คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #5 : because of love -3 THE END
สามวันผ่านไปหลังจากงานศพของลูน่า จุนมยอนมีอาการซึมเศร้าอย่างเห็นได้ชัด เนื่องจากลูน่าเป็นเพื่อนตั้งแต่เป็นเด็กฝึก จึงถือว่าเธอเป็นเพื่อนในวงการที่เขาสนิทที่สุดและไว้วางใจเธอมากที่สุด การที่นักร้องสาวมาด่วนจากไปเป็นที่ทำใจยอมรับยากในความรู้สึกของจุนมยอน การที่คนตัวขาวไม่ร่าเริงเหมือนแต่ก่อนกำลังทำให้คริสแอบไม่พอใจเป็นอย่างมาก เขาไม่ต้องการให้ลูน่าหรือใครๆมีอิทธิพลเหนือความรู้สึกของจุนมยอน นอกจากเขาเพียงคนเดียว
เขาคงต้องทำอะไรสักอย่าง
“จุนมยอนพี่ว่านายลางานสักอาทิตย์ดีไหม เราสองคนขึ้นเขาไปชมความงามธรรมชาติกัน นายจะได้พักผ่อนไง ไปที่ๆมีเราสองคนเท่านั้น” อู๋ฟานกระชับร่างบางอย่างเอาใจ เขาอยากให้จุนมยอนสดชื่นขึ้นหลังจากเจอแต่เรื่องแย่ๆมาทั้งอาทิตย์
“ก็ดีครับพี่อู๋ฟาน เดี๋ยวขอผมโทรบอกผู้จัดการก่อนนะครับ” จุนมยอนเอนพิงซบอกอีกฝ่ายราวกับต้องการที่พึ่ง การที่เขาไปพักผ่อนกับอู๋ฟานสองต่อสองคงดีเหมือนกัน
เวลาอาจจะช่วยทำให้เขาสบายใจขึ้น
รวมถึงงานในอนาคตด้วยว่าจะเลิกทำหรือไปต่อ
“พี่อู๋ฟานอย่าโกรธผมนะครับ เราไปเที่ยวภูเขาครั้งนี้ต้องมีพี่ลู่ฮานไปด้วยแล้วละครับ ผู้จัดการเขากลัวผมไม่กลับไปทำงาน” คนตัวเล็กเกาะแขนอ้อนร่างสูง แต่เขากลับต้องแปลกใจที่ไม่เห็นอีกฝ่ายโกรธอย่างที่ควรจะเป็น กลับดีใจที่มีเพื่อนร่วมทางเพิ่มขึ้น ทั้งๆที่เขานึกว่าอยากไปเที่ยวกับเขาสองต่อสองเสียอีก
.
.
.
ร่างบางยิ้มร่าเมื่อเห็นกระท่อมกระทัดรัดอยู่ท่ามกลางความงามของผืนป่า ความเหน็ดเหนื่อยจากการที่ต้องเดินขึ้นเขาหายเป็นปลิดทิ้ง ความสดชื่นของแมกไม้นานาพันธุ์อดที่จะทำให้เขาสูดหายใจเข้าเต็มปอดไม่ได้ เขาไม่ได้ชื่นชมอากาศบริสุทธิ์มานาน เรียวขาก้าวเข้าไปสำรวจที่พักอย่างร่าเริง ทิ้งสองหนุ่มไว้กับบรรยากาศมาคุตั้งแต่บนรถยนต์
อู๋ฟานกับลู่ฮานขนของเข้าไปไว้ในตัวบ้าน ปล่อยให้ร่างบางเดินดูรอบๆอย่างเพลิดเพลิน แม้ทั้งสองคนต่างทำหน้าที่ของตน แต่ทั้งคู่ไม่คิดจะปรายตามองซึ่งกันและกัน การที่ลู่ฮานมาในวันนี้เขาต้องการมาหาสาเหตุนิสัยที่เปลี่ยนไปหลังจากที่คบกับอู๋ฟาน
เด็กที่เคยเอาการเอางานหายไปจากคิม จุนมยอนแล้วในตอนนี้
