คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #3 : ยอม
ทั่วท้องฟ้าถูกปกคลุมด้วยเมฆดำขนาดมหึมา ต้มไม้น้อยใหญ่โบกสะบัดไปมาด้วยความแรงของสายลม ใบไม้ปลิวว่อนไปทั่วพร้อมกับสายฝนที่เทลงมาชุดใหญ่ ชวนให้บรรยากาศภายในร้านกาแฟโต๊ะมุมในสุดอึมครึมขึ้นไปอีก
จุนมยอนได้แต่จิบกาแฟอยู่เงียบๆกับความอึดอัดที่เขาแบกรับอยู่ตอนนี้
สายตามองไปยังคู่สนทนาเขาก็ไม่รู้จะเอื้อยเอื่อนคำพูดใดออกไป เพราะอีกฝ่ายเอาแต่นั่งร้องไห้อยู่เงียบๆ ไม่ปริปากใดๆสักคำออกมา ครั้นมองออกไปชมวิวนอกร้านที่มีแต่ความมืดและสายฝนก็ชวนให้เขาหดหู่ไม่แพ้กัน
“พี่ซูโฮ” เสียงแหบแห้งเอ่ยชื่อพี่ชายร่วมวงขึ้นหลังจากที่เขาเอาแต่นั่งร้องไห้เป็นชั่วโมงๆ วันนี้ที่เขาเรียกจุนมยอนมาพบกันสองต่อสองเพื่อจะมาปรึกษาบางเรื่องแท้ๆ แต่พอได้อยู่กันสองคน ความรู้สึกที่เขาอดกลั้นมานานหลายเดือนกลับเอ่อล้นออกมาจนเขากักเก็บไม่อยู่
“พูดได้เสียทีนะชานยอล” จุนมอยนยังคงเป็นจุนมยอนอยู่เสมอที่สามารถเป็นที่พึ่งให้แก่สมาชิกในวงได้ หัวหน้าวงฝั่งเคนั่งอย่างสงบ ปล่อยให้ชานยอลได้ร้องไห้อย่างสบายใจ โดยไม่ถามไถ่ ไม่เซ้าซี้ ไม่ปลอบโยนใดๆทั้งสิ้น
ชานยอลบอกกับตัวเองได้เลยว่า เขาสบายใจขึ้นมาก
“ผมต้องขอโทษพี่ด้วยนะที่นัดกันออกมาแต่ผมเอาแต่ร้องไห้”
“คิดมากไปได้ ว่าแต่นายร้องไห้มีเรื่องอะไรไม่สบายใจหรือ” จุนมยอนถามขึ้นเมื่อแน่ใจแล้วว่ารุ่นน้องร่วมวงพร้อมที่จะคุยกับเขาแล้วในตอนนี้
“ผมคิดว่าพี่คริสนอกใจผม” ธุระที่ว่าของชานยอลทำเอาตัวของซูโฮแข็งทื่อ เขาไม่คาดคิดว่าบุคคลตรงหน้าจะเรียกเขามาคุยเรื่องคริส
“นายเข้าใจผิดหรือเปล่าชานยอล พี่ก็เห็นว่าเวลาฝั่งเอ็มกลับมาเกาหลีทีไร พี่คริสก็อยู่กับนายทุกทีไม่ใช่เหรอ” ร่างเล็กโกหกคำโตออกไป แท้จริงแล้วชานยอลเข้าใจถูกต้องทีเดียว
มือที่สามของชานยอลไม่ใช่คนไกลที่ไหน
เป็นคิม จุนมยอนคนนี้นี่หละ
‘สารเลว’ สองคำนี้คงอธิบายถึงตัวเขาได้ดีในตอนนี้ อาจจะน้อยไปด้วยซ้ำเมื่อเทียบกับสิ่งที่เขาทำอยู่ในตอนนี้
