ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ฉันชื่อ...คิโยอารุ ทาคิ

    ลำดับตอนที่ #2 : อิทโชะคุ อิตโต \"ดาบเดียวในหนึ่งก้าว\"

    • อัปเดตล่าสุด 18 มี.ค. 48




        

    “ ชมรม!? ”



    “ อือ!  ใช่  - - ทาคิต้องเลือกชมรม  จะมาอยู่ชมรมการแสดงกับฉันมั๊ยหละ ”





    “ อย่าดีกว่า!  ชมรมของยัยนี่มีแต่คนพิลึก ๆ ” เคตะรีบออกมาความเห็น  นัตสึกิหันไปมองเคตะเคือง ๆ  ก่อนจะบอกว่าทากิหนะอยู่ชมรมถ่ายภาพ  แต่ถ้าทาคิสนใจชมรมไหนหละก็ไปสมัครที่ชมรมได้เลย





    “ เหรอ!? ”





    “ เออ! ใช่  ฉันจะบอกว่าเมื่อเช้าตอนที่มาซ้อม  ฉันเจอพวกชมรมบาสด้วยหละ  เขาบอกให้ฉันมาบอกเธอว่า “ ได้โปรดมาเข้าชมรมพวกเราด้วยเหอะ  ท่านทาคิ! ” เคตะพูดพร้อมกับทำท่าที่เข้าบอกว่าพวกชมรมบาสทำกันแบบนี้จริง ๆ นะ  





    “ ไม่เอาอ่ะ!  ถ้าขืนเล่นบาส  ฉันก็ตัวสูงกว่านี้อีกหละสิ - - ไม่หละขอผ่าน ” ฉันบอกปัด  เพราะตอนนี้ฉันมีชมรมที่สนใจอยู่แล้ว  แล้วฉันก็ถามทางไปชมรมกับนัตสึกิเรียบร้อยแล้วด้วย  กะว่าเลิกเรียนนี้จะไปดูสักหน่อย





    “ แล้วทำไมวันนี้พวกนายไม่แต่งตัวแบบเมื่อวานหละ  น่ารักดีออก>_< ”





    “ ไม่หละ  แบบนั้นมันบดบังความน่ารักของฉันหมด  แล้วที่ฉันแต่งก็เพื่อต้อนรับเธอเท่านั้นแหละ ”





    “ ต้อนรับฉัน!  รู้ม๊ย! ว่าฉันไม่ดีใจเลยนะที่นายแต่งตัวแบบนั้นมาต้อนรับฉันหนะ=_= ”





    “ แหม! ทาคิหละก็  ทำเป็นเชื่อเจ้าบ้าเคตะไปได้  ความจริงพวกเราโดดเรียนกันหนะ  แล้วที่สำคัญแต่งตัวแบบนั้นก็ไม่มีใครจำได้ด้วย “





    “ พวกบ้า! “  ฉันแอบคิดในใจ  แล้วทากิก็เข้ามาสมทบกับพวกเรา  นัตสึกินั่งข้างหน้าฉัน  ส่วนเคตะก็ข้าง ๆ กับนัตสึกิ  นี่ฉันไม่เห็นรู้มาก่อนเลยแฮะ  ว่า 2 คนนี้อยู่ห้องเดียวกับเราด้วย!!!





    “…ออด………..ออดดดดด………” แล้วออดหลังเลิกเรียนก็ดังขึ้น  ระหว่างที่ฉันกำลังเปลี่ยนรองเท้าอยู่นั้น  ซองจดหมายนับสิบก็ล่วงลงมา  ฉันก้มลงไปหยิบจดหมายเหล่านั้นขึ้นมา





    “ คิกๆๆๆ!  ได้จดหมายบอกรักด้วยเรอะ……เธอหนะ ” เสียงทากิพูดขำ ๆ ฉันมองหน้าเขาเคืองๆ ไม่เห็นต้องพูดเสียงดังขนาดนั้นเลย  ฉันอายนะเฟ่ย  ฉันแย่งซองจดหมายมาจากทากิแล้วยัดมันลงไปในกระเป๋า





    “ จะไปไหน? ” ทากิวิ่งตามมา





    “ ไปที่ ๆ ไม่มีนาย! …แบร่ๆ ”





    “ ลืมบุญคุณของฉันไปแล้วรึไง  เมื่อคืนหนะถ้าไม่มีซาลาเปาไส้เนื้อของฉันเธอคงหิวตายไปแล้วนะ ” ทากิพูดทวงบุญคุณ





    “ เรื่องแค่นี้ฉันไม่ถือว่าเป็นบุญคุณหรอกน่า - - แล้วก็………อ๊ะ! ไม่พูดดีกว่า ”





    “ อะไรของเธอ?  พูดออกมาซะดี ๆ ”