ตกเย็นอู๋ฟานพาจุนมยอนไปยังสถานที่แห่งหนึ่ง ซึ่งเขาคิดว่าคนรักจะต้องประทับใจ แน่นอนว่าร่างสูงไม่ยอมให้ลู่ฮานมาเป็นมารขัดขวางความสุขของเขาอย่างแน่นอน เขาพาจุนมยอนอกมาในขณะที่ลู่ฮานทำงานธุระส่วนตัวในห้องน้ำ...อู๋ฟานใช้ผ้าสีดำผูกตาอีกฝ่ายให้เดินตาม
จุนมยอนเดินเคียงข้างกับอู๋ฟานด้วยความตื่นเต้น ปากบางเจื้อยแจ้วถามตลอดเวลาว่าอู๋ฟานมีอะไรให้เขาดู ตาคมมองรอยยิ้มของจุนมยอนอย่างชื่นใจ
“ถึงแล้วจุนมยอนเปิดตาได้” ร่างสูงพาจุนมยอนมาที่ง่อนหน้าผาก่อนที่จะแกะผ้าผูกตาออก
“โอ้โฮ พี่อู๋ฟานสวยมากเลยครับ ผมชักอยากจะอยู่ที่นี่นานๆเสียแล้วสิ” จุนมยอนตะลึงกับความงดงามของทิวทัศน์ ดวงอาทิตย์คล้อยต่ำลงพื้นดิน ทั้งผืนฟ้าถูกฉาบไปด้วยสีส้มอ่อน ฝูงนกต่างโบยบินกลับรัง เป็นภาพที่จุนมยอนไม่อาจจะหาพบได้ในเมืองใหญ่
สวยจนเขาไม่อาจจะบรรยายเป็นคำพูด
“พี่ว่าแล้วว่านายต้องชอบ ไม่ต้องห่วงหรอกจุนมยอน นายสามารถอยู่ที่นี่ได้ตลอดไป” เขาคิดไม่ผิดจริงๆที่พาอีกฝ่ายมาที่นี่ และเขาจะให้จุนมยอนอยู่กับเขาตลอดไป
“ผมรักพี่อู๋ฟานครับ”
“พี่ก็รักนายเหมือนกัน” ริมฝีปากหยักก้มลงจูบริมฝีปากหวานที่เขาลิ้มลองไม่เคยเบื่อ อีกฝ่ายหลับตาพริ้มรับจุมพิตอ่อนหวานที่ทำให้หัวใจของเขาอ่อนยวบราวกับเทียนไข
ร่างสองร่างยืนแนบชิดราวกับหลอมรวมเป็นหนึ่งเดียวกัน
ขณะเดียวกันนั้นลู่ฮานนั่งพิงเตียงในห้องส่วนตัวของอู๋ฟานอย่างอารมณ์เสีย แค่เขาเข้าห้องน้ำได้แปปเดียว อีกฝ่ายก็ฉกตัวจุนมยอนไปไหนเสียแล้วไม่รู้ แต่ทว่ามือหนากลับไปโดนอะไรบางอย่างเข้า ลู่ฮานพลิกตัวก้มลงไปดูใต้เตียงก่อนดึงสิ่งนั้นออกมา เป็นกล่องไม้มีขนาดไม่ใหญ่มาก เขาค่อยๆเปิดกล่องอย่างช้าๆ สิ่งที่เห็นภายในแทบทำให้เขาเกือบจะทำกล่องตกลงบนพื้น
ตุ๊กตาฟางสองตัวถูกผูกมัดเข้าหากันบนสมุดม่วงอ่อน
ลู่ฮานแทบไม่อยากเชื่อสายตาเลยว่าอู๋ฟานจะเล่นของใส่จุนมยอน แต่เขาเองก็ไม่ปักใจเชื่อเรื่องพวกนี้เป็นสาเหตุที่ทำให้จุนมยอนรักอู๋ฟาน ในเมื่อศตวรรษนี้วิทยาศาสตร์ได้ก้าวล้ำไปไกลและพิสูจน์ได้ ในขณะที่ไสยศาสตร์เป็นเพียงแค่ความเชื่อจากคนบางกลุ่มเท่านั้น ไม่สามารถพิสูจน์ให้เห็นกับตา
ลู่ฮานหยิบสมุดขึ้นมาเปิดอ่าน
หน้าแรก
วินาทีที่แรกที่ผมเห็นจุนมยอนจากจอทีวี ผมรู้เลยว่าผมรักเขา ดวงตาเขางดงามสุกสสกาวราวกับดวงดาวนับพันระยิบระยับ ดวงตาคู่นั้นดึงดูดผมให้ลุ่มหลงอย่างถอนตัวไม่ขึ้น ผมพูดได้คำเดียวว่าผมรักจุนมยอนจริงๆ
