ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [SF EXO] love love love Krisho ( Kris x suho )

    ลำดับตอนที่ #2 : crazy love

    • อัปเดตล่าสุด 2 ม.ค. 56


    ท้องฟ้ามืดครึ้มไปด้วยเมฆหมอก มีเพียงแสงจันทร์จางๆที่คอยให้ความสว่าง ลมอ่อนๆโบกสะพัดไปมา สองข้างทางเตรียมไปด้วยป่ารกชัดและเงียบสนิท มีเพียงรถออดี้สีขาวที่ถูกจอดสนิทอยู่ริมถนน คนขับนั่งเหม่อมองไปไกลอย่างไร้จุดหมาย เจ้าตัวไม่รู้แม้กระทั่งว่าตนเองมาถึงที่นี่ได้อย่างไร

     

                    ชีวิตเขาเหมือนถูกฉุดลงอยู่ความมืดมิด

     

                    หลังจากถูกบอกเลิกจากคนที่เขารักสุดหัวใจ

     

                    .

                    .

                    .

                    .

     

                    ร่างเล็กแบกหนังสือกองโตไปตามทางเดินบนตึกคณะ สองขาเพียวเดินไม่ค่อยมั่นคงนักเนื่องจากความหนักของหนักสือที่แบกเกินสิบเล่ม

     

                    โอ๊ะเสียงอุทานดังขึ้นอย่างตกใจ เมื่อเขาเดินชนเข้ากับใครสักคน กองหนังสือร่วงกราวลงไปที่พื้นพร้อมกับเจ้าตัว ชายหนุ่มร่างสูงรีบช่วยเก็บหนังสือพร้อมกับกล่าวขอโทษ

     

                    ไม่เป็นไรหรอกครับ ผมเดินไม่ระวังเองน้ำเสียงหวานไพเราะสะกดให้ร่างสูงชวนเคลิ้มฝัน ยิ่งได้สบกับตากลม ใจเขาสั่นดังระฆังถูกลั่นออกมา นัยย์สุกสกาวแวววาวใสซื่อราวกับดวงตาของลูกกวาง ใบหน้าหวานเนียนใสประดุจแก้มเด็ก คิ้วโก่งราวกับคันศร จมูกโด่งขึ้นเป็นสัน ทุกสิ่งลงตัวบนใบหน้าเรียว

     

                    เหมือนเทวดาลงมาจุติบนโลกมนุษย์

     

                    หนักขนาดนี้ผมช่วยถือ ว่าแต่คุณชื่ออะไรครับ ผมอู๋ฟาน คณะวิศวะปีสอง

     

                    ผมคิม จุนมยอน คณะนิเทศศาตร์ปีหนึ่งครับ

     

                    งี้คุณต้องเรียกผมว่าพี่แล้วละ ส่วนผมขอเรียกชื่อคุณเฉยๆนะ

     

                    แล้วแต่พี่อู๋ฟานเลยครับ

     

                    เป็นครั้งแรกที่คิม จุนมยอนกับอู๋ฟานพบกัน

     

                    .

                    .

                    .

                    .

     

                    ร่างโปร่งซบหน้าเข้ากับพวงมาลัยอย่างอ่อนแรง จุนมยอนแทบไม่อยากเชื่อเลยว่าเขาจะมีจุดจบในชีวิตเช่นนี้ ความสัมพันธ์เหินห่างระหว่างเขากับอู๋ฟานมาไกลจนถึงจุดที่ไม่อาจจะถอยหลังกลับได้

     

                    เขาปล่อยให้เกิดขึ้นได้อย่างไร

     

                    เขาปล่อยให้อู๋ฟานบอกเลิกได้อย่างไร

     

                    ดวงตาหวานหลับตาลงก่อนพาตัวเองจมกับอดีตแสนหวานที่ไม่มีวันเลือนจากใจ ยังคงติดตาตรึงกับทุกอณูความคิดถึง

     

                    .

                    .

                    .

                    .

