คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : การเปลี่ยนแปลง
หลังจากวันนั้น ฉันก็ไม่เจอเซฮุนอีกเลย ฉันพยามติดต่อเขาทุกทางแต่ก็ไม่มีการติดต่อกลับมาสักทาง เขาทำให้ฉันรู้สึก
เหมือนคนใกล้ตายลงไปทุกขณะ กระทั่งวันจบการศึกษา ฉันได้พบเขาโดยบังเอิญ แวบแรกที่เห็นเขาไกลๆฉันจำได้ทันที
แม้เขาจะอยู่กลางผู้คนมากมายก็ตาม
หัวใจที่เจ็บปวดของฉันมันบีบรัดขึ้นมาอีกครั้ง พอเห็นว่าเขายังหัวเราะได้ ฉันเดินก้าวตรงไปที่กลุ่มผู้ชายสามสี่คน
แต่ต้องชะงักลงเมื่อเซฮุนกวักมือเรียกเด็กหนุ่มคนหนึ่งที่พึ่งเดินออกจากร้าน น้ำตาฉันก่อตัวขึ้นทันทีตอนเห็นเขาโยกหัวเด็ก
คนนั้นเบาๆ เหมือนที่เขาเคยทำกับฉัน ยิ่งตอกย้ำแผลในใจฉันให้ลึกกว่าเดิม
ฉันจิกเล็บลงฝ่ามือแล้วเดินไปหาเขา พี่คริสหันมาเจอฉันก่อนจึงหันไปสะกิดพี่ไคที่อยู่ข้างๆแล้วรอยยิ้มของแต่ละคนก็
เลือนหายไปจากใบหน้า เซฮุนเป็นคนสุดท้ายที่เห็นฉัน ทันทีที่สบตากันแววตาเขาก็เปลี่ยนไป มันว่างเปล่า
" ลู่หาน "
นี่คือคำพูดที่ออกจากปากเขาหลังจากที่เราไม่เจอกันมาหกสิบวัน
" คิดถึง..ลู่หานคิดถึงเซฮุน ฮึก!.. แล้วเซฮุนล่ะ คิดถึงลู่หานบ้างมั้ย "
น้ำเสียงฉันสั่นเครือ สะอื้นจนตัวโยน
" ไม่เลย.. "
" .... "
เขาฉันแทบทรุดลง แต่สิ่งที่ทำให้ฉันยืนต่อได้ตงเป็นเพราะความผิดหวังอย่างรุนแรง
" บอกแล้วเลิกคือเลิก ถ้าไม่อยากเจ็บก็ไม่ต้องมาเจอกันอีก มันจบไปแล้วลู่หาน "
พอพูดจบเขาก็เดินจูงมือเด็กคนนั้นเดินเฉียดหน้าฉันไป พี่คริสทำท่าจะพูดอะไรสักอย่างแต่ก็ไม่พูด ก่อนจะเดินจากไปอีกคน
...วีนาทีแรก เราสบตากันเขายิ้มให้ฉัน นั่นคือครั้งแรกที่เจอกัน
...วินาทีสุดท้ายเราสบตากัน ใบหน้าเขาเรียบเฉย คำพูดเย็นชา ก่อนจากกัน
" ทำไมล่ะเซฮุน ! "
ด้วยความโกรธ ความอัดอั้น ความน้อยใจ ฉันถลาตัวเข้าไปกระชากเด็กคนนั้นออกก่อนจะพลักไปให้ห่าง จนล้ม
" โอ้ยยย! "
" เพราะเด็กคนนี้ใช่มั้ย ที่ทิ้งกันแบบนี้ เพราะมันใช่มั้ย ! "
" ลู่หานพอ! "
เซฮุนเหวี่ยงฉันออกไปอีกทาง ใบหน้าเข้าแข็งกระด้าง พอเหวี่ยงฉันได้เขาก็หันไปพยุงเด็กคนนั้นแล้วดูแผลที่ล้มไปด้วยความห่วงใย
" แบคเป็นไงบ้าง "
" แบคเจ็บครับ "
ฉันก็เจ็บนะ ทั้งกายทั้งใจ ทำไมนายไม่มองฉันบ้าง
" ทำไมทำแบบนี้ล่ะเซฮุน ฮึก! ทำไม "
" เลิกทำตัวงี่เง่าสักที ลู่หาน มันน่ารำคาญ !"