หน้าสอง
วันนี้เขามีรอยยิ้มสดใสไม่ต่างจากเมื่อวาน ผมชอบเวลาเขายิ้ม ดวงตาของเขาจะเป็นรูปสระอิเสมอ วันนี้เห็นแฟนคลับมากมายที่ได้จับมือเขา ผมไม่พอใจ ผมอยากจะกำจัดเหล่าเสี้ยนหนามไปให้หมด ผมอยากเก็บเขาไว้คนเดียว
หน้าสาม
ผมหงุดหงิดจากอยากจะบ้าตายจริงๆ ผมรู้ตัวดีว่าผมไม่เคยอยู่ในสายตาเขา ผมแค่ใครคนหนึ่งในเกาหลี ไม่ได้มีค่าพอให้เขามองผม แต่ผมไม่ยอมแพ้หรอก สักวันหนึ่งเขาจะต้องอยู่กับผมตลอดไป
ลู่ฮานพลิกหน้าอ่านไปเรื่อยๆด้วยความขยะแขยงความรู้สึกของอู๋ฟานที่มีต่อจุนมยอน เขามีความรู้สึกว่าอารมณ์ของอู๋ฟานรุนแรงจนน่ากลัว เขาอ่านมาจนถึงครึ่งเล่ม
หน้าสี่สิบห้า
ผมรู้ตัวดีว่าผมไม่อาจจะทนความต้องการของตนเองที่มีต่อจุนมยอนได้แล้ว ผมเคยเจอพิธีกรรมอย่างหนึ่งที่ผมสามารถทำให้จุนมยอนรักผม คือการทำเสน่ห์ ในเกาหลียุคโบราณนางสนมมักทำเสน่ห์ใส่พระราชาเพื่อให้พระราชาพอพระทัยในตัวเธอ และผมจะใช้วิธีนี้กับจุนมยอน
หน้าสี่สิบหก
วันนี้ผมรู้ว่าจุนมยอนไปแจกลายเซนต์ที่มหาวิทยาลัยคยองฮี ผมจึงไปงานแจกลายเซ็นต์ ผมต้องการเส้นผมหรืออะไรบางอย่างจากตัวจุนมยอน เมื่อถึงคิวผมได้รับลายเซ็นต์จากจุนมยอน ผมเหลือบเห็นเส้นผมของคนที่ผมแอบรักอยู่บนโต๊ะ ผมจึงเบี่ยงเบนความมสนใจของจุนมยอน โดยการจุมพิตที่หลังมือ ในขณะอีกมือผมหยิบเส้นผมอย่างรวดเร็ว แน่นอนว่าวิธีนี้มันได้ผล ผมกลับบ้านนำเส้นผมของจุนมยอนและของผมพันไว้รอบตุ๊กตาฟางก่อนนำประกบคู่เข้าด้วยกัน ที่เหลือผมรอได้ตัวจุนมยอนมาครอบครอง
หน้าสี่สิบเจ็ด
ผมแอบตามจุนมยอนเข้าไปผับK&H อันที่จริงผมก็ไม่มีปัญญาเข้าผับที่นี่หรอก แต่ผมสืบรู้มาว่าจุนมยอนมักมาที่นี่เกือบทุกวัน ผมจึงจ้างคนมาทำร้ายเจ้าของที่นี่และผมเสแสร้งทำเป็นช่วยเขาไว้เพื่อสร้างบุญคุณ ผมจึงสามารถเข้าออกที่นี่ได้ตลอดเวลา และสามารถเลือกดื่มเครื่องดื่มได้ตามใจชอบ ผมใช้เส้นสายยัดหวัง จือเทาเข้าทำงานเป็นบราแทนเดอร์ ผมสั่งให้รุ่นน้องของผมใส่ยาปลุกและนำเครื่องดื่มไปยังโต๊ะจุนมยอน แน่นอนว่าผมจ้างคนกลุ่มหนึ่งให้ไปขวางทางจุนมยอน เพื่อที่จะคิดว่ากลุ่มนั้นเป็นคนวางยาไม่ใช่ผม แต่ผมอัดพวกเขาซะน่วมเมื่อผมเห็นว่าพวกนั้นลวนลามคนตัวขาว คนที่แตะต้องจุนมยอนมีผมได้คนเดียวเท่านั้น คนอื่นไม่มีสิทธิ์ คืนนั้นผมทำสำเร็จที่ให้จุนมยอนจดจำผมได้คนเดียว