     

                    หลังจากวันที่จุนมยอนเดินชนเข้ากับอู๋ฟาน ร่างบางต้องเลิกคิ้วด้วยความแปลกใจที่เห็นอีกฝ่ายเอาตัวเองเข้ามาผูกกับเขาในชีวิตประจำวัน ตอนเช้าร่างสูงเดินมารับเขาที่บ้าน กลางวันชวนรับประทานอาหารกลางวัน เย็นเดินมาส่งเขาที่บ้าน ไม่ก็อู๋ฟานชวนทานอาหารเย็นกับครอบครัว

     

                    หยุดเสาร์อาทิตย์อู๋ฟานมักชอบชวนเขาออกนอกบ้าน

     

                    จนใครๆต่างคิดว่าเขากับอู๋ฟานเป็นแฟนกัน

     

                    ไม่เว้นแม้แต่พ่อแม่ของเขา

     

                    จุนมยอนเคยเอ่ยปากถามหลายครั้งว่าทำไมอู๋ฟานถึงต้องทำแบบนี้ ทุกครั้งมีแต่รอยยิ้มเป็นคำตอบ ร่างเล็กเองอ่อนใจที่จะหาคำตอบ

     

                    ทุกอย่างที่อู๋ฟานทำเขาก็รู้สึกดี

     

                    บางครั้งคงจะดีกว่าถ้าหากไม่รู้คำตอบ

     

                    หากความจริงไม่เป็นอย่างที่ใจคิด

     

                    จุนมยอนคริสมาสต์นี้ไปเที่ยวเกาะเชจูกันไหมอู๋ฟานถามขึ้นในขณะที่กำลังกินข้าวกลางวันเพื่อเตรียมตัวดูหนังรอบบ่าย

     

                    แล้วพี่ไม่ไปเที่ยวกับเพื่อนหรือครอบครัวหรือครับ

     

                    ปีนี้พี่อยากไปเที่ยวกับนายมากกว่า ตกลงจุนมยอนไปเชจูกับพี่ไหม

     

                    โอเคครับ ปีนี้พ่อแม่ผมหนีไปฮันนีมูนที่อิตาลีกันสองคนอู๋ฟานยิ้มกว้างที่จุนมยอนยอมตกลงไปกับคำชวนของเขา ปีนี้เขาเตรียมของขวัญวันคริสมาสต์สุดพิเศษเพื่อจุนมยอนโดยเฉพาะ

     

                    .

                    .

                    .

                    .

     

                    จุนมยอนเงยหน้าขึ้นจากพวงมาลัยรถก่อนที่ขายาวเหยียบคันเร่ง รถยนต์สีขาวแล่นทะยานสู่ท้องถนนอีกครั้ง แต่ทว่าดวงตากลมไม่อาจจะห้ามน้ำตาที่ไหลทะลักราวกับเขื่อนแตกไว้ได้ ยิ่งคิดถึงอดีตก็ยิ่งเจ็บปวดอย่างแสนสาหัส พยายามหักห้ามใจไม่ให้คิดถึง แต่ภาพในอดีตกลับฉายชัดแจ้งราวกับม้วนฟิล์มหนังที่ฉายซ้ำไปซ้ำมา

     

                    ความทรงจำอันหอมหวานในอดีต

     

                    กลับเป็นหอกทิ่มแทงให้เขาเจ็บปวดถึงที่สุด

     

                    อู๋ฟานทำร้ายเขาได้อย่างไร

     

                    .

                    .

                    .

                    .

     

                    อู๋ฟานจับมือจุนมยอนเดินเรียบไปตามชายหาดเกาะเชจูยามค่ำคืน ดวงดาวเต็มผืนท้องนภาราวกับเป็นเพื่อนเดินเคียงข้างของคนทั้งคู่ เจ้าของนัยย์ตาคมเหลือบมองร่างเล็กเป็นระยะๆด้วยความตื่นเต้น

     

                    วันนี้เขาจะขอจุนมยอนคบอย่างเป็นทางการ

     

                    ร่างสูงจูงมือจุนมยอนไปสถานที่พิเศษที่เขาเตรียมการไว้โดยเฉพาะ ร่างเล็กตาโตอุทานด้วยความตกใจเมื่อเดินมาถึงสุดริมหาด แสงเทียนมากมายรายล้อมไปทั่วบริเวณ

     

                    พี่อู๋ฟานสวยจังเลย แต่พี่ลงทุนทำเองทั้งหมดเลยหรือครับ

     

                    อืม ชอบไหม

     

                    ชอบมากเลยพี่อู๋ฟาน แต่พี่ลงทุนทำทั้งหมดเพื่อผมเหรอครับ

     

                    ใช่จุนมยอน พี่ชอบนายตั้งแต่แรกเห็น นายคบกับพี่เป็นแฟนได้ไหมอู๋ฟานยืนรอลุ้นคำตอบอย่างตื่นเต้น แต่จุนมยอนยืนนิ่งไม่ขยับ ทำให้ร่างสูงใจจเสียขึ้นเรื่อยๆ ทั้งๆที่เขาคิดว่าร่างเล็กก็น่าจะรู้สึกเหมือนเขา

     

                    หรือว่าเขาคิดผิดมาตลอดที่จุนมยอนใจตรงกับตนเอง

     

                    เอาสิครับ ผมก็ชอบพี่เหมือนกันคำตอบของจุนมยอนทำให้อู๋ฟานคว้าร่างบางเข้ามากอดแนบแน่น ริมฝีปากหยักบรรจงจูบกลีบเนื้ออ่อนอย่างอ่อนหวานและเร่าร้อน

     

                    จุนมยอนไม่มีวันลืมจูบแรกที่แสนหวาน

     

                    .