    “ เรื่องอะไรฉันจะพูด  ………ไปดีกว่า>_< ” ฉันแลบลิ้นใส่ทากิแล้ววิ่งหนีเขาไป  





    “ ยัยบ้าเอ๊ย! “  ทากิมองทาคิที่ค่อย ๆ หายไป  แล้วบ่นออกมาก่อนที่จะเดินไปยังชมรม





    \"เข้ามาข้างในก่อนก็ได้นะครับ! “  ผู้ชายคนหนึ่งพูดขึ้นเมื่อเห็นว่าฉันไปซุ่มดูเขาอยู่  ฉันพยักหน้าอาย ๆ แล้วเดินตามเขาเข้าไปด้านใน  ว่าแต่เป็นผู้ชายที่หล่อมากๆ  แต่พอเข้าไปก็ต้องตกตะลึงกับภาพที่เห็นไปชั่วขณะ





    ………อะไรกัน!?  ทำไมมีแต่ผู้ชายทั้งนั้นเลยอ่ะ? …………





    “ โอ๊ะ!  ผู้หญิงโว้ย!!  ผู้หญิง!! ” เสียงร้องดังลั่นเมื่อฉันเดินเข้าไป  พวกที่นั่งอยู่ข้างในต่างมองฉันเป็นตาเดียว  





    “ เห็นยืนอยู่ข้างนอกก็เลยพาเข้ามา “





    “ นี่คงไม่ได้หมายความว่าฉันเป็นพวกโรคจิตถ้ำมองหรอกน่ะ ToT ”





    “ สนใจที่จะเข้าชมรมมั๊ยครับ! รู้สึกว่าทุกคนในชมรมดูกระตือรือร้นแปลก ๆ ” เขาพูดกับฉัน  ฉันพยักหน้าตกลง  เขาอมยิ้มเล็กน้อยแล้วพาฉันไปหาผู้ชายอีกคนหนึ่งที่กำลังนั่งดูการต่อสู้อยู่





    “ นี่ประธานชมรมของเรา  เทนมะ  คุโร่!  …… ส่วนฉัน  อาซากุระ  อินาริ  รองประธาน “ เขาเอ่ยแนะนำตัว ( ว้าว! เป็นรองประธานด้วยแฮะ )





    “…..คะ!…คิโยฮารุ  ทาคิ  ขอฝากเนื้อฝากตัวด้วยค่ะ>_<…” ฉันโค้งให้กับรุ่นพี่ทั้งสอง





    “ กฎของชมรมเราก็ไม่ได้มีมากมาย แต่สำหรับทาคิจังซึ่งเป็นสมาชิกหญิงคนเดียวและคนแรกของชมรมเราเราก็จะให้อภิสิทธิ์พิเศษก็คือ…..!!!ต้องมาซ้อมตั้งแต่วันจันทร์- เสาร์ ทุกเย็นอย่างน้อยวันละ2ชั่วโมง  ซึ่งจะมีรุ่นพี่ที่หล่อๆและเก่งๆของชมรมเราซ้อมให้….” รุ่นพี่คุโร่อธิบายให้ฉันฟังพร้อมกับชี้ไปที่สมาชิกชมรมทุกคนซึ่งหล่อกันทุกคนจริงๆ หล่อกันจนฉันแปลกใจเลยหละ





    “….ค่ะ!….”





    “….ส่วนวันเสาร์นั้นต้องมาซ้อมอย่างน้อยวันละ3ชั่วโมง และทางชมรมของเราจะมีการแข่งเพื่อทดสอบความสามารถและปรับระดับกันทุกเดือน…ซึ่งจะต้องสู้กันเองกับคนในระดับเดียวกันเพื่อปรับระดับ”รุ่นพี่คุโร่อธิบายให้ฉันฟัง





    “….ปรับระดับ….”





    “….อ้อ!ปรับระดับที่ว่าก็คือ คนที่อยู่ระดับที่ต่ำที่สุดหรือแพ้ตลอดจะต้องทำงานเป็น….เบ๊….ประจำชมรมหรือก็คือคนใช้ประจำชมรมของเรา ซึ่งก็มีหน้าที่ ซักเสื้อผ้าของชมรมบ้าง ทำความสะอาดห้องซ้อมหรือห้องภายในชมรมบ้างหรืออาจจะแล้วแต่คนที่ใช้ว่าจะใช้ให้เราไปทำอะไร ซึ่ง

    คนที่เป็นเบ๊นั่นไม่มีสิทธิ์ที่จะปฏิเสธเด็ดขาด…”รุ่นพี่คุโร่บอกฉันด้วยน้ำเสียงที่ยากจะขัดขืนคำสั่ง





    “…ค่ะ…”





    “….แล้วระยะปลดประจำการก็ต่อเมื่อครบ1เดือนหรือต่อเมื่อมีคนที่อ่อนกว่าตัวเองมาแทนก็จะปลดประจำการ..แต่ถ้ายังไม่สามารถพัฒนาตัวเองได้ก็จะเป็นเบ๊ตลอดไป……เข้าใจนะครับ!” รุ่นพี่อินาริอธิบาย





    “…ค่ะ เข้าใจ….^.^” ฉันตอบออกไปพร้อมกับคิดว่าฉันคิดผิดหรือเปล่านี่ที่มาอยู่ชมรมนี้