หน้าห้าสิบ
ผมมีโอกาสได้ไปดูจุนมยอนถ่ายเอ็มวี ฉากที่นางเอกขี่หลังจุนมยอนแทบทำให้ผมคลั่ง ผมอยากกระชากตัวหล่อนออกจากคนรักของผม แผ่นหลังที่นางเอกโอบกอดเป็นของผมคนเดียวเท่านั้น ผมอยากจะฆ่าผู้กำกับให้ตายจริงๆที่สร้างฉากนี้ขึ้นมา ทันทีที่พักเบรกผมจับกดจุนมยอนในห้องน้ำ ผมจะไม่ยอมให้จุนมยอนกลับไปเล่นเอ็มวีต่อ ตกดึกผมแอบย่องจุนมยอนไปหาผู้กำกับละครที่ผับแห่งหนึ่ง ผมรู้มาว่าเขาเป็นโรคหัวใจ ผมติดสินบนบราแทนเดอร์ให้ใส่ยากระตุ้นหัวใจ จุนมยอนจะได้ไม่ต้องกลับไปเล่นละคร
หน้าหกสิบ
ทำไมการที่ผมอยากให้จุนมยอนอยู่ข้างกายผมตลอดเวลา พูดคุยแต่ผมคนเดียว มันถึงได้ยากเย็นนักนะ หากวันหนึ่งผมทนไม่ไหว ผมจะจับจุนมยอนขังไว้ในห้องแคบชั่วชีวิต
หน้าหกสิบเอ็ด
ผมขยำหนังสือพิมถูกฉบับลงข่าวภาพที่จุนมยอนกอดลูน่าปาลงพื้นอย่างโมโห ลูน่าเป็นใครมีสิทธิ์มาแตะต้อง จุนมยอน ลองใกล้ชิดถึงขนาดนี้แล้วอย่าได้มีชีวิตอยู่เลย คนเป็นเสี้ยนหนามหัวใจของผม ไม่สมควรที่จะมีลมหายใจอยู่บนโลกใบนี้ หลังจากผมอาละวาดเป็นที่พอใจ ผมไปสถานที่ลูน่าถ่ายแบบทันที ผมแสร้งทำเป็นคนซ่อมรถและไปตัดสายเบรกทันที เท่านี้เสี้ยนหนามหัวใจหมดไปอีกหนึ่ง
หน้าหกสิบสอง
ผมชวนจุนมยอนมาเที่ยวพักผ่อนเพื่อที่จะให้อีกฝ่ายยู่กับผมตลอดไป ผมทนไม่ไหวแล้วที่ให้ใครเข้ามายุ่มย่ามกับจุนมยอน แต่ดันมีลู่ฮานมาเป็นมารขัดขวางเขากับจุนมยอน แต่ก็ดีที่ผมได้ใช้โอกาสนี้กำจัดลู่ฮานเสียเลย ผมรู้ว่ามันคิดยังไงกับจุนมยอนของผม
ลู่ฮานอ่านจบ นั่งสั่นเทิ้มไปทั้งตัวด้วยความกลัวอู๋ฟาน เขาคิดไม่ถึงเลยว่าแฟนของคนที่ตนแอบรักจะมีจิตใจวิปลาศได้ถึงขนาดนี้ เขาจะต้องช่วยจุนมยอนออกจากคนโนคจิตอย่างอู๋ฟาน เขารีบเก็บของทั้งหมดไว้ที่ตัวก่อนที่อู๋ฟานกับจุนมยอนจะกลับมาถึงกระท่อม
ลู่ฮานแสร้งทำเป็นนั่งงอนบนโต๊ะทานข้าวที่คนตัวเล็กแอบหนีออกไปกับแฟนหนุ่มเพื่อไม่ให้มีพิรุธ
“พี่ลู่ฮานอย่างอนเลยนะครับ ผมอยากอยู่กับพี่อู๋ฟานสองต่อสองบ้าง ว่าแต่พี่ลู่ฮานทำข้าวเสร็จยังครับ ผมหิวจะแย่”
“เรานะจะคิดถึงพี่เฉพาะเวลากินใช่ไหม” มือหนาลู่ฮานบีบจมูกคนตัวขาวอย่างหมั่นเขี้ยว มือหนากระชากตัว จุนมยอนกลับด้วยความไม่พอใจที่เห็นลู่ฮานแตะต้องคนของเขา
ลู่ฮานทำเป็นไม่สนใจเมื่อทราบถึงความจริง
