากาศภายนอกนั้นเหลือเกิน ใบหน้าหวานหลับตาช้าๆ อย่างรู้สึกผ่อนคลาย ท่าทางที่มินแจจะแค่ยิ้มและนั่งนิ่งๆมองซ้ายและขวา


     

    มินแจอยากกินอะไรเปล่า ฉันจะไปสั่งให้ ของคาวก็มีนะ ของหวานก็มี “


     

    พยอลจะกินของหวานหรือของคาว “ อีกฝ่ายถามก่อน คนตอบจะพยายามคิด


     

    อื้อออ ฉันอยากกินเค้กนะ เพราะว่า ตอนเย็นต้องหิ้วท้องรอฮยอนนะสิ เดี๋ยวพอไม่กินด้วยก็โวยวาย สั่งมาให้ฉันยัดอีก “ เสียงใสบ่อนกับอีกคนที่แค่หันไปทางตูู้เค้ก “ มินแจอยากจะกินเค้กแบบไหนละ ฉันจะไปซื้อให้นะ “


     

    ช็อคโกเล็ต “ เขาตอบสั้นๆ “ อื้อ.. เอาช๊อคโกเล็ตปั่น “


     

    โอเค เดี๋ยวฉันไปดูมาให้นะ “


     

    เค้กชิ้นหนานุ่มสองสามชิ้นถูกวางอยู่ตรงหน้า พร้อมด้วยเมนูน้ำปั่นที่สองคนก็สองสไตส์ มินแจชอบกินช๊อคโกเล็ตเป็นชีวิต ส่วนพยอลก็เหมือนกันชอบกินสตอเบอรรี่เป็นชีวิต


     

    ที่ร้านนี่อร่อยมากเลยนะ ฮันโซเคยพามินแจมากินเปล่า “


     

    สองครั้ง “ เขาตอบก่อนจะลงมือกินเค้กตรงหน้า ท่าทางความอร่อยที่ฉายแววออกมาทางดวงตาและรอยยิ้มใส “ พยอลกินสิ กินพร้อมมินแจ “


     

    อื้ออ แต่วันนี้ไม่ค่อยมีผู้ชายเลยนะ “ เขาเปรยก่อนจะมองไปรอบๆ ที่นั่งว่างเยอะจนมีแค่สามสี่ที่นั่งที่มีคนจับจอง แต่คนพวกนั้นแม้จะเป้นนักเรียนแต่ก็มากับแฟนแล้วบ้าง หรือว่ามาอ่านหนังสือบ้าง ดูท่าว่าจะไม่ใช่พวกแก๊งค์อึนฮยอนแล้วละ ที่มาเพราะมาเหล่สาว


     

    แต่มันเกี่ยวอะไรที่มินแจอยากพูดเหมือนพยอลละ “


     

    ก็เพราะว่า ถ้าเรามีผู้ชายเข้ามาคุยด้วย มินแจจะได้ชินกับการพูดคุยกับคนอื่นไง มินแจบอกว่า มินแจอยากพูดกับคนอื่นๆแบบไม่เกร็งไม่ใช่เหรอ “


     

    อื้ออ “ เขาพยักหน้าะร้อมอีกคนที่ก็แค่ยิ้มหวาน “ อยากสดใสเหมือนพยอล..”


     

    เหมือนฉันนะเหรอ ? “ มือบางชี้เข้าหาตัวเองก่อนจะยิ้มหวาน “ บ้า สดใสอะไรกัน ก็เฉยๆนะ “


     

    สดใสกว่าฉัน “ อีกคนบอก ท่าทางเศร้าที่อีกคนจะแค่ยิ้มกว้าง


     

    คนเราเปลี่ยนแปลงได้ ถ้าเราคิดจะเปลี่ยนละก็นะ ฉันเอง..ก็เคยเปลี่ยนมันมาแล้ว “


     

    เปลี่ยนเหรอ ? “


     