ฉันเหมือนจะขาดใจตอนสะอื้น แต่เซฮุนทำเพียงแค่มองฉันอย่างตำหนิ
" หมดเลยหรอ ความรู้สึกของเซฮุน ใหนบอกว่ารักลู่หานไง ฮึก ! "
" มันจบแล้วลู่หาน ตาสว่างสักที เราอยู่คนละโลกกัน อย่าพยายามเข้ามาอีกเลย "
" ฮึกฮือ .. แต่ลู่หานรักเซฮุน ฮึกรักมาก "
เซฮุนเดินมาหยุดตรงหน้าฉัน นิ้วเรียวเช็ดน้ำตาฉันเบาๆ
" แต่ฉันไม่ได้รักนายแล้วลู่หาน "
เขาทำอ่อนโยนกับฉันทำไมทั้งที่ต่อมาประโยคนี้มันเชือดใจฉันอย่างทรมานแทบหมดแรงยืน
" ลาก่อนลู่หาน "
" ไม่ ฮึกเซฮุน "
ฉันได่แต่มองเขาอย่างอ้อนวอน แต่สิ่งที่ได้กลับมาคือแผ่นหลังกว้างของเขาที่เดินคู่กับเด็กคนนั้นออกห่างฉันไป มันจบแล้ว
จริงๆหรอเซฮุน ไม่รักฉันแล้วจริงๆหรอ...
.........
3 ปีต่อมา
" วันนี้เป็นวันสุดท้ายแล้วหรอ "
เสียงแหบดังขึ้นเมื่อได้ยินเสียงฉันบอกเลิกไปเมื่อหนึ่งนาทีก่อน
" -__- "
" ฉันหลงคิดว่าลู่หานอาจจะ.."
" ใช่! ให้มันจบวันนี้เถอะ "
ฉันตัดบทสั้นๆ ก่อนแม๊คกี้จะพูดจบ
" วันสุดท้ายของเราแท้ๆ ให้มันจบดีๆหน่อยไม่ได้หรอ "
" นายต้องการอะไรล่ะ "
ฉันตอบเมื่อเห็นน้ำเสียงตัดพ้ออีกคน ทุกคนที่ฉันคบต่างก็รู้ว่า มันจบเร็ว และจบแบบไม่ซ้ำรูปแบบ อยู่ที่ฉันอยากจบก็แค่นั้น
" งั้นไปที่ๆหนึ่งด้วยกันนะ "
ฉันไม่ได้คาดหวังถึงสถานที่ที่แม็คกี้จะพาไปเท่าไหร่นัก แต่ก็แปลกใจไม่น้อยเมื่อรถชะลอความเร็วลงเมื่อถึงจุดหมาย
แสงไฟจากหน้ารถหลายคันส่องสว่างกลางความมืดราวกับมีงานรื่นเริงอยู่ในป่า
" ลู่หานรอที่นี่นะ "
แม็คกี้หันมาบอกฉันก่อนลงจากรถ ไปหากลุ่มคนซึ่งคุยกันอยู่หน้ารถสปอร์ตสีแดง ฉันมองสำรวจไปรอบๆก็รู้ทันที่ว่าคือที่
ใหน ฉันเลิกแข่งรถตามถนนหลวงแบบนี้มาได้สองปีแล้ว จึงไม่ยักจะรู้ว่ามีสถานที่แบบนี้อยู่นอกเมืองด้วย
แม็คกี้เดินกลับมาขึ้นรถหลังจากนั้นรถสปอร์ตคันสีแดงก็ถอยจากข้างทางออกมาจอดเทียบท่ารถของแม็คกี้
" แม็ค!! "
ฉันเรียกชื่อคนตรงข้าง เมื่อตระหนักได้ว่าเขาจะทำอะไร
" ฉันจะยกเลิกการแข่งขัน หากนายทบทวนเรื่องของเรา "
คำพูดของแม็คกี้ทำให้ฉันโมโห
" ฉันมองนายผิดไปจริงๆ อยากทำอะไรก็เชิญ !"
ฉันตอบเข้าไปเสียงเย็น รับรู้ถึงความหงุดหงิดคนตรงข้างเมื่อได้รับคำตอบ และจากอาการตื่นเต้นของเขาก็ทำให้ฉันเดา
ผลการแข่งออกว่าจะเป็นเช่นไร แค่สตาร์ทแรกรถสปอร์ตก็นำลิ่วไม่เห็นฝุ่นแล้ว แม้เขาจะเร่งตามแค่ใหนแต่พอเข้าโค้งก็ถูก
ทิ้งห่างอยู่ดี กระทั่งจนจบเกมแม็คกี้ก็เอ่ยมาทันที
" ขอโทษนะลู่หาน ที่ฉันเอานายไปเดิมพันกับการแข่ง "
" แม็คกี้ ..นายมัน! เหอะ ลาก่อน !"