ซูโฮทำกิจกรรมบนเตียงกับแฟนรุ่นน้องในวงทุกครั้งที่มีโอกาส ร่างบางนอนทอดกายให้อู๋ฟานได้เชยชมทุกครั้งในยามที่อีกฝ่ายต้องการ
จุนมยอนไม่เคยปฏิเสธ ไม่เคยอิดออดที่จะมีเซ้กส์กับหัวหน้าวงฝั่งเอ็ม เพราะเขาเองก็รักคริสเช่นกัน เขารักร่างสูงมานาน และรักมาก่อนชานยอลเสียด้วยซ้ำ แต่อี้ อู๋ฟานไม่เคยที่จะมีเขาในเศษเสี้ยวของหัวใจ ในเมื่อดวงใจทั้งดวงของ
อู๋ฟานมอบให้กับชานยอลจนหมดสิ้น
วินาทีที่คริสประกาศว่าชานยอลเป็นแฟน
ซูโฮรู้สึกเหมือนถูกถีบลงไปที่ปากเหว มีแต่ความมืดปกคลุม ไร้ซึ่งแสงสว่าง ยิ่งตะเกียกตะกายพยายามหนีเท่าไร เขายิ่งรู้สึกถึงความมืดมิดโอบล้อมไร้ซึ่งทางออก
ในเมื่อโอกาสที่ได้ใกล้ชิดกับคริส มีหรือที่ซูโฮจะไม่คว้าเอาไว้
แต่ทุกครั้งที่ร่วมรักกันบนเตียง คริสไม่เคยที่จะเอ่ยชื่อเขาสักคำ เมื่อถึงจุดปลดปล่อยความสุขคนที่เขายอมร่วมรักด้วยกลับเอ่ยชื่อชานยอลออกมา ทำให้เขาเจ็บเจียนตายราวกับหมุดนับพันทิ่มแทงเขาที่ก้อนเนื้อด้านซ้าย ในเวลาเดียวกันเขาก็รู้สึกผิดจนอยากจะตายให้รู้แล้วรู้รอดไปที่ยอมทรยศหักหลังรุ่นน้องคนสนิทเพียงเพื่อสนองความรักของตนเอง
ตั้งแต่เมื่อไรไม่รู้ที่เขาต้องอยู่กับชานยอลสองต่อสอง เขารู้สึกเหมือนหายใจไม่ออกราวกับก้อนความเลวมาจุกอยู่ที่อก
ต่อให้ย้อนเวลากลับไปใหม่ได้ เขายังคงเลือกที่จะนอนกับคริสอยู่ดีอยู่ดี แม้ว่าเขาจะต้องทำร้ายชานยอลอย่างแสนสาหัส และทำให้ตัวเองตกอยู่ในวังวนแห่งความทุกข์ระทมยากที่จะหนีพ้น
ริมฝีปากเม้มเข้าหากันอย่างลืมตัว ความรู้สึกผิดที่ตกตะกอนอยู่ในใจตีรวนขึ้นมาจนเขารู้สึกอยากแทบอาเจียนออกมา ตาที่แดงบวมช้ำของร่างโปร่งยิ่งตอกย้ำให้จุนมยอนรู้ว่าเขานั้นเลวแค่ไหน
“พี่คริสดูเปลี่ยนไปเหรอ รักนายน้อยลงเหรอ หรือว่าอะไร นายถึงว่าพี่คริสนอกใจชานยอล” ร่างบางพยายามบังคับไม่ให้น้ำเสียงสั่น
“พี่คริสดีกับผมหมือนเดิมทุกอย่าง รับไปกินข้าว ดูหนัง ชอปปิ้ง เขาไม่เคยปล่อยให้ผมเหงา แต่มีสักช่วงเวลาที่ผมติดต่อพี่เขาไม่ได้เลยพี่ซูโฮ ผมเคยถามพี่คริสแล้วแต่พี่คริสบ่ายเบี่ยงตลอด จนเมื่อวานซืนพี่คริสตะคอกใส่ ทำให้ผมมั่นใจว่าพี่คริสนอกใจ พี่ก็รู้นิว่าลางสังหรณ์ของผมถูกเสมอ”
