คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : The Faithful Servant Fanfic: Forbidden Love รักต้องห้าม (Key&Erin)
แสงแดดยามเช้าเล็ดลอดผ่านหน้าต่าง ขณะนี้ก็ราวๆ 6 โมงเช้าแล้ว.. ผมปรือตาตื่นขึ้นก่อนจะลุกขึ้นจากเตียงเก่าๆ รู้สึกว่าห้องรกจังแฮะ ที่ผ่านมานี่เรายังไม่ได้ทำความสะอาดห้องเลยสิน้า.....
นี่ไม่ใช่เวลามาคิดเรื่องนั้นนะ ต้องรีบไปทำอาหารเช้าให้คุณหนูแล้ว! ผมรีบจัดการตนเองให้เรียบร้อยก่อนจะรีบวิ่งไปห้องครัว
ผมกวาดตามองวัตถุดิบบนโต๊ะ... ไม่ค่อยมีอะไรเลยแฮะ มีไข่อยู่ 5 ฟอง กับต้นหอม 4 ต้น เนื้อ 1 ชิ้น.. งั้น..เราทำสต็กเนื้อ กับ ซุปคอนซอมเม่ให้คุณหนูดีกว่า..
....
ผมจัดจานสเต็กและซุปให้ดูเรียบหรู ก่อนจะรินนํ้าผลไม้ใส่แก้วใบโปรดของคุณหนู แล้วยกมันไปไว้บนถาดอย่างเบามือก่อนจะยกถาดไปหาคุณหนูข้างบน
“คุณหนูขอรับ! อาหารเช้ามาเสิร์ฟแล้วขอรับ”ผมเคาะประตูห้องของคุณหนู ก่อนจะมีเสียงตอบกลับมาอย่างงัวเงียว่า
“เดี๋ยวไปเปิดประตูให้เดี๋ยวนี้ล่ะ..” และประตูก็ถูกเปิดขึ้นผมจึงได้นำถาดอาหารเช้าเข้าไปให้คุณหนู
.”นายทำอะไรมาให้ฉันกินเนี่ย เอริน..”คุณหนูมองอาหารในถาดอย่างแปลกใจก่อนที่ผมจะยกจานสเต็ก ถ้วยซุปและแก้วนํ้าผลไม้วางไว้ตรงหน้าคุณหนู
.”พอดีว่า วัตถุดิบมันมีน้อยน่ะขอรับ ตอนสายๆผมคงต้องออกไปซื้อ” ผมบอกพลางมองคุณหนูที่กำลังใช้มีดหั่นเนื้อให้เป็นชิ้นเล็ก ก่อนจะใช้ส้อมจิ้มมัน แล้วเอาเข้าปาก
“นายยังทำอาหารถูกปากฉันเหมือนเคยเลยน้า~” คุณหนูพูดอย่างอารมณ์ดีก่อนจะรับประทานอย่างเอร็ดอร่อย
“แค่คุณหนูถูกใจ ผมก็ดีใจที่สุดแล้วล่ะขอรับ”ผมพูดด้วยน้าเสียงดีใจอย่างบอกไม่ถูก เหมือนความสุขใจมันเอ่อล้นออกมายังไงไม่รู้
...
หลังจากที่คุณหนูรับประทานอาหารเช้าเสร็จแล้วผมมีหน้าที่เก็บถ้วยชามไปล้าง
หลังจากล้างเสร็จแล้วผมจึงมองนาฬิกา ตอนนี้ก็ประมาณ 8 โมงเช้าแล้ว ผมจึงเดินขึ้นไปบนห้องก่อนจะทำความสะอาดห้องอันรกๆ
...