เขาไม่อยากจะกระตุ้นความโกรธของอีกฝ่าย
อู๋ฟานอันตรายเกินกว่าที่เขาจะรับมือไว้ได้
หลังจากทานอาหารเย็นกันเสร็จเรียบร้อย ลู่ฮานไม่รอช้าเมื่อเห็นโอกาสมาถึง อู๋ฟานเข้าไปชำระกายในห้องน้ำ เขาจึงรีบดึงจุนมยอนไปทางห้องครัว ก่อนหยิบหลักฐานให้อีกฝ่ายดู
“อะไรครับพี่ลู่ฮาน”
“ดูเหอะน่าจุนมยอน แล้วนายจะรู้เอง” จุนมยอนมือสั่นเมื่อหยิบตุ๊กตาฟางออกจากกล่อง เขาแทบไม่อยากเชื่อสายตาเลยว่าอู๋ฟานจะกล้าทำกับเขาถึงขนาดนี้ ก่อนที่จะลงมืออ่านเฉพาะหน้าที่ลู่ฮานพับไว้ แทบจะทำให้เขาอ่อนแรงจนใช้มือยันบนเตาเพื่อพยุงตัวเอง
อู๋ฟานกำลังทำให้เขากลัว
แต่ถึงกระนั้นเขาไม่สามารถอยู่ได้โดยปราศจากอู๋ฟาน
“พี่ลู่ฮานผมจะทำไงดี”
“นายกับพี่ต้องหนีเดี๋ยวนี้ก่อนนายนั่นจะออกมา”
“พี่ลู่ฮานผมทำไม่ได้ ถึงพี่อู๋ฟานจะน่ากลัวแต่ผมก็รักพี่อู๋ฟาน ผมขาดเขาไม่ได้”
“เป็นเพราะนายโดนมนต์ดำของอู๋ฟาน” ลู่ฮานนึกได้ว่าหากทำลายต้นตอซะ อาการที่หลงไหลแฟนหนุ่มจนขาดความยั้งคิดของจุนมยอนน่าจะดีขึ้น เขาจัดการเปิดเตาแก๊สแล้วจับตุ๊กตาฟางโยนใส่เตาจนกลายเป็นขี้เถ้า
หลังจากที่ของที่คริสทำใส่จุนมยอนนั้นมอดไหม้จนหมด สติของร่างบางกลับมาใช้งานได้ตามปกติ ร่างสูงรีบพา
จุนมยอนหนีออกกระท่อมโดยเร็ว ก่อนที่ทั้งคู่ได้หนีออกจากตัวบ้าน ลู่ฮานสังเกตุเห็นบางอย่างที่ลอกออกมาตามกำแพง เขาจึงกระชากจนหลุดออกมาทั้งตัวบ้านราวกับโดมิโน่ ไม่ว่าจะเป็นส่วนไหนมีภาพจุนมยอนทุกอริยาบถเต็มไปหมด มีตั้งแต่นอน อาบน้ำ แต่งตัว กินข้าว เปลี่ยนเสื้อผ้า....ทั้งคู่ได้แต่ยืนตะลึงกับสิ่งที่เห็นจนขาก้าวไม่ออก
ลู่ฮานที่ได้สติก่อนคนแรกรีบฉุดจุนมยอนที่แทบไร้เรี่ยวแรงให้ออกจากที่นี่โดยไว ก่อนที่เจ้าของกระท่อมจะรู้ตัว ทั้งคู่วิ่งฝ่าความมืดออกมาโดยไมได้นำอะไรติดตัวมาเลยสักอย่าง ทั้งคู่คิดแต่เพียงว่าขอให้หนีรอดจากเงื้อมือของอู๋ฟานก็เป็นพอ
ทางด้านอู๋ฟานหลังออกจากห้องน้ำไม่เห็นคนรักของตนในห้องนอน จึงออกมาดูที่หน้าบ้านแต่ก็พบว่าภาพที่เขาปกปิดเป็นอย่างดีหลุดออกมาให้เห็น ร่างสูงกำมือแน่นจนเล็บจิกเข้าไปเนื้อด้วยความโกรธ แค่เห็นเท่านี้เขารู้ได้ทันทีเลยว่า
จุนมยอนกับลู่ฮานหนีออกไปด้วยกัน เขาพลาดเองที่ปล่อยให้จุนมอยนอยู่กับลู่ฮานอยู่ในบ้านเพียงลำพัง
แต่ยังไงเสียจุนมยอนไม่มีที่จะหนีจากเขาไปได้
ไม่มีวัน!!!