    “….งั้น!!! ….พร้อมที่จะเริ่มฝึกซ้อมเมื่อไหร่หละ”รุ่นพี่อินาริถาม





    “….ก็แล้วแต่รุ่นพี่จะเห็นสมควรคะ….” ฉันตอบออกไป





    “….ดีมาก!!!!!…..เข้ามาใหม่ก็เชื่อฟังรุ่นพี่…..งั้นเพื่อเป็นนิมิตรหมายอันดีเอาเป็นว่าเรามาเริ่มกันพรุ่งนี้เลยก็แล้วกันนะ…ตกลงมั๊ย?” รุ่นพี่คุโร่บอก





    “….ยังไงก็ได้คะ…”ฉันตอบออกไป





    “….งั้นพรุ่งนี้เจอกันที่นี่….ฉันจะให้เจ้าอินาริสอนเบื้องต้นให้ก็แล้วกันนะ…”รุ่นพี่คุโร่บอกฉันพร้อมกับหันไปบอกรุ่นพี่อินาริ





    “….ค่ะ!!!…..พรุ่งนี้เจอกัน….งั้นวันนี้ขอตัวก่อนนะคะ….^-^” ฉันโค้งและกล่าวลาพร้อมกับรีบเดินออกมาจากชมรมทันที





    “….อะไรกัน!!! ซ้อมตั้งแต่พรุ่งนี้ แถมยังต้องมีการปรับระดับด้วย แล้วอย่างนี้ฉันจะสู้ใครได้บ้างไหมละเนี่ย…สงสัยฉันต้องกลายเป็นเบ๊!ตั้งแต่พรุ่งนี้ซะละมั้ง!!!! ”





    “…..โป๊ก!….....โอ้ย!เจ็บ! ใครมาเล่นหัวฉันเนี่ย…” ฉันร้องออกมาพร้อมกับรีบหันกลับมาดูทันทีว่าใครเป็นคนส่งมะเงกมาลงบนหัวฉัน





    “….ทากิ…..นายเนี่ย!  ฉันเจ็บนะ…โอ้ย! ” ฉันบ่นทากิ  ทากิหัวเราะขำ ๆ ก่อนจะพูดว่า  “ ก็ฉันเห็นเธอเดินบ่นอะไรอยู่คนเดียวก็ไม่รู้…ฉันก็นึกว่าผีเข้ารึไง ก็เลยช่วยทำให้เธอรู้สึกตัวด้วยมะเงกนี่ไง…เป็นไงรู้สึกดีบ้างไหมหละ!  ha ha ha ”





    “ …………..”





    “  นี่!  เป็นใบ้รึไง  ทำไมไม่พูด ” ทากิเอามือมาถ่างปากฉัน  ฉันร้องออกมา  ตาบ้า!ฉันเจ็บนะเนี่ย!





    “  ก็ตามใจ  ถ้าไม่อยากพูดก็ว่าจะพาไปเลี้ยงไอศครีมสักหน่อย……..ในเมื่อไม่พูดงั้นก็อดไปหละกัน……แบร่! ”





    “ กิน! ” ฉันพูดขึ้น  ทากิหันมามองหน้าฉันขำ ๆ ก่อนจะบ่นว่าฉันเห็นแก่กิน





        ทากิลากฉันมาจนกระทั่งถึงร้านไอศครีมเล็ก ๆ ที่ตั้งอยู่ไม่ไกลจากโรงเรียนนัก  เขารีบวิ่งตรงไปซื้อทันทีแล้วกลับมาพร้อมไอศครีมโคนก้อนโต  ที่ทำให้น้ำลายของฉันเกือบจะไหลออกมาโดยไม่รู้ตัว!





    “ เอ้า! นี่ของคนเห็นแก่กิน( ตะกละ )  ”





    “ ^_^ ขอบคุณค่ะ - - แต่ฉันไม่ได้เห็นแก่กินนะย่ะ ” ฉันรับมาพร้อมทั้งรีบแก้ข้อกล่าวหา  

    ทากิมองทาคิที่กำลังกิมไอศครีมอย่างเอร็ดอร่อย  ใบหน้าที่สดใสไร้เดียงสาของเธอทำให้ทากิยิ้มออกมาโดยไม่รู้ตัว  ทั้ง 2 นั่งอยู่ตรงนั้นจนกระทั่งท้องฟ้าค่อย ๆ มืดลง





    “ มืดเร็วจัง! ”





    “ ไปทำอะไรแถมชมรมเคนโด้? - - อย่าบอกนะว่าเธอไปอยู่ชมรมนั้นหนะ ” ทากิถามแต่แล้วจู่ ๆ เขาก็เปลี่ยนสีหน้าทำอย่างกับว่าการเข้าไปอยู่ในชมรมนั้นมันผิดงั้นแหละ





    “…ใช่! ต่อไปนี้ฉันคือสมาชิกใหม่ของชมรมเคนโด้…”  