ฉันพูดอะไรไม่ออกจึงรวบกระเป๋ามาสะพานด้วยอารมโกรธ ก่อนจะเดินหนีออกจากรถ เพื่อออกจากสถานที่บ้าๆนี้
แต่ทว่า...
" เฮ้คนสวย..... "
มีเสียงหนึ่งเอ่ยขึ้นทางด้านข้างเมื่อฉันเดินผ่าน ฉันหันกลับไปมองจึงรู้ว่าเป็นเจ้าของรถสปอร์ตสีแดงคันนั้น
" นายรู้มั้ยว่ามันเดิมพันนายไว้ คนสวย "
" ปล่อย!"
มือของหมอนี่ไวมากแค่แวบเดียวสามารถดึงเอวฉันประชิดร่างเขาได้แล้ว ฉันถลึงตามองเขาด้วยความโมโห
" ชู่วว ! อย่าโวยวายสิ นายเป็นกรรมสิทธิ์ของฉันนะ "
เขาพูดพร้อมยื่นหน้าเข้ามาใกล้จนสัมผัสลมหายใจได้ หมอนี่น่าตาดีนะแต่ทำไมฉันถึงรู้สึกรังเกียจลมหายใจที่รดใบหน้า
ฉัน เสียงดังวิ้ดวิ้ว จากคนรอดูฉากจูบดังระงมไปทั่ว ก่อนจะมีเสียงหนึ่งดังขึ้นก่อน
" ต้นทางบอกว่า เฟอร์รารี่สี่คันมาทางนี้ "
แสงไฟวูบวาบสาดเข้ามาก่อนจะหยุดตรงหน้าฉันกับหมอนั่น โดยไม่ต้องรอให้สงสัยมองผ่านกระจก เจ้าของรถก็ก้าวลง
มาพร้อมกัน ตัวฉันชาวาบ ใจเต้นแรง เหมือนถูสาปให้ยื่นนิ่ง
" เซฮุนน ! "
เสียงดังขานเรียกซื่อเขาดังระงมจนทำให้ฉันรู้สึกตัว มองไปรอบๆ พบว่าเจ้าของรถอีกสามคันคือ พี่คริส พี่ไค และพี่เทา
ยืนอยู่ไม่ห่างมองมาทางฉันกับหมอนนี่
" วันนี้มันวันปล่อยผีหรือไงว่ะ พวกแกถึงมาโพล่ที่นี่ ! แต่มาก็ดีฉันจะได้ลบสถิติแกสักทีเซฮุน "
" หึ "
เซฮุนเพียงแค่กระตุกยิ้มเบาๆ ก่อนมองผ่านฉันซึ่งถูกกอดเอวไว้ แวบแรกฉันคิดว่าเขาจะจำฉันได้แต่เปล่าเลย แววตาเขาไม่
มีแม้แต่ความสงสัย แน่สิเขาไม่มีวันคิดถึงฉันหรอก ทำให้ฉันปวดหนึบใจขึ้นมาอีกครั้งแต่ทว่าฉันก็เปลี่ยนใจ ไม่มีประโยชน์
อะไรที่ฉันต้องแคร์เขาอีกแล้ว
" อย่าทำเป็นเก็กไปหน่อยเลยเซฮุน นายไม่มีวันชนะเสมอปะ... "
" เดิมพันคืออะไร ! "
ยังไม่ทันที่หมอนั่นจะพูดจบ เซฮุนก็ชิงพูดขึ้นมาก่อนเหมือนถูกสบประมาท แต่ดวงตายังคงนิ่งเหมือนเดิม
" นี่ไงเดิมพัน "
เพราะมัวแต่ใจลอยจึงทำให้ร่างฉันถูกหมอนั่นกระชากเข้าอก พวกพี่คริส พี่ไค พี่เทาและเซฮุนต่างก็มองมาทางฉันอย่าง
พร้อมเพรียงฉันแอบคาดหสังว่าเขาจะแสดงท่าทีอะไรออกมาบ้าง แต่ไม่มีเลย
" ไม่มีอันอื่นนอกจากผู้หญิงหรอไง "
คำพูดของเซฮุนทำให้ฉันหน้าตึงมาก นึกอยากโอบคนข้างๆประชดเขายิ่งนักแต่จะมีประโยชน์อะไรเข้ายังจำฉันไม่ได้เลย
" โยกโย้เดิมพัน กลัวแพ้สินะ ! :) "
แววตาของเซฮุนลุกวาวทันทีเมื่อได้ยินแบบนี้ แต่เขาไม่ตอบอะไรนอกจากเดินไปขึ้นรถแล้วเจ้ามาจุดสตาร์ส
เสียงนับถอยหลังดังขึ้นก่อนที่รถสองคันจะพุ่งทะยานออกไปด้วยความเร็วสูงแทบจะเหาะได้
" ลู่หาน "
เสียงเรียกจากบุคคลต้นเหตุทำให้ฉันหันไปจิกสายตามองเขาอย่างผิดหวัง
" ฉันขอโทษจริงๆนะลู่หานฉันมะ..."