    อื้ออ ก็ครั้งนึงเคยคิดว่า เรื่องที่เกิดขึ้นระหว่างฉันกับฮยอนคงเป็นไปไม่ได้หรอก เค้ามีคนที่เคยชอบมาตั้งสิบปี สวยกว่าฉันมากแล้วเป็นถึงดารา ฉันคงไม่มีทางได้หัวใจเค้าหรอก แต่ฉันก็เปลี่ยนความคิด คิดจะลองสู้ดู .. แม้ตอนนี้จะยังไม่ชนะ แต่ก็ สูสีนะ จะบอกให้ “


     

    คนเรา.. มีความรักแล้วต้องเจ็บ พอมีความรักต้องไปสู้กับเขา แบบนั้น เราจะมีความรักทำไม อยู่เฉยๆไม่ดีกว่าเหรอ อยู่คนเดียว ไม่ต้องเจ็บ ไม่ดีกว่าเหรอ พยอล..”


     

    คนเรานะ พอไม่มีแฟนเราจะคิดแบบนี้กับคนที่มีแฟน แต่พอเรามีแฟน เราจะไม่ได้คิดแบบนั้นหรอก รู้มั๊ย ? .. “ เสียงหวานก่อนจะตักเค้กเข้าปากคำโต เขาเคีี้ยวความอร่อยสองสามครั้งก่อนจะกลืนลงคอ “ ความรักนะ มันแปลกนะ มันมีหลายๆอย่างซ่อนอยู่ในนั้น ทั้งการเสียสละ ความเห็นแก่ตัว ความสุข ความเสียใจ หรือแม้แต่ความทรมาณ หลายอย่างจริงๆ “


     

    หนังสือเล่นนึงที่มินแจเคยอ่านเขาบอกว่า สายตาของคนที่มองกันด้วยความรัก จะเหมือนที่รอยยิ้มอยู่ในแววตา.. มินแจนะ เชื่อเรื่องนี้นะ เพราะมินแจเห็นเวลาพยอลกับฮยอนมองกัน แต่ว่า กับคนนึงที่สิ ที่ชักไม่แน่ใจ “


     

    คนคนนึงเหรอ “


     

    อื้ออ แบบว่า สายตาที่มีรอยยิ้มอยู่ในนั้น เวลามองใครอีกคนที่มีเจ้าของแล้วนะ “


     

    แบบนั้นเค้าก็เรียกว่า แอบรักไง .. ถ้าอีกคนไม่ได้มีสายตาแบบนั้ให้ ก็เรียกว่าแอบรัก “


     

    การแอบรัก คือ อาการที่เรารู้สึกรัก ใครสักคนนึงแต่เราไมไ่ด้บอกเขาว่า เรารู้สึกอย่างไร แบบนั้นเราจะเรียกมันว่า การแอบรัก “ มินแจว่าก่อนจะพยักหน้า สายตาที่มองไปยังอีกคนที่ก็ยิ้มกว้างเช่นกัน “ งั้นมินแจก็ไขความข้องใจ ข้อนึงออกแล้วละ “


     

    ดูมีความลับอีกแล้วนะ..”


     

    หนังสือเล่มนึง เคยบอกว่า ความจริง ไม่ใช่มีแต่สิ่งที่เราควรพูด.. เพราะบางความจริง มันไม่น่าพูดออกไป โดยเฉพาะอย่างยิ่ง กับคนที่เรารู้สึก รัก “


     

    สวัสดีครับ คนสวย..ผมเห็นว่ากำลังมีที่ว่าง นั่งด้วยคนได้รึเปล่า “ เสียงทุ้มไม่คุ้นชินขัดคนสองคนที่กำลังยิ้มให้กันจนต้องหันไปมองบุคคลที่สาม ชายหนุ่มที่ไม่รู้จัก และไม่คุ้นหน้ายิ้มหล่อเจ้าเล่ห์ ก่อนจะนั่งตรงที่วาง และเริ่มบทสนทนาที่ทั้งสองคนได้แต่นั่งจ้องหน้ากันก็เท่านั้น


     