    “ เธอหนะ  คิดผิดจริง ๆ นั่นแหละ ”  ทากิพูดด้วยน้ำเสียงที่บ่งบอกว่าสงสารและเห็นใจ  ฉันมองเขางงๆ แล้วถามถึงเหตุผล  ทากิหัวเราะหึๆ แล้วพูดด้วยน้ำเสียงที่เยือกเย็นสุด ๆ ว่า





    “ เพราะคนที่อยู่ชมรมเคนโด้มันบ้าหนะสิ! ”





    “ หมายความว่าไง!? ”











                   เคนโด้นั้นเป็น ศิลปวิทยายุทธ์ อันมีความหมายว่าวิถีแห่งดาบ ซึ่งมีพื้นฐานจากการใช้ดาบของซามูไร และก็เคนโด้เนี่ย ! เป็นวิชาการต่อสู้ที่รวดเร็วและเด็ดขาด ต้องอาศัยความสามารถและความว่องไวของตัวเธอเองด้วย เพราะในการต่อสู้แต่ละครั้งไม่มีใครที่จะสามารถเข้าไปช่วยเธอต่อสู้ได้ แล้วเธอซึ่งเป็นผู้หญิงแบบนี้ก็ยิ่งมีหลายจุดที่ไม่สามารถเทียบกับผู้ชายได้ เพราะฉะนั้นถ้าไม่อยากที่จะต้องเป็นเบ๊! เธอก็จะต้องขยันซ้อม และพัฒนาตัวเองให้มากขึ้นกว่านี้ เพราะว่าฉันสามารถบอกเธอได้เลยว่า ในชมรมนี้ทุกคนเข้มแข็งกันทั้งนั้น ถ้าเธออยากที่จะเก่งและสู้กับทุกคนได้ เธอก็จะต้องขยันซ้อม เข้าใจนะครับ!!!!” เสียงที่ดูเข้มแข็ง เด็ดเดี่ยวของรุ่นพี่อินาริดังขึ้นรอบ ๆ โรงฝึก  จากที่ฉันได้สังเกตดูมีเด็กปีหนึ่งอย่างฉันสมัครเข้าชมรมนี้แค่……





    “……คนเดียวเท่านั้น!  แล้วดูเหมือนว่าจะเป็นฉันซะด้วยสิ!……”





    “ เข้าใจนะครับ!”





    “ อ๊ะ!  เข้าใจค่ะ ” ฉันบอกเสียงเลิ่กลั่ก!  แล้วรุ่นพี่อินาริก็เริ่มอธิบายต่อ





    “ และที่สำคัญกว่านั้นแก่นแท้ของวิชาเคนโด้ก็คือ การรวม ดาบ จิต และกาย เข้าเป็นหนึ่ง การโจมตีโดยดาบไม้ไผ่ หรือชินัย ซึ่งสานจิต และกายไว้เป็นหนึ่งเดียว จนเอาชนะคู่แข่งได้ในพริบตานี้ เรียกว่า\"  อิทโชะคุ อิตโต (ISSOKU ITTO) หรือ ดาบเดียวในหนึ่งก้าว \" ซึ่งถือเป็นชัยชนะอันยิ่งใหญ่อันเกิดจากการใช้พลังเพียงนิดเดียว ดังนั้น ผู้ที่ฝึกเคนโด้อย่างลึกซึ้ง ไม่ว่าจะเป็นเด็กหรือผู้สูงอายุเพียงไหน ก็สามารถใช้หลักการนี้เอาชนะคู่ต่อสู้ที่มีร่างกายแข็งแรงกว่าได้อย่างง่ายดาย ถ้าเธอพยายามและเข้าใจถึงหลักการเล่นเคนโด้อย่างแท้จริงแล้วหละก็ การที่จะพัฒนาฝีมือของตัวเธอเองก็สามารถเป็นไปได้อย่างรวดเร็วเช่นกัน เข้าใจนะครับ!”





    “…………… ”





    “……จ้องๆ!……จ้องๆ!……”  เขาเข้าไปใกล้ ๆ ทาคิพร้อมกับจ้องเธอเขม็ง  และเหมือนจะรู้ถึงจิตสังหารของเขาที่ปล่อยออกมา  ทาคิค่อย ๆ ลืมตาขึ้นมา





    “ อ๊ะ!  โทษทีค่ะ  เผลองีบไปหน่อย  แหะ แหะ! “  





    “ งั้นเหรอครับ!  งั้นวันนี้พอแค่นี้ก่อนก็ได้ครับ!  >_< ”  อินาริเห็นท่าทางของเธอที่ดูแล้วว่าไปต่อไม่ไหวแน่  เขาจึงบอกเธอพร้อมทั้งขอตัวไปซ้อมดาบด้านใน  





    “ ค่ะ!  ขอบคุณค่ะ ” ฉันเอ่ยขอบคุณ  แต่ความจริงมันน่าอายมากกว่า  นี่ฉันหลับไปได้ไงเนี่ย!? ตายแล้ว  แล้วเมื่อกี้หน้าของเรากับเขาห่างกันแค่คืบ !!! ฉันทำเรื่องน่าขายหน้าจริง ๆ  