                    .

                    .

                    .

     

                    จุนมยอนย้ายไปอยู่คอนโดกับพี่นะอู๋ฟานเอ่ยปากชวนหลังจากที่เขากับจุนมยอนคบกันมาได้สองปี

     

                    ร่างสูงอยากตื่นนอนมาเจอจุนมยอนเป็นคนแรก

     

                    อยากจูบราตรีสัวสดิ์จุนมยอนทุกคืนก่อนนอน

     

                    อยากนอนกอดจุนมยอนทุกวัน

     

                    จะดีเหรอครับพี่อู๋ฟาน ผมว่านานๆไปพี่จะเบื่อผมซะก่อน

     

                    ย้ายไปอยู่กับพี่เหอะ พี่จะเบื่อนายได้ยังไงกัน นับวันมีแต่จะรักยิ่งขึ้นอู๋ฟานโอบไหล่คนรักให้เข้ามากระชับตัวอย่างรักใคร่ จมูกโด่งสูดดมผมนุ่มอย่างชื่นใจ

     

                    พี่ถือว่านายตกลงอู๋ฟานมัดมือชกอีกฝ่ายเมื่อจุนมยอนนิ่งเงียบไปหลายนาที เขารู้หรอกว่าคนในอ้อมกอดเองอยากย้ายมาอยู่กับเขา ใบหน้าหวานแดงจัดด้วยความขวยเขิน

     

                    พี่อู๋ฟานเผด็จการชัดๆถึงปากจะต่อว่าร่างสูง แต่หัวกลมกับซุกเข้าอกแกร่งอย่างมีความสุข

     

                    ณ เวลานี้จุนมยอนคิดว่าตัวเองเป็นผู้ชายที่มีความสุขที่สุด

     

                    โชคดีที่เขามีอู๋ฟานเป็นแฟน

     

                    .

                    .

                    .

                    .

                   

                    รถยนต์สีขาวชะลอรถจอดเข้าข้างทางอีกครั้งเมื่อเห็นว่ามาไกลจากถนนใหญ่พอสมควร ห่างไกลผู้คน ไม่มีรถสัญจรผ่านไปมาสักคันหรือแม้แต่แสงไฟจากริมทาง บริเวณรอบนี้เต็มไปด้วยความมืด มีแต่เพียงป่ารกชัดอยู่ตามข้างทาง มือบางปาดน้ำตาอย่างลวกๆก่อนเปิดประตูรถ

     

                    จุนมยอนเดินไปเปิดท้ายรถขึ้นอย่างช้า ดวงตากลมจ้องไปยังร่างสูงนอนขดตัวอยู่ด้านใน มือ ขา และปากถูกมัดอย่างแน่นหนายากที่จะแกะออกได้ ศรีษะแกร่งเลือดซึมออกมาเนื่องจากถูกของแข็งกระแทกเข้าที่ศรีษะอย่างรุนแรง อู๋ฟานดิ้นขลุกขลักๆด้วยความหวาดกลัว

     

                    เวลานี้ไม่เหมือนคิม จุนมยอนที่อู๋ฟานรู้จัก

     

                    .

                    .

                    .

                    .

     

                    ร่างบางนั่งรออู๋ฟานที่ห้องรับแขกอย่างเหม่อลอย นาฬิกาเปลี่ยนเวลาเข้าสู่วันใหม่แต่ยังไม่มีวี่แววว่าคนรักของเขาจะกลับมาบ้าน ไม่ใช่ครั้งแรกที่เขานั่งรออู๋ฟานทั้งคืนเช่นนี้ จุนมยอนนั่งรออีกฝ่ายกลับบ้านทุกวันนับตั้งแต่ร่างสูงเรียนจบและเข้าทำงานบริษัทแห่งใหม

     

                    ความเหินห่างของอู๋ฟานกับเขาเริ่มตั้งแต่เมื่อไร เขาไม่อาจจะทราบได้ ทุกวันนี้คนทั้งคู่คุยกันแทบจะนับคำได้ เช้าตื่นขึ้นมาเขาก็ไม่เห็นอู๋ฟาน กว่าคนรักของเขาจะกลับก็ดึกดื่น จนเขาต้องเข้านอนก่อนทุกครั้งเนื่องจากมีเรียนเช้า วันนี้อีกเช่นกันที่เขาต้องนั่งรออู๋ฟานอย่างเปล่าเปลี่ยวในห้องสี่เหลี่ยมแคบๆที่อีกฝ่ายเคยคะยั้นคะยอให้เขามาอยู่ด้วย