“งั้นคราวนี้ลางสังหรณ์นายก็มั่วแล้วล่ะ พี่รู้จักพี่คริสมานานและพี่มั่นใจว่าพี่คริสมีแต่นายคนเดียว แต่นายให้เวลาส่วนตัวพี่คริสบ้าง คนเรามันก็ต้องมีเวลาส่วนตัวบ้าง นายนะเลิกคิดมากได้แล้ว” เป็นอีกครั้งที่ซูโฮเลือกที่จะโกหกชานยอล
ช่วงเวลาที่ชานยอลติดต่อคริสไม่ได้
เป็นช่วงเวลาที่เขากับร่างสูงกำลังระเริงรักอยู่บนเตียง
“ผมขอบใจพี่มาก ผมคงจะคิดมากเกินไปจริงๆ พี่สมกับเป็นพี่ผมที่เคารพรักจริงๆ” ‘พี่ที่เคารพรัก’ ที่ชานยอลเอ่ยออกมาเหมือนมีดที่ปักเข้ากลางดวงใจให้ซูโฮได้เจ็บช้ำ ตอกย้ำว่าเขานั้นชั่วช้านับแสน แม้แต่น้องร่วมวงที่ร่วมทุกข์ ร่วมสุขมาด้วยกันอย่างชานยอล จุนมยอนคนนี้ยังทำร้ายได้อย่างเลือดเย็น
ถ้าหากชานยอลรู้ว่าคนที่เป็นชู้กับคริสคือเขา
ปาร์ค ชานยอล ยังจะเคารพรัก คิม ซูโฮ อยู่ไหม
เสียงโทรศัพท์ของชานยอลดังขึ้น น้ำเสียงที่แสดงออกว่าดีใจแค่ไหนที่ปลายสายโทรเข้ามา แค่นี้ซูโฮรู้แล้วว่าเป็นใครที่โทรเข้าหาชานยอล ร่างบางได้แต่แค่นยิ้มรับด้วยความสมเพชตัวเอง คริสไม่เคยโทรหาเขาด้วยความเป็นห่วง อีกฝ่ายจะติดต่อเข้ามาเมื่อมีความต้องการเพียงเท่านั้น
ความรักของร่างสูงที่มีต่อชานยอลกำลังฆ่าเขาให้ตายทั้งเป็น หัวใจของเขาเหมือนถูกเหยียบซ้ำแล้วซ้ำแล้วจนไม่เหลือชิ้นดี หลายครั้งที่เขาอยากจะตัดใจจากคริสแต่ทำได้ยากเหลือเกิน เพียงแค่คิดว่าเขาจะอยู่โดยไม่มีร่างสูงเคียงข้าง
ซูโฮแทบอยากจะตายเสียให้ได้
“พี่คริสบอกว่าจะมารับผมที่นี่แหละ ผมคงคิดมากไปจริงด้วย”
“พี่บอกแล้ว เดี๋ยวพี่กลับก่อนนะชานยอล พอดีพี่นิดจงฮยอนไว้” ซูโฮขอตัวกลับก่อนที่เจอคริส เขาไม่อาจจะทนเห็นภาพบาดตาบาดใจได้
ที่ผ่านมาเขาเจ็บจนแทบทนไม่ไหว
.
.
.
ซูโฮเลือกที่จะไปโรงแรมที่เขากับคริสใช้ร่วมรักกันเป็นประจำก่อนเวลานัดหมาย วิสกี้สองแก้วเพียวๆที่เขาสั่ง
จากรูมเซอวิสกำลังกระดกเข้าลำคอ เขาหวังว่าแอลกฮอลส์ช่วยดับความทรมานในห้วงแห่งรัก แต่เปล่าเลยกลับให้เขานึกถึงอดีตที่เขากับอู๋ฟานได้พลาดพลั้งไป