    “ อ๊ะ! ทาคิจัง  มาตรงนี้ก่อนสิครับ! ” เสียงรุ่นพี่คุโร่ตะโกนเรียกฉันกี่กำลังจะก้าวออกจากชมรม  ฉันเลยต้องหันหลังกลับไปอย่างขัดไม่ได้





    “ การแข่งขันของเราจะแบ่งเป็น 2 ฝ่ายคือฝ่ายแดงและขาวทีมละ 5 คน  โดยมีแถบผ้าสีแดงหรือขาวห้อยอยู่ด้านหลังของผู้เล่นเพื่อให้ผู้ชมและกรรมการทราบว่าเป็นฝ่ายใด แบบนี้ก็จะง่ายต่อการตัดสิน   ตามหลักแล้วเราจะใช้เวลาในการแข่ง 30 นาที ถ้าฝ่ายไหนทำคะแนนได้มากกว่าก็จะเป็นฝ่ายชนะ ส่วนที่เราแข่งอยู่นั้นจะใช้หลัก 2 ใน 3 ถ้าชนะ 2 ใน 3 ก็ถือว่าเป็นผู้ชนะ  หวังว่าคงพอจะเข้าใจนะครับ! ”





    “ ค่ะ จะพยายามเข้าใจค่ะ ”





    “ เอนโช “ เสียงกรรมการการแข่งขันประกาศออกมา





    “ เอนโช “ ฉันพูดทวนคำอย่างงงๆๆ





    “ อ๋อ! เอนโชก็คือ การต่อเวลาในการเล่น และถ้าฝ่ายไหนทำคะแนนได้ก่อนก็จะถือเป็นฝ่ายชนะ “





    “ งั้นเหรอค่ะ “ แล้วหลังจากที่ฟังคำสอนจบ  ฉันรีบสลายตัวออกมาอย่างเร็ว  ฉันเดินกลับหอมาด้วยท่าทางเพลีย ๆ  แต่ก็ยังไม่วายมีเรื่องให้ต้องปวดหัวอีก  ทากิยืนอยู่หน้าโรงเรียน  หวังว่าเขาคงไม่ได้ดักรอฉันนะ





    “ นี่! ยัยเซ่อ!  ฉันยืนอยู่ตรงนี้ทั้งคน  มองไม่เห็นรึไง ”





    “ อ๊ะ!  ตายแล้วทากิ - - นายมาอยู่ตรงนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่ ” ฉันแกล้งทำเสียงตกใจ  ทากิมองฉันกวน ๆ  แล้วเขาก็เดินหนีฉันไป





    “ รอฉันด้วยสิ! ” ฉันตะโกนเรียกพร้อมทั้งวิ่งตามทากิไป  เขามองฉันด้วยหางตาก่อนจะฟาดมะเงกลูกใหญ่ลงบนหัวของฉันด้วยเหตุผลสั้น ๆ ที่ว่า “ ฉันหมั่นไส้เธอ  ยัยเซ่อ! ”





    “ ตาบ้า! ” ฉันแอบบ่นทากิไม่ให้เขารู้ตัว  ขืนรู้ตัวฉันก็ตายหนะสิ  ตานี่ยิ่งโหด ๆ อยู่ด้วย =_=  ว่าแต่อยากรู้จังว่าคนที่อยู่ห้องเดียวกับทากิเป็นใคร?  ยังไม่เคยเห็นเลยนี่นา!!!!





    “…กรี๊ด!  ทากิ  กลับมาแล้วเหรอ? …” เสียงนัตสึกิดังออกมาหลังจากที่ทากิกำลังจะเดินเข้าห้อง  เธอเข้ามาลากทากิเข้าไปในห้องของเธอทันที





    “ อะไรของเธออีกยัยเปีย!? ”





    “ ก็จะอะไรซะอีกหละ  เมื่อกี้พี่ซันตะมาหานาย  ดูท่ามีเรื่องสำคัญด้วยหละ>_< ” นัตสึกิบอกด้วยน้ำเสียงที่ตื่นเต้น  แล้วซันตะนี่มันใครกันหละ?





    “ ว้าว! เคตะ  ห้องนายมีเกมส์ด้วยเหรอ?  ฉันเล่นมั่งสิ ” แล้วฉันก็เหลือบไปเห็นเจ้าแว่นเคตะนั่งเล่นเกมส์อยู่  จึงพุ่งเข้าไปหาทันที  





    “ นี่กลับห้องได้แล้วเธอหนะ! ” ทากิเข้ามาดึงฉันให้กลับห้อง  ฉันปฏิเสธทันที  ก็เกมส์กำลังสนุกอยู่นี่นา!  แล้วพรุ่งนี้ก็วันเสาร์แล้วด้วย!!!  นายอย่าบ่นเป็นคนแก่ไปหน่อยเลยน่า





    “ ตามใจ! ”ทากิพูดอย่างไม่สบอารมณ์  แล้วเขาก็เดินปึงๆๆ กลับเข้าห้องไป





    “ เขาโกรธฉันเรื่องอะไรอ่ะ? ” ฉันหันไปถามเคตะอย่างงงๆ  กับท่าทีของทากิ แล้วฉันก็อยู่เล่นเกมส์กับทากิจนเกือบจะเที่ยงคืน  แต่ก่อนที่จะนอนฉันมองผ่านระเบียงไปที่ห้องของทากิ  เขายังไม่ได้ปิดไฟนี่นา  