    ดีจังเลยอะ รุ่นเดียว คิดว่ารุ่นน้องซะอีก หน้าเด็กจังนะ “ เขาหว่านเสน่ห์กับทั้งสองคนที่ก็ไม่ไ่ด้สนใจอะไรนัก การพูดคุยที่ดูยืดยาว กลับกลายเป็นซึงพยอลมากกว่าที่พูดซะเยอะ


     

    มินแจเลือกพูดเท่าที่อีกคนถาม หรือให้ออกความคิดเห็นบางอย่าง หาแปลกที่พอเป็นผู้ชายคนอื่นแล้วตัวเขาไม่เคยเจอเลยว่า คนที่ดีกว่า ฮันโซจะมีที่ไหน.. ใครๆก็เป็นแบบนี้กันหมด เหมือนจะเลวแต่ก็ไม่เลว แต่ก็นั่นละ เหมือนจะดีแต่ก็ไม่ดีเช่นกัน


     

    แล้วเรียนเป็นยังไงบ้าง หมอคงยากมากเลยสินะ ..แล้วมินแจคิดจะเรียนต่อหมออะไรเหรอ “ คำถามที่มาอาการอยากรู้แบบสุเ ใบหน้าคมย้ายเข้ามาใกล้ กับร่างบางที่แค่ย่นหน้าหลบ


     

    หมอเด็ก..”


     

    คิดว่าฉันจะให้เรียนหมอผ่าติดเอาหมาออกจากปากนะ มันจะได้ไม่มายุ่งกับเมียฉัน “เสียงทุ้มจากหน้าประตูดังขึ้นก่อนเจ้าของเสียงจะเดินเข้ามาใกล้ ฮันโซเดินนำเพื่อนอีกสามคนเข้ามาก่อนจะดึงมือของมินแจขึ้นจากเก้าอี้นั่ง “ มึงมีธุระอะไรกับคู่หมั้นกู “


     

    อ้าว คู่หมั้นมึงหรอกเหรอ “ เขาทวนเสียงก่อนจะลุกขึ้น แล้วหันมองคนน่ารักที่เหลือที่นั่งอยู่


     

    ไม่ต้องมอง นั่นก็เมียกู..” อึนฮยอนว่า


     

    เหอะ มีแต่พวกของโดนแล้ว.. กูไปดีกว่า “ เขาว่าแค่นั้นกับประโยคดูถูกที่อึนฮยอนยังขมวดคิ้วไม่พอใจ


     

    มึงระวังปากมึงนะ ว่าเมียกู.. โดนแล้วไง ก็โดนของของกู ..ห่า ไข่ไม่ใหญ่เท่ากูละสิ เชี่ย “


     

    เกี่ยวอะไร กับไข่ใหญ่ไข่เล็กว่ะ “ มินซองหันไปกระซิบคิมฮีที่ก็แค่ยักไหล่ ไม่สนใจ


     

    คงอยากอวดมั้ง..”


     

    กลับบ้านเลยมึง อ้อนกูดีนักเป็นไง มาเลย มาเลย เดี๋ยวนี้ “ เขากวักมือเรียกอีกคนที่ยืนขึ้นก่อนจะส่งเสียงอ้อน


     

    ฉันไม่รู้เรื่องนะ ฮยอนเค้ามาจีบฉันเองนะ “


     

    ตลอดอะ ไม่รู้ตลอดดด “ เขาลากเสียงยาวก่อนจะคว้าเอามือของอีกคนเข้ามากุมเอาไว้ “ กลับบ้านเลย ไปเลย “


     

    รู้แล้วน่าาา บอกมินแจก่อนสิ..” เขาว่าก่อนจะหันไปด้านหลังแต่ทว่า “ อ้าว หายไปไหนแล้ว “


     

    ถึงบ้านแล้วมั้ง “ มินซองบอกสั้นๆ กับอีกคนแค่ขมวดคิ้ว


     

    ไม่เห็นบอกฉันเลยสักคำ “


     

    ไอ้ฮันโซมันไม่ให้ยืนน่ารักนายหรอก นายก็กลับได้แล้ว ไป..โอ้ “ ร่างสูงลากมืออีกฝ่ายเดินกลับมายังลานจอดรถที่ดูเหมือนว่า คนที่คิดว่ากำลังไปแล้ว จะแค่ยืนคุยกันอยู่ตรงข้างรถเขา ที่ดูเหมือนว่า จะเป็นรถของฮันโซที่มาจอดไว้


     

    นั่น ฮันโซกับมินแจนี่ ยังไม่ไปสักหน่อย..”