จุนมยอนยืนหอบด้วยความเหนื่อยหลังจากที่วิ่งมากับลู่ฮานได้สักพัก ทั้งคู่ไม่รู้เลยว่าเหลืออีกกี่กิโลเมตรที่จะถึงถนนใหญ่ ถึงแม้จะมีการทำทางเดินเท้าไว้ไม่ให้หลง แต่เส้นทางขรุขระจนยากลำบากที่จะหนี พวกเขาได้แต่ภาวนาให้อู๋ฟานไล่ตามพวกเขาไม่ทัน
ทั้งคู่เตรียมที่จะหนีต่ออีกครั้ง แต่ด้วยความที่มืดและไม่ทันระวังของลู่ฮานเอง เขาถูกไม้หน้าสามฟาดเข้าที่เต็มหน้าอีกครั้ง จนคนถูกกระทำลงไปนอนบนดินลูกรัง อาวุธชิ้นเดิมกระหน่ำตีบนตัวลู่ฮานหลายครั้ง เสียงหวานจุนมยอนหวีดร้องด้วยความกลัว
“พี่ลู่ฮาน....ปล่อยผมนะพี่อู๋ฟาน” จุนมยอนตั้งท่าจะวิ่งเข้าไปหาลู่ฮานงด้วยความเป็นห่วง แต่ถูกมือหนาอีกฝ่ายกระชากกลับจนร่างบอบบางเซถลาล้มลงไปที่พื้น แต่คนตัวขาวไม่ยอมหยุดดิ้นพยายามคลานเข้าไปหาคนทีดูเหมือนสิ้นลมหายใจ ร่างสูงไม่สนใจจับจุนมยอนลากถูไถไปกับพื้น เนื้อตัวเปรอะเปลื้อนไปด้วยดินโคลน ไม่ว่าอีกฝ่ายจะดิ้นรนอ้อนวอนขอร้องเพียงใด ไม่สามารถเข้าโสตประสาทของคริสได้เลยแม้แต่น้อย
“ปล่อยผมไปเถอะพี่อู๋ฟาน..ฮึก..ผมกลัว...พี่ลู่ฮานช่วยผมด้วย ฮือ” หน้าหวานเปรอะเปื้อนไปด้วยน้ำตาด้วยความกลัว เสียงสะอื้นไห้ก้องกังวานไปทั่วเขาแต่กลับไม่อาจจะถึงใจอู๋ฟานแม้แต่น้อย
“จะปล่อยนายให้โง่เรอะจุนมยอน กว่าฉันได้ตัวนายมาลำบากแทบแย่ ฉันไม่มีวันจะปล่อยนายไปหรอกนะจุนมยอนนายเลิกเรียกชื่อถึงคนอื่นซะที ไอ้ลู่ฮานมันตายไปแล้ว จำไว้นายเป็นของฉันคนเดียว” อู๋ฟานโมโหมากที่จุนมยอนเอาแต่พร่ำเรียกชื่อลู่ฮานให้ช่วยตนเอง
เขาไม่มีดีตรงไหน?
จุนมยอนถึงจะคิดหนีไปจากเขา
ทั้งๆที่เขารักจุนมยอนจนยอมทำทุกอย่าง
ทำไมอีกฝ่ายถึงไม่เข้าใจ
“โอ๊ย” อู๋ฟานร้องเสียงหลงด้วยความเจ็บที่มือ เมื่อคนตัวขาวเห็นอู๋ฟานไม่ทันระวังจึงกัดเข้าไปเต็มแรง คนตัวเล็กวิ่งอีกครั้งทันที่อู๋ฟานปล่อยมือ แต่ทว่าร่างสูงไวกว่าจุนมยอนมากนัก จึงคว้าตัวไว้ได้ทัน มือหนาจิกทึ้งไปที่เส้นผมนุ่มก่อนที่จะลงมือลากจุนมยอนนอีกครั้ง โดยไม่สนใจอีกฝ่ายจะเจ็บปวดอย่างไร
“นายจะหนีไปไหนจุนมยอน นายไม่มีทางหนีฉันพ้นหรอก นายจะต้องอยู่ที่นี่กับฉันตลอดไป”
“พี่อู๋ฟานปล่อยผม...ฮือ...ผมเจ็บ” เวลานี้ร่างบางรู้สึกเจ็บไปทั่วร่าง เส้นผมถูกอีกฝ่ายทึ้งโดยไม่สนใจใยดีราวกับว่าเขาเป็นเพียงตุ๊กตาไร้ซึ่งความเจ็บปวด เนื้อตัวเต็มไปด้วยบาดแผลเนื่องจากเสื้อผ้าเสียดสีไปกับพื้นจนขาดรุ่งริ่ง จนไม่อาจจะปกป้องผิวอ่อนไว้ได้
“เจ็บเหรอจุนมยอน แค่นี้นายยังไม่เจ็บเท่าที่ฉันเจ็บ ทั้งๆที่ฉันรักนายขนาดนี้ แต่นายกลับหนีไปกับไอ้ลู่ฮาน ไหนนายจะกอดลูน่าหน้าโรงพยาบาล รอยยิ้มนายแจกแบ่งปันไปทั่ว นายรู้ไหมว่ามันทำให้ฉันเจ็บ มันลำบากนักรึไงที่นายจะยิ้มจะคุยกับฉันคนเดียว แต่นายไม่ต้องห่วงต่อนี้ไปนายจะต้องยิ้มจะต้องคุยกับฉันคนเดียวเท่านั้น นายบอกเองไม่ใช่เหรอว่านายชอบที่นี่ นายอยากอยู่ตลอดไป”