อดีตที่ทำให้เขาเหมือนตกนรกทั้งเป็น
อดีตที่เหมือนของหวานยิ่งชิมยิ่งติดใจ
อดีตที่เหมือนยาเสพย์ติดที่ยิ่งเสพยิ่งทำให้เหมือนตายทั้งเป็น
6 เดือนที่แล้ว
จุนมอยนฝ่าฝูงคนนับร้อยที่แออัดอยู่ในบาร์แห่งหนึ่งในกลางกรุงโซล เขารีบบึ่งรถทันทีหลังจากที่เขารู้ว่าร่างสูงกับ
ชานยอลมีปากเสียงกันอย่างรุนแรง สภาพของคริสที่เมามายไร้สติแทบทำให้ซูโฮล้มทั้งยืน ร่างบางรู้ดีว่าคริสนั้นไม่โปรดปรานเครื่องดื่มแอลกฮอลส์เท่าไรนัก ถ้าลองร่างสูงดื่มหนักขนาดนี้ แสดงว่าอีกฝ่ายต้องทะเลาะกับชานยอลมาอย่างรุนแรง
“พี่คริสพอได้แล้ว พี่เมามากแล้วนะ”
“ใครวะ อย่ามายุ่ง ฉันยังไม่เมาเว้ย” นอกจากจะไม่ฟังแล้ว อู๋ฟานยังทำท่าจะกระดกเหล้าเข้าปากอีก ร้อนถึงซูโฮที่ต้องดึงแก้วเหล้าออกจากมือแกร่ง พร้อมทั้งลากออกจากผับด้วยความทุลักทุเล
ซูโฮเห็นอีกฝ่ายอยู่ในสภาพที่ช่วยเหลือตนเองไม่ได้ จึงได้เลือกโรงแรงที่ใกล้ที่สุดแทนที่จะกลับหอพัก ขืนเขาพาคริสกลับไปในสภาพเมามายเช่นนี้ ไม่แคล้วที่จะถูกผู้จัดการดุเป็นแน่แท้
“พี่คริสเดินดีๆหน่อยสิครับ” ด้วยสรีระที่เขาตัวเล็กกว่าคริสเกือบเท่าตัว ทำให้เขาแบกคริสมาอย่างทุลักทุเล กว่าเขาจะแบกร่างสูงมาถึงห้องก็เกือบจะหกคะเมนตีลังกาไปที่พื้นอยู่หลายครั้ง
ร่างบางหยิบอ่างน้ำใบเล็กพร้อมผ้าขนหนูก่อนที่จะบรรจงเช็ดเนื้อเช็ดตัวให้ร่างสูง ท่อนบนที่เปลือยเปล่าของ
หัวหน้าวงอดที่จะทำให้เขาหน้าแดงไม่ได้ ซูโฮลับหูหลับตาเช็ดหมายจะทำให้เสร็จโดยไว แต่ฉับพลันมือแกร่งจับข้อมือบางก่อนพลิกให้อีกฝ่ายจมลงไปกับเตียนุ่ม ส่วนตัวคริสนั้นคร่อมร่างบางไว้
“ชานยอลหายโกรธพี่แล้วใช่ไหม”
“พี่คริสทำบ้าอะไรเนี่ย ผมไม่ใช่ชาน...” จุนมยอนไม่ยังไม่ทันโวยจบประโยค ริมฝีปากอิ่มกดจูบบนกลีบเนื้อนุ่มแสนหวาน ร่างบางดูจะตกใจกับการกระทำที่อุกอาจของคริส พยายามขัดขืนสุดชีวิต ริมฝีปากบางเม้มแน่นป้องกันการรุกรานจากอีกฝ่าย ริมฝีปากยหยักค่อยละเลียดลิ้มชิมรสความละมุนบนกลีบบางอย่างอ่อนโยน จนซูโฮเผลอบไปกับความอ่อมนุ่ม ปลายลิ้นร้อนชื้นถือโอกาสเข้าไปตักตวงความหอมหวานอย่างไม่รู้จบ