     

    ฉันอยากดูว่ะ “ อึนฮยอนว่าก่อนจะเดินอ้อมหลังไปยืนหลังรถตัวเอง พร้อมดึงให้คนรักนั่งลงข้างๆก่อนจะยกมือห้ามไม่ใหส่งเสียงหรือถามอะไร


     

    ไปรู้จักมันได้ยังไง “ ฮันโซเริ่มคำถามกับอีกคน ที่ก็ยืนตอบด้วยท่าทางเฉยชา


     

    เค้าเข้ามานั่งคุยกับมินแจ “


     

    คุยอะไรบ้าง “


     

    เรียนที่ไหน บ้านอยู่ไหน เรียนยากมั๊ย อยากเป็นหมออะไร “ เขาบอกอีกคนเรื่อยๆ ด้วยท่าทางปกติ แต่ความกังวลที่อีกคนที่แค่ทำท่าหงุดหงิดใส่เขานั้น ก็ทำให้น่างุนงงไม่น้อย “ รอยยิ้มหายไป “


     

    อะไร “


     

    รอยยิ้มในตาฮันโซหายไป “ มินแจว่าก่อนจะเอียงหน้างง “ รอยยิ้มในดวงตา.. ฮันโซแอบชอบมินแจเหรอ “


     

    แอบชอบ “ เค้าทวนเสียงก่อนอีกคนจะแค่ขมวดคิ้ว “ แอบชอบอะไร “


     

    พยอลบอก.. พยอลบอกว่า แบบนั้น มินแจไม่ได้มองฮันโซแบบที่ฮันโซมองมินแจ เพราะงั้นมันเป็นการรักข้างเดียว ฮันโซแอบรัก มินแจ.”


     

    เหอะ.. แล้วเมื่อไหร่จะรักฉันละ “


     

    มินแจไม่ได้รักฮันโซ “


     

    ขอบใจนะ..” ร่างสูงว่าก่อนจะขยี้ผมนุ่มเบาๆ “ มินแจ.. อย่าพูดนะ กับคนไม่ดีนะ “


     

    ทำไม “


     

    เพราะมันไม่ปลอดภัย..” เขาบอกเสียงจริงจัง


     

    ไม่ปลอดภัยแบบไหน “


     

    แบบที่ทำให้มินแจอันตรายไง “


     

    งั้นมินแจก็ห้ามพูดกับฮันโซด้วยสิ.. ฮันโซอันตราย “ สายตาหวานบอกแบบนั้นกับอีกคนที่แค่ถอนหายใจ


     

    ไม่ใช่เว้ยยย ยกเว้นฉันสิ ฉันเป็นคู่หมั้นนาย มันไม่เกี่ยวกัน “


     

    งั้นถ้าไม่ใช่เป็นคู่หมั้นกัน ฮันโซก็อันตรายนะสิ “


     

    เห้ออออ เอาเถอะ พูดกับเฉพาะคนดีๆนะ เข้าใจมั๊ย เพื่อนในห้องนะ ..แบบนั้น ทำรายงานกัน ไปกินข้าวกัน คนที่ดีนะ จะอธิบายไงดีว่ะ “ เขาสถบคำสุดท้ายก่อนอีกคนจะแค่เอียงหน้า


     

    คนดี คือ คนที่ทำให้เรารู้สึกดี ที่ว่าจะเป็นการพูด หรือการกระทำ คนที่จะกระทำแต่ความดี พูดแต่เรื่องดีๆ.. “


     

    เออ แบบนั้นละ ไม่ใช่คนที่จะถามนายว่า มินแจมีแฟนรึยัง มินแจไปกินข้าวเย็นกับฉันมั๊ย หรือว่า มินแจไปนอนกับฉันเปล่า อะไรแบบนั้นเข้าใจป่ะ “


     

    อื้อ..” เขาพยักหน้ากับอีกคนที่ก็แค่ยกยิ้ม “ นั่นไง.. รอยยิ้มในดวงตาของฮันโซ “


     

    ฉันหลงรักมินแจงั้นเหรอ..” ร่างสูงว่าก่อนจะหันหน้าตัวเองเข้ากับกระจกรถ “ สายตาแบบไหนกัน “


     

    ก็แบบนั้น..”