    “  ก๊อกๆ……ก๊อกๆ…” ฉันเคาะกำแพง  แต่ไม่มีเสียงตอบกลับ  ทากิคงกลับไปแล้วแน่เลย  แล้วฉันก็เดินไปดับไฟ  พร้อมกับตรงดิ่งขึ้นไปนอนบนเตียงที่แสนจะนุ่ม  ไม่นานนักฉันก็หลับไป





    “ ก๊อกๆ……ก๊อกๆ…” เสียงเคาะดังกลับมา  แต่คราวนี้ไม่มีเสียงตอบกลับแล้ว





    “ ยัยบ้า! กลับมาซะดึกเชียว! ” ทากิบ่นพึมพำ  ก่อนจะเดินไปดับไฟแล้วนอนหลับ  แต่ระหว่างที่นอนอยู่นั้น  เสียงร้องเบา ๆ ก็ดังมาจากข้างห้อง  ทากิพยายามเอามือขึ้นมาอุดหู  แต่ว่าเสียงนั้นกลับดังลอดเข้ามาอย่างน่าประหลาด





    “ โธ่โว๊ย! คนจะหลับจะนอน  พวกนายเลิกเล่นกันซักทีเซ่ ” ทากิลุกขึ้นแล้วเดินไปตะคอกเคตะกับนัตสึกิที่นั่งเล่นเกมส์กันอย่างดุเดือด





    “ รับทราบ! ” ทั้ง 2 รับคำ  ทากิมองอย่างโมโหๆ  แล้วเดินกลับไปยังห้องของเขาก่อนจะล้มตัวลงนอนอีกครั้ง  คราวนี้เสียงร้องได้หายไปแล้ว  แต่มันยังมีเสียงดังกึกกักอยู่  ทากิสาบานกับตัวเองว่า





    “ พรุ่งนี้ฉันไม่เอาแก 2 คนไว้แน่! ”





    “ ยัยบ้า! เธอไม่มีทางชนะฉันหรอก  จะบอกให้! ”





    “ ใครบอกหละ! ฉันชนะนายแน่ - - คอยดูเหอะ! ”





    “ แง่งๆๆ………แง่งๆๆ………แง่งๆๆ ”









    “ กรี๊ด! สายป่านนี้แล้วเหรอเนี่ย!? … ตายหละ  ฉันโดนฆ่าแน่เลย ” หลังจากที่เมื่อคืนนอนดึกไปหน่อย  เป็นผลทำให้ฉันตื่นสายขึ้นมาทันที  ตั้งแต่เกิดมาในชีวิตฉันเพิ่งอาบน้ำเสร็จเร็วก็วันนี้แหละ  ให้ตายสิ! นี่ฉันตื่นสายได้ยังไงกัน





    “…..แฮ่ก…..แฮ่ก….”  แล้วฉันก็วิ่งมาถึงชมรมจนได้  แต่ปรากฏว่าตอนนี้ที่ชมรมไม่เหลือใครแล้ว  ก็แน่หละ  นี่มันจะบ่ายโมงแล้วนี่นา  ใครจะมาอยู่รอฉันหละ





    “…โธ่!  อุตส่าห์รีบแทบตาย!…”  แต่แล้วก็มีเสียงดังออกมาจากด้านใน  ฉันรีบชะโงกหน้าเข้าไปดูทันที  แล้วก็พบผู้หญิงผมยาวคนหนึ่งนั่งซึมอยู่ข้างใน





    “…อ…เอ่อ  เป็นอะไรหรือเปล่า “ ฉันเดินเข้าไปหาพร้อมกับเอ่ยถาม





    “…ครับ…”





    “ อ้าว! ผู้ชายเหรอเนี่ย! ” ฉันอุทานเบา ๆ  ชายคนนั้นหันหน้าขึ้นมามองฉัน  ซึ่งเผยให้เห็นถึงใบหน้าอันหล่อเหลา ของเขา  หน้าของเขาสวยอย่างกับผู้หญิงเลยหละ  ตาของเขาเป็นสีฟ้าน้ำทะเล  ผมน้ำตาลอ่อนๆ ที่ยาวมากสะบัดไปมาอยู่ด้านหลัง





    “ …มีอะไรจะให้ฉันช่วยไหม…” ฉันถามออกไปเพราะว่านึกขึ้นได้ว่าฉันจ้องเขามานานแล้ว





    “…..อ….อ๋อ…..ไม่มีหรอก ขอบคุณมาก ” เขาตอบกลับมา





    “…แล้วมาซ้อมเคนโด้เหรอ  แต่เอ๋!! ทำไมถึงไม่เคยเห็นหน้ามาก่อนเลยหละ” ฉันถามออกไปอย่างงงๆ  เพราะตั้งแต่ที่อยู่มาไม่เคยเห็นเลยนี่