คริสผละออกจากจากริมฝีปากบางเมื่อเห็นอีกฝ่ายหายใจไม่ออก ก่อนที่แนบเข้าหาริมฝีปากสีสดอีกครั้งนึง ร่างสูงมอบจุมพิตที่แสนหวานให้ร่างที่นอนระทวยอยู่บนเตียงครั้งแล้วครั้งเล่า ร่างบางเองที่ขัดขืนในคราแรกสุดท้ายเผลอไผลไปกับร่างสูง
ซูโฮควรจะทัดทานร่างสูงให้หยุดกระทำ เพราะในเวลานี้คริสเมามายจนไร้สติ แต่ร่างเล็กกลับยินย้อมพร้อมใจที่จะกระโดดเข้ากองไฟนี้ แม้ว่าท้ายสุดแล้วกองเพลิงจะแผดเผาให้ขายตายอย่างช้า เพราะซูโฮรู้ยู่เต็มอกว่าเขาไม่อาจจะขัดขืนอีกฝ่ายได้ หัวใจเขาทั้งหมดมีแต่เพียงอู๋ฟานผู้เดียว และเขาเต็มใจที่มอบกายนี้ให้แก่ร่างสูง แม้ท้ายสุดแล้วคนที่เสียใจที่สุดจะเป็นเขาเอง
เรือนกายบางสั่นระริกไปกับสัมผัสแปลกใหม่ที่คริสเป็นคนมอบ ร่างทั้งร่างรู้สึกร้อนผ่าวราวกับมีดวงไฟนับล้านมาลามเลียไปทั่วสรรพางกาย จุนมยอนรู้สึกสุขสมประหนึ่งเหมือนได้ขึ้นสวรรค์ไปกับความร้อนแรงที่แฝงความอ่อนโยน เสียงครางหวานดังระงมไปกับเสียงครางต่ำเมื่อถึงปลายทางแห่งความสุข
“พี่คริส”
“ชานยอล” เพียงแค่ได้ยืนชื่อน้องร่วมวงจากริมฝีปากอิ่ม ใจของเขาแทบแหลกสลายไม่เหลือแม้แต่เพียงเถ้าธุลีดิน ตัวเองเป็นได้แค่ตัวแทนของน้องรัก
ขอแค่เขาได้อยู่ข้างกายคริสเช่นนี้ ต่อให้ต้องตกนรกหมกไหม้ เขาก็ยินดี
ใบหน้าคมเข้มนั่งไขว่ห้างจ้องมองน้องรว่มวงฝั่งเคที่กำลังก้มหน้าก้มตาใส่เสื้อด้วยความอาย เขาเลิกคิ้วด้วยความแปลกใจที่ร่างกายของจุนมยอนสร้างความสุขให้กับเขาอย่างไม่คาดคิดมาก่อน
“จุนมยอนนายสนใจเป็นเซ้กส์เฟรนด์กับพี่ไหม”
“เอ๋”
“ก็เพื่อนนอนไง”
“แล้วชานยอลล่ะ” มาถึงตรงนี้ซูโฮรู้สึกผิดขึ้นมาจับใจที่เขานอนกับแฟนคนอื่น
“ก็ไม่ต้องบอก เราแค่มีความสัมพันธ์ทางกายเท่านั้น นายไมได้แย่งพี่จากชานยอลเสียหน่อย ตกลงว่างไง” คริสเดินประชิดร่างโปร่งก่อนจับปลายคางให้เชิดหน้าขึ้น
“ตกลงฮะ” ดวงตากลมปิดลงเมื่ออีกฝ่ายโน้มหน้าเข้ามาใกล้ ริมฝีปากหยักจุมพิตบนกลีบปากอย่างลึกซึ้ง และทุกอย่างปล่อยอารมณ์เป็นผู้นำพา
.
.
.