จุนมยอนยิ่งพยายามออกแรงดิ้นกว่าเดิมเมื่อเห็นตัวบ้านลิบๆ ถ้าเขาเข้าไปในกระท่อมเขาคงหมดโอกาสหนี เวลานี้อู๋ฟานดูน่ากลัวจนเหมือนคนเสียสติ ไม่สิอู๋ฟานจะต้องเสียสติไปแล้วแน่ๆ
ร่างของจุนมยอนถูกเหวี่ยงไปในตัวพื้นพระท่อมอย่างแรง แผ่นหลังกระแทกกับพื้นไม้จนเจ็บร้าวไปทั้งร่าง ถึงกระนั้นร่างบางพยายามคลานหนี แต่อู๋ฟานกลับไม่ยอมให้เป็นเช่นนั้น เขาดึงขาเรียวของร่างเล็กแล้วลากไปทางห้องนอน มือบางพยายามคว้าของใกล้ตัวแต่ไม่อาจจะสู้แรงอีกฝ่ายได้เลย
จุนมยอนตัดสินใจใช้แรงเฮือกสุดท้ายสะบัดขาให้หลุดออกจากเกาะกุม ก่อนยันตัวเองขึ้นวิ่งหนีออกไป แต่ทว่าด้วยความรีบร้อนไม่ดูทางให้ดี กลายเป็นจุนมยอนวิ่งไปจนมุมทางระเบียงบ้านที่เป็นหน้าผา ร่างบางเกาะระเบียงด้วยความกลัว เขาจะทำอย่างไรดี
“นายยอมแพ้ซะเถอะจุนมยอน ยังไงนายหนีไปจากฉันไม่ได้” อู๋ฟานแสยะยิ้มจนเห็นฟันขาวเรียงเป็นระเบียบอย่างมีชัย ขายาวสืบเท้าเข้ามาใกล้จุนมยอนเรื่อยๆ ร่างบางพยายามเบี่ยงตัวหลบแต่ไม่อาจจะพ้นระยะแขนของอู๋ฟานไว้ได้
ทั้งสองยืนปลุกปล้ำกันอยู่ริมระเบียง ยังไงเสียจุนมยอนไม่ยอมอยู่กับคนน่ากลัวอย่างอู๋ฟานเด็ดขาด แต่ดูเหมือนว่าร่างกายที่อ่อนแรงจากการหนีอู๋ฟานบวกกับความบอบอช้ำทางกายเริ่มทำให้จุนมยอนหมดเรี่ยวแรงที่จะขัดขืนอู๋ฟาน มือหนาบีบลำคอระหงษ์ด้วยความโมโหทีอี่กฝ่ายเอาแต่ดิ้นหนี เขาไม่มีทางยอมให้จุนมยอนอดออกไปจากที่นี่เด็ดขาด
อีกฝ่ายจะต้องอยู่ที่นี่กับเขาไปชั่วชีวิต
ที่ๆจะมีแต่เขากับจุนมยอนเท่านั้น
อู๋ฟานปล่อยอีกฝ่ายเป็นอิสระเมื่อเห็นว่าคนในอุ้งมือใกล้จะหมดสติเต็มที เขาไม่มีทางให้จุนมยอนตายไปก่อนเขาเด็ดขาด แม้แต่ความตายไม่อาจจะขวางกั้นความรักของเขาไว้ได้
“จุนมยอนหลบ....ปัง” แม้สติจะเลือนลางแต่จุนมยอนก้มหลบตามเสียงเข้มที่เขาได้ยิน เสียงแหวกกระสุนทะลุเข้าที่หัวไหล่ แม้จะไม่โดนที่หัวใจแต่แรงอัดของกระสุนทำให้อู๋ฟานเซถลาพลัดตกจากระเบียง
“พี่ลู่ฮานเป็นไงบ้าง” ร่างบางเข้าไปหาลู่ฮานด้วยความเป็นห่วง ร่างทั้งร่างโชกไปด้วยเลือด ใบหน้าที่เคยหล่อเหลากลับปวดปูดจนน่ากลัว กระดูกซี่โครงหักหลายแห่งตามร่างกาย ลู่ฮานสมเพชตัวเองนักทั้งๆที่มีปืนติดตัวแต่เกือบจะปกป้องคนสำคัญของเขาไว้ไม่ทัน ถ้าเขาให้จุนมยอนถือติดตัวไว้ทีแรกคงดี
“ไม่เป็นไรหรอกจุนมยอน พี่ขอโทษนะที่มาช่วยนายช้า.....มันจบแล้วจุนมยอน ฝันร้ายที่เกิดกับนายจบแล้ว” ลู่ฮานโอบกอดอีกฝ่าย ต่อจากนี้ไปอู๋ฟานไม่สามารถทำอะไรจุนมยอนได้แล้ว
.