     

    แบบนี้เค้าเรียกว่า สายตาเป็นห่วงรึเปล่า มินแจ นายอ่านจากหนังสือเล่มไหนนะ “


     

    เล่มสีชมพู บนโต๊ะ “


     

    กูจะไปฆ่าคนเขียน “ เขาสถบ “ สายตาแบบนี้มันบอกได้หลายความรู้สึกนะเว้ยยย เป็นห่วง ก็แบบนี้ แล้วถ้าแค่เป็นห่วงละ “


     

    งั้นฮันโซไมไ่ด้รักมินแจ ฮันโซแค่ห่วงเฉยๆ “


     

    เห้อออ กลับบ้านเถอะ “ เขาว่าอย่าตัดปัญหาก่อนจะเปิดประตูรถให้อีกคน ล้อที่หมุนออกไป มีแค่สองร่างที่หันมามองหน้ากันด้วยรอยยิ้ม


     

    ฮยอนว่า ฮันโซรักมินแจแล้วรึเปล่า “


     

    น่าจะยัง อาจจะแค่ห่วงนะ นายเคย หวังดีกับใครสักคนมากๆมั๊ยละ “ ฮยอนว่ากับอีกคนที่ทำท่าคิดหนัก


     

    ก็ถ้าเรารู้สึกแบบนั้นกับใคร คือเรากำลังจะรักเขาไม่ใช่เหรอ “


     

    ไม่รู้สิ สำหรับฉันไอ้ฮันโซเคยมีคนที่มันชอบมากๆอยู่คนเดียวเอง ที่มันเคยบอกฉัน “


     

    จริงเหรอ ฮันโซอะนะ “ ซึงพยอลถามอีกคนอย่างอยากรู้ “ ใครนะ แล้วตอนนี้ละ เขาไปไหนแล้ว “


     

    ไม่รู้สิ ตอนนั้นสักม.ต้นอะ มันบ้ามาก ถึงขนาดนั้น ไปนั่งกินข้าวกับไอ้เจ้านั่นทุกเที่ยงเลย บอลก็ไม่เล่น แล้วอยู่ๆ มันก็ไม่พูดถึงเด็กนั่นอีกเลย สั่งให้เลิกพูดถึงด้วย.. สงสัยจะอกหักมั้ง เรื่องความรักของมัน ไม่มีใครรู้หรอก มันชอบเก็บ “


     

    เขากลัวใครแย่งแฟนเค้ารึเปล่า “


     

    แต่เด็กนั่นน่ารักมากเลยนะ ฉันเคยเห็นมันควงแว๊บๆ “ อึนฮยอนว่าก่อนจะหันมามองหน้าแฟนตัวเอง “ ฉันว่าถ้าโตมาคงหน้าคล้ายๆนายเหละมั้ง ? .. ตัวเล็กขาวๆ ปากแดงๆ “


     

    มินแจก็เป็นแบบนั้น ขาว ตัวเล็ก ปากแดง “


     

    หึ ตัวเล็กสเป๊คมันละมั้ง “


     

    แล้วฮยอนละ ชอบคนตัวเล็กๆรึเปล่า “ ร่างบางถาม ท่าทางอยากรู้ที่ร่างสูงจะแค่นั่งลงต้องขอบท้ายรถก่อนจะดึงให้อีกคนเขามานั่งพิงตรงระหว่างขา


     

    ฉันชอบคนที่สูงประมาณไหล่ แต่ฉันกลับมีแฟนตัวเตี้ยนะสิ “


     

    ฉันตัวเล็ก “ ซึงพยอลเถียงกับอีกคนที่แค่ยิ้ม


     

    สเป็คฉันนะ ตามหัวใจฉันพยอล... มันเปลี่ยนไปตั้งแต่ฉันรักนาย “ มือหนากอดเอวบางที่กำลังเขินเข้ามากอด ท่าทางที่ใบหน้าจะซบลงบนลาดไหล่ของอีกคน


     

    ฉันอยากให้มินแจเป็นคนที่ฮันโซรักจริงๆ “


     

    ทำไมละ..”