เมื่อทำความสะอาดและอาบนํ้าแต่งตัวเสร็จ ผมจึงรีบเดินลงไปข้างล่าง ตอนนี้ก็จวนจะ 11 โมงแล้ว ถ้าไม่รีบไปล่ะก็คงมีหวังกลับมาไม่ทันเวลาอาหารเที่ยงของคุณหนูแหงๆ
ผมเอาแต่เหม่อไปหน่อย จนเดินไปชนกับคนคนหนึ่งเข้าผมนี่ล้มหงายหลังไปเลยล่ะ
“โอยยยย” ผมกุมก้นที่กระแทกลงกับพื้นอย่างแรงเมื่อครู่ เจ็บชะมัด! ผมนั่งอยู่ได้ซักระยะนึงก่อนจะคนที่ผมเดินชนจะยื่นมือมาพลางบอกว่า
“เป็นอะไรมากมั้ยครับ?”เขาพูดพลางมองผมอย่างเป็นห่วง ดูจากการแต่งกายแล้วน่าจะเป็นทหารองครักษ์ หากลองมองหน้าดีๆแล้ว รู้สึกว่าไม่คุ้นตาเลยแฮะ
“ผมไม่เป็นไรขอรับ แล้วผมก็ลุกขึ้นเองได้” ผมยิ้มให้เขาก่อนจะลุกขึ้นยืนเอง
“เอ่อ.. แล้วคุณชื่ออะไรงั้นเหรอครับ?”เขาถามผม ผมเหลือบมองเขาเล็กน้อยก่อนจะก้มมองนาฬิกาตอนนี้ 11 โมงแล้วผมจึงรีบวิ่งไปที่รถม้าทั้งๆที่ยังไม่ได้ตอบคำถามของเขาคนนั้น
“เดี๋ยวสิครับ!” เขาตะโกนก่อนจะมองผมด้วยความหงุดหงิดใจเล็กน้อย คงกำลังคิดว่าผมเสียมารยาทล่ะมั้ง
“อา.. ขอโทษนะขอรับ ผมรีบ ไว้ค่อยคุยกันทีหลัง!”ผมตะโกนกลับไปก่อนจะขึ้นรถม้าไป
...
ตอนนี้ผมนั่งอยู่บนรถม้าด้วยความทรมาน = = แทบจะไม่ไหวแล้วขอรับ ทำไมทางเข้าเมืองถึงต้องโคลงเคลงด้วยนะ รู้มั้ยว่าผมเมารถม้าน่ะ!
สุดท้ายความอดทนของผมก็หมดสิ้นไป ผมบอกคนขับรถม้าให้จอดลงก่อน แล้วจัดการปล่อยอาหารหมา(?) เมื่อเสร็จแล้วผมก็ขึ้นรถม้าต่อด้วยความเพลีย ถึงแม้คนขับรถม้าจะแนะนำแล้วก็เถอะแต่มันไม่ช่วยเลย.. นี่แค่ขามา ถ้าขากลับจะว่ายังไง
...
หลังจากจับจ่ายซื้อของทำกับข้าวเสร็จแล้วผมต้องเสียเวลาไปกับการยืนเถียงกับแม่ค้าขายผักนานนับ 20 นาที = = ทำไงได้ล่ะครับ ก็ป้าเขาเล่นขายแพงซะ.. สุดท้ายผมก็เป็นฝ่ายชนะครับ หุๆ ขณะนี้ผมยังคงทนนั่งทรมานนั่งรถม้ากลับไปที่คฤหาสน์
...
“ในที่สุดก็ถึงซักที..” ผมพูดก่อนจะเดินลงจากรถหน้าและมุ่งไปยังคฤหาสน์ด้วยความเพลีย แต่ในขณะที่เดินนั้นผมถูกใครบางคนดึงแขนไปหลังพุ่มไม้พุ่มหนึ่ง
“อ...เอ๋?” พอผมรู้สึกคัวอีกทีก็พบว่าตัวเองถูกดันให้ติดกำแพงพร้อมทั้งถูกใครบางคนรวบข้อมือทั้งสองข้างไว้อยู่ ถ้ามองดูดีๆแล้ว คนๆนี้หน้าตาคุ้นๆ ด..เดี๋ยวนะ นี่มันทหารองครักษ์ที่เจอตอนออกจากคฤหาสน์นี่นา!
“ต้องการอะไรจากผม?” ผมเป็นฝ่ายเปิดฉากถามเจ้าตัวไปตรงๆ
“เอ่อ..ขอโทษทีนะ.. คุณชื่ออะไร?” เจ้าตัวถามผมกลับมา
“เอริน..ขอรับ..” ผมตอบก่อนจะพยายามสะบัดแขนเพื่อให้มือที่รวบไว้นั้นหลุดไป แต่ผลที่ได้กลับมาคือเจ้าตัวกลับกำข้อมือผมแน่นกว่าเดิม..
“อย่างงั้นเหรอ..? ผมคีย์ ยินดีที่ได้รู้จัก” ผมมองบุรุษนามว่าคีย์ด้วยความโกรธเคืองไม่น้อย ถ้าอยากจะถามชื่อก็ถามดีๆก็ได้นี่!