เสียงเปิดประตูเรียกให้ซูโฮตื่นจากภวังค์ ดวงตาคู่สวยมองลัดเดอร์ฝั่งเอ็มผู้เป็นที่รักยิ่ง เป็นยิ่งกว่าลมหายใจ เขาอยากจะถามคริสเหลือเกินว่ามีเขาอยู่ในเศษเสี้ยวของหัวใจหรือไม่ รักเขาให้ได้เท่าผงธุลีดินหรือเปล่า
วันนี้เขามาที่นี่ไม่ได้มาทำเรื่องอย่างว่า
แต่เขาจะมาเพื่อบอกเลิกความสัมพันธ์ที่ทำให้เขาทรุนทุรายนี้ เขาจะหลุดพ้นจากบ่วงรัดของความทุกข์ทรมาน ภาพดวงตาแดงช้ำของชานยอลมันชัดเจนในสายตา สะกดตรึงเข้าไปทุกรูขุมขุน ให้เขาได้จดจำว่าเขาทำร้ายน้องรักมากเพียงใด
มันถึงเวลาแล้วที่เขาควรจะตัดใจ
“พี่คริสผมว่าเราเลิกทำแบบนี้เถอะ ผมสงสารชานยอลวันนี้เขามานั่งร้องไห้ ทำให้ผมรู้สึกผิด เราหยุดความสัมพันธ์นี้ก่อนที่ชานยอลจะรู้เรื่อง” ทั้งที่เขาควรจะพูดออกไปเต็มเสียง แต่น่าแปลกที่เสียงของเขาเบาหวิวราวกับปุยนุ่นไม่ปาน
ในใจส่วนลึกๆกู่ร้องที่ยังอยากจะมีความสัมพันธ์เร้นลับต่อไป
ยังอยากจะมีความสำคัญกับร่างสูง แม้เขาจะสำคัญเพียงแค่ร่างกายก็ตามที
“นายต้องการแบบนั้นหรือจุนมยอน” น้ำเสียงที่ดูไม่ระหยี่ต่อสิ่งใด ทำให้ใจของร่างบางเหมือนจะปลิดปลิวลอยออกไป เขาหวังว่าคริสจะรั้งเอาไว้ น้ำเสียงอ้อนวอนขอร้องให้ดำเนินความสัมพันธ์ที่เกินกว่าพี่น้องต่อไป
แต่ในความเป็นจริงคริสกลับไม่แยแสเขาเลยแม้แต่น้อย
“ถ้านายต้องการแบบนั้นฉันจะไม่ยุ่งกับนาย แตะต้องตัวนายนอกเหนือจากเวลางานอย่างที่นายต้องการ” คริสพูดด้วยน้ำเสียงที่เรียบเฉย
ทำไมเขาจะไม่รู้ว่าซูโฮคิดกับเขาเกินเลยคำว่าพี่น้องไปไกล เขากับซูโฮเป็นเด็กฝึกหัวร่วมกันมาถึงสี่ปี ผ่านทุกข์ ผ่านสุขมาด้วยกันกว่าพวกเขาจะได้เดบิวต์ เรื่องแค่นี้มีหรือที่เขาจะดูไม่ออก
ถามว่าเขารักจุนมอยนไหม?
เขาตอบได้เลยว่าเขารักซูโฮไม่แพ้ใคร แต่รักคนละแบบที่รักกับชานยอล สำหรับเขาจุนมยอนเป็นน้องชายที่น่ารักกับคู่ขาบนเตียงที่เข้ากัน เพราะความรักของเขาได้ให้ชานยอลจนหมดสิ้น
และสิ่งที่ทำไปกับซูโฮเขาไม่เคยรู้สึกผิดแม้แต่ครั้งเดียว เพราะอู๋ฟานถือว่าเป็นการยินยอมทั้งสองฝ่าย และถ้าอีกฝ่ายต้องการจะเลิก เขาก็ยินดีพร้อมจะทำ
จุนมยอนวิ่งเข้ากอดร่างสูงทันทีเมื่อเห็นอีกฝ่ายกำลังก้าวพ้นออจกากประตู วินาทีที่คริสเกือบพ้นออกจากประตู เขาทนไม่ได้ที่จะไม่ได้ใกล้ชิดร่างสูง แค่คิดว่าสถานะของเขาเป็นได้แค่น้องชาย ดวงใจเขาก็รู้สึกเจ็บร้าวรานเหลือคณานับ
เขายอมแล้วทุกอย่าง ไม่ว่าจะอยู่ในฐานะไหน เขายอมคริสจนหมดสิ้น ต่อให้ต้องถูกไฟนรกแผดเผาให้เขาต้องตายอย่างทรมาน เขายอมแล้วทุกอย่าง
ขอเพียงได้ใกล้ชิดกับอู๋ฟาน
TALK
ฟิคเรื่องที่สามแล้ววววว ยังสติลดราม่าต่อ ใครขอฟิคแฮปปี้ต้องขอโทษด้วยนะคะ เรารู้สึกว่าคริสโฮมันเหมาะกับฟิคดราม่าๆ
แล้วก็เศร้าๆไงไม่รู้ เรื่องนี้อาจจะไม่ค่อยดีมากนะคะ แต่งตอนห่างหายการแต่งฟิคไปแรมปี เอนจอยรีดดิ้งค่ะ
ความคิดเห็น