     

                     จุนมยอนเตรียมจะลุกไปนอนเมื่อเห็นว่าอีกฝ่ายคงจะยังไม่กลับเวลานี้ แต่ทว่าเสียงเปิดประตูห้องทำให้จุนมยอนยิ้มกว้างอย่างดีใจ แต่คำพูดของอู๋ฟานนั้นช่างร้ายกาจดุจดังคมมีดที่เชือดเฉือนใจเขาให้ขาดสะบั้น

     

                    ยังไม่นอนอีกเหรอจุนมยอน พี่บอกนายหลายครั้งแล้วนะว่าไม่ต้องรอพี่ พี่ไปนอนก่อนนะ พี่เหนื่อยอู๋ฟานเดินเข้าห้องนอนโดยไม่สนใจจุนมยอนที่นั่งรออีกฝ่ายทั้งคืน

     

                    ไม่มีแม้แต่จูบราตรีสวัสดิ์เหมือนดังวันวาน

     

                    ใจของจุนมยอนเจ็บร้าวรานจนแทบจะแตกออกมาเป็นเสี่ยงๆ อู๋ฟานเปลี่ยนไปจนเขาแทบไม่อยากเชื่อเลยว่าอู๋ฟานในตอนนี้เป็นคนเดียวกันกับอู๋ฟานในอดีต

     

                    เพราอะไรอู๋ฟานถึงได้เปลี่ยนไปมากขนาดนี้

     

                    .

                    .

                    .

                    .

     

                    พี่อู๋ฟานมีธุระอะไรหรือครับถึงโทรมาตอนนี้จุนมยอนรีบรับโทรศัพท์ด้วยความดีใจที่เห็นคนรักโทรเข้ามา

     

                    นายมารอพี่ที่หน้ามหาลัยได้ไหมเดี๋ยวพี่ไปรับน้ำเสียงของอู๋ฟานราบเรียบปราศจากความอ่อนหวานอย่างที่เคยเป็นมา แต่ทว่าร่างเล็กกลับไม่เอะใจสักนิดกับน้ำเสียงที่เปลี่ยนไป เขามัวแต่ดีใจที่อู๋ฟานจะมารับเขา นานมากแล้วนานจนเขาแทบจะลืมไปด้วยซ้ำว่าเขากับอู๋ฟานเคยออกไปเที่ยวด้วยกันบ่อยเพียงใด

     

                    ใช้เวลาไม่นานอู๋ฟานมารับจุนมยอนที่หน้ามหาวิทยาลัย ร่างเล็กก้าวขึ้นรถด้วยความอึดอัดเมื่อเห็นสีหน้าเคร่งเครียดอีกฝ่าย ร่างสูงขับรถไปจอดใต้คอนโดของตนเองที่ในเวลานี้ไม่มีรถจอดอยู่สักคัน

     

                    พี่อู๋ฟานมีอะไรจะพูดกับผมหรือเปล่าครับเป็นจุนมยอนเองที่เอ่ยถามทำลายความเงียบ โดยหวังว่าจะทำลายบรรยากาศที่น่าอึดอัดนี้ลง อีกทั้งเห็นอู๋ฟานจอดรถเสร็จไม่ขยับไปไหน ไม่พูด ไม่จา

     

                    จุนมยอนพี่ว่าเราเลิกกันเถอะ

     

                    อะไรนะพี่อู๋ฟาน พี่พูดว่าอะไรนะจุนมยอนถามย้ำอีกครั้งด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ เขาขอให้ประโยคเมื่อครู่เป็นเพียงการล้อเล่นของอู๋ฟาน

     

                    เขาอยู่ได้ยังไงหากขาดอู๋ฟานคนที่เขารักหมดใจ

     

                    เราเลิกกันเถอะจุนมยอน พี่ไมได้รักนายอีกแล้ว พี่มีคนรักใหม่แล้วจุนมยอน นายช่วยเก็บของย้ายออกไปให้เร็วที่สุด เรากำลังจะหมั้นกันเร็วๆนี้อู๋ฟานไม่กล้าแม้แต่จะสบตาอีกฝ่าย เขากำลังรู้สึกผิดต่อจุนมยอน เขาเองก็ไม่เข้าใจเหมือนกันว่าความรักที่เขามีต่อจุนมยอนหายไปไหนหมด จากเคยรักเต็มหัวใจ ตอนนี้เหลือแต่เพียงความว่างเปล่า