“แล้วทำไมตอนเช้าถึงไม่ตอบผมล่ะ...? หืม?..” คีย์มองผมด้วยแววตาไม่เป็นมิตร ก่อนที่เจ้าตัวจะเขยิบหน้าเข้ามาใกล้ๆหน้าของผม
“อย่า...”ผมหลับตามิด ตัวสั่นอย่างบอกไม่ถูก
“อย่ากลัวไปเลยนะ..หึ..” คีย์พูดก่อนจะใช้มือลูบหัวของผม ตอนนี้ผมรู้สึกเหมือนตัวเองเป็นกระต่ายน้อยที่กำลังถูกหมาป่าจ้องจะกินยังไงก็ไม่รู้
“อย่าทำอะไรผมเลย..ได้โปรด..” ผมพูดด้วยนํ้าเสียงสั่นเครือ นํ้าตาเริ่มหลั่งรินลงมาอาบแก้มเล็กน้อย
“เอริน! เจ้าอยู่ที่ไหน!” เสียงของหญิงสาวแว่วมาแต่ไกลทำให้คีย์สะดุ้งแล้วรีบวิ่งหนีออกไปโดยทิ้งผมไว้ตรงนั้นคนเดียว
“เจ้าไปไหนมา! รู้มั้ยว่าข้าหาเจ้าทั่วคฤหาสน์แล้ว!” เธอคนนี้ที่ช่วยชีวิตผมไว้นามว่า มายเดียร์ เธอเป็นคนรับใช้คนโปรดของคุณหนูเช่นเดียวกับผม...
“อ่า...ผมขอโทษ.. พอดีเมื่อกี้มีเรื่องกับทหารองครักษ์นิดหน่อยน่ะ..” ผมพูดแก้ตัว ไม่รู้ว่ามายเดียร์จะคิดยังไง
“มันคือใคร!? ช่างกล้ามาแหย็มกับคนรับใช้คนโปรดของคุณหนู!” มายเดียร์พูดตวาดลั่น แบบนี้สินะ ถึงจะคือเธอน่ะ..
“ผมก็ไม่รู้เหมือนกัน.. จำหน้าไม่ได้ด้วย ขอโทษนะ..” ผมหาข้อแก้ตัวต่างๆนาๆ เพื่อให้มายเดียร์เชื่อ
“ช่างเถอะ.. รีบไปทำอาหารมื้อเที่ยงให้คุณหนูดีกว่า ไม่งั้นคอพวกเราหลุดแน่...”มายเดียร์พูดก่อนจะจูงมือผมแล้ววิ่งมุ่งหน้าไปยังห้องครัว
...
“เฮ้อ... เกือบตายแล้วมั้ยล่ะ..” มายเดียร์พูดพลางถอนหายใจหลังจากนำอาหารเที่ยงไปเสิร์ฟให้คุณหนูแล้ว
“นี่ถ้าเธอไม่มา ผมตายแน่” ผมเองก็พูดขึ้นมาบ้าง ก่อนจะจูงมือมายเดียร์ลงไปด้านล่างเผื่อจะได้ไปนั่งคุยกันเงียบๆที่ห้องใต้ดินซึ่งมักจะใช้เป็นห้องรวมพลของเหล่าคนรับใช้
“เอริน... นี่เจ้าจับมือข้า..” มายเดียร์ชักมือกลับก่อนจะมองผมด้วยแววตาที่ไม่ไว้วางใจ
“แล้วใครกันที่จูงมือผม วิ่งเข้าคฤหาสน์ล่ะขอรับ....” ผมตอบกลับหน้าตาย
“ชิ! เจ้าบ้า..” มายเดียร์พูดด้วยความหงุดหงิดก่อนจะเป็นฝ่ายลากผมไปที่ห้องใต้ดินซะเอง...
...
ณ ห้องใต้ดินของคฤหาสน์
“ถึงแล้วๆ” มายเดียร์พูดพลางยิ้มอย่างโล่งใจ
“...รังหนูชัดๆ” ผมพูดพลางมองสภาพห้องใต้ดินที่ไม่ใช้มานานนับเดือนแล้ว ถึแม้มันจะได้ชื่อว่าเป็นห้องใต้ดิน แต่มันก็มีทางออกไปหลังคฤหาสน์แถมยังถูกใช้เป็นที่มั่วสุมของเหล่าทหารองครักษ์ด้วย....
“งั้นเดี๋ยวข้ามานะ...”มายเดียร์พูดก่อนจะรีบวิ่งกลับขึ้นไปโดยปล่อยให้ผมอยู่คนเดียวตามลำพัง...