    “…เอ่อ…คือว่าไม่ค่อยได้มาหนะ พอดีวันนี้ว่างก็เลยแวะมาซ้อม แต่ว่าพอมาถึงก็ไม่มีใครอยู่แล้ว” เขาบอกกับฉันด้วยใบหน้าที่ผิดหวังอย่างเต็มที่





    “…งั้นเอาเป็นว่า…ฉันจะช่วยเป็นคู่ซ้อมให้คุณก็แล้วกัน…” ฉันบอกกับเขา  แล้วก็รีบวิ่งไปที่ห้องเปลี่ยนเสื้อผ้าทันที





    “…ค…คุณ…..” หนุ่มผมยาวคนนั้นตะโกนเรียกทาคิ  - -  ไปซะแล้ว เป็นผู้หญิงหรอกรึ!! ดูแล้วเหมือนผู้ชายจัง แล้วจะให้ฉันสู้กับผู้หญิงคนนั้นเนี่ยนะ!!! จะไหวหรือ!!?? แต่เอ๋! หรือว่าแม่นี่คือสมาชิกคนใหม่ของชมรมเรา  - - ฮึ! เข้าท่าไม่เลวนี่





    “ มาแล้ว! ฉันคิโยฮารุ ทาคิ  ยินดีที่ได้รู้จักคะ ^_^ ” ฉันแนะนำตัว  แล้วเขาก็แนะนำตัวเช่นกัน  ชื่อของเขาคือ  เทนมะ  เอจิ





    “…นะ  นี่ เอจิ ทำไมนายถึงเล่นเก่งจังอ่ะ  ฉันจะสู้นายไม่ไหวแล้วนะ…” ฉันบ่นออกไปเมื่อเอจิแทงฉันได้ 1 ทีแล้ว





    “…ก็ฉันเล่นมานานแล้วนี่น่า…ก็เลยพอเล่นได้อยู่บ้าง แต่ไม่ถึงกับเก่งหรอกนะ” เอจิตะโกนบอกฉัน  ตอนนี้พวกเราแข่ง 2 ใน 3  ถ้าแทงได้ 2 แต้มก็จะเป็นฝ่ายชนะ  ซึ่งดูเหมือนฉันจะแพ้เขาซะแล้ว!





    “…ระ เหรอ…แต่ฉันว่านายเก่งมากเลยนะ…ฉันเหนื่อยมากเลยรู้ไหม แฮ่กๆๆ”





    “ ไม่หรอกน่า เธอก็เก่งใช่ย่อย เพิ่งหัดเล่นได้ไม่นานเองไม่ใช่หรอ หลบฉันได้ตลอดเลยนะ” เอจิตะโกนกลับมาขณะที่ฉันกำลังหลบดาบของเขาอยู่





    “…ใครบอกเล่า ฉันซ้อมแทบตายเลยนายรู้ไหม ฉันกลัวว่าพอถึงวันแข่งปรับระดับเมื่อไหร่ฉันจะแพ้พวกรุ่นพี่แล้วจะเป็นเบ๊ กลัวจะตายอยู่แล้ว!!” ฉันพูดออกไปอย่างปอดๆๆ





    “…ฮะ ฮะ ฮะ ที่แท้ก็กลัวจะเป็นเบ๊…เธอนี่ตลกดีจัง” เอจิหัวเราะกับคำพูดของฉัน





    “…ตอนนี้แหละ…ย้ากกกก” ฉันบ่นออกมาพร้อมกับอาศัยช่วงที่เอจิหัวเราะฟาดลงไปที่หน้าของเอจิ





    “…โดนหน้า ทาคิจังได้แต้ม…” เสียงของรุ่นพี่คุโร่ที่เข้ามาตั้งแต่เมื่อไหร่ก็ไม่รู้ตะโกนขึ้น





    “…เอ๋!…” ฉันกับเอจิร้องออกมาพร้อมกัน





    “ อ้าวเอจินายมาทำไรอยู่ที่นี่ ฉันรึอุตส่าห์รอนายที่โรงฝึกตั้งนาน” รุ่นพี่คุโร่พูดกับเอจิ





    “ ก็ฉันนึกว่านายจะยังอยู่ที่นี่?? ก็เลยแวะมา แต่ว่าเจอทาคิพอดี ก็เลยอยู่เล่นกับทาคิ” เอจิอธิบาย





    “….อ…เอ๋….” ฉันพูดออกไปอย่างงงๆ





    “ อ๋อ! ฉันลืมบอกเธอไป ฉันกับคุโร่เป็นพี่น้องกัน” เอจิบอกกับฉัน





    “ ถึงว่า…นายเล่นเก่งเหลือเกิน…”





    “ ขอโทษด้วยนะทาคิจัง ถ้าเจ้าเอจิมันทำให้เดือดร้อน” รุ่นพี่คุโร่กล่าวกับฉัน





    “ ไม่หรอกค่ะ…เล่นกับเอจิแล้วสนุกมากเลยคะ”