" คนเห็นแก่ตัวเลิกพูดเถอะ !"
ฉันตัดบทแม็คกี้แล้วไม่สนใจเขาอีกเลย อยากจะหนีออกจากที่นี่แต่ถูกคนของหมอนั่งเฝ้าข้างๆจนไม่สามารถไปได้
" ขับคู่กันมา!! "
เสียงหนึ่งพูดขึ้นทำให้คนดูต่างมุงให้ความสนใจไปยังจุดที่มีแสงไฟสองใกล้เข้ามา ยิ่งใกล้ใจฉันยิ่งสั่น
" เฮ้! เฟอร์รารี่เข้าก่อน !!"
เซฮุนชนะ .... ขนฉันลุกซู่เมื่อรถทั้งสองคันขบมาจอดหน้าฉัน เจ้าของรถทั้งสองก็ก้าวลงมา
" ฉันประมาทแกไป คิดว่าใกล้เส้นชัยแล้ว ! "
เสียงของหมอนั่นกระหน่ำใส่เซฮุนทันทีเมื่อแพ้
" หึ ... ฉันขอรับเดิมพันไปละนะ "
ฉันมองเหตุการอย่างใจลอยจนไม่รู้ว่าตัวเองไปอยู่ในอ้อมแขนของเซฮุนเมื่อไหร่ มารู้ตัวอีกทีก็ตอนที่ถูกเขาแตะเข้าที่คาง
ฉันกระพริบตาปริบๆ ใช่มือดันอกเขาไว้ เซฮุนย้ายมือมากดท้านทอยฉันก่อนจะโน้มหน้าลงประกบรีมฝีปากฉันอย่างรวดเร็ว
มันง่ายดายเหมือนฉัน ไม่ได้ขัดขืนเขา จูบของเขารุนแรงมากจนฉันรู้สึกแสบปากฟันเขาขบเม้มริมฝีปากฉันเหมือนลงโทษ
ก่อนจะเปลี่ยนเป็นอ่อนโยนเรียกร้องในเวลาต่อมา จนฉันเผลอตอบสนองสัมผัสเขาไปอย่างไม่รู้ตัว
.... นายเกลียดผู้ชายคนนี้ ท่องไว้สิ ลู่หาน
เมื่อคิดได้ดังนั้นฉันจึงผลักอกเซฮุนออกห่างใช่หลังมือถูปากตัวเองไปมามองเขาด้วยสายตารังเกียจก่อนจะเดินหนีไปอีกทาง
" จะไปใหน ! " เขาคว้าข้อมือฉันไว้แล้วบีบแน่น
" มากับใคร " เขารุกถาม
" ใครก็ได้ " ฉันรวนใส่เขา
" มากับใคร " เขาถามซ้ำ น้ำเสียงกร้าว
" นายจะรู้ไปเพื่อนอะไร !" ฉันขึ้นเสียงใส่บ้าง
" บอกมาลู่หาน ไอ่หอกคนใหนพานายมาที่นี้ !!! "
" -0- "
" -__- "
" นะ...นาย " .....จำได้
ฉันต่อประโยคที่เหลือในใจ ไม่ได้ตอบคำถามเขาเพราะตกใจ เหมือนเซฮุนคิดว่าถามฉันต้องไม่ได้คำตอบแน่ จึงหันไปตะโกนรอบๆ ถามเสียงเข้ม
" ใครเป็นคนพาหมอนี่มา ! "
" นี่หยุดนะ ! "
ฉันกระตุกแขนเขาอย่างแรง ฉันอับอายจนไม่รู้จะเอาหน้าไปไว้ที่ใหนแล้ว
" งั้นก็บอกมาสิใครพานายมา !! "
ฉันกรอกตาไปมาสองสามทีก่อนเหลือบเห็นแม็คกี้แหวกฝูงชนเข้ามา ฉันไม่ได้ทำเพื่อแม็คกี้นะ แต่ฉันขายหน้ามากพอแล้ว
ไม่อยากขายหน้าไปอีกหากเซฮุนมีเรื่องกับแม็คกี้
" พาฉันกลับเถอะ เซฮุน "
ฉันจำเป็นต้องอ่อนให้เขาเพื่อยุติสงครามที่อาจจะเกิดขึ้น ด้วยการเดินไปเปิดประตูรถเขาแล้วเขาไปนั่ง เขาตามเข้ามาก่อน
จะเอ่ยเสียงเย็นจนฉันกลัวแล้วกระชากรถออกไปด้วยความเร็ว
" เราต้องคุยกันยาว ! "
แรงรถที่กระชากตัวออกไปของเขาทำให้ฉันผวาเล็กน้อยสายตาเหลือบมองดูคนตรงข้ามที่มีสีหน้านิ่งไม่ต่างอะไรกับรูปปั้น
อะไรกัน.. นี้มันเรื่องบ้าอะไรกัน ทั้งๆที่เขาเป็นฝ่ายลากฉันเข้ามาในรถคันนี้แต่กลับกลายป็นฉันที่ถูกกดดันแทน ฉันกรอกตา
ไปมาสามสี่ครั้งแล้วเท้าแขนกับกระจกรถก่อนหลับตาลง
ทั้งๆที่ฉันลืมเลยความเจ็บนี้ไปแล้วแท้ๆ...