“วังเวงยังไงไม่รู้สิ...” ผมพูดก่อนจะนั่งลงบนเก้าอี้พลางมองไปรอบๆห้อง
“อ...อือ..” เสียงของชายหนุ่มดังแว่วมาจากที่ไหนซักแห่งภายในห้องทำให้ผมสะดุ้งทันที.. ยัยมายเดียร์คงจะตั้งใจแกล้งผมแน่ๆ...
“ใครน่ะ!...” ผมตะโกนก่อฯจะรีบลุกแล้วตั่งท่าเตรียมต่อสู้...
“ห..หืม?... เด็กน้อย... มาทำอะไรที่นี่หรอครับ...” เจ้านั่นพูดก่อนจะลุกขึ้นยืน ผมฯ๘฿ฯฌ,ญ๘ฮณํฐ มาเรียกว่า เด็กน้อย นี่สิ ทนไม่ได้..!
“ใครเด็กน้อยกัน....!” ผมพูดด้วยความหงุดหงิดพอสมควรก่อนจะวิ่งแล้วปล่อยมัดใส่เจ้าตัวเต็มแรง..
“ยังอ่อนนะครับ... เอริน..” แสงเริ่มส่องลงมาในห้องพอเห็นได้ลางๆว่าคนๆนั้นคือ คีย์! เจ้านั่นรับหมัดของผมได้แถมยังดันผมติดกำแพงห้องอีกต่างหาก..
“ปล่อยผมนะ ไอ้เลว.. !” ผมตะโกนด่าคีย์ก่อนจะพยายามดิ้นสุดแรงหวังจะหลุดจากเจ้าบ้านี้
“อยู่นิ่งๆสิ!..” คีย์ตะคอกก่อนจะชกเข้ามาที่ท้องของผม นั่นทำให้ผมทรุดลงกับพื้นอย่างไม่เป็นท่า
“ค..ใครก็ได้ช่วยผมที...” ผมพูดด้วยนํ้าเสียงสั่นเครือก่อนจะโดนคีย์ใส่กุญแจข้อมือทั้งสองข้าง
“หึ.. ไม่มีใครช่วยคุณได้หรอกครับ..”คีย์แสยะยิ้มก่อนจะประกบริมฝีปาก ในขณะที่ผมแทบจะขยับร่างไม่ได้เลย ตอนนี้ผมคงได้แต่ภายนาขอให้ยัยมายเดียร์กลับมาช่วย..
“...ได้โปรด..ปล่อยผมไป.. ขอร้องล่ะ..”จู่ๆนํ้าตาหลั่งรินลงมาอาบแก้มของผมอีกครั้ง ในขณะที่ผมพยายามขยับข้อมือเพื่อหวังจะให้กุญแจข้อมือนั้นหลุด แต่มันกลับทำให้ข้อมือผมถลอกแทน..
“ถ้าผมปล่อยคุณไป คุณก็หนีผมไปอีกน่ะสิ..” คีย์พูดก่อนจะก้มลงซุกไซร้คอของผม
“น..นายต้องการอะไรจากผมกันแน่..” ผมถามในขณะที่คืย์กำลังลงมือปลดกระดุมเสื้อ
“ต้องการตัวคุณ..” คีย์พูดพลางยิ้มเจ้าเล่ห์
.”นายทำอะไรเอรินน่ะ!..” มายเดียร์ตะโกนก่อนจะรีบวิ่งลงมาหา แต่ดูเหมือนฝีเท้อของหมอนั่นจะไวกว่า เพราะตอนนี้คีย์วิ่งหนีไปแล้วยังไงล่ะ
“ฮึ่ย!... อย่าให้ข้าจับได้นะ ถ้าจับได้ข้าจะไปบอกคุณหนูแน่!”มายเดียร์พูดด้วยความแค้นเคืองใจก่อนจะกลับมาสนใจผมที่ตอนนี้อยู่ในสภาพที่ค่อนข้างจะดูไม่ได้แล้ว
“นายไม่เป็นไร.. ใช่มั้ย..?” มายเดียร์ถามผมด้วยความเป็นห่วง
“ผมไม่เป็นไร...” ผมยิ้มให้มายเดียร์เล็กน้อยก่อนที่ภาพนั้นจะเบลอและมืดดับไป
...
HBD เพื่อนรัก >< แต่งให้จนจบแล้วน้า อาจจะสั้นไปหน่อย เพราะความขี้เกียจ(?) แทบจะไม่ยึดนิสัยคีย์เลย แต่งตามใจตัวเองล้วนๆ //โดนตบ
ปล.จะว่าไปสงสารนู๋เอรินเหมือนกันแฮะ....
ความคิดเห็น