    “…งั้นก็มาแข่งกันต่อดีกว่า…..เหลืออีก 1 ดาบ ใครแทงได้เป็นฝ่ายชนะ” เอจิบอกฉันและให้รุ่นพี่คุโร่ช่วยเป็นกรรมการ





    “…วะ…เหวอ…หลบแทบไม่ทันเลย! เอาไงดีหละเนี่ย ” ตอนนี้ฉันแทบจะหลบดาบของเอจิไม่ไหวแล้ว   วิ่งไปทางไหนก็มีแต่ดาบของเอจิลอยเต็มไปหมด





    “…เอาหละ…ทาคิจังไหนลองแสดงฝีมือสมาชิกใหม่ให้ฉันดูชัดๆหน่อยซิ ” เอจิคิดอยู่ในใจ





    “  โอ้ย! ฉันจะหลบไม่พ้นแล้วนะเนี่ย….เอาวะ! ท่าไม้ตาย” ฉันบ่นออกมาพร้อมกับเตรียมท่าไม้ตายที่เพิ่งคิดได้สด ๆ ร้อน ๆ ออกมา





    “…ระวัง……ย้ากกกกกกกกกกกก ” ดาบของฉันฟาดลงที่หน้าของเอจิ





    “  โดนหน้า ทาคิจังชนะ ”





    “…เย้!!! ชนะแล้ว…..เย้….ฉันชนะแล้ว” ฉันร้องอย่างดีใจพร้อมกับเข้าไปกระโดดกอดเอจิที่ยืนกุมหน้าอยู่ข้าง ๆ





    “ เป็นไงหละเอจิ…สมาชิกชมรมคนใหม่ของเรา ”  คุโร่เอ่ยถามเอจิ





    “…ก็ใช้ได้เลย…ทำได้ถึงขนาดนี้เป็นผู้หญิงที่ไม่ธรรมดาจริงๆ” เอจิพูดอย่างชื่นชม  ฉันหัวเราะข่มเอจิ  แล้วหลังจากที่เก็บอุปกรณ์ทุกอย่างเรียบร้อยแล้วรุ่นพี่คุโร่ก็พาพวกไปเลี้ยงข้าวด้วยแหละ - - ใจดีที่สุดเลย^_^





    “ งั้นฉันไปก่อนนะ >_< ไปก่อนะครับทาคิจัง ” หลังจากกินข้าวมื้อที่แสนจะอิ่มนี้เสร็จแล้ว  พวกเราก็เดินมายังที่หอ  แล้วฉันก็เพิ่งรู้หละว่าเอจิอยู่หอเดียวกับฉัน





    “ รุ่นพี่คุโร่อยู่หอไหนเหรอ? ”





    “ หอใต้หนะ!  หอนี้มีตัวพวกนักกีฬาตัวยงเลย  พอถึงงานวัฒนธรรมทีไรหอมันมักจะกวาดไปหมดซะเกือบจะทุกรางวัล ” เอจิบอกด้วยน้ำเสียงอิจฉาแกมหมั่นไส้นิด ๆ  





    “ เฮ้!  เอจิ  กลับมาตั้งแต่เมื่อไหร่? ” เสียงของเคตะที่นั่งอยู่ที่โซฟาด้านล่างของหอตะโกนถามเอจิที่เดินเข้ามาพร้อมฉัน  เอจิยักคิ้วให้เล็กน้อย  แล้วเคตะก็เดินมาสมทบพวกเรา  จนกระทั่งขึ้นมาถึงชั้น 3  เอจิอยู่ชั้นเดียวกับเราเหรอเนี่ย!?





    “ จริงสิ!  เมื่อคืนหมอนั่นมันเข้าไปโวยฉันในห้องเลยหละ!! ” เคตะกำลังเล่าอะไรสักอย่างให้เอจิฟัง เอจิก็หัวเราะออกมาเสียงดัง  แล้วทันใดนั้นทากิก็เปิดประตูออกมานอกห้อง  แล้วราวกับว่าเขากำลังเผชิญหน้ากับยมทูต  ทากิรีบกลับเข้าไปในห้องแล้วปิดประตูทันที





    “ ทากิ!? ” ฉันมองทากิอย่างแปลกใจ  ทำไมต้องทำท่าอย่างงั้นด้วย  ฉันหันหน้าไปมองเคตะกับเอจิที่ยืนอยู่ข้าง ๆ เขาหันมามองหน้ากันครู่หนึ่ง  แล้วเอจิก็เปิดประตูห้องทากิเข้าไป





    “……ตุบๆๆ……โคร่มๆๆ……” เสียงดังโครมครามออกมาจากห้องของทากิ  นัตสึกิรีบวิ่งออกมานอกห้อง  เธอเอ่ยถามเคตะว่า “ หมอนั่นกลับมาแล้วเหรอ? ” เคตะพยักหน้าให้เธอ







    “ งั้นก็หมายความว่า  คนที่ไม่ถูกกับทากิก็คือเอจิหนะสิ  แล้วแบบนี้ 2 คนนั้นไม่ฆ่ากันตายรึไงนะ ToT ”

















    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×