     

                    พี่ทำกับผมแบบนี้ได้ยังไงพี่อู๋ฟาน พี่มันใจร้ายที่สุด ฮึก...มือบางทุบตีอู๋ฟานด้วยความเสียใจ ตัวอู๋ฟานเองปล่อยให้จุนมยอนทำร้านตนเองอย่างไม่กลัวเจ็บ เพียงแค่นี้ก็ยังไม่สาสมเท่าที่เขาทำกับจุนมยอน

     

                    พี่ขอโทษจุนมยอน พี่ไม่สามารถกลับไปรักนายอีกแล้ว นายทุบพี่จนกว่านายจะพอใจทุกคำพูดของอู๋ฟานเป็นดังเข็มที่ทิ่มแทงก้อนเนื้อด้านซ้ายของจุนมยอนให้เจ็บปวดอย่างแสนสาหัส เขาเหมือนถูกอู๋ฟานถีบเข้าสู่ความมืดมิดอันหนาวเหน็บ ไร้ซึ่งแสงสว่างและความอบอุ่น

     

                    อู๋ฟานก้าวลงจากรถเมื่อเห็นจุนมยอนนิ่งสงบ เป็นไปได้เขาก็ไม่อยากเลิกกับจุนมยอน แต่ให้เขาทำอย่างไรได้ในเมื่อเขาเองหมดรักในตัวร่างบาง

     

                    จุนมยอนหยิบไม้เบสบอลด้านหลังเบาะที่อีกฝ่ายชอบเก็บไว้ไปเล่นเบสบอลกับเพื่อนๆเตีเข้าไปที่ศรีษะ อย่างเต็มแรง ร่างสูงนอนสลบจมกองเลือด ร่างบางเองเปิดท้ายรถก่อนที่จะแบกอู๋ฟานเข้าไปข้างใน เขาจัดแจงหาเชือกมามัดมือมัดเท้าตบท้ายด้วยเทปกาวปิดปากอู๋ฟาน

     

                    เขาไม่มีทางให้อู๋ฟานทิ้งเขาไปเสวยสุขคนเดียว

     

                    .

                    .

                    .

                    .

     

                    มือบางลูบใบหน้าคมอย่างรักใคร่ ดวงตากลมแสดงความรักที่มีต่อร่างสูงอย่างปิดไม่มิด เขาไม่มีทางยอมเสียคนรักให้คนอื่น ถ้าเขาไม่ได้อู๋ฟาน คนอื่นก็อย่าหวังจะได้อู๋ฟานไปเช่นกัน

     

                    ผมขอโทษพี่อู๋ฟาน ผมขอโทษ จำเอาไว้นะครับว่าผมรักพี่มากแค่ไหน รักจนผมไม่อาจจะทนเห็นพี่เป็นของคนอื่นได้ริมฝีปากบางบรรจงจูบเข้าหน้าผากร่างสูงอย่างแผ่วเบา

     

                    จุนมยอนหยิบน้ำมันเบนซินที่เตรียมไว้ราดใส่หลังรถ ตัวอู๋ฟานและตามพื้นถนนจนหมดแกลอน ร่างสูงเบิกตาโพลงด้วยความตกใจ พยายามเปล่งเสียงขอร้องชีวิตแต่ไม่อาจจะทำได้อย่างใจคิด เขาพยายามดิ้นหนีออกจากท้ายรถยนต์

     

                    พี่อย่าดิ้นให้เสียเวลาเลย พี่ไม่มีทางรอดหรอก ถ้าพี่ต้องเป็นของคนอื่น ผมสู้ให้พี่ตายไปยังดีกว่า ลาก่อนฮะพี่อู๋ฟานจุนมยอนเดินหันหลังก่อนโยนไฟแชคไปที่พื้น

     

                    ไฟลุกขึ้นลามไปตามแนวน้ำมันที่ถูกราดไว้จนไปติดตัวรถจนลุกโชติช่วงชัชวาล ก่อนที่รถยนต์ออดี้สีขาวระเบิดเสียงดังกึกก้องกัมปนาทั่วท้องถนน

     

                    เพียงแค่นี้อู๋ฟานก็ไม่ตกเป็นของคนอื่นตลอดกาล
    TALK
    พบกันเรื่องที่สองแล้วนะคะ เรื่องนี้ยังสติลเป็นฟิคแปลงค่า เรามีฟิคแปลงเป็นร้อยเลยค่า อิอิ เอนจอยรีดดิ้งค่ะ

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×