     

    ฮันโซดูเหงาและต้องการใครสักคน ใครที่ทำให้เขาไม่เหงา “


     

    แต่ถ้าเป็นมินแจจะไม่ยิ่งเหงารึไง เค้าไม่ใช่คนร่าเริงสักหน่อย “ อึนฮยอนว่าก่อนจะขมวดคิ้วงง สำหรับความต้องการของอีกคน


     

    คนที่ทำให้เราหายเหงา ไม่จำเป็นต้องร่าเริงไม่ใช่เหรอ แค่เป็นคนที่อยู่ด้วยแล้วมีความสุข ก็หายเหงาแล้ว “


     

    เก่งแต่เรื่องชาวบ้าน มาอีกคนแล้วเหรอ “ เขาแซวก่อนอีกคนจะแค่ทำหน้ามุ้ย


     

    แต่มันไม่จริงหรอกเหรอ..

    ความสุขจากความรัก ก็ต้องการแค่คนที่รัก ในแบบที่เราเลือกจะรัก มันก็เท่านั้นเอง


     

    นี่ ฉันถามหน่อยสิ มินแจ.. “ ฮันโซหันถามคนนั่งข้างๆที่กำลังมองออกไปนอกหน้าต่างอย่างเหม่อลอย คำถามที่ชวนทำลายความเงียบจากเขา “ ไอ้สายตามีรอยยิ้มนะ นายว่าสายตาฉันมีรอยยิ้มกับใครบ้าง “


     

    ก็เวลาที่ฮยอนกับพยอลมองกันมันเป็นแบบนั้น สายตามีรอยยิ้ม “


     

    อันนั้นมันแน่นอนอยู่แล้ว สองคนนั้น รักกันปานจะกลืน “


     

    แล้วก็สายตาเวลาที่ฮันโซมองฉัน..” คนตัวเล็กบอกก่อนจะหันไปมองร่างสูงด้านข้าง “ แล้วก็สายตาที่ฮันโซ.. มองพยอล “


     

    เอ๊ียด!!!! รถที่เบรคตัวลงอย่างแรง จนคนร่างบางต้องดันตัวเองเอาไว้ด้านหน้ารถ สายตาคมหันมองคนตัวเล็กด้านข้างอย่างรู้สึกไม่ดีกับคำพูดของอีกคน


     

    อันนั้นมันสายตาห่วง..”


     

    สายตาที่มีทั้งความรักและความเสียดาย.. ความเสียใจและห่วงหา.. ฮันโซ .. “ มือบางเรียกอีกคนก่อนจะเื้อมจับมือหนาคู่นั้น “ ฮันโซรักพยอลใช่มั๊ยละ.. มินแจรู้นะ “


     

    มินแจ...”


     

    ทำไมไม่บอกพยอลละ..”


     

    นั้นมันไม่ใช่เรื่องของนาย “


     

    บางที ความเงียบ ก็ไม่ได้หมายความว่า ไม่รู้..


     

    ................................................................

    ยาวไหม.. อัพยาวทดแทน วันหยุดยาวววววววววววววววววว

    ไม่มีอะไรจะพูด เพราะว่าฟิคโดนแบนไปแล้ว เพราะงั้นเราแค่ทำให้ดีที่สุดต่อไป

    และหนม ก็จะ หน้าด้านต่อไป

    กร๊ากกกกกกกกกก ใครสนใจหนังสือ สามารถอ่านรายละเอียดได้ในตอนหน้าจ้า

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×