ทั้งๆที่ฉันใช่ชีวิตโดยไม่มีเขาได้แล้วแท้ๆ...
แต่ทำไม.. แค่เพียงสบดวงตาคู่นั้นใจฉันมันถึงทำราวกับร่ำหาคนคนนี้มาแสนนาน
“ ไปทำอะไรที่นั่น “
เสียงเย็นต่ำปลุกฉันออกจากความคิดฟุ้งซ่านนั่นฉันลืมตามองไปทางเซฮุนแต่ไม่ได้ตอบอะไร
“ ไม่ได้ยินรึไงที่ฉันถาม “
“ ได้ยิน แต่ไม่มีอะไรจะตอบ “
ความเร็วของรถถูกเพิ่มขึ้นหลังจากที่ฉันพูดคำนั้นออกไป แต่ฉันก็ไม่พูดอะไรหรือร้องทักท้วงใดทั้งสิ้นเพราะฉันขับรถเร็วเป็น
ประจำอยู่แล้วแต่ความเร็วมันกลับพุ่งขึ้นเรื่อยและอีกไม่นานก็จะเข้าถนนหลักแล้วถ้าเขาไม่ลดความเร็วมีหวังแหกแหลกแน่
“ นี่! เซฮุนพอได้แล้วแยกข้างหน้าจะเข้าสายหลักแล้ว “
“............”
“ ฟังฉันอยู่รึป่าว ลดความเร็วได้แล้วนะ “
ให้ตายสิฉันไม่หน้าหลงขึ้นมากับเขาเลย ยังโชคดีนะที่ถนนหลักไม่มีรถวิ่งสักคนทำให้ฉันถึงกับถอนหายใจโล่งอกเกือบตาย
แล้วไม่ล่ะแต่ถึงกระนั้นเซฮุนก็ไม่ยอมลดความเร็วลงเลย แต่ฉันเหนื่อยเกินกว่าจะปะทะคารมกับเขาแล้วจึงปล่อยเลยตาม
เลยจนกระทั้งเขาเลี้ยวรถเขาทางบ้านฉัน แม้จะแปลกใจที่เขาจำได้แต่สิ่งที่มากกว่านั้นคือหัวใจฉันที่มันเต้นรัวทุกอย่างมัน
ทำให้ฉันสับสนอดีตต่างๆย้อนเข้ามาราวกับเรื่องพวกนั้นพึ่งเกิดขึ้น
อย่าสิลู่หาน ท่องไว้ นายเกลียดผู้ชายคนนี้ !
“ ตอบฉันลู่หาน “
“ เรื่องของฉัน! “
ด้วยความที่ฉันกับลังสับสนจึงเผลอตะคอกใส่เขาลั่นรถ ผลที่ฉันได้รับไม่ใช่ความโมโหของเขาอย่างที่คิดแต่เป็นสายตาที่
ว่างเปล่าเหมือน.. เหมือนเมื่อตอนนั้นไม่มีผิดตอนที่เขาเดินจากฉันตอนที่เขาเหยียบย่ำความรักของฉัน
“ หึ.. นั่นสิน่ะเรื่องของนายงั้นก็ลงจากรถฉันไปได้ล่ะ “
น้ำเสียงกับสีหน้าเขาไม่ได้ต่างกันเลย คนแบบนายเคยรับรู้ความรู้สึกแบบคนคนอื่นบ้างรึป่าวเซฮุน
ความคิดเห็น