.
.
3 เดือนต่อมา
“ขอบคุณนะครับพี่ลู่ฮานที่มาส่ง เข้ามาดื่มกาแฟก่อนไหมครับ” จุนมยอนเอ่ยเชิญชวนเป็นครั้งแรกหลังจากที่ลู่ฮานเฝ้าเพียรจีบตนหลังจากเหตุการณ์ครั้งนั้น
“พี่ก็อยากจะเข้าไปกินกาแฟกับนายใจจะขาด เป็นครั้งแรกที่นายชวนเข้าห้อง แต่ว่าพรุ่งนี้พี่มีงานถ่ายแบบแต่เช้าไว้วันหลังนะ แต่ขอมัดจำด้วยไอ้นี่ละกัน” ริมฝีปากหยักแตะแก้มเนียนอย่างแผ่วเบา ส่วนจุนมยอนเขินจนหน้าแดง รีบเข้าห้องด้วยความอาย
เป็นครั้งแรกอีกเช่นกันที่ลู่ฮานทำมากกว่าจับมือ
จุนมยอนเปลี่ยนเสื้อผ้าเข้าห้องน้ำอาบน้ำเตรียมตัวนอน ขณะที่ร่างบางก้มหน้าก้มตาแปรงฟันอยู่นั้น สายตาเหลือบเห็นเงาคนอยู่บนกระจก จุนมยอนหันไปมองด้านหลังด้วยความตกใจก็พบแต่เพียงห้องที่ว่างเปล่า คนตัวขาวสะบัดหัวตัวเองไล่ความกลัวจากเหตุการณ์เมื่อ 3 เดือนก่อน เขาหัวเราะเยาะตัวเองที่กลัวจนตาฝาดเห็นอู๋ฟานอยู่ในห้อง
อู๋ฟานตายไปแล้วจะมาปรากฎตัวอยู่ได้ไง
ห้องที่เคยสว่างอยู่ๆดีกลับมืดจนมองไรไม่เห็น จุนมยอนรีบบ้วนปากก่อนไปหาไฟฉาย
“เกิดมาดับอะไรตอนนี้นะ” ร่างบางเปิดไฟฉายส่องดูแผงไฟเห็น คัทเอาท์ตกลงมา เขาจึงดันขึ้นกลับที่เดิม ไฟทั้งห้องกลับมาสว่างอีกครั้ง
จุนมยอนเดินกลับไปห้องน้ำอีกครั้ง แต่เขาชะงักด้วยความตกใจระคนกลัว แข้งขาอ่อนแรงจนนั่งแปะอยู่บนพื้น น้ำตาเอ่อล้นออกจากดวงตาหวานด้วยความกลัว ร่างทั้งร่างสั่นระริกจนไม่อาจจะควบคุมได้
คนที่เขาไม่อยากเจอที่สุดกลับปรากฎกายอยู่ตรงหน้า
คนที่เขาไม่คิดว่าจะมีชีวิตอยู่บนโลกใบนี้
คนที่เขาคิดว่าตายไปแล้วเมื่อ 3 เดือนก่อน
ตอนนี้คนนั้นกลับยืนจ้องมองและแสยะยิ้มมาให้
“พี่อู๋ฟาน”
THE END
TALK^^
ขอโทษนะคะที่มาอัพตอนจบช้าไปหลายเดือน เนื่องจากงานใหม่ทำเอาไม่มีเวลานอนเลย นี่ก็ถ่างตามาลงตอนจบให้ค่ะ
เหตุผลบางอย่างอาจจะหลวมไปสักนิด แต่ก็คิดเสียว่ามันคือฟิค 555 ส่วนเอนซีตอนก่อนหน้านั้นสามารถกดจิ้มได้เลยนะคะ
เพราะว่าเราไม่ค่อยมีเวลาเล่นคอม เลยไม่สามารถส่งให้ได้ทางเมล เราจึงทำการแก้ไขจิ้มลิ้งได้เลยค่ะ
@angelsuhosuho นี่ทวิตเราอีกอันค่ะ สามารถทวิตเข้ามาคุย เล่น ทวงฟิคๆได้นะคะ เอนจอยรีดดิ้ง เรื่องหน้า
ติดตามเอานะคะว่ามาแนวจิตๆแบบไหน อิอิ
ความคิดเห็น